เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ติดโปรแกรมโบชัวร์หนังแล้วแต่ยังไม่ได้มีเวลาออกโรงฉายเลย ต้องออกทำงานต่างจังหวัดทั้งสัปดาห์
เลยยังไม่มีเวลาเรียบเรียงต้องขออภัย...ผู้รอคอย

ตอนนี้เริ่มมีเวลาแล้ว มีโอกาสจะเข้าฉายเร็วๆนี้แน่นอน..
ในหนังมันส์วันเสาร์..โปรดติดตามรอแป๊บจ้า..

 

จองตั๋วVIP พร้อมป็อปคอร์นและโค้กครับ

 

แล้วไม่อยากรู้คะแนนตัวเองบ้างรึครับ ตรวจคำตอบเสร็จแล้วนะdencee

 

อยากรู้ครับรอผลสอบเมื่อไหร่ประกาศครับ

 

เรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่หลอกจนเพี้ยนเป็นโรคประสาท..


จุดเริ่มเรื่องราวอันชวนระทึกนี้ เนื่องจากที่พระอาจารย์ท่านมีแนวความคิดที่ว่าต้องการจะสร้างสำนักปฏิบัติธรรมเพิ่มจากเดิม ให้เป็นอีกสาขาสำนักปฏิบัติธรรมในหมู่บ้านถิ่นฐานบ้านเกิดของท่านเอง ในอำเภอแห่งหนึ่ง ของจังหวัดโคราช
<O</O
เพราะความที่ท่านอยากแสดงความกตัญญูต่อผืนดินที่ให้กำเนิด และทดแทนสำนึกผิดที่ท่านเคยประกอบวีรกรรมร้ายๆ สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้พ่อแม่ญาติพี่น้อง จากการทำตัวเป็นนักเลงโตมีเรื่องราวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหนักใจอยู่บ่อยๆ ในยุคกาลก่อนที่เป็นยุครุ่งเรืองว่า

นักเลงคุ้มหมู่บ้านที่เรียกว่า เด็กบ้านดอน ใครอย่ามาซ่า อย่าได้มาแหยมหรืออย่าคิดมากระตุกหนวดเสือเด็ดขาด
<O</O
งานรำวงรื่นเริงบันเทิง งานวัดบ้านไหน เมื่อมีนักเลงบ้านนี้มา นักเลงที่อื่นต้องหลบไปไม่งั้นเอ็งเจ็บ<O</O
“ ย้อนหลังไปพูดถึงเรื่องนี้ทีไร ข้าหละ อ๊ายอายตัวเองทุกทีเลย” พระอาจารย์พูดพร้อมกับอมยิ้มเมื่อเห็นภาพตัวเองในขณะนั้น
<O</O
“มันยังไงครับ”
<O</O
“ก็ข้ามันหัวโจก หัวหน้าแก๊งส์ใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม ทีจริงข้าไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องคน หรือใครก่อน มีแต่ไอ้เพื่อนๆกับน้องๆในก๊กขี้เมาในหมู่บ้านด้วยกัน ตอนนั้นมันก็ช่างขยันหาเรื่องหาราว มาให้ข้าออกหน้าลุยทุกที เรารึมันก็คนหน้าใหญ่ใจเสือซะด้วย เลยมีแต่เรื่องตีรันฟันแทงกันแทบไม่ได้หยุดหย่อน”
<O</O
“แล้วตำรวจเขาไม่จับรึครับ”
<O</O
“ในยุคนั้นสมัยนั้น ตำรวจก็มันไม่ได้มีมากมายแบบทุกวันนี้เมื่อไร แถมตำรวจก็มีแต่เป็นลูกหลานคนแถบนั้นกันทั้งนั้น พ่อข้าคนดังชาวบ้านนับหน้าถือตากันทั้งบ้านทั้งตำบล เรียกว่าเป็นการเสริมให้ข้ายิ่งอึกเหิมไปใหญ่<O</O
ตำรวจพอรู้ว่าไอ้นักเลงมันตีทะเลาะกัน เขาก็ไม่ค่อยอยากยุ่งให้มันตีกันซะให้เข็ด แต่ขออย่าให้มีเรื่องปล้น ลักเล็กขโมยข้าวของชาวบ้านก็แล้วกัน แค่เรื่องทะเลาะตีกันนี้ก็ปล่อยมันไปอย่าให้ถึงตายก็พอ งานอื่นที่สำคัญกว่านี้มีให้ทำเยอะไป..”

เรื่องราวของหลวงพ่อท่านนี้ท่านเล่าย้อนหลังไป บางครั้งมันก็น่าขำน่าตลกในความคึกคะนองของท่าน...เกิดอะไรขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ตำรวจมาจับท่านเข้าตารางห้องขังในสถานีตำรวจประจำอำเภอ<O</O

 

รอฟังคะแนนมานานมากกกกกกก. เมื่อไหร่จะเฉลยอยากฟังอยากฟัง. แล้วตามด้วยหนังดีวันเสาร์

 

ป้าด.....ดดดดดดดดด มีหนังมันส์วันเสาร์ด้วย แต่ดันติดธุรตอนบ่าย....แหม....จะปูเสื่อรอไว้ก่อน....กลับมา...เสื่อ...จะหายมั้ยนี่.....ไม่เป็นไร เดี๋ยวเก็บเสื่อก่อน ค่อยกลับมาดูรวบยอดเลย....พร้อมหมึกย่าง อ้อยควั่น น้ำใบบัวบก 1 ถุง....อย่างนี้ค่อยดูหนังชื่นใจหน่อย....555

 

ทานป๊อบคอร์นรอไปก่อนคิดว่านังรอบบ่ายวันเสาร์คงจะฉายม้วนเดียวจบ...

