วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ใช่เลยพี่มันต้องค่อยๆวางค่อยเป็นค่อยไป อันดับแรกเราต้องทำเองก่อนให้ได้ผลก่อน แล้วจึงบอกคนอื่น แนะนำคนอื่น เรื่องการรวยจนต้องเลือกกิน มันสาหัสมามากนะพี่ผมมันเฉียดมหาทุกขตะไปนิดเดียวอย่างชนิดที่กรรมการต้องตัดสินด้วยภาพถ่าย มันต้องเลือกกินซีเพราะขืนไม่เลือก ให้พอเหมาะพอดีกับกำลัง ก็ไม่ต้องมีอะไรจะกิน เพราะต้องไปหาเลือกมาเอง ผักหญ้า ปูปลา หอยเล็กๆ ตามแอ่งน้ำเล็กๆ ประสาเด็กนักเรียน ป สาม ที่ต้องดูแลน้องอีกสองคนตามลำพัง ไม่มีสตางค์ ต้องหาเอาเอง พ่อแม่ไปทำงานกรุงเทพฝากสตางค์ข้างๆบ้านไว้ครั้งละหนึ่งร้อยบาท ต่อสามเดือนขึ้นไป รู้สึกว่านี่แน่มาก ต่อให้ชาวบ้านเขามากวิริยาธิกะซะอย่าง

    การเตรียมนี่เตรียมกันในชาติต่อๆไป มันจะได้หรือไม่ได้ต้องบอกว่าช่างมัน ตั้งใจไว้ก่อน ทำตามตำราแบบนี้แล้วทุกอย่าง ตามบุคคลตัวอย่างแล้วเท่าที่รู้ คือรู้เท่าไรทำตามเท่านั้น หากไม่ได้จะไปถามอาจารย์ว่าเพราะอะไร

    เมื่อปีใหนจำไม่ได้นะพี่สองสามปีมาแล้วนี่แหละ จดบันทึกไว้แต่วันนี้ไม่ได้เอามา ฝันว่าไปสำนักพยายม ก็เป็นเหมือนสำนักงานทั่วๆไปเป็นออฟฟิศทำงานมีโต๊ะทำงานหนึ่งตัว มีพนักงานบัญชีสองคน ผมเข้าไปถึงขอดูบัญชีทรัพสินตัวเอง พนักงานก็กางบัณชีให้ดู ในฝันพอผมเห็นบัญชีก็เอะอะโวยวาย ว่าก็ทำอะไรต่อมิอะไรตั้งมาก ทำไมลงบัญชีแค่หน่อยเดียว แบบนี้โกงกันนี่นา แล้วก็เข้าไปเอะอะกับท่านลุงพยายมต่ออีก ท่านก็ทำเงอะๆงะๆ บอกเออๆๆ เดี๋ยวจะดูให้ใหม่ สงสัยบัญชีจะผิด นั่นดีว่าวันนั้นแค่ฝัน หากว่าเป็นเรื่องจริง ผมน่าจะโดนยันร่วงกระทะไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มิถุนายน 2014
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ พี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน พูดได้ดีทีเดียว พูดได้ใจดี แหมเรื่องแบบนี้ พี่ๆ ยังดีกว่าผม ยังมีเงินตั้ง ๑๐๐ บาทน้องๆมหาทุกขตะ พี่ยังมีความอุดมกว่าผม ผมน่ะ ตอนไป โรงเรียน นุ่งผ้า ขาดบ้าง หูขาดบ้าง ตูดปะ บ้าง กับจากโรงเรียน บางทียิ่งกว่ามหาทุกขตะอีก ไม่ได้นุ่งผ้า วิ่งไร่ควาย โทงๆ ในทุ่ง นาน้องๆด้านล่าง มันแขว่งไปมา บางที นั่งหลับ บนหลังควาย หล่นหลังควายยังมีเลย ดีว่า แขนขาไม่หักก็ดีแล้ว ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมเอง เข้า ป.๑ ใหม่ๆ หรือ ป.๒ นี่ นับเป็นเดือนๆ หรือหลายเดือน จะได้เงิน สักสลึงหนึ่ง ก็ยากแล้ว เมื่อก่อน ไอติม บาทหนึ่งได้ ๑๐ กว่าอัน ไอติมแท่งเดียว พอๆกับไอติม ในสมัยนี้ อันละ ๑๐บาท ๑๕-๒๐-๓๐ บาท


    ขนม ๑ สลึงซื้อขนมกิน ก้อิ่มนะ โอเลี้ยง ถุงละ ๑ สลึง ต่อมาขึ้นเป็น ๒ สลึงถุงใหญ่เบ่อเริ่มเลย ย้อนหลังไปตอนยังไม่ประสา อายุ ก็น่าจะ ๓ ขวบคึ่งไม่น่าจะเกิน ๔ ขวบ เพราะน้อง คนลองลงจากผม พึ่งจะเริ่ม หัดเดิน ล้มลุกคลุกคลาน พ่อแม่ไปรับจ้าง ดำนาเกี่ยวข้าว หรือทำงาน ที่อื่นๆ ที่ นครปฐม ผมบ้านเดิม อยู่นครปฐม ผมถูก ขังรวมกัน ๓ คนพี่น้อง ให้อยู่ในบ้าน เวลาน้อง หิวนมร้องไห้ ผมต้อง ใช้ น้องโจ๊ยเอาให้น้องดูด แทนนมนะพี่ มีอยู่คราวหนึ่ง ด้วยสัญชาติญาณ น้องผมคราญ เข้าไปในใตต้ถุนบ้านๆเป็นพื้นดิน มดคันไฟมันเยอะ กัดน้องผม ร้องไห้จ้า แถม ยัง ดาก หรือ ทวารหนัก มันออกมา แดงแจด พองโป่ง ใหญ่มองดุน่ากลัว มดมันก็กัด น้องก็ร้องไห้ใหญ่เลย ผมกับพี่ กอดกัน ร้องไห้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อร้องไห้กันอยู่พักใหญ่ ผมไม่รู้ ได้ไง มันรีบหยิบ ผ้าขี้ริ้ว เปอะเปื้อนดิน ดำๆแบบนั้นแหละ


    รีบเอามือจับ ดาก หรือ ทวารหนัก ของน้อง ยัดใส่ เข้าๆๆๆๆไปอยู่พักหนึ่ง ก้เข้าไปหมด สักพัก น้องก็หยุดร้องไห้ ตั้งแต่ บัดนั้นถึง บัดนี้ ก็เวลา ๕๐ปีเศษๆ ยังไม่เคยปรากฎ ทวารหนักของน้องชาย ออกมาให้เห็นอีกเลย เวลาเร็วเหมือนการโกหก ชีวิตในวัยเด็ก นี้ กว่าจะได้นุ่งผ้า บ่อยๆ ก้ เข้าโรงเรียนมาพอสมควร และกับจากดรงเรียน ต้องหาบน้ำรถ ผัก ๓-๔ ไร่ ๒ คนพี่น้อง บางครั้งเกิดทะเลาะ กับพี่ชายเรื่องเอาเปรียบกัน ต่อยกัน จนเลือดกำเดาสาด เลี้ยง วัวควายอีก ผมจะถูกพี่ชายเอาเปรียบ อยู่เรื่อยๆ ถ้าเขียนกันจบจริงๆ นี่ต้องเขียนถึง หนังสือ ๔-๕ เล่มใหญ่ๆถึงจะจบนะพี่ บัดนั้นมาบัดนี้ ทำงานมา เป็น ๑๐๐ ชนิดแล้วครับ สำหรับในชาตตินี้ ถ้าตอนนี้ ถือว่า ดีกว่า ตอน ท่านมหาทุกขตะ เพราะความเจริญของบ้านเมือง ได้ ปรากฎความเจริญ ให้ชีวิตของเราได้เปลี่ยนแปลง มาให้เห็นมากมายครับสวัสดี:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2014
  3. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8201.jpg
      DSCN8201.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.2 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCN8210.jpg
      DSCN8210.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      28
    • DSCN8211.jpg
      DSCN8211.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.8 KB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN8226.jpg
      DSCN8226.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.9 KB
      เปิดดู:
      53
    • DSCN8227.jpg
      DSCN8227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.5 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSCN8232.jpg
      DSCN8232.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCN8240.jpg
      DSCN8240.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.8 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSCN8245.jpg
      DSCN8245.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.1 KB
      เปิดดู:
      36
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มิถุนายน 2014
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
     
