การจองร่างของภาคฝ่ายต่างๆ และมนุษย์ที่ถูก "ตีตราจอง" เป็นอย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 16 มิถุนายน 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สวัสดีครับทุกท่าน ยังมีเรื่องหนึ่งที่บางท่าน
    สงสัย คือ "เรื่องการจองตัว" เอาละ วันนี้ผม
    จะมาช่วยให้ความกระจ่างแก่ท่านเอง เนื้อหา
    ในวันนี้ จะกล่าวถึง "การถูกจองตัว" ของคน
    โดยภาคฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายมืดและฝ่ายสว่าง
    ล้วนถูกตีตราจองได้เหมือนกัน แต่ด้วยวิธีที่ไม่
    เหมือนกัน และคนที่ถูกจองก็มีลักษณะที่แตก
    ต่างกันไปอีกด้วย ซึ่งผมจะกล่าวโดยละเอียด
    ในลำดับต่อไปครับ
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "การจองตัว" ของฝ่ายมืดและฝ่ายสว่าง ต่างกันอย่างไร?


    บางท่านรู้แต่รู้ไม่หมด รู้ไม่จริง ก็จะเหมารวมเอาว่าการตีตราจองคือ การ
    ทำงานของภาคมืดเท่านั้น ซึ่งเป็นการเหมารวมที่ผิด แท้แล้วเมื่อภาคมืด
    ทำการตีตราจอง ภาคสว่างก็ทำการ "หมั้นหมาย" กับร่างสังขารมนุษย์
    เอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ด้วย "วิธีการและเงื่อนไข" ที่แตกต่างกัน แล้วมัน
    แตกต่างกันอย่างไรหรือ? กล่าวคือ ภาคมืดจะตีตราจองมนุษย์ที่ทำความ
    ผิดบาปแล้วไม่ยอมรับโทษทัณฑ์ เหมือนกับซาตานที่เคยเป็นทูตสวรรค์พอ
    ทำความผิดบาปแล้วหนีทัณฑ์สวรรค์ฉะนั้น หรือมนุษย์ที่หมดบุญแล้ว ทว่า
    ต้องการเสวยบุญต่อจึงร้องขอ เรียกร้องต่อพลังภาคมืดเพื่อให้ได้สิ่งที่ตน
    ต้องการ เหล่านี้ จะถูก "ตีตราจอง" โดยฝ่ายมืด โดยพวกเขาจะมีเครื่องตี
    ตราแล้วทำเครื่องหมายติดตัวมนุษย์ผู้นั้นเอาไว้เป็น "สัญลักษณ์" เพื่อที่จะ
    ทำการ "ครอบงำร่างสังขาร" ในลำดับต่อไป ส่วนภาคสว่างจะเลือกมนุษย์
    ที่ "ผ่านการทดสอบ" ของพวกเขา ในแบบที่เขาต้องการ จากนั้นจึงติดต่อ
    กับร่างสังขารด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ร่างสังขาร "ยินยอมร่วมภารกิจ" ก็
    จะทำการจับจองตัวกันต่อไป เหมือนการหมั้นหมายอย่างนั้น ดังนั้น การถูก
    จองตัวจึงมีได้ทั้งจากภาคมืดและภาคสว่างจะเหมารวมไปอย่างเดียวไม่ได้
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=R4m3WzZy0tI]เณรน้อย 3 ขวบ สวดมนต์ให้พรคล่องเป๊ะ - YouTube[/ame]


    ตัวอย่างการจองตัวโดย "พลังงานสายพระ"
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    วิถีเหมือนกัน จึงจองตัวกัน เหมือนภาพสะท้อนของกันและกัน