 

ต่อเรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่หลอกจนเพี้ยนเป็นโรคประสาท

พระอาจารย์เล่าไปถึงว่ามีอยู่ครั้ง ตำรวจเขามาตามจับเพราะท่านไปมีเรื่องตีต่อยทะเลาะ จนมีญาติเจ้าทุกข์ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายเนื่องจากบาดเจ็บหนัก จนท่านต้องถูกจับเข้าห้องขังบนโรงพักอยู่พักใหญ่ ผลสอบสวนออกมาปรากฏเป็นการทะเลาะวิวาทกันทั่วไป และพ่อแม่ไปประกันตัวออกมากระนั้นท่านก็ยังไม่สำนึก นึกแค้นใจตำรวจที่มาทำรุนแรงกับท่านเกินกว่าเหตุ (ตอนนั้นคิดแบบนั้น)

<O</O
จากนั้นด้วยความแค้นใจจะเอาคืนตำรวจให้ได้ ก็กลับไปยืมรถมอเตอร์ไซค์วิบาก แบบทรงสูงที่ใช้ขี่ในป่า ของเพื่อน มาบิดขี่ขึ้นไปบนโรงพักเลยทีเดียว พร้อมบิดคันเร่งดังลั่นพร้อมท้าร้องเรียกให้ไอ้ตำรวจสองนาย
ที่มาจับท่าน ท้าให้มาต่อยกัน หรือจะยิงกันก็ได้หรือจะเอามีดก็มาได้เลย ต่อให้2คนมาพร้อมๆกันเลย
แต่ตำรวจทุกคนบนโรงพักต่างรู้ฤทธิ์ถึงความบ้าดีเดือดของนักเลงคนนี้ดี
ว่ามันไม่เคยเกรงกลัวอะไร ก็พากันหลบทยอยออกจากโรงพักทีคนสองคน..จนแทบไม่เหลือหลอ
เพราะขืนอยู่นานก็จะโดนนักเลงมันหยามให้ได้อายมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง...

<O</O
รวมถึงตำนายยศจ่าและนายสิบทั้งสองไม่กล้าออกมาเผชิญหน้า โดยแอบหลบหนีออกหลังโรงพักจากนั้นท่านจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์วนไปมาบนโรงพักสักพักใหญ่ จึงขี่กลับไปนั่งกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนๆที่รออยู่<O</O
เป็นทีโจษขานกันทั้งหมู่บ้านว่ามีนักเลงจะขอกระทืบตำรวจบนโรงพักประจำอำเภอ

<O</O
“เอ็งคิดดูเถอะความซ่า บ้าระห่ำของข้ามันแค่ไหน..มันน่าเอือมระอาของชาวบ้านเขาขนาดไหน
ถ้าเป็นอย่างทุกวันนี้ตำรวจเขาคงไม่เก็บข้าเอาไว้เย้ยเขาหรอกหวะ”

<O</O
“ช่วงวัยรุ่น วัยหนุ่มข้ามันคนชอบกินเหล้าแต่นิสัยข้าไม่เคยเซนต์เชื่อเหล้าใครกิน
ให้ใครมาดูถูกได้ มีเงินแค่ไหนกินแค่นั้น ถ้าเพื่อนคนไหนที่มันบังอาจมาคะยั้นคะยอ
ให้ข้าไปเชนต์เหล้าแม่ค้า รับรองได้เลยว่า...ไอ้นั่นเจ็บ”
(กับเพื่อนยังโหดดุ จนเพื่อนต้องระวังตัวให้ดีถ้าทำให้ผิดอารมณ์)

<O</O
“ขนาดทุกวันนี้ที่ข้าบวชมาหลายพรรษาหลายปีดีดักแล้ว ในประเทศไทย
ข้าออกบิณฑบาตได้ทุกที ยกเว้นในตลาดในรอบๆหมู่บ้านในอำเภอบ้านเกิดเมืองเมืองนอน
ข้านึกระอายใจถึงความเกเรของข้า แล้วไม่กล้ามองหน้าชาวบ้านชาวช่องเขา
มันไม่สนิทใจอ่ะนะ” พูดไปท่านก็ยิ้มๆ

<O</O
ที๋ผ่านมาเล่าไปถึงวีรกรรมความห้าวเกเร ของพระอาจารย์ในอดีตหลายสิบปีก่อนของ
”นักเลงดังบ้านดอน”<O</O

 

ต่อเรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ หลอกจนเพี้ยนเป็นโรคประสาท
<O</O
และจุดสำคัญของเรื่องคือ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ในป่ารกชัฏห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ3 กิโลเมตร มีเขตบ่อบึงน้ำซับที่มีน้ำไหลออกมาเป็นธารน้ำไหลเล็กๆ มีชาวบ้านได้ถากป่า ถางพง โนรอบเนินป่าแห่งนั้น
แต่ไม่มีใครกล้าเขาไปบุกยึดใกล้เขตบึงน้ำซับ

