<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 25 ธันวาคม 2010.

  1. ยุ่น90

    ยุ่น90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +470
    ขอจอง องค์ที่ 42 ขอบคุณครับ
     
  2. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบครับผม พรุ่งนี้จัดส่งให้นะครับ
     
  3. Keal88

    Keal88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +12,139
    เข้ามาเป็นกำลังใจให้คับอ้าย
     
  4. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    วันนี้นอนดึกครับท่าน

    ดีครับกำลังใจนี้ขอเยอะดีครับ เขาว่าเหนี่อยกายนี้ไม่เป็นไรหายง่าย แต่อย่าเหนื่อยใจหายยากนะครับ

    ว่าแต่พระในรูปตัวแทนนี้งาม อีหลี คักๆ
     
  5. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบครับผม จัดให้ครับ
     
  6. Keal88

    Keal88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +12,139
    งามคักๆ มีอ้ายใจดีเค้าแบ่งมาให้ เอาลงโชว์หน่อยคับ เพื่อจะมีคนมีจีบ 555
     
  7. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    เบื่อเมื่อไหร่ก็บอกกันได้นะท่าน
     
  8. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    <CENTER></CENTER>พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ ประวัติพิธีการสร้างและปลุกเสก ครั้งยิ่งใหญ่


    พระ เครื่องที่มีพิธีกรรมปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทย วงการพระจักต้องจารึกพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งไว้ในครั้งนั้น ได้แก่ พิธีพุทธาภิเษก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งพิธีนี้ปลุกเสกที่พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานครนี่เอง และนับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นพระเครื่องที่ทางการได้จัดสร้างขึ้นเพื่อนำเงินรายได้จัดสร้างพุทธมณฑล ที่ตำบลศาลายา และบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียสถานที่สำคัญๆ ในทางพุทธศาสนาของเรา นับเป็นการสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถูกต้องครบถ้วนตามพิธีทางศาสนา ทำการปลุกเสกโดยพระคณาจารย์ที่มีชื่อ 108 องค์ ซึ่งทางการได้คัดเลือกมาจาก ทั่วราชอาณาจักร เป็นพระเครื่องที่มีพุทธานุภาพและปาฏิหาริย์หลายอย่างแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง

    พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ มีด้วยกัน 3 ชนิด คือ

    1.พระเครื่องเนื้อทองคำแท้ สร้างเพียง 2,500 องค์
    2.พระเครื่องเนื้อชิน สร้างเพียง 2,421,250 องค์
    3.พระเครื่องเนื้อดิน สร้างเพียง 2,421,250 องค์
    4.พระเครื่องชนิดเหรียญนิกเกิล สร้างเพียง 2,000,000 เหรียญ

    อนึ่ง นอกจากนี้ก็มีพิมพ์พิเศษ ซึ่ง พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร หนึ่งในกรรมการดำเนินงานได้สร้างขึ้นเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยม พระชุดนี้ พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร ได้นำเข้าพิธีพร้อมกับพระเนื้อชินและเนื้อดิน เมื่อเสร็จพิธีแล้วได้แจกให้กับกรรมการที่มีส่วนในการจัดงานให้ลุล่วงไปด้วย ดีคนละหนึ่งองค์ หากผู้ใดจะเช่าบูชานั้นจะสมนาคุณรายที่เช่าบูชาพระเนื้อดินหรือชินพร้อมกัน ครั้งละ 100 องค์

    สำหรับ พระเนื้อชินและเนื้อดินนั้นมีส่วนผสมที่น่าสนใจมาก คือ พระเนื้อชิน ที่ประกอบด้วยมวลสารของโลหะหลายอย่างเช่น พลวง, ดีบุก, ตะกั่วดำ และ แผ่นเงิน, ทองแดง ที่พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วประเทศทำการลงอักขระยันต์มาแล้ว ยังมีชนวน หล่อพระในพิธีอื่นๆ พร้อมผงตะไบ “พระกริ่งนวโลหะ” ทั้งของ สมเด็จพระสังฆราชแพ และ ท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ มาเป็นชนวนในการสร้างที่มากถึง 2,421,250 องค์

    ส่วน พระเนื้อดินผสมผงเกสร ก็มีมวลสารที่ประกอบด้วยดินจาก ทะเลสาบสงขลาเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นส่วนผสมหลัก เนื่องจากดินที่เกาะยอเนื้อละเอียดมีลายเป็นพรายน้ำในตัวและมีสีเหลืองนวล คล้าย พระซุ้มกอ, พระลีลาเม็ดขนุน โดยนำมาผสมกับผงเกสรดอกไม้ 108 ชนิด แล้วยังมีว่านต่างๆ พร้อมดินหน้าพระอุโบสถ, ดินหน้าพระอารามสำคัญของแต่ละจังหวัด และดินจากบริเวณที่ประดิษฐานพระประธานพุทธมณฑล รวมทั้งดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบล (ประสูติ-ตรัสรู้-ปฐมเทศนา-ปรินิพพาน) จากประเทศอินเดีย โดยมีผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ 108 รูป ผงพระเครื่องที่ชำรุด เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอด, นางพญา, ผงสุพรรณ, ซุ้มกอ, กำแพงลีลาเม็ดขนุน, ขุนแผนบ้านกร่าง ฯลฯ รวมทั้ง ผงตะไบพระกริ่งนวโลหะ ของ สมเด็จพระสังฆราชแพ, เจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ดังกล่าวข้างต้น

    เนื่อง จากการสร้างพระ 25 พุทธศตวรรษ เนื้อดินผสมผง ตั้งโรงงานสร้างขึ้นในบริเวณวัดสุทัศน์ พระเนื้อดินผสมผงก็สร้างด้วยจำนวนมากเท่ากับเนื้อชิน คือ 2,421,250 องค์ ซึ่งพอสร้างเสร็จและนำเข้าเตาเผาก็จะปรากฏเป็นสีที่แตกต่างกัน เช่น ดำ, น้ำตาลไหม้, เทา, เขียว, ขาวนวล, พิกุลแห้ง, หม้อใหม่, ครีม, ชมพู รวมทั้ง เนื้อสองสี (ที่เรียกว่า เนื้อผ่าน) และหากตั้งข้อสังเกตจะเห็นได้ว่าสีขององค์พระจะคล้ายกับพระที่สร้างในยุค โบราณ ทั้ง พระรอด, พระคง, พระเปิม และ พระบาง รวมทั้งพระเนื้อดินเผาสกุล นางกำแพง, ผงสุพรรณ และพระกรุของเมือง อยุธยา เป็นต้น

    ประธาน ฝ่ายสงฆ์ของพิธีกรรม คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร ประธานฝ่ายฆราวาส จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานฝ่ายจัดสร้างพระพิมพ์ รองประธานฝ่ายจัดสร้างได้แก่ พลตำรวจตรี เนื่อง อาขุบุตร ท่านได้เป็นกรรมการจัดจำหน่ายให้สาธุชนและผู้มีเกียรติทั้งหลายเช่าบูชาไป สักการะ หรือนำติดตัวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายได้อีกด้วย

    พิธีกรรม การทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่อง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำพิธีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกนำสิ่งของที่จะสร้างมาทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกเสียก่อนครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2500 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ มีพระคณาจารย์มาทำพิธีครบ 108 องค์ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงพระกรุณาเททอง หล่อพระทองคำ แล้วทรงพิมพ์พระเนื้อดินและชนิดเนื้อชินเป็นปฐมฤกษ์ แต่วันนั้นได้สร้างในบริเวณวัดสุทัศน์เป็นเวลาถึง 3 เดือนเศษจึงแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2500 ได้ทำพระเครื่องทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวแล้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งเป็นระยะเวลา 3 วัน 3 คืน รวมเวลาทำพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง 6 วัน 6 คืน มีพระเกจิอาจารย์ที่ทางการ ร่วมอาราธนามาปลุกเสก 108 องค์

    ราย นามพระอาจารย์ปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งได้สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามมหาวิหาร เมื่อวันที่ 2-3 และ 4 พฤษภาคม 2500 รวม 3 วัน มีดังนี้คือ

