ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

สาธุ. ไม่กี่บรรทัด. แต่มีประโยชน์ มากครับ

 

โอ้ว..ผมดีใจสุดๆเลย ผมได้แต่หาข้อมูลในกระทู้นี้และที่อื่นๆอ่านอยู่หลายต่อหลายวันครับ หาข้อมูลส่องแล้วส่องอีกว่าจะมีบุญกับเค้าบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับดูเองคนเดียวเดี๋ยวจะเข้าข้างตัวเองจะหลงทางไปกันใหญ่ ลุ้นอยู่พักใหญ่ยังไม่ได้ไปให้ใครดูเลยก็หวังอยู่ในใจลึกๆ โหพี่ดีใจมากเลยขอบคุณพี่ล้างใจครับ
พระองค์นี้อยู่บนหิ้งที่บ้านนานเท่าไหร่ไม่ทราบครับแต่ผมหยิบลงมาได้สักสิบกว่าปีประมาณนี้ครับ

 

สำนักสังฆ์ต้นเลียบ
(บ้านเกิด และสถานที่ฝังรกหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)

"ต้นเลียบ" เป็นปูชณียสถานที่สำคัญ เป็นสถานที่กำเนิดของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตั้งอยู่ ณ บ้านเลียบ หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ผ่านเส้นทางถนนสาย 408 สงขลา-นครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากวัดพะโคะมาทางทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร มีประวัติที่กล่าวคือ

มีสามีภรรยา ชื่อนายหู นางจันทร์ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสวนจันทร์ เมื่อวันศุกร์ เดือน 4 ปีมะโรง พ.ศ.2125 นางจันทร์ได้คลอดบุตร (เด็กชายปู) นายหู ผู้เป็นพ่อได้นำ "รก" มาฝังไว้ที่โคนต้นเลียบใหญ่ทางด้านทิศเหนือ (ซึ่งปัจจุบันนี้คือสำนักสงฆ์ต้นเลียบ) ต้นเลียบต้นนี้ใหญ่โตมาก อายุร่วม 500 ปี ชาวบ้านเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันยืนเด่นตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขา ให้ความร่มรื่น อยู่ภายในสำนักสงฆ์ต้นเลียบ และที่นี่เองก็คือบ้านเกิดของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตามตำนานกล่าวว่าหลังจากพระภิกษุสามีราโม (หลวงปู่ทวด) เดินทางกลับจากการศึกษาจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว ก็ได้เดินทางกลับมายังวัดดีหลวงแล้วได้มาพักบำเพ็ญสมณกิจ ณ ใต้ต้นเลียบ แห่งนี้เป็นเวลา 10 วัน 10 คืน ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปจำพรรษาและบูรณะวัดพะโคะ

 

ในปี พ.ศ.2497 ได้มีสัปปุรุษเนื่อง และสัปปุรุษช่วง ได้เดินทางมาจากถ้ำน้ำร้อน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง มาทำธุระที่วัดดีหลวง เมื่อทำธุระเสร็จแล้วจะเดินทางกลับ ก็กลับไม่ได้ เพราะในทะเล ทั้งทะเลนอก และทะเลใน ได้บังเกิดคลื่นลมรุนแรง ไม่มีเรือลำใดกล้าที่จะเดินทางไปส่ง ซึ่งในครั้งนั้น ได้มีแม่หลง และพ่อของแม่หลง ได้นิมนต์ให้สัปปุรุษทั้งสอง ให้อยู่ประจำ ณ ต้นเลียบแห่งนี้ เพราะได้เล็งเห็นแล้วว่าที่นี่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรจปล่อยให้รกร้าง ครั้นสัปปุรุษทั้งสอง จึงได้ตกปากรับคำอยู่จำพรรษา ณ ที่ต้นเลียบนี้ และได้ชักชวนชาวบ้านทั้งบ้านเลียบ และวัดเล็ก และบ้านดีหลวง ให้มาช่วยกันก่อเจดีย์ทรงลักกาเล็ก นำมาประดิษฐานไว้เหนือที่ฝังรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่โคนต้นเลียบ
เมื่อมาในปี พ.ศ.2500 ได้มีหลวงปู่จำเนียน โชติธัมโม ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ ในขณะที่ท่านกำลังนั่งเจริญสมาธิภาวนา ก็ได้ปรากฏดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดชี้มาที่หลวงปู่จำเนียนฯ บอกว่าให้มาจำพรรษา ช่วยมาดูแลต้นเลียบ สถานที่ฝังรกของท่าน
หลวงปู่จำเนียนฯ ได้มาจำพรรษา ณ ต้นเลียบแห่งนี้มาช้านานเป็นเวลา 40 พรรษา ก่อนที่ท่านจะละสังขารไปด้วยความชรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2539 เวลา 21.20 นาฬืกา มีเหตุอัศจรรย์ โดยท่านบอกว่าก่อนเข้าพรรษา 7 วัน ท่านจะละสังขารแล้ว และร่างของท่านจะไม่เน่าไม่เปื่อย ซึ่ง ณ เวลานี้ สังขารธรรมของหลวงปู่จำเนียนฯ ถูกเก็บไว้ในโลงแก้ว ตั้งอยู่ภายในสำนักสงฆ์ต้นเลียบ เพื่อให้สาธุชนได้มากราบไว้ขอพรบารมี

