จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    TheWheel.gif

    พระธรรมเทศนาเรื่อง จิต มาร กิเลส โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ณ ศาลากาญจนาภิเษก
    จิต มาร กิเลส

    จิตไปเร็วมาก เจ้าของตามไม่ทันไปทุกขณะ ดังนั้น คนเลยทำชั่ว ปล่อยให้กิเลสพาไป ไปฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม
    พูดจาหยาบคาย ส่อเสียดให้คนอื่นเดือดร้อน ดื่มสุรา ความชั่วมี ความดีมี จิตมีสิทธิ์ที่จะเลือก ถ้าจิตฉลาด ก็เลือกเอา
    บุญกุศล ถ้าไม่ฉลาด ก็เลือกเอาเรื่องชั่ว พอใจทำชั่ว จิตไม่ฉลาด ไม่สามารถสร้างหรือหา (ข้าวของ สมบัติ- deedi)
    ของตัวเอง ก็ไปฉกฉวยเมื่อเห็นของของผู้อื่น ในโลกสมมุตินี้ กลับเห็นผู้ฉกฉวย หลอกคนอื่นได้ เป็นคนฉลาด โลกก็เป็น
    อย่างนี้ แต่ในทางธรรมะ ถ้าไปทำให้คนอื่นทุกข์เดือดร้อน กรรมนั้นก็ จะตามสนอง ให้ต้องถูกหลอก โดนต้มตุ๋น ต้องเสียใจ คับอก
    คับใจ เกิดชาติใดก็จะเป็นอย่างนั้น พระพุทธองค์ทรงสอนให้คนฉลาด มีปัญญา ไม่สอนให้โง่เขลา
    เบาปัญญา คำสอนล้วนแต่ทำให้เกิดปัญญา แนะนำให้คน ฝึกตน อย่าปล่อยตนให้ไหลไปตามอำนาจของกิเลส
    “ทูรังคะมัง เอกะจะรัง คูหาสะยัง…ฯลฯ”
    ปกติของจิตนั้น เที่ยวไปไกล มีถ้ำคือร่างกายเป็นที่อาศัย
    ใครสำรวมจิตใจตกบ่วงแห่งมาร สิ่งที่ยิ่งทำให้โลภ โกรธ หลง ก็คือ “มาร” เมื่อพิจารณารู้แล้วต้อง
    ไม่หลงไหลไปตามมายาของกิเลสนั้น เมื่อมีอะไรมากระทบ ก็อย่าวู่วาม ให้มีสติสัมปชัญญะสกัดกั้นจิตใจไว้
    มีอะไรมากระทบใจ ก็ “อดทน” ก่อน ถ้าไม่อดทนก็จะมีเรื่อง อย่างมีคดีกัน ฟ้องกัน เสียเงิน เสียเวลา ไปศาลทีไรก็เสียเงิน
    ทุกที ไม่ฉลาด ถ้าฉลาดโจทก์กับจำเลยควรมาพูดคุยกัน ตกลงกัน สมยอมกัน ยอมสละกันบ้าง การว่าความในโรงศาล
    ไม่ใช่ของดี ทำให้เสียเงินทอง เสียเกียรติยศชื่อเสียง
    พระพุทธองค์จึงสั่งสอนให้สำรวมจิต ซึ่งจะทำให้มาร คือ ความชั่วทั้งหลายมาหลอกลวงยั่วยวนไม่สำเร็จ เพราะว่า
    จิตรู้เท่าทัน เมื่อจิตตั้งมั่น ก็เกิดปัญญา
    ดังนั้น อย่าปล่อยให้จิตไหลไปตามกระแสโลก จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็ใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาก่อน จะทำ จะพูด
    จะคิด ก็สำรวมจิต รักษาจิตให้ดี มารหรือความชั่ว ก็มาลบล้างหรือทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวไม่ได้
    ขอให้เข้าใจว่า ความชั่วทั้งหลาย (โลภ โกรธ หลง) คือตัวมาร ใครล่วงความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็เข้าใจผิด
    เดินทางผิด เห็นผิดเป็นชอบไป การขอหวย รวยเบอร์ บนบาน ไม่ได้อะไร นี่เรียกว่า ความหลง
    ดังนั้น สำรวมตัวเองให้ดี ไม่ปล่อยให้ความชั่วจูงจิตใจไป เท่านี้ก็มีแต่ความดี ไม่มีความชั่ว
    ก่อนนอนควรสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกฝนตน อย่าแค่กราบ ๓ ที แล้วนอนเลย เพราะพวกเรากำลังฝึกตนอยู่ พระพุทธองค์ทรง
    วางระเบียบไว้อย่างไร ก็ให้ฝึกตนอย่างนั้น ทำบุญ-ทำทาน- ขยันทำงาน-ขยันทำบุญ-ควบคุมใจให้อยู่ในความดี
    อย่าให้โลภ โกรธ หลง มาครอบงำใจให้ไปทำไม่ดีกับคนอื่น อันจะเป็นบาปเป็นเวรต่อไป ทำความดีให้เกิดในใจตน
    ด้วยการพยุงจิตให้แน่วแน่ จิตมีปกติเที่ยวไปไกล แต่ ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำคือกายเป็นที่อาศัย
    ผู้ใดสำรวมจิตใจให้ดี ก็จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร คือ ความ โลภ ความโกรธ ความหลง นั่นเอง

    ( ขอเป็นกำลังใจ ผู้ใฝ่ใจในธรรม ชนะมารทั้งปวง สู่พระนิพพาน )
     
  2. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  3. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  4. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681
    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/biwJAakdwSY?hl=th_TH&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/biwJAakdwSY?hl=th_TH&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

    เห็นคลิปการแข่งขันปั่นจักรยาน บนสะพานไม้แผ่นเดียว เหนือแอ่งน้ำแล้ว
    ก็ทำให้รู้สึกสนุกสนานเฮฮาไปด้วย แต่ถ้าสำหรับผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม
    หรือนักปฏิบัติที่ดี ย่อมเห็นทุกอย่างในธรรมชาติ เป็นธรรมะ
    เพราะธรรมะ คือธรรมชาตินั่นเอง

    ...จะเห็นได้ว่า สะพานไม้แผ่นเดียว ปูทอดจากริมบึงฝั่งนี้ ยาวไปสุดทางอีกฝั่งหนึ่ง
    นั่นหมายถึงเส้นทางที่ทอดยาวสู่ปลายทางเป้าหมายเปรียบเสมือนพระนิพพาน
    บึงที่มีน้ำ เปรียบเสมือนอุปสรรคทั้งหลายที่รออยู่ตลอดเส้นทางที่เราจะก้าวเดินไป

    ...บางคนก็สามารถปั่นจักรยานไปถึงปลายทางได้เพียงครั้งเดียว นั่นเพราะจิตหรือสติ
    ที่ฝึกมาดี มีสมาธิ แน่วแน่ มุ่งมั่น มั่นคง ไม่วอกแวก หวั่นไหว กับเสียงเชียร์
    หรือความกลัวที่จะตกลงไปในน้ำ ถ้ามีสติมั่นคง และเอาชนะอุปสรรคความกลัวนั้นได้
    เขาก็จะสามารถ มุ่งสู่ปลายทางเป้าหมายเส้นชัยนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

