บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

คือ โมเดลที่ผมบอกเป็นการประมาณตามสมมติฐานที่มีตามคำทำนายคือโลกหยุดหมุนกึ๊กหนึ่งแล้วเกิดภัยพิบัติ แต่ถ้าตามสมมติฐานของคุณต้นที่สาม ที่ว่าโลกเหวี่ยงจากแรงแม่เหล็ก ผมลองคำนวณดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จากพายุสุริยะ เพราะสนามแม่เหล็กโลกอ่อนมาก ดวงอาทิตย์เองก็มีสนามแม่เหล็กไม่เข้มข้นเท่าไร ถ้ามีแรงแม่เหล็กที่มาหมุนโลกได้ ต้องระดับหลุมดำหรือดาวนิวตรอนประเภทแมกนีตาร์ที่มีสนามแม่เหล็กมหาศาลมากกว่าดวงอาทิตยฺนับล้านๆเท่าโคจรมาใกล้ระบบสุริยะจึงจะหมุนโลกให้เพี้ยนไปได้ แต่สนามแม่เหล็กขนาดหมุนโลกได้นั้นสามารถฆ่ามนุษย์ได้หมดโลกอยู่ดีโดยไม่ต้องรอให้เกิดซุปเปอร์เมกะสึนามิหรอก แต่ตอนนี้ยังไม่มีร่องรอยของดาวอะไรที่พอทำอันตรายโลกไ้ด้ (หมายเหตุไม่มีดาวที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนิิริบุในวงโคจรของระบบสุริยะตอนนี้ ถ้ามีผมตรวจจับได้แน่จากการบิดเบือนของแรงโน้มถ่วงที่ดาวมีต่อกัน) ถ้าจะมีอะไรมาหยุดโลกให้เปลี่ยนแปลงขั้วได้ มีอย่างเดียวที่เป็นไปได้มากที่สุด คือดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกจังๆ ในมุมที่เหมาะสม ขนาดก็ต้องอย่างน้อย 100 กิโลเมตรขึ้นไป ซึ่งพอที่จะทำเช่นนั้นได้ แล้วโลกก็จะมืดด้วยฝุ่นควันตามคำทำนายแต่ไม่ใช่แค่ไม่กี่วันแต่จะเป็นหลายศตวรรษมากกว่า

 

ผมตามเรื่องที่พระอาจารย์รัตน์เอ่ยถึงบ่อยๆที่จักรวาลเรามาติดขอบของจักรวาลใหญ่
ซึ่งจะเกิดแรงกระทำของสามจักรวาลที่พระอาจารย์พูดถึงบ่อยๆ
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง(อันนี้เกินความรู้ระดับปัญญาปกติอย่างของผมครับ)
และที่เสนอว่ามนุษย์ต่างดาวมาเตือนที่มา
วาดรูปต่างๆบนที่ต่างๆทุ่งหญ้ามากมายที่พระอาจารย์เอามาไขปริศนา
ซึ่งการชนกันของจักรวาลนั้่นส่วนใหญ่จะไม่ชนโครมครับ
แต่จะเอาขอบพลังไปสัมผัสกันแล้วก็เกิดแรงผลัก จนต่างคนต่างแยกกันไป
ที่พระอาจารย์นับไปรอบละเป็นหมื่นปี บังเอิญมาประจวบตรงสมัยยุคเราพอดี

