เบาะแส ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ "แผ่นดินพม่าและไทย"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เอกอิสโร, 16 ธันวาคม 2012.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    มีแต่เรื่องคนเขาว่า คนนั้นฝันว่า คนนี้เขาว่า หลักฐานทางโบราณคดีละคะ ไม่เห็นมี แค่เอาง่ายๆหรือ คุณเอกใช่พระไตรปิฏกคนละเล่มกับที่มีอยู่ในขณะนี้



    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pic.JPG
      pic.JPG
      ขนาดไฟล์:
      130.2 KB
      เปิดดู:
      423
    • pic2.JPG
      pic2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      327
  2. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เพราะมีนักปราชญ์ชาวอินเดียเข้าใจสื่อของภาษา
    และสัญลักษณ์ สัญญาน สัญญา ที่พระพุทธองค์แสดงไว้แล้วรู้และเข้าใจ
    นำออกมาเผยแพร่เหมือนการดึงด้ายออกมาจากลูกสาวนายช่างผู้ทอหูก

    เพราะเขาเป็นนักคิด นักเสวนา
    อยู่ด้วยกันแปดปีสองสามคนคุยกันตีสองทุกคืนไม่หลับไม่นอน
    ผมถามว่าคุยกันเรื่องอะไร
    เขาก็บอกว่าเรื่องทั่วไป

    ทำไม่เขาไม่เอาเรื่องที่คุยกันวันนี้ไปเป็นเรื่องคุยต่อพรุ่งนี้
    หลังจากหันหลังให้เราหมายความว่าสิ่งที่เขาคุยเมื่อกี้นี้ว่ากันใหม่อีกทีหรือไม่

    อารมณ์ปัจจุบัน

    และพุทธกับพราห์มหากไม่เจ๋งจริงแยกไม่ออก
    มาแนวเดียวกันในแนวคิด

    แต่ฮินดูเจ๋งกว่า
    วงกลมวงเดียว คือโอม.คือความหมายทั้งหมด
    อร่อยขอรับ

    อย่าคิดเหมือนผมเดี๋ยวสติไม่ดี
    จากปัญญาจะเป็นธัญญา
    ก่อนเจอธัมขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  3. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เราไม่เข้าใจสื่อหรือไม่ขอรับ
    เพราะเราไม่ใช่ชาวพม่าหรือปากะยอที่ท่านสื่อกันคนละสื่อ

    พะโก่แปรว่าอะไร
    พะเยียแปรว่าอะไร
    ทำไม่คือกะลาที่คว่ำอยู่
    พม่าบอกข้าวกิน
    เหมือนอันเดอร์แสตนทำไมไม่แสตนอัพ

    ผมเคยสังเกตุพม่าไปแปรจากหลังมาหน้าเหมือนภาษาอิงริช

    คนไทยเขียนขวามาซ้าย
    อารบิคซ้ายมาขวา
    จีนอ่านบนลงล่าง

    สมมั่วหรือไม่อย่างไรขอรับ
    จึงหลงทิศหลงทางแปรหนังสือกันมามั่วไปหมดไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสื่อ

    ที่ท่านสมมุติไว้นั้น
    ท่านจึงทำสัญญลักษณ์ไว้ให้คิดได้อีก
    แต่กูเกิ้ลกูเอวกุเองเอาไปกินหมด
    จบ ขอรับ

    ไม่คุยกับคนอื่นกูรู

    กั้สซะ...........คำเหนือครับแปรว่าอะไรหาเอง
    ผมงงเหมือนกัน

    ขอท่านเจริญในธัมยิ่งแล้วขอรับ
     
  4. God777

    God777 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    สัญญอะไรไว้คงลืมแล้วซินะ
    การไม่รักษาคำพูดเค้าเรียกอะไรดี
     
  5. 9TRONG

    9TRONG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +514
    ยินดีรับฟังทุกข้อมูลครับ (y)

    ยังไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งชาวโลกเคยเชื่อว่าโลกแบน และเป็นศูนย์กลางจักรวาล hello8
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เอาตรรกะง่ายๆ พวกกรีกโรมันสมัยก่อน กร่างว่าตัวเองมีอำนาจบาทใหญ่ ชั้นสูงเหนือชั้นกว่าคนอื่นขนาดไหน ถึงขนาดเก็บสะสมทาสรับใช้หน้าตาแปลกๆ เป็นคนดำบ้าง ฝรั่งบ้าง และพวกนี้ไปสร้างพระพุทธรูปใหญ่โตอยู่ที่อัฟกานีสถานบ้าง ปากีร์บ้าง เป็นทรง กรีก ในสมัยนั้นพวกชนชาติไทท้องถิ่นมีรูปร่างหน้าตาแบบคนดำเงาะป่าที่พัทลุง เพราะยังไม่มี พวกคนจีนจากสิบสองปันนา กับ คอเคซอยอิสลาม ลงมาผสม โรมันที่แสนโอหัง หยิ่งยะโสว่าตัวเองเป็นพวก
    อาริยกะ มีเทคโนโลยี ศิลปะ วัฒนธรรม หน้าตาสวยงาม มันคงไม่หันมานับถือพุทธหรอก ถ้าพระพุทธองค์ไม่ใช่คนคอร์เคเซี่ยน ศรัทธามากขนาดสร้างพระพุทธรูปใหญ่แกะสลักจากเขา เพราะดิฉันเคยอ่าน ตำนานชาว นาบาเธี่ยนที่ สร้างเมืองแกะจากเขาในจอร์แดน เขาว่ากันว่า ต้องยิ่งใหญ่จริง ไม่งั้นโรมันไม่มาแกะสลักให้ คนจะมีรูปปั้นที่โรมันแกะ อย่าว่าแต่เจ้าธรรมดาเลย คือพวกเทพเจ้าที่เขานับถือ กับ มหาจักรพรรดิ และมหาจักรพรรดินี เท่านั้น

    หนึ่งพระพุทธเจ้าท่านต้องมีลักษณะ มหาปุริศเพื่อเจริญศรัทธา ผู้คน โดยเฉพาะพวกโรมัน ที่อหังกาและวัตถุนิยมเสีย ขนาดนั้น เคยอ่านในชาดกไหมคะ ที่ทรงเสด็จไป โปรดพราหมณ์ ที่มีลูกสาวสวยมากคนหนึ่ง ที่ชื่อนาง มาคันธิย่า ที่หวงขนาดว่าเก็บไว้บนปราสาท สูง7 ชั้น ขนาดพวกพระราชาเมืองใหญ่ๆมาสู่ขอยังว่าดีไม่พอสำหรับนาง แต่พอเจอพระพุทธเจ้าก็ทรงยกลูกสาวให้ทันที เพราะบอกไม่เคยเจอใครมีลักษณะงามขนาดนั้นมาก่อน

    อัน พราหมณ์ มาคันธิยะ บิดาของนาง มาคันธิยา นี้เป็นชาวเมืองแคว้นกุรุ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของอินเดีย ค่อนไปทาง แคว้นแคชเมียร์ ซึ่งคนอินเดียทางนั้นเป็นแขกผิวขาว ซึ่งแน่นอนว่าพวกนี้ยิ่งหยิ่งในวรรณะมาก คงจะบอกอะไรได้บ้างว่า ถ้าพราหมณ์ มาคันธิยะ บอกว่าพระพุทธองค์ทรงรูปงามเสีย ยิ่งกว่าคนอินเดียผิวขาวธรรมดาเสียอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2012
  7. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    ผม จะชี้ให้เห็น ถึง ความผิดพลาด ในการ กำหนดที่ตั้ง แว่นแคว้น ต่างๆ ของ นักประวัติศาสตร์ ที่ ไม่รู้เรื่อง "พระไตรปิฎกและ อรรถกถา" จนทำให้เกิด "การเชื่อตาม" และ "คิดเรื่องต่างๆ ตาม" ว่าสอดคล้องอย่างนั้น อย่างนี้

    ดังที่ คุณ DuchessFidgette พูดถึง แคว้นกุรุ ว่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ใกล้แคชเมียร์ เป็นแขกขาว