    ...บางคนต้องใช้ความพยายาม สอง สามครั้ง ถึงจะไปถึงเส้นชัยได้
    นั่นเพราะสติยังไม่มั่นคงดีพอ ยังมีความประมาทอยู่บ้าง พอตกน้ำ
    แล้วขึ้นมาลองใหม่ สมาธิดีขึ้น ก็ยังพอไปถึงเส้นชัยได้ ก็ถือว่ายังมีความเพียร
    ไม่ย่อท้อ รู้จักเอาความผิดพลาดมาปรับปรุงใหม่ จนผ่านได้ในที่สุด

    ...บางคนไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคนั้นได้ แต่ก็ยังพยายามที่จะสู้ต่อ
    และลองทำใหม่ เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะสามารถ ประคองตัวไปสู่เส้นชัยได้สำเร็จในที่สุด

    ...แต่เชื่อว่ายังมีคนอีกหลายๆคนที่ไม่กล้าแม้แค่จะลองก้าวลงมาเล่นดู ด้วยจิตและสติ
    ไม่เคยได้รับการฝึกจิตหรือฝึกสมาธิ ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวตกน้ำ คิดว่าทำไม่ได้แน่
    คนประเภทนี้ ขุนไม่ขึ้น สอนไม่ได้ฝึกไม่ได้ เปรียบเสมือนกบที่อยู่ในกะลา ไม่รู้จักเรียนรู้
    หรือพัฒนาจิตให้ก้าวไปข้างหน้า ต้องรอให้มีผู้ช่วยแบกช่วยอุ้ม เพื่อจะไปให้ถึง
    เป้าหมาย แต่เส้นทางนี้ ต้องทำเอง ถึงจะได้เอง เหมือนปั่นจักรยานได้แค่คนเดียว
    ซ้อนไปด้วยไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอง


    ...ผู้ที่ฝึกจิตมาดีแล้ว ควรฝึกมองทุกอย่างในธรรมชาติให้เป็นธรรมะ
    เมื่อไหร่ที่คุณมองเห็นธรรมชาติคือธรรมะ และธรรมะคือธรรมชาติ
    เมื่อนั้นแหละ ถึงจะได้ชื่อว่า "ดวงตาเห็นธรรม"
    และเมื่อ "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"...สาธุ


    ...ขอเจริญในธรรม ด้วยจิตคารวะ...

    Newwave 1959

    ปาราเมศ จบ. 14

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2014
  5. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    เมื่อสักครู่นี้ได้กลิ่นเหม็นๆแปลกๆเลยหาที่มาของกลิ่น

    เปิดเเพมเพริ์ดของเด็กข้างบ้าน2ขวบเข้ามาเล่นในบ้านดูก็ไม่มีอึ เลยเดินหา

    ที่มาของกลิ่นเปิดถังขยะพิสูจน์กลิ่นไม่ใช่กลิ่นนี้นิ ปกติบ้านผมไม่มีกลิ่น

    แบบนี้นิหรือคิดเอาเองก็ไม่รู้ หรืออุปาทานหรือเปล่า เลยตั้งจิตเบิกบุญโดยมีท่านพ่อองค์ปฐมเป็นประธานอุทิศบุญ

    กรรมฐานให้แก่วิญญาณสัมพเวสีรวมถึง

    วิญญาณที่เดือดร้อนที่ขึ้นมาจากทุขคติที่ไม่ได้รับบุญจากญาติ

    และขอให้บุญที่ข้าพเจ้าอุทิศให้นี้จงเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่ท่านต้องการด้วย

    เถิดเท่านี้กลิ่นแปลกๆก็หายไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2014
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พุทธชยันตี วันอัศจรรย์พระพุทธเจ้า - YouTube

    วั น วิ ส า ข บู ช า
    วันเพ็ญเดือน 6
    เป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา
    เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนามากถึง 3 เหตุการณ์ คือ
    เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า "วันพระพุทธเจ้า"

    บางประเทศเรียกว่า "พุทธชยันตี"
    (Buddha Jayanti)​
     
  7. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    แสดงว่ามีบุญพอที่จะช่วยเขาได้ เขาเลยมาขอส่วนบุญ ไปทำบุญใหญ่ที่ไหนมา
    รึเปล่าครับ
    ผมก็เคยเจอเรื่องกลิ่น พอแผ่เมตตา แผ่บุญกุศลให้ก็หาย
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    เอ้า...ก็บุญกรรมฐานจิตเกาะพระยังไงล่ะค่ะคุณ...จิตท่านเกาะท่านพ่อองค์ปฐมอยู่ตลอดเวลาจนจิตท่านใสเป็นแก้วแวววาว นิ่ง สงบ อยู่ภายในซะขนาดนั้น...มันยิ่งกว่าบุญสร้างพระประธานซะอีกน่ะนั้น...มนุษย์ด้วยกันมองไม่เห็น...แต่สำหรับพวกโลกทิพย์แล้ว มิอาจปิดกั้นแสงแห่งบุญนี้ต่อพวกเค้าไปได้ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว...คุณสนใจที่จะมาสร้างพระภายในจิตกับพวกเรากันมั้ยล่ะ...



    catt7catt7catt7​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2014
  9. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    วันนี้ขอเสนอธรรมมะจากการรายงานการบ้าน
    โค้งสุดท้ายของจิตบำเพ็ญคุณพรค่ะ


    (y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)(y)​

    -พิจารณากายในสมาธิเป็นยังไงบ้างค่ะ
    เวลาจิตมีสมาธิจะพูดคุยกับตัวเองเรื่องของธรรมมะค่ะ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่โดนบ่อยๆคือความไม่เที่ยง
    บางทีก็เห็นภาพที่เข้าหันศพตอนล้างป่าช้า แต่สิ่งที่เกิดทุกครั้งคือเย็นที่อกค่ะ


    -ภาพพระ มีแต่แสงสว่างรอบองค์เสด็จพ่อมากขึ้น

    การไปเที่ยวที่ผ่านมา รู้สึกเวทนาค่ะ คือเห็นคนกลิ่นเหล้า เบียร์ ร้องเพลง เต้น กันสนุกสนาน พอเห็นแล้ว
    มีความคิดว่าสนุก สุขใจ ตรงไหน? ถ้าเราไม่ได้เดินทางนี้ คงเห็นเป็นเรื่องสนุก สุขใจ ความสุขทางโลกกับทางธรรมเหมือนอยู่คนละฝั่ง แม้ตอนนี้พรยังไม่ได้ถึงฝั่งพระนิพพาน แต่ยินดีกับการที่จะพยายามต่อไปค่ะ

    -อารมณ์ที่มากระทบระหว่างวัน ไปเที่ยวพรโดนเอาเปรียบเหมือนเดิม ตอนโดนคิดว่าเราต้องสร้างบารมี 10 ให้เต็ม
    ยิ้มรับกับทุกอย่าง อย่างเต็มใจค่ะ (บางทีก็คิดนะค่ะ เราคงทำคนอื่นมาเยอะ )
    กรรมใดที่เราเคยทำไว้กับใคร เรายินดีที่จะชดใช้ให้ แล้วก็แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลกับคนที่เอาเปรียบเราค่ะ