ก็พอจะสัญนิฐานได้ว่า ขณะที่มีการเข้าไกล้กันของมหาจักรวาล นั้น

ซึ่งตรงนี้ ก็อาจจะเป็นเหตุให้เกิดพลังที่คุณต้นเอ่ยถึงนะครับ
ก็มีการส่งกระแสพลังงานมาผลักกัน ซึ่งเราเองอยู้ในกลุ่มของเราได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนครับ
เพียงแต่ว่าจะเกิดการเหลื่อมลึกขนาดใหนเท่านั้นเองครับ
ถ้าพลังระดับขอบสามารถดันกันออกไปได้ก็ไม่น่าจะรุนแรงทางกายภาพแต่ก็คงมีการสปาร์คกันแปร๊บปร๊าบ
(ชักเริ่มเห็นรางๆของอภิมหาฟ้าผ่าแล้วครับ) แต่ถ้าลึกจนมีการเหลื้อมกันในระดับ
วงโคจรรอบนอกเข้ามาสมัผัสกัน อันนี้แหละครับต้องลุ้นว่าโลกเราอยู่ส่วนใหนของการเหลื่อม
ของมหาจักรวาลทางช้างเผือกของเรา
ถ้าบังเอิญไปอยู่ในส่วนสัมผัส ก็เตรียมเถอะครับมหาหายนะอย่างแน่นอน
น่าจะรุนแรงในระดับหลุดจากวงโคจรเดิมได้ หนังเรื่อง 2012 ที่เอามาเล่นนั้นเห็นลางๆเลยครับ
แต่ถ้าอยู่อีกด้านก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบทางกายภาพแน่นอน
แต่กระแสประจุไฟฟ้าอากาศนั้นกระทบโลกแน่นอนครับ
แค่คิด ก็จินตนาการเอาว่าเราเป็นรังมดในเรือเดินสมุทรขนาดหลายหมื่นตัน
ที่กำลังจะเทียบท่า ที่อาจจะเป็นการเทียบท่าปกติของจักรวาลนะ
แต่เราไม่เคยเจอเท่านั้นเองครับ เกิดไม่ทัน

คอยลุ้นดูเองกะแล้วกัน

 

ขอบพระคุณทุกๆท่านเลยครับ กระจ่างชัด ช่างน่ากลัวจริงๆ มิน่าทำไมผู้คนถึงล้มตายจนเกือบหมดโลก โชคดีนะครับประเทศเรามีการทำบุญประเทศอยู่ตลอดและยังมีเทวดา มีพระโพธิสัตว์บารมีเข้มข้นคอยปกปักษ์รักษาอยู่ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ครบห้าพันปี

 

ขอบคุณครับคิดเหมือนกันเลย ครับแล้วพอคิดเชื่อมโยง
กับเรื่องเล่าที่พระคุณลุง ลองลำดับเหตุการณ์
ก็น่าสนใจว่าพอเชื่อมโยงตรงนี้แล้วน่าสนใจเลยครับ

กำลังหาเครื่องคิดเลขมาจิ้มอยู่ว่าจะอาศัยโอกาสนี้ทำแบ๊ตเตอรี่ยักษ์
มาเก็บไฟฟ้าไว้ใช้เพื่อจะเอามาใช้ได้อีกซัก 100 ปี กำลังคำนวนกระแสไฟได้ประมาณจะได้เท่าไหร่
จากปฏิกริยานี้ หรือทำปลั๊กสายดินซะงั้นดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง 5555
ลองมาเล่นดิ จะเอาวิกฤตินี้เป็นโอกาส ชาร์จไฟใช้เองไปซัก 100 ปีทั้งวงค์ตระกูล
55555 มาล้อเล่นกับชาวโลก เดี่ยวปั๊ด

 

