เบาะแส ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ "แผ่นดินพม่าและไทย"

อะกลับมาตอบละนะคะ ประโยคนี้ เขาว่ากันว่า ต้องยิ่งใหญ่จริง ไม่งั้นโรมันไม่มาแกะสลักให้ คนจะมีรูปปั้นที่โรมันแกะ อย่าว่าแต่เจ้าธรรมดาเลย คือพวกเทพเจ้าที่เขานับถือ กับ มหาจักรพรรดิ และมหาจักรพรรดินี เท่านั้น

หรือเนื้อหาทำนองนี้หาได้ง่ายมากในแทบทุกที่ที่มีการกล่าวถึง ชนชาติกรีกเข้าไปยึดครอง
ถ้าดูสารคดี อาณาจักรเปตรา ที่จอรแดน ก็จะมีคำพูดทำนองนี้ ว่า ชาวนาบาเธี่ยนจ้าง วิศวกรชาว กรีก โรมันมาสร้างเมือง
ใช้เงินมหาศาล และต้อง มีความนิยม มีเกียรติสูงทัดเทียมชาวกรีก มิเช่นนั้นชาวกรีกจะไม่สมาคมด้วย รู้ได้อย่างไร
ว่าชาวกรีกสร้างรูปปั้นและเมืองให้เฉพาะชนชาติที่ตนเห็นว่าต้องมีความเป็น อารยะทัดเทียมตนเองดูได้จากประโยคนี้ที่พบในหนังสือเกี่ยวกับ
กรีกศึกษาทุกที่


example :

Aristotle is said to have advised Alexander to treat all non Greeks as slavish 'barbarians', advice which Alexander--to his credit--conspicuously did not follow. Indeed, he married, polygamously, three 'barbarians'--the daughter of a Sogdian warlord and two Persian royal women--and encouraged his closest companions to take foreign wives too.


Paul Cartledge is Professor of Greek History in the University of Cambridge, and Fellow of Clare College, Cambridge. The following is from an article he wrote just before publication of his book, Alexander the Great: The Hunt for a New Past (2004).


แปล เขาบอกว่า อลิสโตเติ้ล นักปราชญ์ พระอาจารย์ของ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ยังสอน
อเล็กซานเดอร์เลยว่า ให้ปฏิบัติต่อพวกชนชาติที่ไม่ใช่ชาวกรีกดุจพวกคนเถื่อน คนป่า แต่อเล็กซานเดอร์ทรง
เป็นมหาราชที่มีคุณธรรม (พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มิใช่คนกรีกแท้ อย่างที่เห็นว่ามีผมทอง ทรงครึ่ง
มาซิโดเนีย หรือ ไอลายเนี่ยน/ อยู่ทางยุโรปตะวันออก)

ไม่ทรงคิดเช่นนั้น ทรงอภิเสกกับ ภรรยาชาว เมืองเถื่อนทั้งหมด ถึงสามคน คนหนึ่งเป็นลูกสาวแม่ทัพชาวซองเดียน
ซองเดียนคือ อุซเบกีสถาน เป็นพวกมองโกลลอยด์ผสมรัสเซีย/ คอเคซอยด์ กับ
ภรรยาอีก2 องค์ เป็นเจ้าหญงเปอร์เซีย นอกจากนี้ยังทรงสนับสนุนใหพวกแม่ทัพนายกอง แต่งงานกับเมียต่างชาติ



มีอีก หลายตัวอย่างที่บอกเรื่อง ความหยิ่งทะนงและแบ่งแยกเชื้อชาติในวัฒนธรรมกรีก

FOREIGNERS AND BARBARIANS
The status of being a foreigner, as the Greeks understood the term does not permit any easy definition. Primarily it signified such peoples as the Persians and Egyptians, whose languages were unintelligible to the Greeks, but it could also be used of Greeks who spoke in a different dialect and with a different accent. Notable among this latter category were the Macedonians, whom many Greeks regarded as semibarbaric, as the following judgement upon Philip 11 of Macedon by the Athenian politician Demosthenes indicates:
He's so far from being a Greek or having the remotest connection with us Greeks that he doesn't even come from a country with a name that's respected. He's a rotten Macedonian and it wasn't long ago that you couldn't even buy a decent slave from Macedon. (Third Philippic 31)


