ปู่ใหญ่ ท่านเป็นใคร หนังสือเขียนไว้จริงเท็จประการใด

สวัสดีค่ะ เมื่อประมาณปี คศ. ๑๙๘๙ ยายผีป่าได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็คิดว่า อยากได้หนังสือดีๆ ติดตัวไปอ่านยามที่เราไม่มีงานที่รับผิดชอบ ก็เดินๆ ไปเจอหนังสือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ยายผีป่าจึงซื้อมา รวมกับหนังสือดีๆ อีกหลายเล่ม

ช่วงที่นั่งบนเครื่องเป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมง ก็ภาวนาไป ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป แล้วใจก็นึกสงสัยว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร คือใคร ก็หยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน ๆ ไป เกิดปวดหัวอย่างหนัก ยายผีป่ามีโรคประจำตัวตอนนั้นคือไมเกรน เป็นแบบทรมานมาก แต่ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งแล้วค่ะ

ก็เลยตั้งจิตขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านช่วยอย่าให้ยายผีป่าถึงกับรากแตกบนเครื่อง หรือต้องหามลงจากเครื่องบินเลยเจ้าค่ะ พอสักพักได้นิมิตรเห็นพระรูปหนึ่ง สูงโปร่ง ผิวผ่อง ไม่แก่มาก แต่คะเณอายุถ้าเทียบกับคนที่เราเห็นทั่วไปประมาณ ๖๐ ต้นๆ แต่ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น ท่านตอบว่า ไม่ใช่!

แล้วยายถามท่านในจิตสัมผัสว่า ท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดรใช่ไหมเจ้าคะ

ไม่ใช่ ท่านตอบ

แล้วท่านก็อธิบายที่ใช้เวลาไม่นานแต่เหมือนกับได้รับทราบทุกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวถ้าเอามาพิมพ์ไม่ต่ำกว่า ๒ หน้ากระดาษ เอ ๔ เป็นแน่

อย่าเรียกเราว่า หลวงปู่เทพ เราไม่ใช่เทพ แต่ถ้าคนเขาเชื่อตามหนังสือ เขานึกถึงเรา เรารับรู้ แต่ถ้าเขาคิดว่าเราคือเทพ เราไม่ใช่ เรียกเราว่า ปู่ก็แล้วกัน

ปู่ใหญ่ หมายถึงเรา และมีปู่ใหญ่องค์อื่นๆ ที่มาสืบต่อศาสนาร่วมกันอีกที่ดินแดนสุวรรณภูมิรวมทั้งเราเป็น ๗ องค์ เจ้าตั้งจิตถึง เจ้าจะเจอ เจ้าจะได้เลิกสงสัย


ไอ้พวกคนบอกกล่าวในหนังสือ หาใช่มันรู้จริงหมด แต่ไม่ใช่เราไม่มีตัวตนที่แท้จริง

พวกมนุษย์ติดกิเลส เที่ยวสืบเสาะค้นหาเรา เรามายืน มานั่งตรงหน้า มันยังมีหน้ามาถามเราว่า

หลวงปู่เคยเจอปู่ใหญ่ไหม เจอบรมครูเทพโลกอุดรไหม

เราจะไม่พูด เพราะพูดไปมันจะหาว่าเราอุปโลกภ์

นี่ล่ะเขาเรียกคน มันชอบค้นหาอะไรที่จับต้องไม่ได้ ถ้าจับต้องได้ มันบอกปลอมหมด

 

โปรดติดตามคำสอน ของปู่ใหญ่ พระผู้พ้นโลกได้ใน นิตยสาร พลังจิต.คอม เราจะคลี่ออกมาทีล่ะนิด แต่จะไม่บอกว่า ท่านคือหลวงปู่ใหญ่

 

โอ้โห้......
โปรโมทชั้นยอด

เปิดอีกนิดๆ ได้ไหมนี่ ยังอ่านไม่หายอยาก...เลย

แล้ว ไมเกรนหายได้อย่างไร บอกวิธีด้วย

 

แหม...บอกหมดในเวบบอร์ด ก็อ่านในบอร์ดฟรีๆ ไม่ซื้อนิตยสารอ่าน ไม่สงสารทีมงานที่ดั้นด้นค้นหามาเขียนให้อ่านให้รู้จริงดอกรือ

