ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

..๑๖ พค.๕๖ นี้!! ขอเชิญร่วมประมูลดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะ

​

ขอเชิญร่วมประมูล ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะ” ขนาดกว่า ๑๐ กิโลกรัม อัญเชิญถ้ำมุจลินทร์ในเทือกเขาภูพาน ก่อนวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๒๕๕๖

ดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะนี้ เกิดก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า โดยมีพระวาสิษฐีมหาเทวี เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ๒๑,๗๘๕,๐๐๐ องค์ ปัจจุบันอยู่ชั้นสวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี

ราคาเริ่มต้นการประมูล... ๑๕,๑๙๙ บาท

​

กติกาในการประมูล

๑. เริ่มวันที่ ๑๕-๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๙.๕๙ น. ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ตามราชาฤกษ์ และฤกษ์พรหมสิทธิ์

๒. หากที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้

๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วัน เมื่อโอนปัจจัยแล้ว จะทำการจัดส่งดวงแก้วให้แก่เจ้าของต่อไปค่ะ

กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 080-252647-2
ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาถนนศรีนครินทร์(กรุงเทพ-กรีฑา)
ประเภท ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์

ปัจจัยหักค่าใช้จ่ายดังนี้

๑.ปัจจัย ๑๐ % นำไปร่วมบุญสร้างลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี อ.เมือง จ.สุรินทร์

๒.อีก ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-100#post6885657


ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะนี้ เป็นดวงแก้วคู่บารมีกับดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์ และดวงแก้วจุลจักรพรรดิของคุณเพชร2545 นั้นจะมีความเกี่ยวเนื่องกับพญานาคตระกูลนี้ค่ะ ซึ่งจะนำเสนอประวัติตอนต่อไปค่ะ

จากนั้นประวัติจะต่อเนื่องกับดวงแก้วจักราฤทธิไกร(คุณพรหมประกาศิต รอการตัดสินใจ) และแก้วศุภาลัยนารีลักษณ์(มณีรัตนะ)ของคุณจันทรกาลค่ะ ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อยกว่าดวงแก้วที่ผ่านมา ทุกอย่างเกิดด้วยบุญบารมี และแรงอธิษฐานของผู้เป็นเจ้าของค่ะ

สำหรับดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะนี้ เจ้าของเดิมมิได้ลงมาเกิดในชาตินี้ ผู้ที่จะได้ดวงแก้วไปบูชาจะมีความเนื่องกับท่านเจ้าของเดิมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือเป็นผู้ที่มีอธิษฐานบารมีมาเพียงพอ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ผมขอเริ่มเปิดบูชาเป็นคนแรกครับ 15,535 บาท
ขอบคุณครับ

 

..ประวัติดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์-วาสิษฐีมณีรัตนะ ตอนแรก..

​

ย้อนหลังไปก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า มีนครบาดาลหนึ่งนามว่า “สุทธสมนต์” นครนี้เป็นนครที่อยู่กลางทะเล (บริเวณทะเลจีนใต้)

มีท้าวพศตนาคราช เป็นผู้นครบาดาล มีพระมเหสี ๒ พระองค์ นามว่า “พระนางสุมนเทวี และพระนางสิริมาเทวี" มีพระโอรส-ธิดา ๘ องค์ นามว่า..

“พศรุตม์นาคราช –สุคตนาคราช-พสุตธิตนาคราช-สิทธินาคราช -อสุมามาณวิกา- สิครินทร์นาคราช-สิริทิพย์มาณวิกา –สิริอรมาณวิกา”

พระโอรส-ธิดาทั้ง ๘ นั้นรักต่างรักใคร่กันดี โดยไม่แยกว่าใครเป็นลูกแม่องค์ไหน


วันหนึ่งท้าวพศตนาคราชมีความปรารถนาจะไปเที่ยวยังเมืองมนุษย์ เพื่อแสวงหาวิชาและครูบาอาจารย์ เพื่อปกป้องเมืองให้ปลอดภัยจากครุฑทั้งหลาย