สถานะของการเป็นชาวต่างชาติ เป็นสิ่งที่ชาวกรีกไม่เห็นหัวหรือความสำคัญ
ตัวอย่างง่ายๆก็อย่างเช่น พวกเปอร์เซีย หรือ อียิป ที่ใช้ภาษาที่ต่างจากชาว
กรีกและด้วยสำเนียงที่แตกต่างกัน ทำให้มีความแตกต่าง ซึ่งชาวกรีกจะมีวิธีจัดอันดับความเป็นผู้มีอารยะธรรม หรือ
เถื่อนน้อย ลำดับกันไปจาก ความใกล้ไกล และความแตกต่างระหว่างชนนั้นๆกับชนชาติตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่น ชาว
มาซิโดเนีย ปัจจุบันก็คือ ประเทศ สาธารณรัฐ มาซิโดเนีย ชาวกรีกถือว่า มีความป่าเถื่อนน้อย กว่า เป็นต้น การพิจารณา
แบบนี้กระทำโดย คณะนักการเมืองชาวเอเธนส์ที่ คิดต่อฟิลลิปที่ 11 บิดาของ อเล็กซานเดอร์


the Greeks also divided themselves into Ionians and Dorians. The distinction was emphasized at the time of the Peloponnesian War, when the Ionian Athenians fought against the Dorian Spartans.


แม้แต่ในหมู่ชาวกรีกเองยังมีการแบ่งชั้นความมีศักดิ์ศรีกัน เช่น พวกนี้ กรีก
ไอโอเนี่ยน พวกนี้ดอเรี่ยน การแบ่งแยกความแตกต่างนี้เกิดขึ้นในยามสงครามระหว่างพวก
ไอโอเนี่ยนจากเอเธนส์ และดอเรี่ยนจากสปาร์ตาน


Ancient Greek sculpture is the sculpture of Ancient Greece. Modern scholarship identifies three major stages. They were used to depict the battles, mythology, and rulers of the land known as Ancient Greece.

ในการศึกษาสมัยใหม่พบว่า
ชาวกรีกโบราณจะทำรูปปั้น ในเฉพาะ สามกรณีเท่านั้น
คือ 1.ใช้บรรยายเหตุการประวัติศาสตร์สงคราม
2. เทพเจ้าในตำนาน และ
3. เจ้าเมืองที่มีอำนาจ


สำหรับกรณี บามียัน บุดด้า
ที่อัฟกานีสถานนั้นมีทรงแบบ
กรีก แต่นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็น พวก คูซาน จักรวรรดิ
กุษาณะ แต่ที่แน่นอนมิได้สร้างเองแต่ใช้วิศวกร
ชาวกรีก หรือ เปอร์เซีย เพราะลำพังอาณาจักร
คูซานเองไม่สามารถสร้างพระพุทธรูปใหญ่แบบ
กรีกได้ คูซานจะเป็นพวกมาจากอุซเบกีสถาน

 