เนื่องจากมักมีคนเจ็บป่วยตายกันมามากแล้วนับแต่อดีต
เชื่อว่ามีอาถรรพ์มาแต่โบราณและมักมีคนที่ผ่านไปมาแถบนั้นโดนผีหลอกกันเป็นประจำแม้กลางวันแสก ด้วยบรรยากาศของต้นไม้สูงใหญ่รกทึบ ป่าบึงบอนมี พืชผักขึ้นเต็มไปหมด ปลาก็ชุกชุมแต่...แต่ไม่มีคนกล้าไปเข้าใกล้เขตป่าแห่งนี้เลย
<O</O
ยามค่ำคืนคนที่มาพักอาศัยทำกระท่อมอยู่ใกล้ป่าดังกล่าวก็มักได้ยินเสียง ฆ้อง กลองดังลั่น คล้ายมีเสียงโห่ร้องตะโกน แสดงการยกพลเคลื่อนทัพ หรือบางครั้งก็เป็นเสียงดนตรีไทยโบราณ ดังแว่วมาจากป่าบึงน้ำซับที่ว่านี้อยู่เป็นประจำ
<O</O
แต่ยังมีผู้เฒ่าอยู่สองรายที่ถือว่าเป็นจอมขมังเวทย์ ไม่เกรงกลัวสถานที่ดังกล่าว คือตาพูน หมอธรรมไสยศาสตร์ และหมอทำขวัญนาคที่ศึกษามาอย่างดีทั้งทางธรรม ทั้งทางอาคมเวทย์ ที่ผีที่มาเข้าสิงชาวบ้านกลัวนักกันหนาบางครั้งมีผีเข้าชาวบ้านแค่บอกว่า
<O</O
”ตาพูนมาแล้ว”ผีก็ออกจากร่างไปทันที ผีบอกว่า มันมาแล้วไอ้หนวดขาว คือท่านมักใช้วิธีบริกรรมคาถาพร้อมพ่นบุหรี่ใส่ร่างคนที่โดนผีเข้าจนหนีออกไป และตาพูน คนนี้เองที่พาลูกๆไปถากถางป่าทำไร่ใกล้ๆกับป่าอาถรรพ์ที่ว่านี้
<O</O
และอีกคนคือ พ่อโทน บิดาของท่านพระอาจารย์ หมอธรรมผู้เชี่ยวชาญไสยศาสตร์ ชื่อดังประจำอำเภอ
<O</O

<O</O
จะด้วยความที่ท่านพระอาจารย์ท่านรู้ถึงอาถรรพ์ หรือด้วยความผูกพันมาแต่อดีตชาติที่เกี่ยวข้องกับเขตป่าอาถรรพ์แห่งนี้ ขณะนั้นผู้เขียนก็ไม่ได้สอบถามมา รู้แต่ว่าท่านต้องการที่บริเวณนั้นสร้างเป็นสำนักสงฆ์
เพื่อเผยแพร่พระศาสนาเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติเนื่องจากในตำบลเขตนั้นยังไม่มีสถานที่ในในลักษณะนี้เลย
<O</O
รู้แต่ว่าเมื่อมีการสำรวจป่าแห่งนั้นเพื่อติดต่อเพื่อเจรจาขอซื้อที่เพื่อสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ครั้งแรกๆ
พร้อมพระอาจารย์และลูกศิษย์อีก4-5 คน

และเมื่อผู้เขียนกลับไปบ้าน อีกประมาณอาทิตย์กว่าๆ ผู้เขียนต้องไปนอนโรงพยาบาลนานร่วม4 วันเนื่องจากป่วยเป็นไข้ ปวดชาตามร่างกายทั้งร่าง
แทบเอาตัวไม่รอดต้องนอนดู เวทนาดูว่าเมื่อไร วิญญาณจะออกจากร่างจนนั่งสลบไป3-4 ครั้ง

เพราะความที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่..อ๋อที่แท้เป็น..ไข้เลือดออก... เวรกรรม
ถ้าเป็นสมัยยุคเก่าการแพทย์ยังมีน้อย ป่านนี้คงได้ตายไปแล้วมั๊ง..<O</O
<O> </O>

 

อีก 5 วัน เราจะไปที่ๆเราคิดไว้ เผื่อว่ามันอาจจะไม่มีโอกาสมากนัก เวลามันเหลือน้อยเต็มทีแต่เรายังไม่รู้เลยว่า เรากำลังทำอะไรอยู่

 

ต่อเรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ หลอกจนเพี้ยนเป็นโรคประสาท
<O</O
เมื่อสำรวจสถานที่แห่งนี้ พร้อมติดต่อขอซื้อที่บริเวณใกล้ป่าบึงน้ำซับแห่งนั้นได้มารวมเนื้อที่ได้22 ไร่เพื่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรมประจำตำบล<O</O
รวมทั้งได้ความร่วมอนุโมทนาจากลูกๆของตาพูน (ปัจุจบันได้เสียชีวิตแล้ว)
โดยขายที่ดินให้ในราคาที่ถูกมากๆ เพื่อหวังจะได้ผลบุญอุทิศให้แก่ตาพูน ผู้ริเริ่มบุกเบิกสถานที่แห่งนี้

<O</O
ในครั้งเริ่มแรกในการก่อตั้งสร้างสำนักสงฆ์เพื่อทดแทนคุณสำนึกรักบ้านเกิดของท่าน ก็ยังมีพวกมารที่คอยใส่ร้ายป้ายสีว่า ท่านจะสึกลาสิกขาแอบยักยอก เอาเงินทำบุญของวัดถ้ำ แล้วมาสร้างบ้านอยู่ที่นี่ ดู๊ดูดู..มันช่างคิดกันได้ อกุศลกรรมดลใจให้ลงอเวจีจริงๆ

