ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ความรู้คู่เปรียบด้วย กำลัง กายเฮย
สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง
ปัญญาประดุจดัง อาวุธ
กุมสติต่างโล่ป้อง อาจแกล้วกลางสนาม
(พระราชนิพนธ์ ร.5)

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

วันที่ : 20 สิงหาคม 2012

ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey

ที่มา : http://galacticchannelings.com/english/index.html
<O</O
<O</O
SaLuSa, August 20, 2012

<O</O
For you the greatest discovery is that your consciousness levels have risen quite considerably in the last few years. Knowledge is useful but not in itself your passport to Ascension. Through living the highest concept you have of yourself, you are setting your goals to become that which is your destiny. You are also helping raise the levels of the Mass Consciousness, and that attracts even more souls so that in the end a large number of you ascend. You will also find that you can rise above the pull or attraction of the lower energies. They are no longer part of you when you seek a higher expression of yourself. What did satisfy you in this lifetime is no longer necessarily fulfilling, as you have become more sensitive to that which is creating discord or discontent.

<O</O
สำหรับคุณการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ ระดับความตระหนักรู้ของคุณได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา. ความรู้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แต่ตัวมันเองก็ไม่ใช่ใบผ่านทางของการยกระดับของคุณ. ด้วยการใช้ชีวิตในกรอบความคิดที่สูงที่สุดที่คุณมีต่อตนเอง, นั่นต่างหากที่คุณกำลังตั้งเป้าหมายให้ชีวิตคุณเป็น. คุณกำลังช่วยยกระดับความตระหนักรู้มวลรวมด้วย, และนั่นจะเป็นการดึงดูดจิตวิญญาณอื่นๆด้วย ซึ่งในที่สุดผู้คนจำนวนมากของคุณจะยกระดับ. คุณจะพบด้วยว่าคุณจะสามารถยกระดับขึ้นเหนือแรงดึงและความเย้ายวนของพลังงานระดับต่ำได้. มันจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของคุณอีกต่อไปเมื่อคุณค้นพบการแสดงออกที่สูงกว่าของตัวคุณเอง. อะไรก็ตามที่ทำให้คุณพึงพอใจในชีวิตนี้จะไม่มีความจำเป็นต้องตอบสนองมันอีกต่อไป, เมื่อคุณมีความละเอียดอ่อนมากขึ้นในสิ่งที่สร้างความไม่ลงรอยหรือความไม่พอใจ.


You will continue to disassociate yourself from the lower vibrations, and that can also affect the nature of your friendship with other people. You will seek those with whom you find harmony and can share your outlook on life. You will understand that it is a natural separation, as you find it easier to share your joy and happiness with like kinds. The third dimension has long exalted the "joys" of drugs, alcohol and sex, all of which when excessively used become highly addictive and lower your vibrations. The dark Ones are aware of this and encourage such indulgence, as it takes you away from the real issues in your life that you should be concentrating upon. Certainly you came into life to experience, but many of you have become locked into the lower aspects and do not move on.

<O</O
คุณจะเลิกข้องแวะกับความถี่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง, และนั่นจะมีผลอย่างเป็นธรรมชาติในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น. คุณจะค้นพบผู้คนที่เข้ากันได้กับคุณและแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับชีวิต. คุณจะเข้าใจได้ว่ามันเป็นการแยกทางอย่างเป็นธรรมชาติ, ซึ่งคุณจะพบว่ามันเป็นการง่ายที่จะแบ่งปันความสุขความเบิกบานกับพวกเดียวกัน. มิติที่ 3 ได้ยกย่องความสุขจากการใช้ยาเสพติด, แอลกอฮอล์ และเซ็กส์, สิ่งเหล่านี้เมื่อนำมาใช้มากเกินไปจะทำให้เกิดการเสพติด และลดระดับความถี่ของคุณ. ฝ่ายมืดรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีและสนับสนุนให้มัวเมาในเรื่องดังกล่าว, ซึ่งจะพาคุณให้ออกห่างจากเรื่องความจริงเกี่ยวกับชีวิตของคุณที่คุณควรเอาใจใส่. แน่นอนว่าคุณเข้ามาสู่ชีวิตนี้เพื่อมาหาประสบการณ์, แต่พวกคุณมากมายถูกกักขังในด้านที่อยู่ในระดับต่ำและไม่สามารถก้าวหน้าไปได้.