ทรงมอบหมายให้เจ้าชายพศรุตม์ และเจ้าชายสุคตนาคราชรักษาเมืองแทน ส่วนพระองค์ได้พาพระโอรส ๒ พระองค์ คือ เจ้าชายพสุตธิตนาคราช และเจ้าชายสิทธินาคราช

จากนั้นทรงเนรมิตเรือ และแปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อมิให้มนุษย์สงสัย เมื่อเรือเข้าฝั่งด้วยฤทธิ์ของท้าวพศตนาคราชภายในพริบตาเดียว ส่งพญานาคราชทั้ง ๓ ขึ้นฝั่งแล้ว เรือนั้นก็ลอยกลับทะเล และหายวับไป

จากนั้น ท้าวพศตนาคราชได้อธิษฐานถึงครูบาอาจารย์ จากนั้นก็เกิดแสงประหลาดขึ้นมาจากทิศตะวันตก ท่านจึงพาพระโอรสทั้ง ๒ ไปทางทิศนั้น ทรงมิได้ใช้ฤทธิ์ในการเดินทางแต่อย่างใด เพื่อฝึกให้พระโอรสทั้งสองมีความอดทน

ก่อนหน้านั้นพระองค์เคยพาพระโอรสองค์โต และองค์รองออกแสวงหาประสบการณ์มาแล้ว แต่คราวนั้นมิได้พบครูบาอาจารย์แต่อย่างใด

คราวนี้พระองค์ก็ได้พาพระโอรสอีก ๒ องค์ออกเดินทางต่อไป เมื่อเห็นแสงสว่างวาบดังนั้น ก็ทรงใช้ฤทธิ์ย่นระยะทางเพื่อความรวดเร็ว เสด็จมาถึงป่าแห่งหนึ่งทรงใช้ทิพย์จักขุญาณตรวจดูพบว่า..

มีพระฤาษีผู้ทรงศีลอยู่ จึงให้อธิษฐานให้ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าพระฤาษีทันที

ยังมีต่อ..

 

..ประวัติดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์-วาสิษฐีมณีรัตนะ ตอน ๒ พระเกษรีฤาษี..

​

พระฤาษีทรงสมาบัติมานานนับปี ทราบด้วยญาณทัสสนะว่า ผู้ที่เคยเป็นศิษย์แต่อดีตได้มาปรากฏตรงหน้า ก็ลืมตาและยิ้มเล็กน้อย ถามว่า..

“ท่านจอมกษัตริย์แห่งนาคพิภพเอ๋ย ท่านดั้นด้นมา ณ.ที่นี้ด้วยเหตุอันใด”

ท้าวพศตนาคราชรู้สึกปิติใจยิ่งที่ได้พบผู้ทรงศีลตามที่ตนตั้งใจไว้ ได้กล่าวว่า....

“ข้าฯแต่ท่านผู้ทรงศีล เกล้ากระผมเป็นพญานาคแห่งกลางทะเลอันไกลโพ้น คราวก่อนได้เคยขึ้นมายังเมืองมนุษย์ เพื่อหาครูบาอาจารย์เมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ก็ผิดหวัง

คราวนี้เป็นบุญของเกล้ากระผม และพระโอรสยิ่ง ขอท่านได้โปรดรับเราเป็นศิษย์ด้วยเถิดขอรับ”

พระฤาษีได้กล่าวว่า .. “มหาบพิตร เรามีชื่อว่า เกษรีฤาษี เราบำเพ็ญเพียรมาได้ไม่นานนักความรู้ที่ได้มีเพียงน้อยนิด ขอให้ท่านโปรดอภัย หากเรามิสามารถสอนท่านได้มากนัก”

ท้าวพศตนาคราชได้กล่าวว่า..

“หาใช่เช่นนั้นไม่..ท่านผู้ทรงศีล กระผมได้อธิษฐานต่อฟ้าดินแล้ว มีแสงมาทางนี้ ก็ได้พบท่าน แม้ความรู้ที่ท่านว่า น้อยนิด ก็โปรดสอนกระผมด้วยเถิด ขอรับ”
พระฤาษีได้ตอบตกลงจะรับพญานาคทั้ง ๓ เป็นศิษย์ จากนั้นพญานาคทั้ง ๓ ได้ฝึกวิชาต่าง ๆ ใช้เวลา ๓ เดือนจึงสำเร็จวิชา
_______________________________________________


หมายเหตุ หลายท่านได้ติดตามประวัติของพระเกษรีฤาษีมาตั้งแต่ต้น ขออธิบายว่า..

