ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314

    พอลองมาสังเกตุจริงๆ แล้วรู้สึกว่าตัวเองกินเนื้อสัตว์ไม่ค่อยได้จริงๆ ด้วยค่ะ

    กินข้าวกินได้นิดเดียว อิ่มมาก เหมือนท้องจะแตก แถมท้องอืดด้วย

    แต่พอกินสลัดจานนึง ตามด้วยน้ำเต้าหู้ กลับรู้สึกอิ่มแบบสบายท้อง

    กลายเป็นตอนนี้กินพวกเนื้อสัตว์ไม่ค่อยได้แล้วสินะคะเนี่ย

    ก่อนหน้านี้ก็มีอาการคล้ายๆ แบบนี้ คือ ปกติเป็นคนกินเผ็ด กินเค็ม รสจัดๆ

    แต่กลายเป็นว่ากินเผ็ดแล้วชอบปวดท้อง ร้อนใน กินเค็มก็ตัวบวม

    เลยพยายามลดเผ็ด เค็ม ตอนนี้กลับกินเนื้อสัตว์ไม่ได้อีกซะงั้น แป่วว

    สงสัยต้องมังสวิรัติซะแล้ว :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  2. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314

    พอลองมาสังเกตุจริงๆ แล้วรู้สึกว่าตัวเองกินเนื้อสัตว์ไม่ค่อยได้จริงๆ ด้วยค่ะ

    กินข้าวกินได้นิดเดียว อิ่มมาก เหมือนท้องจะแตก แถมท้องอืดด้วย

    แต่พอกินสลัดจานนึง ตามด้วยน้ำเต้าหู้ กลับรู้สึกอิ่มแบบสบายท้อง

    กลายเป็นตอนนี้กินพวกเนื้อสัตว์ไม่ค่อยได้แล้วสินะคะเนี่ย

    ก่อนหน้านี้ก็มีอาการคล้ายๆ แบบนี้ คือ ปกติเป็นคนกินเผ็ด กินเค็ม รสจัดๆ

    แต่กลายเป็นว่ากินเผ็ดแล้วชอบปวดท้อง ร้อนใน กินเค็มก็ตัวบวม

    เลยพยายามลดเผ็ด เค็ม ตอนนี้กลับกินเนื้อสัตว์ไม่ได้อีกซะงั้น แป่วว

    สงสัยต้องมังสวิรัติซะแล้ว :cool:
     
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897

    (good)..................;aa30


    อยากจะไปที่ใดแค่ใจคิด
    เพียงจ่อจิตจรดไปในที่หมาย
    ถึงยังที่ปรารถนาในทันใด
    อาณาลัยนั้นไซร้"ใกล้เพียงเงา"

    ..................................................

    พอขยับปีกได้แล้วจ้า แต่ยังบินไม่ได้อ่ะ
    ไปไหนมาไหน ต้องอาศัยราชรถมาเกยอ่ะจ้า...(deejai)

    ขอบคุณที่ถามนะจ๊า...(rose)
     
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากครายออนพูดถึงเรื่องนี้ไว้แบบนี้ครับ

    ที่มา:

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...-the-recalibration-of-the-human-being.331404/
    ................................................

    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของมนุษยชาติ (The Recalibration of the Human Being)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่รับสาส์น: 7 กุมภาพันธุ์ 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of the Human Being > Kryon

    ผู้แปล : คุณชยุต

    ตอนที่ 6

    มนุษย์ทุกๆคนที่อยู่ในห้องนี้แต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกันทั้งสิ้น
    และตอนนี้เราจะมาพูดถึงอะไรบางอย่างที่พวกเราไม่ได้พูดถึงกันมานานแล้ว
    แต่พวกคุณจำเป็นจะต้องได้รับฟัง

    อาหารชนิดใดที่จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของพวกคุณนั้น
    ขึ้นอยู่กับมรดกตกทอดที่ถูกบันทึกไว้ใน Akashic record
    ของพวกคุณเองล้วนๆ
    และอย่างสิ้นเชิงด้วย

    เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับว่า ชาติภพส่วนใหญ่ของพวกคุณชอบไปเกิดที่ไหนมากที่สุด?
    ในทวีปเอเซียหรือเปล่า? หรือว่าในประเทศอินเดีย หรือว่าทิเบต? หรือว่าในซีกโลกทางใต้?
    ซึ่งแต่ละสถานที่ และแต่ละวัฒนธรรมที่พวกคุณไปเกิด ก็จะมีลักษณะของอาหารการกินที่แตกต่างกันตามไปด้วย
    ซึ่งมันเคยทำให้สุขภาพของพวกคุณคงอยู่ในความสมดุล
    แต่ว่าตอนนี้ถ้าในภพชาตินี้ คุณกำลังอยู่ในซีกโลกทางเหนืออยู่หละ?

