ใครเคยนั่งมโนฯ ไปป่าหิมพานต์บ้างคะ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย เอื้องผึ้ง, 22 ธันวาคม 2012.

  1. เอื้องผึ้ง

    เอื้องผึ้ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +12
    เห็นเป็นแบบไหน บ้างหรอค่ะ
    เล่าให้ฟังหน่อย อยากฟัง
     
  2. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คนธรรมดาที่เต็มไปด้วยกิเลสไม่เห็นหรอกคุณมันบังหมด มันอยู่อีกโลกหนึ่งทับซ้อนกัน ต้องฝึกวิปัสนากรรมฐาน ปลงโลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์ทั้งหลายในตนชำระจิตให้สะอาดเป็นอุเบกขาจิงๆ ญานทรรศนะเปิด ถึงจะพอเห็นได้ ป่าหิมพานต์ เมืองลับแล โลกวิญญาน หรือมากกว่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2012
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    คุณเคยเห็นต้นคริสมาสต์ไหมครับ..ถ้ามองไกลๆจะเห็นภูเขาเหมือนเป็นหน้าผาตัดตรงๆ.แล้วข้างบน มีต้นไม้แบบนี้อยู่ความสูงเท่าๆกัน..แต่ถ้าเห็นแบบเข้าไปอยู่ข้างใน จะเห็นต้นไม้แบบที่บอก เห็นอะไรก็แล้วแต่..มีคนเฝ้าประตูด้วยครับ.พวกที่ไม่ค่อยสบตากับเราครับ..แต่่ไม่ต้องมโน ก็ไปได้ครับ.ไม่เกินความสามารถคุณหรอก..
    ถ้าจะมโนนะ.ถ้าคุณแค่ดูเฉยๆเรียกว่า ครึ่งกำลัง แต่ถ้าคุณมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆด้วยเรียก เต็มกำลังครับ.ไม่อยากบอกรายละเอียดมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นอุปทานสำหรับคุณได้ ไว้ไปแล้วค่อยมาเล่าก็ไม่เสียหาย ที่สำคัญมีคนไปเยอะมาก.แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยสนใจมาเล่าเฉยๆครับ.
     
  4. jjustdream

    jjustdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +201
    ไม่ได้นั่งมโนน่ะค่ะ แต่เห็นเองซะอย่างนั้นทั้งๆที่ลืมตาด้วย มันเห็นในหัวน่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช่ที่เดียวกันรึป่าว แต่เอามาเล่าสู่กันฟัง มันเป็นป่าที่ไม่ทึบเท่าไร ที่ต้นไม้จะดูเหมือนเรืองแสงนิดๆ มีลำธารนำ้เล็กๆที่ลักษณะเป็นต้นน้ำทอดยาวเป็นทางกว้างขึ้นเรื่อยๆไปเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสเป็นกระจกเลย ในป่ามีคนครึ่งนกด้วย พ้นชายป่าก็เหมือนมีเมืองอะไรก็ไม่รู้เป็นสีทองทั้งเมือง ตั้งแต่่กำแพงเมืองจนกระทั่งคนในเมืองก็ตัวเป็นสีทองค่ะ
     
  5. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ป่าหิมพานต์ ที่ผมเห็นนั้นถึงแม้จะกว้างใหญ่และลึกลับซับซ้อนมากอย่างไรก็ตาม แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่เป็นเพียงแค่ต้องการนั่งสมาธิ ก็สามารถเห็นได้ไม่ยากเย็นอะไร แต่การเห็นอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะเข้ากันคนละทางของป่า อันนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาของทุกคนอยู่แล้ว

    ถือว่าเล่าสู่กันฟังเฉย ๆ นะครับ

    ตอนนั้นผมเพิ่งอายุแค่ 16 ปียังเป็นนักเรียนอยู่ ยังไม่เคยเข้าวัดฟังธรรมแต่ประการใดทั้งสิ้น ในวันวิสาขะบูชาปีนั้นมีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ไม่ทราบนึกอย่างไร จู่ ๆ ก็มาชวนผมไปนั่งสมาธิที่บ้านซึ่งอยู่หลังป่าช้าวัดหนึ่งใน กทม นี่แหละ รุ่นพี่คนนี้ก็บอกวิธีของ อานาปานสติ พร้อมทั้งให้ท่องพุทโธในใจ ตามแบบฉบับมาตรฐานทั่วไปนั่นเอง คืนนั้นผมนั่งถึง 4 ยก ยก 1-3 ไม่มีอะไรเพียงแค่มีไออุ่นร้อน ๆ กระจายออกจากตัวเท่านั้น แต่ยกที่สำคัญคือยกที่ 4 นี่เอง จาก 4 ทุ่มถึงตี 2 รวม 4 ชั่วโมงรวดเดียวเลย