    -โชคดีที่มีทุกข์ค่ะ บารมีไม่ได้เกิดจากมีสุข เห็นสุขน่ะ เพราะสุข มันมีแต่จะทำให้หลงค่ะ
    จริงค่ะ พรโชคดีที่ได้เห็นทุกข์ รู้ทุกข์ เข้าใจทุกข์ อยู่กับทุกข์ด้วยจิตอันผ่องใส

    ครูค่ะ ขอบคุณสำหรับพรอันศักดิ์สิทธิ์ของครูนะค่ะ พรเชื่อมันเลยว่าพรของครู ทำให้ภาพพระของพรเปลี่ยนเป็น
    สว่างมากๆ จนไม่เห็นหน้าของพระแล้ว


    -กิเลส ตอนโดนกิเลสเล่นงานตอนนี้พรได้แต่ดูให้เขาพุ่งออกมา แต่วันนี้แปลกตอนระหว่างดูกิเลส ภาพพระขึ้นสลับมาตลอด พรเลยบอก พ่อค่ะขอบคุณค่ะ

    พรอ่านที่ครูสอนเรื่องความกำหนัดหลายรอบเลย ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจ

    ขอบคุณครูทุกท่านค่ะ อนุโมทนาสาธุ _/\_ กับทุกสิ่งอย่างที่ครูให้มา และขอให้ผลบุญนี้ส่งให้ครูทุกท่านมีบารมีสูงขึ้น สูงขึ้นนะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2014
  10. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    อารมณ์ที่เข้ามากระทบระหว่างวัน วันนี้โดนทดสอบโดยหลาน หลาน 5 คนทะเลาะกันค่ะ เรื่องของเล่น ตีกันบ้าง ร้องไห้บ้าง พูดไม่ดีใส่กันบ้าง พอพรเปิดคอมพิวเตอร์ หลานก็กรูกันเข้ามาเลยค่ะ รู้ว่าถูกแหย่ให้โกรธ โมโห หงุดหงิด วันนี้สอบตกค่ะ พรหงุดหงิดหลานค่ะ

    เอ้อ...จิตฝึกมาถึงตอนนี้แล้ว ได้สังเกตุมั้ยค่ะว่า ไม่ว่าเราจะมอง จะเห็นอะไรรอบๆ ตัวนี้ มันคิดพิจารณาเป็นธรรมไปซะหมดเลย เป็นอย่างนั้นมั้ยค่ะ เห็นอะไร เป็นยังไงบ้าง ก็อย่าลืมมาเล่าให้กันฟังน่ะจ๊ะ
    ใช่ค่ะครู ตอนนี้เห็นอะไรเป็นธรรมะบ่อยค่ะ
    - ช่วยพี่สาวกวาดร้าน ก็คิดว่านี่ก็เหมือนจิตของเรานะ กิเลสก็เหมือนฝุ่นผง
    ขยะที่จะเข้ามาหาเราทุกว่า ถ้าเราไม่หมั่นปัดกวาด กิเลสในใจก็คงพอกพูนสะสมไปเรื่อย อย่าคิดว่าทำความสะอาดแค่
    ครั้ง สองครั้งแล้วจะสะอาด เปล่าเลย เราต้องสำรวจทำความสะอาดจิตทุกวันต่างหาก
    - ไปเที่ยวที่ผ่านมา ก็มองธรรมชาติรอบตัวไปเรื่อย ไม่ว่าเราจะสุขหรือจะทุกข์ วันเวลาจะก็เดินไปเรื่อย วันนี้เราเห็นธรรมชาติเป็นอย่างนี้ ก่อนหน้านี้ 10 ปี หรือ ต่อจากนี้ไปอีก 10 ปี ธรรมชาตินี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้คงไว้อย่างนี้
    ตลอดเวลา
    - ที่บ้านพรเลี้ยงสุนัข มันก็ไปถ่ายไว้ที่หน้าบ้าน(แต่ยังอยู่ในรั้วบ้าน) พอพรเห็นก็คิดว่าจะเก็บเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อน
    คงคิดว่าทำไมพี่ไม่เก็บให้เรียบร้อย แต่วันนี้ไม่ได้คิดแล้ว พอว่างก็จัดเก็บซะเลย ทำด้วยความเต็มใจ เพื่อบารมี 10ค่ะ

    ภาพพระ หลวงพ่อยังสว่างมากค่ะ
    อ่ะแฮ่ม...แต่มันแตกต่างจากที่เราเคยบอกน่ะ ไม่เป็นไร ไม่ผิด แต่ก็ยังไม่ตรงประเด็น...
    ต่อไปหวังว่าคงจะทำให้ตรงประเด็นมากกว่านี้น่ะจ๊ะ เพราะฉบับนี้ เราว่า เราอธิบายได้ละเอียดชัดเจนน่ะ?
    ค่ะครู เมตตามิอาจประมาณของเสด็จพ่อ

    ด้วยอำนาจของพระรัตนตรัย ลูกขออาราธนาบารมีท่านพ่อได้โปรดมารับดวงจิตลูกขึ้นสู่พระนิพพานในเร็วไวที่สุดนี้ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า ลูกไม่ขอกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีกายหยาบเน่าๆ เหม็นๆ นี้อีกต่อไปแล้ว ลูกขอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ลูกขอมีกายแก้วเหมือนท่านพ่อบนชั้นพระนิพพานโน้นด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า...และลูกขอน้อมฝากดวงจิตของลูกไว้บนชั้นพระนิพพานกับท่านพ่อไปจนกว่าร่างกายหยาบของลูกในชาตินี้จะสิ้นลมด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า สาธุ สาธุ สาธุ
    ตอนที่อธิษฐานตามที่ครูสอนด้านบน พรเย็นในอกจนถึงท้องด้านบนเลยค่ะ เย็นมากเหมือนน้ำแข็งเลย รู้สึกถึงพลังที่ใหญ่ๆเยอะๆค่ะ จนจุกที่คออธิบายไม่ถูกค่ะ

    ไม่มั่นใจในผลการปฏิบัติของตัวเองบ่อยๆ มันก็เป็นวิจิกิจฉาได้โดยไม่รู้ตัวน่ะค่ะ จะบอกให้
    ค่ะครูพรจะไม่คิดอย่างนี้อีก
    ขอบคุณค่ะครู อนุโมทนา สาธุนะค่ะ _/\_
     
  11. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    ข้อคิดสะกิดใจ...!!

    [​IMG]
     
  12. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    เมื่อคืนก่อนนอนนั่งสมาธิ เห็นเสด็จพ่อเป็นแก้วใสสว่างยิบยับ ขณะที่นั่งสมาธิได้ยินเสียงพระสวดตอนแรกคิดว่า
    คงเป็นวัดแถวบ้าน แต่คำเตือนของครูว่าอย่าดูถูกตัวเอง พรเลยตั้งใจใหม่ เชื่อมั่นในการปฏิบัติของตนเอง เสียงพระ
    สวดยังคงลอยแว่วมาตลอดการนั่งสมาธิ ระหว่างที่นั่งก็พูดให้เสด็จพ่อฟังไปเรื่อย แล้วก็ขอไปอยู่กับเสด็จพ่อ ขอเกิด
    ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย...ตามที่ครูสอนมา ระหว่างนั่งสมาธิ เสด็จพ่อบอก รน พรก็เลยทบทวนว่าเรารนอะไร พรก็คิดออก