<O</O
พระอาจารย์ท่านทราบดีว่ามีสิ่งใดที่แอบซ่อนเป็นอาถรรพ์ แห่งนี้อยู่มากมาย เนื่องจากมีทำพิธีฝากทรัพย์โบราณฝังอยู่ด้วย มานานนับหลายร้อยปี ท่านเล่าให้ฟังว่า
<O</O
ที่ไร่ที่ป่าเราเห็นมีเนินดิน เพียงนิดๆนี้แท้จริง สถานที่แห่งนี้ในยุคขอมโบราณเคยเป็นภูเขามีน้ำตกอยู่ด้วยมีน้ำท่าสมบูรณ์ ดังนั้นจึงมักใช้เป็นเส้นทางเดินทัพ และตั้งทัพ ดังนั้นจึงเรื่องราวของคนโบราณทำพิธีสร้างอาถรรพ์เวทไว้ พร้อมถึงมีวิญญาณของภูตผีวิญญาณอยู่มากมายทั้งจากการเจ็บป่วย และถูกสาปให้เฝ้าสมบัติทรัพย์สินไว้ กลายเป็นวิญญาณปู่โสม ป้องกันผู้เข้าใกล้สถานที่
รวมถึงเหล่าผีป่า วิญญาณเจ้าป่า และเหล่าสัมภเวสีเร่รอนมากมาย เนื่องจากเป็นที่ที่ไม่มีคนกล้าเข้าไปรบกวนแม้แต่คิดจะเดินย่างกายเข้าใกล้ในยามกลางวันแสกๆ

<O</O
และในอดีตเกือบ40 ปีก่อน ตาพูนเองก็เคยโดนอาถรรพ์จากที่แห่งนี้มาแล้วเช่นกัน
โดยขณะนั้นในบ่ายวันหนึ่งที่ แกกำลังจะกลับเข้าบ้านที่ห่างออกไป ได้ขี่ม้าไทย(ตัวเล็กกว่าม้าเทศ)
ผ่านเข้าป่าแห่งนี้เพื่อลัดทางกลับออกสู่หมู่บ้าน

จู่ๆม้าที่แกขี่มา ก็เกิดแสดงอาการตกใจขึ้นมาสุดขีด เหมือนเจอสิ่งที่น่ากลัวบางอย่างสุดบรรยาย
กับสิ่งที่ตาของมนุษย์ธรรมดาเรามองไม่เห็น ได้ดีดตัวกระโจนขึ้นสุดกำลัง ขาทั้งสองตะกุย ตะกายขึ้นบนอากาศขึ้นสุดตัวพร้อมกับสลัดร่างชายชราวัย60 กว่าปีตกลงจากหลังม้า ร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง
ที่โชคร้ายซ้ำหนัก คือเมื่อเชือกที่ใช้คุมบังเหียนบังคับม้า ก็ดันเกิดมาพันที่ข้อมือของตาพูนจนแน่นพร้อมกับอาการที่ม้าที่ตกใจวิ่งลากร่างของตาพูนไปตามพื้นดินที่เต็มด้วย ตอไม้ตอหญ้า รวมถึงเนินดินจากดินเหนียวที่แข็งดั่งหินในหน้าแล้ง

ตัวม้าที่ตกใจตื่นกระโจนวิ่งนำร่างเจ้านายของมัน ครูดลากไปกับพื้นดินไปอย่างรวดเร็วพร้อมความเจ็บทรมานทุกเสี้ยววินาที ทั่วทั้งร่างของตาพูน จนม้าวิ่งห่างจากป่าอาถรรพ์นั้นนับเกือบ200เมตร จึงได้นิ่งสงบลง พร้อมกับร่างที่หมดสติของตาพูน แต่ถึงคราวที่ดวงยังไม่ถึงฆาต ชาวบ้านทำไร่ กำลังกลับเข้าบ้านผ่านมาพบเข้าจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ด้วยร่างที่แสนบอบช้ำหนัก จนถึงขั้นฉี่ออกมาเป็นเลือด ตัวเขียวม่วงไปทั้งตัวได้แต่ นอนร้องครวญ โอยย..

ต้องนอนพักรักษาตัว หยอดน้ำข้าวต้มไปนาน เกือบ 2 เดือนเต็มๆ จึงเข้าค่อยๆสู่อาการปกติดังเดิม
<O</O
ผีมันเล่นแรงจริงวุ้ย..เบาหน่อย นี่มันคุณตาของกรูนะเฟ้ย!<O></O>

 

แวะมาดูหนังดีรอบดึก

 

ต่อเรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ หลอกจนเพี้ยนเป็นโรค

จากความที่ ในสถานที่แห่งนี้มาก่อนเมื่อเกือบ40ปี เคยมีพระธุดงค์ มาพักโดยมีชาวบ้านสร้างเป็นกระท่อมเล็กๆ แต่ไม่สามารถสร้างเป็นสำนักสงฆ์ได้เนื่องจากปัญหาไข้ป่าไข้มาลาเลียยังมีอยู่มาก
และห่างจากหมู่บ้าน การขบฉันก็ลำบาก ต้องฝ่าทุ่งป่าทุ่งนานานนับ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงหมู่บ้าน บินฑบาตกว่าจะไป-กลับก็เลยเวลาฉันเพลแน่ เป็นอาบัติหากฉันเลยเวลาอีก

จึงจากไปพร้อมกับเป็นที่โจษขานเรื่องสถานที่แห่งนี้ว่าได้หวยแม่นสุดๆเกือบครึ่งปีในที่สุดก็จางหายไปพร้อมพระธุดงค์ที่จากไปเช่นกัน..

