อยากถามคนที่มีพลังจิต

คือเราอยากถามว่า คนที่มีพลังจิตคนที่สามารถเห็นอดีตที่ผ่านมาของคนทั่วๆไปเช่นแบบสามารถบอกได้ว่าแฟนเราทำอาชีพอะไรและสามารถรู้ได้ว่าเรากำลังท้อง หรือมองเห็นอนาคตของคนๆนั้น เค้าจะสามารถได้ยินหรือรู้สิ่งที่เราคิดมั้ย ถ้าเราไปอยู่ต่อหน้าเค้าแล้วเราคิดในใจเค้าจะได้ยินเรามั้ย

 

ถ้าเค้ามีทิพย์จักขุญาณ จริงๆ ล่ะก็ ไม่ต้องอยู่ต่อหน้าหรอกครับ อยู่ต่างดาวก็ยังรู้เลย เหอๆๆ

 

ได้ยินครับ เจอมากับตัวแล้ว ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง แต่เพื่อนอีกคนเจอเหมือนกันแต่ชัดๆไม่ต้องคาใจเพราะเพื่อนคนนี้ไปคิดด่าท่านต่อหน้า ท่านเลยด่ากลับ

 

โหลๆ ว่างๆแวะมาขอตอบได้ใหมครับ -..-

อยู่ใหมมมม

 

เราก็เคยสงสัยแบบนี้ค่ะ แล้วเราก็มั่นใจด้วย ว่า เรานึกในใจ ไม่ได้พูดออกมาชัวร์ แต่พระท่านก็ตอบคำถามเราออกมาเป็นข้อๆ เลย แถมไม่พอ ทวนคำถามที่เรานึกในใจอีกต่างหาก

เรานึกใจว่า "รู้ได้ไงเนี่ย" พอจบประโยคนี้ปุ๊บ ท่านพูดขึ้นมาทันทีเลยว่า "รู้ได้ไงน่ะเหรอ รู้ใจคนได้ด้วยญาณ ญาณบอกมา"...ท่านว่างี้แบบเสียงดังๆ เลยนะ เรางี้อ๊าย...อายคนแถวนั้นมากกกกก

 

ได้ยินเป็นบางครั้งค่ะ ไม่ทราบเพราะอะไร คิดว่า่..กระแสจิตเราคงไปตรงกับคลื่นความถี่ของเขาพอดีก็เลยได้ยิน มีบางคนก็คิดซะดังมากออกมาให้ได้ยินเลยค่ะ

 

หลวงพ่อพัฒวัดทุ่งคว้วเคยไปลงนะกับท่านท่านอ่านใจคนได้ครับ

 

แบบที่คุณบอกอ่ะ ไม่เคยเจอ เจอแต่พวกเลี้ยงกุมาร พวกนี้มากระซิบบอกข้่างหูเลย เคยเจอหมอดูบางคน ดูแม่นมากประมาณคุณเคยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตรงเผง แต่พอเข้าบ้าน ดูไม่ได้ ต้องให้เจ้าของบ้านไปบอกเจ้าที่ก่อน

ผมยังไม่เคยเจอคนที่มีพลังจิตแบบนั้น แต่ที่เป็นพระสงฆ์เคยเจอ แต่เวลาท่านจะดูท่านจะกำหนดจิตนิ่งซักพัก ถึงจะพูดหรือบอกในสิ่งที่เราถาม โดยปกติท่านจะไม่ทัก ไม่ดู ถ้าเราไม่ถาม อ่านใจท่านก็อ่านได้นะ แต่ต้องสัมผัสตัว เราพูดผ่านจิตให้ท่านฟังได้เลยประมาณนี้

 

สรุปว่ามีพลังจิตสูงดีไม่ดีอย่างไร?

 

คนเก่งหายไปไหนหมด?

 

พระอาจารย์ชื่ออะไร ที่วัดไหนครับ .. พอจะบอกได้มั้ยครับ

 

พลังจิตสูงน่ะดี แต่ต้องมีปัญญาและใช้สติกำกับ เพราะพอ รัก โลภ โกรธ หลง มา จะได้ต่อกรได้ ไม่งั้นก็จะเกิด โทสะ โลภะ โมหะ จิตตกเป็นได้หมด

 