ช่วงที่พญาพศตนาคราช และพระโอรสทั้ง ๒ ได้พบท่านเกษรีฤาษีนั้น เป็นช่วงหลังจากท่านออกสมาบัติ ๓๐,๐๐๐ ปี และหลังพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า ๔๙๙ องค์เข้าปรินิพพาน

และเมื่อออกจากสมาบัติมาไม่นานนัก หลังจากนั้นท่านก็เข้า ๆ ออก ๆ สมาบัติเป็นปี เป็นช่วงที่ก่อนจะพบพระอัฐกัณฑฤาษี ผู้สอนวิชานพเก้าไตรกาล อีกหลายปี

ธรรมดาแล้วท่านปู่เกษรีฤาษีนั้น เป็นผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่โอ้อวดภูมิของตน

 

ขอร่วมบุญประมูล เพื่อสร้างลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ และเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร 15,800 บาทครับ

 

ประวัติดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์-วาสิษฐีมณีรัตนะ ตอน ๓ กำเนิดดวงแก้วทั้ง ๒


เมื่อสำเร็จวิชาแล้ว ก่อนจะเดินทางกลับ พระเกษรีฤาษีได้กล่าวว่า..

“มหาบพิตร ก่อนที่พระองค์และพระโอรสจะเสด็จกลับยังเมือง พระอาจารย์จะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๕ วัน ขออย่าให้ผู้ใดรบกวน”

พญาพศตนาคราช และพระโอรสผลัดกันเฝ้าดูแลร่างของพระเกษรีฤาษี เพื่อให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

เมื่อครบ ๑๕ วันตามกำหนด พระเกษรีฤาษีออกจากสมาบัติ อธิษฐานเรียกดวงแก้วมณีที่เคยเนื่องกับท่านมาแต่อดีต ปรากฏดวงแก้วมณีผุดขึ้นจากทราย ๒ ดวง มีนามว่า..

“ดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์ และดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะ เป็นดวงแก้วคู่บารมีพญาพศตนาคราช และพระมเหสีองค์แรก เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ขอท่านจงนำไปปกปักรักษาเมืองของท่านให้พ้นจากเหล่าครุฑทั้งหลายเถิด"

พระเกษรีฤาษีได้มอบดวงแก้วทั้งสองแด่พญาพศตนาคราช เจ้าชายสิทธินาคราชนั้น รู้สึกทึ่งในอิทธิฤทธิ์ของพระอาจาย์ และมีความรักผูกพันกับดวงแก้วมณีมาก จึงได้กราบเรียนถามพระเกษรีฤาษีว่า..

“ข้าฯแต่พระอาจารย์ เกล้ากระผมเป็นพญานาคราช สามารถเข้าสมาบัติอธิษฐานเรียกดวงแก้วมณีได้หรือไม่ขอรับ”

พระเกษรีฤาษีตรวจบุพกรรมของเจ้าชายสิทธินาคราช และตอบว่า..

“ดูกร..เจ้าชาย..หากท่านปรารถนาเรียกดวงแก้วมณีคู่บารมีของท่านก็ย่อมทำได้ แต่ใช้เวลาเข้าสมาบัติถึง ๖ เดือนจึงจะสำเร็จ ท่านต้องขออนุญาตพระบิดาของท่านก่อน หากพระบิดาอนุญาตก็สามารถทำได้”

เจ้าชายสิทธินาคราช จึงได้ขออนุญาตพระบิดา พญาพศตนาคราชนั้น เห็นความมุ่งมุ่นของพระราชโอรส ก็ทรงอนุญาต และกล่าวว่า..