เผื่อท่านใดสนใจไปคำนวณต่อ
แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นที่ทำให้เกิดสึนามีครั้งร้ายแรงมีความแรง 9.0 ริกเตอร์หรือเทียบเท่าระเบิด TNT 474 ล้านตัน ทำให้เกาะญี่ปุุ่่นขยับไปทางทิศตะวันออก 8 ฟุต หรือ 2.4 เมตร แกนโลกเคลื่อนที่ไป 17 เซนติเมตร
ทีนี้ถ้าจะทำให้แกนโลกเคลื่อนตัว สมมติว่าเคลื่อนไปเอาน้อยๆก็พอสักแค่ 100 กิโลเมตร ก็ต้องมีแบบแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น 580000 ครั้งติดต่อกัน เท่ากับระเบิด TNT 270 ล้านล้านตัน เท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มฮิโรชิมา 20000 ล้านลูก
เปรียบเทียบกับดาวเคราะห์น้อยที่ถล่มโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนที่แหลมยูคาทัน อันนั้นนัิกวิทยาศาตร์คำนวณว่าดาวเคราะห์น้อยขนาด 160-240 กิโลเมตรพุ่งชนโลกด้วยความเร็ว 54000 กม/ชั่วโมง เท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา 1 หมื่นล้านลูก แต่อันนั้นก็ไม่ได้แรงพอทำให้แกนโลกพลิก ทวีปต่างๆก็ไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งมากนัก อาจเพราะตกลงทะเลก่อนเลยลดความรุนแรงลงไปมาก แต่ก็พอที่จะกวาดล้างสิ่งมีชีวิตเกือบหมดโลก
ถ้าจะทำให้แกนโลกเคลื่อนที่ 100 กิโลเมตรก็ต้องมีดาวเคราะห์น้อยขนาดล้างไดโนเสาร์ 2 ลูกชนในมุมที่เหมาะสม ถ้าเอาแบบคำทำนายแกนโลกเคลื่อนแบบสุดขั้วก็คงประมาณ 1000 กิโลเมตรก็คูณ 10 เข้าไป คำนวณเล่นๆให้ปวดหัวซะงั้น อย่าว่าแต่มนุษย์เลยผมว่าแมลงสาปสักตัวก็คงไม่เหลือ ต้องไปอยู่ที่ดาวอังคารถึงจะรอด

 

ผมขออนุญาตแชร์นะครับพี่
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่แรงกระทำอย่างเดียวนะครับ แต่มันเป็นแรงเหนี่ยวนำ
ที่ดึงให้เกิดการหมุน โดยมีประจุไฟฟ้าโลกร่วมเป็นตัวร่วมดึงและผลักด้วย
ยกตัวอย่างเหมือนเราสร้างกระแสไฟสลับจนเกิดแม่เหล็กเทียมไปให้เกิดแรงผลักขั้วแม่เหล็กในแกนมอร์เตอร์
จนเกิดการหมุนก็ไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามหาศาลหมุนแกนมอเตอร์ ซึ่งเราใช้ประโยชน์จากแนวทางนี้ได้มากมายครับในโลกปัจจุบัน
ซึ่งการกระทำหรือเหนี่ยวนำจากสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดนี้จะต่างจากพลังงานจลล์ที่เกิดจากการชนหรือระเบิด
กระแสที่ส่งมานั้นนั้น มีองค์ประกอบ กับการดึงและดันของขั้วโลกเราเองที่มีพลังงานมหาศาลอยู่แล้วครับ
ประกอบกับโลกเรานั้นอยู่ในสภาพที่ลอยอยู่ ซึ่งถ้ามองในระดับการเสียดทาน กับจักรวาลนั้น
ที่จะมาเสียดทาน เหมือนเราใช้ลูกปืนลดแรงเสียดทานในมอร์เตอร์ ที่จะมาต้านจะทำให้เกิดการหมุนนั้นแทบจะเป็นศูนย์
ยิ่งถ้าเกิดเป็นการเหนี่ยวนำดึงในมุมที่ทำให้เกิดการหมุนตามและเร็วขึ้นนั้นยิ่งหมูมากครับ ที่จะเกิดการพลิกได้
ที่พี่คำนวณมาเป็นการกระทำภายในตัวมวลเอง เหมือนกับการ
ที่เราพยายามหยุดรถด้วยการกระโดดถีบรถในขณะที่เราอยู่บนรถนั้นด้วย
หรือไม่ก็มีก้อนมวลขนาดใหญ่มาชนอย่างแรง ซึ่งจะแตกต่างกัน
กับการเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้านะครับ
เหมือนรถไฟฟ้าแบบลอยบนราง นั้นหยุดได้เพียงการสร้างกระแสเพื่อลดการผลักเท่านั้นเอง
ขนาดหยุดรถไฟทั้งขบวนพลังงานที่ใช้ต่ำมากที่จะลดความเร็วและจอด
เบรคแบบอาศัยพลังเสียดทานเขาใช้เฉพาะฉุกเฉินเท่านั้นเองครับ ที่ใช้