พระพุทธศาสนามีถิ่นกำเนิดในเขต แหลมทองสุวรรณภูมิ

พระพุทธศาสนามีถิ่นกำเนิดในแหลมทองสุวรรณภูมิ

แหลมทองสุวรรณภูมิ ได้แก่ประเทศเหล่านี้ ไทย ลาว พม่า

เขมร จีนยูนนาน บังคลาเทศบางส่วน

กินไปถึง เนปาลบางส่วน ถึงธิเบต จรด อาณาจักรสรีวิชัย มี

ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพรมแดน

แคว้นมคธ จะอยู่ นอกเขตประเทศไทย แต่ทั้งหมด จะรวมกัน

เป็นสหพันธรัฐ เพราะ มี กษัตริย์ เป็น นักปกครองของแต่ละแคว้น

จะสังเกตได้ว่า รอยพระพุทธบาทปรากฏทั่วบ้านทั่วเมือง

หลักฐานทางโบราณสถานก็มีอยู่ เช่นที่พระธาตุพนม หรือ ที่อื่นๆ

ทั้งที่ปรากฏและไม่ปรากฏให้ได้เห็นหรือเหลืออยู่ และยังมีบันทึกของพื้นเมือง

หรือท้องถิ่นบันทึกไว้ในแต่ละภาค ย่อมบอกที่มาทีไปได้ชัดเจน

ทั้งเจ้าคุณ อ่ำ วัดโสมนัส (ช้างป่าลิไลยกะ) ก็แต่ง สุวัณภูมิปกรณ์

บอกเป็นหลักฐานไว้ให้ศึกษา ที่ใช้อ้างอิงได้ ลองไปศึกษา ดูให้ดี

แล้วจะรู้ว่า เมืองไทย และ สุวรรณภูมินี้ คือ ต้นกำเนิด ของ

พระพุทธศาสนา อย่างแท้จริง.............☺

 

ใครที่ว่าพระพุทธองค์ ประสูติใน ประเทศ Thai ผู้นั้นบิดเบือน พระไตรปิกฏ และลบหลู่ บรรพชนพระพุทธเจ้า ประเทศไทยยังไม่ อลังการพบจะรับลอง สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
ธธธธ*, kt984, ปราบเทวดา, BeerNP

 

เนปาล กับ กับ บังกลาฯ เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของชมพูทวีป อินเดียนะคะ ท่าน แล้วศรีลังกา หายไปไหน??

 

ถ้า แผ่นดิน พม่า มอญ ไทย คือ ชมพูทวีป แล้ว ลังทวีปอยู่ตรงไหน พิจารณา จากแผนที่ การเดินทาง ของ คณะสงฆ์ หรือราชฑูต จาก ชมพูทวีป ที่เดินทางไปลังกา ทวีป ตามแผนที่ โบราณนี้ ครับ

 

จะรองรับ



ใครที่รูัว่า พระพุทธองค์ ประสูติ ในประเทศไทย ผู้นั้นเข้าใจถูก

ต้องตรงตามความจริง ประเทศไทย อลังการที่จะรองรับ

สัมมาสัมพุทโธ เป็นหนึ่งในอัศจรรย์ของโลก

ใครเห็นบิดเบือน ความจริง ย่อมมองไม่เห็นความจริง

 

หลักฐานทางวัตถุ ใช่ว่าจะถูกต้อง ๑๐๐ % การรู้จากตำรับตำรา

ใช่ว่าจะถูกต้อง

ไปศึกษาให้จบทั้งคดีโลกและคดีธรรม แล้วจะพิสูจน์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก

การจะรู้ว่าใครเป็นใคร หรือ สถานที่ใดเป็นอย่างไร

เมื่ออยู่ในฐานะที่จะรู้ได้ย่อมจะสามารถรู้ได้

 

ชมพูทวีป ตือ ทวีปของชาวชมพู หมายถึง ผู้ที่มีลักษณะของผิวสี

ออกชมพู เป็นชนพื้นเมือง ที่มีมาก่อน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติ

นับมาตั้งแต่ต้นกัป อาณาเขตจะอยู่ในบริเวณ แหลมทองสุวรรณภูมิ

 