    หลักการง่ายๆ ของการ "ตีตราจอง" คือ คนที่มีวิถีชีวิต การกระทำที่ตาม
    รอยกัน ก็จะถูกตีตราจองกันได้ เช่น คนที่มีการกระทำเหมือนภาคสว่าง ก็
    จะถูกจองตัวโดยภาคสว่าง, คนที่มีการกระทำเหมือนภาคมืด ก็จะถูกจอง
    ตัวโดยภาคมืด เอาละ นี่คือ "หลักการพื้นฐาน" ที่ง่ายที่สุดนะ ทีนี้ ทั้งสอง
    ภาคส่วน ก็มี "ตัวตน" มากมาย หลากหลาย ใช่ไหม สมมุติว่าคุณกระทำ
    การเพื่อโลกนี้โดยมุ่งเน้นสันติภาพ คุณก็จะถูกจองตัวโดยพลังภาคสว่าง
    ที่ทำหน้าที่ด้านสันติภาพ ถ้าคุณกระทำเพื่อโลกนี้โดยมุ่งเน้นการเมืองการ
    ปกครอง คุณก็มักจะถูกจองตัวโดยภาคสว่างที่ทำหน้าที่ด้านการเมืองการ
    ปกครอง เป็นต้น ง่ายดีไหมละ? ใช่แล้ว มันง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด มัน
    ไม่อาจยุ่งเหยิงหรือผิดเพี้ยนไปจากหลักการนี้ได้ เพราะอะไร? เพราะหลัง
    จากการจองตัวแล้ว จะมีการ "ประสานพลังร่วมกัน" ของมนุษย์และตัวตน
    ในอีกมิติที่จับจองตัวมนุษย์นั้นๆ ดังนั้น เขาทั้งสองต้องมีการกระทำมาก่อน
    เป็นเบื้องต้นที่จะ "ประสานเข้ากันได้" เขาทั้งสองจึงเหมือน "ภาพสะท้อน
    ของกันและกัน" ของสองมิติ ตัวตนหนึ่งอยู่ในมิติของโลกมนุษย์ อีกตัวตน
    หนึ่งอยู่ในมิติอื่นๆ ก่อนที่จะประสานกันเป็น "ตัวตนหนึ่งเดียว" ได้ ในที่สุด
     
  5. 夕月夜顔だ

    夕月夜顔だ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4

    夕月夜 顔だす 消えてく 子供の声
    遠く遠く この空のどこかに 君はいるんだろう
    夏の終わりに2人で抜け出した この公園で見つけた
    あの星座 何だか 覚えてる?
    会えなくても 記憶をたどって 同じ幸せを見たいんだ
    あの香りとともに 花火がぱっと開く
    行きたいよ 君のところへ 今すぐ かけだして 行きたいよ
    まっ暗で何も 見えない 怖くても大丈夫
    数えきれない星空が 今もずっと ここにあるんだよ
    泣かないよ 昔 君と見た きれいな空だったから

    あの道まで 響く 靴の音が耳に残る
    大きな 自分の影を 見つめて 想うのでしょう
    ちっとも 変わらないはずなのに せつない気持ちふくらんでく
    どんなに想ったって 君は もういない
    行きたいよ 君のそばに 小さくても小さくても
    1
    番に 君が好きだよ 強くいられる
    願いを 流れ星に そっと 唱えてみたけれど
    泣かないよ 届くだろう きれいな空に
    会えなくても 記憶をたどって 同じ幸せを見たいんだ
    あの香りとともに 花火がぱっと開く
    行きたいよ 君のところへ 小さな手をにぎりしめて
    泣きたいよ それはそれは きれいなそらだった
    願いを 流れ星に そっと唱えてみたけれど
    泣きたいよ 届かない想いを この空に

    _/l
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    [​IMG]


    มนุษย์ที่ถูกตีตราโดยภาคมืด จะมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ตัวของเขา
     
  7. 夕月夜顔だ

    夕月夜顔だ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4

    行きたいよ 泣きたいよ 

    泣きたいよ 
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    มนุษย์ที่ถูก "ตีตราจองโดยภาคมืด" จะมีสัญลักษณ์บนตัวบางอย่าง?