    1. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ กทม.
    2. พระครูสุนทรสมาธิวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
    3. พระครูญาณาภิรัต วัดสุทัศน์ กทม.
    4. พระครูพิบูลย์บรรณวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
    5. พระครูสุนทรศีลาจารย์ วัดสุทัศน์ กทม.
    6. พระครูพิศาลสรกิจ วัดสุทัศน์ กทม.
    7. พระมหาสวน วัดสุทัศน์ กทม.
    8. พระมหาอำนวย วัดสุทัศน์ กทม.
    9. พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ กทม.
    10. พระครูวิสิษฐ์วิหารการ วัดชนะสงคราม กทม.
    11. พระสุธรรมธีรคุณ (วงษ์) วัดสระเกศ กทม.
    12. พระอาจารย์สา วัดราชนัดดาราม กทม.
    13. พระปลัดแพง วัดมหาธาตุ กทม.
    15. พระวรเวทย์คุณาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
    16. พระครูฐาปนกิจประสาท วัดพระเชตุพน กทม.
    17. พระอินทรสมาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
    18. พระครูวินัยธร (เฟื่อง) วัดสัมพันธวงศ์ กทม.
    19. พระครูภักดิ์ วัดบึงทองหลาง กทม.
    20. พระครูกัลญาณวิสุทธิ วัดดอนหวาย กทม.
    21. พระอาจารย์มี วัดสวนพลู กทม.
    22. พระอาจารย์เหมือน วัดโรงหีบ กทม.
    23. พระหลวงวิจิตร วัดสะพานสูง กทม.
    24. พระอาจารย์หุ่น วัดบางขวด กทม.
    25. พระราชโมลี วัดระฆัง กทม.
    26. หลวงวิชิตชโสธร วัดสันติธรรมาราม กทม.
    27. พระครูโสภณกัลญานุวัตร (เส่ง) วัดกัลญาณมิตร กทม.
    28. พระครูภาวนาภิรัต (ผล) วัดหนัง กทม.
    29. พระครูทิวากรคุณ (กลีบ) วัดตลิ่งชัน กทม.
    30. พระครูไพโรจน์วุฒิคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร กทม.
    31. พระครูญาณสิทธิ์ วัดราชสิทธาราม กทม.
    32. พระอาจารย์มา วัดราชสิทธาราม กทม.
    33. พระอาจารย์หวน วัดพิกุล กทม.
    34. พระมหาธีรวัฒน์ วัดปากน้ำ กทม.
    35. พระอาจารย์จ้าย วัดปากน้ำ กทม.
    36. พระอาจารย์อินทร์ วัดปากน้ำ กทม.
    37. พระครูกิจจาภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม กทม.
    38. พระครูวินัยสังวร วัดประยุรวงศาวาส กทม.
    39. พระสุขุมธรรมาจารย์ วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
    40. พระครูพรหมวินิต วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
    41. พระอาจารย์อิน วัดสุวรรณอุบาสิการ กทม.
    42. พระครูวิริยกิจ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    43. พระปรีชานนทมุนี (ช่วง) วัดโมลี นนทบุรี
    44. พระครูปลัดแฉ่ง (หลวงพ่อแฉ่ง) วัดศรีรัตนาราม นนทบุรี
    45. พระปลัดยัง (หลวงพ่อยัง) วัดบางจาก นนทบุรี
    46. พระอาจารย์สมจิต วัดป่ากะเหรี่ยง ราชบุรี
    47. พระอาจารย์แทน วัดธรรมเสน ราชบุรี,
    48. พระครูบิน วัดแก้ว ราชบุรี
    49. พระอินท์เขมาจารย์ วัดช่องลม ราชบุรี
    50. พระธรรมวาทีคณาจารย์ (เงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    51. พระครูสังฆวิชัย วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
    52. พระอาจารย์สำเนียง วัดเวฬุวัน นครปฐม
    53. พระอาจารย์เต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
    54. พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว ปทุมธานี
    55. พระครูปลัดทุ่ง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี
    56. พระครูบวรธรรมกิจ (เทียน) วัดโบสถ์ ปทุมธานี
    57. พระครูโสภณสมาจารย์ (เหรียญ) วัดหนองบัว กาญจนบุรี
    58. พระครูวิสุทธิรังษี วัดเหนือ กาญจนบุรี
    59. พระมุจลินท์โมฬี (ดำ) วัดมุจลินท์ ปัตตานี
    60. พระครูรอด วัดประดู่ นครศรีธรรมราช
    61. พระครูวิศิษฐ์อรรถการ (คล้าย) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    62. พระครูสิทธิธรรมาจารย์ (พระอาจารย์ลี) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
    63. พระอาจารย์บุตร วัดใหม่บางปลากด สมุทรปราการ
    64. พระอาจารย์แสวง วัดกลางสวน สมุทรปราการ
    65. พระครูศิริสรคุณ (แดง) วัดท้ายหาด สมุทรสงคราม
    66. พระครูสมุทรสุนทร วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม
    67. พระสุทธิสารวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
    68. พระอาจารย์อ๊วง วัดบางคณที สมุทรสงคราม
    69. พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง) วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
    70. พระครูวิเศษสมุทรคุณ (ฮะ) วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร
    71. พระครูลักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    72. พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
    73. พระครูโฆษิตธรรมสาร (ครื้น) วัดสังโฆ สุพรรณบุรี
    74. พระครูวรกิจวินิจฉัย (พริ้ง) วัดวรจันทร์ สุพรรณบุรี
    75. พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    76. พระวรพจน์ปัญญาจารย์ (เฮี้ยง) วัดอรัญญิการาม ชลบุรี
    77. พระครูธรรมาวุฒิคุณ วัดเสม็ด ชลบุรี
    78. พระครูธรรมธร (หลาย) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี
    79. พระอาจารย์บุญมี วัดโพธิ์สัมพันธ์ ชลบุรี
    80. พระพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร สิงห์บุรี
    81. พระครูศรีพรหมโศภิต (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    82. พระชัยนาทมุนี วัดบรมธาตุ ชัยนาท
    83. พระอาจารย์หอม (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก ระยอง
    84. พระอาจารย์เมือง วัดท่าแพ ลำปาง
    85. พระครูอุทัยธรรมธารี วัดท้าวอู่ทอง ปราจีนบุรี
    86. พระครูวิมลศีลาจารย์ วัดศรีประจันตคาม ปราจีนบุรี
    87. พระครูสุนทรธรรมประกาศ วัดโพธิ์ปากพลี นครนายก
    88. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
    89. พระครูสวรรควิริยกิจ วัดสวรรคนิเวศ แพร่
    90. พระครูจันทร์ (หลวงพ่อจันทร์) วัดคลองระนง นครสวรรค์
    91. พระครูศีลกิติคุณ (อั้น) วัดพระญาติการาม อยุธยา
    92. พระอาจารย์แจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
    93. พระครูเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา
    94. พระอาจารย์มี วัดอินทราราม อยุธยา
    95. พระอาจารย์หวาน วัดดอกไม้ อยุธยา
    96. พระอาจารย์หน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    97. พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    98. พระอาจารย์จง (หลวงพ่อจง) วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    99. พระอธิการเจาะ วัดประตูโลกเชษฐ์ อยุธยา
    100. พระอาจารย์ศรี วัดสระแก อยุธยา
    101. พระสุวรรณมุนี วัดมหาธาตุ เพชรบุรี
    102. พระครูสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
    103. พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ วัดโพธิ์กรุ เพชรบุรี
    104. พระครูทม (หลวงพ่อทม) วัดสว่างอรุณ เพชรบูรณ์
    105. พระสวรรควรนายก วัดสวรรคาราม สุโขทัย
    106. พระโบราณวัตถาจารย์ วัดราชธานี สุโขทัย
    107. พระครูบี้ วัดกิ่งลานหอย สุโขทัย
    108. พระครูวิบูลย์สมุทรกิจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม

    [​IMG]



    อภินิหารพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ปืนเอ็ม16 กระหน่ำยิง ไม่ระคายผิว

    พระ เครื่องราคาสูงหลัก “แสน” หรือหลัก “ล้าน” ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะ “เข้มขลังตามมูลค่า” ขณะที่ราคาพระเครื่องหลัก “ร้อย” หรือหลัก “พัน” อาจมีพุทธานุภาพสูงส่งก็ได้เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องวัดได้ ซึ่งผิดกับความร้อน-หนาวที่วัดได้ด้วย “เทอร์โมมิเตอร์” แต่สิ่งเดียวที่พอจะวัดได้ก็คือ “ประสบการณ์” เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ให้พบเห็นทั้งในอดีตและปัจจุบันอยู่เสมอ “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ฉบับนี้จึงขอนำท่านผู้ อ่าน “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ย้อนกลับไปพบกับข่าวหนึ่งบนหน้าหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ที่ได้บันทึกเหตุการณ์เป็นข่าวที่สุดตื่นเต้นเป็นการพิสูจน์ถึงอภินิหารของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่ปัจจุบันยังมีให้บูชาในราคาไม่สูงเกินไปนัก
    โดย หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์ ฉบับที่ ๙,๔๗๐ ประจำวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘” ได้เสนอข่าวถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่มีรายงานข่าวจาก จังหวัดพัทลุง ว่าเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๑๘ เวลา ๐๔.๓๐ น. นายสืบศักดิ์ แกล้วทนง อายุ ๒๓ ปี บ้านอยู่หมู่ที่ ๒ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดูโขนสดและภาพยนตร์ที่ วัดป่าพยอม เพื่อกลับบ้าน ขณะขับขี่ไปถึง ตลาดป่าพยอม เกิดไปเฉี่ยวเอาราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้หนึ่งที่ทาง “ทหาร ผส.๕ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่” มาจัดตั้งหน่วยขึ้นที่ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน
    เพื่อทำ หน้าที่ปราบปรามผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งกำลังเดินกลับ เข้าค่าย จำนวน ๔ คน ราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้ที่ถูก “นายสืบศักดิ์” ขับรถเฉี่ยวจึงตะโกนบอกให้ “นายสืบศักดิ์” หยุดรถแต่ “นายสืบศักดิ์” เป็น “คนหูหนวก” จึงไม่ได้ยินเลยไม่หยุดรถ “หน่วยล่าสังหาร” ผู้นั้นจึงรัว “ปืนเอ็ม ๑๖” เข้าใส่ “นายสืบศักดิ์” ที่ยังขับรถทั้งหมด ๓๐ นัด กระสุนปืนพุ่งเข้าหา “นายสืบศักดิ์” เต็มแผ่นหลังจนตกลงจากรถจักรยานยนต์ หน่วยล่าสังหารทั้ง ๔ นายจึงกรูเข้าไปดูกลับเห็น “นายสืบศักดิ์” ปราศจากบาดแผลเนื่องจาก “กระสุนปืนเอ็ม ๑๖” ที่ยิงใส่นายสืบศักดิ์ไม่ระคายผิวเลย “หน่วยล่าสังหาร” ทั้ง ๔ นายจึงช่วยกันหักคอ “นายสืบศักดิ์” จนตายคามือแล้วพากันหลบหนีไป

    ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพ จึงพบว่าแผ่นหลังของ “นายสืบศักดิ์” ถูกกระสุนปืนเอ็ม ๑๖ หลายนัดแต่กระสุนไม่ทะลุ มีเพียง “รอยไหม้เกรียม” ที่เกิดจากพิษกระสุนปรากฏเป็นจุด ๆ เท่านั้น ส่วนเหตุที่เสียชีวิตก็เพราะกระดูกบริเวณแผ่นหลังและที่ลำคอของ “นายสืบศักดิ์” หักหลายชิ้นเจ้าหน้าที่ค้นในตัวศพจึงพบว่าหนุ่มใบ้ผู้เสียชีวิตมีเพียง “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ ๑ องค์” เท่านั้นซึ่งเป็นพระเครื่องที่จัดสร้างขึ้นเมื่อคราวมีงานฉลอง “๒๕ พุทธศตวรรษ” ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งครั้งนั้นรัฐบาลได้จัดตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับการสร้างพระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ สำหรับเป็นที่ระลึกและแจกจ่ายสมนาคุณให้แก่ประชาชน ผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการสร้าง “พุทธมณฑล” โดย “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนั้นมีรายการและรายละเอียดดังนี้

    ๑. เนื้อชิน พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระปฏิมากรแบบนูน เป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องปั๊มขนาดความกว้าง ๑.๘ ซม. สูง ๔.๗ ซม. หนา ๒ มม. วัสดุที่สร้างมีส่วนผสมต่าง ๆ ดังนี้ “พลวง, ดีบุก, ตะกั่วดำ, เนื้อนวโลหะ” และ “แผ่นทองแดง, แผ่นตะกั่ว, แผ่นเงิน” ที่พระอาจารย์ต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักรทำการลงอักขระเลขยันต์ และคาถาต่าง ๆ แล้วนำมาผสมหล่อหลอมเข้าด้วยกันโดยมีจำนวนสร้าง ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์

    ๒. เนื้อดิน พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระปฏิมากรแบบนูน สร้างขึ้นด้วยเครื่องปั๊มมีด้วยกัน ๒ พิมพ์คือ “พิมพ์เขื่อง” มีขนาดกว้าง ๑.๖ ซม. สูง ๔.๒ ซม. หนา ๖ มม. “พิมพ์ย่อม” มีขนาดกว้าง ๑.๔ ซม. สูง ๓.๙ ซม. หนา ๔ มม. วัสดุที่ใช้สร้างเป็น “เนื้อดิน” ทั้ง ๒ พิมพ์โดยนำดินที่ขุดจาก ทะเลสาบจังหวัดสงขลา ผสมกับ เกสรดอกไม้ ๑๐๘ ชนิด ตลอดทั้งว่านและใบไม้ต่าง ๆ พร้อม ดินจากหน้าพระอุโบสถ ที่มีความสำคัญจากจังหวัดต่าง ๆ อีกทั้งดินที่นำมาจากสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง ใน ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังใช้ผงวิเศษจากพระอาจารย์ต่าง ๆ และพระเครื่องโบราณที่ชำรุดเช่น “พระสมเด็จฯ, พระขุนแผน, พระนางพญา, พระรอด” มาผสมเข้าด้วยกัน จำนวนที่สร้าง ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์ เช่นกันกับเนื้อชินโดยพระเครื่องเนื้อดินเผามีด้วยกันหลายสี อาทิ สีดำ, สีเทา, สีขาวนวล, สีพิกุลแห้ง, สีหม้อใหม่, สีครีม, สีชมพู, สีน้ำตาลไหม้ ฯลฯ เป็นต้น

    ๓. เนื้อทองคำ พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากรแบบนูน สร้างด้วยเครื่องปั๊มมีขนาดกว้าง ๑.๘ ซม. สูง ๔.๗ ซม. หนา ๒ มม. ด้านหน้าและด้านหลังพุทธลักษณะโดยทั่วไปเป็นแบบเดียวกันกับพระ “เนื้อชิน” และจำนวนสร้างเท่ากับ พ.ศ. ที่สร้างคือ ๒,๕๐๐ องค์ โดยน้ำหนักทองคำองค์ละ ๖ สลึง ทางด้านพิธีกรรมการ ปลุกเสกครั้งแรกทำการปลุกเสกสรรพวัตถุและมวลสารต่าง ๆ ก่อนที่จะได้นำมาสร้างเป็นพระโดยประกอบพิธีปลุกเสก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืนด้วยกัน โดยในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธานพิธี สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ) สังฆนายก วัดเบญจมบพิตรฯ จุดเทียนชัยและมีพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป นั่งปรกปลุกเสก บรรจุพุทธาคมลงในสรรพวัตถุและมวลสารต่าง ๆ จนตลอดคืน จากนั้นวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ประธานคณะกรรมการฯเป็นประธานพิธี และพระราชาคณะ ๒๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูปนั่งปรกปลุกเสกบรรจุ พุทธาคมลงในสรรพวัตถุ และมวลสารต่าง ๆ ตลอดคืน

    วัน ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมายังพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหา วิหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระศรีศากยมุนีเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ ทรงเททองหล่อ “พระพุทธรูปทองคำ” จำนวน ๔ องค์ และทรงกดพิมพ์พระเครื่องฯ “๒๕ พุทธศตวรรษ” เนื้อดินจำนวน ๓๐ องค์ เป็นปฐมฤกษ์แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับเข้าสู่พระอุโบสถ สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ ถวายอดิเรกจบแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ส่วนพระเกจิอาจารย์ในจำนวน ๑๐๘ รูป เข้าสู่มณฑลพิธีนั่งปรกปลุกบรรจุพุทธาคมลงในสรรพวัตถุและมวลสารต่อไปจนตลอด คืน

    พิธีปลุกเสก ครั้งที่สองได้ทำพิธี ณ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ หลังจากพระเครื่องทั้งหมดได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อวันที่ ๒, ๓, ๔ พฤษภาคม ๒๕๐๐ เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ประกอบด้วยเกจิอาจารย์ชั้นนำในยุคนั้นอีก ๑๐๘ องค์ เช่น “หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ หลวงพ่อนาค วัดระฆัง หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม” เป็นต้น

    ด้วย เหตุนี้ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” จึงจัดเป็นพระเครื่องที่ดีเยี่ยมแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันยังพอแสวงหาได้ในราคาไม่สูงมากนัก เป็นสิริมงคลล้ำค่าที่จะอาราธนาขึ้นแขวนคอได้อย่างสบายใจ (ขอบคุณข้อมูลรายนามเกจิอาจารย์จากนิตยสารลานโพธิ์).