ดังนั้นการหมุนของสิ่งของที่ลอยอยู่นั้น
การใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้านั้นหมูมากครับ
พวกเซียนไฮโลที่ฝังแม่เหล็กในมือ เพื่อหมุนลูกไฮโลนั้น
น่าจะคำนวนยากกว่านะครับ
เดี่ยวว่างๆจะลองคำนวญดูนะครับ ว่ากระแสไฟจักรวาลซักเท่าไหร่
ที่จะมาดึงขั้วโลกใต้ ให้พลิก หรือผลักขั้วโลกเหนือให้หงายได้

ขอคาราวะ 3 จอกครับ
นายด้น วิศวกรคนจน

 

วันนี้ไปเก็บรูปทางขึ้นวัด พระพุทธบาท 4 รอยมาให้ทุกท่านได้ชม และถือโอกาส ทดสอบ รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ klx 150 คันที่เตรียมไว้เพื่อลี้ภัยเตรียมพร้อมหากมีเหตูุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้วรถยนต์ไปไม่ได้มาด้วยครับ
ผลทดสอบ
- วิ่งไป วัดพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริมไป อ. แม่แตง อ. เชียงดาว อ.ไชยปราการ อ.ฝาง อ.แม่อาย สุดทาง ที่วัดท่าตอน ต.ท่าตอน แล้วกับมาเชียงใหม่ ระยะทางรวมประมาณ 370 กิโลเมตร ไปกลับ ใช้เวลา ประมาณ 10 ชั่วโมง รวมเวลาที่แวะตามทางถ่ายรูป+กินข้าว+ไว้พระ+จิบกาแฟ
- ความเร็ว 60-100 (วิ่งเร็วได้แค่นี้เพราะทางค่อยข้างลำบากมีแต่เหว)
- หมดน้ำมันไปกลับ 250 บาท กิโลเมตรละ 0.67 สตางค์ ทดสอบไว้เพื่อตอนเกิดเรื่องจะเตรียมน้ำมันไว้พอกับระยะทางไป ที่หลบภัย
- รถขนาดนี้แรงพอได้เหมาะสำหรับคนที่ขี่รถวิบากไม่เก่ง..เก่งแล้วจะอัพขึ้นแรงกว่านี้ตามความเหมาะสมครับ
- เครื่องยนต์โอเค ลองวิ่งยาวๆแล้วไม่มีปัญหา ยางไม่เป็นอุปสรรคเมื่อวิ่งบนถนนจริง ทางวิบากก้อวิ่งได้ดี ครับ
- ไม่ได้โฆษนาให้ยี่ห้อนี้ ไม่มีส่วนได้เสีย แต่เลือกซื้อรุ่นนี้เพราะเหมาะกับ ขนาดความสูง ของร่างกายของกระผม บรรทุกได้ ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1-2 คน วิ่งได้ประมาณ 70-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้
เส้นทางไปวัด พระพุทธบาท 4 รอยนะครับ
- จากแยก อ.แม่ริม ขึ้นไป ถึงตัววัด ประมาณ 25 กิโลเมตร
- ผมแบ่งออกเป็น 3 ช่วงนะครับ
1. ช่วงแรกทางจะลัดเลาะผ่านหมู่บ้าน ทุ่งนา ทางรถวิ่งสะดวก ทางค่อนข้างดี ประมาณ 7 กิโลเมตร แต่พื้นที่ราบถ้ามีน้ำทะลักมาจากภูเขาคงแย่