    การที่ นักประวัติศาสตร์ จะ ใช้หลักฐานบางสิ่งบางอย่างที่ พบ แล้ว ชี้ไปเลย โดยไม่ดู "บริบท" อื่น ที่เกี่ยวข้อง ผมว่า ไม่ถูกต้อง หรืออาจจะยืมคำที่คนอื่นชอบว่า ผม คือ คำว่า "มั่ว" มาใช้กับ ฝรั่ง บ้างนั่นเอง

    เพราะผมจะบอกว่า ฝรั่งมั่ว เรื่องที่ตั้ง แคว้นกุรุ โดย ใช้บริบท ที่พูดถึงที่ตั้งของแคว้น มคธ อังคะ และ กุรุ ใน อรรถกถา ดังนี้

    อรรถกถา เล่ม ๔๒ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตก-สุตตนิบาต กล่าวไว้ว่า

    พระศาสดา (เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน) ประทับนั่งบนกองทราย ทรงปรารภปุโรหิตของพระเจ้าโกศล ชื่ออัคคิทัต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "พหุง เว สรณัง ยันติ" เป็นต้น.

    อัคคิทัตได้เป็นปุโรหิตถึง ๒ รัชกาล
    ดังได้สดับมา อัคคิทัตนั้น ได้เป็นปุโรหิตของพระเจ้ามหาโกศล. ครั้นเมื่อพระราชบิดาสวรรคตแล้ว พระราชาทรงพระนามว่า ปเสนทิโกศลทรงดำริว่า "ผู้นี้เป็นปุโรหิตแห่งพระชนกของเรา" จึงตั้งเขาไว้ในตำแหน่งนั้นนั่นแล ด้วยความเคารพ ในเวลาเขามาสู่ที่บำรุงของพระองค์ทรงทำการเสด็จลุกรับ. รับสั่งให้พระราชทานอาสนะเสมอกัน ด้วยพระดำรัสว่า "อาจารย์ เชิญนั่งบนอาสนะนี้."

    อัคคิทัตออกบวชนอกพระพุทธศาสนา
    อัคคิทัตนั้น คิดว่า "พระราชานี้ทรงทำความเคารพในเราอย่างเหลือเกิน, แต่เราก็ไม่อาจเอาใจของพระราชาทั้งหลายได้ตลอดกาลเป็นนิตย์เทียว; อนึ่ง พระราชาก็เยาว์วัย ยังหนุ่มน้อย, ชื่อว่าความเป็นพระราชากับด้วยคนผู้มีวัยเสมอกันนั่นแล เป็นเหตุให้เกิดสุข; ส่วนเราเป็นคนแก่, เราควรบวช." เขากราบทูลให้พระราชาพระราชทานพระบรมราชานุญาตการบรรพชาแล้ว ให้คนตีกลองเที่ยวไปในพระนครแล้ว สละทรัพย์ของตนทั้งหมดในเพราะการให้ทานเป็นใหญ่ตลอด ๗ วันแล้ว บวชเป็นนักบวชภายนอก. บุรุษหมื่นหนึ่งอาศัยอัคคิทัตนั้น บวชตามแล้ว. อัคคิทัตนั้นพร้อมด้วยนักบวชเหล่านั้น สำเร็จการอยู่ในระหว่างแคว้นอังคะ แคว้นมคธะและแคว้นกุรุ (ต่อกัน) ให้โอวาทนี้ว่า "พ่อทั้งหลาย บรรดาเธอทั้งหลาย ผู้ใดมีกามวิตกเป็นต้น เกิดขึ้น, ผู้นั้นจงขนหม้อทรายหม้อหนึ่งๆ จากแม่น้ำ (มา) เกลี่ยลง ณ ที่นี้." พวกนักบวชเหล่านั้นรับว่า "ดีละ" ในเวลากามวิตกเป็นต้นเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำอย่างนั้น. โดยสมัยอื่นอีก ได้มีกองทรายใหญ่แล้ว. นาคราชชื่อ อหิฉัตตะ หวงแหนกองทรายใหญ่นั้น. ชาวอังคะ มคธะ และชาวแคว้นกุรุ นำเครื่องสักการะเป็นอันมากไป ถวายทานแก่พวกนักบวชเหล่านั้นทุกๆ เดือน.