    ใช่ค่ะ เพราะรีบนั่งสมาธิเลยลืมสมาทานศีล สิ่งที่เห็นขณะที่นั่งคุยกับเสด็จพ่อ เป็นฟ้ากว้างๆ เห็นเสด็จพ่อนั่งตรงกลางทั้งองค์ตอนออกจากนั่งสมาธิเหมือนได้กราบเท้าเสด็จพ่อจริงๆเลยค่ะ และยังได้ยินเสียงพระสวดอีกแป๊บนึ่งเสียงสวดก็หายไป

    วันพระข้างบนก็มีสวดมนต์เหมือนกันค่ะ
    มิน่าละ คืนนั้นตอนนั่งสมาธิระหว่างที่ขอบารมีเสด็จพ่อ พรเห็น(ด้านข้าง)พระภิกษุรูปนึงใส่จีวรสีกลักดูน่าเกรงขาม
    และเลื่อมใสอยู่ด้วยค่ะแต่พรไม่รู้ว่าภิกษุรูปนี้ท่านคือใครค่ะ


    ก่อนตื่นนอน ภาพพระมาแล้วค่ะ เป็นเสด็จพ่อสว่างเลยค่ะ
    ตอนเช้าพอได้เมล์จากครู ตอนนั่งสมาธิเลยถามท่าน

    ถามท่านพ่อเลยน่ะ ว่าท่านเสด็จมารับดวงจิตลูกขึ้นพระนิพพานแล้วรึเจ้าค่ะ
    ท่านบอกวันพระหน้าค่ะ หรือไม่ก็อีก 7 วัน

    ว่าที่เห็นหลังคาโบสถ์นั้น เป็นอะไรค่ะ ใช่เป็นวิมานของลูกที่อยู่บนพระนิพพานมั้ยเจ้าค่ะ
    ท่านบอกว่าใช่ค่ะ

    พอออกจากสมาธิแล้ว จิตใจเบา แจ่มใส สุขในธรรมค่ะ ขอเล่านิดนึงนะค่ะก่อนที่จะนั่งสมาธิ พรก็นั่งเล่นเกมอยู่ อยู่ๆก็จุก
    จนเรอ ลงไปนอนเลยค่ะ คิดว่าเสด็จพ่อมาเตือนแน่เลยรีบนั่งสมาธิทันที สาเหตุที่เสด็จพ่อบอกว่า รน ค่ะ

    อย่าเอาบารมี10 มาตั้งเป็นโจทย์ในการทำความดี แต่ขอให้บารมี10 เป็นผลพลอยได้จากการทำความดีทุกครั้งค่ะ อันนี้พอจะเข้าใจมั้ยค่ะ?
    รับทราบค่ะครู
    ขอบคุณนะค่ะครู พรจะทำให้ดีที่สุด อนุโมทนา สาธุค่ะ _/\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2014
  13. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]
     
  14. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]
     
  15. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]
     
  16. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]
     
  17. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีค่ะ
    หลังจากที่หายไป 2 วันหายไป ไปฝึกตัวเองอย่างเข้มข้นค่ะ ไม่รู้ผลจากการฝึกจะเป็นอย่างไร
    แต่ก็จะตั้งหน้าตั้งตาฝึกต่อไป ไม่ถอยค่ะ เพราะรู้ตัวเองว่าได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ไม่ว่าจะทำอะไร
    มักจะตั้งต้นด้วย ศีล ก่อนเสมอ มีสติในการคิด ไม่ตามอารมณ์ตัวเอง อารมณ์ก็ราบเรียบไม่ขึ้นๆลงๆแล้ว
    การปรุงแต่งน้อยไปเยอะ
    พรขอขอบคุณครูทุกท่านจริงๆนะค่ะ ซาบซึ้งกับบุญคุณของครูที่ทำให้ลูกศิษย์คนนี้มาไกล(จากกิเลส)ได้ขนาดนี้นะค่ะ


    บุญกุศลใดของพรขอมอบให้แด่ครูทุกท่านนะค่ะ ถ้าพรทำผิดประการใดต่อครูไม่ว่าจะเป็นกาย วาจา ใจ
    ได้โปรดยกโทษให้ศิษย์คนนี้ด้วยนะค่ะ _/\_
     
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    และแล้ว...ก็มาถึงวันพระ...วันที่ท่านพ่อเคยบอกกับเธอไว้ค่ะ
    พร้อมทั้งหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร...ท่านก็ได้เมตตามาร่วมสงเคราะห์ และอนุโมทนาบุญกับเธอในงานบุญใหญ่นี้ของเธอด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ....


    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:

    13/5/57
    2วันที่หายไป เวลานั่งสมาธิ หรือจิตเข้าสมาธิ จะรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ จะรู้สึกตึกๆ ไปทั้งตัวเลยค่ะ เหมือนถูกแยกจากกาย
    ที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ ข้างในเบามากๆ

    มีสิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นมา 2 เรื่อง

    1.คือได้รู้เสียทีว่าพระที่เจอเมื่อหลายปีก่อนกับตอนที่เจอพร้อมเสด็จพ่อคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร

    ไม่น่าจะใช่ค่ะ เพราะท่านรูปร่างสูง ใหญ่ แต่ผอม พยายามหารูปพระภิกษุมาดูก็ไม่เจอค่ะ เพียงแค่ไม่คิดว่าจะเจอท่านอีก
    สาธุ ท่านคงจะเป็น หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านคือ หลวงปู่ใหญ่ ของพวกเราเองค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    พอได้รับเมล์จากครู
    ส่งมาเรื่อง หลวงปู่เทพโลกอุดร พอได้อ่านแล้วตอนนั้นเหมือนเชือกที่เคยผูกไว้เส้นสุดท้าย
    มันขาดออกไป
    พรอธิษฐานจิตอยู่นานหลายปีค่ะว่า ในชีวิตนี้อยากเจอท่านสักครั้งและก็ได้เจอกันถึง 2 ครั้ง ตอนที่เจอท่านข้างบนกับเสด็จพ่อก็ขอต่อเสด็จพ่อ และพระที่บ้านว่าให้รู้ทีว่าพระรูปนี้คือใคร ตอนอ่านเมล์ของครูเกษพรอยู่ห้องพระะพอดี เหมือนกับหมดห่วงทุกสิ่งอย่างแล้วในทางโลก ความปรารถนาทั้งหมดในชาตนี้จบลงแล้ว รู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะ

    2.เรื่องตาที่สามค่ะ มันเหลือเชื่อค่ะ ว่าเสด็จพ่อจะให้และเป็นคนเปิดให้ด้วย ตอนแรกไม่เอาเลยค่ะร้องไห้ด้วย เพราะหวังแค่เพียง
    ไปพระนิพพานอย่างเดียวจริงๆ เคยได้ยินเรื่องตาที่สามแค่ผ่านๆแต่ไม่เคยสนใจ ทำใจอยู่ 2 วันค่ะกว่าจะหาข้อมูล จากอินเตอร์เน็ต
    ว่าคืออะไร แต่อ่านได้ไม่ถึง 10 นาทีก็ไม่เอาแล้ว ยอมรับค่ะว่าใจไม่อยากได้ตาที่สามเลย จนไม่ไหว จนต้องเมล์ไปหาครูเกษเพราะ
    ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเลย แล้วไม่รู้ว่าเรื่องนี้เราคิดไปเอง มีจริงไหม แล้วถ้ามีจริงจะจัดการหรือทำยังไง ตอนที่เมล์ไปหาครูเกษ
    อยากให้ครูตอบว่าไม่มีจริง หรืออย่าคิดมากค่ะ ให้ตั้งหน้าตั้งตาฝึกตัดสังโยชน์ 10 อยากให้ครูตอบประมาณนี้ค่ะ