จะเว้อร์ไปมั้งคะ แค่มีคนไทยคิดเช่นนี้ก็รู้แล้วว่าไม่มีทางที่ท่านจะมาประสูติในเมืองไทย..... ประวัติศาสตร์ รูปแบบของทุก ศาสนาที่มีคัมภีร์ มีพระศาสดา มีระบบระเบียบการเผยแพร่ ล้วนแล้วแต่เป็น ระบบรูปแบบการคิดแบบตะวันตกทั้งสิ้น.... ลองดูศาสนาอื่นฺว่ากระจุกรวมตัวอยู่แต่ในแถบเดียวกันทั้งสิ้น : ยิว, คริตส์, อิสลาม, ฮิบรู, โซโรแอสเตอร์ อยู่กระจุกติดกันหมด? เออ ถ้าบอกพุทธอยู่อินเดีย ก็ยังพอฟังขึ้น เพราะมันใกล้กัน มาโผล่อยู่ ไทย แต่ไปมีโครงสร้างศาสนาแบบ ตะวันตก นี้มันไม่สมเหตุสมผล? ศาสนาพุทธมีโครงสร้างศาสนาแบบตะวันตกอย่างไร?
1. ) มีคำภีร์, มีการสังคายณาจดเรื่องราว
2.) มีการวางผังการเผยแพร่ศาสนา เช่น ทรงเลือกประดิษฐานศาสนาในแคว้นมคธเพราะเป็นแคว้นใหญ่มีอำนาจสามารถดึงสาวกได้มากกว่า แคว้นเล็ก
3.) มีศาสดา


อื้อ และก็เรื่องธรรมเนียมแบบอินเดียในพระไตรปิฏกจะว่ายังไง อย่างตอนที่ศากยวงศ์นั้นได้ชื่อว่า มีความหยิ่งในความเป็นวงศ์จากพระอาทิตย์ของตน และถือปฎิบัติ เรื่องการแต่งงานในสายเลือดอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้เลือดของตนไปปนกับผู้อื่นยกเว้นโกลิยวงศ์ แห่งกรุงเทวทหะ ที่เป็นเครือญาติกันเท่านั้น ครั้งเมื่อเจ้าประเทศราชจากแคว้นมหาอำนาจโกศลยื่นคำขอ
ธิดามา ก็เลยส่งพระธิดาที่กำเนิดกับมารดาที่เป็นนางทาสไปให้แทน เพราะถือว่าคว้นอื่นต่ำกว่าตนเอาแค่เจ้าหญิงลูกครึ่งกษัตริย์กับนางทาสก็พอ ครั้นพอไปถึงแต่งงานได้สักพักจนเจ้าหญิงลูกครึ่งนางทาสประสูติพระโอรส

พวกพระญาติมารู้ทีหลังว่าได้กราบไหว้สะใภ้มีเชื้อนางทาส จึงโกรธมากหาว่าดูหมิ่นพวกราชวงค์ของตนอย่างแรง จนเวลาพระชายา นาคะมณฑา ลูกครึ่งกษัตริย์กับทาสไปไหนเลยต้องเอาน้ำนมลาดตรงนั้นเพื่อล้างเสนียด อย่างเรื่องระบบวรรณะเนียะจะอธิบายว่ายังไง ไทยก็ไม่มีระบบวรรณะ และสอง คนไทยไม่เคยเลี้ยงวัวนม และไม่เคยดื่มนม ยิ่งสมัยนั้นด้วยมีแต่วัวป่าใช้ควายไถ่นา ในขณะที่อินเดียเป็นพวกคอเคเซี่ยนมี วัฒนธรรมหลายอย่าง โดยพื้นฐาน คล้ายคนตะวันตก เช่น เรื่อง ดื่มนม, ทำชีสใส่แกง, ข้าวมธุปายาสของ
นางสุชาดาก็มีนมผสม และก็มีชาดก ตอนที่นางอะไรสักอย่างสองคนเอาน้ำเนยสาดกัน เมืองไทยในเวลานั้นก็ไม่มีทั้ง เนย ทั้งนม ทั้งวัวนม.... ยิ่งตำราของคุณเอกบอก พระพุทธเจ้าเป็นคนอีสาน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เออ ถ้าถูไถ ไปซัก มาเลย์ หรือ อินโด ก็ยังพอกระอ่อมกระแอ่มไปได้เพราะทาง มาเลย์, อินโด มีชาวอาหรับอยู่เยอะ ซึ่งพวกนี้กินนมเนย