อยู่ที่การใช้... เมื่อสมัยก่อน ยังคิดว่า มันคือ คำสาปเลย ที่ เห็นอนาคตในฝัน แล้วเป็นจริง ตั้งแต่ ม. 1 ... แต่ตอนนี้ มันคือ อะไรที่ดีที่สุดในชีวิต... ที่เราสามารถรอดตาย สามารถเห็นอนาคตของตัวเอง ที่จะได้อะไรก็ตามที่เราฝันไว้ ทั้ง ได้ท่องเที่ยว ได้รางวัลจากการชิงโชค แม้แต่เห็นสิ่งที่น้อยคน จะได้เห็น... ที่ไม่ใช่การเพ้อเจ้อ แต่มันคือ อนาคต

 

พลังจิตคืออะไร

นิยามว่าอย่างไร

 

การฝึกจิต โดยทั่วไปจะอยู่ใน รูปแบบการฝึก 3 ประการ คือ ฝึกจิตให้สงบ ฝึกจิตให้มีพลัง ฝึกจิตให้หลุดพ้น
การฝึกจิตให้มีพลัง นั้น คือการฝึกเพื่อให้ก่อเกิดความสามารถทางจิตให้เกิดขึ้น จิตที่ก่อเกิดสมาธิที่แนบแน่น ก่อเกิดกระแสจิตที่นิ่งสงบ ยิ่งจิตผู้ฝึกมีความละเอียด และบริสุทธิ์เพียงใด ยิ่งก่อเกิดกระแสจิตที่ละเอียดและบริสุทธิ์ ความแนบแน่นที่เกิดเป็นสมาธิจะก่อเกิดเป็นณาน โดยระบบของจิตเอง ไปตามลำดับ ณานก็คือกำลังของจิต เริ่มจากณานที่มีรูปไปสู่ณานที่ไม่อาศัยรูปในการก่อเกิด เมื่อณานเริ่มก่อเกิดญานรู้จะเริ่มปรากฏตามมา ภูมิรู้ต่างๆจะปราฏ มากน้อยตามความละเอียดและบริสุทธิ์ของจิต ญานต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามความบริสุทธิ์ อย่าง ญานของพรหม,อรูปพรหม,โพธิสัตว์,และอรหัตน์ แตกต่างกันตามความบริสุทธิ์ของจิต เมื่อจิตมีพลัง มีญานรู้ที่ชัดเจน ก็สามารถจะนำไปใช้เพื่อจรรโลมโลก และศาสนาได้ อย่างพระสงฆ์ในศาสนาพุทธหลายๆท่าน

 

ไม่ทราบจร๊าาา.(ตอบเลยๆ)

 

ไม่รู้ ไม่เคยมี ไม่เคยฝึก ไม่เคยเล่น
มีแต่ความจริง

 

ความจริงคือทุกคนนั้นมีพลังจิตหมด เพราะจิตเดิมของเรานั้นบริสุทธิ์เป็นประภัสสร ซึ่งจิตเดิมของเรานั้นเป็นธาตุรู้ แต่เพราะมีการผ่านภพชาติ เวียนว่ายมาหลายภพจึงถูกปกคลุมไปด้วยกิเลส ตัณหา ที่ปิดบังจิตเดิมแท้ไว้ ทำให้ญานรู้ต่างๆ ไม่ปรากฏ ถ้าเราสามารถทำให้จิตเดิมปรากฏ โดยการชำระล้างกิเลสของเรา ญานรู้ หรือธาตุรู้ของจิตก็จะปรากฏ แล้วจิตเราจะเข้าถึงความจริงแห่งโลกทั้ง 3 ได้เอง ให้จิตนี้รู้แจ้งโลก เป็นจิตแห่งพุทธะเกิดขึ้น

 

ได้คะ เพราะดิฉันเคยเจอพระอาจารย์ที่มีพลังจิต และ จุตูปปาตญาณ ท่านรู้แม้กระทั้งว่าจริงๆแล้วเราเป็นคนอย่างไร มิได้เป็นอย่างที่เห็นภายนอก ทำเอาดิฉันเชื่อเรื่องนี้ก็เพราะพระองค์นั้นละคะ

 

ถ้าจิตต่อจิตซิงโครกัน ต่างคนต่างก็รู้สภาวะจิต สภาวะความคิดกันและกันได้
แต่อยู่ที่กำลังจิตของแต่ละคน มีมากพอจะไปรับรู้รึเปล่า
อีกทั้ง ยังต้องเจอกับความปรุงแต่งของจิต ทั้งคิดไปเองบ้าง ความจริงบ้าง
ปนเปกัน หากฝึกจิตมาน้อย ก็ยากที่จะแยกออก