    นั่งสมาธิครั้งแรกในชีวิต ถอดจิตครั้งแรกในชีวิต

    ยกที่ 4 เริ่มจาก 4 ทุ่ม นั่งดูลมหายใจและท่องพุทโธตามเดิม เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็เกิด ความรู้สึกทั้งตัว มีผิวหนังทั้งหมดเป็นที่สุดรอบข้างนอก (ภาษาบาลีเรียกว่า ตะจะปริยันโต) ตลอดจนฝ่ามือฝ่าเท้ารวมถึงปลายกระหม่อมด้วย จากนั้นรู้สึกเอ๊ะใจว่ามันสว่างแล้วก็เลยจะหันไปดูทางขวาทางซ้าย แต่ปรากฏว่า พอจะดูทางซ้ายภาพทางซ้ายก็เลื่อนมาให้เห็นโดยไม่ต้องหันหัว ทางขวาก็เช่นกัน รวมทั้งทางข้างหลังด้วย ก็เลยเอ๊ะใจอีก พอเอ๊ะใจคราวนี้ก็ปรากฏว่า ตัวผมค่อย ๆ ลอยออกมาจากตัวผม เป็นแบบเดียวกันกับที่เรียกว่า ถอดดาบออกจากฝัก อย่างไรก็อย่างนั้น

    ผู้มารับไปเที่ยว

    ผมลอยออกมาทางระเบียงบ้านชั้นบน ข้างล่างตรงต้นมะขาม มียักษ์ผู้หนึ่งเหมือนกับมาเตรียมรอผมอยู่แล้ว ยักษ์ผู้นี้ขาวปลอดทั้งร่าง เครื่องทรงเป็นเพชรทั้งหมดไม่มีสีอื่นแซมเลย กระบองรวมทั้งชฏาล้วนขาวประดับเพชร ไม่มีสีอื่นใดเจือปนทั้งสิ้น ขาวล้วนอย่างเดียว ชฏานั้นเป็นชฏาทรงใหญ่ ซึ่งเป็นของพระจักรพรรดิ ไม่ใช่เพียงแค่กษัตริย์ (จากการค้นคว้าภายหลังจึงทราบว่า ท่านคือ ท้าวธตรฐมหาราช นั่นเอง) ท่านผู้นี้ลอยขึ้นมาหาผม แล้วเอาผมขึ้นนั่งขี่คอบนใหล่ แบบเดียวกับที่ผู้ใหญ่เอาเด็กที่ยังเดินไม่แข็งขึ้นขี่คอแล้วพาเดินเที่ยว แบบนั้น

    ณ ใจกลาง ป่าหิมพานต์ที่เห็นจากทางอากาศ

    ท่านพาผมลอยออกจากเขตบ้าน ออกจากเขตกรุงเทพ เข้าเขตต่างจังหวัด ยิ่งลอยก็ยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกที ยิ่งสูงก็ยิ่งสว่างจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จิตในขณะนั้นประมาณได้ว่า สว่างกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงในฤดูหนาวที่ท้องฟ้าไร้เมฆ ประมาณ 7 เท่าตัว สายตามนุษย์ธรรมดาหากโดนแสงสว่างระดับนี้ ต้องบอดสนิทในทันที

    ออกจากเขตต่างจังหวัด เริ่มเข้าเขตป่า เห็นชายป่าจากทางอากาศแล้วมองไปข้างหน้าสุดลูกหูลูกตา มีเนินเขาและเทือกเขาสูงล้วนปกคลุมไปด้วยป่า ยิ่งมาเทือกเขาก็ยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ พอมองลงไปข้างล่างก็เห็นเทือกเขาสูงเหล่านั้น คล้ายเนินดินเล็ก ๆ เตี้ย ๆ เพราะท่านพาผมขึ้นสูงไปมาก ๆ อยากรู้ว่าไอ้ป่าที่อยู่ข้างล่างไกลออกไปลิบ ๆ มันเป็นอย่างไร ก็เหมือนกับลงไปลอยอยู่ในป่าทั้ง ๆ ที่ตัวยังอยู่ข้างบน รู้ว่าป่านั้นรกชัฏมากและรู้ว่าเป็นป่าหิมพานต์ไม่ใช่ป่าของมนุษย์ จึงไม่ได้สนใจอีก

    ลอยสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ความสว่างในขณะนั้นรู้ว่า สิ่งที่เรียกว่า เงา ไม่สามารถจะมีอยู่ได้ เพราะความสว่างปกคลุมไปหมดทุกซอกทุกมุม เทือกเขายิ่งมายิ่งสูง ท่ามกลางเทือกเขายังมีขุนเขาขนาดมหึมาปรากฏเป็นระยะ ก็ลอยสูงไปอีกเรื่อย ๆ จนเห็นขุนเขามหึมานั้นสูงขนาดเนินทรายเท่าข้อเท้า ส่วนข้างหน้าก็ยังมีขุนเขาขนาดใหญ่มากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ในขณะนั้นทราบว่า นั่นไม่ใช่ขุนเขาในโลกมนุษย์อีกแล้ว และในท่ามกลางขุนเขาแห่งขุนเขา มหึมาแห่งมหึมานั้น ตรงใจกลางแห่งขุนเขามหึมาทั้งหมด ยังมีอภิมหาขุนเขาอยู่ 3 ลูก ขุนเขาลูกกลางใหญ่ที่สุดและเป็นทองคำแท้ ๆ ล้วน ๆ ทั้งลูก พอเห็นขุนเขาที่เป็นทองคำแท้ทั้งลูกนี้แล้ว ก็รู้สึกตัวที่ร่าง ลืมตาขึ้นมาปรากฏว่ายังมืดอยู่เลย พอดูนาฬิกาก็เป็นตีสอง รวมเวลาก็ 4 ชั่วโมงพอดี

    ดังนั้นท่านทั้งหลายไม่ต้องใส่ใจว่าจะต้อง ปลงโลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์ทั้งหลาย รวมทั้ง ญานทรรศนะเปิด อะไรต่าง ๆให้มันเป็นการวุ่นวายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะไอ้ความคิดเอาเอง เออเอาเองแบบนั้น มันก็คือนิวรณ์ที่ไม่ใช่สัมมาทิฐินั่นแหละ

    ยามใดที่ท่านต้องการนั่งสมาธิแล้ว พอหาที่เหมาะ ๆ ได้ ก็นั่งมันไปเลยนั่นแหละ (เรียกว่า ฉันทะ) พอนั่งแล้วก็ให้ใส่ใจจริง ๆ ลงมือจริง ๆ (เรียกว่า วิริยะ) มีปรากฏการณ์อะไรที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น ๆ ก็ให้ยอมรับมันว่า ในขณะนั้น ๆ มันมีอยู่อย่างนั้น เป็นอยู่อย่างนั้น (เรียกว่า จิตตะ) ไม่นานผลลัพธ์ย่อมปรากฏมาให้เราเข้าใจได้เองตามความเป็นจริง (เรียกว่า วิมังสา)

    การนั่งสมาธิครั้งแรกในชีวิตของผมนี้ ไม่มีพิธีรีตรองแต่ประการใดทั้งสิ้น แค่อาบน้ำให้มันสบาย แต่งตัวให้มันสบาย แล้วก็ลงมือนั่งไปเลย เพียงแต่เอามันจริง ๆ เท่านั้นแหละ พอมีผลลัพธ์ปรากฏขึ้นแบบนี้แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันนั่งของมันทุกวันเองแหละ
     
  6. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029

    1. นายธรรมชาติ นายจะเก่งกว่าพุทธเจ้าแล้วไหม พุทธเจ้าบอกให้ละ โลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์ทั้งหลาย นายธรรมชาติบอกไม่ต้องละ มันจะเป็นสัมมาทิฐิได้ไงหานรกแล้วนายธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ใครบรรญัติขึ้นนายว่างๆไปอ่าน ให้สติปัญญามันกระเตื้องขึ้นนะ อ่านให้ดีนะพุทธเจ้าสอนว่าสิ่งใดควรละ สิ่งใดควรทำให้แจ้งในตน ?