2. ช่วงที่ 2 ทางจะเริ่มขึ้นเขาลงเขา แต่ไม่สูงชันมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ จะปลูกบ้านบริเวณที่ราบของเชิงเขา แล้วจะมีร่องเขาผ่านเป็นบางช่วง ซึ่งชาวบ้านขุดบ่อดักน้ำไว้ใช้ตอนฤดูแล้ง จะเห็นเป็นสระน้ำขนาดกลางๆๆซึ่งดูน่ากลัวเวลา มีนำำ้ำป่าทะลักลงมามากเพราะทำเป็นคันดินง่ายๆและตัวบ้านคงโดนโคลนถล่มลงมาด้วยเนื่องจากป่าถูกถางปลูกข้าวโพด ลำใยไปเยอะมาก และถ้ามีโคลนถล่มถนนเส้นนี้จะไม่สามารถใช้งานได้เลยเพราะสร้างเลียบไปกับที่ราบของเชิงเขาตลอดทั้งเส้น และอีกด้านของถนนจะมีลำห้วยช่วงนี้น้ำเยอะ ไหลแรงพอดู ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร
3. ช่วงที่3 ทางจะคดเคี้ยวสูงชัน ป่าเริ่มรกทึบ ช่วงแรก แต่พอขึ้นไปเรื่อยๆ ป่าด้านบน จะถูกเปลี่ยนเป็นปลูกพื้นเศษฐกิจ เช่น ส้ม ทางแคบลง หักศอกมากขึ้น ถนนลื่น เนื่องจากความชื้นสูง จะไม่ค่อยมีบ้านคน มีแต่สวนแต่ไร่ของชาวบ้าน เสี่ยงต่อการโคลนดินถล่ม และแนวร่องเขาสูง แต่ไม่มีต้นไม้ยึด พอไกล้ถึงตัววัด จะผ่านหมู่บ้าน พระพุทธบาท 4 รอย ซึ่งถนนแคบลง บางช่วงชำรุดมาก ต้องระวังมากขึ้น ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร บ้านแถวนี้น่าจะเสี่ยงกับโคลนถล่มมากที่สุดครับ
พอเข้าไปในวัด ตัววัดสร้างไว้บนไหล่เขา มีลำห้วยไหลผ่านกลางระหว่างตัววัด วัดกับ วิหารสวย ที่กระผม ถ่ายรูปมาให้ดู จะอยู่คนล่ะฝั่งกัน มีลำห้วยไหลผ่านตรงกลาง ผมไม่แน่ใจว่าดินบนเขาที่วัดสร้างอยู่เป็นแบบไหน ตัววัดมั่นคงเพียงใด แต่วิหารที่สร้างขึ้นมาใหม่ใช้วิธีปรับพื้นที่โดนขุดูภูเขาส่วนหนึ่งแล้วปรับระดับให้เสมอกัน เหมือนแบ่งเค็ก แต่อีกฝั่งใช้วิีธีสร้างครอบรอยพุทธบาท และสร้างโดยไม่ได้ขุดแต่ใช้วิธีเทปูนทำเสาให้ระดับเท่ากัน อันนี้ต้องให้หัวหน้าชุดวิเคราะห์ให้ฟังครับ
สรุปตามความเห็นกระผมนะครับ วัดนี้ถ้าเกิดมีเหตุภัยพิบัติท่านจะไม่สามารถขึ้นไปได้เลยตามที่ท่านหัวหน้าชุดกระผมวิเคราะห์ไว้ก่อนนี้ เพราะอะไรคงตามที่ผมได้กล่าวมา ถ้าหากจะเดินเท้าขึ้นไป ภูเขาสูงชันขึ้นลำบากมาก และถ้าขึ้นไปอยู่ก่อน ไม่แน่ใจว่าที่วัดมีลำห้วยตัดผ่านกลาง เวลาฝนตกหนักน้ำจะพาอะไรมามั้ง คงต้องวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาเลยที่เดี่ยวครับ ผิดพราดประการใด ต้องขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และบรรยายไปตามสิ่งที่ได้เห็นมาครับ

 