    สิ่งที่ฉันอยากจะบอกให้พวกคุณรู้ก็คือ...
    พวกคุณยังคงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากชนิดของอาหารการกิน ที่พวกคุณเคยคุ้นเคยมา ในอดีตชาติเหล่านั้นอยู่

    บางทีคุณอาจจะเคยเป็นมังสวิรัตมาก่อน หรือบางทีคุณอาจจะเคยรับประทานแต่เมล็ดพันธุ์พืชมาก่อน
    ด้วยเหตุนี้ เซลในร่างกายของคุณจึงปราถนารูปแบบการกินแบบนั้นเพื่อที่จะได้รู้สึกถึงความสมดุล พวกคุณเข้าใจไหม?
    แต่อีกหลายๆคน ที่อาจจะมาจากทวีปอเมริกาเหนือ หรือจากทวีปยุโรป
    และอาจจะไม่เคยรับประทานอาหารของทวีปเอเซียหรือทวีปอเมริกาใต้เลย
    ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มีอยู่ในซีกโลกทางเหนือนี่เลย

    ฟังให้ดีนะ...
    มันไม่มีคำตอบเพียงคำตอบเดียวหรอกนะ
    ที่จะเป็นคำตอบทั่วไปที่ใช้ได้กับทุกๆคน
    ที่ถามว่า “ฉันควรจะรับประทานอาหารประเภทไหนดี
    เพื่อการมีสุขภาวะที่ดีด้านจิตวิญญาณของฉัน?”

    เพราะว่ามันไม่มีหรอกนะคำว่า “สิ่งที่ควรจะรับประทาน” หนะ
    มันจะมีก็แต่สัญญาณที่ดีๆที่จะถูกส่งมาจาก “ธรรมชาติดั้งเดิมภายใน” ของพวกคุณเอง
    ที่จะบ่งบอกให้ทราบว่าอะไรคือสิ่งที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของคุณเองมากที่สุด
    หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
    “จงฟังเสียงจากเซลในร่างกายของพวกคุณเอง”

    คราวนี้ ทำไมฉันถึงพูดอย่างนี้หนะเหรอ?
    ก็เพราะว่าพวกคุณกำลังจะไปขอคำแนะนำจากคนโน้นคนนี้ ว่าควรจะรับประทานอะไรดี
    เพื่อรักษาอาการผิดปกติที่เกิดจากกระบวนการ recalibration นี้อยู่หนะสิ
    เพราะงั้น ตอนนี้ฉันจึงอยากจะบอกพวกคุณว่า อย่าไปสนใจคำแนะนำเหล่านั้นเลย
    แต่ให้กลับเข้าไปข้างในแทน และให้ Akashic record ของพวกคุณเองบอกพวกคุณว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับพวกคุณ

    และก็..ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกนะ ...
    ถ้าหากจะมีพวกคุณบางคนเกิดแพ้อาหารบางอย่าง
    ที่เคยกินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ขึ้นมาแบบปุบปับซะยังงั้น
    ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า นั่นก็เพราะว่า
    ร่างกายเนื้อของพวกคุณมันกำลังปรับตั้งค่าใหม่ให้กับตัวมันเองอยู่
    และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการก้าวไปข้างหน้าของพวกคุณด้วย
    เพื่อที่พวกคุณจะได้เลื่อนไปสู่ระดับที่มีความสมดุลและมีภูมิปัญญามากที่สุดได้

    พวกคุณหลายคนอาจจะไม่ชอบอาหารที่ผ่านการแปรรูปแล้วบางชนิด
    เพราะว่าพวกคุณไม่คุ้นเคยกับพวกมันในบันทึกแห่งฟ้าของพวกคุณ (Akashic record)
    พวกคุณเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงอยู่นี่ไหม?

