มิ่งเมืองอาร์ท พระเครื่องบ้านๆ ราคาเบาๆครับ

รายการที่428

พระกริ่ง 7 รอบ 84 พรรษา
เนื้อนวะโลหะแก่เงิน หมายเลข ๑๗๗
สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
(ทันสมเด็จพระสังฆราช อธิษฐานจิต)

(((คุณ j999 บูชาแล้วครับ)))



สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) (3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 – 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระชันษามากกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ในอดีตและเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของไทยที่มีพระชันษา 100 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วาจาของพระกรรมฐาน ถึง สมเด็จพระสังฆราช :



- "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ท่านเป็นพระอรหันต์น๊ะ..!!!!!!" (หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม)

- "คุณธรรมของสมเด็จวัดบวรนั้น พออยู่พอกินแล้วล่ะ..!!!!" (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร)

- "มาทำไมไกลๆให้ลำบากลำบนถึงที่นี่ อยู่กรุงเทพ ถ้าอยากกราบพระดีแล้ว ก็สมเด็จวัดบวรนั่นแหละ..!!!!" (หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่)

- "สังฆราชองค์นี้ ดีที่สุด" (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย)

- "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์นี้ สุดยอดที่สุด เพราะจิตของพระองค์ท่านทรงอานุภาพมากถึงระดับ"อภิมหาบุญฤทธิ์"เลยนั่นเทียว..!!?!" (นักปฏิบัติจิตสาย "ฮเร กฤษณะ")

- "ข้าพเจ้าขอนับถือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพระผู้ทรงคุณธรรมอันเป็นที่น่าเคารพอย่างยิ่งอยู่ในฐานะเป็นพี่ชายของข้าพเจ้า..." (องค์ทะไลลามะ)

- "หลวงตาอาจจะมีบารมีทางด้านคุ้มครองรักษาประเทศชาติไทยเราได้ แต่หากเป็นด้านค้ำจุนพระศาสนาแล้ว สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศจะมีบารมีมากกว่าเสียอีกน๊ะ..!!!!!!!!!!!" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี)

- "เป็นอันว่าเมื่อเห็นเข้าอย่างนั้น จิตก็มีอารมณ์คิดบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้นอย่างยิ่ง ท่านอาจจะเคารพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ในฐานะอะไรเป็นเรื่องของท่าน แต่ที่่เพิ่มความเคารพบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น เพราะท่านไม่มีมานะ คำว่า มานะ แปลว่า การถือตัวถือตน หรือถือยศถือศักดิ์ โดยคิดว่าเวลานี้ฉันเป็นสังฆราช ใครจะโตกว่าฉันไม่ได้ ฉันต้องโตกว่าทุกคนที่เป็นพระสงฆ์ การตัดมานะตัวนี้ เป็นเรื่องที่่ผู้เขียนบูชาน้ำใจอย่างยิ่ง และบูชาทุกคนที่ตัดได้ ไม่ใช่เฉพาะสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น วันนั้นถือว่าเฮงที่สุด ท่านที่ตัดมานะ หมดการถือตัวถือตน ตามภาษาพระที่่เรียกว่า สังโยชน์ ท่านถือว่ามีความดีสูง ควรแก่การบูชาอย่างยิ่ง ใครบูชา คนนั้นเป็นคนมีอุดมมงคล คือมงคลสูงสุด (หรือเฮงที่สุด)" (ธัมมวิโมกข์ เมษายน ๒๕๓๓ โดย หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)

- "ภูมิจิตภูมิธรรมของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯนั้น ไม่เป็นสองรองใครในสยามประเทศนี้ !!!" (หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี)

- "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ท่านอยู่ด้วยอิทธิบาท 4 เพื่อค้ำพระศาสนาไว้อยู่นะ เวลานี้..!!!" (ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน)

- "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชท่านเป็นพระอรหันต์..!!!" (ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน)