  5. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาที่ท่านทั้งได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    ได้อ่านเรื่องของท่านพี่ PCO ท่านพี่บุญทรงฯ แล้วชื่นใจนะ เ้ข้าใจได้เลยเรื่องที่เล่ากันมา ตัวเราก็คล้ายๆ กันหละนะ บ้า ๆ บอ ๆ กันไป (ว่าตัวเองนะ คนอื่นไม่เกี่ยว) ผ่านมาหลายอย่าง เช่นกัน ลงท้ายที่ความว่างเปล่าไม่มีอะไร

    เวลามีเรื่องอะไรกลุ้มใจ หรือว่ากังวลใจ เราก็นำคำพระท่านมาพิจารณา ที่ว่า สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น และเราเองก็ต้องตายเหมือนกัน พอคิดแล้ว ก็สบายใจนะ ความจริงมันก็มีอยู่เพียงเท่านี้เอง สุดท้ายก็ต้องตายจากกันไป ดิ้นรนไขว้คว้า เพียงความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร

    ที่ประเทศอิรัก ก็รบกันแล้ว ในข่าวว่า กองกำลังติดอาวุธ ที่ไปยึดเอาสองเมืองของอิรัก เป็นพวกกบฏ ติดอาวุธ ได้รับการสนับสนุน จากกลุ่มประเทศโลกตะวันตก (อเมริกา อังกฤษ และอื่นๆ ) รัฐบาลอิรัก ก็เลยได้รับการสนับสนุนจาก อิหร่าน และกลุ่มประเทศอิสลาม ในการส่งกองทหาร กองกำลัง เข้าต่อสู้ยึดเมืองคืนจากกลุ่มกบฏ

    สองฝ่ายเริ่มรบกันย่อย ๆ แล้ว กล่าวคือ กลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ และกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม เปรียบดั่งยักษ์นอกศาสนา สองตนรบกัน เข่นฆ่าผู้คนแต่ละฝ่ายลงเป็นจำนวนมาก ตายฝ่ายละครึ่ง จึงหยุดรบ

    เหตุการณ์เริ่มใกล้กับที่ท่านผู้รู้บอกเอาไว้นะ มนุษย์เราก็เป็นแบบนี้ เข่นฆ่ากันได้มากมาย เป็นเพราะกิเลส และตัณหา อกุศลกรรม มันบดบังจิตใจ ให้เป็นไป ตามความอยากทั้งหลาย

    ดินแดนแห่งโยนกนครแห่งนี้ (ประเทศไทยในปัจจุบัน) พระพุทธศาสนา จะสถิตย์สถาพรสืบไป จนสิ้นอายุ 5000 ปี เราก็เริ่มได้กลิ่นหอมของศีลแล้วนะ ในไม่ช้า เมืองไทยของเรา จะปกครองด้วยศีล ด้วยธรรม น่าจะเป็นเช่นนั้น อันจะนำพาพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรื่องสืบไป

    หลายคนก็อาจจะโต้แย้งในเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เห็นจะมีวี่แววเลย ว่าจะสงบเสียที เมืองไทยมีแต่ความวุ่นวายไม่รู้จบ ก็ว่ากันไป แต่ทุกอย่างก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ เหตุด้วยสัจจะบารมี ของท่านักบุญทั้งหลาย ที่ต้องการให้บ้านเมืองไทย สงบร่มเย็น อันจะนำพาผู้คนทั้งหลาย อยู่เย็นเป็นสุข กันถ้วนหน้า

    ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกคนก็ต้องตายจากกันไป มีแต่ความดี และความชั่วเท่านั้น ที่ติดตัวกันไป ในทุกหนทุกแห่ง เหตุการณ์ทุกอย่างบนโลก เปรียบเสมือนภาพลวงตา สุดท้าย ก็มลายหายไป เป็นอนัตตา ไม่มีอะไรเหลือ

    ขอท่านทั้งหลาย จงมั่นคงในสัจจะอธิษฐาน ที่แต่ละท่านได้ตั้งใจไว้ด้วยเทอญ
     
  6. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุค่ะคุณscorpion03 อ่านข้อความเหล่านี้แล้วรู้สึกจับใจยิ่งนัก :)
     
  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    แล้วก็อย่าลืมหากว่ามาเกิดกันใหม่ในชาติต่อๆไป จนกว่าจะสิ้นพระพุทธศาสนานี้ เรารู้กันแล้วว่าอนาคตของชนชาติไทยจะเป็นไปกันอย่างไรทิศทางใหน แล้วพวกเราล่ะที่ปรารถนาพระโพธิญาณ เราจะเอาไง


    ในส่วนตัวของผมเองเมื่อรู้แล้วจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จึงได้มีการเตรียมตัวเตรียมใจ แบบที่เรียกว่าจองกฐินกันข้ามภพข้ามชาติ อย่างที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมด แล้วก็เตรียมมาตั้งแต่อยู่ตรงหน้าหลวงพ่อ คนอื่นๆลาพระโพธิญาณติดตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อเข้าพระนิพพานกันถือว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายกับแทบทั้งหมด 100% จะมีเหลือบ้างก็น้อยมาก และที่เหลือส่วนมากนี่ คือพวกที่เรียนหลักสูตรพุทธภูมิทั้งหมด ที่จะยืนระยะต่อไป ภาษาช่างบอกว่า แบก เข็น ขน ดัน ขุด ลาก จูง ที่จะทั้งอุ้มทั้งประคองสิ่งต่างๆต่อไป


    การจองกฐิน ผ้าป่า ข้ามภพชาติ การเตรียมความพร้อมทุกรูปแบบ ผมก็ทำแบบมดตัวเล็กๆ ฝูงมดตัวเล็กๆ ที่ของเล็กๆ ของคนอื่น แต่มันใหญ่เกินตัวสำหรับพวกเรา มูลค่าเงินห้าบาทสิบบาท ห้าสตางค์สิบสตางค์สำหรับคนที่มีความพร้อมนั้นเรื่องเล็ก แต่ห้าบาทสิบบาทของพวกเรามันหมายถึงหยาดเหงื่อแรงงาน แลกมาด้วยเอาชีวิต เข้าไปแลกเอามา อย่างง่ายๆจะเอามะพร้าวมาแกงสักหนึ่งลูก คนมีสตางค์ง่ายมากทำอย่างไรก็ได้ แต่คนไม่มีสตางค์อย่างผม อย่างนางแก้วของผม จะแกงสักหนึ่งถ้วยเอาไปทำบุญเลี้ยงอาหารพระ ผมต้องปีนขึ้นต้นมะพร้าวที่สูงจนใช้ไม้สอยไม่ถึง ขึ้นไปเอามันลงมา


    ทำการปลอกเปลือก ปลอกเสร็จ ขูดกระลามะพร้าว หาขันน้ำมาหนึ่งขัน มีดคุณโต้มาหนึ่งเล่ม มือหนึ่งถือลูกมะพร้าว อีกมือหนึ่งถือมีดแล้าก็ผ่ามันลงมาที่มืออีกข้างอยู่ใต้ลูกมะพร้าว แล้วก็เอาไปทำการขูด ด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว ขูดก็ต้องฝึกฝนจนชำนาญ ถึงจะขูดได้ดี ขูดเสร็จทำการคั้นกระทิด้วยการใช้มือนี่แหละ เอาน้ำสะอาดมาใส่ในมะพร้าวที่ขูด แล้วก็ต้องล้างมือให้สะอาดที่สุด ทำการคั้นกระทิ เมื่อได้แล้วจึงเอาไปให้นางแก้วนำเอาขึ้นเตาไฟทำการเคี่ยวกระทิ หน้าที่นี้เป็นของผู้ชาย ที่หากมีการแกง การทำอาหารไปทำบุญไปถวายพระ เป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องเอาชีวิตเข้าไปแลกเอามะพร้าวมาหนึ่งลูก หากตกลงมาตาย