    ถ้าพวกคุณกำลังจะไปดึงเอาพลังงานแห่ง Shaman ที่อยู่ลึกลงไปในภูมิปัญญาของพวกคุณ
    ที่พวกคุณเคยเรียนรู้มา และเคยเป็นมาแล้วเมื่อในอดีต ตั้งหลายภพหลายชาติ ให้มันขึ้นมาในตอนนี้
    มันก็จะต้องมีอะไรบางอย่างติดขึ้นมากับมันด้วยเป็นธรรมดา
    เช่น เรื่องอาหารการกินเพื่อความสมดุลของตัวคุณเอง เป็นต้น
    และพวกคุณก็กำลังจะต้องคล้อยตามมัน อย่าไปต่อต้านมัน

    จงคาดหวังถึงสิ่งเหล่านี้
    เพราะว่าพวกมันอยู่ที่นั่น ก็เพื่อที่จะให้พวกคุณได้เห็นและรู้สึกถึงมัน
    จงมองดูมันในแบบที่มันเป็น
    ซึ่งนั่นก็คือ กระบวนการปรับตั้งค่าใหม่ (recalibration) นั่นเอง

    ...............................................
     
  5. อร่อยดี

    อร่อยดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +2
    รู้สึกตรงกับคำว่า "ทางสายกลาง" ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้:cool:
     
  6. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,079
    ค่าพลัง:
    +10,246
    ขอบคุณท่านผู้ให้ความรู้ และท่านผู้แปลทุกท่านครับ
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เมื่อคืนนี้มีฝันอยู่ฉากหนึ่งที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ
    ตอนแรกก็กะจะไม่เล่าหรอก แต่พออ่านข้อความของนาง blossom แล้ว
    ก็อดที่จะเล่าไม่ได้..เพราะว่า..เพื่อให้พวกเราในนี้แหละ
    ได้ฉุกคิดกันซะหน่อยหนะครับ...


    เมื่อคืนผมฝันไปว่า ผมเป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ของกองเชียร์ของประเทศไทย
    แต่ก็ประมาณว่าไม่ได้ใส่ชุด Uniform ของเชียร์ลีดเดอร์แต่ประการใดเลย
    ทุกๆคนที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของประเทศไทย ต่างก็แต่งตัวตามสบายแบบนี้กันทุกคน

    ในความรู้สึกในฝันนั้น เรากำลังมีการแข่งขันกีฬาอะไรซักอย่างหนึ่ง
    เป็นเกมส์กีฬาของคนทุกชาติทุกภาษา และทุกประเทศทั่วโลก
    ซึ่งเกมส์นี้ ก็มีกองเชียร์อยู่ในทุกประเทศด้วย
    และก็มีทีมเชียร์ลีดเดอร์เป็นของตัวเองด้วย

    ในเกมส์นี้ เขามีการประกวดและให้คะแนนในหลายๆส่วน
    รวมทั้งส่วนของทีมเชียรืลีดเดอร์ที่ว่านี้ด้วย..และแน่นอนว่า
    ทีมของประเทศไทยเรา และ ประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศ..ตกรอบครับ
    เพราะสู้สองประเทศไม่ได้..

    ในฝันนั้น ผมไม่แน่ใจว่าทีมเชียร์ของสองประเทศไหนเข้ารอบสุดท้าย
    คือมีคะแนนสุงสุดหนะนะครับ..แต่รู้สึกว่าจะเป็นของ USA กับ ญี่ปุ่นนะ

    ในฝันนั้น พวกเราทีมเชียร์ลีดเดอร์ของแต่ละประเทศ
    กำลังเดินไปดูสองทีมนั้นเชียร์ เพื่อดูว่าเขาดี และ เก่งกว่าเราอย่างไร
    ก็ปรากฎว่า เขาพร้อมเพรียงกันดีมาก กองเชียร์ที่นั่งอยู่บนอัฒจรรย์ทุกคน
    ก็สวมชุดเหมือนกันด้วย มีการลงทุนเล่นอุปกรณ์แปลอักษร หรืออะไรแบบนั้นด้วย

    แต่แปลกตรงที่ทีมเชียร์ลีดเดอร์เขาก็ไม่ได้สวมชุด uniform
    เหมือนกันทั้ง 100% หรอกนะครับ แต่ประมาณว่า
    สวมเสื้อหรือกางเกงทหาร อย่างใดอย่างหนึ่ง เหมือนกันเท่านั้นเอง
    คนที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ก็มีทั้งหญิงและชาย
    และไม่ได้คัดที่ความสูง หรือความสวยแต่อย่างใดเลย

    ผมเดินเข้าไปใกล้ๆทีมหนึ่งที่เขากำลังแสดงความพร้อมเพียงให้ดูอยู่
    ก็ได้พบปะกับ "เพื่อน" ที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ด้วยกันมากมาย
    แต่มาจากประเทศต่างๆกัน ในฝันรู้แต่ว่าเป็นเพื่อนเก่า
    แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้างหนะนะครับ เพราะมันเยอะมากๆ

    ...........................................................