As you know by now, like attracts like and you draw to you those souls that are very likely at a similar level to yourself. The choice often is whether you pull each other further down, or are able to uplift each other. Naturally there are karmic issues often involved , but for every soul that has "fallen" there are always opportunities to make your way back. Never look upon yourself as unworthy or beyond help, as it is always there if you take the first step to lift yourself up again. In these end times many souls have taken on several challenges to enable them to be ready to ascend. It is the final clearing of karma collected over many lives, and sometimes you have to be strong to clear it. With Ascension in mind every effort you put in is well worthwhile.

<O</O
คุณได้ทราบมาจนถึงบัดนี้ว่า, ความชอบดึงดูดความชอบและคุณได้ดึงดูดเหล่าวิญญาณที่คล้ายและอยู่ระดับเดียวกับคุณมาสู่คุณ. บ่อยครั้งที่เป็นการเลือกว่าคุณจะดึงผู้อื่นลงต่ำหรือว่าจะยกระดับไปด้วยกัน. มันเป็นเรื่องปกติที่มักมีเรื่องของกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ, แต่สำหรับวิญญาณที่ ”ตกลงไปสู่ที่ต่ำ” จะมีโอกาสที่จะกลับคืนที่เดิมเสมอ. อย่าดูถูกตัวเองว่าเป็นคนไม่มีค่าหรือหนักเกินกว่าจะช่วย, ความช่วยเหลืออยู่ที่นั่นเสมอเมื่อคุณเริ่มก้าวแรกที่จะยกระดับตัวคุณเองอีกครั้ง. ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้หลายๆวิญญาณกำลังเผชิญกับความท้าทายบางอย่าง เพื่อสามารถทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการยกระดับ. มันเป็นการชำระสะสางกรรมขั้นสุดท้ายที่ได้สะสมมาหลายชาติ, และบางครั้งคุณก็มีความแข็งแกร่งพอที่จะชำระสะสางมันได้. ด้วยการยกระดับในจิตใจทุกๆความพยายามที่คุณทุ่มเทลงไปจะคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง.

 

You will sense when you have overcome your challenges, as a sudden calmness enters your lives and much relief is experienced as though a great weight has been removed from your shoulders. Often it involves other souls with whom you have had to make peace, and have been unable to move forward until an act of forgiveness is achieved. Set judgment aside and forgive and forget, as the lessons from it will remain with you so that you continue to learn from that experience. Look upon life as play acting and realize the once the curtain comes down you all become friends once again. In the future such problems do not exist as the dimension you will be in, is one of complete harmony and balance.

<O</O
คุณจะรู้เมื่อคุณเอาชนะความท้าทายของคุณได้, ซึ่งความสันติสุขอย่างทันทีทันใดได้เข้ามาในชีวิตของคุณและประสบกับความรู้สึกที่ดีขึ้นอย่างมากคล้ายกับสิ่งของที่มีน้ำหนักมากถูกปลดออกจากบ่าของคุณ. บ่อยครั้งที่ต้องเกี่ยวข้องกับวิญาณอื่นที่คุณจำเป็นต้องสร้างสันติภาพ, และจะไม่สามารถก้าวหน้าไปได้จนกว่าการกระทำในด้านการให้อภัยจะบรรลุผล. ปล่อยวางการตัดสินและให้อภัยแล้วลืมมันซะ, บทเรียนเหล่านี้จะคงอยู่กับคุณและคุณสามารถเรียนรู้ต่อไปจากประสบการณ์เหล่านี้ได้. มองชีวิตให้เหมือนการเล่นละครและตระหนักว่า เมื่อผ้าม่านปิดฉากลงคุณจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง. ในอนาคตปัญหาเหล่านี้จะไม่มีเนื่องจากมิติที่สูงกว่าที่คุณอยู่, คือมิติที่สมบูรณ์ สอดคล้องและสมดุล.


With your Ascension approaching very quickly bear in mind that it is not dependant on the physical changes taking place on Earth, but there are essential steps to be taken if Mother Earth is to be ready for her own Ascension. Ascension is ongoing and cannot be prevented from taking place, it is a process of Galactic proportions in which you nevertheless have an important role. Once you move forward everything else can also do the same, and you can look at it this way as the last piece of the jigsaw puzzle to make it complete. It is why Space Beings from all over the Universe assemble to witness your Ascension.