ต้นเลียบ เป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ น้อยคนนักจะรู้จัก แต่หากท่านได้ศึกษาประวัติของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว สถานที่แห่งนี้ถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ท่านต้องหาโอกาสมากราบสักการะองค์เจดีย์ที่ฝั่งรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดให้ได้......


จากเอกสาร .....สำนักสงฆ์ต้นเลียบ
แจกเมื่องานพิธีพุทธาภิเษกพระหลวงพ่อทวด รุ่นศรัทธาชนะมาร
4 ก.ย. 55

 

กราบสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะวะวา

 

'ณรงค์พร ณ พัทลุง'แขวนพ่อทวดดวลโจรใต้
'ณรงค์พร ณ พัทลุง'แขวนหลวงพ่อทวดไปดวลปืนโจรใต้ : สรณะคนดังเรื่อง/ภาพ โดยสุพิชฌาย์ รัตนะ ศูนย์ข่าวภาคใต้
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากพื้นที่ใดปรากฏเหตุรุนแรง เป็นข่าวบนหน้าสื่อจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ณ จุดนั้นมักจะถูกประทับตราให้เป็น “พื้นที่สีแดง” ในความรู้สึกของหน่วยความมั่นคง หรือชาวบ้านไปโดยปริยาย และหนึ่งในผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นข้าราชการฝ่ายปกครอง ที่ผ่านประสบการณ์ทำงานในพื้นที่สีแดงอันร้อยระอุ ด้วยอุณหภูมิความรุนแรง และยังเผชิญหน้าเหตุการณ์เสี่ยง ชนิดต้องเปิดฉากสู้ตายกับคนร้ายที่บุกราดยิงสถานที่ราชการในดินแดนปลายด้ามขวานมาแล้ว คือ นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

เมื่อ ๒๘ ตุลาตม ๒๕๔๖ นายณรงค์พร ก้าวขึ้นเป็นนายอำเภอคนแรกของ อำเภอกรงปินัง ในเวลาต่อมา ด้วยวัย ๔๖ ปี ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ถูกฝ่ายความมั่นคงขีดเส้นใต้ด้วยสีแดง ตั้งปัญหาความไม่สงบเริ่มต้นที่สำคัญยังมี “อุซตาสโซ๊ะ” แกนนำขบวนการคนสำคัญเคลื่อนไหวอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เขายังสามารถสกัดกั้นเหตุการณ์สำคัญ นั่นคือ การแจ้งข่าว และป้องกันเหตุกลุ่มคนร้ายบุกเข้าปล้นปืนกว่า ๒๐๐ กระบอก ณ ที่ว่าการอำเภอกรงปินัง เพื่อจะนำไปก่อเหตุใหญ่ในเหตุการณ์นองเลือด เมื่อ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๗ ได้อย่างน่าชมเชย

นายณรงค์พร เล่าว่า ทุกวินาทีที่รับราชการในพื้นที่กรงปินัง เรียกได้ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์ในพื้นที่ร้อนแรงมาก โดยเฉพาะคนร้ายอุกอาจถึงขนาดลอบยิงบ้านพักข้าราชการ โจมตี สภ.อ กรงปินัง และฐานปฏิบัติการทหาร ซึ่งยังจำได้ติดตาว่า กลุ่มผู้หลงผิด ล้อมและกราดยิงใส่สถานที่ราชการเป็นระยะๆ โดยเจ้าหน้าที่พยายามเปิดฉากตอบโต้ แต่ด้วยกำลังพลของฝ่ายราชการที่น้อยกว่า ถูกฝ่ายตรงข้ามกระหน่ำกระสุนมาอย่างต่อเนื่อง