    ตื่นมาตอนเช้าก็คิดถึงฝันนี้อยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรพิเศษ
    เพราะเดาความหมายออกอยู่แล้ว..แต่พอมาเห็นข้อความของนาง Blossom
    ถึงได้มีแรงกระตุ้นให้เล่าความฝันนี้ทิ้งไว้ซะหน่อยหนะครับ

    ข้อความของนาง Blossom วันที่ 26/3/12 นี้ ในช่วงต้นๆบอกว่า

    Blossom Goodchild - March 26, 2012

    It is more that we FEEL many would benefit if they understood that
    we come from a position of acceptance of who we are.
    This role which we play within the undivided attention upon your planet
    at this time is to be one of great participation from the overall perspective.

    มันยังมีเรื่องอื่นอีกว่า..พวกเรารู้สึกว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน
    ถ้าพวกเขาได้เข้าใจว่า พวกเรามาที่ีนี่ด้วยความรู้สึกยอมรับ ในสิ่งที่พวกเราเป็น
    ภาระหน้าที่ๆพวกเรากำลังปฏิบัติกันแบบไม่มีการแบ่งแยก บนโลกของพวกคุณอยู่นี้
    ในขณะนี้ คือภาระหน้าที่อันหนึ่ง ที่มีความสำคัญอย่างมาก
    ท่ามกลางบทบาทหน้าที่ทั้งหลายของภาพรวม

    Therefore we would consider it worthy of yourselves
    to also take a deep insight into that role in which each individual
    is also participating ... from the perspective of the Earth soul.

    เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราจึงอยากจะมองว่ามันคุ้มค่าสำหรับพวกคุณด้วย
    ที่จะทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ๆแต่ละคนกำลังมีส่วนร่วมอยู่นั้นให้ลึกซึ้งด้วย
    ในมุมมองของมนุษย์โลกนั่นแหละ...

    We would ask if you are playing your role well?
    Have you been rehearsing lines and now ready to perform?
    For indeed it is very soon to be a time when veils are lifted
    and ones strength must carry them through.

    พวกเราอยากจะถามพวกคุณว่า..พวกคุณทำหน้าที่ของพวกคุณได้ดีพอหรือยัง?
    พวกคุณได้ฝึกซ้อมกันมานานพอแล้ว ตอนนี้พวกคุณพร้อมที่จะแสดงกันหรือยัง?
    เพราะว่าเวลาที่ม่านพรางทั้งหลายจะถูกยกขึ้นนั้น มันใกล้เข้ามามากจริงๆแล้ว
    ซึ่งพวกคุณจะต้องประคับประคองความเข้มแข็งของตัวเองให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งด้วย

    ............................................................

    ความหมายในฝันของผมก็ประมาณนี้แหละครับ
    บรรดา Cheer Leader ทั้งหลายเอ๋ย..
    พวกคุณพากันทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอหรือยัง?
    หรือมัวแต่ขี้เกียจ ทำแบบเช้าชามเย็นชามกันอยู่
    เพราะคิดว่างานนี้ไม่มีใครบังคับ และก็ทำแล้วไม่ได้อะไร
    ก็เลยทำแบบไม่เต็มที่นัก..ทำแบบเล่นๆหัวๆไปวันๆ