    ภาคมืด จะตีตราจองมนุษย์ไว้ โดยทำ "สัญลักษณ์บางอย่างบนตัวเขา"
    ทว่า มันจะเป็นเครื่องหมายเฉพาะของพวกเขาเท่านั้น พวกมืดก็มีหลาย
    กลุ่ม เมื่อพวกเขาตีตราจองแล้ว เขาจะใช้ "สัญลักษณ์" ที่แตกต่างกัน
    เช่น บางกลุ่มใช้สัญลักษณ์เป็น "การแต่งกาย" หรือ "ตุ้มหู" ที่แตกต่าง
    ไปจากกลุ่มอื่นๆ หรือบางกลุ่มใช้ "ลายสัก" เป็นการ "ตีตราจอง" ก็ได้
    นอกจากนี้ ยังมีการตีตราจองที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถเห็น
    ได้ในอีกมิติหนึ่งด้วย พวกมืดก็มีหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีตราสัญลักษณ์
    ที่แตกต่างกัน ทำให้รู้กันได้ว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือมองเห็นกันแล้วก็
    ดูออกว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ แต่มนุษย์ที่ถูกตีตราจอง ก็ล้วนอยู่ในโลก
    เดียวกันนี้กับพวกเรา และพวกที่ถูกจองตัวโดยภาคสว่างด้วย ดังนั้น จึง
    สับสนปนเปกันไปหมด ยากที่จะแยกแยะได้ว่า "ใครที่ถูกภาคไหนตีตรา
    จอง" เมื่อพวกเขาถูกตีตราจองแล้ว พวกเขาจะได้รับ "บัตรเชิญ" ซึ่งไม่
    มีลักษณะเป็นบัตรเชิญที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรอกนะ มันเป็นแค่อะไร
    ก็ได้ ที่จะเปิดทางให้คนที่ถูกตีตราจอง ได้เข้าไปยัง "โลกของพวกเขา"
    ที่พวกเขาสร้างขึ้นไว้ ซ้อนซ่อนอยู่ในโลกใบนี้ เช่น คลับบาร์ ที่ไม่ควรจะ
    มี หรือผิดกฏหมาย แต่พวกเขาก็จะได้รับการเปิดทางให้เข้าไปในที่นั้นๆ
    ได้ อย่างที่ไม่เคยเข้าได้มาก่อน เพื่อให้เกิด "ความยอมรับร่วมกัน" แล้ว
    จึงทำการ "ประสานร่าง" ได้ง่ายยิ่งขึ้น ก็จะจบกระบวนการโดยสมบูรณ์
     
  9. 夕月夜顔だ

    夕月夜顔だ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4
    大きな 大きな 大きな 大きな 大きな 大きな 大きな 大きな 大きな 大きな
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    มนุษย์ที่ถูก "ตีตราจองโดยภาคสว่าง" จะมีวิถีชีวิตที่เบี่ยงจากวิถีปุถุชน