    -ระหว่างที่พิมพ์นี้ก็วันวิสาขบูชา พรได้ยินเสียงพระสวดมาจากทางไกลด้วยค่ะ เหมือนวันที่ได้เจอเสด็จพ่อเมื่อวันพระเลย

    เมื่อคืน(12/5/57)ก่อนนอน ดีใจที่เสด็จพ่อกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ใจดีกับพรมากๆ ร้องไห้ซาบซึ้งจนหลับไปเลยค่ะ
    และคืนนี้ก่อนนอน ก็สวดมนต์ไหว้พระ ยังคงไม่เข้าใจเรื่องตาที่ 3 ว่ามาให้พรทำไม คนที่เก่งกว่าดีกว่าพรมีเยอะแยะ

    -วันนี้ที่บ้านนำพระที่พ่อสะสมไว้มาจัดการถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ พ่อเก็บพระเยอะมาก พรนั่งมองพระแล้วก็พูดกับแม่และพี่ว่า
    พระเหล่านี้เมื่อเราตายไปเราก็เอาไปไม่ได้นะ ตอนนั้นปลงค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงตาโต คิดมูลค่าพระเสร็จสรรพ ตอนนี้ถึงแม้
    จะคิดถึงมูลค่าของพระ สุดท้ายเงินที่ปล่อยพระ ตายไปก็เอาไปไม่ได้อีก
    สุดท้ายชีวิตก็แค่นี้มามือเปล่า กลับมือเปล่า มีแต่กรรมเท่านั้นที่จะติดตามไป


    -มีคนสอนให้พรทำบุญค่ะว่าให้อธิษฐานจิต เพื่อชาติหน้าเราจะได้เกิดมาดีกว่านี้ พรได้ยิ้มรับแ ละเขาก็ถามแล้วพรละอธิษฐานยังไง
    พรก็บอกแค่ว่า ขอให้ครอบครัวมีความสุข ความเจริญ บอกเขาเท่านี้ค่ะ แต่จริงๆพรอธิษฐานอีกว่า ขอให้แม่และครอบครัว
    เจริญก้าวหน้าในทางธรรม ขอให้ฝึกจิตเกาะพระสำเร็จโดยไวด้วยเถิด สาธุ เพราะไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปแล้วค่ะ

    14/5/57
    เมื่อคืน 13/5/57 ก่อนจะล้มตัวลงนอนได้รับเมล์ครูเกษ เรื่องตาที่สาม หายข้องใจแล้วค่ะ เลยนั่งสมาธิกำหนดจิตที่หน้าผากหาเสด็จพ่อทันที บอกท่านว่าหนูหายข้องใจแล้วค่ะครูมาช่วยแล้ว สักพักตัวสั่นๆเหมือนถูกดึงค่ะ พอจะนอนคิดว่าอย่าเพิ่งยกจิตเลยนะ ขอฝึกไปก่อน อยากฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆค่ะ

    (เหอะๆๆ...ไม่ทันแล้วจ๊ะ น้องพรจ้า...จิตเค้าไปแล้วจ้า...จิตมันบ่คอยผู้ได๋แล้ว...มีแต่เจ้าสติที่อยู่ในกายนี้แหล่ะ...
    มันยังตามจิตบ่ทันเด้อนางเด้อ เด้อ เด้อ นางเด้อ...เอิ๊กๆๆๆ ฟิ๊ววววว์)

    พอตอนเช้านั่งสมาธิ ก็บอกท่านเหมือนอย่างที่ครูเกษบอกค่ะ ตอนนั้นเห็นจิตตัวเองเป็นดอกบัวสีชมพู รู้สึกว่ามีน้ำหนึ่งหยด หยดมาลงที่ดอกบัว ดอกบัวนั้นบานออกเห็นเกสรสวยใส สะอาด พรรู้สึกมีความสุข เบิกบาน มากๆเลยค่ะ เป็นสุขที่สุขสงบมากๆค่ะ น้ำตาเลยซึมค่ะ


    (f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)

    อามิตตาพุทธ...พวกเรามีดอกบัวบานเพิ่มขึ้นมาอีกดอกแล้วจร้า....
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 พฤษภาคม 2014
  19. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    น้องกุ้ง สาวชาวไร่อ้อย...
    กลับมารายงานตัวหลังจากห่างหายไป 5 วัน
    กลับมาพร้อม ธรรมปฏิบัติของเธอที่ได้บันทึกไว้ติดต่อกันหลายวัน
    ปัจจุบันธรรม ของเธอเด่นชัด แล้วว่า ...
    จิตดวงนี้ สามารถอยู่บนกองทุกข์ได้อย่างไม่ทุกข์อีกต่อไป...
    โมทนาสาธุ...


    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    กราบเรียนคุณครูที่เคารพทุกท่านคะ

    วันนี้ขอรายงานตัวคะ กุ้งลากลับบ้านไป 5 วัน เลยไม่ได้ส่งการบ้านวันนี้กุ้งขอส่งการบ้านพี่แนทเพิ่มเติมจากที่เคยรายงานให้พี่แนททราบทาง line บ้างแล้ว

    8 พ.ค.57

    วันนี้ระหว่างขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัด อารมณ์ตอนนั้นก็นิ่ง จู่ๆ มันก็ถามขึ้นมาในใจว่า “ถ้าเราเกิดอุบัติเหตุตายขึ้นมาละ” จิตมันก็ตอบขึ้นมาอีกทันที่ว่า “ตายก็ตายซิ แค่ไม่ได้ช่วยงานท่านพ่อเท่านั้นเอง” พี่แนทคะ ตอนนี้รู้สึกเหมือนความตายอยู่ใกล้ตัวมากๆ เกือบตลอดเวลาเลยคะ แต่ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรเลยคะ และเวลาจิตนำภาพศพที่ถูกผ่าตัดในวีดีโอมาพิจารณา รู้สึกเหมือนกำลังมองตัวเองเป็นศพที่กำลังถูกผ่าตัดอยู่เลยคะ

    พอพี่แนทบอกให้กุ้งเปลี่ยนการพิจารณากายมาพิจารณานามธรรมแทน โดยพิจารณา สังขารขันธ์ (ความคิดปรุงแต่ง) กับวิญญานขันธ์ (ความรู้สึกต่างๆ) ซึ่งพี่แนทก็สอนตลอดเวลาว่า เมื่อรับรู้อารมณ์ใดก็ให้วาง มันไม่ใช่เรื่องของจิต ให้ปล่อยไป วันนี้จิตมันบอกว่า มันต้องทำตัวให้เหมือนป้ายรถเมล์คะ ถ้าเปรียบรถเมล์เป็นอารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆ รถเมล์ทุกสาย (อารมณ์หรือความรู้สึก) จะแค่แวะมาส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์ (จิต) เท่านั้น ไม่เคยจอดแช่อยู่ป้ายรถเมล์อันไหนนานๆ เลย (และถ้าเปรียบผู้โดยสารที่ลงจากรถเมล์เป็นเศษของอารมณ์ ก็ไม่มีผู้โดยสารคนใดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ไหนนานเลยเช่นกัน) ดังนั้น ป้ายรถเมล์ (จิต) จึงว่างไม่มีรถเมล์ (อารมณ์หรือความรู้สึก) มาค้างอยู่ในป้ายเลย แต่เมื่อไรที่เราทำจิตให้เป็นอู่รถเมล์ เมื่อนั้นจิตของเราก็จะเต็มไปด้วยรถเมล์ (อารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆ) แช่อยู่เป็นเวลานานๆ ยิ่งพอหมดเวลาวิ่งจอดข้ามวันข้ามคืนกันเลยที่เดียว แล้วคิดดูซิคะว่าอู่รถเมล์มันมีรถเมล์ตั้งกี่สายอ่ะ จิตของเรามันจะทุกข์ทรมานขนดไหนเนี้ยที่ต้องแบกอารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆ ทุกชนิดไว้ในจิตทั้งวันทั้งคืน (น่ากลัวจัง)