    มันก็เลย "ตกรอบไง" มันก็เลยต้องไปดูงานจากทีมอื่นๆเขาไง

    .......................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  8. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เจอข้อความนี้เข้า รู้สึกกระเทือนตัวเองครับพี่...ส่วนตัวผมเองนั้น มีเป้าหมายชัดเจน.. ..กะว่าปั่นเงินซักพัก แล้วหยุดทำงาน ลุยงานด้านนี้เต็มที่ไปเลย.. ผมจะเป็นประเภททำงาน1 ปี หยุด5ปี แบบนี้น่ะฮะ.. ถ้าทำงานหาเงินไปด้วย ช่วยโลกไปด้วย.. ยังไงก็ไม่เวิร์คในความคิดของผม.. ต้องด้านนึง ด้านใดไปเลย
    ช่วงนี้ก็ช่วยงานบุญ งานกุศล เล็กๆน้อยๆไปตามประสา...ถ้าจะเป็นเรื่อง เป็นราวต้องรอเวลาอีกหน่อยครับพี่ครับ....
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แต่ก่อนผมก็เคยคิดเช่นนี้เหมือนกันหละครับ ประมาณว่า

    "เอาไว้ให้ตัวเองมีเงินพอกินพอใช้ก่อน เหลือแล้วค่อยทำบุญ"

    หรือประมาณว่า

    "เอาให้ตัวเองรอดซะก่อนเถอะ แล้วค่อยช่วยเหลือคนอื่นๆทีหลัง"

    ฟังดูเผินๆมันก็จริงนะ เพราะว่าถ้าเรายังเอาตัวเองไม่รอดเลย
    แล้วเรายังจะไปช่วยใครที่ไหนได้อีกหละ..

    แต่ลองมาพิจารณาอีกแง่มุมอื่นดูบ้างเถิด..เอาแง่มุมของพุทธก่อนนะ
    เราจะมาว่ากันเรื่อง "บุญ" กันก่อนนะครับ คิดว่าทุกๆคนคงรู้จัก "บุญ" แล้วนะครับ

    หลักการณ์ของพุทธเราจะประมาณว่า เพราะเราเคยทำกรรมไม่ดีไว้
    เราถึงได้มีปัญหาต่างๆนาๆในภพชาตินี้ ซึ่งหมายถึงอะไรก็ได้ ผมพูดโดยรวมนะครับ
    ดังนั้น การที่จะทำให้หมดปัญหาไปได้ ก็คือต้องชดใช้กรรมเหล่านั้นไปเสีย
    และวิธีการชดใช้กรรมเหล่านั้น ก็มีอยู่หลายวิธีการ เช่น การเจือจางมันด้วยบุญเป็นต้น
    บุญคือตัวที่จะทำให้เรามีพละกำลังมากขึ้น มีเสบียง มีบารมี และฯลฯมากขึ้น
    ดังนั้น มันจึงเหมือนเชื้อเพลิงที่จะทำให้เรามีพลังเพื่อพุ่งทะยานหลุดออกไปจาก
    ปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ได้มากขึ้น และ เร็วขึ้นด้วย

    ดังนั้น หากเรามัวแต่คิดว่า ก็รอให้เรามีเงินพอกินพอใช้ซะก่อนแล้วค่อยทำบุญ
    หรือค่อยช่วยเหลือผู้อื่น..อยู่..แล้วแบบนี้..เมื่อไหร่เราถึงจะพอมีพอกินได้หละครับ
    เพราะว่าเราก็ยังจมอยู่กับแต่ปัญหาอุปสรรคเหล่านั้นต่อไป โดยไม่มีเชื้อเพลิงใดๆ
    หรือไม่มีแรง-พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรมาช่วยฉุดเราขึ้นไปในทางที่ดีขึ้นเลย
    ชีวิตเราก็ยังขึ้นอยู่กับยถากรรมต่อไปเรื่อยๆ ไร้ความหวัง ไร้อนาคต
    เหมือนรถที่ไม่มีน้ำมัน และไม่คิดจะเติมน้ำมันเพิ่มเลย แล้วแบบนี้น้ำมันเก่าที่มีอยู่นั้น
    มันจะหมดลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และจะวิ่งไปได้ไกลอีกซักแค่ไหนก็ไม่รู้

    เพราะฉะนั้นแล้ว สมัยที่ผมเป็นหนี้เป็นสินเยอะๆอยู่นั้น ผมจึงพยายามทุกวิถีทาง
    ที่จะ "ดีดตัวเอง" หรือ "ถีบตัวเอง" ให้ออกไปจากบ่วงของปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ให้ได้
    ด้วยการเติมน้ำมันทุกชนิดที่พอจะหาได้ หมายถึงตะลุยทำบุญหนะนะครับ
    โดยไม่สนเลยว่า อันนี้เรื่องจริงนะ สาบานได้ ว่าเงินเดือนที่ได้รับมาแต่ละเดือนนั้น
    มันจะน้อยกว่า "ค่าใช้จ่าย และ หนี้สิน พร้อม ดอกเบี้ย" ที่ผมจะต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็ตาม