    ดังนั้น จากอรรถกถา ที่ผมได้ยกมาแสดงข้างบนนี้ ทำให้ทราบได้ว่าแคว้นอังคะ แคว้นมคธะ และแคว้นกุรุ ทั้ง ๓ แคว้น มีอาณาเขตติดต่อกัน ชาวเมืองไปมาหาสู่กันเป็นประจำทุกเดือน เพื่อนำเครื่องสักการะไปถวายทานแก่พวกนักบวชที่มีท่านอัคคิทัตเป็นหัวหน้า หาได้มีที่ตั้งอยู่ห่างกันเป็นพันกิโลเมตรและถูกคั่นกลางอยู่ด้วยแคว้นกาสี โกสละ เจตี วังสะและปัญจาละ ดังปรากฎในแผนที่ที่นักโบราณคดีตะวันตกเขียนให้ชาวโลกเชื่อตามแต่อย่างใด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เรื่องนี้ก็น่าคิดนะคะ แต่ก็ยังไม่สามารถเอามาลบล้างเรื่องที่ศาสนาพุทธอุบัติในอินเดียและเนปาลอยู่ดีเพราะ ทางนั้นเขามีสถานที่รับลองยืนยันหลายแห่ง และอีกอย่าง ความคลาดเคลื่อนในตำแหน่งที่ตั้งที่ในอินเดียที่ไม่สอดคล้องกับอรรถบทในพระไตรปิฏก เป็นไปไดไหมว่า มีการแก้ไขหรือผิดพลาด หรือแต่งเต็มในการสังคายนาครั้งที่ 2? หรือผู้ที่แปลแปลผิด เราคงต้องเอาพระไตรปิกฏในประเทศไทยไปเทียบกับของอินเดียดูว่าว่าเหมือนกันไหม? และนำมาถกชี้แจงเนื้อหา อีกประการหนึ่งที่ก็คือ ถ้าพระพุทธเจ้าประสูติที่เมืองไทยจริงทำไม ชื่อแคว้นต่างๆ ทั้งชื่อบุคคลจึงไปตรงกับสถานที่ และบุคคลของทางอินเดียได้ เยอะขนาดนั้น? และดิฉันว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนไทยเมื่อ2600 ปีก่อน จะมามีชื่อเป็นภาษา บาลีสันสฤต, มีเนื้อเรื่อง วัฒนธรรมประเพณีในพระไตรปิฏกที่ไปเหมือนกับของอินเดียเป๊ หรือคุณเอกกำลังจะบอกว่า พระไตรปิกฏ และชื่อเสียงเลียงนามบุอย่างเรื่อง ม้ากัณทกะ สมัยนั้นเมืองไทยก็ยังไม่มีม้าพันธุ์แบบนั้น ไหนจะเรื่องข้าวมธุปายาส เรื่องระบบวรรณะที่ปรากฏในชาดก ฯลฯ บุคคลและสถานที่ต่างๆ แบบอินเดีย หรือจะบอกว่าเป็นของปลอมที่ฝรั่งกับแขกแต่งขึ้นทั้งหมด?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2012
  9. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2012
  10. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    มาดูภาษาไทยในหลักศิลาจารึกที่1 ซึ่งถือเป็นวรรณคดีเรื่องแรกของไทย หลักศิลานี้ค้นพบในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขณะทรงผนวชอยู่ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)