    ขอแทรกนิดหน่อยคุณยายลูกพี่ลูกน้องกัยยายแท้ๆของผม แกเอาไม้ไปสอยมะพร้าวต้นข้างๆบ้านแกเอง ก็ไปสอยเอาก้านมะพร้าวแห้งตกลงมาไปโดนแกเข้าหนึ่งก้าน ปรากฏว่าถึงตาย ที่ตายเพราะมันมีรังต่อตกลงมาด้วยทั้งรัง มันก็รุมต่อยแกตัวละหมัดสองหมัด แล้วก็ไม่มีใครช่วยแกได้ทันเพราะแกอยู่บ้านสวนตามลำพัง แกพยายามหนีขึ้นบ้านรีบกางมุ้ง แล้วแกก็นอนหมดสติอยู่ในมุ้งจนมีคนไปพบพาส่งโรงพยาบาล ก็สายไปแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านเกิดของผม และแก้วใหญ่เองเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมา นี่แค่มะพร้าวหนึ่งลูกที่แลกด้วยชีวิต


    แล้วแค่แกงหนึ่งถ้วยประกอบด้วย
    เนื้อสัตว์
    กระทิ
    น้ำ
    ผักต่างๆ
    พริกแห้ง
    ข่า
    ตระไคร้
    ผิวมะกรูด
    ใบมะกรูด
    หัวหอมแดง
    กรีบกระเทียม
    กระปิ
    น้ำปลา
    เกลือ


    กรรมวิธีในการแกงอีก ที่มีขั้นตอนละเอียดลออที่ต้องฝีกฝนกันมาอย่างยาวกว่าที่จะแกงได้ดี รสชาติที่พอกินได้แล้วยังจะมีอื่นๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องกว่าแกงหนึ่งถ้วยจะไปถึงที่หมายปลายทาง


    หากไม่มีการเตรียมแกงหนึ่งถ้วยก็เป็นเรื่องใหญ่มากแล้วก็อาจจะทำไม่ได้เลย
    จะใช้พริกแห้งแม้อยู่ในครัวแล้วก็ต้องเอามาเด็ดขั้วแช่น้ำก่อนใส่ครกตำ
    ข่าอยู่หลังบ้านไปขุดเลือกเอาหัวที่แก่จัดเอาเอาตัดแต่งเอามาล้างน้ำเอามาหั่น
    มะกรูดปลูกอยู่หน้าบ้านก็ไปสอยเอามาล้าง ปาดเอาฉะเพาะผิวและอื่นๆอีกที่ต้องเตรียม


    ภาชนะอีกเป็นแถวยาวที่ต้องใช้ในการลำเลียงขนส่ง เดี๋ยามาต่อให้ฟังว่าแกงหนึ่งถ้วยของผมค่ามันมากขนาดใช้ชีวิตแลก

    ขอยืมรูปตัวอย่างให้ดู เป็นงานบวชหลานชาย สำหรับผมเมื่อแอบชาวบ้านเขาขึ้นมาพอเป็นพิธีก็ถึงได้มาถือถ้วยกาแฟยืนเท่ได้ ที่เหลือเป็นเรื่องของผู้หญิงเขา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN1624.jpg
      DSCN1624.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.9 KB
      เปิดดู:
      28
    • DSCN1621.jpg
      DSCN1621.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.3 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSCN1625.jpg
      DSCN1625.jpg
      ขนาดไฟล์:
      165.4 KB
      เปิดดู:
      39
    • DSCN1632.jpg
      DSCN1632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.6 KB
      เปิดดู:
      27
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    หรือใครคิดว่าง่ายก็ลองปีนต้นมะพร้าวที่บ้านของแก้วใหญ่ดูก็ได้มันสูงขนาดนี้ เมื่ออยู่บนต้นมันก็โอนเอนไปมา พอให้มือไม้จะอ่อนหลุดลงมาหากคนที่กลัวความสูง อายุแต่ละต้นไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบปี ปลูกตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยาย


    ขอยืมรูปตัวอย่างให้ดู เป็นงานบวชหลานชาย งานนี้ต้นมะพร้าวสูงผมไม่ได้ปีนขึ้นแล้วเพราะบรรดาญาติห้ามผมไม่ให้ขึ้นอีก บอกอย่าเพิ่งรีบตายเลย เอาไว้ทรมารเล่นไปก่อน แต่ก็ขยับขึ้นบางต้นนิดหน่อย ตอนเขาเผลอ เรียกว่ารักษารูปมวย มันก็ยังพอขึ้นได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN1547.jpg
      DSCN1547.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.7 KB
      เปิดดู:
      42
    • DSCN1561.jpg
      DSCN1561.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.2 KB
      เปิดดู:
      24
    • DSCN1580.jpg
      DSCN1580.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.4 KB
      เปิดดู:
      23
    • DSCN1602.jpg
      DSCN1602.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.5 KB
      เปิดดู:
      26
    • DSCN1616.jpg
      DSCN1616.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.1 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ในการแกงหนึ่งหม้อ หนึ่งถ้วยที่ขาดไม่ได้เลยอีกหนึ่งอย่างคือใบกระเพรา

    หากมีการปลูกเตรียมไว้หน้าบ้านหลังบ้าน มันก็ง่ายที่เอามาปรุงอาหาร กะแค่เก็บใบกระเพรา หากช่วยกันเก็บเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะแบบนี้ล่ะ บ้านใครจะกล้าเก็บใบกระเพราสู้กับบ้านเรา พวกเราพากันรุมด้วยความสามัคคีสถานเดียว หากเป็นงานเป็นการ และหากจะดวลเดี่ยวทุกคนบอกสบายมาก ไปหัดเด็ดใบกระเพรา ซะตั้งแต่สามขวบก่อนนะ ค่อยมาดวลเดี่ยวการเก็บกับพวกเรา ชุดนี้เป็นแม่ครัวช่วยงานบุญทั่วไปประจำหมู่บ้าน หัดทำกับข้าว อาหารการกินขนมพื้นบ้านแบบไทยๆ มาตั้งแต่เด็กๆ อ้ายชุดนี้ รวมทั้งแก้วใหญ่หุงข้าวทำกับข้าวเป็นตั้งแต่ก่อนอยู่โรงเรียน ป1

    ทำอาหารต้อนรับแขก ฝีมือไม่ต้องพูดถึง ไม่มีอะไรรับรอง คนกินมีหน้าที่กิน ห้ามบ่น ไม่งั้นต้องไปทำกินเอง เพราะนี่ทำกันอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำกันได้แล้วทำแบบต้อนรับแขก ทำแบบสูงสุดดีที่สุดคือเราทำถวายพระ เราจึงทำแบบเต็มใจ แล้วก็ตั้งใจทำ ไม่ได้มีใครที่นี่ทำอะไรก็สักแต่ว่าทำ คำว่าดี มันดีที่สุดของเราไม่ใช่ของใคร แถมคำว่าดีพิเศษมันก็พิเศษสำหรับพวกเรา

    กระเพรานี่ปลูกมันทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ต้นมะกรูดก็ปลูกมันหัวบันไดบ้าน เดี๋ยวไอ้ต้นต่อไปปลูกมันซะข้างครัวให้มันยื่นกิ่งเข้ามาให้แม่ใหญ่ยืนเด็ดเอาซะที่นอกชานครัวเลย แม่ใหญ่จะได้ไม่ต้องเอื้อมมือจากในครัวไปเด็ดจากต้น เดี๋ยวใครผ่านไปมาเห็นตอนนั้น เป็นได้วิ่งกันตับแตก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN1644.jpg
      DSCN1644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.4 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN1645.jpg
      DSCN1645.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.1 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSCN1556.jpg
      DSCN1556.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.9 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN1551.jpg
      DSCN1551.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.5 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSCN1631.jpg
      DSCN1631.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.2 KB
      เปิดดู:
      23
    • DSCN1591.jpg
      DSCN1591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.9 KB
      เปิดดู:
      27
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  10. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    ท่านพี่ PCO ในเรื่องของอนาคต หรือว่าชาติหน้านั้น เราก็ได้เตรียมตัวไว้ แต่ก็เท่าที่จะเตรียมได้ตามกำลังนะ ทำบุญให้ทาน อธิษฐานจิตไปเรื่อย มาระยะหลัง ๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถ้าได้มีโอกาสไปไหว้พระที่ไหน เช่น หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง หลวงพ่อมงคลบพิธ หรือแม้แต่พระมหาเจดีย์ชะเวดากอง ที่กรุงย่างกุ้ง เราก็จะอธิษฐานชัดเจนเลยนะ ว่าขอช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ คือไม่ว่าจะได้ไหว้พระที่ไหน จะอธิษฐานจิตแบบเดียวกัน เจอะจงลงไป