    สรุปว่าช่วง 11 ปีเต็มๆ ที่ผมเป็นหนี้เป็นสินอยู่แบบนั้น ซึ่งพอเงินเดือนออกมาปั๊บ
    ผมเห็นเหมือนเป็นเศษกระดาษ เพราะว่า อีกไม่กี่นาทีถัดไป หรือ ไม่เกินสองสามวันถัดไป
    เงินจำนวนนี้ทั้งหมด มันก็จะกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว

    ดังนั้น ผมเลยไม่แคร์เลยว่า ถ้าผมจะชักมาซัก 100 - 200 หรือ 500 บาทเพื่อเอามาทำบุญนี่
    ใครจะว่าอย่างไร หรือเจ้าหนี้จะไม่พอใจที่เราจ่ายไม่ครบ แล้วคิดดอกเราเพิ่ม
    อะไรแบบนั้น ผมไม่สนเลย ผมมีแต่จะเชิญครับ เชิญคิดดอกทบต้นของเงินก้อนนี้ได้เลยครับ
    เพราะว่าผมต้องชักเอาไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อกิน เพื่อใช้ และเพื่อทำบุญของผมด้วย

    เพราะฉะนั้น นี่คือเหตุผลที่ผมเป็นหนี้นานถึง 11 ปี เพราะว่าดอกเบี้ยมันหมุนอยู่แบบนี้
    ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆ..แต่กระนั้น..ในท้ายที่สุด..โดยรวมแล้ว
    เหตุการณ์ทุกอย่างมันก็ค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นของมันเองนะ

    จนทุกวันนี้ ถึงแม้จะยังมีหนี้อยู่ แต่ก็ถือว่าจำนวนเล็กน้อย เพราะว่าเราปล่อยให้มันมีเองแหละ
    อะไรแบบนั้นครับ แต่โดยรวมแล้วก็สะดวก และ สบายขึ้นเยอะ

    ในอีกมุมมองหนึ่ง ผมจะพูดถึงเรื่องพลังงานบ้างแล้วนะครับ
    คือประมาณว่า จริงอยู่ ในใจเราหนะตั้งใจจะช่วยเหลือผู้อื่นซักวันอยู่แล้ว
    แต่ถ้าเรายังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย ฉไนเลยระดับพลังงานด้านบวกของเรา
    มันจะค่อยๆเพิ่มสุงขึ้นได้หละ

    เพราะว่าการที่เรา คิด และ พูด และ ทำไปพร้อมๆกัน ในทางบวก
    ในทางช่วยเหลือผู้อื่น จิตใจของเราก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นเรื่อยๆด้วย
    เพราะว่ายิ่งเราให้ออกไปเท่าไหร่ จักรวาลก็จะยิ่งเป็นหนี้เรามากเท่านั้น
    และด้วยกฎแห่งการทดแทนของจักรวาล จักรวาลก็จะต้องหามาชดเชยให้เรามากเท่านั้นด้วย

    และยิ่งเราให้ออกไปมากเท่าไหร่ แบบไม่หวังผลตอบแทน และด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    จิตใต้สำนึกของเรา ก็จะรับรู้ว่า "เราคือผู้มีจะให้" นั่นคือ เราทำตัวเป็นคนที่มีจะให้
    และไม่ขาดแคลนอยู่แล้ว ดังนั้น กฎแห่งการดึงดูด ซึ่งมีหลักการณ์ว่า
    "เป็น - ทำ - มี" ก็จะทำงานของมันไปอย่างซื่อสัตย์ว่า

    เมื่อเรา "เป็น" ผู้ที่มีจะให้แล้ว และเราก็ "ทำ" แบบนั้นจริงๆแล้ว เราก็จะ "มี" แบบนั้นจริงๆ
    มันไม่ใช่ว่าต้อง "มีเงิน" ก่อน แล้วค่อย "ทำทาน" ได้ แล้วถึงจะ "เป็นคนรวย" นะครับ
    มันตรงข้ามกับที่เราเข้าใจกัน