ไม่แพงจ๊ะ กับหนังสือเล่มสวย กระดาษเน้นคุณภาพ งานเขียนจากผู้เขียนที่ตั้งใจเขียนตามจริงค่ะ

 

แหม.....บอกให้เปิดนิดๆไง
ใตรอยากให้เปิดหมด

ขึนเปิดหมดละก็......
โอ้ย...ไม่อยากนึก....
เสียวใส้วุ้ย.....หัวแตกแน่



(ขอโทษครับ คุยเล่นแก้เหงา)

 

(b-ng)

 

อืม ยายผีป่าครับ




สมมุติเวลาเราเห็นอะไรในนิมิต เราจะตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างไรครับ?
อย่างบางที นิมิตเห็นเป็นพระพุทธเจ้า ผมไม่แน่ใจว่า กายทิพย์อื่นแปลงกายมาไหม?


หากเราจะเผยแพร่ในหนังสือเพื่อไม่เกิดกรรมเปื้อนเรา
เราจะตรวจสอบและให้ครูบาอาจารย์ที่ไหนรับรองได้ไหมครับ?

 

เห็นด้วยค่ะ ถ้าเกิดดังขึ้นมา วัตถุมงคลจะตามมาด้วยหรือเปล่าเจ้าค่ะ [โปรโมทด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ดั้นไปเข้าทางคนขายพระ ที่มีอยู่แล้ว ]
เรื่องบางเรื่องจิตน้อมนำอุปทานนำไป เรื่องบางเรื่องก็จริงโดยบังเอิญ
เราอยู่กับปัจจุปัน ไม่ดีกว่าหรือเจ้าค่ะ มีร่างทรงหลาบท่านทักอ้อยค่ะว่า เคยเป็นอย่าโน้นเคยใหญ่อย่างนี้ มีชาติตระกูลสูงศักดิ์ มีญาติพ่อแม่พี่น้องดีๆทั้งน้าน สูงศักดิ์ร่ำรวยจริง เพชรนิลจินดาอยู่ไหนล่ะ ตายไปแล้วก้แล้วกันเป็นของคนอื่น แล้วเราจะย้อนอดีตหาอะไรเจ้าค่ะ ถ้าวันนี้เราไม่ไปตามหาใคร แต่เรานั่งสมาธิ เจริญภาวนาอยู่กับบ้าน อ้อยว่า เราน่าจะได้บุญมากกว่านา

 

ผมเห็นคำถามนี้ เห็นเจตนาในข้อความ ข้างบนทั้งหมด ผมดีใจมากครับ

สาธุ สาธุ.....
จากใจจริงครับ

 

ขอเล่าความฝัน 5 คืนติดติดแล้วค่ะ ฝันว่ามี่คนมาบอกว่า เรามีเพชรนิลจินดามากมาย ทำไมไม่ไปเอา คืนแรกๆอ้อยก็เหอค่ะ เห่อในสิ่งที่คิดว่าตัวเองมีตัวเองวิเศษ อดีตของเราคงจะร่ำรวย ทรัพย์สินมากมาย ฐานันดรศักดิ์คงยิ่งใหญ่ระดับเจ้าขุนมูลนาย เราจะรวยแล้วเจ้าที่เจ้าทางคงเมตตามาบอกเรา อยู่ไปอีกสองวันที่ไหนได้ ชมรมการกุศลแห่งหนึ่งขอเงินบริจาคซื้อหนังสือธรรมะ เล่มละ 12 บาท 300 เล่มจะนำไปแจกในงานบุญ นี่เราฝันจริงหรือฝันไม่จริง นั่งคิดไปเรื่อยๆ ธรรมะสว่างขึ้นในใจ เราฝันจริง นี่แหละคือเพชรนิลจินดา

 

นิมิตรมันมีทั้งจริงและหลอก โดยเฉพาะนิมิตรที่เกิดจากจิตใต้สำนึกเรา จากสิ่งที่เราปิดกั้นมันไว้ หากเราเผลอ มันหลอนเราทันที และหลอนได้เนียนจริงๆ ค่ะ