<O</O
ด้วยการยกระดับของคุณที่จะมาอย่างรวดเร็ว ให้รู้ไว้ว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เกิดขึ้นบนโลก,แต่มันมีขั้นตอนสำคัญหลายขั้นที่จะทำเพื่อให้พระแม่โลกพร้อมสำหรับการยกระดับของเธอ. การยกระดับจะดำเนินต่อไปและไม่มีสิ่งใดจะขัดขวางได้, มันเป็นกระบวนการของความสัมพันธ์ของส่วนต่างๆของแกแลกติก แต่อย่างไรก็ตามคุณยังคงมีบทบาทสำคัญ. เมื่อคุณก้าวหน้าทุกๆสิ่งที่เหลือจะก้าวหน้าตามไปด้วย, และคุณสามารถมองมันในมุมมองนี้ประดุจจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้ภาพสมบูรณ์. นี่คือเหตุผลที่รูปธรรมต่างๆทั่วทั้งเอกภพมาประชุมกันเพื่อเป็นสักขีพยานในการยกระดับของคุณ.


Various actions are making progress, and we closely monitor how they are proceeding. Be assured whatever needs to be completed before Ascension, will be done so, even if we have to play a bigger part than initially thought necessary. We are under divine instructions to help you be ready at the appropriate time, and are in co-operation with many other Higher Beings. No source has deemed it necessary for you to do it all yourself, and it was always going to be a joint effort. After all, we have been with you on and off for thousands of years, drifting in and out mainly to assist Mother Earth. With the demise of Lemuria and Atlantis you might guess that they were times when our expertise was required.

<O</O
ปฏิบัติการต่างๆกำลังดำเนินการไปด้วยความก้าวหน้า, และพวกเราได้จับตามองอย่างใกล้ชิด. ให้มั่นใจว่าสิ่งต่างๆที่จำเป็นจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนการยกระดับ, สิ่งที่จะทำด้วยก็คือ พวกเราจะมีบทบาทมากขึ้นกว่าความจำเป็นที่คิดไว้แต่แรก. พวกเราอยู่ภายใต้การกำกับของพระเจ้าที่จะช่วยให้คุณพร้อมในเวลาที่เหมาะสม, และเป็นผู้ร่วมงานกับรูปธรรมที่สูงกว่าทั้งหลาย. ไม่มีแหล่งข้อมูลใดที่ทำให้คุณเข้าใจว่ามันจำเป็นที่คุณต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวคุณเอง, และมันจะดำเนินไปด้วยความร่วมมือกันเสมอ. สุดท้าย, พวกเราอยู่กับคุณทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังมานานนับพันปี, เข้าๆออกๆโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือพระแม่โลก. ในเวลาจบสิ้นของลิมูเรียและแอตแลนติส คุณอาจจะคาดเดาได้ว่ามีหลายช่วงเวลาที่ความชำนาญของเราเป็นสิ่งที่ต้องการ.

 

Your civilization was not necessarily certain to end its cycle without a calamity, and a number of times came close to annihilating itself. You did in fact what earlier ones did, and became enamored with power and weapons of mass destruction. It results from a lack of appreciation of how dangerous nuclear devices are, and a scientific fraternity that will experiment before first understanding what the results are likely to be. When the first atomic bomb was exploded, your scientists knew there was a chance it could blow up the world, but still went ahead. Normally you have to experience the stupidity of your waywardness, otherwise you would not learn from anything you do. However, when your actions have threatened other civilizations we have had to intervene.

<O</O
อารยะธรรมของคุณไม่จำเป็นต้องสิ้นสุดรอบของวัฏจักรโดยปราศจากภัยพิบัติ, และหลายๆครั้งที่สิ้นสุดวัฏจักรด้วยการทำลายตัวมันเอง. ตามความเป็นจริงคุณก็ทำในสิ่งที่คนรุ่นก่อนเขาทำกัน, และกลายเป็นผู้หลงใหลในอำนาจและอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูง. มันเป็นผลมาจากการที่ไม่ประเมินคุณค่าของอุปกรณ์นิวเคลียร์อย่างเพียงพอ, และสมาคมวิทยาศาสตร์จะทดสอบก่อนเพื่อความเข้าใจในเบื้องต้น ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร. เมื่อระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกระเบิด, นักวิทยาศาสตร์ของคุณรู้ว่ามีโอกาสที่มันจะทำลายโลก, แต่ก็ยังพัฒนามันต่อไป. มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะเข้ามามีประสบการณ์โง่ๆในเรื่องการเอาแต่ใจตนเอง, หรือไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยในสิ่งที่คุณทำ. อย่างไรก็ตาม, เมื่อการกระทำต่างๆของคุณได้คุกคามอารยะธรรมอื่น พวกเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าแทรกแซง.