    ไม่รู้สินะ ตั้งจิตไปแล้ว ก็สบายใจ ก็คิดเองคนเดียวในใจ มันก็คิดได้ตลอดนะ ไม่มีใครเขามาขัดคอนะ ว่าเอ เจ้านี่ ลำพังตัวเอง ยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอดเลย ยังจะคิดการใหญ่ ไปช่วยคนอื่นเขาอีก ไม่มีใครขัดคอ เพราะว่าคิดเองคนเดียวในใจ ต่อไปในวันข้างหน้า เมื่อกำลังใจเข้มแข็ง มากกว่านี้ ค่อยป่าวประกาศกันชัด ๆ ต่อหน้าสาธารณะชนกันไปเลย

    และแน่นอน สำหรับท่านพี่ PCO และท่านพี่บุญทรงฯ และท่านอื่น ๆที่มุ่งในพระพุทธภูมิ ตัวของเรา มีความตั้งใจที่จะให้การสนับสนุน ตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปเจอกันในชาติไหนในวันข้างหน้า ไม่ลืมกันแน่นอน และประการสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ในชาติหน้านั้น เราตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะต้องกลับมาช่วยท่านทั้งหลาย ในการทำนุบำรุง วัดท่าซุง ขององค์หลวงพ่อท่าน ให้กลับมาเจริญรุ่งเรื่องอีกครั้ง เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

    และในวันนั้น วันที่พวกเรามารวมตัวกัน บูรณะวัดท่าซุง วันนั้น เราก็ต้องได้เจอกับท่านพี่ ฮิตเลอร์ เป็นแน่แท้ (เขียนมาถึงตรงนี้ ผู้ใดไม่เข้าใจ ให้ข้ามไปเลยนะ) บอกตามตรง คิดถึงท่านมานานแล้ว ตั้งแต่เด็ก ๆ ได้แต่ดูในหนังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในใจรู้สึกสงสาร และเข้าใจท่านฮิตเลอร์มานานแล้ว เข้าใจได้ว่า ท่านเสียสละและทุ่มเท เพื่อชาวเยอรมัน ยอมทำบาปใหญ่ เพื่อประเทศชาติ และประชาชนชาวเยอรมัน แต่สิ่งที่ได้รับ คือถูกผู้คน แม้แต่ชาวเยอรมันเอง ตราหน้าท่านว่า " เป็นอาชญากรสงคราม " หาว่าท่านเป็นคนโหดเหี้ยมอัมมหิต ผิดมนุษย์ สังหารชาวยิว เป็นสิบ ๆ ล้านคน อย่างน่าสยดสยอง

    จะมีใครเข้าใจหัวอกท่านพี่ฮิตเลอร์บ้างนะ แต่เราเข้าใจ และเข้าใจมาตั้งแต่เราเป็นเด็กเล็ก ๆ แล้วนะ ในวันข้างหน้า วันที่พวกเรากลับมาช่วยกัน ทำนุบำรุงวัดท่าซุง ให้กลับมาเจริญรุ่งเรือง วันนั้น แหละ เหล่าทหารสวัสดิกะ ทั้งหลาย ผู้กล้าแห่งยุทธภูมิกางเขนเหล็กทั้งหลาย จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ความรัก และความผูกพันธ์เก่า ๆ จะหวนคืนมานะ

    (ท่านที่ไม่เข้าใจ ขอให้อ่านแล้ว อย่าไปสนใจนะ เราขอระบายความบ้าบอหน่อยนะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2014
  11. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    ขอเขียนต่อหน่อยนะ (เขียนเรื่องนี้แล้วของเก่ามันขึ้น)

    วันนี้เราจะขออธิบายว่า เพราะเหตุอันใด ท่านฮิตเลอร์ ถึงต้องทำการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว มันมีสาเหตุมาจาก ชาวยิว ได้ร่วมมือกับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก ในการเข้ามาแทรกซึม รุกราน เยอรมัน ทั้งทางเศษรฐกิจ สังคม และการเมือง เข้ามาเหมือนเชื้อรา ที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งประเทศเยอรมัน อย่างรวดเร็ว ประกอบกับในเวลานั้น ชาวเยอรมันเอง ที่มีอำนาจปกครองประเทศ นักการเมืองทั้งหลาย ก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง มากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ

    คือในเวลานั้นนักการเมืองทั้งหลาย ที่มีอำนาจปกครองประเทศเยอรมัน ขายชาติ รับเงินสินบน จากบรรดานักธุรกิจชาวยิว ไอ้พวกยิวนี้ก็เหลือเกิน ทำการค้าแบบปกติ ตรงไปตรงมา ก็ไม่ได้ จะต้องเอารัดเอาเปรียบ กลืนกินประเทศอื่นด้วย คือว่าชนชาติยิวนั้น เก่งทางด้านค้าขาย แต่มีนิสัยชอบเอาเปรียบ แบบพ่อค้า หน้าเลือด ลำพัง แค่การเอาเปรียบทางธุรกิจ มันก็ไม่เป็นไรนะ แต่นี่ชาวยิว คิดการใหญ่ ต้องการครอบงำประเทศอื่น คือ เยอรมันเลย เพราะเป็นว่า มีทรัพยากร ธรรมชาติ มากมาย ถึงขนาด ให้ชายหนุ่มชาวยิว ที่มีฐานะร่ำรวย มาแต่งงานกับหญิง ชาวเยอรมัน เพื่อเป็นการกลืนชาติกันเลยนะ

    ก็เล่นกันเสียขนาดนี้ ถ้าไม่หยุดเอาไว้ และที่ต้องเข่นฆ่า ก็ทำด้วยความจำเป็น เพราะในเวลานั้น มันไม่มีทางเลือกจริง ๆ ในเวลานั้น การรุกราน และเข้าครอบครองเยอรมัน ของชาวยิว เปรียบเหมือนเชื่อมะเร็งร้าย ที่กัดกินร่างกาย ในส่วนสำคัญ ไปมากแล้ว ถึงขั้น ต้องตัดอวัยวะที่มีเชื้อนั้นทิ้งไป เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ คือ มันต้องฆ่ากัน เพื่อรักษาประเทศ และชนชาติเยอรมัน เอาไว้

    เรื่องของอดีตที่ผ่านมานั้น จะไปรับรู้จากตำราประวัติศาสตร์ เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอนะ เพราะว่าคนชนะสงคราม เป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ เยอรมันในเวลานั้น สุดท้าย ก็ต้องแพ้สงคราม ความเป็นจริงต่าง ๆ ก็ถูกบิดเบือน จากผู้ที่สมควรเป็น วีระบุรุษ ของชาติ กลายมาเป็น อาชญากรสงคราม

    ถ้าจะเปรียบเทียบกันนะ ในการรบ ที่พวกท่านทั้งหลาย ได้เห็นในข่าวต่างประเทศ อย่างการรบ ของนักรบของชาติอาหรับทั้งหลาย เ่ช่น การรบที่เหี้ยมโหด ของ กลุ่มอัลกออิดะ กลุ่้มอัลไกด้า กลุ่ม ตาลีบัน กล่าวคือ การรบที่ว่าเหี้ยมหาญ และเด็ดเดี่ยว ของนักรบชาวมุสลิมทั้งหลาย เทียบไม่ได้กับการรบ อันเข็มแข็ง ของนักรบนาซีสวัสดิกะทั้งหลายนะ ด้วยว่านักรบนาซีทั้งหลายนั้น ต่างรบเพื่อแผ่นดินเกิด และชาติพันธุ์ คือถ้าไม่จับอาวุธขึ้นสู้ ชาวอารยัน ก็จะต้องสูญพันธ์