    เห็นได้ว่าไม่มีคำบาลีสันสกฤตอยู่เลย เป็นคำไทยแท้

    ศิลาจารึก หลักที่ ๑
     
  11. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    จริงๆ เรื่องจารึก นี้ยังเป็นเรื่องถกเถียงกัน ไม่สิ้นสุดนะครับ แต่การที่จะเอา "จารึก" หลัก หนึ่ง โดยไม่ สนใจ สิ่งอื่นๆ แม้แต่ชื่อ "สุโขทัย" ว่า เป็นบาลีหรือไม่? หรือ "ศรีอินทราทิตย์" หรือ "ปาลเมือง" หรือ "ราม" แล้วบอกว่า เห็นมั๊ย ไม่มี บาลีสักคำ ดูจะเหมือน หักด้ามพร้าด้วยเข่า ไปสักหน่อยนะครับ ก็คำที่ Hilight สีแดง นั่นหล่ะ คือ คำบาลี แล้วไม่ลองย้อน ไปสมัยเก่ากว่านั้น หล่ะครับ ปัจจุบัน เราเลิกเชื่อแล้ว นะครับว่า ประเทศไทยเก่าแก่ที่สุดคือสุโขทัย เพราะนั่น คือการรับรู้ ก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐ กระมังครับ หรือจะลองไล่ลงมา ถึงพระยาลิไท ที่แต่งไตรภูมิ พระร่วงหล่ะ ถ้า บาลีไม่ฟูเฟื่อง ไหน จะอ่าน หนังสือขอมที่จารึก พระไตรปิฎก และอรรถกถา จน แต่ง "ไตรภูมิพระร่วง" ออกมา ได้หล่ะครับ?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2012
  12. หมูไม่น้อย

    หมูไม่น้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +57
    เราจะได้อะไร ? หาทางบรรลุธรรมดีกว่า... ;)
     
  13. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    [​IMG]
     
  14. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    ตามนั้นครับ ผมได้ลบ กระทู้ต่างๆ เพราะ เพื่อความสบายใจของเพื่อนสมาชิก ที่เห็นว่า อาจจะเป็นการใช้พื้นที่เว๊บ โฆษณา ขายหนังสือ แต่ช่วงเวลาที่ผม กลับมา ตั้งกระทู้นี้อีก ก็เพราะมั่นใจแล้วว่า "จะไม่มีการตีพิมพ์หนังสือวางจำหน่ายแล้ว" นั่นเอง จึงเป็นความตั้งใจที่จะ นำเสนอให้เป็นข้อมูลสาธารณะ และให้เพื่อนสมาชิกช่วยกัน ขบคิด และใคร่ครวญครับ
     
  15. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809

    ดังที่พยายาม อธิบาย ว่า สถานที่ที่ว่าเป็นที่รับรอง ซึ่งได้มีการ ขุดค้น และพยายามชี้บ่งว่าเป็นที่ตรงไหนในสมัยพุทธกาล ที่ต่างคนต่างทำ จึงไม่มีความสัมพันธ์กัน ดังที่บรรยายไว้ในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ส่วนที่ว่า การสังคายนา แล้วจะไปเปลี่ยนทิศ เปลี่ยนทาง หรือระยะทาง เราลองพิจารณา ดูเอาเถิด ว่า จะทำไปเพื่ออะไร เพราะการสังคายนา มุ่งชำระ และรักษาพระพุทธพจน์
    ส่วนข้อเสนอที่จะให้เทียบกับพระไตรปิฎกของอินเดีย ก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องยาก เพราะ ในอินเดีย ยุคที่อังกฤษ ไปขุดค้น ไม่มีพระไตรปิฎกมาหลายร้อยปีแล้ว และหากจะ ไปดู พระไตรปิฎกที่ว่า พระถังซำจั๋ง คัดลอกไปเมืองจีน ก็จะมี แต่ เรื่องของมหายาน และเมื่อได้อ่าน บันทึกการเดินทางของพระถังซำจั๋ง ก็จะพบแต่เรื่องราว อันขัดแย้งกับ พระไตรปิฎกและอรรถกถา ของฝ่ายเถรวาท แทบทั้งสิ้น

    เรื่องชื่อ สถานที่ที่อินเดีย ว่าตรงตามพระไตรปิฎก อันนี้ ให้ย้อนไปที่ห้วงเวลา ก่อนที่ อังกฤษจะเข้าไป ฟื้นฟูประวัติศาสตร์อินเดีย นะครับ ว่า มีที่ตรงไหน บ้าง ที่มีชื่อเรียก ตรงตาม ภาษาบาลี ตรงตามพระไตรปิฎก และอรรถกถา บ้าง ช่วย นำมาแสดงด้วยนะครับ