ผมกำลังจะไปประมาณต้นเดือน ต.ค.นี้ขอบคุณสำหรับรูปภาพเส้นทางและถนนยังนี้ลุยไปได้สบาย

 

น้องโอ็คทำได้ดีมากๆครับ เหมือนอาหารตามสั่งเลยครับ
ผมก็ต้องออกklxเช่นกันครับเพราะเราเตรียมแผนไว้แล้วและคันนี้สามารถยัดใส่กระบะนาวาร่าได้สบายครับ
ผมมัวแต่เตรียมจัดของไปalaskaอยู่ครับ เอาแค่ยาก็ปาเข้าไป5ลังแล้วครับ100กิโลได้.
เมื่อจันทร์ที่แล้วผมไปถอยปืน cz455wmr. Magnumที่วังบรูพามาครับ
และเมื่อวานนี้พี่ที่ สนอส โทรมาบอกว่าปืน cz452lr. ของโครงการฯมาแล้วครับกำลังตอกเลขอยู่ครับ ราคา27500บาทครับ เป็น6ร่องเกลียวครับ นำใบป3 มาตัดสดได้เลยครับ
ตอนนี้ผมกังวลเรื่องพายุที่ฟิลิปปินครับ ดูจากแผนที่อากาศแล้วคณะเราจะไปปะมันพอดีเลยครับ ผมเลยคุยกับเลขาคณะเมื่อเย็นนี้ว่ามีแผนสำรองหรือไม่จะเอายังไงดี หรือจะไปนั่งจิบเบียร์ที่มากะติสักคืนก่อนก็ได้นะ

 

ในความเห็นส่วนตัวผมว่าที่พระพุทธบาทสี่รอยน่ะมีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีถนนเลาะชายเขาไปเรื่อยๆเหมือนกับทางเข้าเถิน ซึ่งลักษณะเช่นนี้ก็น่าจะมีการปิดกั้นบริเวณแห่งนี้ให้ตัดขาดจากโลกภายนอกสิ้นเชิงครับ
ส่งผลให้ใครก็ตามที่มาไม่ทันหรือจะเข้าพื้นที่แห่งนี้ตอนเริ่มเกิดเรื่องนั้นจะเสี่ยงมากๆครับเพราะทางที่เข้าไปนั้นจะเป็นร่องเขาที่สุ่มเสี่ยงที่จะโดนนำ้ป่าได้ครับและดินถล่มเกิดแน่ๆครับสำหรับเส้นทางเข้านี้
ดังนั้นเป็นการยากมากที่จะไปหลบภัยณ สถานที่แห่งนี้ครับ และถ้าจะไปอาศัยอยู่ก่อนผมว่าอยู่ลำบากเอาการนะครับไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ลงทุนสูงเกินไป เวลาก็กระชั้นชิดอีกต่างหากครับโดยส่วนตัวจากการให้สมาชิกในกลุ่มไปสำรวจแล้วไม่คุ้มครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

ส่วนที่สมาชิกdiscussกันเกี่ยวกับโลกหยุดน่ะครับ ผมเลยนึกได้ว่าผมได้เตรียมการรับมือไว้ว่าได้จัดวางลักษณะของตู้คอนฯไว้รองรับ โดยวางในแนวตามยาวของตู้ให้อยู่ตามแนวทิศตะวันออกไปตะวันตกนะครับ จะลดโอกาสเกิดอาการตู้พลิกได้ในระดับหนึ่งครับ
แล้วคุณต้นโอ็คช่วยกรุณาเล่าลักษณะเส้นทางและวิเคราะให้ทราบรายละเอียดมากขึ้นจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ

 