The advent of your Nuclear Age was a clear signal to the Universe, that you possessed the ability not to just blow yourselves up, but also Mother Earth. This time round it was not going to be allowed, as all souls were to be given an opportunity to ascend. We know that when you look around you, you are convinced that some souls are unaware of what is about to happen. We will however assure you that before incarnating into this period of time, every soul was made aware of its importance. Even although some souls elected not to ascend, they still wanted to experience the energies. It is the reason why you need not concern yourself about others, as they will end up exactly where they are meant to be by their own choice.

<O</O
การถือกำเนิดของยุคนิวเคลียร์ของคุณได้ส่งสัญญาณชัดเจนไปยังเอกภพ, ว่าคุณมีความสามารถไม่เพียงแค่ระเบิดตัวเองได้, แต่ระเบิดพระแม่โลกได้ด้วย. ในรอบของวัฏจักรนี้มันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น, ซึ่งทุกวิญญาณจะได้รับโอกาสในการยกระดับ. พวกเรารู้ว่าเมื่อคุณมองไปรอบๆตัว, คุณจะรู้สึกอย่างชัดเจนว่ามีบางวิญญาณที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น. อย่างไรก็ตามพวกเราจะรับประกันกับคุณว่า ก่อนที่จะมาเกิดในช่วงเวลานี้, ทุกวิญญาณได้รับรู้อย่างดีถึงความสำคัญของมัน. แม้แต่บางวิญญาณที่เลือกจะไม่ยกระดับ, พวกเขายังคงต้องการมีประสบการณ์ในระดับพลังงานนั้น. มันเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณไม่จำเป็นต้องไปกังวลเกี่ยวกับผู้อื่น, ซึ่งพวกเขาจะจบวัฏจักรนี้อย่างแน่นอนในหนทางที่เขาเลือก.


I am SaLuSa from Sirius, and will mention that we intend to uncloak more of our craft, so that you are aware that our great fleet is all around you. What you will see are members of the Galactic Federation of Light getting ready for more open displays. It is an act of friendship on our part that is done with our blessings for you all.

<O</O
I am SaLuSa from Sirius, และจะบอกว่าพวกเราจะเปิดเผยให้เห็นยานของพวกเรามากขึ้น, เพื่อที่คุณจะได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของกองกำลังของพวกเรารอบๆคุณ. สิ่งที่คุณเห็นก็คือสมาชิกของสมาพันธ์แกแลกติกแห่งแสงสว่าง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแสดงตัวที่จะเปิดเผยมากขึ้น. มันเป็นการกระทำของมิตรภาพในส่วนของพวกเรา ที่ทำด้วยการอวยพรสู่พวกคุณทุกคน.
<O</O

Thank you SaLuSa.
Mike Quinsey.<O</O

 

ตรงนี้พูดได้ถูกต้องเกือบ 100% ครับ ยกเว้นส่วนที่ใส่ร้ายปนเข้ามาด้วย
เพราะฉะนั้น โดยรวมแล้ว ผมก็ยินดีรับฟัง และยอมรับด้วยความเต็มใจครับ

ปล.คนที่อ่านพระไตรปิฎกจบทั้งชุดแล้ว
มีใครเป็นพระอรหันต์เลยทันทีไหม๊??

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

..........................................

 

ข้อความใดๆที่ผมจะนำมาแปล ผมก็มีการพิจารณาก่อน
ผมถึงนำมาแปลครับ เพราะฉะนั้นแล้ว ข้อความใดๆ
ที่ไม่น่าเชื่อถือ ผมจึงไม่นำมาแปลครับ

และถ้าเรื่องนี้ มันจะมีทั้งข้อความที่สนับสนุน
และข้อความที่ออกมาขัดแย้งหรือ discredit บ้าง เหมือนเรื่องอื่นๆ
ท่านคิดว่า มันจะน่าแปลกไหมหละครับ

แค่แชร์ไอเดียหนะนะครับ ไม่ได้หมายความว่า
ท่านต้องเชื่อผมแต่อย่างใดเลย


...................................................

 

ผมได้แปะลิงค์ของเวปไซต์ต้นฉบับ
ของข้อความที่ผมแปลทุกๆข้อความเอาไว้ให้หมดแล้วนะครับ
ท่านสามารถเข้าไปที่เวปไซต์แห่งนั้น
แล้วเข้าไปถามเขาดูเองได้ตามสบายเลยนะครับ
และถ้าได้ความว่าอย่างไรบ้าง
ก็เอามาแบ่งปันให้ผู้อ่านท่านอื่นๆได้รู้ด้วยนะครับ

ขออนุโมทนาล่วงหน้าด้วยนะครับ



...........................................