    เรื่องภาษา ผมเคยอธิบายแล้วว่า ใน ๑๖ มหาชนบท ต่างแคว้น ต่างมีภาษาเป็นของตัวเอง และ ภาษาบาลี คือภาษาของชาวมคธ และถูกนำมาใช้เป็นภาษาที่รักษาพุทธพจน์ จึงไม่ได้หมายความว่า ผู้คนในชมพูทวีป พูดภาษามคธเหมือนกันทั้งหมด สถานที่ทั้งหมดทั่วทั้งชมพูทวีปเรียกเป็นภาษาบาลีทั้งหมด สมัยรัชกาลที่ ๔ ที่ ๕ ที่ เริ่มมีการไปมาหาสู่ กับภูมิภาคอื่นๆ แม้กรมพระยาดำรง ก็ชื่นชมบ้านเมือง ทางอีสาน ว่า มีชื่อบ้าน ชื่อเมืองที่ไพเราะ เพราะเป็นภาษาบาลี แต่ บางบ้านบางเมือง ในบางภูมิภาค ก็มีชื่อเดิมของเขาเรียกอยู่ แต่ ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ ให้เป็น ภาษาบาลี เช่น ประจวบคีรีขันธ์ หรืออื่นๆ เป็นต้น

    ส่วนที่ว่า ประเพณีต่างๆ ในอินเดีย ตรงกับในพระไตรปิฎก และอรรถกถา ก็ลองพิจารณาดูให้ดีๆ ลองอ่าน พรหมชาลสูตร ว่า ด้วย มหาศีล มัชฌิมจุลศีล จุลศีล ว่า สิ่ง ที่บัญญัติไว้ ตรงกับที่อินเดีย หรือแถบไทย มอญมากกว่า

    แต่ไม่อยากให้ตีความว่าแปลผิด

    ส่วนที่ว่า "จะบอกว่าเป็นของปลอมที่ฝรั่งกับแขกแต่งขึ้นทั้งหมด" ก็ลองค่อยๆ พิจารณาดูนะครับ
     
  16. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    ถ้าเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่า ประเทศอื่นผิดหมด หรือคะอย่างนั้น? เพราะเรื่องตำแหน่ง สถานที่ของทางอินเดีย และอีกหลายๆอย่างไม่ได้แค่ปรากฏในงานเขียนของฝรั่งอย่างเดียว ดิฉันได้ไปอ่านเวปต่างประเทศ เรื่องพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมีการจดเป็นบันทึกลายลักษณ์อักษร โดยบันทึกของนักปราชญ์ชาว
    กรีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นประเทศอื่นๆอย่าง อิหร่านก็ยืนยันเรื่องสถานที่ตั้งทางพุทธศาสนาว่าถูกต้อง เพราะในประวัติศาสตร์ของอิหร่านเอง เมืองทางตะวันออก ของอิหร่านในประวัติศาสตร์สมัยพุทธกาลคือ ตักศิลา และงานวิจัยออกมาด้วยว่าพระพุทธเจ้าได้ไอเดียเรื่อง หลักคำสอน อเทวนิยม และเรื่อน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตลอดจนการไม่แบ่งชั้นวรรณะ มาจากศาสนาโซโรเอสเตอร์ของ อิหร่าน หรือเปอร์เซียมาเด๊ๆ ในสมัยที่ทรงไปเรียนสมาธิ และปรัชญาศาสนาที่ตักศิลา ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของเปอร์เซีย

    คำว่า ศิลา เป็นภาษาที่ปรากฏไม่เพียงในบาลี สันสกฤต แต่อิหร่าน และแม้
    อาหรับปัจจุบัน คำว่า ศิลาก็ยังแปลว่าหิน มันเป็นไปไม่ได้ถ้าบอกนักโบราณคดีฝรั่งทำปลอม เพราะเรื่องนี้มันมีหลักฐานอ้างอิงในหลายประเทศมากๆ ตั้งแต่ อิตาลี กรีก มา อิหร่าน ปากีถาน อินเดีย เนปาล แม้แต่ อียิปก็มีหลักฐานเรื่องพระพุทธเจ้า ในสมัย ฟีทาโกลัส
     
  17. cookkie_mild

    cookkie_mild สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +23
    :cool::cool::cool::cool:
     