    ภาคสว่าง จะจองตัวมนุษย์โดยการทำให้เขารู้ตัวก่อน และให้เขายอมรับ
    เอง เลือกเองก่อน ถ้าเขาไม่ยอมรับ ก็จะไม่มีการจองตัว แต่ถ้าเขายอมรับ
    จึงจะมีการจองตัวด้วย "พิธีกรรม" หรืออะไรบางอย่างเหมือนการหมั้นไว้
    เช่น การทำพิธีบางอย่างอันแสดงถึง "การยอมรับภาคสว่าง" เมื่อมนุษย์
    ยอมรับแล้ว จึงจะมีการ "เตรียมสังขาร" เช่น สังขารนั้นจะถูกทำให้มีวิถี
    ชีวิตที่เบี่ยงเบนออกไปจากปกติ เช่น ตกงานและต้องไปปฏิบัติธรรม ยาว
    นาน เพื่อให้สังขารบริสุทธิ์ขึ้น รองรับสภาวะ หรือพลังงานของภาคสว่าง
    ได้ นั่นเอง ดังนั้น พวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างควบคุมชีวิตไม่
    ให้ออก "นอกกรอบ" ชีวิตจะต้องเดินในกรอบอะไรบางอย่าง? ทำบางสิ่ง
    ได้ แต่บางสิ่ง ไม่อาจทำได้เลย เหมือนมีกรอบที่มองไม่เห็น ล้อมตนเอาไว้
    มีกฏระเบียบที่มองไม่เห็นเยอะแยะ จนรู้สึกอึดอัด ไม่อาจทำอะไร ได้ดั่งใจ
    เหมือนถูกขัดใจ ถูกควบคุม ถูกบังคับ หรือถูกพลังงานบางอย่างที่มองไม่
    เห็นดูแลให้ชีวิตต้องดำเนินไปตามกรอบระเบียบมากมาย แตกต่างจากคน
    ที่ถูกตีตราจองโดยภาคมืด ที่จะได้รับการเปิดทางให้ "ทำผิดได้อย่างเสรี"
    ในที่ๆ คนเอาโทษไม่ได้ หรือมองไม่เห็น เช่น ในที่ลับ, คลับบาร์ ฯลฯ ต่างๆ
    เหมือนพวกเขาได้เปิดโลกที่พวกเขารอคอย เป็นโลกมืดที่ทำผิดอะไรก็ได้
    ตามแบบของแต่ละกลุ่ม บางกลุ่ม ก็เสพยาเสพติด, บางกลุ่มก็ผิดประเวณี
    บางกลุ่มก็ทำผิดอื่นๆ ฯลฯ นั่นคือ โลกของพวกมืด ซึ่งตรงกันข้ามกับพวก
    สว่าง ที่จะเต็มไปด้วยกฏระเบียบ กรอบห้อมล้อม จนทำให้มนุษย์ที่ถูกจอง
    ตัว รู้สึก "อึดอัด" บ่อยๆ ทั้งยังต้องฝึกฝนตนอย่างยิ่งยวด และได้รับ แบบ
    ทดสอบที่แสนหฤโหดอีกด้วย นี่ละ หนทางที่แตกต่างกันของมืดและสว่าง
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    การถูกตีตราจองโดยภาคสว่าง ในระดับชั้นที่แตกต่างกันไป?


    ภาคสว่างมีหลายระดับชั้น ยิ่งระดับชั้นที่สูงขึ้น ยิ่งมีกฏระเบียบมากขึ้น

    นอกจากกฏระเบียบในการดำรงชีพแล้ว ยังมี "จรยาบรรณ" ในการทำ
    หน้าที่เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ทำให้ผู้ที่ยิ่งอยู่ในระดับที่สูงขึ้น ก็ยิ่งต้องมีวินัย
    มากยิ่งขึ้น เคร่งครัดมากยิ่งขึ้นและต้องรู้จักละเว้น ละวาง ในการกระทำ
    บางอย่างมากยิ่งขึ้น เพราะยิ่งอยู่ในระดับที่สูงขึ้น การกระทำของท่านก็
    จะส่งผลกระทบต่อ "วงกว้าง" ได้มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น ท่านจึงต้องยิ่ง
    มี "วินัย" มากขึ้นเป็นลำดับไป ซึ่งท่านจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าวิถีชีวิต
    ของท่านเปลี่ยนไป และมี "กรอบระเบีบที่มองไม่เห็น" เข้ามาล้อมกรอบ
    ชีวิตของท่านมากยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นลำดับ จนท่านเริ่มกลายเป็นเหมือนคน
    เรื่องมากในสายตาของปุถุชนไป อะไรๆ ก็ไม่ได้ อย่างนี้ก็ไม่ได้ อย่างนั้น
    ก็ไม่ได้ อะไรอย่างนั้นใช่ไหม? ที่ปุถุชนจะรู้สึก เมื่อเขาพยายามมาเกี่ยว
    ข้องกับท่าน นอกจากนี้ "ภาคสว่างจากต่างที่กัน" เช่น จากดวงดาวต่าง
    กัน ก็มี "กฏระเบียบ" ที่ต่างกันไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ จะมีวินัยมากกว่าคน
    บนโลกเสมอ พวกเขาก็จะ "ดูท่านห่างๆ" ว่าท่านมีแววหรือไม่? ที่จะเป็น
    เหมือนพวกเขาได้ เหมือน "แมวมอง" อย่างนั้น พอท่านเป็นที่ถูกตาต้อง
    ใจของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็จะเข้ามาจองตัว ทว่า พวกเขาจะรอให้อีก
    ภาคส่วนคือ ฝ่ายตรงข้าม หรือภาคมืด ลงมือทดสอบท่านก่อน กล่าวคือ
    พวกมืดจะเข้ามาอยากจองตัวท่านก่อน เชื้อเชิญท่านก่อน เมื่อท่านไม่มี
    ความต้องการเข้าร่วมกับภาคมืดอย่างแน่วแน่แล้ว ภาคสว่างก็จะเข้ามา
    ทีหลัง นั่นคือ "ท่านสอบผ่านแล้ว" ในสายตาของพวกภาคสว่าง นั่นเอง
     