    วันนี้กุ้งเห็นจิตตัวเองกอดท่านพ่อพระพุทธเจ้าคะ เมื่อก่อนจะแค่หมอบกราบอยู่แทบพระบาทท่านเท่านั้น แต่ความรู้สึกรักท่านมันอัดแน่นจนทนไม่ไหวเลยกอดขาท่านเลยคะ แรกๆ ไม่ได้คิดอะไร จู่ๆ มันก็คิดมาว่าท่านเป็นพระเราไปกอดท่านได้อย่างไร ถึงแม้พี่แนทจะบอกว่าจิตไม่มีเพศก็ยังอดกังวลใจไม่ได้ จากนั้นภาพในจิตกุ้งเห็นตัวเองเป็นผู้ชายคะ ใส่จีวรด้วยกอดท่านพ่ออยู่คะ หรือเพราะว่าจิตกลัวบาปที่ตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ไปกอดท่านก็ไม่รู้คะภาพตัวกุ้งจึงเปลี่ยนเป็นผู้ชายแทนเพื่อความสบายใจของตัวเอง

    พอถึงบ้านก็ไปกินข้าวที่บ้านพี่สาว แกก็เล่าว่าหลานชายที่ขโมยเงินไปตั้งแต่วันที่ 4 ยังไม่กลับเข้าบ้านเลย กุ้งรับฟังด้วยอารมณ์นิ่ง สงบ เย็น เหมือนเห็นมันเป็นเรื่องปกติของหลานชายไปแล้วคะ จิตมันไม่มีอารมณ์ใดๆ เลย ซึ่งปกติจะต้องโกรธ เสียใจที่เขาทำตัวแบบนี้ สติต้องเตือนว่าต้องพูดอะไรหน่อยนะพี่คงจะเสียใจ พี่แนทคะตอนนี้ความรู้สึกกุ้งเหมือนไม่มีอะไรจะคุยกับพี่สาวคะ ทั้งๆที่ถ้ากลับบ้านจะต้องมีเรื่องอะไรมากมายที่ต้องคุยต้องเล่าสู่กันฟัง

    คืนนี้หลานชายอายุประมาณ 3 ขวบ มานอนในห้องแม่ด้วยคะ ปรากฏว่ากลางดึกเขาร้องไห้งอแงเสียงดังมาก ตามประสาเด็ก กุ้งตื่นมาก็นอนฟังเสียเขาโว้ยวาย อารมณ์แบบนิ่ง สงบ เย็น ออกแนวขำเขาด้วยซ้ำ ไม่ได้คิดอะไรเลย คอยฟังว่าแม่เขาจะจัดการอย่างไรให้เขาเงียบ แปลกมากคะ ปกติกุ้งต้องหงุดหงิดและรำคาญกับการต้องตื่นมากลางดึกฟังเสียเด็กแบบนี้ ต้องบอกให้แม่เขาทำให้หยุดร้องหรือไม่กุ้งก็จะเป็นคนดุเขาให้เงียบเอง

    9 พ.ค.57

    วันนี้เด็กๆ ประมาณ 5-6 คน มาเล่นกันที่บ้านคะ เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ทะเลาะกันบ้าง แกล้งกันบ้างจนร้องไห้เสียงดัง วุ่นวายไปหมด เป็นแค่ผู้ดูอย่างที่พี่แนทบอกเลยคะ แถมจิตยังสงบ เย็น ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร เหมือนมันเข้าใจในความไร้เดียงสาของเด็กๆ ธรรมชาติของเขาเป็นแบบนี้คะ

    บ่ายนี้พี่ให้พาไปซื้อของที่ตลาดคะ พอขับรถจะออกจากบ้านมองเห็นภูเขาที่ตั้งอยู่บริเวณรอบๆ บ้านทั้งในระยะใกล้และระยะไกล จิตมันคิดว่า ถ้าจิตคนเราเข้มแข็งแบบภูเขาก็คงดีนะ ไม่ว่าจะถูกแดด ลม ฝน ไฟ มันก็ยังคงอยู่อย่างสง่างามไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด เพราะถ้าจิตเราเป็นดังภูเขา กิเลสใดๆ ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถทำร้ายหรือทำลายจิตของเราให้สั่นไหวหรือเป็นทุกข์ได้เลย
    คืนนี้ปวดท้องแบบท้องเสียคะ สติเช็คจิต ปรากฏว่า จิตมันนิ่งคะ บางครั้งเหมือนมันไม่ได้รู้สึกกับอาการปวดท้องเลยด้วย กุ้งพิจารณากายว่าเราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าท้องจะเสีย ไม่สามารถสั่งไม่ให้มันท้องเสียได้เลย ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราเลยจริงๆ

    10 พ.ค.57

    เมื่อคืนฝันอีกแล้วคะพี่แนท แต่จำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าไม่ได้เลย พอมารู้สึกตัวอีกครั้ง เห็นตัวเองกำลังยืนมองเหตุการณ์อะไรสักอย่างอยู่ก็ไม่รู้ ภาพมันลางเลือนมากเลย เช็คจิตตัวเอง อารมณ์จิตมันเย็นฉ่ำ ชุ่มชื่น สบายๆ แว่วได้ยินเสียงบอกจิตว่า “นี่เป็นอารมณ์เมตตาจากพรหมวิหารนะ ให้จำความรู้สึกนี่ไว้ว่าเป็นอารมณ์พรหมวิหาร” เป็นครั้งแรกที่กุ้งได้สัมผัสอารมณ์นี้คะมันชัดเจนมากแม้จะเกิดในความฝันก็ตาม เมื่อวานที่พี่แนทสอนกุ้งเกี่ยวกับอารมณ์นี่กุ้งก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่า “จิตยิ้ม” เป็นอย่างไร ตอนนี้กุ้งเข้าใจแล้วคะ