ผมสนใจประเด็นที่วิเคราะห์ครับ
คงเป็นเหมือนก้อนหินกลมๆ ที่เขาเอามาลอยบนปั้มน้ำ
ให้หมุนติ้วๆด้วยแรงยกและหนุนไม่เท่าไหร่เลย ที่ขายตามร้านแต่งสวนหย่อม
และการหนุมก็คงอยู่อย่างนั้น แต่พอเราเอามือไปแตะเบาๆ
ซึ่งปกติก็คงดันไม่หวถ้าวางกับพื้น
แต่พอเราแตะเบาๆ ก้อนหินก็จะเสียสมดุลหรือรูปแบบการหมุน
เบี่ยงเบนจากจุดเดิมไปง่ายมากๆ คงน่าจะเป็นแรงประมาณนี้นะครับ
คิดตามแล้วแรงไม่มากเลยนะครับที่มากระทำ
เพี่ยงแต่ที่ผ่านมาไม่มีแรงอะไรมาดันหรือขับเคลื่อนพอ

เลยคิดวิเคราะห์ประเด็นนี้ตามก็
ทำให้พอเห็นภาพเหมือนกันและคิดต่อได้มาก
และนึกภาพว่าแผ่นดินไหวอย่างไรโลกก็ไม่เป๋
เหมือนกระโดดบนรถ แต่ถ้ามีแรงดึงดูดภายนอก
มันทำให้เป๋ได้ง่าย
ถ้าในในมุมนี้ ที่พระอาจารย์รัตน์ยกมาน่ากลัวมากทันทีครับ
สรุปแล้ว ใครที่คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้นั้น
สงสัยคงต้องตีลังกาคิดใหม่นะครับ เผื่อจะมีส่วนในการตัดสินใจใหม่

ขอบคุณน้องต้น

 

น่าสนใจครับเห็นภาพพจน์ดี
และไอ้ก้อนหินหมุนๆนี่ ปัจจุบันที่บ้านกลายเป็นที่เล่นของลูกสาว
ทำให้นึกถึงแรงที่กระทำแบบที่ คุณต้น ที่สาม และคุณ MOn_kasem ว่า
เป็นไปได้และเห็นภาพพจน์ เพราะหินก้อนเบ่อเริ่มผมใชปั้มตัวนิดเดียวส่งน้ำทำให้หมุน
คงเหมือนสภาพไร้น้ำหนักของโลกในอวกาศ น้ำหนักบนโลกนั้นเกิดจากแรงดึงสู่ศูนย์กลาง
ซึ่งโลกเองก็ถูกดึงโดยพระอาทิตย์ แต่่โดยการหมุนนั้นก็คงเหมือนลูกหินนั้นแหละแรงกระทำภายนอกไม่ต้องมาก
และมันจะยากหมุนยากตอนที่มันเริ่มปั้มแต่พอหมุนไปแล้ว ก็หมุนต่อเนื่องด้วยน้ำหนักมันเอง
แต่พอมีอะไรมาจิ้มเหมือนลูกสาวผมเล่นมันก้เป๋ไป้เป๋มา แป๊บ เดี่ยวก็กลับมาทิศทางเดิมอีก

 

ถ้าใช้แรงน้อยอย่างนั้นก็ดี แต่จริงๆแล้วมันก็คำนวณได้อยู่ดี โดยใช้หลักวิเคราะห์แรงโน้มถ่วงของดาวที่สัมพันธ์กัน เช่นตำแหน่งของดวงจันทร์ที่แตกต่างกันไปทำให้เกิดการการหมุนส่ายของแกนโลกได้เหมือนกัน ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ว่าแรงภายนอกจะส่งผลอย่างไร ทำให้เราสามารถจำลองได้ว่าถ้าจะให้แกนโลกเคลื่อนที่ไปเท่าใดจะต้องใช้พลังงานเท่าใด
ข่าวดีก็คือใช้แรงจากภายนอกจะใช้พลังงานมากกว่าแรงจากภายในใลก ถ้าจุดกำเนิดแรงยิ่งห่างไกลจะต้องใช้พลังงานมากเป็นทวีคุณ ห่าง 2 เท่าก็จะใช้พลังงานเป็น 4 เท่า ห่าง 4 เท่าจะใช้พลังงานเป็น 16 เท่าตามกฎของแรง