ส่วนเรื่องระบบวรรณะที่ปรากฏในชาดกละจะว่ายังไง มันเป็นธรรมเนียมอินเดียแท้เลยนะ ลองไปหาหนังอินเดียเรื่องดังๆอย่างเดฟดาสมาดูซิ ว่า ความชื่อเรื่องวรรณะนี้แรงขนาดไหน ขนาดทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่

 

เงื่อนของเวลา

และองค์ลำดับที่เท่าใด

และจักรวาลอะไร

 

จะตอบให้เป็นตัวสีแดง

สติปัญญา รู้ได้แค่ตามตำรับตำรา

จึงไม่สามารถ เข้าถึงหรือได้รู้ความจริง

ความถ่อย ดูได้จาก ความเสื่อมใน ความคิด คำพูด หรือการกระทำ

ที่แสดงออกมา ดังนักวิขาเกินผู้นี้ ได้แสดงออกมาตามข้อความข้างต้น

 

อีกหนึ่งเบาะแส จากหนังสือชื่อ “ราชาธิราช” ซึ่งเป็นพงศาวดารมอญ โดยได้แปลจากภาษารามัญและเรียบเรียงขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเล่มที่ข้าพเจ้าได้อ่านนี้ เป็นสำนวนของ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ฉบับหอสมุดแห่งชาติ พิมพ์ครั้งที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙

ตอนที่ผมจะหบิบยกมานี้ เป็นเหตุการณ์เมื่อครั้งที่พระเจ้าราชาธิราชแห่งกรุงหงสาวดี ยกกองทัพเตรียมจะบดขยี้ กรุงรัตนบุระอังวะของพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องตามพุกามภาษา ครั้งนั้นพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องก็สะดุ้งตกพระทัยกลัว มิได้ทรงดำริการที่จะสู้รบ เนื่องจากเพิ่งผลัดเปลี่ยนแผ่นดินหลังจากสมเด็จพระราชบิดาถึงแก่การสวรรคต จึงให้ประชุมคนทั้งสองฝ่าย คือ สมณชีพราหมณ์และเสนาพฤฒามาตย์ราชปุโรหิตทั้งปวง เข้ามาพร้อมแล้วตรัสปรึกษาว่าศึกมอญยกมาติดเมืองเราคราวนี้ ผู้ใดจะมีสติปัญญาจะคิดอาสาสู้รบประการใดบ้าง เสนาบดีก็นิ่งอยู่มิได้กราบทูลประการใด

ขณะนั้นพระสังฆราชองค์หนึ่ง มีนามว่าพระสังฆราชภังคยะสะกะโร มีสติปัญญาสามารถทรงพระไตรปิฎก และรู้หลายภาษา พูดรามัญ ไทยใหญ่ ไทยน้อย ลาว ญวน เงี้ยว ทวายได้ ขันอาสาจะไปเจรจาความเมือง ด้วยพระเจ้าราชาธิราชสนองพระเดชพระคุณ ให้ยกกองทัพกลับให้จงได้ ซึ่งข้าพเจ้าจะขอตัดไปยังตอนที่พระสังฆราชภังคยะสะกะโร ได้ไปเจรจาความเมือง ซึ่งเจรจาอยู่เป็นนานได้มีการยกข้อธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระชินวรณ์ มากล่าวกัน อยากให้ท่านทั้งหลายได้อ่านเหลือเกิน เกรงว่าจะเยิ่นเย้อหากยกมาทั้งหมด จำเป็นจะนำตอนที่สำคัญที่สุดมาว่าดังนี้