    และอีกประการหนึ่ง ยิ่งระดับความสั่นสะเทือนของเรายิ่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่
    สิ่งที่เราจะพบจะเจอ หรือ สิ่งที่จะเข้ามาหาเรา ก็จะเป็นสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือน
    ที่เข้ากันได้เท่านั้น ซึ่งก็ได้แก่ ความรวย ความสุข ความสมหวัง ฯลฯ เป็นต้น

    ดังนั้น เราจะทำมาหากินไป และยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆด้วย
    หรือว่าจะไปยกเอาทีหลังหลังจากรวยแล้ว ก็แล้วแต่นะครับ..เลือกเอาเอง

    แล้วถ้าเกิดโชคร้าย..ชาตินี้ไม่รวยเลยหละ..
    ก็อดทำบุญ อดช่วยเหลือคนอื่นใช่ไหม?
    และถ้าเกิดโชคร้าย..แบบว่าตายซะก่อน
    หรือว่าพิกลพิการไปซะก่อนหละ
    ก็อดอีกใช่ไหม๊?


    เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเวลาของชีวิตเราหนะเหลืออยู่อีกเท่าไหร่?
    และเราจะรู้ได้อย่างไร ว่ากาลเวลาข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา?

    ...........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความล่าสุดของนาง Blossom ที่ว่านี้
    ท่านใดว่างฝากแปลและโพสต์ด้วยนะครับ

    แล้วถ้ามีอะไรเพิ่มเติม หรือ แก้ไข
    เดี๋ยวผมจะแจ้งไปทาง PM ให้ครับ

    ......................................
     
  11. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ขอคารวะครับ ท่านพี่..(หัวเราะ) กระผมจะทำตามทุกตัวอักษร สมแล้วกับตำแหน่ง"หัวเรือใหญ่ แห่ง star seed" ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากๆ

    เอ่อ..ผมจะบอกว่า ตอนนี้ผมก็ทำบุญเป็นปกติวิสัยอยู่แล้วล่ะครับ. (ทั้งบุญ ทั้งทาน) เพียงแต่ไม่ได้เยอะและเต็มร้อยเหมือนตะก่อน เพราะตะก่อนผมไม่ทำงานไงครับ.ทำบุญอย่างเดียว..แต่คงเป็นอย่างที่พี่พูดนั่นแหล่ะ.. มันต้องเป็นเช่นนั้น จึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง...(พูดก็พูดนะครับ อยากเจอพี่ชยุตซักครั้ง..55+.. ผมชอบคุยกับคนเก่งๆ..(ทางปัญญา)น่ะครับ..อิอิ..
     
  12. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ความหมายในฝันของผมก็ประมาณนี้แหละครับ
    บรรดา Cheer Leader ทั้งหลายเอ๋ย..
    พวกคุณพากันทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอหรือยัง?
    หรือมัวแต่ขี้เกียจ ทำแบบเช้าชามเย็นชามกันอยู่
    เพราะคิดว่างานนี้ไม่มีใครบังคับ และก็ทำแล้วไม่ได้อะไร
    ก็เลยทำแบบไม่เต็มที่นัก..ทำแบบเล่นๆหัวๆไปวันๆ

    มันก็เลย "ตกรอบไง" มันก็เลยต้องไปดูงานจากทีมอื่นๆเขาไง

    .......................................................
    pig_cryyblack_pig;41
     
  13. light worker

    light worker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +446
    ขอให้โชคดีนะครับท่าน.. :)
     
  14. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379


    แบบว่าอึ้งกิมกี่ ไม่เคยคิดในแง่นี้เลย แป่ว!!

    ขอบคุณคำเตือนสตินะคะ คุณ ชยุต
     
  15. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    รู้สึกว่าตัวเองคงจะต้องเป็นมังสวิรัติจริงๆ ซะแล้วว :cool:
     