 

ก็สรุปว่า..สรุปเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้นะครับว่า

ข้อความทั้งหมดนี้ เราไปอ่านมา แล้วเราเห็นว่ามันน่าสนใจดี
เราจึงได้นำมาแปล และ โพสต์ในเวปแห่งนี้
เพื่อแบ่งปันให้ท่านได้อ่านด้วยเท่านั้นเองนะครับ

ดังนั้น หากท่านอ่านแล้ว จะได้หรือจะเสียประโยชน์อะไร
หรือจะเกิดการคับแค้นขุ่นเคืองอะไรขึ้นมา นั่นก็แล้วแต่ท่านนะครับ
เพราะเราไม่อาจจะไปห้ามท่านได้ ท่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเองครับ

และตัวผมเอง ก็เป็นแค่ผู้แปลคนหนึ่งเท่านั้นเอง
และผมก็พูดออกตัวอยู่ตลอดเวลาว่า ผมยังไม่บรรลุอรหันต์
ผมไม่ใช่ครูบาอาจารย์ของใครด้วย เพราะว่าผมก็ยังเป็นนักเรียนอยู่
นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งโลกทางกายภาพแห่งนี้
เหมือนๆกับทุกๆท่านนี่แหละครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว มันจะแปลกอะไร ถ้าอุจจาระผมจะเหม็น ถ้าตดผมจะไม่หอม
และถ้าผมจะรู้จักหิว รู้จักอิ่ม รู้จักโกรธ รู้จักทุกข์ และรู้จักสุขเหมือนกับทุกๆคน
แล้วถ้าใครมาด่าผม แล้วผมด่ากลับบ้าง อะไรหละคือความแปลกประหลาด??
ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า ทำไมคนด่าผมได้ แล้วผมถึงจะด่ากลับบ้างไม่ได้
เป็นเพราะว่าภาพพจน์ ชื่อเสียง หรืออะไรมันค้ำคอผมอยู่ยังงั้นหรือ?

แล้วผมไปมีเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือภาพพจน์ที่ดีกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ใครเป็นคนให้ผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวเลย?

ดังนั้น อะไรที่มนุษย์ธรรมดาสามัญคนหนึ่งทำได้
ผมก็ย่อมทำได้เช่นเดียวกันครับ..ไม่มีสิ่งใดต้องแปลกใจในเรื่องนี้เลย

การเรียนรู้ในชีวิตนี้ บนโลกใบนี้ มันไม่มีวันสิ้นสุด
และตราบใดที่ผมยังเป็นนักเรียนอยู่
ผมก็มีสิทธิ์ที่จะทั้งสอบตกและสอบผ่าน เป็นธรรมดา
และก็เหมือนกับคนอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน คือ..
ไม่มีใครไม่เคยสอบตก แต่ก็ไม่มีใครไม่เคยสอบผ่านเช่นเดียวกัน
เพราะว่าเราต่างเรียนกันมาคนละนับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว

ดังนั้น ถ้าเมื่อใดที่ผมสอบตก ผมก็แค่เริ่มต้นสอบใหม่เท่านั้นเอง
ไม่เห็นจะมีอะไรน่าห่วงตรงไหนเลยนี่ครับ
แล้วการสอบตกในบทละครชีวิตนี้
มันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าอายตรงไหนเลย

ผมจะบอกความจริงให้ท่านทราบเอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ
ถ้าผมบอกว่า ผมยังเป็นนักเรียนอยู่
และผมก็คือผู้ที่กำลังค้นหาสัจธรรมคนหนึ่งอยู่หละก็
ไม่มีความจริงข้อไหนหรอก ที่เป็นตัวของผมเอง
และที่เกี่ยวกับตัวผมเอง ที่ผมจะ "ยอมรับ" มันไม่ได้

เช่น เรื่องการสอบตกนี้เป็นต้น ก็เพราะว่า..
ถ้ากล้าบอกว่าตัวเองก็กำลังค้นหาสัจธรรมอยู่หละก็
เพียงแค่ความจริงเกี่ยวกับตัวเอง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้
ยังยอมรับไม่ได้หละก็ จะไปเที่ยวค้นหาสัจธรรมที่ไหนอีก?