ทางที่ดี ก็กำหนดรู้ แต่อย่าไปใส่ใจค่ะ ถ้าจริงจะไม่หนีเราค่ะ

การที่เราทำอะไรทุกอย่าง เราต้องมีการคิดตริตรองให้ถี่ถ้วน และตรวจสอบ และถ้าเรารู้ไม่ลึกจริง เราควรปรึกษาผู้รู้อื่นๆ ด้วย

อย่างยายผีป่านั่งทำดัมมี่ดึกๆ (รูปแบบคอลัมน์นิตยสาร) ทำเสร็จตามันล้า เลยสั่งปริ้นท์ ทีนี้ก็เอาไปให้พระอาจารย์เล็กท่านตรวจสอบ

ท่านบอกว่าแค่ฉบับแรกก็ถอยหลังไปสามสิบปีแล้ว ก็ท่านละเอียด ตรวจทุกการสะกด ยายพิมพ์ตกหล่น ลืมตรวจ เพราะคิดว่า เป็นแค่ตัวอย่าง แต่เอ...ตัวอย่างที่ไม่ถูก ไม่สมบรูณ์ ก็จะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี ดังนั้นทำอะไรตรวจสอบดีๆ นะคะ ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องการให้ความรู้ชี้นำต่างๆ จะเป็นกุศลค่ะ

ครูบาวิทรูย์ ท่านบอกยายผีป่าว่า ถ้าคิดว่าดี ก็ดี ดี ดี

 

ขอโทษ ยายผีป่าครับ


คนขายธูปเอย คนขายธูป

เกาไม่ถูกที่คันใช่ม้า...

 

คุณอ้อยคะ คนเราแต่ล่ะคนเกิดมาเพราะปัจจัยต่างกันค่ะ

เหมือนกับยายผีป่าแหกนรกมาเกิด ตอนนรกแตก ยายผีป่าเลยบ้าบิ่น

แต่คุณคนขายธูปสั่งสมบารมีมาอีกแบบ เขาต้องสร้างบารมีตามวิสัยที่อยากทำ อยากรู้ ไม่ผิดค่ะ การบอกคนให้กระจ่าง ไม่ว่ายายหรือคุณอ้อย หรือใครๆ เป็ฯอานิสสงส์สูงค่ะ แต่การทำให้เขากำลังใจตก นี่ไม่ดีนะคะ ขวางทางคนอยากรู้ อยากสร้างบุญ มันบาปค่ะ เดี๋ยวขอเตะกันคุณอ้อยสักป๊าบได้ไหม

ประจำเดือนขาดหรือยังไงถึงตอบแดกชาวบ้านเขา รู้ว่าคุณอ้อยไม่ได้รังเกียจคุณคนขายธูป แต่คุณอ้อยตีวงกว้างไป ต้องการบอกให้คุณคนขาธูประมัดระวังในการไปโพสที่กระทู้อื่นๆ ที่เขาอาจมีผลได้ ผลเสียอยู่ เลยเป็นเครื่องมือคนพวกนั้นไป

คุณอ้อยอย่าซีเรียสสิคะ กินยาไป๊ แล้วไปนอนซ๊ะ

 

ยายผีป่าใช่ว่าวันๆ จะตอบได้ถูกใจคนทุกคนนะคะ อยากหายคันต้องนำไปปฏิบัติเอง เดี๋ยวเห็นเอง ประสบการณ์จะสอนเราทุกอย่าง

คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว เดินทางเดียว บ่อฮั่นบ่ฮ๋อน

แค่นี้เองคือทางไปดี ทางที่ถูกต้อง

ตีความหมายให้ถูกแค่นั้นเอง ไม่ใช่เอาความหมายนี้ไปไล่ถามคนนั้นคนนี้ ลงมือเลยดีกว่า จริงไหมคะ ทายาต้องทาเอง ถึงจะรู้ว่าคันตรงไหน

 

ธรรมะต่างๆ ไม่ต้องให้รู้จากสิ่งที่อธิบายไม่ได้เป็นรูปธรรม

เอาสิ่งที่ตาเห็น สัมผัสได้ มายกเปรียบเทียบ ถ้ามีปัญญา อ๋อ...ธรรมะนี่ ง่ายเหมือน ก. ข. ค. จริงแท้

 