    ทหารเยอรมันในเวลานั้น ไม่ได้สู้รบ เพราะมีความขัดแย้งทางศาสนา ไม่ได้รบเพราะต้องการรุกรานผู้ใด แต่ที่ต้องรบ เพราะต้องการปกป้องเชื้อสายแห่งชาวอารยันให้คงอยู่บนโลกใบนี้นั่นเอง
     
  12. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ก็อย่างที่คุณน้อง03ว่านั่นแหละ อนาคตมันจะเป็นไงนี่ความจริงไม่รู้ ที่ตั้งใจเตรียมพร้อมนี่เตรียมตามตำรา ท่านว่าทำอย่างนี้จะได้อย่างนี้ เราก็ว่าตามท่าน แบบที่หลวงพ่อบอกคือเราจะพิสูจน์คำสอน ว่าจริงหรือเปล่าที่ท่านสอน ในเมื่อท่านสอนว่าการถวายสังฆทานโดยสัทธาแท้ แม้เพียงหนึ่งครั้งในชีวิต อานิสงค์ของสังฆทาน แม้แต่พระพุทธญาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่เห็นที่สุดของอานิสงค์ เจ้าของผู้ถวายสังฆทานเข้าพระนิพพานก่อน

    อานิสงค์สังฆทานปรารถนาอะไรก็ได้

    ปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้
    ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ได้
    ปรารถนาเป็นอัครสาวกก็ได้

    และฉะเพาะอานิสงค์สังฆทานอย่างเดียวตายแล้วไปเป็นเทวดาเล่นโก้ๆ 500ชาติ
    บุญน้อยลงมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 500 ชาติ
    บุญน้อยลงมาอีกเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ 500 ชาติ
    บุญน้อยลงมาอีกเกิดเป็นมหาเศรษฐี มีทรัพย์ 80 โกฏขึ้นไปเรียกมหาเศรษฐี(หนึ่งโกฏเท่ากับ 1,000ล้าน) 500 ชาติ
    บุญน้อยลงมาเกิดเป็นเศรษฐีมีทรัพย์ตั้งแต่ 40โกฏขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 โกฏ 500 ขาติ
    บุญน้อยลงมาเป็นคหบดีมีทรัพย์ไม่ถึง40โกฏ 500 ชาติ

    เมื่อท่านสอนแบบนี้เราก็ต้องเชื่อท่าน เพราะถือว่าท่านเป็นพ่อ สำหรับผม ผมจะเชื่อพ่อซะอย่าง ไม่มีเหตุผล หลักกาลามสูตรเดี๋ยวค่อยว่ากัน มันต้องเชื่อพ่อก่อน เพราะคงไม่มีพ่อคนใหนสอนให้ลูกประพฤติชั่ว ละทิ้งความดีเป็นแน่ หรือใครมีพ่อสอนให้ลูกทำชั่วก็เรื่องของใคร

    เราจะพิสูจน์คำสอนโดยการทำตามทุกประการ หากไม่ได้ดีอย่างที่พ่อว่า ก็จะเลิกเชื่อพ่อนี่มันต้องเอาแบบนี้ อันดับแรกต้องเชื่อท่านก่อน แล้วก็ทำตาม เพราะหากไม่เชื่อเราก็ไม่ต้องทำตาม ทำอะไรก็ได้ตามชอบใจอันนี้ไม่เอา

    เคยไปนากับน้าชายตอนเป็นเด็กเล็กๆพอจำความได้ ทางนี้ไม่เคยไป เป็นนาที่อยู่ต่างตำบล เดินตามน้าชายไปตามคันนาบางช่วงก็มีป่่าละเมาะ มีทางแยก มีคันนาแยก เป็นระยะๆ ก็วิ่งออกหน้าบ้างตามหลังบ้างประสาเด็ก มีอยู่ช่วงหนึ่งน้าชายให้เดินออกหน้าอย่างเดียวไปตามทางคันนา น้าก็คุยไปเรื่อยทาง พอถึงทางแยกทีก็หันไปถามน้าชายทีว่าไปทางใหน น้าชายก็บอกว่าซ้ายบ้างขวาบ้างเป็นระยะๆไป ตอนหลังๆเสียงน้าชายชักจะเงียบผมก็เดินไปเรื่อย พูดคนเดียวไปด้วยพอถึงทางแยกไม่รู้จะไปทางใหน ก็หันไปจะถามน้าชาย ก็ปรากฏว่าไม่มีแล้ว มองหายังไงก็ไม่เจอ วิ่งย้อนกลับมาทางเดิมชักกลัวสิ เพราะมันเปล่าเปลี่ยวไม่มีผู้คนเอาซะเลยมองไปทางใหนมีแต่ป่า ร้องเรียกอย่างไรก็ไม่มีเสียงตอบใจหาย ทำท่าจะร้องแงๆก็มีเสียงน้าชายหัวเราะตะโกนมาว่าน้าอยู่นี่ ถึงกระท่อมเราแล้ววิ่งเลยไปใหน ความรู้สึกนั้นจำได้ฝังใจมาจนบัดนี้ ว่าการพลัดหลงกับคนที่เราไว้วางที่สุด หลงทาง หาทางไปไม่ได้ แล้วก็ท่ามกลางป่าเปลี่ยววังเวง หากไม่ใครทำทาง ไม่รู้ว่าจะไปแบบใหนได้เลย

    นี่เป็นอะไรที่สอนใจ เป็นการสอนที่ได้ผลอย่างที่จำอารมณ์ตอนนั้นได้จนวันตาย

    สมัยก่อนนั้นพอมีที่ว่างก็ทำนา ติดกับนาก็ป่าสูงต้นไม้แต่ละต้นเส้นผ่านศูนย์กลางมีแต่เกินกว่าหนึ่งเมตรขึ้นไป

    เพราะฉะนั้นสำหรับผม ต้องเชื่อพ่อ เชื่อผู้ใหญ่ไม่มีวันหลงทาง

    ทีนี้เมื่อพวกเรามีพระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนมาแบบนี้ เป็นพระประทีปแก้วส่องสว่างนำทางมาแบบนี้ เราก็เดินตามท่านมาแบบนี้แม้บัดนี้ท่านถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ถึงแม้จุดต่อไปท่านปล่อยให้ไปตามลำพังเด็กน้อยอย่างพวกเราก็พยายามถามทางท่าน จดจำที่ท่านแนะนำพร่ำสอนบอกทางให้ไป หากพวกเราไม่ประมาทเกาะกลุ่มเป็นกัลยามิตร แม้จะเป็นเด็กเล็กๆหากไปเป็นกลุ่มเป็นคณะมันก็พออุ่นใจ พอที่จะปรึกษาไตร่ถามเป็นเพื่อนร่วมทางกันไป หากมีผีร้ายแอบข้างทางโผล่มาทักทาย มันก็ยังพอมีเพื่อนกอดกันกลมขนลุกขนชันเล่น พอเรามีเพื่อนหลายคนแม้เป็นเด็กๆแต่ก็อาจจะหายกลัวกลายเป็นความกล้าบ้าบี่นพากันแทนที่จะวิ่งหนีผี กลับวิ่งไล่ขับผีจะจับมาใส่ขวดเล่นซะก็ได้ นี่การมีพวกมากมันดีแบบนี้

    ฉะนั้นหากว่าเป็นไปตามตำรา สมัยหน้าเป็นได้เจอกัน เจอคณะพี่ฮิตเลอร์ที่เที่ยวนี้ข่าวล่วงหน้ามาว่าท่านพี่ของผมนี่จะมาในตำแหน่งหน้าที่เดียวกันกับท่านพระนเรศวรผิดถูยังไงไม่รับรองตำราว่าไว้อย่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  13. ขง

    ขง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +676
    ขอบพระคุณมากครับ ที่ให้ความรู้เรื่องอานิสงส์สังฆทานกำลังหาอยู่พอดี
     