จริงไหมหละครับ..และดังนั้น..จึงไม่สำคัญเลย
ว่าใครจะคิดและมอง หรือประเมินว่าผมดีหรือชั่วอย่างไร
เพราะว่า ทั้งหมดนั่น จากปากคนอื่นนั่น
มันไม่สู้ความเป็นจริงของเราเองได้เลย
ดี-ชั่วเรารู้ตัวเอง และยอมรับตัวเองได้ เป็นพอแล้ว
จากนั้นค่อยว่ากัน ว่าจะแก้ไขและปรับปรุงอย่างไรต่อไป

ตอนนี้ ถ้ายังทำไม่ได้ ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องเสแสร้งเลย
ผู้ที่ละโลภ โกรธ หลงได้แล้ว ก็คืออริยะเจ้าชั้นสูงเท่านั้น
ซึ่งผมเองยังไม่ใช่..ดังนั้น..ผมจึงมีสิทธิ์โดยชอบธรรมทุกประการ
ที่จะรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาทั่วๆไปทุกอย่างครับ

ดังนั้น ขออย่าได้เอาชื่อเสียง เอาภพพจน์ดี เอาความสูงส่งใดๆ
มายัดเยียดเพื่อค้ำคอผมให้ชูไว้เลยนะครับ
เพราะผมยังอยากเป็นอิสระอยู่..
และดังนั้น ผมจึงด่าใครกลับก็ได้ ที่ด่าผมมา
ด้วยความมีศักดิ์และมีสิทธิ์เท่าเทียมกับคนผู้นั้นทุกประการครับ...

..............................................

 

ตามที่ผมเคยกล่าวไว้ครับท่าน chayutt ช่วงหลังๆตัวต้านทานจะเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ เราปล่อยวางได้อย่างเดียว ปล่อยให้มันเป็นไปนะครับ อย่าเอาจิตไปกระทบสิ่งเหล่านี้ครับ เป็นกำลังใจให้ พวกเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ไม่มีใครถูกใครผิดครับ

 

เห็นด้วยครับ..แต่คุณเคยสังเกตไหมว่า
ยิ่งเรามีประสบการณ์กับเรื่องอะไรยิ่งมาก
เราก็จะยิ่งเชี่ยวชาญ และ ทนทานกับเรื่องนั้นๆได้มากเท่านั้น

ยิ่งเราหลบเลี่ยง เพราะเกรงกลัวว่าเรื่องนั้นๆมันจะเกิดขึ้นกับเราเท่าไหร่
เราก็ยิ่งอ่อนแอ และอ่อนไหว ต่อเรื่องนั้นๆมากเท่านั้น

เพราะฉะนั้น ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้เรื่องนี้ของผมครับ
ผมยินดีและกำลังเต็มใจที่จะเรียนรู้เรื่องนี้แบบลุยเต็มที่ครับ

อย่าได้เป็นห่วงไปเลยนะครับ..ทุกอย่างคือการเรียนรู้และการทดสอบครับ
ถูกแล้วครับ..พวกเขาก็กำลังทำหน้าที่ของพวกเขาเองอย่างขมักเขม้นอยู่
รวมถึง ในทางกลับกัน..

..พวกเขาก็จะได้เรียนรู้บทเรียนของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกันครับ..

ช่วยเป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่ายด้วยนะครับ



...........................................

 

ใจเย็นๆค่ะ พี่ชยุต...ค่อยๆคิด..ค่อยๆพิจารณากันไป
โซ่ว่า บางที การที่ดูเหมือนจะนิ่งเฉย มันก็ไม่ใช่การนิ่งเฉย หรือการปล่อยวาง หรือการอดกลั้น หรือหลบเลี่ยง เสมอไป
แต่มันเป็นภาวะที่เรื่องราวต่างๆ พอเข้ามากระทบหรือนำมากระทบแล้ว มันเป็นอย่างอื่นไปแทนโดยปริยายแบบเป็นไปเอง
และเกิดปฏิกิริยาที่อยู่กับตัวเองมากกว่าที่ส่งอะไรๆออกไปถึงภายนอก
และอีกทั้งยังมีการสร้างพลังงานบวกอยู่ได้เพราะความคิดจิตใจมันจดจ่ออยู่กับด้านบวกอยู่อย่างเป็นธรรมชาติไปบ้างแล้ว
ซึ่งสภาวะแบบนี้นั้น ก็เป็นสภาวะหนึ่งที่จิตสำนึกเข้าไปถึงได้ และก็ยังสามารถพลัดออกจากมันมาได้ด้วย
เพราะมันขึ้นๆลงๆไปๆมาๆอยู่ตลอดเวลา อันเป็นธรรมชาติของจิตมนุษย์
แต่ถ้าใครสามารถ คงสภาพรักษาระดับไว้ได้นานหน่อย ก็ถือว่าดีไป
อันนี้ต้องฝึกฝน และคิดว่าคงต้องฝึกฝนกันไปเรื่อยๆตามสภาพและกำลัง พร้อมทั้งความเข้าใจของแต่ละคน
โดยไม่พูดถึงความรู้ เพราะความรู้มันหาได้ไม่ยากสำหรับผู้สืบเสาะหามัน