กำลังพลเวลานั้นมีอยู่ชนิดนับนิ้วได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามที่จู่โจมเข้ามามีประมาณ ๒๐-๓๐ ชีวิต เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามสู้ เพื่อไม่ให้คนร้ายบุกเข้ามายังสถานที่ราชการได้ ซึ่งในที่สุดก็สำเร็จ เมื่อคนร้ายเห็นกำลังเสริมเข้ามาช่วย ผู้ก่อเหตุจึงล่าถอยปล่อยทิ้งไว้แต่ความเสียหาย

“เราพยายามยันสถานการณ์เอาไว้ โดยการใช้กลยุทธต่างๆ เท่าที่ทำได้ เพื่อประวิงเวลาให้หน่วยเหนือเข้ามาช่วย ซึ่งยอมรับว่า นาทีนั้นสู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย เพราะกระสุนมาเหมือนห่าฝน จึงตัดสินดวลปืนกันสนั่น ซึ่งพยายามยื้อสถานการณ์สุดชีวิต เพื่อรอกำลังเสริม โดยในใจคิดเพียงว่า หากยังไม่ถึงฆาตขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง อย่าให้ลูกแพ้ภัยคนคิดร้ายต่อแผ่นดิน” นายณรงค์พร เล่าอย่างตื่นเต้นราวกับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพิ่งผ่านพ้น

อย่างไรก็ตาม การเป็นนายอำเภอกรงปินัง นายณรงค์พร ถือว่า เป็นหนึ่งในข้าราชการไม่กี่คนในพื้นที่ขณะนั้น ที่เป็นชาวพุทธ เพราะอำเภอกรงปินังถือว่า เป็นชุมชนมุสลิมร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งเดียวที่นายณรงค์พรยึดถือคือ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งขณะต่อสู้จะระลึกถึงท่าน และขอบารมีให้คุ้มครองตลอดเวลา

ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติราชการในพื้นที่ อำเภอกรงปินัง ๔ ปีเต็ม มีพระเครื่อง ๔ องค์ ที่จะพกติดตัวเสมอ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ คือ ๑. หลวงพ่อทวด รุ่นกริ่งบัวรอบ ๒. หลวงพ่อทวด หลังเตารีด ๓. หลวงพ่อทวด เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ไหล่จุด ปี ๒๔๙๗ และ ๔. พระเม็ดกระดุมศรีวิชัย

“พระหลวงพ่อทวด คือ เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่คนใต้รู้จักและเชื่อมั่นในพุทธคุณและบารมีในเรื่องของความปลอดภัย แคล้วคลาดจากอันตรายมากที่สุด ดังนั้นจึงอาราธานาติดตัวชนิดไม่เคยห่างกายแม้แต่วินาทีเดียว เพราะในสนาม ๓ จังหวัดชายแดนใต้ หากประมาทอาจพลาดท่าถึงชีวิตได้ภายในเสี้ยวอึดใจเดียว" นี่เป็นเหตุผลของนายณรงค์พร

นอกจากนี้ พระหลวงพ่อทวดชุดนี้ ยังช่วยให้แคล้วคลาดจากการเหตุการณ์คนร้ายลอบซุ่มโจมตีอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาวิทยาศาสตร์ได้นั่นคือ “สิ่งดลใจ” ให้เปลี่ยนแผน เปลี่ยนเส้นทาง เปลี่ยนกำหนดการในการเข้าพื้นที่เป้าหมาย จนรอดพ้นจากกระสุนปืน และแรงระเบิดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“พระชุดนี้มีประสบการณ์กับผมมาอย่างโชกโชน เพราะความรุนแรงในพื้นที่ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๗ แต่มันมีก่อนหน้านั้น โดยเฉพาะ ๒ ปีก่อน วันเสียงปืนแตกในเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง ซึ่งผมเผชิญกับคนร้ายมาหลายครั้งหลายคราว กระทั่งสถานการณ์ปะทุหนักยิ่งขึ้น แม้ผมจะย้ายออกมาจากกรงปินังแล้ว แต่วันนี้ชีวิตก็ยังเกี่ยวพันกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ เพราะอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา คือหนึ่งในสี่อำเภอที่มีรอยต่อกับชายแดนภาคใต้ และเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนั้น ผมจึงยังแขวนพระชุดนี้ไม่เคยห่างกาย” นายณรงค์พร กล่าว