    เหรียญเสมา 25 พุทธศตวรรษ เนื้ออัลปาก้า สวยๆ

    [​IMG]





    [FONT=&quot]ให้บูชา 550บ. ครับ[/FONT]
     
  9. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]


    หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล

    พระผงดวงเศรษฐี เนื้อแก่มวลสาร หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ติดเกศา ชานหมาก จีวร ครบในองค์เดียว หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล รุ่นเสาร์ห้ามหาเศรษฐี 8 เมษายน 2543
    พุทธคุณเด่น ทางค้าขายโชคลาภ อยากเป็นเศรษฐี ต้องแขวนดวงเศรษฐีครับ มวลสารดีพิธีดี เจตนาดี ชื่อดี ดวงเศรษฐี ออกวัดป่าหนองหล่ม ปี 2543
    หน้าหลวงปู่คมชัด องค์นี้สวยมากครับ
    [​IMG][​IMG]




    [FONT=&quot]ให้บูชา 14,500บ. ครับ[/FONT]​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lpmm1.jpeg
      lpmm1.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      77.5 KB
      เปิดดู:
      559
    • lpmm2.jpeg
      lpmm2.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      78.9 KB
      เปิดดู:
      522
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2014
  10. Keal88

    Keal88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +12,139
    งาม คักๆๆๆๆๆๆๆๆ:cool::cool:
     
  11. jae in

    jae in เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +2,756
    ได้รับพระผงพรายสมุทรแล้วจ้า ขอบใจจ้า ว่าแต่องค์นี้ด้านหลังไม่มียันต์เลยอ่า แง แง แง
     
  12. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ส่วนใหญ่ที่ผมได้มาก็ไม่ค่อยติดยันต์ครับ แต่พุทธคุณเต็มพิกัดแน่นอนครับ
     
  13. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]


    กุมารทอง อ.ชุม ไชยคีรี ขนาดบูชา สูงประมาณ 12" สร้างน้อยเพียงร้อยกว่าองค์เท่านั้น

    กุมารทอง อ.ชุม ไชยคีรี กุมารทองของสาย อ.ชุม นี้ จะต่างกับของสายอื่นๆตรงที่ไม่มีส่วนผสมของผงพลายกุมาร ดินเจ็ดป่าช้า หรือวัสดุอาถรรพ์ใดๆเลย แต่จะใช้ตะกรุดเทพวิญญาณฝังข้างในองค์กุมารทอง แล้วอัญเชิญเทพวิญญาณเข้าประทับ

    คาถากุมารทองของ อ.ชุม ไชยคีรี

    (ควรตั้ง นะโม ก่อน 3 จบ)

    อธิษฐานขอให้เกิดอิทธิฤทธิ์
    มหากุมารา อิทธิฤทธิ อิทธิฤทธิ อิทธิฤทธิ สัมปันนัง สัจจะวาจัง อธิษฐามิ (3 จบ)

    บูชารับเครื่องสังเวย
    โอม นะสัมปันนัง มหากุมารา สัพพะพยัญชะนัง สาลีนัง โภชนานัง อุทะกัง วะรัง มหากุมารา ปริพุนชันตุ สวาหะ (3 จบ)




    สนใจpmถามราคาได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2013
  14. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    กุมารทอง อ.ชุม ไชยคีรี ขนาดพกพา สูงประมาณ 2" สร้างน้อยเพียงสองร้อยกว่าองค์เท่านั้น

    กุมารทอง อ.ชุม ไชยคีรี กุมารทองของสาย อ.ชุม นี้ จะต่างกับของสายอื่นๆตรงที่ไม่มีส่วนผสมของผงพลายกุมาร ดินเจ็ดป่าช้า หรือวัสดุอาถรรพ์ใดๆเลย แต่จะใช้ตะกรุดเทพวิญญาณฝังข้างในองค์กุมารทอง แล้วอัญเชิญเทพวิญญาณเข้าประทับ

    คาถากุมารทองของ อ.ชุม ไชยคีรี

    (ควรตั้ง นะโม ก่อน 3 จบ)

    อธิษฐานขอให้เกิดอิทธิฤทธิ์
    มหากุมารา อิทธิฤทธิ อิทธิฤทธิ อิทธิฤทธิ สัมปันนัง สัจจะวาจัง อธิษฐามิ (3 จบ)

    บูชารับเครื่องสังเวย
    โอม นะสัมปันนัง มหากุมารา สัพพะพยัญชะนัง สาลีนัง โภชนานัง อุทะกัง วะรัง มหากุมารา ปริพุนชันตุ สวาหะ (3 จบ)




    สนใจpmถามราคาได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2013
  15. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    น้ำมันมหานิยม หนูกับแมวรักกัน อ.ชุม ไชยคีรี ขวดใหญ่ พร้อมตะกรุด 1ดอก

    น้ำมันมหานิยมพุทธคุณ อาจารย์ ชุม ไชยคีรี ทดลองใช้มาแล้ว 40กว่าปี ดีทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ศัตรูกลับเป็นมิตร ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ ประสานความสามัคคี ผู้เข้าถึงคุณพระไม่ต้องใช้อาวุธป้องกันตัว ไม่ต้องกลัวผู้อื่นเบียดเบียน

    น้ำมันมหานิยม หนูกับแมวรักกัน อ.ชุม ไชยคีรี ขวดใหญ่ มีตะกรุดอยู่ในขวดด้วยหนึ่งดอก ขวดเดิม น้ำมันเดิม ได้รับมาจากที่บ้านของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี เลยครับ รับประกันความแท้

    วิธีใช้น้ำมันมหานิยม

    ก่อนใช้ต้องตั้งใจแผ่เมตตาว่า
    ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกัน เป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ ขอสัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงได้เสวยผลบุญอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้เทอญ

    หายใจเข้านึกว่า"พุท" อธิษฐานว่า คุณพ่อจงอยู่กับลูก หายใจออกนึกว่า "โธ" อธิษฐานว่าคุณแม่ช่วยลูกด้วย

    ทำจิตของเราให้มีความรัก และเมตตาสงสารในสัตว์ และเพื่อนมนุษย์ทั่วไป เคารพต่อผู้มีพระคุณคือ คุณพระบิดา คุณพระมารดา ว่าเป็นพระอรหันต์ของตน
    ถ้าต้องการจะให้ใครมาหาเรา หรือจะไปหาใคร หายใจออกนึกว่า "โธ" นึกถึงคนนั้นแล้วทำความปรารถนาว่า คุณแม่ช่วยลูกด้วย ตามความปรารถนาของเรา
    ขอให้ใช้ในทางที่สุจริต ชอบด้วยศีลธรรม
    ใช้น้ำมันเจิมหน้า ทาปาก คิ้ว ก่อนออกเดินทาง ภาวนา "พุทโธ" เป็นประจำ


    [​IMG]
    [​IMG]



    *ปิดรายการนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2013
  16. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    น้ำมันมหานิยม หนูกับแมวรักกัน อ.ชุม ไชยคีรี ขวดเล็ก

    น้ำมันมหานิยมพุทธคุณ อาจารย์ ชุม ไชยคีรี ทดลองใช้มาแล้ว 40กว่าปี ดีทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ศัตรูกลับเป็นมิตร ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ ประสานความสามัคคี ผู้เข้าถึงคุณพระไม่ต้องใช้อาวุธป้องกันตัว ไม่ต้องกลัวผู้อื่นเบียดเบียน

    น้ำมันมหานิยม หนูกับแมวรักกัน อ.ชุม ไชยคีรี ขวดใหญ่ มีตะกรุดอยู่ในขวดด้วยหนึ่งดอก ขวดเดิม น้ำมันเดิม ได้รับมาจากที่บ้านของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี เลยครับ รับประกันความแท้

    วิธีใช้น้ำมันมหานิยม

    ก่อนใช้ต้องตั้งใจแผ่เมตตาว่า
    ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกัน เป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ ขอสัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงได้เสวยผลบุญอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้เทอญ

    หายใจเข้านึกว่า"พุท" อธิษฐานว่า คุณพ่อจงอยู่กับลูก หายใจออกนึกว่า "โธ" อธิษฐานว่าคุณแม่ช่วยลูกด้วย

    ทำจิตของเราให้มีความรัก และเมตตาสงสารในสัตว์ และเพื่อนมนุษย์ทั่วไป เคารพต่อผู้มีพระคุณคือ คุณพระบิดา คุณพระมารดา ว่าเป็นพระอรหันต์ของตน
    ถ้าต้องการจะให้ใครมาหาเรา หรือจะไปหาใคร หายใจออกนึกว่า "โธ" นึกถึงคนนั้นแล้วทำความปรารถนาว่า คุณแม่ช่วยลูกด้วย ตามความปรารถนาของเรา
    ขอให้ใช้ในทางที่สุจริต ชอบด้วยศีลธรรม
    ใช้น้ำมันเจิมหน้า ทาปาก คิ้ว ก่อนออกเดินทาง ภาวนา "พุทโธ" เป็นประจำ


    [​IMG]



    *ปิดรายการนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2013
  17. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    พระหลวงปู่ทวดเขาอ้อ อ.ชุม วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 ของดีพุทธคุณสูง ด้านหน้ามีรอยเม็ดเหล็กไหลหลุด แต่พิเศษที่ด้านหลังฝั่งเม็ดเหล็กไหลหายาก และมีจำนวนน้อยมาก

    พิธี เดียวกันกับพระนางตรา ท่าเรือ ออกที่วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 โดยความร่วมมือกันของศิษย์สายเขาอ้อ อ.ชุม ขุนพันธ์ฯ จำนวนการสร้างนั้นมีถึง 84,000 องค์ พระมีจำนวนมาก เมื่อเหลือจากแจกจ่ายไปแล้ว ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกเข้าไปทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ

    มวล สารที่รวบรวมมามี พระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การ ประกอบพิธีพุทธา ภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช โดยนิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเข้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี,หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การ ปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    สามารถบูชาแทนหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ได้เลย เพราะใช้บล็อคเดียวกับหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ และผสมมวลสารของหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ด้วย ของดีทีี่คนยังไม่รู้มากแต่ลูกศิษท์สายอาจารย์ชุมรู้ดี และไล่เก็บเงียบมานานแล้ว ปัจจุบันอยู่กับลูกศิษท์ต่างชาติเสียเยอะแล้ว ของแท้แน่นอนรับประกันชั้นหนึ่งครับ


    ให้บูชาเบาที่ 1,750บ.ครับ(ที่อื่นแรงกว่านี้แน่นอน และส่วนมากหาของไม่ได้แล้วครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_1926-horz.jpg
      SAM_1926-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      267.1 KB
      เปิดดู:
      106
    • SAM_1930.JPG
      SAM_1930.JPG
      ขนาดไฟล์:
      146.6 KB
      เปิดดู:
      101
    • SAM_1929.JPG
      SAM_1929.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.1 KB
      เปิดดู:
      79
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2013
  18. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    พระหลวงปู่ทวดเขาอ้อ อ.ชุม วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 ของดีพุทธคุณสูง เปิดให้บูชาตามสภาพครับ สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาเอาพุทธคุณครับ

    พิธี เดียวกันกับพระนางตรา ท่าเรือ ออกที่วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 โดยความร่วมมือกันของศิษย์สายเขาอ้อ อ.ชุม ขุนพันธ์ฯ จำนวนการสร้างนั้นมีถึง 84,000 องค์ พระมีจำนวนมาก เมื่อเหลือจากแจกจ่ายไปแล้ว ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกเข้าไปทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ

    มวล สารที่รวบรวมมามี พระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การ ประกอบพิธีพุทธา ภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช โดยนิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเข้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี,หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การ ปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    สามารถบูชาแทนหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ได้เลย เพราะใช้บล็อคเดียวกับหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ และผสมมวลสารของหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ด้วย ของดีทีี่คนยังไม่รู้มากแต่ลูกศิษท์สายอาจารย์ชุมรู้ดี และไล่เก็บเงียบมานานแล้ว ปัจจุบันอยู่กับลูกศิษท์ต่างชาติเสียเยอะแล้ว ของแท้แน่นอนรับประกันชั้นหนึ่งครับ


    [FONT=&quot]ให้บูชา 550บ.ครับ [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_1935-horz.jpg
      SAM_1935-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      259.8 KB
      เปิดดู:
      95
    • SAM_1936.JPG
      SAM_1936.JPG
      ขนาดไฟล์:
      130 KB
      เปิดดู:
      115
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2013
  19. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    พระผงพุทธศรีวิชัย อ.ชุม ไชยคีรี วัดพระบรมธาตุ

    พระผงพุทธศรีวิชัย แบบเดิมและรวมผงจากพระผงสมัยศรีวิชัย จากถ้ำต่างๆในภาคใต้ เช่น จังหวัดพัทลุง ตรัง นราธิวาส ไชยา รวมกับผงว่านที่เคยสร้างพระมาแล้วทุกครั้ง

    พระรุ่นนี้อาจารย์ชุมและ พล.ต.ต. ขุนพันธ์ รักษ์ราชเดช ร่วมกับ”ศิษย์สำนักเขาอ้อ” ร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ. 2511 โดยทำพิธีปลุกเสกที่วัดบ้านสวน พระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมปลุกเสกก็มีพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน ฯลฯ ตอนพิธีปลุกเสกก็มีปรากฏการณ์มหัศจรรย์หลายอย่างเกิดขึ้น เสร็จพิธีแล้วยังมีการทดลองความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็นจะๆ กันเลย วิเศษทางแคล้วคลาด คงทน กันอาวุธและอุปัทวเหตุ ทำน้ำมนต์แก้โรคภัย ไข้เจ็บ

    [​IMG]


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2013
  20. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]
    หลวงพ่อแดงพุทโธ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเงินเมื่อ 69 ปีล่วงมาแล้ว (พ.ศ. 2545) ในสมัยท่านมีชีวิตอยู่ท่านเป็นพระวาจาสิทธิ์เชี่ยวชาญในทางวิปัสสนา ให้พรผู้ใดก็มักเป็นไปตามพรที่ท่านให้ ปกติท่านพูดใช้คำ "พุทโธ" เป้นประจำติดปากจนประชาชนทั่วไปเรียกชื่อท่านว่า หลวงพ่อแดงพุทโธ นอกจากนั้นหลวงพ่อแดงยังมีความชำนาญในทางไสยศาสตร์แสดงอภินิหารอย่างน่า มหัศจรรย์ เป็นที่เคารพนับถือและเป็นที่พึ่งของประชาชนทั่วไปจนกระทั่งบัดนี้

    ชาติกำเนิด
    ภูมิลำเนาของหลวงพ่อแดง เกิดที่บ้านแหลมน้ำ หมู่ที่ 9 ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 9 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ ... เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2379 บิดาชื่อนายหนู มารดาชื่อนางอ่อน
    เมื่อหลวงพ่อแดงเจริญวัยขึ้นพอที่จะศึกษาวิชาการได้แล้ว บิดาของท่านผู้เห็นการไกลก้ได้นำหลวงพ่อแดงไปฝากให้ศึกษากับ ท่านอาจารย์หลวงพ่อภารรัตน์แก้ว ณ สำนักวัดถ้ำเขาเงิน หลวงพ่อภารรัตน์แก้วท่านได้เอาใจใส่อบรมสั่งสอนจนมีความรู้ความชำนาญในภาษา ไทย และศึกษาภาษาขอม เมื่อมีความรู้ดีแล้วสมควรที่จะให้อุปสมบทเป็นภิกษุ ในสมัยนั้นภิกษุหลวงพ่อแดงได้ศึกษาธรรมวินัยจนแตกฉานแล้ว ก็ศึกษามุ่งตรงในทางวิปัสสนา โดยอาจารย์หลวงพ่อภารรัตน์แก้วให้การศึกษาอบรมจนเป็นที่ชำนาญ นอกจากศึกษาธรรมวินัย และปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว อาจารย์หลวงพ่อภารรัตน์แก้วยังประสิทธิ์ประสาทเวทย์ศาสตร์และไสยศาสตร์ ให้หลวงพ่อแดงได้ศึกษา จนมีความชำนาญแสดงอภินิหาร ได้อย่างน่าอัศจรรย์จนเป็นที่นับถือเลื่องลือทั่วไปของประชาชน เมื่ออาจารย์หลวงพ่อภารรัตน์แก้ว มรณภาพแล้วหลวงพ่อแดงก็รับตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนท่านอาจารย์ ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสก้ได้ปรับปรุงบูรณะวัดถ้ำเขาเงินให้มีความเป็น อยู่ดีขึ้นหลายประการ เป็นต้นว่าได้สร้างกุฏิเพื่มขึ้น และนอกจากนั้นหลวงพ่อแดงได้วางโครงการสร้างเจดีย์หน้าถ้ำเขาเงินไว้แต่ไม่ สำเร็จ การสร้างพระเจดีย์หน้าถ้ำนี้เพิ่งมาสำเร็จ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสถ้ำเขาเงิน และรับสั่งให้พระยาจรูญราชโภคากรเจ้าเมืองหลังสวนในสมัยนั้นเป็นผู้สร้างโดย พระองค์พระราชทานราชทรัพย์ดำเนินการ