  16. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    _อึ้งกิ้มกี่_ใช่เลยคำนี้แหละ..ที่คุณชยุตถามเรื่อง..ต้มชากับนำ้ผึ้งกับผงอบเชย..คุณชยุตถามว่าจะใช้นำ้รอ้นชงเอาได้มัยเพราะน้ำมันรอ้นแล้วใส่กระติกนำ้รอ้นไว้..อยากกินเมื่อไหร่ก็ชงกินได้เลย..และเราก็ไม่เคยคิดที่จะชง..เขาบอกให้ต้มก็ตั้งหน้าตั้งตาต้มอย่า่งเดียว..ถึงตอนนี้ก็ยังต้มอยู่..และพึ่งได้ไอเดียว่า..ต้มแล้วใส่กระติกน้ำรอ้นไว้ซึ่งแต่กอ่นคิดไม่ถึงเลย..เมื่อกอ่นต้มเส็รจก็คาใส่หม้อไว้พอจะกินก็มาอุ่นอีกที..ตอนนี้รินปุ๊บร้อนปับ..ปัดโถ่..ตอนนี้มีปัญหาสงสัยตอ่แล้วว่า..เอ๊ะชงเอามันน่าจะได้น่ะ..ขอบคุณ..คุณชยุตอีกแล้วที่สกิดไอเดีย..ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้นอีกขั้น..:d:d[Embarrass
     
  17. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    _อึ้งกิ้มกี่_ใช่เลยคำนี้แหละ..ที่คุณชยุตถามเรื่อง..ต้มชากับนำ้ผึ้งกับผงอบเชย..คุณชยุตถามว่าจะใช้นำ้รอ้นชงเอาได้มัยเพราะน้ำมันรอ้นแล้วใส่กระติกนำ้รอ้นไว้..อยากกินเมื่อไหร่ก็ชงกินได้เลย..และเราก็ไม่เคยคิดที่จะชง..เขาบอกให้ต้มก็ตั้งหน้าตั้งตาต้มอย่า่งเดียว..ถึงตอนนี้ก็ยังต้มอยู่..และพึ่งได้ไอเดียว่า..ต้มแล้วใส่กระติกน้ำรอ้นไว้ซึ่งแต่กอ่นคิดไม่ถึงเลย..เมื่อกอ่นต้มเส็รจก็คาใส่หม้อไว้พอจะกินก็มาอุ่นอีกที..ตอนนี้รินปุ๊บร้อนปับ..ปัดโถ่..ตอนนี้มีปัญหาสงสัยตอ่แล้วว่า..เอ๊ะชงเอามันน่าจะได้น่ะ..ขอบคุณ..คุณชยุตอีกแล้วที่สกิดไอเดีย..ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้นอีกขั้น..:d:d[Embarrass
     
  18. boo_bsp

    boo_bsp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +125
    แวะเอาเพลงมาฝากค่ะ ชอบเนื้อเพลงของเพลงนี้มากๆเลยค่ะ
    ฟังแล้วมันใช่เลย ลองฟังกันดูน่ะค่ะ
    ตอนที่กำลังฟังเพลงนี้อยู่ก็นึกถึงทีมผู้แปลทุกท่าน เพื่อนๆ
    รวมทั้งพี่น้องในนี้เลยขออนุญาตเอามาแปะให้ฟังกันน่ะค่ะ


    [BIGVDO<iframe src="http://www.youtube.com/embed/u5WiqJFq2-o" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>[/BIGVDO]
     
  19. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    สวัสดีพี่ชยุตต์ และพี่ๆ ทีมงานที่ช่วยแปลข้อความสื่อสารต่างๆ ให้ได้อ่านกันนะคะ

    เข้ามาทักทายและเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทุกคนทำสิ่งนี้ต่อไปนะคะ ถึงไม่ค่อยได้มาโพสต์

    แต่ก็ติดตามอ่านอยู่ตลอดค่ะ วันนี้เอาเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ มาฝากด้วยค่ะ

    เพลงนี้บอกว่า "When you learn to love yourself, you better of by far"

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=oNACVlZ0yuA]Joey Mcintyre - Stay The Same - YouTube[/ame]
     
  20. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    สวัสดีพี่ชยุตต์ และพี่ๆ ทีมงานที่ช่วยแปลข้อความสื่อสารต่างๆ ให้ได้อ่านกันนะคะ

    เข้ามาทักทายและเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทุกคนทำสิ่งนี้ต่อไปนะคะ ถึงไม่ค่อยได้มาโพสต์

    แต่ก็ติดตามอ่านอยู่ตลอดค่ะ วันนี้เอาเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ มาฝากด้วยค่ะ

    เพลงนี้บอกว่า "When you learn to love yourself, you better of by far"

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=oNACVlZ0yuA]Joey Mcintyre - Stay The Same - YouTube[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...