    2. การแสดงธรรมผิดก็เหมือนพาคนหลงผิดนะ ผมขอเตือนว่าจะเป็นกรรมหนักเปล่าๆ ถ้านายรู้แจ้งจริงก็บอกวิธีปฏิบัติให้คนบรรลุอภิญญา หรือ ฌานก็ได้ มีคนทำแบบนายแล้วบรรลุแล้วกี่คน และอีกประการคือนายธรรมชาติบรรลุอภิญญาตั้งแต่25ปีก่อนจนเบื่อ ตอนนี้บรรลุอภิญญา6ยังหละมัวรอไรอยู่ คนที่ได้อภิญญาเค้าไปพบพุทธเจ้า เพื่อข้อคำชี้แนะ จนสำเร็จ นายมัวทำไรอยู่ได้อภิญญาแล้วรอไรหละ เปลี่ยนจากถอดจิตไปหาพระอรหันต์ ?


    กรุณามาตอบแล้ว ตอบให้ตรงที่คำถาม ข้อด้านบนนะ อย่าเปลี่ยนเรื่องหรือบิดเบือนเป็นอย่างอื่นน้องธรรมชาติ มีสติและอ่านภาษาไทยรู้เรื่องนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    โพสท์เดิมของ Tamjugg เป็นแบบนี้ อยู่ข้างบนนี้เอง

    คนธรรมดาที่เต็มไปด้วยกิเลสไม่เห็นหรอกคุณมันบังหมด มันอยู่อีกโลกหนึ่งทับซ้อนกัน ต้องฝึกวิปัสนากรรมฐาน ปลงโลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์ทั้งหลายในตนชำระจิตให้สะอาดเป็นอุเบกขาจิงๆ ญานทรรศนะเปิด ถึงจะพอเห็นได้ ป่าหิมพานต์ เมืองลับแล โลกวิญญาน หรือมากกว่านั้น
    ===================================================================

    แต่สิ่งที่ผมโพสท์ ข้างบนนั้น ชี้ให้เห็นแล้วว่า Tamjugg พูดผิดจากความเป็นจริง อันเป็นคำพูดของ มิจฉาทิฐิ และด้วยอาการ จองเวรแบบไม่มีที่สิ้นสุดของ Tamjugg ยิ่งชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่า ตัวตนที่แท้จริงของ Tamjugg มีโฉมหน้าอย่างไร

    นาย Tamjugg พยายามทำตัวเป็น มาร โดยการเอา พระพุทธเจ้า มาแอบอ้างอยู่ตลอดเวลา และพยายามตัดกำลังใจของนักปฏิบัติธรรมหน้าใหม่ อยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ดังเช่นโพสท์เดิมของ Tamjugg ข้างบนนั้น เป็นการตัดนักปฏิบัติธรรมทั้งหมดโดยไม่เลือกหน้า

    Tamjugg เอ๋ย หากอยากดังจริง ๆ แล้ว จงเร่งมือทำความดีให้พ้นนรกเถิด อย่ามัวแต่เอาความ อิจฉาตาร้อนของเจ้ามาเพ่งเล็งเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นเลย เราเคยเตือนเจ้าไว้หลายที่แล้ว แต่มิจฉาทิฐิของเจ้ามันบังตาเจ้าเสียจริง ๆ มรรค ผล นิพพาน ไม่สามารถบังเกิดกับเจ้าได้ในชาตินี้เสียแล้ว เจ้าถูกตัดออกแล้วด้วยกรรมของเจ้าเองนั่นแหละ

    การเตือนของเราครั้งแรกนั้น อยู่ที่นี่

    http://palungjit.org/threads/แนวทางที่ผมฝึกแล้วเห็นผล.376682/page-3#post7080616

    หากท่านผู้อ่านท่านใด ต้องการตัวอย่างของบุคคลอันเป็น มิจฉาทิฐิ เพื่อเป็นตัวอย่างในการศึกษาธรรมะ และเพื่อเป็นการศึกษาว่า บุคคลเยี่ยงไรมีอบายเป็นที่ไป แล้วไซร้

    ขอให้อ่านด้วย วิจารณะญาณ ที่เด่นชัดในตัวท่านเอง โดยเริ่มต้นจาก โพสท์แรกในกระทู้นี้ก่อนก็ได้
    จากนั้น ให้ติดตามตั้งแต่ตอนเริ่มต้นไปจนจบ จากกระทู้นี้

    http://palungjit.org/threads/แนวทางที่ผมฝึกแล้วเห็นผล.376682/

    คอยสังเกตุการโพสท์ของ Tamjugg ให้ดี แล้วจะทราบอย่างชัดเจนเองว่า บุคคลที่เป็น มิจฉาทิฐิ นั้นเป็นเช่นไร ให้คอยสังเกตุการ กลับกลอก ของการโพสท์ของ Tamjugg ประกอบไปด้วยตลอดเวลา แล้วท่านจะรู้แจ้งจากตัวอย่างตัวนี้ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  8. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    คุณคนนั้นคงอ่านไม่ลึกพอน่ะครับ อ่านแค่ข้อความที่เห็นแล้วคิดไปโน้น คือว่ากระทู้นี้เขาถาม แล้วคุณธรรมชาติก้เล่าให้ฟังแถมเสริมนิดหน่อย ผมก็งงกับเขาเหมือนกัน แกจะมามุกไหนเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อืม... จงใจกล่าวคำมุสาวาท ด้วยอกุศลมูลจิต...
     