  14. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    เรื่องอนาคตของชาติไทย มั่นใจตามที่หลวงพ่อบอกเช่นกันค่ะ เพียงแต่ว่าในฐานะพุทธภูมิแล้วในแต่ละยุคนั้นๆมีการเมืองการปกครองแบบใด ก็ต้องอนุโลมตามกาละเวลา ยุคสมัย บุคคลและสถานที่เป็นธรรมดาค่ะ ซึ่งต้องช่วยเหลือกันให้ประชาชนได้คนดีมาบริหารประเทศเพื่อความสุขความสงบของส่วนรวมค่ะ


    จุดแข็งของประชาธิปไตยก็คือ ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกคนมาบริหารประเทศบริหารส่วนรวม โดยที่เราสามารถใช้วิจารณาญาณในการดูนโยบาย ดูบุคลากรนักการเมืองได้ และสามารถตรวจสอบข้อมูลการบริหารงานของเขาได้ ซึ่งถ้าหากว่าทำผิดหรือประพฤติทุจริตเราก็สามารถใช้กลไกของอำนาจส่วนอื่นๆที่คานกันอยู่ระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการได้ รวมทั้งสามารถใช้สิทธิใช้เสียงของเราร้องเรียนไปจนถึงการไม่เลือกพรรคนั้นๆในครั้งหน้าได้


    ซึ่งระบบการเมืองแบบอื่นๆนั้น อำนาจมันจะถูกกระจุกอยู่ที่ตัวบุคคลเดียวหรือกลุ่มบุคคลเพียงไม่กี่คนถ้าหากว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมจริงๆ ประชาชนก็จะโชคดีไป แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ดีแล้วละก้อ ประชาชนจะไม่มีอำนาจใดๆมาจัดการได้เลย และทุกๆอย่างจะถูกคอนโทรลผ่านการบีบบังคับ การเอารัดเอาเปรียบ การกดขี่ข่มเห่งทุกรูปแบบทั้งทางตรงทางอ้อม และผ่านวิธีการหล่อหลอมทางความคิด จิตใจ ความเชื่อให้เป็นไปในทางที่ต้องการ...


    จริงๆการเมืองแบบประชาธิปไตยในโลกทุกวันนี้มันก็มีปัญหาจริงๆ เพราะบางทีด้วยทุนนิยมที่มากับประชาธิปไตยมันก็ทำให้กลุ่มนายทุนมีอำนาจเงินที่จะไปล๊อบบี้คนที่อยู่ในการเมืองพวกสส.หรือสว.ให้โหวตไปในทางที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจตนได้ แต่บางประเทศนั้นกลับสามารถปกครองในรูปแบบนี้ได้โดยที่มีปัญหาคอรัปชั่นน้อยมากๆ (ตรงนี้ต้องลองศึกษาข้อมูลที่มีการสำรวจและวิจัยออกมานะคะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของต่างประเทศ)


    แต่ถ้าพูดถึงการเมืองแบบระบอบจักรพรรดิที่หลวงพ่อท่านทำนายไว้ อันนี้ถึงแม้อำนาจจะรวมศูนย์อยู่ที่ตัวคนๆเดียว แต่ถ้าท่านฮิตเลอร์เป็นพุทธภูมิที่มีคุณธรรมจริงๆคือทรงอยู่ในศีล ภาวนา มีพรหมวิหารธรรมประจำใจ มีศรัทธาต่อพระรัตนตรัยก็ย่อมจะเป็นโชคดีของประชากรที่จะได้รับการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดีผ่านนโยบายทางการศึกษา พระศาสนา เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯอย่างแน่นอน


    สำหรับเรื่องฮิตเลอร์ ส่วนตัวก็มีประสบการณ์แปลกๆเกี่ยวกับท่านเหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆเคยดูเรื่องไซอิ๋วแล้วมีเครื่องหมายสวัสดิกะของพระยูไล ซึ่งเห็นแล้วชอบมากอย่างไม่มีสาเหตุ และเอาไปวาดรูปบ่อยๆจนโดนเพื่อนทักว่าเขียนผิดด้านกลายเป็นเครื่องหมายนาซีซะงั้น แถมตอนอ่านเรื่องฮิตเลอร์แม้จะรู้ว่าเค้าฆ่าคนมากมาย แต่ทำไมตอนตายเรากลับรู้สึกเสียใจไปด้วยซะอย่างนั้น ซึ่งตอนหลังมาทราบเรื่องที่หลวงพ่อท่านเขียนไว้จึงเข้าใจ


    ซึ่งในทางการเมืองระหว่างประเทศแล้ว เรื่องฮิตเลอร์ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเกี่ยวโยงกับความรู้สึกของคนยุโรปเป็นจำนวนมาก(เพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำ) อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีก ดังนั้นการที่หลวงพ่อท่านกล่าวแบบนั้นอาจทำให้คนที่ไม่รู้เข้าใจผิด คิดว่าท่านสนับสนุนการทำแบบนั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเวลาผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์เค้าย่อมเขียนแบบนั้น แต่เบื้องหลังสถานการณ์จริงๆของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรเค้าย่อมไม่รู้หรือไม่เขียนแน่นอน (อันนี้ขอโอกาสชี้แจ้งเผื่อท่านใดข้องใจหรือไม่ทราบนะคะ :))


    ดังนั้นถ้าเป็นอย่างที่พี่scorpion03เขียนมาต้องบอกว่าน่าเห็นใจท่านฮิตเลอร์เป็นอย่างยิ่งค่ะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2014
  15. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    หากว่าเข้าใจพี่ฮิตเลอร์ ก็อย่าลืมมาช่วยกันเตรียมต้อนรับ เรารู้กันแล้วว่าลูกพี่ฮิตเลอร์จะมาสวมบทบาทพระมหากษัตริย์ธรรมราชา พศ2700ปลายๆ พี่ทิศมุโสลินีมาเที่ยวนี้เป็นเที่ยวสุดท้าย จะมาท่องขานนาค แล้วก็บวชเป็นพระเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าซุงหลวงพี่ก็จะบรรลุมรรผลเป็นพระอริยะบุคคลเป็นพระอรหันเมื่อท่านอายุประมาณ27ปี นี่ตำราว่าไว้อย่างนี้

    ส่วนผมพอรู้จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ตอนนั้นผมก็เป็นนักบวช ผมก็เจริญสมาธิกรรมฐานหน้าหลวงพ่อนั่นแหละได้แค่ใหนเอาแค่นั้น เสร็จแล้วก็ถวายสังฆทานกับท่านแล้วตั้งสัตยาอธิฐานขอไปเกิดในสมัยนั้น สามเณรน้อยสมัยเชียงปรารถนาอย่างไรผมขอตามนั้น หลวงพ่อทำมาแล้วอย่างไรผมขอตามนั้น แล้วจะมาดูแลการก่อสร้างวัดท่าซุงทั้งหมดด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่คงทนถาวรอายุยาวนานที่สุดให้อยู่คงทนไปจนกว่าจะสิ้นอายุของพระพุทธศาสนานี้

    และจงมีความมั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวงมีทุกอย่างน้อยกว่าพระเจ้าจักรพรรดิหน่อยเดียวเพราะยังไม่ใช่เขตพระเจ้าจักรพรรดิจะปกครอง แต่หากว่าสามัญชนคนทั่วไป ไม่มีใครเหนือกว่าในยุคนั้น เพื่อจะได้จัดการกับระบบต่างๆของไทยให้มั่นคงถาวรสืบไปอีกนาน

    ตอนนี้ก็เตรียมตัวเป็นเด็กหัดงานฝึกขัดสนิม หัดเจีย หัดแบกหามอ่านหนังสือวัสดุช่างอยู่นี่กะว่าจะมาดูแลงานก่อสร้างวัดนี่แหละ


    ต่ออีกหน่อยเมื่อถวายเสร็จหลวงพ่อก้มมารับสังฆทาน ท่านบอกความปรารถนาจงสมหวังนะลูกเอ๊ย ท่านก็จับมือพูดเบาๆ บอกว่าเป็นพระแล้วถวายสังฆทาน อานิสงค์มันคูณแสน แล้วท่านก็พูดต่อ ถวายรองเท้าด้วยก็ดีนะ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้ถวายท่านในตอนหลัง