    กิจวัตรของหลวงพ่อแดงพุทโธ
    โดยปกติท่านปฏิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นตัวอย่างที่ดีของบรรดาศิษย์ มีเมตตากรุณาแก่คนทั่วไป กิจวัตรประจำวันของท่าน เช่น บิณฑบาตเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าตอนหลังพรรษาของท่านมากขึ้น และร่างกายของท่านทรุดโทรมไปตามภาวะของสังขารการบิณฑบาตนี้ ท่านมิได้ท้อถอยคงปฏิบัติเป็นประจำตลอดมา จนถึงชาวบ้านมีความสงสาร นำอาหารมาให้ท่านบิณฑบาตไกล้ๆ วัดและยังมีกิจวัตรการบำเพ็ญวิปัสสนา อีกอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อแดงพุทโธท่านปฏิบัติเป็นประจำโดยเคร่งครัดเมื่อถึง กำหนดเวลา แม้ว่ามีแขกมาหาท่าน ท่านก็เข้าปฏิบัติกิจของท่านทันที จนเป็นที่ทราบกันทั่วไป นอกจากหลวงพ่อแดงพุทโธท่านปฏิบัติด้วยตนเองในวิปัสสนาแล้ว ท่านยังมีความเมตตาให้การฝึกอบรมพระภิกษุสามเณรอุบาสกอุบาสิกาให้เจริญ วิปัสสนาด้วย ดังนั้นสำนักวัดถ้ำเขาเงินของหลวงพ่อแดงจึงอบอวลไปด้วยธรรม เป็นสังฆารามที่เต็มไปด้วยสันติสุขโดยอาศัยสันติธรรมเป็นแนวทาง ยังมีกิจวัตรอีกอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อแดงปฏิบัติเป็นประจำเช่นเดียวกันคือการ รับนิมนต์ ทั้งนี้ก็ด้วยความเมตตากรุณาของท่านเอง เมื่อใครนิมนต์ท่านไปเจริญพระพุทธมนต์หรือพิธีใดๆ อันเป็นมงคลหรืองานอวมงคล หลวงพ่อแดงพุทโธท่านไปในงานนั้นเป็นที่ชื่นชอบของชาวพุทธทั่วไป มีครั้งหนึ่งความเมตตาของท่านก่อให้เกิดความลำบากแก่หลวงพ่อคือ เนื่องจากสมัยนั้นมีอั้งยี่ดาษดื่นทั่วไป ได้มีบุคคลพวกหนึ่งได้มาอาราธนาขอศีลจากหลวงพ่อแดง ณ วัดถ้ำเขาเงิน เมื่อรับศีลแล้ว บุคคลของพวกนั้นก็กลับจากวัดไป ภายหลังทางราชการทำการปราบปรามคณะอั้งยี่ต่างๆ และคณะบุคคลที่อาราธนาหลวงพ่อให้ศีลก็เป็นอั้งยี่คณะหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้หลวงพ่อแดงพุทโธจึงถูกทางการเพ่งเล็งกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับ สนุนคณะอั้งยี่ ความจริงหลวงพ่อให้ศีลแก่บุคคลพวกนั้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์เพื่อเฉลิมฉลอง ศรัทธา ด้วยเมตตาจิตของหลวงพ่อเท่านั้น มิได้มีเจตนาที่จะส่งเสริมบุคคลคณะนั้นไปในทางชั่วแต่ประการใด เพราะผู้รับศีลย่อมตั้งตนและถือปฏิบัติเป็นคนดี เพราะหลวงพ่อแดงสอนให้คนทำดีต่างหาก แต่เมื่อทางราชการเห็นเป็นอย่างนั้นก็เป็นกรรมของหลวงพ่อแดงพุทโธ จึงถูกทางราชการอาราธนาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำการสอบสวนก่อนที่จะมีการสอบสวน ทางการได้ให้หลวงพ่อแดงพุทโธลาสิกขาบท และเมื่อได้สอบสวนเป็นที่แน่ชัดแล้ว ปรากฏว่าหลวงพ่อแดงพุทโธเป็นผู้บริสุทธิ์จึงพระยาวุฒิไกรชาญคดีธรรมการได้ จัดการให้หลวงพ่อแดงพุทโธอุปสมบทเป็นภิกษุตามเดิม ณ อุโบสทวัดสามปลื้มตอนนั้นหลวงพ่อมีพรรษา 45 พรรษา เมื่ออุปสมบทใหม่แล้วหลวงพ่อแดงพำนักอยู่วัดสามปลื้มครึ่งเดือน แล้วเดินทางกลับหลังสวน ตามที่หลวงพ่อแดงพุทโธเดินทางไปกรุงเทพฯ ครั้งนั้นมีศิษย์ตืดตามไปด้วยสามคน คือ นายหนู ศักดิ์แสง เวลานั้นอายุ 58 ปี และยังมีชีวิตอยู่ และนายเชื่อม นายศึก สองคนนี้เสียชีวตแล้วตามคำบอกเล่าของนายหนู ศักดิ์แสง ว่าเวลาที่หลวงพ่อแดงพุทโธพำนักอยู่ที่วัดสามปลื้มนั้นเป็นที่เคารพของพระยา วุฒิไกรชาญคดีธรรมการ และปรชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากภรรยาของพระยาผู้นี้ถึงกำหนดคลอดบุตรแล้วมีความเจ็บปวดใน การคลอดเป็นอย่างมาก แต่ไม่ยอมคลอดภรรยาของพระยาผู้นี้เจ็บปวดทรมานอยู่หลายวัน ต่อมาด้วยเมตตาจิตรของหลวงพ่อแดงพุทโธ ที่จะสองคุณโยมอุปฐากจึงได้นำน้ำมนต์เสดาะอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อไป ประพรมภรรยาของพระยาดังกล่าว ผลปรากฏว่าคลอดออกมาเรียบร้อยและสุขสบายทั้งมารดาและทารก นี่เป็นสาเหตุที่อภินิหารของหลวงพ่อแดงพุทโธ ปรากฏใต้ฟ้ากรุงเทพมหานคร

    เมื่อหลวงพ่อกลับถึงหลังสวนได้พำนักที่วัดน้ำฉ่า (วัดชลธารวดี ปัจจุบัน) ชั่วคราว เพราะหลวงพ่อแดงพุทโธเป็นที่ชอบพอถูกอัธยาศัยกับหลวงพ่อนวล เจ้าอาวาสวัดน้ำฉ่า หลวงพ่อแดงพักอยู่พอสมควรแล้วกลับมาอยู่ประจำวัดถ้ำเขาเงินตามเดิมจนวัยชรา แม้ว่าสังขารของหลวงพ่อแดงพุทโธไม่ค่อยอำนวยให้เกี่ยวกับการปฏิบัติกิจวัตร ประจำวันก็ตามแต่หลวงพ่อก็ไม่ได้ท้อถอยคงปฏิบัติกิจเป็นประจำ จนวาระสุดท้ายของหลวงพ่อมาถึงอันเป็นไปตามกฏแห่งกรรม


    มรณภาพ
    หลวงพ่อแดงพุทโธมรณภาพด้วยโรคชรา ในอาการนั่งสมาธิโดยสงบมีพรรษา 97 พรรษาเมื่อ พ.ศ. 2476 ยังความเศร้าโศกแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ ญาติโยมและประชาชนทั่วไป เหตุที่มหัศจรรย์ก่อนที่หลวงพ่อแดงพุทโธจะมรณภาพคือท่านกำหนดรู้เวลามรณภาพ ของท่าน กล่าวคือในวันที่หลวงพ่อจะมรณภาพหลวงพ่อสั่งให้พระภิกษุคล้อย (ในกาลต่อมาเป็นผู้ใหญ่คล้อย ฉิ่งวังตะกอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.วังตะกอ) ไปแจ้งข่าวแก่พระครูภมร จริยคุณ ศิษย์ของหลวงพ่อผู้หนึ่ง ณ วัดสมุเขตตาราม ให้บอกว่าหลวงพ่อจะมรณภาพวันนี้ตอนบ่าย และสั่งไว้ว่า เมื่อหลวงพ่อมรณภาพแล้าให้จัดบูชาเพลิงศพของหลวงพ่อที่ต้นสารภีไกล้กับกุฏิ ของท่านเป็นที่น่าเสียดาย พระครูภมร จริยคุณ มาถึงตอนบ่ายช้าไปเพียงเล็กน้อย หลวงพ่อมรณภาพเสียแล้วเวลาประมาณบ่าย 2 โมง (14 นาฬกา) มิฉะนั้นคงจะได้ฟังเรื่องการดำเนินการบำเพ็ญศพจากปากของหลวงพ่อว่าควร ปฏิบัติอย่างไรจึงจะสมควร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พระครูภมรได้ปรึกษาญาติโยมพร้อมกันแล้วก็อาราธนาศพหลวงพ่อแดงพุทโธไปตั้ง บำเพ็ญกุศล ณ วัดสมุเขตตาราม 7 วัน 7 คืน เมื่อครบกำหนดแล้วให้เก็บศพไว้เพื่อเตรียมการบูชาเพลิงศพต่อไปเวลาล่วงเลยมา พอสมควร เมื่อพระครูภมรจริยคุณ ได้เตรียมเมรุเสร็จแล้วก็กำหนดการบำเพ็ญกุศล และจัดบูชาเพลิงศพหลวงพ่อแดงพุทโธ แต่ตอนที่ยกศพขึ้นเมรุ ปรากฏว่ายกศพไม่ขึ้นเป็นที่น่าอัศจรรย์ ผู้ที่ไปยกนั้นมีเหตุเป็นไปต่างๆ จนไม่สามารถยกศพขึ้นเมรุได้ เมื่อเกิดเหตุดังนั้นพระครูภมรจริยคุณระลึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อแดงพุทโธได้ และดูเหมือนยังก้องโสตประสาทอยู่ว่า ให้นำไปบูชาเพลิงที่วัดถ้ำเขาเงินไกล้ต้นสารภี พระครูภมรจริยคุณ จึงตัดสินใจนำศพกลับมาบูชาเพลิง ณ วัดถ้ำเขาเงิน ส่วนอัฐิของหลวงพ่อแดงก็เก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยจนเสร็จพิธีบารมีความดีที่ หลวงพ่อแดงพุทโธ ได้บำเพ็ญมาตามแนวทางพุทธศาสนา ตลอดเมตตาธรรมของหลวงพ่อที่มีแก่ชาวพุทธทั่วไปนั้น ได้ประมวลให้บรรดาศิษย์ของหลวงพ่อตลอดผู้ที่เคารพนับถือหลวงพ่อได้ยึดถือ เป็นแนวทางปฏิบัติ และน้อมระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงพ่อตลอดมา