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    นาย ธรรมชาติบอกว่า

    ดังนั้นท่านทั้งหลายไม่ต้องใส่ใจว่าจะต้อง ปลงโลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์ทั้งหลาย รวมทั้ง ญานทรรศนะเปิด อะไรต่าง ๆให้มันเป็นการวุ่นวายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะไอ้ความคิดเอาเอง เออเอาเองแบบนั้น มันก็คือนิวรณ์ที่ไม่ใช่สัมมาทิฐินั่นแหละ



    ยินดีกับคำกล่าวเช่นนี้หรอนายอินทรบุตรเจริญเถอะ จะเก่งกว่าพุทธเจ้าแล้ว พุทธเจ้าบอกว่าควรละเสียอกุศลทั้งหลายคือนิวรณ์ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ยังมีหน้ามาบอกว่าคนอื่นเป็นมิจฉาทิฐิอีก คุยกับคนไม่รู้จักระอายนี้คุยยากจิงๆ สักแต่ว่าเถียงไม่ใช่ปัญญาพิจารณาตามความเป็นจริง เลิกหาเวรกรรมได้ละมั้ง อินทรบุตรไม่เห็นผลกรรมคงไม่สำนึกสินะ

    ผมมุสาพูดผิดท่อนไหนยกมาอ้างได้อย่าดีแต่กล่าวหา แต่ถ้าผมพูดจิงเป็นสัจธรรมแล้วมากล่าวหานรกนะมีอยู่จิงสำหรับคนชอบกล่าวหาคนอื่นตั้งแต่พุทธกาลแล้ว แนะนำให้เอาเวลาว่างไปภาวนา และฝึกละนิวรณ์ทั้งหลายจะได้ฉลาดในธรรมบ้าง คือล้างสิ่งสกปรกออกจากจิตบ้างนั่นเอง นิวรณ์ทั้งหลาย โลภะโทสะโมหะใีครบัญญัติขึ้น และใครบอกให้ควรละทิ้ง ว่างๆไปหาอ่านประเทืองปัญญานะ นาย ธรรมชาติ อินทรบุตร watjojo โมทนากับคนพูดผิดและคนเลวมัันคือการเห็นผิดคือมิจฉาทิฐิ ระวังจะได้ไปอยู่ด้วยกันในอบายนะผมขอเตือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  11. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    โปรดบัวใต้ตม ก็เป็นแบบนี้แหละ
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ผิดตรงที่ Tamjugg รู้อยู่แก่ใจ ว่าท่าน ธรรม-ชาติ อายุกายสังขารในชาตินี้ มากกว่าตัวเอง แต่ยังจงใจใช้คำพูดผิดบิดเบือนจากความเป็นจริง ด้วยมูลเหตุของอกุศลในใจตัวเอง ที่ต้องการกดข่มดูถูกผู้อื่น

    ผิดศีลข้อ 4 อย่างชัดเจน มีอบายเป็นที่ไป
     
  13. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    จับแพะชนแกะ มั่วไปหมด มิจฉาทิฐิบดบัง หน้ามืดตามัว เห็นผิดเป็นชอบ คงแล้วแต่กรรมท่านแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มากล่าวว่าผมผิดศีลข้อ 4 อย่างชัดเจน มีอบายเป็นที่ไป ถามผิดตรงไหนที่นี้เริ่มเงียบ ไม่รู้เอาไรมาอ้างเอาเรื่องอายุกายสังขารมาอ้า่งได้เฉย หาเหตุผลอื่นไม่ได้แล้วหรอ อินทรบุตร ตอบแบบนี้ไม่อยากนึกถึงหน้าคุณเลยเป็นยังไง บันฑิตเค้าวัดกันที่ปัญญาและคุณธรรมหรือคำพูดสัจธรรม หาใช่อายุสังขารจำไว้ ใครพูดเป็นสัจธรรมเป็นประโยชน์ผมยกมือไหว้กราบได้ไม่ว่าแก่หรือเด็ก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ยิ่งคุณเถียงผม พยายามเปลี่ยนประเด็นมาระรานผม คุณยิ่งลงลึกกว่าเดิมนะ ผมพูดแค่นี้แหละ จะทำอะไรอีกก็ตามสบาย
     