<O</O
พระอาจารย์ท่านเคยกล่าวว่า
ถ้าจะเริ่มต้นสร้างสถานที่แห่งนี้ ก่อนอื่นต้องนำคณะพระสงฆ์มาปฏิบัติธรรมสวดมนต์แผ่เมตตา
อุทิศส่วนบุญกุศลให้เหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่แห่งนี้ให้ร่วมอนุโมทนา สักพักหนึ่งก่อน
ไม่งั้นคงยากที่จะให้ช่างก่อสร้างได้ อาจมีคนตายได้ ต้องหาวิธีลดอาถรรพ์ป่าโบราณด้วยบุญกุศลให้เหล่าเทพยดาร่วมช่วยเหลือว่างั้น
<O
</O
และแล้วเมื่อท่านได้มาเริ่มการก่อสร้าง หลังทำการไถปรับพื้นที่ได้ประมาณ 1อาทิตย์ผ่านไป ท่านจึงได้นำพระที่วัดถ้ำมาตั้งเต๊นท์ ปักกลดจำนวน5 รูป มาสวดมนต์ปฏิบัติสมาธิแผ่เมตตา สวดบทอุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์จนถึงเวลาประมาณ สี่ทุ่มจึงเริ่มแยกย้ายกันเข้าเต็นท์ และกลดที่เตรียมไว้ในตอนกลางวัน ตั้งกระจายกันอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่(คล้ายๆต้นสาธรป่า )

<O</O
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำเอาพระที่พักปักลด ต้องอกสั่นขวัญกระจุยเมื่อเข้าเวลาเที่ยงคืนเมื่อได้ยินเสียงแว่วๆ เป็นร้องแผ่วๆ...แหบพร่า
<O</O
ดังแว่วขึ้นมาจากบนต้นไม้ใหญ่ที่ตนพักอยู่
<O</O
“กกลัว แล้ว กกลัวแล้ว.. อย่ามาอีกเลยยยย...โอย ยยย กลัววว”<O></O>
“ หือ ฮือ..ฮื่อ อือ “


พระทั้งหลายที่ได้ยินเสียงดัง ออกมาเป็นระยะอยู่ใกล้ๆ อยู่ด้านเหนือศีรษะของตนก็เกิดอาการขนลุก ขนพอง จิตใจเสียววาบๆกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต่างก็พากันสวดมนต์สารพัดตามแต่จะนึกกันได้ ทั้งสวดมนต์ แผ่เมตตาสารพัดบท แต่เปล่าเลยไม่ได้ช่วยทำให้เสียงนั้นเบาลงหรือหยุดลงเลย มีแต่เสียงร้องร่ำไห้ของผู้ชายที่มีความทุกข์ทรมาน
<O</O
<O</O

“ฮือ เฮื่อ..ๆ โอย กลัวแล้ว..ๆ”<O></O>
เสียงนี้ยังดังมาอย่างต่อเนื่องนานร่วมครึ่งค่อนชั่วโมง<O>
</O

“จะทำไงดีวะ ผีมันมาร้องไม่ยอมหยุด อยู่บนต้นไม้เหนือหัว เหนือกลดเรานี่ห่างไปไม่กี่วานี่เอง...โอยทำไมมันเฮี้ยนกันนักเว้ย..”
<O</O
“อย่าให้มากนักเลย...พระอาจารย์ก็แยกออกไปพักปักกลดห่างออกไปตั้งไกลหลายสิบเมตร....ชักไม่ไหวจะทนแล้วนะนี่ อีกหน่อยถ้ามึงไม่หยุดร้องข้าจะเผ่นหนีแล้วนะ”


พระทุกรูปต่างล้วนอยู่ในอาการขวัญเสียประสาทหลอนอย่างมาก ต่างมองหาที่พึ่งคือพระอาจารย์<O></O>
และแล้วท่ามกลางความหวาดกลัว มีเหงื่อกาฬต่างไหลหยดอาบตัวกันทุกรูป ก็เริ่มดีขึ้นเมื่อเสียงร้องเริ่มจางหายไป..ค่อยยังชั่วหน่อยเงียบไปแล้ว คุณพระช่วยเราแล้ว
<O</O
แต่แล้วความตกใจถึงขีดสุดก็เกิดขึ้นอีกจนได้<O</O
...เมื่อเสียงร้องเงียบไป ก็ได้ยินเสียงวัตถุขนาดใหญ่น้ำหนักใกล้ๆ100กิโล ร่วงตกผ่านกิ่งไม้ตกกระแทกพื้นเสียงดังรุนแรงมาก
<O</O
“ตุ๊บ...โอย โอย” วัตถุดำๆขนาดใหญ่ที่ตกลงมา พร้อมการเคลื่อนที่กลิ้งไปมาๆ ราวกับพยายามเคลื่อนที่เข้าใกล้จุดพักของพระทุกรูปมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

<O</O
คราวนี้พระทั้งหลายที่นอนเหงื่อแตก ต้องหยุดบริกรรมบทสวดมนต์ อยูในเต็นท์พัก ก็ไม่ต้องรอให้ใครมาเรียกให้ลุก เพราะต่างก็เปิดกลด เปิดเต็นท์ วิ่งเผ่นโกยแน่บ ตรงลิ่วไปที่กลดของพระอาจารย์
ประเภทที่ว่า แข่งร้อยเมตรกันเลยทีเดียวท่ามกลางความมืด ผลปรากฏว่าก็ล้มลุกคลุกคลานไปกันสมควร เพราะไปสะดุดเข้ากับตอไม้บ้าง ก้อนดินใหญ่บ้าง หัวเข่าถลอก ข้อศอกแตก หัวบวมปูดไปตามๆกัน

<O</O
“พระอาจารย์ ๆ ๆช่วยด้วยผีหลอกมหาศาล ไม่ไหวแล้วครับ”<O</O
ผลการร้องเรียกพระอาจารย์ครั้งนั้น ผลที่ได้คือเงียบกริบ!
<O</O
ดังนั้นจึงพากันดึงเขย่าเตียงพับเดินสนามของท่านเพื่อจะปลุกเรียกท่านให้รู้สึกตัวตื่นแต่แล้ว...สิ่งที่ทำให้คณะพระทั้งหมดต้องตกใจ อ้าปากตาค้างหนักยิ่งขึ้นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
<O</O
....เมื่อพระอาจารย์หายไป ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงสนาม...