ชนกลุ่มน้อยอย่างเราๆไม่อาจละความพยายามให้เกิดสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าเดิมอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะทางพฤติกรรม วาจา ความคิด หรืออารมณ์ความรู้สึก แค่ใครจะแสดงบทบาทอะไรในจังหวะไหนแค่นั้นเอง

 

... อาจจะเป็นความหวังดีของสมาชิกท่านที่เข้ามาเห็นต่าง แต่ยังไงก็แล้วแต่น่ะครับอยากให้เพื่อนสมาชิกที่เห็นต่างโปรดให้เกีรยติกับผู้ที่เค้าเข้าศึกษาหาความรู้และกับผู้แปลด้วย ผมว่าผู้ที่เข้ามาอ่านส่วนใหญ่ชอบเรื่องแนวนี้มานานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จนมาพบกับผู้แปลที่เราอาจตามหามานานจึงได้มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ผมว่ามันไม่มีอะไรเสียหายเลยแม้แต่น้อยเลยน่ะครับ

 

กระทู้ก็เหมือนสถานที่นั่นล่ะครับ
สถานที่ ที่มีการแลกเปลี่ยนความเห็น ของบุคคลที่มีความ ชมชอบ คล้ายๆกัน
สนใจในเรื่องและแนวทาง
หรือว่าจะเข้ามาค้นค้าวเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะ

ดังนั้น หากมีความเห็นต่างก้ควรแสดงความเห้น เช่น สุภาพชน
เช่นผู้ที่ได้รับการอบรม ทางมารยาท มาบ้าง

หากคุณต้องการได้รับเกียรติ คุณ ก็ควรจะให้เกียรติ แก่คนอื่น
ถ้าหาก สิ่งใด ที่ไม่ปราถนาจะได้รับ ก้อย่าไปทำ

 

สมแล้วที่เป็นคุณ ชยุต นะครับ ความสงสัยและมุมมองน่าสนใจครับ ^^
ขอเวลาเรียบเรียงความคิดก่อนนะครับ

 

แรงผลักมีสองด้านเสมอค่ะ เมื่อแรงผลักมาเราจะดันตนเองขึ้นข้างบน หรือลงข้างล่าง ก็อยู่ที่การฝึกฝนจิตค่ะ
จิตผู้รู้ จิตผู้ดู จิตแห่งแสง ตราบใดที่เรามีกาย เป็นมนุษย์ เราก็ถูกทุบตีและทดสอบอยู่เสมอค่ะ ว่าเราจะเป็นแสงที่บริสุทธิ์ หรือแสงประดิษฐิ์ ค่ะ

 

ความจริงกระทู้นี้คือกระทู้เลื่อนระดับนะครับ เพื่อนๆพี่ๆคนไหนที่เห็นต่างหรือมีความเชื่อเป็นของตัวเองก็ไปสร้างกระทู้เป็นของตัวเองสิครับ อย่ามาด่าว่ากันเถอะครับ คนที่เขาแปลข้อความเขาเหนื่อยนะครับ ไหนจะอุตส่านั่งแปลแล้วมาโพสต์ ซ้ำยังต้องมาต่อกรกับใครต่อใครอีก คนที่มาด่าก็ด่าอย่างเดียว ไม่ได้เหนื่อยอะไรด้วยเลย สนุกด้วยซ้ำมั้งครับ ความจริงกระทู้นี้มันเป็นข้อความสำหรับพวกเราด้วยซ้ำไป...

ปล.ขอบคุณสำหรับพวกพี่ๆที่แปลข้อความนะครับ

 

ส่วนใครที่คิดว่าตนเองรู้แล้วเก่งแล้ว แล้วเข้ามาสั่งสอนพี่ๆที่แปลข้อความ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ผมอยากบอกท่านว่า..ท่านยังไม่รู้และยังไม่เก่งจริงหรอกครับ ท่านต้องมาลงภาคสนาม ไม่ใช่เอาแต่นั่งอ่านอย่างเดียวและคิดว่าจะรับรู้ความรู้สึกของคนๆนั้นได้ ..