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มากล่าวหาผมผิดศีลแบบลอยๆได้ ถามท่อนไหนตอบไม่ออกไปเอาเรื่องอายุสังขารมาอ้างเฉย อะไรคือศีลในตัวคุณหละอินทรบุตร เก่งในธรรมดีกว่า เก่งกล่าวหามีแต่จะเพิ่มอกุศลกรรมให้ตน ก่อนจะยกผิดศีลข้อ 4 อย่างชัดเจน มีอบายเป็นที่ไป ทำให้แจ้งในตนก่อนนะอินทรบุตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  17. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ทำให้แจ้งก่อน watjojo ว่าตัวเองอยู่บัวเหล่าไหนอย่าเพิ่งไปว่าคนอื่นนะ อันจะเพิ่มกรรมให้แก่ตน จะบอกให้พวกชอบว่าคนอื่นบัวใต้ตมโดยที่ตนยังไม่บรรลุธรรมขั้นสูงหรือบรรลุแล้วก็ตาม ตนเองไม่หยาบช้าสกปรกกว่าหรือน้องwatjojo พระอรหันต์ยังไม่ไปเที่ยวเรียกใครบัวใต้ตมเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อย่าหาว่าดิฉันอะไรเลยนะคะ การฝึกมโณนี้มีทั้งข้อดี,ข้อเสียง ข้อดีคือ การใช้เสียงสร้างสมาธิตาม มันทำให้เราเข้าสมาธิได้เร็ว ในกรณีพวกที่เป็นจิตรกร นักศิปะ ทัังหลายจะฝึกด้านนี้ได้เร็ว แต่ข้อเสียก็ คือ มีคนบางประเภทที่ไม่ได้เห็นจริง แต่จินตนาการ คิดไปเอง การนั่งมโณให้ถึงขนาดไปป่าหินมพารณ์ โดยไปจริงๆโดยไม่ได้จินตนาการนี้ ยากคะ, น้อยคนจะทำได้, ดิฉันเคยฝึกมโณ แต่ก็ไม่เคยไปไกลขนาดเห็นป่าหินมพาร แต่รู้อย่างเดียวว่า ที่ไปกันทั้งหมดไม่มีใครฝึกสำเร็จเลยในวันนั้น เขาบอก เหมือนต้องจินตนาการตามเสียงที่อาจารย์นำ แต่ดิฉันคนเดียวที่ฝึกสำเร็จในวันนั้น คือ แรกๆเวลาอาจารย์บอกให้สร้างรูปพระ ในจินตนาการ และเปลี่ยน ย่อขยาย ตามคำสั่ง ตรงจุดนั้น ถ้ายังจินตนาการเห็นไม่ชัดแจ๋ว เหมือนมองด้วยตาเปล่า อย่างนั้นยังถือว่าไม่สำเร็จ จินตนาการจะกลายเป็นนิมิตได้ต่อเมื่อภาพที่เห็นขณะหลับตาชัดเหมือนที่เรามองด้วยตาเปล่า พอตอนนี้แหละจิตจะอยู่ในสภาวะสมาธิ หรือ ฌาณแล้ว และหลังจากนั้นโดยมากคนเราจะตื่นนิมิต สนุกสนานกับฌาณที่ได้ อย่างดิฉันตอนที่นั่งนั้นไม่ได้ไปหรอก ป่าหินมพาร ไม่ฟังอาจารย์ที่นำแล้ว ดันไปที่อื่นแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  19. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    จะจงใจผิดศีลอีกนานไหมนี่?

    รู้ว่ามันเป็นบาปกรรม ก็จงใจสร้างบาปกรรมใหม่ๆ เพิ่มเติมไม่หยุด ใครเตือนก็ไม่ฟังเลยนะ

    หรือที่คิดว่าตัวเองทำอยู่นี่ ไม่ผิดศีลหรือไง กล้าตอบว่าไม่ผิดศีลไหมหละ?
     
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ยังหน้าด้านมาพูดเรื่องผิดศีลอีกหรออินทรบุตร คุยกับคนไม่มีหิริโอตัปปะนี้คุยยากจิงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...