พระกริ่งฉลองพระชนมายุ 7 รอบ 84 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างในมหามงคลวโรกาสฉลองพระชนมายุ 84 พรรษา 7 รอบ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 3 ตุลาคม 2540 สร้างด้วยกัน 2 ชนิด คือ ทองคำ และนวโลหะ (ผิวไฟ (แก่ทองแดง) + พรายเงิน (แก่เงิน) )

ปิดรายการ
พระดี แท้และทันสมเด็จฯท่านอธิษฐานจิต น่าเก็บสะสมครับ หายากแล้วครับ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รับทราบการจองขอบคุณครับ

สำหรับเพื่อนๆที่จะบูชาพระในกระทู้ผม ผมขอแจ้งให้ทราบว่า วันที่ 7 - 12 มค 57 นี้ ผมจะไปสิงค์โปร ท่านใดจองพระไว้ยังไม่ต้องโอนช่วงนี้ก็ได้ครับ รอผมกลับมาก่อนค่อยโอนก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องรอนาน ขอบคุณครับ ^_^

 

รับทราบครับ ส่งพรุ่งนี้ครับ ^_^

กลับจากสิงค์โปร์มีพระชุดใหม่ๆมาลง รอชมกันนะครับ

 

14/01/57

กลับมาจากสิงคโปร์แล้วครับเพื่อนๆ เมืองสวยมากๆเลย ใครมีโอกาศไปเที่ยวดูนะคร้าบ ประทับใจมากๆเลยครั้งนี้



และขอบคุณทุกท่านที่มาแจ้งให้ทราบเรื่องการได้รับพระนะครับ ผมขอแจ้งรหัสการจัดส่งพระให้กับเพื่อนสมาชิกที่ผมส่งเมื่อวานนะครับ

- คุณ จาตุรนต์ EK726830018TH

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม สนใจองค์ไหนแจ้งได้นะครับ ^_^

รายการที่ 429

หลวงปู่ทวดเตารีดจิ๋ว
รุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์กำนันชูชาติ
3 เนื้อ ทองทิพย์ กะไหล่เงิน ทองแดงรมดำ

(((คุณ calamuz บูชาแล้วครับ)))



หลวงปู่ทวด เตารีดจิ๋ว วัดช้างให้ รุ่นกำนันชูชาติ จัดสร้างขึ้นในคราวเปิดพิพิธภัณฑ์กำนันชูชาติ ในปี พ.ศ 2540 ปลุกเสกนานถึง 3 เดือน ที่วัดช้างให้ นำโดย อาจารย์นอง วัดทรายขาว และเกจิอาจารย์สายใต้จำนวนมาก มวลสารที่นำมาใช้ก็ล้วนแต่สุดยอดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของ ตะกรุดเก่า และห่วงเหรียญของเกจิอาจารย์รุ่นเก่า เช่นตะกรุดหลวงพ่อปาน ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม ตะกรุดหลวงปู่เผือก ตะกรุดหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก รวมทั้ง ชนวนหลวงปู่ทวดปี 2505 ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เนื้อโลหะไม่กลืนกัน จนสามารถมองเห็นได้ชัด

ด้านหลังองค์พระมีโค้ดคำว่า ก.ชูชาติ แท้ สวยคม หลวงปู่ทวด เป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่างประเทศ เปี่ยมด้วยพุทธคุณ บารมีเข้ม ขลัง ควรค่าแก่การสะสม และสักการะบูชาให้ประชาชนชาวไทย มีไว้ประจำตัวคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว ประสบการณ์มีแล้วครับ รถ ISUZU D Max พลิกคว่ำหลายตลบ รถพังยับ แต่คนไม่เป็นไรครับ ห้อยพระหลวงปู่ทวด เตารีดจิ๋ว เพียงองค์เดียวครับ จิ๋วแต่แจ๋วนะครับ น่าสะสมมากครับ

แบ่งบูชาเป็นชุดเลยสามองค์
ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทนะครับ

 

รายการที่ 430

หลวงปู่ทวดเนื้อว่านลอยองค์
รุ่นเสิ่นเจิ้น (เครื่องบินตก)
วัดสะบ้าย้อย จ.สงขลา

(((คุณ calamuz บูชาแล้วครับ)))