“สิทธินาคราชเอ๋ย เจ้าจงอยู่เรียนวิชากับพระอาจารย์ก่อน พ่อและพี่ขอเจ้าต้องกลับเมือง เพราะพ่อทิ้งเมืองให้พี่เจ้าดูแลมานานแล้ว อีกประการชาวเมืองของเราจะได้มีดวงแก้วมณีบูชา ไม่ต้องหวาดกลัวพวกครุฑจะมาทำร้ายเราได้ พ่อจะกลับเมืองก่อน แล้วเจ้าจงเดินทางกลับภายหลังเมื่อเจ้าสำเร็จวิชาแล้วนะ”

เจ้าชายสิทธินาคราชได้ก้มกราบพระบิดาด้วยความตื้นตันพระทัย ทรงตรัสว่า..

“ข้าฯแต่พระบิดา ลูกจะตั้งใจฝึกวิชาให้สำเร็จ ไม่ว่าจะยากเพียงใดพะยะค่ะ”

พญาพศตนาคราช และเจ้าชายได้กราบลาพระเกษรีฤาษีแล้วแทรกกายลงดินจากไปยังนครบาดาลของตน

โปรดติดตามต่อไปพรุ่งนี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สวัสดีค่ะ คุณ prapart54

ยินดีต้อนรับสู่สัตตรัตนมณีนครนะคะ (ดูจักร ๆ วงศ์ ๆ คงไม่เป็นไรนะคะ) เท่าที่ทราบครั้งนี้ คงเป็นครั้งแรกที่ร่วมประมูล

ขอให้ทำใจให้ใสบริสุทธิ์ นึกน้อมบุญกุศลที่ได้ทำมาตั้งแต่ต้นชาติ และถวายแด่พระวาสิษฐีมหาเทวี ผู้ดูแลดวงแก้วนี้ พร้อมกายสิทธิ์ทั้งปวง

ส่วนจะได้เป็นผู้ดูแลดวงแก้วต่อไปหรือไม่ อยู่ที่ใจบริสุทธิ์จะน้อมนำบุญบารมีค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 เจ้าของดวงแก้วมณีรัตนะดวงแรก ที่จะถวายเป็นบริวารกฐิน วัดพระพุทธบาท (ห้วยทรายขาว) ปี ๒๕๕๖ ด้วยค่ะ

เหตุที่นำข้อความนี้มาอีกครั้ง เพื่อให้ท่านผู้มาใหม่ได้ร่วมโมทนาบุญกันค่ะ ยังไม่ถึงเวลาถวายดวงแก้ว แต่บุญก็สำเร็จรอคุณ sun อยู่บนวิมานแล้วนะคะ

บุญที่ได้ถวายผอบแก้วที่วัดเขาวงที่ผ่านมา เป็นดอกบัวแก้วรองรับ ดวงแก้วมณีรัตนะใสบริสุทธิ์ที่คุณ sun2555 ได้ตั้งใจจะเป็นบริวารกฐิน ปรากฏอยู่ในวิมานบนสวรรค์ชั้นดุสิต และดาวดึงส์ค่ะ แต่ความปราณีตต่างกัน บนสวรรค์ชั้นดุสิตจะงดงามกว่ามากค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

อนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 ด้วยนะครับ
ขอให้สำเร็จ สุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาไว้ครับ สาธุ สาธุ

 

-ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 ด้วยนะครับ ขอท่านสมหวังด้่งปรารถนาทุกประการครับ สาธุ ๆ ๆ

 

ขอร่วมประมูลดวงแก้วที่15900บาทครับ

 

พระวาสิษฐีมหาเทวี อืม ชื่อเพราะจังเลย เอาใจช่วยทุกท่านนะค่ะ

 

ขอร่วมทำบุญเพิ่ม 16,535 ครับ

 

รอติดตามลุ้น ท่านที่จะได้เป็นเจ้าของดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะ” ท่านต่อไป
และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมประมูลด้วยครับ

 

ขอสรุปการประมูลดวงแก้ววาสิษฐีมณีรัตนะ ณ วันที่ 16/5/2556 เวลา 15.25 น

ผู้เข้าร่วมประมูล
1. คุณPrapart54 : 05.37 pm = 15,535.-
2. คุณsun2555 : 06.06 pm = 15,800.-
3. คุณmoom : 09.30 pm = 15,900.-
4. คุณPrapart54 : 01.15 pm = 16,535.-