  12. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ถูกต้องนะคร๊าาาาบ:cool: อยากให้พวก เขากะลา มาอ่านข้อความนี้จริงๆ จะได้เข้าใจอะไรเสียที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2012
  13. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    การทำลายกระบวนการ "จองตัวของภาคสว่าง" โดยภาคมืด


    ซึ่งก็คือ "การสอบตก" ในสายตาของภาคสว่าง นั่นเอง หมายความว่า

    ในระหว่างที่ "มนุษย์เริ่มมีแวว" และสองภาคต่างสนใจมาจองตัวนั้น ก็
    จะมี "การทดสอบของภาคมืด" เกิดขึ้นก่อน แล้วถ้ามนุษย์ไม่ผ่าน หรือ
    สอบตกในสายตาของภาคสว่าง พวกเขาจะสอบผ่านในสายตาของภาค
    มืด เช่น การที่มนุษย์กำลังจะเดินทางสู่ภาคสว่างแล้ว แต่มีคนมาเชิญให้
    ได้รับ "ลาภสักการะ" มนุษย์คนนั้นเลยเอาลาภสักการะ แทนที่จะทำหน้า
    ที่ตรงทางต่อไป เขาเริ่มจะสอบตกแล้วในสายตาของภาคสว่าง ยิ่งไปกว่า
    นั้น "ภาคมืด" จะยัดเยียดให้อะไรมากมายแก่เขา จน "ล้นเกินบุญเสวย"
    เพื่อทำลายพลังอำนาจด้านสว่างของเขาลงทีละน้อย เผาผลาญบุญของ
    มนุษย์คนนั้นให้ลดลงไปทีละน้อยๆ จนไม่เหลือเลย มนุษย์คนนั้นเสวยจน
    ไม่ทันคิด ไม่ทันรู้ตัว เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้ล้วนถูกต้องแล้ว เป็นบุญของเรา
    ทั้งสิ้น จนลืมพิจารณาไปว่า แท้จริงแล้ว มันเป็น "หนี้ภาคมืด" ไปตั้งแต่
    เมื่อไร ก็ไม่รู้ เหมือนคนที่เคยรวย แล้วถูกเพื่อนพาไปเล่นพนัน เพื่อนออก
    เงินให้เล่นสนุกๆ ก็เลยเล่นซะเพลินมือจนมารู้อีกที "เป็นหนี้จนเกินกว่าที่
    จะใช้เงินที่ตนมีอยู่ จ่ายได้?" นี่ละ พวกภาคมืด จะทำแบบนี้ เพื่อให้คนที่
    กำลังจะก้าวสู่ภาคสว่าง ไม่อาจไปสู่ภาคสว่างได้ และต้องกลายเป็นภาค
    มืดแทน เมื่อมนุษย์หมดพลังบุญแล้ว พวกเขาก็จะหมดแสง และมืดมนลง
     