หลวงปู่ทวดเนื้อว่านลอยองค์ รุ่นประสบการณ์เครื่องบินตก วัดสะบ้าย้อย ที่นิยมเรียกว่า รุ่น เสินเจิ้นเนื่องเพราะเหตุเครื่องบินตกที่เสินเจิ้น มีผู้รอดตาย ที่พกหลวงปู่ทวดรุ่นนี้เพียงองค์เดียว น่าบูชา ตอนนี้เริ่มเป็นที่นิยมและหายากแล้วหายาก น่าบูชามากครับใครไม่มีให้รีบเก็บ รีบบูชาครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน ราคาเบาด้วยครับ



วัดสะบ้าย้อยเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสะบ้าย้อยมาช้านาน โดยเฉพาะท่านเจ้าอาวาสที่มีอายุเกือบร้อยปี หลวงปู่หวาน (ท่านพระครูไพบูลย์ ) เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องพระหลวงปู่ทวดที่ท่านปลุกเสก โดยเฉพาะรุ่นเครื่องบินตก และท่านเป็นเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดรุ่นแรก ร่วมกับท่านอาจารย์ทิม,อาจารย์นองและหลวงปู่แดงและท่านได้ร่วมกับท่านอาจารย์ทิมปลุกเสกอีกหลายรุ่นเช่นปี 05 ปี 08 เป็นต้นนับว่าหาได้ยากในสมัยนี้สมควรที่จะหาโอกาสมา กราบไหว้สักครั้งเพื่อความเป็นศิริมงคล

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาทครับ

 

รายการที่ 431

เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม เนื้อทองแดง พ.ศ.2535
หลวงปู่หล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง จ.เชียงใหม่

(((คุณ sun2555 บูชาแล้วครับ)))



ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงาม หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"

หลวงปู่หล้า (พระครูจันทสมานคุณ) ท่านเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ซึ่งอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 (พ.ศ.2426-2439) กับเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 8 (พ.ศ.2442-2452) หลวงปู่หล้าเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 7 ค่ำเดือน 11 ตรงกับวันที่ 22 กันยายน 2441 ที่บ้านปง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โยมพ่อชื่อ นายเงิน โยมแม่ชื่อ นางแก้ว นามสกุล บุญมาคำ เหตุที่มีนามสกุลนี้ หลวงปู่หล้าเล่าว่า "เพราะพ่ออุ้ย(ปู่) ชื่อบุญมา แม่อุ้ย(ย่า) ชื่อคำ เมื่อมีการตั้งนามสกุล กำนันจึงตั้งให้เป็น บุญมาคำ " หลวงปู่หล้าเป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวจากจำนวนพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ต้องกำพร้าพ่อ โยมแม่จึงได้เลี้ยงดูลูกทั้งหมดเพียงลำพัง หลวงปู่หล้าเล่าให้ฟังว่า "การเลี้ยงลูกสมัยก่อน ต้องช่วยกันทำงาน ช่วยเลี้ยงวัว หากใครทำผิดก็จะถูกเฆี่ยน ทำพลาดก็ถูกเอ็ด"



เมื่อหลวงปู่หล้าอายุได้ 8 ขวบ โยมแม่ก็นำไปฝากกับครูบาปินตา เจ้าอาวาสวัดป่าตึงให้เป็นเด็กวัด หลวงปู่หล้าจึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือเป็นครั้งแรกกับครูบาอินตา ซึ่งสมัยนั้นจะเรียนหนังสือพื้นเมือง จนอายุได้ 11 ขวบก็ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงเข้ารุกขมูล เข้ากรรมอยู่ในป่า การเข้ากรรม หรือ อยู่กรรม เรียกว่า ประเพณีเข้าโสสานกรรมซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่ถือพระสงฆ์จะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมักจะกระทำกันในบริเวณป่าช้าที่อยู่นอกวัด พระสงฆ์และผู้ที่เข้าบำเพ็ญโสสานกรรมจะต้องถือปฏิบัติเคร่งครัดเพื่อต้องการบรรเทากิเลสตัณหา