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่ร่วมประมูลค่ะ
ขอให้สมปรารถนานะค่ะ

จันทรกาล

 

ขอร่วมทำบุญสร้างลายไทยหน้าบรรณ ประตู และหน้าต่างโบสถ์
วัดโพธิญาณรังสี อ.เมือง จ.สุรินทร์

จำนวน 200 บาท โอน ธ.ไทยพาณิชย์ บัญชีพี่น้ำใส วันที่ 16 พ.ค.56

ขอน้อมบูชาแด่พระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ในอดีต
และพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้
รวมทั้งบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อันมีสมเด็จองค์ปฐมต้น เป็นประธาน

และน้อมถวายบูชาแด่พระสุทธิมงคลวิสุทธิเทพ และพระมัณฑนวิสุทธิเทพ ผู้มีพระคุณทุกท่าน
อันมีหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษี เป็นที่สุด

ขอให้ข้าพเจ้า สมหวังทุกประการ ทั้งทางโลก และทางธรรม ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ
ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้ามีความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรม
นับแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาบุญทั้งหมดกับพี่น้ำใส พี่ Phuya และทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ที่ร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอคั่นรายการประมูลครับ ขออนุญาตพี่น้ำใส บอกบุญครับ
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี จำนวน 2,556 กองๆละ 2,000 บาท เพื่อสร้างอาคารพระปริยัติธรรม อนาลโย 80 ปี ทอดถวาย ณ อุโบสถ วัดพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ในวัน(วิสาขบูชา)ที่ 24 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 21.00 น.

เพื่อให้การก่อสร้าง “อาคารพระปริยัติธรรม อนาลโย 80 ปี” ดำเนินก่อสร้างให้สำเร็จตามเตนาอันแน่วแน่ของพระเดชพระคุณ พระราชภาวนาพินิจ (หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย) คณะศิษยานุศิษย์ในพระคุณท่าน จึงกำหนดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อหาทุนทรัพย์อีกประมาณ 25 รายการ (ดูด้านหลัง) และในวันวิสาขบูชาที่ 24 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 16.00 น. วัดพุทธบูชาจะจัดงานทำบุญหล่อพระสมเด็จองค์ปฐม (เนื้อเงินแท้) หน้าตัก 19 นิ้ว (ใช้ปัจจัยสร้างประมาณ 2 ล้านบาท) นำไปประดิษฐาน ณ หน้าบรรณ อาคารพระปริยัติธรรม อนาลโย 80 ปี และหล่อรูปเหมือนพระสีวลี 3 องค์ (นำไปประดิษฐาน ณ วัดสาขาของวัดพุทธบูชา คือ วัดป่าอนาลโย จ.นครปฐม วัดวิมุตตยาราม จ.ราชบุรี และ วัดป่าวิเวกพัฒนาราม จ.เชียงราย)
จึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนผู้ใจบุญทั้งหลาย ร่วมทำบุญหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมและหล่อรูปเหมือนพระสีวลี 3 องค์ และร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี หรือร่วมทำบุญตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธา ซึ่งอำนาจแห่งบุญของท่านในครั้งนี้จะเป็น “อริยทรัพย์ติดตามไปเกื้อกูลท่านทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพานโดยทั่วกัน
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง ด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ สัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการเทอญ
“อริยทรัพย์ ทรัพย์อันประเสริฐมี 7 ประการ คือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ ปัญญา”

ท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมจองเป็นเจ้าภาพกองละ 2,000 บาท หรือร่วมทำบุญสมทบสามารถโอนเข้าบัญชีพระราชภาวนาพินิจ ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนประชาอุทิศ (ทุ่งครุ) เลขที่บัญชี 465-0-26639-4

สามารถร่วมบุญตามกำลังศรัทธา ได้ตามเลขบัญชีข้างต้นครับ

 

ประวัติดวงแก้วพศตบุญฤทธิ์ -วาสิษฐีมณีรัตนะ ตอน ๔ อานุภาพแห่งดวงแก้วมณี..