    วันนี้กินข้าวเช้า มีทั้งผัดผักใส่หมู ทอดปลา น้ำพริกปลาทู ผักต้ม มองอาหารจิตมันคิดได้ว่า ร่างกายของคนเรานี้อุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิดเลยนะคะ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันไม่รู้ว่าร่างกายกุ้งมันประกอบไปด้วยกี่ชีวิตของสัตว์เหล่านั้น ร่างกายนี้มันเต็มไปด้วยศพของสัตว์เหล่านั้นจริงๆ มันถึงได้สกปรกแบบนี้ไง คิดแล้วสงสารสัตว์เหล่านั้นคะ เลยแผ่เมตตาให้กับอาหารบนโต๊ะ แล้วไม่กล้าตักกินที่เป็นเนื้อกินแต่ผักอย่างเดียว
    แล้วจู่ๆ จิตมันก็คิดไปว่า “ถ้าเราดูแลจิตให้เหมือนกับการกินอาหารก็ดีนะ” เพราะเราส่วนใหญ่บำรุงดูแลแต่ร่างกาย กินแต่อาหารดีๆ บำรุงผิวต่างๆ นาๆ ให้มันนวลนุ่ม แต่กับจิตตนเองกับเมินเฉยไม่ได้ดูแลเลย แต่กับเอาแต่ความคิดต่างๆ ความโกรธ ความแค้น มาเก็บไว้อยู่ภายใน ดังนั้น บางคนภายนอกดูดี สวยงาม แต่ภายในอาจมีแต่ความทุกข์ก็ได้

    วันนี้แม่ทำเลอะเทอะอีกแล้วคะ ก็ต้องเปลี่ยนผ้าปู เช็ดตัว ถูสบู่กันชุดใหญ่ อารมณ์ไม่ได้หงุดหงิดเลยคะ มันนิ่ง เย็น ชุ่มช้ำ เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น มองดูแม่ พร้อมกับพิจารณากายต่างๆ เห็นความไม่เที่ยงของร่างกาย หากอยู่จนอายุเท่าแม่ ผิวของเราก็จะเหี่ยว ห้อย คล้ำ ผมหงอกแบบนี้ เราห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้นไม่ได้เลย แล้วสุดท้ายก็ต้องตายไม่มีใครหนีพ้น คนเราเกิดมาเพื่อตายกันทุกคน จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ทุกอย่างเป็นอนัตตา

    ระหว่างรอเอาข้าวรอบดึกให้แม่ กุ้งก็นั่งสมาธิคะ วันนี้รู้สึกปวดหัวและคัดจมูกรวมกัน พี่แนทสอนให้กุ้งเป็นผู้ดูจิตและกาย ตอนนี้ร่างกายกุ้งมันเกิดเวทนา กุ้งเลยเปรียบตัวเองเป็นบ้าน 1 หลัง มี 2 ห้อง โดยให้จิตอยู่ 1 ห้อง กายอยู่ 1 ห้อง ให้สติคอยเป็นยามเฝ้าดูอยู่หน้าห้อง สติดูกายเห็นมันนั่งสมาธิแต่รู้สึกเหมือนร่างกายมันหายไป สติดูจิตตอนนี้จิตมีเวทนาเข้ามาอยู่ด้วยคะ แต่กุ้งรู้สึกเหมือนว่า จิตกับเวทนามันอยู่คนละที่กันคะ เหมือนมันไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกันเลย ตอนที่นั่งสมาธิอารมณ์ก็นิ่งๆ โล่งๆ

    11 พ.ค. 57
    วันนี้พี่สาวและญาติๆ ไปงานแต่งงานอีกหมู่บ้านหนึ่งกันคะ กุ้งจึงมีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลานวัยไม่ถึงขวบอีก 1 คน กุ้งพาเขาเข้าไปเล่นในห้องแม่ เพื่อจะได้ดูแลแม่ด้วย แม่ก็นอนหลับ หลานก็คลานเล่นบริเวณในห้อง กุ้งนอนมองจิตมันเห็นสิ่งมีชีวิต3 วัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

    วัยเด็ก (หลาน) – ตัวเล็ก ผิวนุ่มนิ่มน่าจับ เส้นผมยังไม่ขึ้นเท่าไร น่ารักน่ากอด ดูไร้ช่างไร้เดียงสา

    วัยผู้ใหญ่ (กุ้ง) – ร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ ผิวเริ่มหยาบ มีริ้วรอยต่างๆ เส้นผมเป็นสีดำ บางครั้งเริ่มมีสีขาวโผล่มาทักทาย แถมมีภาระหน้าที่มากมาย

    วัยชรา (แม่) – ผิวหนังเหี่ยวย่น มีจุดด่างดำเป็นสีคล้ำ เส้นผมเป็นสีขาว นอนไม่รับรู้อะไรเลย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สมองเสื่อมสภาพ

    พี่แนทคะตั้งแต่เรียนจิตเกาะพระมาจิตกุ้งมันยอมรับมานานแล้วว่าร่างกายของคนเราไม่เที่ยง แต่วันนี้กุ้งเห็นภาพชัดเจนมากคะ คนเราพอเกิดมาร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ หากมีชีวิตอยู่จนแก่เฒ่า แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องจบชีวิตลงที่ความตาย เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง จนท้ายก็ดับไม่เหลือ นอกจากความว่าง

    อารมณ์จิตของกุ้งวันนี้มันยังคงเย็น ชุมชื่น เบิกบาน เหมือนเดิมคะ เห็นอะไรก็แช่มชื่นไปหมด แม้จะมีเรื่องมากระทบรู้วางอารมณ์จิตก็ยังเบิกบานเหมือนเดิมคะ แต่บางครั้งกุ้งรู้สึกเหมือนจิตมันหายไปคะ พอมีอารมณ์มากระทบถึงรู้ว่ามันยังอยู่คะ

    เย็นนี้ทำความสะอาดห้องนอนให้แม่ ปกติเวลากลับบ้านก็จะกวาดและถูห้องทุกวัน ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูฝน ก็จะมีลมพายุฝนที่หอบเอาฝุ่นละอองเข้ามาในห้อง ขนาดกวาดถูทุกวัน ทั้งฝุ่นและเศษขยะก็เต็มไปหมด จิตของคนเราก็เปรียบเหมือนห้องห้องหนึ่ง หากเราไม่คอยปัดกวาดเช็ดถูทุกวัน ทั้งฝุ่นและขยะ (อารมณ์และความรู้สึกต่างๆ) ก็คงจะสะสมหนาเตอะกลายเป็นสิ่งสกปรก ไม่มีใครอยากเข้าไปในห้อง แม้แต่ตัวเจ้าของห้องเอง เหมือนจิตที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ อารมณ์หงุดหงิดต่างๆ ก็ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้เหมือนกัน ดังนั้น เราต้องหมั่นดูแลจิตของตัวเอง โดยการปัดกวาดเช็ดถู
    12 พ.ค.57