<O</O
“ซวยแล้วพวกเรา ท่านหายไปไหนเนี่ย” ช่างน่าสงสารทั้งพระเก่าพระบวชใหม่ บัดนี้ที่พึ่งคือ พระอาจารย์อันที่เป็นที่พึ่งสุดท้าย บัดนี้หายไปอยู่ไหนกัน..?แล้วนี่เราจะอย่างไรต่อไปดีหนอ<O</O

 

กำลังมันส์เลยครับ

 

มาติดตามต่อครับ

 

ต่อเรื่อง#พระบวชใหม่โดนผีจอมตื๊อในสำนักสงฆ์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่หลอกจนเพี้ยนเป็นโรคประสาท (จบตอน)

บทสนทนาเริ่มต้นขึ้น

“นี่...(Toplus99)... เธอได้ยินข่าวว่าพระอาจารย์นำพระที่วัดถ้ำมาที่ป่าน้ำซับสำนักสงฆ์ใหม่ มาสวดมนต์แล้วโดนผีหลอกกันทั้งคณะหรือเปล่า”

ญาติผู้ใหญ่ที่เป็นโยมอุปฐากของพระอาจารย์ถามผู้เขียน<O</O

“ไม่ได้ยินอ่ะ ครับ เรื่องมันเป็นไงมาไง”
<O</O
“อันนี้ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก รู้แต่ว่าเล่นงานเอาซะพระรูปหนึ่งที่มา หลังจากวันนั้นก็เพี้ยน บ้าไปเลย”<O</O
.... โอโห นี่เล่นกันหนักกันขนาดนี่เลยหรือนี่ <O</O

จากเหตุการณ์ที่ได้ยินมาก็ยังไม่ได้สอบถามเรื่องนี้กับพระอาจารย์อีก<O></O>
จนกระทั่งได้สอบถามเรื่องนี้กับคนที่รู้จักคนหนึ่งที่มีญาณทรรศนะสมารถติดต่อ
กับเจ้าที่ในสถานที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ ซึ่งใกล้ชิดสนิทกับผู้เขียนมาก

<O</O
“ลองสอบถามเจ้าที่ให้หน่อยได้ไหม ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไรพี่”

<O</O
“ได้.. ได้จะสอบถามให้ละเอียดเลยว่า ผีทำไมมันจะมาหลอกพระให้เป็นบาปตัวเองทำไม”<O></O>
สักพักจึงได้คำตอบออกมาว่า

<O</O
“รู้แล้ว เจ้าที่บอกมาว่า ไอ้ผีที่มันมาหลอกพระ ที่มันเล่นงานพระรูปนั้นเพราะว่าเพิ่งบวชใหม่ไม่เชื่อเรื่องภูติผีวิญญาณ ไปลบหลู่เขาว่าทำนองว่า ถ้าผีมีจริงมาจะจับขอหวย หรือจับใส่ขวดโชว์เก็บตังค์ซะเลยประมาณนี้

มันมีกันอยู่ 2 ตัว มันเล่นงานหนักมากความจริงมันจะเอาถึงตายเลยนะ เป็น** วิญญาณมิจฉาทิฏฐิไม่รู้จักศาสนา ไม่รู้จักพระสงฆ์ อยู่ที่นี่มาหลายร้อยปีแล้ว สวดมนต์แผ่เมตตาไปก็ไม่รับไม่รู้”<O></O>

“อยากรู้รายละเอียด ต้องถามพระอาจารย์ท่านรู้เหตุการณ์ทั้งหมด เจ้าที่ที่เป็นพญางูใหญ่มากๆ สองผัวเมียบอกมาว่างั้น”<O></O>

=========
** มิจฉาทิฏฐิคือ ผู้ที่มีความเห็นผิดไปจากกฎธรรมชาติ คือผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์มีจริง นรกมีจริง การกินเจแล้วได้บุญเป็นการโปรดสัตว์ (แต่คิดว่ากินเพื่อสุขภาพไม่ถือเป็นมิจฉาทิฏฐิ) ตายแล้วเป็นศุนย์ จะไม่กลับมาเกิดอีก บุญบาปไม่มี พ่อแม่ไม่มี เทวดาไม่มี โลกหน้าไม่มี
พระอรหันต์ไม่มี พระพุทธเจ้าไม่มี คำสอนในพระไตรปิฏกไม่มี อย่างนี้เป็นต้น คนที่คิดในข้อความเหล่านี้ถือเป็นมิจฉาทิฏฐิทั้งสิ้น

และเมื่อตนเองไม่เชื่อแล้วยังไม่พอ ยังนำเรื่องที่ตนเองคิดว่าเป็นอย่างนี้แล้ว ยังนำไปสอนคนอื่นให้หลงเชื่ออีก และก็มีผู้เชื่อตามที่บุคคลนั้นสอน บุคคลผู้สอนถือเป็นสุดยอดมิจฉาทิฏฐิอีก เมื่อเขาผู้นั้นได้ตายไปจากโลก จะไปเกิดในโลกัณฑ์ตนรก เป็นนรกที่อยู่ขอบจักรวาลเป็นนรกที่ไม่มีแสงสว่าง สิ้นแสงดาวทุกดวง จะได้เห็นแสง 1 ครั้งเมื่อบนโลกมนุษย์ได้อุบัติพระพทธเจ้า 1 องค์ เพียงชั่วฟ้าแลปเท่านั้น