สาธุ...
คำตอบนี้ถูกใจจริงๆ


ขอโทษอีกครั้งในทุกๆเรื่องที่ทำให้มีโทษะ

 

อืม....ต้องระวังเอาไว้เหมือนกันนะครับ จุดนี้ผมก็สงสัยเหมือนกัน บางคนชอบอ้างว่าตนเองเห็นตนเองเป็นคนโน้นคนนี้ หรือบางทีก็บอกว่าเห็นว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ แล้วก็เลยกลายเป็นเหตุให้เกิดทิฏฐิมานะเกิดวิปัสสนูกิเลส พอใครไม่เชื่อหรือไม่ศรัทธาตนก็จะด่าว่าและเตือนว่าระวังจะเป็นบาปเป็นกรรมนะ......อะไรทำนองนี้

ทั้งๆที่การจะเป็นอะไรหรือการจะบรรลุธรรมหรือไม่สิ่งสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเห็นนิมิตว่าตนเองเป็นอะไรเลย มันอยู่ที่คุณสมบัติและสภาวะจิตของแต่ละคนต่างหาก ไม่งั้นคนนั่งสมาธิเห็นตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ หรือเป็นพระพรหมเป็นพระศิวะ...ฯลฯ มิต้องเหมาเอาเองว่าตัวเองบรรลุธรรมหลุดพ้นหรือตรัสรู้เป็นเทพเป็นพรหมไปตามที่เห็นกันไปกันหมดรึครับ???

ครูบาอาจารย์สายพระป่าท่านก็เตือนประจำว่าอย่าไปติดนิมิตหรือไปหลงนิมิต เจออะไรก็ให้ปล่อยวางไป ให้ปฏิบัติธรรมก้าวหน้าต่อไปอย่าประมาทคิดเอาเองว่าตนเองดีแล้วหรือบรรลุธรรมแล้ว เป็นเหตุให้ละเลยการปฏิบัติธรรมฝึกฝนตนเองในคุณธรรมขั้นสูงต่อไป

แต่ถ้าทำเช่นนั้นก็มักจะไม่ค่อยเกิดฤทธิ์เกิดเอชอะไรมาก ถึงเกิดมีฤทธิ์ขึ้นมาโดยบังเอิญแต่ถ้าไม่ได้ฝึกฝนที่สุดก็ไม่มีประโยชน์ก็จะเสื่อมไปหรือไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจจะไม่ตรงจริตกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยากรู้อยากเห็นอยากศึกษาเรื่องนิมิตหรือเรื่องอภิญญาให้ถ่องแท้ชนิดที่ให้เกิดความเชี่ยวชาญและถูกต้องแม่นยำจนสามารถพิสูจน์ได้จริงน่ะครับ

 

อยากรู้จังเลยว่าปู่ใหญ่คือใคร จะรอติดตามอ่านนะครับ แต่คิดไว้อยู่ชื่อหนึ่งแล้วไม่รู้จะใช่มั๊ย รออ่านของยายก่อนนะครับแล้ว ผมจะมาบอกว่าใช่ที่คิดไว้มั๊ยครับ

 

ดีจ๋ายาย ไม่คิอขวางทางใครแต่อยากให้คุณยายคิดไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนเจ้าค่ะ

คุณยายอาจจะตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิต ตื่นเต้นกับอดีต จริงบ้างเท็จบ้างตามจิตใต้สามัญสำนึก

แต่ขอให้คุณยาย จงรู้ทุกอย่างที่จิตรู้ แต่อย่าติดในรู้นั้น

เพราะคุณคือยายผีป่า อ้อยจึงต้องบอกกับคุณยายที่เคารพด้วยความจริงใจเจ้าค่ะ

 

มีสมาชิกหลายท่านจิตหล่อนกับอดีตเพราะมีสิ่งเร้า สภาพบุคคลและสภาพแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น กระตุ้นต่อมให้มีความรู้สึกนึกคิดไปต่างๆนานา ค้นหาเสาะหาในสิ่งที่ถูกกระตุ้น

ถ้าเหตุการณ์ใดจะเกิด ขอให้เกิดด้วยกลไกแห่งเหตุและผล โดยที่ตัวเราเองไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนตามการกระตุ้นของสิ่งเร้าไม่ดีกว่าหรือเจ้าค่ะ