ขณะที่บวชเป็นสามเณรอยู่นั้น หลวงปู่หล้าไม่ได้เรียนแต่เพียงหนังสือพื้นเมืองเท่านั้น แต่ยังได้เรียนหนังสือไทยไปด้วย โดยเรียนกับพระอุ่นซึ่งเคยไปจำพรรษาที่วัดอู่ทรายคำในเมืองเชียงใหม่ และเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ ปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แต่ครูบาปินตาไม่สนับสนุนให้พระเณรเรียนหนังสือไทย ในที่สุดพระอุ่นจึงต้องเลิกสอน หลวงปู่หล้าศึกษาเล่าเรียนทั้งอักขรวิธีและธรรมปฏิบัติกับครูบาปินตาเรื่อยมาจนกระทั่งอายุได้ 18 ปี จึงเดินทางเข้าไปจำพรรษาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพน หลวงปู่หล้าเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพนเพียง 1 ปียังไม่ทันสำเร็จก็ต้องเดินทางกลับวัดป่าตึง เพื่อปรนนิบัติครูบาปินตาที่ชราภาพ หลวงปู่หล้าอยู่ปรนนิบัติครูบาปินตาจนกระทั่งล่วงเข้าปี พ.ศ.2467 ครูบาปินตาก็มรณภาพด้วยวัย 74 ปีซึ่งขณะนั้นหลวงปู่หล้าอายุ 27 ปีเท่านั้น หลวงปู่หล้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าตึงต่อจากครูบาปินตา เมื่อปี พ.ศ.2467 และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้เมื่อปี พ.ศ.2476

ปี พ.ศ.2477 เมื่อครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2478 รวมเป็นเวลา 5 เดือนกับ 22 วัน ในครั้งนั้นหลวงปู่หล้าได้เดินทางไปร่วมสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพด้วย หลวงปู่หล้าเล่าถึงความยากลำบากในการสร้างถนนไว้ในหนังสือ ประวัติวัดป่าตึงว่า "การสร้างถนนมีการแบ่งงานกันตามกำลังของคน ผู้คนที่ไปร่วมเป็นชาวบ้านจากวัดป่าตึงทำได้ 5 วาใช้เวลา 14 วันส่วนพวกที่มาจากเมืองพานทำได้ 60 วา"

จนเมื่อปี 2504 หลวงปู่หล้าได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูจันทสมานคุณ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 63 ปีมีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่าท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ มีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา 6 โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"



หลวงปู่หล้าเจริญอายุมาถึง 97 ปีก็ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 ยังความเศร้าสลดใจมาสู่พระสงฆ์ สามเณร ศรัทธาญาติโยมทั่วไป และต่างก็มาเคารพศพตั้งแต่วันที่ท่านมรณภาพ จวบจนปัจจุบันนี้ศพของหลวงปู่หล้าถูกบรรจุไว้ในโลงแก้วที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ ตั้งอยู่บนกุฏิไม้สักที่งดงามในวัดป่าตึง หลวงปู่หล้าเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านถือปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้โปรดฯ เกล้าพระราชทานน้ำสรง ซึ่งยังความปราบปลื้มปิติยินดีมาสู่ศิษยานุศิษย์ แม้ว่าหลวงปู่หล้า จะมรณภาพจากไปแล้ว ก็เป็นเพียงการจากไปแต่สรีระร่างกายเท่านั้น ส่วนคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างเอาไว้หาได้ดับไป ด้วยคุณงามความดีที่หลวงปู่หล้าได้บำเพ็ญมาก็ดี คุณงามความดีที่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้บำเพ็ญมาก็ดีและคณะศรัทธาญาติโยมบำเพ็ญมาก็ดี ขอจงเป็นพลวะปัจจัยให้ดวงวิญญาณของหลวงปู่ได้ประสบสุขในสัมปรายภพนั้นด้วย.

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาท

 

รับทราบการจองทั้งสองรายการ ขอบคุณครับ ^_^

 

ขอบคุณครับ ส่งพรุ่งนี้ครับผม ^_^

 

รายการที่ 432

พระปิดตามหาลาภ เนื้อทองแดง
ฉลองพระชันษา 99 ปี
สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.