และผู้ที่เกิดในโลกันตนรกนี้จะมีผิวกายเป็นพังผืด เมื่อมองไม่เห็นกันในความมืด ถ้ามาแตะตัวโดนกันก็จะกินกันจนตาย แล้วก็กลับมาฟื้นใหม่ด้วยแรงกรรม เป็นอย่างนี้ 1 พุทธธันดร หรือ เปลี่ยนพระพุทธเจ้า 1 พระองค์ การที่คนเราเป็นมิจฉาทิฏฐินี้ เป็นเพราะบุญเขานั้นยังไม่เต็มจึงไม่มีโอกาสได้ฟังธรรมมะที่ถูกต้องได้ จึงต้องอฐิฐานอยู่เสมอให้ได้พบได้เจอได้ฟัง ธรรมมะของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ทุกพบทุกชาติที่เกิดเป็นมนุษย์

ดังนั้นควรอฐิฐาน 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. เมื่อข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติใดขอให้ได้เกิดในที่ดีที่สมควร
2. เมื่อข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติใดขอให้ได้เจอะเจอพระพุทธศาสนาเท่านั้น และพบคำสอนที่ถูกต้องตรงตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
3. เมื่อข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติใดขอให้บาปแม้แต่น้อยก็อย่าให้มีโอกาสได้ทำเลย
4. เมื่อข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติใดขอให้มีโอกาสได้ทำบุญชนิดมากมายมโหฬารมหาศาลยิ่งๆขึ้นไป
5. เมื่อข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติใดขอให้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้มากมายไม่มีเบื่อ

อฐิฐานคำกล่าวนี้อยู่เสมอแล้วคำว่ามิจฉาทิฏฐิก็จะค่อยๆหายไปจากชีวิตของเราแล้วไม่ชาติใดชาติหนึ่งเราก็จะมีโอกาสบรรลุธรรมอย่างแน่นอนครับ ขอให้ผู้ฟังธรรมอ่านธรรมนี้จงเป็นคนที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้นครับ

ขอคุณที่มา:www.sil5.net
=============

ว่าแล้วเรื่องนี่ Toplus99 ในฐานะนักสืบสายลึกลับมีหรือจะปล่อยให้ลอยนวลคาใจได้นาน..อย่างนี้มันต้องสืบค้นกันให้จงได้

<O</O
“พระอาจารย์ครับ เรื่องนี้มันยังไงกันแน่อยากรู้”<O></O>

“อยากรู้ใช่มั๊ย จะเล่าให้ฟังเรื่องนี้ ข้าก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า มันจะเล่นกันหนักขนาดนี้ อีกอย่างพระบวชใหม่ก็เพิ่งมาอยู่ อยากขอติดรถมาเที่ยวที่สำนักสงฆ์ใหม่ด้วย ไอ้ที่โดนหลอกมันเคยมีกรรมผูกพันธ์ กับไอ้ผีผู้ชาย2ตัวนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน ได้เวลาได้จังหวะมาเจอกันเข้า มันเลยพากันล่อซะเต็มเหนี่ยวเลย”
<O</O

“ หลังจากที่ทำวัตรสวดมนต์เย็น ปฏิบัติสมาธิ จากนั้นก็นั่งคุยสนทนากันสักพัก หลังจากแยกกันเข้าที่พักเต็นท์ใครเต็นท์มัน ตอนแรกข้าก็นอนที่เตียงสนามมุ้งครอบ
แต่รู้สึกว่านอนไม่สบาย ปวดหลังก็เลยเข้าไปนอนในรถปิคอัพ ปรับเอนเบาะแล้วรู้สึกสบายกว่า”

<O</O
“ประมาณสี่ทุ่มกว่า ไอ้ผี2ตัวนี้ มันก็เริ่มทำงานเข้าไปปรากฏตัว ให้พระบวชใหม่เห็นกันแบบเต็มๆตาที่ในต็นท์นั่นเลย มันแกล้งหลอก แกล้งกวนสารพัดทุกรูปแบบที่มันทำได้ พระก็กลัวผีจนสติแตก เพราะเกิดมาไม่เชื่อไม่คิดว่าผีจะมีจริง ความกลัวก็เผ่นหนีผี ขึ้นไปบนต้นไม้ที่อยู่ติดกับที่ตั้งเต๊นท์นั่นแหละ คนดีๆที่ไหนวะมันจะหนีผีขึ้นต้นไม้ ผีนะไม่ใช่จระเข้”

ท่านพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ<O</O

“พระหนีผี ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ไอ้ผีก็พอผี ไอ้สองตัวนั่นมันก็ไม่ยอมเลิกรา มันพากันไต่ปีนต้นไม้ กระดื๊บๆ ตามตูดพระขึ้นไปด้วย คิดดูนะความกลัวที่มันไม่รู้จะหนียังไง หลอกหลอนอยู่เป็นชั่วโมงๆไม่ยอมเลิก แถมผีมันบอก ถ้ากลัวมันให้หนีไปตายเสียซิ จะได้ไม่ต้องเจอพวกมันอีก “

“คนมันมีกรรมอาฆาตกันมา เหมือนมีสิ่งดลใจ พระใหม่รูปนั่นก็เลยถอดเอาประคตรัดเอว มาผูกเข้ากับกิ่งไม้รัดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายหนีผี..”