    และที่วิหารน้ำน้อยก็มีโอกาสถวายรองเท้าให้กับหลวงพี่พระครูเจ้าอาวาส แล้วก็เปลี่ยนของเก่าท่านเก็บไว้จนทุกวันนี้ นี่รองเท้าแก้วสำหรับจักรพรรดิในอานาคต ก็ถวายไว้แล้วทั้งสังฆทาน ทั้งหลวงพ่อ และหลวงพี่พระครูเจ้าอาวาสองค์ปัจจุปัน ว่าหากเป็นจริงตามตำรา ผมก็พาหมู่คณะมีเตรียมไว้ทุกคน

    นี่เป็นรองเท้าหลวงพี่พระครูเจ้าอาวาส

    เดี๋ยวมาต่อครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN7503.JPG
      DSCN7503.JPG
      ขนาดไฟล์:
      89 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มิถุนายน 2014
  16. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ขออนุโมทนา ในกุศลเจตนาที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    ตามที่ท่านพี่ PCO กล่าวไว้นั่นแหละถูกต้องแล้ว พวกเราก็เชื่อตามที่องค์หลวงพ่อท่านสอน ท่านบอกเอาไว้ ส่วนความเป็นจริงทั้งในอดีต และในอนาคตเป็นเช่นไร ตัวของเราเองก็ไม่รู้ ไม่เห็นเช่นกันนะ ตั้งใจทำแบบทุ่มเท เพราะเชื่อตามที่หลวงพ่อท่านบอกเอาไว้ (ส่วนตัวแล้วนะเชื่อ 100 % ไม่สงสัยอะไรเลยนะ)

    ตัวของเรา ก็ชอบทำใจให้เป็นแบบ เมฆจิต คืออยากรู้อะไร ก็ได้รู้ได้เห็น ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง (หรือว่าอุปาทาน ก็ไม่รู้) แต่ว่าเราก็เชื่อในอารมย์แรกที่ได้รู้นั่นแหละ ก็ว่ากันไปเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล อย่าใส่ใจให้มากนัก

    ขอกลับมาในเรื่องของประเทศไทยในเวลานี้หน่อยนะ เท่าที่ดูข่าวอยู่ทุกวัน ทหาร ได้พยายามทำสิ่งที่ดี มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่พยายามปราบปราม การทุจริต คอร์รัปชั่น ต่อชาติบ้านเมือง อันนี้ ดีมากเลยนะ ขอให้ทำได้ตลอดรอดฝั่ง

    คนไทยโดยส่วนใหญ่ อาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องที่เราจะเขียนต่อไปนี้ แต่ก็จะเขียน เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย

    คนไทยในเวลานี้ ส่วนใหญ่ มักจะไม่อยากสนใจเรื่องของการบ้านการเมือง ไม่สนใจเรื่องของส่วนรวม โดยคิดกันไปว่า เป็นเรื่องที่ไกลตัว ประเทศไทยไม่ใช่ของฉันคนเดียวนี่ ตัวของฉันจะไปทำอะไรได้ ฉันจะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง และครอบครัวเป็นหลักก็พอแล้ว เรื่องของการบ้านการเมืองอะไรนี่ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันนี่ ไม่เอาไม่คิด ไม่พูดเรื่องการบ้านการเมือง ปวดหัว

    นี่คนไทยส่วนใหญ่จะเป็น และคิดกันอย่างนี้ ก็เลยเป็นการเปิดโอกาส ให้คนชั่วคนเลวทั้งหลาย ได้จังหวะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ เข้ามาทุจริต คอร์รัปชั่น ต่าง ๆ นานา ต่อประเทศชาติ ด้วยเพราะไม่มีใครเขาจะมาสนใจ หรือว่าเอาใจใส่กัน เหมือนอย่างที่ว่า บ้านเมืองจะล่มสลาย เพราะเพียงคนดีนิ่งเฉย

    การที่ปล่อยให้แต่คน โกง คนเลว เข้ามาเล่นการเมือง เข้ามามีบทบาทในการบริหารชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นระดับใดของประเทศก็ตาม จะเป็นการสร้างความเสียหาย ต่อชาติ และประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อคนดีทั้งหลายพากันคิดไปว่า เรื่องของการเมือง ไม่อยากยุ่งเกี่ยว การเมืองมันสกปรก เข้าไปยุ่งแล้วจะเสียผู้เสียคน ก็คิดกันแบบนี้ คนเลว ก็เลย มีโอกาสได้เข้ามาปกครองบ้านเมือง แล้วก็มาสร้างความทุกข์ยากลำบาก ให้ราษฎรชาวไทย โดยส่วนใหญ่ อย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้

    ในอดีตที่ผ่านมา เมืองไทยของเรา กว่าจะเป็นแผ่นดินไทย ที่ให้คนไทย ได้อยู่ได้อาศัย อย่างร่มเย็นเป็นสุข ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของใคร มีอิสระเสรี กันได้อย่างทุกวันนี้

    ท่านจะทราบหรือไม่ว่า มันต้องอาศัย ความทุ่มเท ความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ทั้งหลาย ไปมากเท่าไร ต้นตระกูลไทยทั้งหลายเหล่านั้น ท่านได้เสียสละทุกอย่าง แม้กระทั้งเลือดเนื้อและชีวิตของท่าน เพื่อให้ประเทศไทยนั่นคงอยู่ เพื่อให้ ลูกไทย หลานไทย ได้อยู่กันอย่างสุขสบายในทุกวันนี้

    ถ้าหากว่า ในอดีต ท่านทั้งหลายเหล่านั้น พากันคิดแบบเดียวกันคนไทยส่วนใหญ่ในเวลานี้ คือคิดว่า เรื่องของชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องของตนเอง เป็นเรื่องที่ำไกลตัว ธุระไม่ใช่ แล้วพากันเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กันเสียแล้ว ป่านนี้ เราท่านทั้งหลาย ก็คงจะไม่มีแผ่นดินไทยให้อยู่อาศัยกันอย่างทุกวันนี้เป็นแน่แท้

    มาในเวลานี้ อนาคตของประเทศไทย อยู่ในมือของคนไทยในเวลานี้ทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าท่านทั้งหลาย จะทำให้บ้านเมืองไทยของเรา เป็นไปในทิศทางใด

    ในเวลานี้ ไม่ต้องทำการรบทัพจับศึก อย่างเช่นในอดีต การทำคุณต่อประเทศชาติ ไม่ต้องเสียสละ เลือดเนื่อ และชีวิต อย่างมากมาย เหมือนในอดีต เพราะว่าเหตุการณ์ บ้านเมือง ก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพียงแต่ว่า คนไทยทั้งหลาย ยอมเสียสละเวลา และร่วมแรงร่วมใจกันทำเพื่อส่วนรวม เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน กันบ้าง ชาติไทยก็จะอยู่รอดต่อไปได้

    คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตายกันไปทุกคน ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้หรอกนะ ความจริงข้อนี้ ไม่มีใครปฏิเสธได้ ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อท่านตายจากแผ่นดินไทยไปแล้ว ท่านจะเหลือคุณความดี เหลือสิ่งที่ท่านทำเพื่อประเทศชาติไว้อย่างไร ความหมายของการเกิดมาเป็นคนไทย มันสำคัญอยู่ที่ตรงจุดนี้นะ

    เราจะเปรียบเทียบนะ ถ้าท่านทั้งหลาย มองเห็นอดีตกันได้ เราจะบอกเลยว่า แผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว เต็มไปด้วยกองกระดูก ของวีระบุรุษ วีระสตรี ของชาติไทย ที่ท่านได้เสียสละ เลือดเนื้อ และชีวิต เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยเอาไว้ ให้ลูกไทย หลานไทยได้มีแผ่นดินอาศัย