(((คุณ megaohm บูชาแล้วครับ)))



เอ่ยนามวัดหนังราชวรวิหาร หรือเรียกสั้นๆว่า วัดหนัง แทบไม่มีใครไม่รู้จัก พระอารามแห่งนี้ ในสมัยก่อนมีความโด่งดังเป็นอย่างยิ่ง ด้วยชื่อเสียงกิตติศัพท์ของ "พระภาวนาโกศล" หรือ "หลวงปู่เอี่ยม สุวัณณสโร" วัดหนังราชวรวิหาร เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดมักนิยมเรียกขานท่านว่า "เจ้าคุณเฒ่าวัดหนัง" โดยเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงปู่เอี่ยม ได้รับความนิยมจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง พระปิดตาของท่านได้ติดอันดับเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ ซึ่งในประเทศไทยมี ดังนี้

1.พระปิดตา หลวงปู่ทับ วัดสุวรรณาราม (วัดทอง) กรุงเทพ ฯ
2.พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ บางขุนเทียน กรุงเทพ ฯ
3.พระปิดตา หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม
4.พระปิดตา เนื้อแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
5.พระปิดตา กรุท้ายย่าน จ.ชัยนาท

เนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งในปีนี้พระองค์จะมีพระชนมายุ 99 พรรษา ในปี 2555 ทั้งยังดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยาวนาน 23 ปี ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตยาวนาน 24 ปี และทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ยาวนาน 51 ปี นับเป็นมงคลพิเศษสมัย ดังนั้นในการจัดบำเพ็ญกุศลคล้ายวันประสูติ วันที่ 3 ต.ค. 2555 กรรมการบริหารคณะธรรมยุต มีมติเห็นสมควรขอพระบรมราชานุญาตจัดประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลสวัสดิมงคลเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 3 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณาโปรดให้การจัดบำเพ็ญกุศลคล้ายวันประสูติครั้งนี้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย



วัตถุมงคลรุ่น 99 ปี สมเด็จพระสังฆราช สิ่งมงคลสักการะ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สร้างในโอกาสฉลองพระชันษา ครบ 99 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณาณายก พ.ศ. 2555

วัตถุมงคลที่สร้าง
1.เหรียญเจ้าสัวแสนล้าน ญสส.
2.พระปิดตามหาลาภ ญสส.
3.พระปิดตาเนื้อผง ญสส. พิมพ์ จอบ
4. พระปิดตาเนื้อผง ญสส.พิมพ์ ตุ๊กตา

มวลสารรุ่นนี้ล้วนเข้มขลัง เช่นผงพุทธคุณ ชนวนพระกริ่งปวเรศ ปี 2530 ชนวนพระกริ่งพุทธนวราชบพิตร ปี 2530 ชนวนพระประจำพระชนวาร สมเด็จพระสังฆราช ปี 2530 ผงตะเคียนทอง ผงเทพธาโร ผงว่านมหาเสน่ห์ ฯลฯ



วัตถุประสงค์การจัดสร้าง

คณะตำหนักวัดบวรนิเวศวิหาร จัดสร้างเนื่องในวโรกาส ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกทรงพระชนมายุ 99 พรรษา ในวันที่ 3 ตุลาคม 2555 เพื่อเป็นที่ระลึกสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดวังพุไทร ในสังฆราชูปถัมภ์ และเพื่อสมทบทุนบูรณซ่อมแซมอาคารสกลมหาสังฆปริณายก โรงพยาบาลหนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

พิธีปลุกเสกจัดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร พิธีใหญ่ โดยมีท่านเจ้าพระคุณสมเด็จวันรัตเป็นประธานจุดเทียนชัย พร้อมด้วยเกจิดังร่วมปลุกเสกอีกหลายรูป

ปิดรายการ
ช่วยค่าส่ง EMS 50 บาท

 

รายการต่างๆอัพเดทไว้หน้าแรกนะครับ ขอบคุณครับ ^_^​