โดยที่มาของพระเครื่องทั้ง ๓ องค์นี้ นายณรงค์พร บอกว่า หลวงพ่อทวด รุ่นกริ่งบัวรอบ ได้มาจาก นายสมศักดิ์ วาณิชสุวรรณ หรือ "โกหมิ่น หาดใหญ่" หลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่ไหล่จุด ได้มาจาก ดร.ไมตรี บุญสูง ส่วนหลวงพ่อทวด หลังเตารีด และพระกระดุมศรีวิชัย เป็นมรดกของพ่อ ที่มอบให้ตั้งแต่รับราชการ

นอกจากจะยึดหลวงพ่อทวดเป็นสรณะแล้ว นายอำเภอณรงค์พรยังถือว่า เป็นนักสะสมพระหลวงพ่อทวดตัวยงอีกด้วย เนื่องจากมีบ้านติดกับสนามพระ และมักจะเดินเข้าไปขอส่องพระตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งมีโอกาสได้เห็นพระแท้ และได้ศึกษาเรียนรู้จากเซียนรุ่นเก่าของภาคใต้ในยุคอดีต ดังนั้นจึงทำให้มีความเชี่ยวชาญพอตัว ในเรื่องการดูพระเครื่องต่างๆ โดยเฉพาะพระหลวงพ่อทว'หลวงพ่อแก้ว' ที่พึ่งคนจะนะ

นายณรงค์พร บอกว่า สิ่งยึดเหนี่ยวสำคัญ สำหรับชาวพุทธในพื้นที่ปลายด้ามขวานคือ “พระ”และ “วัด” เพื่อเป็นที่พึ่งพิงทางใจ เฉกเช่นเดียวกันกับพื้นที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งแห่งในปลายด้ามขวานที่ชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธจำเป็นต้องยึดเหนี่ยว สองสิ่งดังกล่าวเป็นเป็นหลักในการดำรงชีวิต และดำเนินลมหายใจให้อยู่รอดปลอดภัยในแต่ละวัน

สำหรับ ชาวพุทธเมืองจะนะ สิ่งที่เป็นเสาหลักให้กับชาวบ้านคือ "พ่อท่านแก้ว ธัมมาราโม" วัดสะพานไม้แก่น อายุ ๑๐๑ ปี ท่านเป็นพระอาจารย์ที่ร่วมอยู่ในพิธีปลุกเสกพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ นอกจากพ่อท่านแก้วจะเป็นที่พึ่งพิงของผู้คนในพื้นที่แล้ว ยังเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าพุทธบริษัทในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา และนราธิวาสอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว พ่อท่านแก้วยังเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวมาเลเซียและสิงคโปร์อีกไม่น้อย ด้วยเพราะเป็นพระที่ชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากผลพวงความไม่สงบ ทั้งนี้ท่านมักจะมอบวัตถุมงคลให้กับเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ จนเกิดประสบการณ์มากมายกลายเป็นที่กล่าวขาน กระทั่งนำมาซึ่งการเป็นที่พึงพา และพึ่งพิงจากอุณหภูมิร้อนจากสถานการณ์ความไม่สงบในเวลานี้

พ่อท่านแก้ว ธัมมาราโม ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนาม "พระครูอุปถัมภ์สารคุณ" คณะสงฆ์ ชาวบ้าน และศิษยานุศิษย์ จึงได้จัดพิธีฉลองสัญญาบัตรพัดยศ และฉลองอายุวัฒนมงคล ๑๐๑ ปีถวาย ตลอดทั้งปีถือเป็นช่วงเวลาสิริมงคลที่พุทธบริษัทชาวจะนะและพื้นที่ใกล้เคียง จะได้รวมใจกันสร้างบุญให้เกิดกับพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้สืบไปด

 

ใครพอทราบบ้างมั้ยครับว่าของที่ไหนผมมีองค์นึงพี่ที่ร้านก็มีองค์นึงเนื้อสวยมากๆพิมพ์ทรงก็ไม่ได้ไปลอกเลียนแบบรุ่นดังๆของวัดไหนด้านหลังจะมีรอยปาดแต่งทุกองค์ด้านล่างฝังตะกรุดด้านหน้าปิดทองทุกองค์เลยองค์ที่พี่ผมมีอยู่ไม่ได้ใช้เลยไขว่านขึ้นเต็มองค์เป็นเกร็ดๆ

 

ของท่านพุทธทาส... ลงรูปใหม่ครั้งแรกไม่เต็มครับผม​

 

กราบสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะวะวา

 

วันนี้แวะไปสำนักสงฆ์ต้นเลียบอีกครั้งค่ะ
ร่วมงานเลื่อนพัดยศ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ต้นเลียบค่ะ...