...อันชมพูทวีปนี้ มัชฌิมประเทศศรีษะแผ่นดินอยู่กลางเป็นที่ตั้งพระมหาโพธิวิพุทธาภิเษก ในวิมุติเศวตฉัตรแห่งสมเด็จพระสรรเพชญ์พุทธเจ้าทั้งปวง และบรรดารุกขชาติลัดดาวัลย์มีโดยรอบนั้น มีเครือวัลย์เวียนขึ้นเป็นทักขิณาวัฏ และมียอดอ่อนน้อมเข้าไปต่อพระมหาโพธิ์ มีเมืองใหญ่เป็นโสฬสมหานครสิบหกแวดล้อมแผ่นดิน มัชฌิมประเทศมีทรงสัณฐานดังรูปตะโพนกึ่งกลางกว้างสามร้อยโยชน์ โดยรอบคอบเก้าร้อยโยชน์เท่านี้ เป็นสมเด็จพระพุทธเจ้า พระปัจเจกโพธิเจ้า พระอัครสาวก พระอสีติมหาสาวก พระยาบรมจักรพรรดิ พระยากุลจักรพรรดิ พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา ท้าวพระยาอันมีกุศลสมภารมาก ย่อมมาบังเกิดในที่นั้น และกรุงรัตนบุระอังวะกับกรุงหงสาวดีราชธานีทั้งสองก็นับเนื่องเข้าในมัชฌิมประเทศเสมอกัน ฝ่ายมหาบพิตรทั้งสองเป็นพระเจ้าแผ่นดินมีพระราชกุศลสมภาร ได้บำเพ็ญอบรมมาแต่ก่อนเป็นอันมากจึงได้มาเกิดในมัชฌิมประเทศ เป็นบรมอิสราธิปไตยใหญ่หลวงควรจะกระทำพระราชไมตรีต่อกัน สมณพราหมณ์อาณาประชาราษฎรทั้งสองฝ่ายจะได้อยู่เย็นเป็นสุข ได้บำเพ็ญกุศลสร้างบารมีเป็นทางสวรรค์ ทางนิพพานเพราะพระองค์จึงจะควร...

 

ขอเรียนเชิญ เพื่อนสมาชิก ไปอ่านรวมกระทู้ที่เกี่ยวข้อง กับงาน "ฟื้นฟูประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในถิ่นไทย-พม่า" และร่วมให้ข้อมูล ในภารกิจพลิกประวัติศาสตร์โลก เพื่อ "คืนความจริง" ให้แผ่นดิน ครับ....ช่วงจากนี้ไป คงจะเข้าสู่ Mode ปรกติ คือ งานประจำยุ่งอีกเช่นเดิม อาศัยช่วงวันหยุด จึงได้ ตั้งกระทู้ ไว้ เพื่อรอคอย เพื่อสมาชิกมาเติมเต็ม ขอบคุณ ทั้งผู้ที่มาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะ “ผู้ที่เห็นค้าน” เพราะความเห็นของท่าน ทำให้เกิด การต่อยอด ในการค้นคว้า และค้นหา นี่คือ ประโยชน์ที่ได้จากถกเถียงกัน ครับ
หากคำถามใด หรือข้อสงสัยใด ยังไม่ได้เข้ามาตอบ หรือมาตอบไม่ทันใจ ต้องขออภัย แต่จะพยายามมาติดตาม และ Update ทุกกระทู้ ก่อน นอน ในแต่ละวันนะครับ