  18. kt984

    kt984 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +51
    รบกวนขอชื่อหนังสือ เพราะดิฉันเคยอ่าน ตำนานชาว นาบาเธี่ยนที่ สร้างเมืองแกะจากเขาในจอร์แดน เขาว่ากันว่า ต้องยิ่งใหญ่จริง ไม่งั้นโรมันไม่มาแกะสลักให้ คนจะมีรูปปั้นที่โรมันแกะ อย่าว่าแต่เจ้าธรรมดาเลย คือพวกเทพเจ้าที่เขานับถือ กับ มหาจักรพรรดิ และมหาจักรพรรดินี เท่านั้น


    เป็นเรื่องที่หน้าสนใจมากครับหยากหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ

    กระทู้ของคุณเจ้าของหอ้งทั้งสองกระทู้ หน้าติดตามมากครับ
    ขอขอบคุณทุกๆ โพสครับได้ความรู้ให่มเพิ้มเยอะเลยครับ
     
  19. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อันนี้รับรู้แล้วคะ เดี๋ยวมาตอบตอนเย็น เดี๋ยวตอนนี้ต้องออกไปข้างนอกก่อน
     
  20. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    คำว่าราม มาจาก รามะ ภาษาสันสกฤษแน่นอนครับสำหรับศิลาจารึกหลักที่๑ หากผมจะบอกว่านักประวัติศาสตร์หลายท่านยังไม่ยอมรับเลยครับว่าเป็นจารึกของสุโขทัยจริงถ้าคิดแบบคุณเอก อโยธยาในอาทิกาพย์(มหากาพย์ที่ชาวอินเดียนับถือ)เมืองของพระราม ก็ต้องเป็นอโยธยาใกล้กรุงเทพอ่าดิ แล้วลังกาก็ต้องกลายเป็นลังกาวีเหรอ เป้นความเข้าใจเพี้ยนๆๆ ถ้าอย่างนั้นคนไทยน่าจะคิดพระพุทธรูปได้ก่อน แต่ทำไมพระพุทธรูปกับไปรุ่งเรืองในแคว้น สาคละ ที่เป็นเชื้ออารยันกรีก และพระเจ้าเมนันเดอร์(มิลินท)ในอรรกถาก็บอกว่าเป็นกรีก และเรียกตนว่าโยนก มาจาก ยวนะ หรือยวน หากพุทธกำเนิดอยู่ในไทย พระพุทธเจ้าเป็นคนไทยกรีกก็น่าจะได้เค้าโครงรูปลักษณ์แบบคนไทย ไปสร้างพระพุทธรูป แต่พระพุทธรูปยุคแรกศิลปะคันธารราษฏร์ กลับมีพระพักตรแบบฝรั่ง ผมเชื่อว่าชาวแคว้นสาคละน่าจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นอารยันจึงปั้นแบบกรีก ผมว่าที่คุณเอกเข้าใจนั้นเป็นการยึดติดครับ น่าจะหาข้อมูลให้ดีกว่านี้ ผมกลัวคุณเอกจะบอกว่าแคว้นโยนก(สาคละนคร)ของพระเจ้าเมนันเดอร์เป็นแคว้นโยนกเชียงแสนแหล่ะก็ฮาเลยครับเพราะพระเจ้าเมนันเดอร์มีเหรียญรูปตัวเองใช้สมัยท่านด้วย อีกอย่างชื่อแคว้นในเมืองไทยที่พ้องกับอินเดียนั้น เพราะมหาปราชญ์พระสงฆ์ชาวเชียงใหม่ คณะ ป่าแดงและสวนดอก แต่ง ตำราชินกาลมาลีปกรณ์ พระเจ้าเลียบโลก ตำรามูลศาสนา ที่นำเอาพระไตรปิฏกมาร้อยเรียงระคนกับตำนานท้องถิ่น คุณเอก คนอ่านตำราพวกนี้มากไป เลยเหมาว่าอยู่เมืองไทย แต่ในตำนานพระเจ้าเลียบโลกเอง พระมหาเถระโพธิรังษี ท่านยังบอกเลยพระพุทธเจ้าอยู่เมืองสาวัตถีในอินเดียแต่ทรงเหาะมาโปรดคนในสุวรรณภูมิ ถ้าพระโพธิรังษีท่านเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยก็คงไม่ต้องแต่งว่าเสด็จเหาะมาโปรดจากอินเดียหรอกครับ อ่านตำนานจนยึดติดเอ้อเหอเอากะเขาดิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...