พัดยศ หมายถึง สมณศักดิ์และตำแหน่งชั้น ตั้งแต่เจ้าอาวาสเจ้าคณะตำบลขึ้นไป
พัดยศ ที่เป็นเครื่องประกอบสมณศักดิ์ของพระภิกษุสงฆ์ ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองสงฆ์ ประกอบด้วยตาลปัตร เป็นพัดที่เก่าแก่ที่สุด ทำด้วยใบตาล
วาลวีชนี คือพัดที่มีด้ามด้านข้าง มีทั้งที่ทำด้วยใบตาล และขนนก หรือวัสดุมีค่าอื่นๆ
จิตวีชนี คือพัดอันวิจิตรงดงาม เป็นพัดที่ประดิษฐ์ตกแต่งด้วยสิ่งพิเศษ เช่นผ้าโหมด ผ้าลายดอก ตลอดการทำด้วยงา การปักดิ้นทองและของมีค่าอื่นๆ

พัดยศของสงฆ์ไทย
พัดยศของสงฆ์ไทยที่เป็นเครื่องประกอบสมณศักดิ์ของภิกษุสงฆ์ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง
ให้เป็นผู้ปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งการบริหารพระภิกษุสงฆ์ในพุทธาวาสและสังฆาวาสอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติศาสนกิจให้เจริญก้าวหน้าสืบไป

 

วันนี้ที่วัดมีคนมาร่วมทำบุญและบูชาวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก
เมื่อวานมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาบูชาพระหลวงพ่อทวดนำออกนอกประเทศไปหลายลังค่ะ...
รุ่นที่ทางสำนักสงฆ์ต้นเลียบได้ทำการพุทธาภิเษก
คือ "สัมฤทธิ์ผล" และ รุ่น ศรัทธาชนะมารค่ะ...

ได้ร่วมทำบุญกับสำนักสงฆ์ต้นเลียบค่ะ
ปัจจัย ได้สร้างศาลาหลวงพ่อทวด
ได้ พระกริ่งหลวงพ่อทวดลอยองค์ ศรัทธาชนะมารมาอีกค่ะ....:d

 

พี่ท่านใดมีรูปหลวงปู่ทวด งามๆชัดๆ บางครับอยากนำไปอัดเป็นภาพ

 

อยากเป็นญาติกับองค์นี้ ใครช่วยดูให้ทีพอจะมีหวังบ้างหรือเปล่า

 

น่า ร๊าก อ่ะ .....

 

ไม่ได้แวะมานานสวัสดีครับทุกคน

 

สาธุครับ
วาสนาครับ วาสนา

 

**********หวัดดีครับพี่รุ่ง**********

 

พรุ่งนี้ วาระ 3 สติกเกอร์หลวงพ่อทวดที่ทุกท่านร่วมสร้าง
ช่วงบ่าย 14.00 น. โบสถ์วัดสีหยังค่ะ...

งานประจำ....
12-14 ก.ย. งานประชุมและเกษียณราชการกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ประชุม มอ.
16 ก.ย.55 งานกอล์ฟ เพื่อการกุศล รพ.หาดใหญ่
24 ก.ย.55 ทำพวงมาลาวันมหิดล
27 ก.ย.55 งานมุทิตาจิตของหน่วยงานทั้งเช้าและเย็น
30 ก.ย.55 สรุปงานผลการปฏิบัติงาน ประเมินการทำงานเลื่อนขั้น
30 ก.ย.55 สลบค่ะ.....:d(y):love:

 

สวัสดีครับ นายหัว
กำลังแอบดู พระหลวงปู่ ทวด ปี 97 อยู่ครับ
เนื้อ อร่อยมาก เอิ้ก เอิ้ก

 

กราบหลวงปู่ทวด.......

สวัสดีครับพี่รุ่ง,พี่ชาญ.... (^_^)