​

หลังจากที่พญาพศตนาคราช และเจ้าชายพสุตธิตนาคราชได้เดินทางกลับไปถึงสุทธสมนตนครแล้ว ได้จัดให้มีการจัดตั้งเครื่องสักการะดวงแก้วมณีรัตนะทั้ง ๒ อย่างสมเกียรติ

เจ้าหญิงอสุมา-เจ้าหญิงสิริทิพย์ และเจ้าหญิงสิริอรนั้น พร้อมนางกำนัลส่วนหนึ่งได้รับมอบหมายให้เตรียมน้ำอบน้ำปรุง เพื่อสรงน้ำดวงแก้วมณี นางกำนัลทั้งหลายได้นำดอกไม้ และแก่นไม้หอมมาบดเป็นผงแล้วผสมเป็นน้ำอบ เป็นน้ำสรงดวงแก้วมณีนั้น มีนางกำนัลนางหนึ่งมีนามว่า..

"สิขจีนาคี” นางมีความปลื้มปิติในบุญมาก และปรารถนาที่จะมีดวงแก้วมณีเป็นของตนเอง เพื่อจะได้สร้างบุญใหญ่ต่อไป ระหว่างที่สรงน้ำดวงแก้วไปก็ยิ่งมีความปิติอย่างสูง กาลนั้นเองเป็นเวลาที่นางได้จุติทันที

สร้างความประหลาดใจแก่เจ้าหญิงทั้ง ๓ เป็นอย่างยิ่ง เจ้าหญิงสิริทิพย์นั้นได้นำความไปแจ้งแก่พญาพศตนาคราช พระองค์ได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะทราบว่า นางไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นพระธิดาของกษัตริย์เมืองสุชาดวดีทันที ซึ่งเมืองสุชาดวดีนั้นอยู่ห่างจากสุทธสมนตนครถึง ๑๐๐ โยชน์ พระองค์ตรัสว่า..

“การถวายเครื่องสักการะแก่ดวงแก้วมณีนั้นเป็นบุญใหญ่ กาลที่ไม่มีนักบวชนั้น ถือเอาดวงแก้วมณีเป็นเครื่องสักการะบูชาอันสูงสุด สิขจีนาคีนั้น มีความปิติในบุญนี้ส่งผลให้นางไปเกิดเป็นพระธิดาแห่งเมืองสุขาดวดีในมนุษย์ภูมิ”

เมื่อพระมเหสีทั้งสองได้สดับเช่นนั้น ทรงนำดอกไม้นานาพันธุ์เท่าที่หาได้ในเมืองมนุษย์ และนาคพิภพมาบูชาดวงแก้วมณีด้วยความเคารพ พระนางสุมนเทวีขอพรว่า..

“ขอให้พระนางทั้งสองได้มาเกิดเป็นมนุษย์ และได้ครองคู่กับพญาพศตนาคราล ได้สร้างกุศลใหญ่ในกาลต่อไปด้วยเถิด”

ส่วนพระนางสิริมาเทวีนั้น ได้ขอพรว่า..

“ในชาติต่อไปขอให้หม่อมฉันได้เกิดเป็นมนุษย์ และหาทางดับทุกข์ได้ด้วยเถิด”

ส่วนเจ้าชายพศรุตม์นาคราช เจ้าชายสุคตนาคราช และเจ้าชายพสุตธิตนาคราชนั้น ต่างก็นำแก้วแหวนเงินทองที่มีอยู่มาบูชาดวงแก้วมณีนั้นเช่นกัน ต่างก็ขอพรให้ตนได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ได้สร้างบุญใหญ่ และได้พบพระบิดาพระมารดาเช่นกัน

จากนั้นเหล่านาคีนาคาทั้งหลายต่างทยอยกันมาสรงน้ำดวงแก้วมณี ต่างขอพรให้ตนได้เกิดมาพบพญาพศตนาคราชได้สร้างบุญร่วมกับพระองค์ไปทุกภพชาติ

___________________________________

ยังมีต่อ..