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณชยุตและทีมแปลทุกท่านนะคะ ขอรบกวนคุณhlc อย่าเข้ามาอ่านกระทู้แนวนี้เลย. เพราะโพสของคุณมันทำให้รกสายตามากและไม่สร้างสรรค์อะไรดีๆซะเลย

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=AaImtAdoicU]Owl City - Galaxies (Official HQ) - YouTube[/ame]

เอาเพลงเพราะๆมาฝากครับ...ฝันดีทุกท่านครับ

 

ข้อความของท่านซาลูซา เมื่อวันที่ 20 สิงหา ที่คุณ Mr.empty แปลไว้อ่านแล้วมันสะกิดหัวใจตรงกับเหตุึการณ์ในกระทู้ของเราตอนนี้มากเลย เหมือนจะบอกให้พวกเราเข้าใจเหตุการณ์ บอกให้คนอื่นได้ฉุดคิดด้วย

-ความรู้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แต่ตัวมันเองก็ไม่ใช่ใบผ่านทางของการยกระดับของคุณ. ด้วยการใช้ชีวิตในกรอบความคิดที่สูงที่สุดที่คุณมีต่อตนเอง, นั่นต่างหากที่คุณกำลังตั้งเป้าหมายให้ชีวิตคุณเป็น. คุณกำลังช่วยยกระดับความตระหนักรู้มวลรวมด้วย, และนั่นจะเป็นการดึงดูดจิตวิญญาณอื่นๆด้วย ซึ่งในที่สุดผู้คนจำนวนมากของคุณจะยกระดับ. คุณจะพบด้วยว่าคุณจะสามารถยกระดับขึ้นเหนือแรงดึงและความเย้ายวนของพลังงานระดับต่ำได้. มันจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของคุณอีกต่อไปเมื่อคุณค้นพบการแสดงออกที่สูงกว่าของตัวคุณเอง. อะไรก็ตามที่ทำให้คุณพึงพอใจในชีวิตนี้จะไม่มีความจำเป็นต้องตอบสนองมันอีกต่อไป, เมื่อคุณมีความละเอียดอ่อนมากขึ้นในสิ่งที่สร้างความไม่ลงรอยหรือความไม่พอใจ

-คุณจะเลิกข้องแวะกับความถี่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง, และนั่นจะมีผลอย่างเป็นธรรมชาติในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น. คุณจะค้นพบผู้คนที่เข้ากันได้กับคุณและแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับชีวิต. คุณจะเข้าใจได้ว่ามันเป็นการแยกทางอย่างเป็นธรรมชาติ, ซึ่งคุณจะพบว่ามันเป็นการง่ายที่จะแบ่งปันความสุขความเบิกบานกับพวกเดียวกัน

-บ่อยครั้งที่ต้องเกี่ยวข้องกับวิญาณอื่นที่คุณจำเป็นต้องสร้างสันติภาพ, และจะไม่สามารถก้าวหน้าไปได้จนกว่าการกระทำในด้านการให้อภัยจะบรรลุผล. ปล่อยวางการตัดสินและให้อภัยแล้วลืมมันซะ, บทเรียนเหล่านี้จะคงอยู่กับคุณและคุณสามารถเรียนรู้ต่อไปจากประสบการณ์เหล่านี้ได้. มองชีวิตให้เหมือนการเล่นละครและตระหนักว่า เมื่อผ้าม่านปิดฉากลงคุณจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง. ในอนาคตปัญหาเหล่านี้จะไม่มีเนื่องจากมิติที่สูงกว่าที่คุณอยู่, คือมิติที่สมบูรณ์ สอดคล้องและสมดุล

-อย่างไรก็ตามพวกเราจะรับประกันกับคุณว่า ก่อนที่จะมาเกิดในช่วงเวลานี้, ทุกวิญญาณได้รับรู้อย่างดีถึงความสำคัญของมัน. แม้แต่บางวิญญาณที่เลือกจะไม่ยกระดับ, พวกเขายังคงต้องการมีประสบการณ์ในระดับพลังงานนั้น. มันเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณไม่จำเป็นต้องไปกังวลเกี่ยวกับผู้อื่น, ซึ่งพวกเขาจะจบวัฏจักรนี้อย่างแน่นอนในหนทางที่เขาเลือก.

แต่ยังไงข้อดีของเหตุการณ์นี้คือ พวกเราได้ออกมาให้กำลังใจกันมากขึ้น อิอิ