เบาะแส ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ "แผ่นดินพม่าและไทย"
http://palungjit.org/threads/เบาะแส-ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ-แผ่นดินพม่าและไทย.400180/
"เมืองราชคฤห์" ในอุรังคธาตุนิทาน อยู่ที่อินเดียจริงหรือ?
http://palungjit.org/threads/เมืองราชคฤห์-ในอุรังคธาตุนิทาน-อยู่ที่อินเดียจริงหรือ.409690/
ชาวเมืองจำปานาคบุรี ในอดีต ไปอัญเชิญธาตุพระโมคคัลลาน์ มาจากที่ไหน?
http://palungjit.org/threads/ชาวเมื...ปอัญเชิญธาตุพระโมคคัลลาน์-มาจากที่ไหน.409676/
เมืองราชคฤห์ที่พระเจ้าตากสิน ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมา อยู่ที่ไหน?
http://palungjit.org/threads/เมืองร...อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมา-อยู่ที่ไหน.409670/
เมือง "เทวทหะ" ที่พระชาวเวียงจันทน์ ได้ส่วนแบ่งธาตุพระอานนท์มา อยู่ที่ไหน?
http://palungjit.org/threads/เมือง-...ได้ส่วนแบ่งธาตุพระอานนท์มา-อยู่ที่ไหน.409672/
พระพุทธศาสนาดั้งเดิม แบบเถรวาท ไม่เคยมีอยู่ในแผ่นดินอินเดีย
http://palungjit.org/threads/พระพุทธศาสนาดั้งเดิม-แบบเถรวาท-ไม่เคยมีอยู่ในแผ่นดินอินเดีย.409966/
"เมืองสาวัตถี" ในสมัยพุทธกาลอยู่ที่อินเดียจริงหรือ?
http://palungjit.org/threads/เมืองสาวัตถี-ในสมัยพุทธกาลอยู่ที่อินเดียจริงหรือ.410147/
เมืองอาฬวี สมัยพุทธกาล อยู่ที่นี่ อำเภอแจ้ห่ม ลำปาง
http://palungjit.org/threads/เมืองอาฬาวี-สมัยพุทธกาล-อยู่ที่นี่-อำเภอแจ้ห่ม-ลำปาง.410336/
โยนก ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก แต่อยู่ภาคเหนือของไทย
http://palungjit.org/threads/โยนก-ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก-แต่อยู่ภาคเหนือของไทย.410395/
ปริศนาจาก "วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์" ที่ปราจีนบุรี
http://palungjit.org/threads/ปริศนาจาก-วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์-ที่ปราจีนบุรี.409680/
"ศรีลังกา" ในอดีต ไม่เคยรู้จัก พระบาง พระแก้วมรกต และพระพุทธสิหิงค์
http://palungjit.org/threads/ศรีลัง...-พระบาง-พระแก้วมรกต-และพระพุทธสิหิงค์.410391/
"วิชัยกุมาร" ที่ไปสร้างเมืองที่ลังกาทวีป ไปจากสิงห์บุรี ประเทศไทย
http://palungjit.org/threads/วิชัยกุมาร-ที่ไปสร้างเมืองที่ลังกาทวีป-ไปจากสิงห์บุรี-ประเทศไทย.410900/
พระนางเหมชาลา-พระทันทกุมาร ไปลังกา จากภาคกลางของไทย
http://palungjit.org/threads/พระนางเหมชาลา-พระทันทกุมาร-ไปลังกา-จากภาคกลางของไทย.410915/
พระโมคคัลลาน์ เหาะจากอินเดีย มาที่ เขาพระพุทธฉายจริงหรือ?
http://palungjit.org/threads/พระโมคคัลลาน์-เหาะจากอินเดีย-มาที่-เขาพระพุทธฉายจริงหรือ.410870/
สถานที่ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาปรินิพพานที่อินเดีย เคยจมอยู่ใต้มหาสมุทร!!!
http://palungjit.org/threads/สถานที...นิพพานที่อินเดีย-เคยจมอยู่ใต้มหาสมุทร.395119/
ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ที่อาจนำไปค้นพบหลักฐานว่า "สังกัสสะอยู่ที่พุกาม"
http://palungjit.org/threads/ประเพณ...ปค้นพบหลักฐานว่า-สังกัสสะอยู่ที่พุกาม.368462/

 

เรียนท่าน เจ้าของกระทู้
มี2ข้อที่อยากให้ท่านได้พิจารณา การเกิดขึ้นและดับไปของพระพุทธศาสนาในชมพูทวีป
1.คำว่า"อญฺญาสิ"
2.การเดินทัพเข้าโจมตีชมพูทวีปของพวกมุสลิมที่มาจากตะวันออกกลาง