    วันนี้แม่ทำเลอะเทอะ ต้องทำความสะอาดชุดใหญ่ เหมือนจิตไม่มีอารมณ์อะไรเลยคะ เหมือนมันว่างจนทำความสะอาดให้แม่เสร็จ ดูจิตอีกที่เหมือนจิตมันหายไปคะ ไม่มีอะไรเลย ตอนเอาปัสสาวะแม่ไปทิ้ง มันก็มีกลิ่นเหม็นคะ ตอนนี้จิตมันเห็นว่าของที่ออกจากร่างกายเรานี้ ไม่ว่าจะออกมาทางไหน แบบใด ล้วนสกปรกเหลือเกิน ขนาดน้ำดื่มที่ว่าสะอาด พอออกมาจากร่างกาย ก็มีกลิ่นเหม็นแม้แต่เจ้าของยังรังเกียจเลย ร่างกายคนเรานี้ช่างเป็นสิ่งที่สามารถแปลสภาพของที่ดี สะอาด กลายเป็นของที่สกปรกแสนจะสกปรก แล้วเรายังจะยึดมันมาเป็นของเราอยู่อีกหรือ มันไม่น่าอยู่เอาเสียเลยร่างกายนี้
    เด็กๆ มาเล่นที่บ้านอีกแล้วคะ เสียงดังไปตามประสา จิตไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย เอ็นดูด้วยซ้ำ เพราะเข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของเขา จิตมันเห็นว่า แม้แต่เด็กเขาก็มีความทุกข์นะ ทุกข์ที่เพื่อนไม่เล่นด้วย หิวก็ร้องไห้ ถูกแกล้งก็ทุกข์ ถึงมันจะเป็นความทุกข์แบบเด็กๆ ก็ตาม ไม่มีใครหนีความทุกข์ได้เลย แต่ตอนนี้กุ้งรู้แล้วว่า แค่เรา “ปล่อย” เราก็จะไม่ทุกข์เลย ปล่อยอารมณ์ทุกอย่างที่เข้ามาในจิต

    วันนี้คนที่บ้านไปงานเผาศพกันคะ จิตกุ้งมันแว้บขึ้นมาว่า สุดท้ายชีวิตคนเราก็ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่างแม้แต่ร่างกายที่หลงยึดว่าเป็นของตัวเองก็ยังเอาไปไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกเผาดับสูญสลายกลายเป็นผง หากถูกลมพัดก็ปลิวหายไปเลย ไม่เหลืออะไรเลย “ว่าง” จริงๆ

    วันนี้กุ้งรู้สึกคัดจมูกเกือบทั้งวันเลยคะ กุ้งจับมาแยกไว้คนละห้องเหมือนเดิมคะ ใช้สติเป็นผู้ดู กายมันก็คันจมูกก็เกาไป ส่วนจิตก็อยู่อีกห้องกับเวทนาเหมือนเดิม กุ้งรู้สึกว่าจิตกับเวทนามันเหมือนต่างคนต่างอยู่เลยคะ จิตมันก็สงบ นิ่ง สบายๆ อยู่ต่างหาก ส่วนเวทนามันก็รู้สึกทรมานกับการคัดจมูกของมันไป

    ตอนเย็นกุ้งเดินไปบ้านญาติๆ มองเห็นต้นมะขามต้นใหญ่ถูกตัดไปครึ่งต้น มีกองไม้เป็นท่อนใหญ่และเศษกิ่งก้านเล็กๆ กองอยู่ข้างๆ จิตกุ้งมันเห็นว่า ต้นไม้พอถูกตัดท่อนไม้ก็เอาไปทำถ่านได้ กิ่งไม้ก็เอาไปเป็นฟืนได้ ยังมีประโยชน์ ส่วนต้นลำต้นที่ยังถูกตัดไปไม่หมดก็กำลังแตกกิ่งก้านเพื่อใช้ประโยชน์ได้อีกในอนาคต มีแต่คนต้องการมันเพื่อไปใช้ประโยชน์ แต่ร่างกายคนเรา เมื่อตายไปแล้วหาประโยชน์ใดๆ ไม่ได้เลย ไม่มีใครต้องการด้วยแม้แต่คนที่เรารักก็ตาม มีแต่คนรังเกลียดบางคนตอนมีชีวิตอยู่ยังอยากเห็นหน้า แต่พอตายไปแม้แต่หน้ายังไม่อยากจะมองเลย เพราะความกลัว

    13 พ.ค.57

    ตอนเช้ารู้สึกปีติแต่เช้าเลยคะ ปฏิบัติภารกิจให้แม่ก็ร้องไห้ไป แล้วกุ้งรู้สึกว่าเหมือนท่านพ่อพระพุทธเจ้าอยู่ใกล้กุ้งมากมากเลยคะ อารมณ์ตอนนั้นมันเย็นสบายมากๆ เลย แล้วระยะนี้เวลาคิดถึงท่านกุ้งยังคงเห็นภาพตัวเองกอดขาท่านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย
    วันนี้ขับรถกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางกุ้งก็คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่พี่แนทคอยสอน จู่ๆ กุ้งก็คิดมาได้ว่า หากเปรียบนิพพานเป็นดอกบัวพันปี ที่ตั้งอยู่ในป่าดงดิบยากต่อการเดินทางไปถึง พี่แนทและพี่เป้ก็เหมือน GPS และคู่มือการเดินทาง (ขออนุญาตเปรียบเทียบคะ) ที่คอยบอกผู้เดินทางอย่างกุ้ง ซึ่งไม่รู้เส้นทาง และไม่รู้เลยว่าต้องไปพบเจอกับอะไรบ้างระหว่างการเดินทางนั้น แต่พอเจอปัญหาและอุปสรรคคู่มือก็สามารถอธิบาย แนะนำวิธีการปฏิบัติได้อย่างดีเยี่ยมไม่มีอะไรติดขัด จนทำให้ผู้เดินทางอย่างกุ้งรู้สึกอุ่นใจเหลือเกินคะ ความกรุณาและความเมตตาจากพี่แนท & พี่เป้ ที่กุ้งได้รับคงไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆ มาเปรียบเพื่อเป็นการขอบพระคุณพี่ทั้งสองได้เลย

    พอใกล้จะเข้าเขตกรุงเทพอารมณ์จิตนิ่งๆ กุ้งเห็นตัวเองไปยืนอยู่หน้าสถานที่แห่งหนึ่งคะ ไม่รู้ว่าที่ไหน และเวลาคิดถึงท่านพ่อพระพุทธเจ้า เหมือนเห็นท่านนั่งอยู่ใต้ต้นไม้คะ บ้างครั้งก็เห็นพระเต็มไปหมดเลยนั่งอยู่ ซึ่งกุ้งก็อยู่ในนั้นด้วย

    วันนี้รถไม่เยอะคะกุ้งก็ขับรถมาเรื่อยๆ สติคอยเช็คกายและจิตตลอดคะ พี่แนทคะบางครั้งกุ้งรู้สึกว่าจิตของกุ้งมันหายไปคะ รู้สึกว่ามันว่าง ไม่มีอะไรเลยคะ จนพอเข้าเขตกรุงเทพรถเริ่มหนาแน่น บางคันแซงกันไปแซงกันมาพอมีอารมณ์มากระทบถึงรู้ว่า จิตยังอยู่ แต่กระทบแล้วก็หายไปคะ แล้วจิตมันก็หายไปเหมือนเดิม

    ด้วยความรักและเคารพยิ่ง

    กุ้ง

    ปล. ฉบับนี้ยาวอีกแล้วคะ เพราะหลายวันเลย (ความตื่นเต้นไม่มีแล้วคะ จิตนิ่ง ว่าง คะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014
  20. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]

    ขอโมทนาสาธุ....ธรรมในจิตของ คุณพร และ คุณกุ้ง ด้วยนะค่ะ
    ยอดเยี่ยมจริงๆ ปัญญาออกมาเป็นฉากๆ กันเลย (แถมหนีบอภิญญามาด้วย)
    เริ่มชัดเจนอย่างงี้แล้ว...สงสัยครูเกษกำลังแจวเรือหาบัวสวยๆ
    ไว้รอต้อนรับจิตบุญน้องใหม่แหง๋ๆ...มาเป็นคู่เลยจร้างานนี้ !!
    :cool: :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...