คิดได้ไงหนอ...ฆ่าตัวตายหนีผี! (ผู้เขียน..)
<O</O

“แต่ ดวงยังไม่ถึงฆาต เชือกประคตมันเกิดขาดเสียก่อน ก็เลยหล่นตุ๊บ ตกลงมาจากต้นไม้ ไอ้พระที่อยู่ในเต็นท์ข้างล่างที่ได้ยินเสียง พระร้องหนีผีของพระใหม่แต่แรก ก็เข้าใจว่าเป็นเสียงผีไม่มีใครกล้าโผล่หัวออกมาดู”
<O</O

“พอได้ยินเสียงคนตกต้นไม้กลางดึก เสียงดังตุ๊บ!ก็นึกว่าผีมันหลอก แกล้งทำเป็นของตกต้นไม้ ก็ตกใจหนักเลยพากันวิ่งหนีกันกระเจิง มาหาข้าในเต็นท์ แต่ข้าแอบมาอยู่ในรถก็เลยวิ่งหากันให้จ้าละหวั่นกลางดึก”
<O</O

ท่านเล่าไปท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีกลายเป็นเรื่องขำ ผู้เขียนพลอยหัวเราะตามไปด้วย
<O</O

“ที่จริงไอ้ผีมันยังตาม มานั่งรวมกับคณะพระอยู่เลยนะ แต่ข้าไม่อยากบอกให้ใครรู้ นับว่ามันตื้อน่าดู จากนั้นข้าก็กลับไปดูที่ต้นไม้ต้นเหตุ ปรากฏว่ามีพระใหม่ตกลงมากองอยู่ใต้โคนต้นไม้นั่นแหละ ไม่เป็นอะไรมาก แต่ขวัญเสียหนักเลย ปากก็บอกจะสึกๆอย่างเดียว
<O</O
ข้าก็บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งสึกนะ เดี๋ยวจะทำพิธีรดน้ำมนต์รักษาให้ ให้รอก่อนเพราะวันถัดไปข้ามีกิจนิมนต์ยังไม่ว่างทำให้”
<O</O

“จะด้วยเวรกรรมใดไม่รู้ มันแอบหนีไปสึกที่อื่นก่อน เลยป้ำเป๋อๆกันไปจนทุกวันนี้”

<O</O
จิตวิญญาณผีพวกนี้มันอยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว ก่อนตายมันเป็นชาวป่าคนดง เกิดมาก็ไม่เคยเห็นพระ ไม่รู้จักศาสนา เพราะอยู่แต่ในป่ามันอยู่มานาน เพราะทำบาปกรรมมามาก ดวงวิญญาณยังไม่ได้เวลาตัดสินกรรม ที่จริงมันก็เป็นตระกูลพวกวิญญาณเปรตประเภทหนึ่ง มันตายมานานมากจนจำชื่อตัวเองไม่ได้ ใครเข้ามาในถิ่นมัน มันก็จะหลอกหลอนไล่ให้ออกไปจากที่ที่มันอยู่ มันหวงที่ของมัน..บาปกรรมมันมาก ข้าก็ไม่อยากทำอะไรรุนแรง
<O</O

ปล่อยไปตามเรื่องให้เทวดาเขาจัดการกันเองตามเวลา คนดี มีบุญมามันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ให้มันเฝ้าวัด คนบาปมาก็เจอไอ้ผีพวกนี้เข้าไป..ก็หัวโกร๋น<O</O

..สบายไม่ต้องจ้างยาม ไม่ต้องเลี้ยงหมามาคอยเฝ้าให้เปลืองข้าวสุก<O</O
พระอาจารย์สรุปแบบง่ายๆสบายๆ<O</O

 

เพิ่งเขียนคำเฉลยเสร็จ...เมื่อตะกี๊.
พิจารณาแล้ว ตอบถูกกันคนละนิด คนหน่อย มากบ้างน้อยบ้าง

แต่ถ้าเอาคำตอบของทุกคนมารวมกันแล้ว ก็เกือบสมบูรณ์ได้แบบไม่น่าเชื่อ
แสดงถึงว่าภูมิธรรมความรู้ของทุกท่านที่ตอบมาของชาวเวปพลังจิต ไม่ธรรมดา อยู่ในขั้นที่ยอดเยี่ยมาก สมเป็นชาวเวปพลังจิตผู้ติดตามกระทู้ Toplus99 จขกท. เมื่อพระอภิญญาว่า เขื่อนป่าสักจะเป็นบางแสน จริงๆ นี่ถ้าเฉลยมั่วไม่เข้าทาง คงโดนชาวเวป รุมยำเละเทะแน่เลย

ดังนั้นขอเรียนถาม มายังยังผู้ส่งคำตอบมา จะเอาผลตรวจคะแนนลงก่อนหรือจะให้เฉลยคำตอบก่อนดีหนอ...?

ถ้าบอกคะแนนออกมาแล้ว ห้ามน้อยใจ ห้ามเถียง ห้ามอุทรณ์นะ และไม่ต้องอายใคร เพราะไม่มีใครเห็นหน้าเรา

และเคยบอกแล้วว่า ผิดถูกประการใดขึ้นอยู่กับความพอใจของ Toplus99 แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ต้องมาอ้างตำราคำภีร์ที่ใดทั้งนั้น ห้ามคัดค้านเพราะไม่ชอบคนขัดใจ..โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ่...จะใจร้ายไปมั๊ย!

fly_pig

 

เอาเฉลยคำตอบก่อนครับ

 

ในตอนต่อไปจะนำเสนอ...เรื่อง

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำบุญใหญ่ แล้วดันทำการกรวดน้ำ ที่จบไม่สมบูรณแบบ

...ลองตามมาดูผลจากประสบการณ์เรื่องจริงที่เกิดขึ้น
สำหรับที่ทุกท่านที่ชอบทำบุญไม่ควรประมาท และไม่ควรพลาด ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นและให้ผลอย่างไร...?

อย่าลืม เข้ามาแอบอ่านบ้างนะจ๊ะ...เผื่อได้เป็นประโยชน์ บอกต่อๆกันไป