    หลังจากหลวงพ่อแดงพุทโธมรณภาพแล้ว ผู้ที่เคารพนับถือหลวงพ่อเชื่อกันว่าดวงวิญญาณของหลวงพ่อยังมีความเมตตาธรรม อยู่เนืองนิจ เมื่อมีเรื่องเหตุเดือดร้อนประการใดก็ตาม ก็บวงสรวงดวงวิญญารของหลวงพ่อให้ช่วยเหลือดลบันดาลให้พ้นทุกข์ และก็เป็นที่ประจักษ์ว่า เป็นความจริงสมความมุ่งหมาย จนเป็นที่เลื่องลือในอภินิหารในเมตตาธรรมของหลวงพ่อเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง นัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ นายเขียน อบแพทย์ ผู้เป็นญาติของหลวงพ่อแดงพุทโธ ได้เสียสละเงินส่วนตัว 80 บาทจัดดำเนินการสร้างรูปปั้นของหลวงพ่อขึ้นไว้สำหรับประชาชนทั่วไปได้เคารพ โดยมีนาย นายแอบ ยอดอุดม เป็นช่างปั้นรูปปั้นหลวงพ่อแดงพุทโธจึงมีมาจนถึงปัจจุบัน

    [​IMG]
    อภินิหาร
    สำหรับอภินิหารของหลวงพ่อแดงพุทโธ สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้สอบถามจากบรรดาศิษย์ของหลวงพ่อตลอดจนผู้ไก ล้ชิดที่มีชีวิตอยู่ มีรายชื่อดังนี้ (พ.ศ. 2545)
    1. นายหนู ศักดิ์แสง ศิษย์ก้นกุฏิขณะอายุ 80 ปี (พ.ศ. 2545) อยู่หมู่ที่ 12 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    2. นายซ้อน เพชรโสม เป็นทั้งศิษย์และญาติ อยู่หมู่ที่ 1 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    3. นายพร้อม ศิริรัตน์ ศิษย์หลวงพ่อ อยู่หมู่ที่ 12 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    4. นายชวน ยิ่งคีรี ศิษย์ก้นกุฏิขณะอายุ 80 ปี (พ.ศ. 2545) อยู่หมู่ที่ 8 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    5. นายสุวรรณ ศิริรัตน์ ศิษย์หลวงพ่อ อยู่หมู่ที่ 4 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    6. นายอ้วน ขาวสมุทร ศิษย์หลวงพ่อ อยู่หมู่ที่ 3 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

    1. หลวงพ่อแดงพุทโธรักษาโรคภัยด้วยนิ้วเพชร
    จากคำบอกเล่าของ นายหนู ศักดิ์แสง ว่านิ้วเพชรของหลวงพ่อไม่ตัดแต่ก็ยาวไม่ออก เมื่อใครเจ็บป่วยเป็นอะไรมาหาหลวงพ่อ เช่น เป็นฝี, ปวดท้อง, แผลเน่าเปื่อย เป็นต้น เมื่อมาถึงหลวงพ่อก็จะกล่าววาจาว่า "พุธโธจา พุทโธเอย" แล้วชี้ด้วยนิ้วเพชร ปรากฏว่าหายทุกรายไป
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าหลวงพ่อผู้หนึ่งไปตั้งกองตัดไม้ ณ ทุ่งแร่ หมู่ที่ 10 ต.วังตะกอ ได้ตั้งทับอยู่ไกล้หนองน้ำชื่อว่า หนองนาคบุค หนองนี้เป็นที่เลื่องลือว่า เป็บปราบโป่งเทพารักษ์สิงสถิตย์อยู่เฮี้ยนนักใครไปทำไม่ดีก็เป็นให้โทษทุก ราย จนเป็นที่หวั่นเกรงของชาวบ้านทุ่งแร่ยิ่งนัก เหตุเกิดในเช้าวันหนึ่งหลวงพ่อท่านไปตักน้ำแล้วล้างหน้าลงในหนองน้ำ ต่อมาก็ปรากฏว่าจมูกของท่านบวมโตใช้ยาอะไรรักษาก็ไม่ผ่อนคลายความเจ็บปวด อยู่หลายวัน หลวงพ่อผู้นี้นึกถึงหลวงพ่อแดงขึ้นได้ จึงมาหาหลวงพ่อแดงที่วัดถ้ำเขาเงิน พร้อมพูดว่า "ขรัวแดงที่เขาว่าเก่งนัก ลองชี้จมูกให้หายบวมสักที่" ทันไดหลวงพ่อก็กล่าวว่า "พุทโธๆ พุทโธเอย จาพุทโธ" พร้อมกับชี้ตรงไปที่จมูกพอลดนิ้วเพชรก็ปรากฏว่าจมูกที่บวมก็ผ่อนคลาย หายบวมโตลงทีละนิดๆ จนหายเป็นปกติเป็นที่อัศจรรย์ในความศักดิ์สิทธิ์ของนิ้วเพชรหลวงพ่อยิ่งนัก เป็นที่นับถือของ พระธรรมรามคณีฯ เป็นอย่างยิ่งและก็สมัยที่พระธรรมรามคณีสุปรีชา จัดหาไม้สร้างอุโบสถนั่นเองได้ให้คนงานมาตัดโค่นไม้ตะเคียนที่หน้าถ้ำเขา เงินริมตลิ่งสูงแม่น้ำหลังสวน ตรงที่ต้นตะเคียนปัจจุบัน เมื่อคนงานโค่นต้นตะเคียนตกลงไปในวังน้ำวัดถ้ำเขาเงิน ใช้คนเท่าไรก็ตามจนถึงร้อยๆ คนก็ดึงต้นตะเคียนไม่ขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าคุณธรรมารามคณีฯ ซึ่งเคยเชื่อในอภินิหารของหลวงพ่อแดงพุทโธ ระลึกถึงหลวงพ่อแดงพุทโธ เมื่อระลึกถึงหลวงพ่อแดงพุทโธขึ้นมาได้จึงจัดให้คนงานทำเสลี่ยงไปนิมนต์หลวง พ่อแดงให้มาชี้ไม้ต้นตะเคียน หลวงพ่อรับนิมนต์แล้วก็ขึ้นนั่งบนเสลี่ยงคนหามมาสู่ท่าน้ำหาดวัดถ้ำเขาเงิน ครั้นมาถึงหลวงพ่อใช้ให้ นายแดง สัจจาครุฑ นำเชือกลงไปผูกไม้ตะเคียนแล้วให้คนงานช่วยกันดึง ต่อจากนั้นหลวงพ่อก็ยืนทำพิธีบริกรรมบนหาด ใช้นิ้วเพชรของหลวงพ่อชี้ไปที่ต้นตะเคียน ทันใดนั้นคนงานก้ดึงต้นตะเคียนลอยน้ำขึ้นสู่หาดทรายทันที สร้างความตื่นเต้นต่อประชาชนทั้งหลายตลอดทั้งเจ้าคุณพระธรรมารามคณีฯ ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อแดงพุทโธลือกระฉ่อนไปทั่ว เป็นเหตุให้ผู้เจ็บป่วยหลั่งไหลมาให้ท่านรักษาเพื่มขึ้นทุกวันทั้งใกล้และ ไกล

    2. หลวงพ่อแดงพุทโธเสกกระต่ายขูดมะพร้าวให้ชนกัน

    นายหนู ศักดิ์แสง ศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อเล่าว่าถ้าวันใหนหลวงพ่ออารมณ์ดี ท่านก็ทดลองอภินิหารให้ดู วันหนึ่งตอนบ่ายหลวงพ่อให้ศิษย์ 2 คนไปจัดนำกระต่ายขูดมะพร้าวจากกุฏิแม่ชี กระต่ายไม้สองตัวนี้มีอวัยวะที่นายช่างจัดสร้างไว้ครบเมื่อมองจะเห็นมี หู ตา ปาก จมูก มีหาง เป็นต้น ได้มาแล้วหลวงพ่อให้ตั้งไว้ห่างกันประมาณสองวาแล้วเอาผ้าคลุมไว้ ต่อจากนั้นหลวงพ่อก็ทำพิธีปลุกเสกเป่าพลาง พรมน้ำหระพุทธมนต์พลางปรากฏว่ากระต่ายทั้งสองตัวต่างก็เดินอยู่ไปมา หลวงพ่อจึงใหเอาผ้าคลุมออกหลังจากนั้นกระต่ายทั้งสองตัวก็กระโดดเข้าชนกัน เป็นที่สนุกสนานของศิษย์วัดตลอดจนเป็นขวัญตาของภิกษุสามเฌรและชาวบ้านผู้ไป ชมในบารมีของหลวงพ่อแดง