  14. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สุดท้ายนี้ ทุกอย่างมันเป็น "แบบทดสอบ" นะครับ ผมไม่อาจที่จะเฉลย
    ได้หมด เอาเป็นว่าท่านจะได้รับการทดสอบจากภาคส่วนต่างๆ เมื่อผ่าน
    แล้วในสายตาของภาคส่วนไหน พวกเขาก็จะจองตัวท่านต่อไปเองแหละ
    แล้วแบบทดสอบนี้มันก็หลากหลายเหลือเกิน ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับการ
    กระทำของท่านเองทั้งสิ้น มันจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเดินต่อไปใน
    อนาคตของท่านเอง ตัวตนในภาคส่วนต่างๆ ที่อยู่ในมิติต่างๆ จะรอรับท่าน
    จะจองตัวท่าน และจะประสานร่วมเดินทางไปกับท่านด้วย ไม่ว่าตัวตนที่อยู่
    ในโลกนี้ หรือนอกโลกออกไป จะเป็นดาวดวงไหนในจักรวาลนี้ก็ตาม เพียง
    ท่าน "กระทำได้" ท่าน "ผ่านแบบทดสอบของเขาได้" พวกเขาจะต้องมา
    ทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับท่านต่อไปเอง นะแหละ โดยไม่ต้องแสวงหา
    พลังของท่านที่เกิดจากการกระทำของท่าน จะสั่นสะเทือนถึงพวกเขาจน
    พวกเขาจะต้องมาเชื่อมประสานกับท่านและเป็นหนึ่งเดียวกับท่านในที่สุด


    ขอให้ท่านมีความแน่วแน่ในการเดินทางที่แสนหลากหลายนี้ สวัสดีครับ ...
     
  15. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    16 มิ.ย. 2555


    "เสียงจากนิรนาม"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  16. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ใช่ๆ เหมือนที่ฝ่ายมืดสร้างภาพว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วฝังชิพ ให้พวกเขากะลา และให้หูทิพย์ ตาทิพย์ใช้งาน แต่สุดท้ายต้องเป็นหนี้ฝ่ายมืด ตกเป็นทาสของฝ่ายมาร ไม่มีทางได้เจอศาสนาพุทธ ทั่งๆที่เที่ยวบอกใครต่อใครว่านับถือพระ ยังมีคนที่โดนหลอกเข้ากลุ่มนี้อีกมากมาย เพราะความไม่รู้ จะช่วยอย่างไรดีหนอ
     
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    อันนี้ ผมก็ไม่ทราบเท็จจริง ใครถูกผิด
    อย่างไร? ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ครับ


    แต่บางครั้ง ถ้าเรา "อยากเห็น" อยากค้นพบ
    อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างมากๆ เช่น อยาก
    ถ่ายภาพจานบินได้ อะไรแบบนั้น มันก็จะเป็น
    "ช่องโหว่" ให้เขาเล่นกับ "ความอยาก" ของ
    เราได้เหมือนกันครับ
     
  18. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    งั้นผมขอให้คุณ ต้นหลิว ช่วยสื่อกับผู้ที่ให้คำตอบเรื่อง เขากะลา นี้ได้ว่า เป็นมาอย่างไร เป็นฝ่ายไหน ฝ่ายมืดหรือสว่าง จะได้ช่วยให้หลายคนในเวปนี้ตาสว่างเสียที ช่วยสงเคราะเพื่อเอาบุญหน่อยครับ คุณต้นหลิว
     
  19. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ไม่ใช่ว่าผมจะอยากรู้อะไรก็ได้ตามใจนะ
    บางอย่าง เขาไม่ให้ยุ่ง หรือเป็นแบบทดสอบ
    ยังไม่มีเฉลย เอาไว้ ทดสอบคนที่ผ่าน ก็ได้?
    อันนี้ ผมยังไม่ทราบนะครับ ...
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    หลักการศึกษาเรื่องมนุษย์ต่างดาวของผม


    1. ไม่ยึดว่าจะต้องพิสูจน์ได้ เห็นได้ด้วยวิทยาการปัจจุบัน
    2. ไม่ยึดว่าจะต้องเป็น "เชิงวัตถุ" เช่น ต้องเห็นจานบิน
    3. ไม่ยึดว่าจะต้องเป็นอย่างที่คนอื่นคิดหรือจินตนาการไว้
    4. ไม่ยึดติดภาพที่ถูกสร้าง มุมมอง โลกทัศน์ของผู้ศึกษาก่อนเรา
    5. ไม่ยึดติดในอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เปิดกว้างเสรี และ "อย่าด่วนสรุป"


    เป็นหลักการ 5 ข้อง่ายๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...