 

ผมขออนุญาตถามเพื่อรับคำแนะนำนะครับ

คือเรื่องที่ดินของผมน่าจะตัดสินใจได้แล้ว ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ครับ

ผมกังวลเรื่องการขนส่ง เพราะอาจไม่สามารถนำเข้าไปติดตั้งในที่ดินที่ซื้อได้

ผมจึงอยากทราบความเห็นว่าเราจะใช้การก่อสร้างชนิดใดทดแทนได้หรือไม่ครับ
ผมเองไม่มีความรู้เรื่องการก่อสร้างครับ แต่หากแนะนำมา ผมจะใช้เป็นแนวทางศึกษาค้นคว้าต่อครับ

 

ความคิดเห็นของผมนะครับ..

ถ้าคุณชอบบ้านเหล็ก.. ในเมื่อไม่สามารถขนส่งและวางตู้คอนเทรนเนอร์ในพื้นที่ได้..
( พื้นที่ของผมเอง.. ก็ขนส่งและวางได้ยากมากๆเช่นกันครับ.. )
คุณก็หาซื้อเหล็กกล่องหรือจะ H-Beam, I-Beam จะไซด์ไหน..หนาเท่าไร..
แล้วขนเข้าไปเชื่อมในพื้นที่ได้เลยครับ..

ผมชอบแบบที่คุณหมอพรานออกแบบและทำเอาไว้.. มันสุดยอดจริงๆ..
ตอบโจทย์ได้เพียบเลย.. จะมาแบบไหนมุมไหน.. เอาอยู่แน่ๆเลยครับ..

ข้อดีของการซื้อเหล็กมาเชื่อมเองแบบนี้คือ.. คุณสามารถออกแบบขนาดห้องให้กว้างพอสมควรเลย
ส่วนวัสดุที่ใช้เป็นผิวผนังบ้าน..คุณจะเอาเหล็กหนาขนาดไหนก็จัดไปเลยครับ..

ส่วนฉนวนกันความร้อนถ่ายเท.. ก็ฉีดโฟมให้หนาเป็นฉนวน แล้วปิดผิวภายในห้อง
รวมทั้งการออกแบบให้อากาศสามารถหมุนวนถ่ายเทได้ในกรณีที่จำเป็นต้องปิดซีลตัวเองจากอากาศภายนอก..

ที่จริงแล้ว.. ผมว่าคุณลองสมมติสถานการณ์ภัยพิบัติที่คณคิดว่าจะเจอ..จะเผชิญกับมัน..
แล้วลองคิดดูว่า.. บ้านที่คุณคิดว่าจะทำ..มันสามารถป้องกันภัยให้ตัวคุณและครอบครัวได้มั๊ย???

 

หลังไมค์มาถามได้เรื่องคอนเทนเนอร์ ยกตั้งเสร็จเมื่อเดือนก่อนจ้า แต่ไม่เฟอขนาดของ พราน 4141 งบน้อยฮะ

 

สำหรับคนไม่ชอบอ่าน..............................................................

 

ถึงjapanแล้วครับ
อยากบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยบินผ่าพายุเช่นนี้เลยยังกับในหนังเลย ครับวัดใจกันทั้งคณะ

 

คณะเลยตัดสินใจนอนที่yogota2คืนดีกว่าครับเช้านี้เลยไปไหว้และกราบพระรอบๆโตเกียวเลยเพื่อขวัญและกำลังใจครับ ผมจะส่งภาพมาทีหลังครับ
ใครเคยดูหนังperfect strom. นั่นละ่ครับที่ผมเผชิญมา ที่เราแปลกกว่าบินairlineเพราะเราบินกับเครื่องC-130ครับเป็นเครื่องทหารดังนั้นจึงห้ามบินตัดเข้าน่านฟ้าจีนแบบเครื่องพานิชทั่วๆไปครับจึงต้องลุยอ้อมจึงหนีพายุไม่ได้ครับ