    3. หลวงพ่อแดงพุทโธ ประจุอักษรวิเศษให้ศิษย์
    จากคำบอกเล่าของนายหนู ศักดิ์แสง เล่าว่าหลวงพ่อแดงท่านมีเมตตามอบอักขระวิเศษให้แกศิษย์เกือบทุกคน โดยหลวงพ่อเขียนอักษรตัวขอม เช่น ตัวมี นะ โม พุท ธา ยะ ลงบนกระดานชนวนแล้วให้ศิษย์เลือกตัวที่ชอบที่สุด เมื่อเลือกได้แล้วหลวงพ่อก็จะถามว่าจะเอาไว้ตรงไหน เช่น ไว้ที่หน้าผาก ที่แขน ที่หน้าอก เป็นต้น ถ้าเมื่อตอบหลวงพ่อว่าไว้ที่หน้าผาก อักษรตัวนั้นก็จะไปปรากฏอยู่ที่หน้าผากโดยไม่ต้องเขียนเลยแล้วก็หายไป เป็นวิธีประจุอักษรของหลวงพ่อ อักษรที่หลวงพ่อประจุประจุให้นี้เป็นอักษรวิเศษทางเมตตามหานิยม ถ้าศิษย์ผู้ใดต้องการให้อักษรปร่กฏชัดก็ได้ โดยยกมือประณมมือระลึกถึงหลวงพ่อแล้วยกมือขวาตบหน้าผากสามครั้ง อักษรที่ประจุไว้ก็ปรากฏเด่นชัด โดยเฉพาะของนายหนู ศักดิ์แสง ประจุไว้ที่หน้าผาก เป็นอักษรตัวพุท นายซ้อน เพชรโสม ตัวพุท ประจุไว้ที่หน้าผาก ผู้ใหญ่สุวรรณ ศิริรัตน์ ประจุตัวพุท ไว้ที่หน้าผาก เช่นเดียวกัน
    โดยเฉพาะของนายหนู ศักดิ์แสงได้แสดงให้อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์หนังเหนียวชื่อดังทั่วเมืองไทยชมเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2511 ในโอกาสที่ อาจารย์ชุม ไชยคีรี มาดำเนินการสร้างรูปพระเครื่องหลวงพ่อแดงพุทโธ การแสดงขแงนายหนู ศักดิ์แสง ก็โดยยกมือประฌมระลึกถึงหลวงพ่อ ก้ปรากฏว่าอักษรตัวพุท ปรากฏชัดเจนที่หน้าผากท่ามกลางประชาชนผู้สนใจชมอภินิหารของหลวงพ่อ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เห็นเช่นนั้นก็ปลาบปลื้มใจมากที่ดวงวิญญาณหลวงพ่อแม้ล่วงลับไปแล้วประมาณ 40 ปี ก็ยังต้อนรับท่านอย่างเมตตาจิต

    4. หลวงพ่อแดงพุทโธทำน้ำให้เป็นเหล้า
    จากคำบอกเล่าของนายซ้อน เพชรโสม ศิษย์ของหลวงพ่อแดงพุทโธผู้หนึ่งว่า วันหนึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากมาช่วยงานหลวงพ่อเลื่อยไม้ทำกุฏิ พอตกตอนเย็นชาวบ้านเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาก หลวงพ่อเห็นเช่นนั้นก็เกิดเมตตาคิดอยากให้ทุกคนหายเนื่อย จะเลี้ยงอาหารก็ไกลจากวัดอีกทั้งเป็นเวลาเย็นจะจัดอะไรเลี้ยงก็ไม่ทันกาล หลวงพ่อจึงสั่งให้คนงานตักน้ำมาใส่โอ่ง แล้วหลวงพ่อก็ทำพิธีปลุกเสกน้ำเสรจแล้วพูดว่า "เอาไปกินกันซิ แต่อย่ากินมากประเดี๋ยวจะเมา" พอหลวงพ่อพูดขาดคำ คนงานก็เข้ามาตักน้ำดื่ม ปรากฏว่าน้ำนั้นกลายเป็นน้ำเหล้าไปแล้ว ต่างคนก็ต่างดื่มกันอย่างสนุกสนานหายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเหมือนปลิดทิ้ง มีอยู่รายหนึ่งดื่มมากไปหน่อย เพื่อนต้องช่วยกันลากเข็นกลับบ้านนี่แหละอภินิหารของหลวงพ่อ ปลุกเสกน้ำเป็นเหล้า เป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป

    5. หลวงพ่อแดงพุทโธหายตัว
    จากคำบอกเล่าของนายกลับ รื่นฤทัย อยู่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ท่ามะพลา นายกลับเล่าว่าตอนที่ตนบวชอยู่กับหลวงพ่อ วันหนึ่งหลวงพ่อเรึยกให้ไปหา เมื่อไปถึงก็เห็นหลวงพ่อนั่งอยู่หน้ากุฏิ เมื่อตนนมัสการแล้วก็นั่งสงบอยู่ หลวงพ่อบอกว่านั่งก่อนและให้หลับตาชั่วอึดใจด้วย พอลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นหลวงพ่อ สำคัญว่าหลวงพ่อเข้าไปในกุฏิก็นั่งรออยู่ที่เดิมนั่นเองหลังจากนั้น หลวงพ่อก็พูดว่านี่แหละการกำบังกายหายตัว นายกลับ รื่นฤทัย บอกว่าขณะนั้นตนรู้สึกปลื้มปิติจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว ด้วยเห็นอภินิหารของหลวงพ่อแดง และเล่าว่าศิษย์หลายคนตลอดชาวบ้านได้มีโอกาสชมอภินิหารแบบนี้เช่นกัน

    6. หลวงพ่อแดงพุทโธ สั่งให้ผู้ถูกงูกัดหายเจ็บปวด
    จากคำบอกเล่าของนายพร้อม ศิริรัตน์ ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อ อยู่บ้านหมู่ที่ 12 ต.ท่ามะพลา เล่าว่าเวลาตนบวชอยู่กับหลวงพ่อได้ถูกงูกะปะกัด มีความเจ็บปวดมากได้ไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าให้ หลวงพ่อท่านพูดว่า "จาพุทโธเอย จาเอย" พูดแล้วใช้นื้วเพชรชี้ที่แผลงูกัด พร้อมกับออกคำสั่งว่าให้หายเจ็บเสีย ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นตนก็หายเจ็บปวดเป็นที่น่าอัศจรรย์ ต่อจากนั้นหลวงพ่อพูดว่า "ต่อไปถ้าถูกงูกัดแล้วให้ระลึกถึงท่านที่สั่งไว้ว่า หลวงพ่อสั่งไม่ให้เจ็บปวด" พรือถ้าใครถูกงูกัดก็ให้พูดเช่นเดียวกัน จนกระทั่งบัดนี้นายพร้อม ศิริรัตน์ ถูกงูกัดก็ไม่เคยเจ็บปวดเลยตลอดมาและถ้ามีใครถูกงูกัดมาหานายพร้อม ศิริรัตน์ ให้ช่วยปัดเป่า นายพร้อมก็ใช้คำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า "ให้หลวงพ่อสั่งไว้ว่างูกัดไม่ให้เจ๊บปวด" ซึ่งก็หายทุกรายไปจนเป็นที่เลื่องลือของประชาชนทั่วไป

    ข้อมูลโดย : เซียนตุ่น




    พระรูปเหมือนหลวงพ่อแดง พุทโธ วัดถ้ำเขาเงิน พิธีใหญ่ชุมนุมศิษย์สายเขาอ้อ ปี2511

    รูปเหมือนลพ.แดง พุทโธ พิธีที่วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร ปี2511 ขุนพันธ์ฯเป็นประธานจัดสร้าง มีการสร้างวัตถุมงคลหลายพิมพ์ด้วยกัน เนื้อผงอาทิเช่นพิมพ์ขุนแผนใหญ่-เล็ก ปิดตา พระสีวลี พระทุ่งเศรษฐี ฯลฯ


    พระทำจากเนื้อดินผสมว่านเกสรศักดิ์สิทธิ์นานาชนิด เนื้อสีแดงปนม่วงหรือสีหมาก มีคราบน้ำว่านบนผิว

    พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง, พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ, หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร จ.ชุมพร, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าใช้บูชาดีเด่นในทุกทาง
    [​IMG]



    [FONT=&quot]ให้บูชา 650บ.ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...