    เราอยากจะบอกนะว่า " ไอ้ อี ตนใด มันคิดคต ทรยศ ต่อชาติ ต่อแผ่นดิน เท่ากับว่า พวกมันทั้งหลาย กำลังเหยีบย่ำไปบนกองกระดูกของบรรพบุรุษไทย โดยไม่เห็นคุณค่า และไม่สำนึกในบุญคุณความดี เลยแม้แต่น้อย "

    และก็เท่ากับว่า ไอ้ อี พวกนั้น มันก็กำลังเหยีบย่ำไปบนหัวใจของเราด้วยเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2014
  17. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    ขอเขียนเรื่องของบ้านเมืองต่อนะ

    พูดมาถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดกันต่อในเรื่อง การให้คำสัตย์ปฏิญาน

    บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ข้าราชการทั้ง ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ดำรงค์ตำแหน่งสูง ๆ นะ

    ในวันที่ท่านจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ อย่างเป็นทางการ มีธรรมเนียมปฏิบัติที่ถือกันมาอย่างช้านานแล้ว ก็คือ การเข้าถวายสัตย์ปฏิญาน ต่อองค์พระประมุขของชาติ อันที่จริง จุดประสงค์สำคัญของการถวายสัตย์ฯ ก็คือ

    ต้องการให้ท่านทั้งหลาย ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้ให้คำมั่น ว่าจะทำหน้าที่ อย่างซื่อตรง ทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน โดยจะเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนในชาติโดยส่วนรวม มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง

    ใจความสำคัญของการให้คำสัตย์ปฏิญาน มันอยู่ที่ตรงนี้ แต่บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ข้าราชการทั้งหลาย ก็ยังมีอยู่มาก ที่ไม่รักษาสัจจะวาจา ที่ได้เคยให้ไว้ กลับทำการตระบัดสัตย์ ทุจริต คตโกง คอร์รัปชั่น ต่าง ๆ นานา ตักตวงผลประโยชน์ส่วนตน และพรรคพวก โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ของราษฎรในชาติโดยส่วนรวม

    คนเรานั้น เกิดมา สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ก็คือ การรักษาคำสัตย์

    หากเกิดมาเป็นคนแล้ว ไม่รักษาคำสัตย์ ที่ได้เคยให้ไว้ ก็ถือว่าเสียชาติเกิด

    ขอบอกตามตรง เราขอทวงคืน คำสัตย์ปฏิญาน ที่ท่านทั้งหลายต่างได้เคยกล่าวไว้ ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งต่าง ๆ ด้วย

    ท่านลืมคำสัตย์ปฏิญาน ที่ท่านกล่าวด้วยตัวท่านเอง แล้วหรืออย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2014
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องทุกท่าน แหมขอพูดให้ท่าน ๐๓ ฟังหน่อยนะจ๊ะ ถ้าจะบนท่านฮิตเลอร์ ต้องบนด้วยบุหรี่ มาโบโร่นะจ๊ะ เพราะว่า ก่อนที่หลวงพี่ สมพงค์ สมจิตโต ที่อยู่ วัดท่าซุง ท่านบนบ่อยๆ เพราะผม ไปนอนที่กุฏิท่านบ่อยมากๆเลยครับ ตอนนี้ท่านมรณะไปตก ๓ ปีแล้ว แล้วอีกอย่าง หลวงพ่อ ท่านบอกว่า หลวงพี่สมพงค์ เป็นมือขวาท่านฮิตเลอร์ รู้สึกผมจะพูด มาในกระทู้ พี พีทีโอไปแล้วนะ แต่ขอทวนหน่อยก็แล้วกัน และอีกหลายๆกระทู้ แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยไป กระทู้อื่นแล้ว นานๆครั้ง จะเข้าไปที่อื่นนิดหน่อยเอง เพราะเริ่มเบื่อ


    และอีกประการหนึ่ง หลวงพี่สมพงค์ ท่านเป็นคนวางแผน จอมวางแผน ให้ท่านอิตเลอร์ ทำการลบ ทัพจับศึก ฆ่ายิว ๒ ล้านกว่าคนเอง ท่านบอกไม่อยากไปเยอรมัน ตอนที่ อ.อาจิน กับหลวงพ่อเจ้าคุณนันท มานิมนต์ให้ไปสอนกรรมฐาน ที่เยอรมัน มาตอนหลังใกล้ มรณะ ท่านตรัสสินใจ ไป ครั้งหนึ่ง กลับมาจากเยอรมัน ท่านกล่าวกับผมว่า เฮ้ยทรง หลวงพี่ไม่ไปอีกแล้ว ที่เยอรมัน มือเจ้ากรรมนายเวร ให้ยั้วเยี้ยไปหมด ไขว่ขว้ามือหลวงพี่ หนีมันแทบไม่ไหว วิญญาณมันดื้อเยอะมากๆ


    ท่านยังพูดกับผมว่า แกเป็นยีส ทางซ้าย หัวเอียงซ้าย ส่วนหลวงพี่ เป็นยีสแถบขวา หลวงพี่ มันหัวเอียงขวาว่ะ เอ่า ในเมื่อทุกๆท่านหรือหลายท่าน ที่ยังไม่รู้ ใครไปเกิดในสมัยนั้น ก็เตรียมเงินไปซื้อ เหรียญ ร.๙ ไว้บูชาด้วยนะจ๊ะ เพราะเหรียญ ร.๙ มีเป็นแสนๆเหรียญ ที่มมีตรา นาวัสดีกะ ของท่าน ฮิตเลอร์ ที่หลวงตาโง่น โสรโย วัดไผ่รวก จ.พิจิต ทำมาถวายหลวงพ่อ ปี พ.ศ. ๒๘ ปลุกเศก ที่โบสถ วัดท่าซุง ตอนหลังหลวงพ่อสั่งเก็บ เข้ากรุ ใส่ในใต้ฐานพระ หลังโบสถ วัดท่าซุง ผมก็คิดเล่นๆ คงไปแตกกรุ ในสมัยท่าน ฮิตเลอร์โน่นแหละ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะจะได้ นำเอามาให้คนบูชา แล้วเอาเงินมาบูรณะ วัดท่าซุงต่อไป


    ผมเองหนึ่งในนั้น เป็นคนช่วยยก ช่วยแบกไป เข้ากรุครับ ไม่ถึง ๑๐ คนหรอกครับ ที่ช่วยกัน แต่คนที่รู้ ก็คงไม่กี่คนเอง ตอนนี้ ท่าน เป็นเทวดา รักษา วัดท่าซุง ใครจะบนอะไร ให้สำเร็จ ถ้าไม่เกิน กฎของกรรมรับรองได้ผลครับ อย่าลืม บุหรี่ มาโบโร่ นะครับ ท่านชอบ:cool:
     
  19. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มิถุนายน 2014
  20. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    วันนี้วันพระแรมแปดค่ำเดือนเจ็ดไทย ก็เป็นอีกวันที่ขอบันทึกไว้เที่ยงคืนยังอยู่ที่หน้างาน วันนี้แก้วใหญ่ไปดูแลที่หน้างานแทน แก้วเล็กร่วงไปไม่ไหว

    ก็เป็นอีกวันที่ถวายดอกไม้บูชาพระซะตั้งแต่เที่ยงคืนเศษ การที่มีทีมที่ดีมันเป็นแบบนี้ วันนี้เป็นฝ่ายที่แก้วเล็กโทรไปบอกว่าพรุ่งนี้วันพระเตรียมเปลี่ยนดอกไม้ด้วย เลยผลัดกัน วันพระที่แล้วแก้วเล็กถวายตอนเที่ยงคืน วันพระนี้ กลับกันแก้วใหญ่จัดถวายบ้างพร้อมลูกสาวตอนเที่ยงคืนเศษเป็นการถวายก่อน ถวายเร็ว ประเภทไม่ต้องลีลาท่ามาก ตามหลวงพ่อบอก

    แก้วเล็กก็ประจำวัน เช้าหุงข้าวใส่บาตรถวายข้าวพระพุทธรูป สตางค์ใส่บาตรวีระทะโย และกองทุนวิริยาธิกะพิเศษ แล้วก็เอาข้าวที่เปลี่ยนออกไปให้ทานแก่สัตว์หน้าโรงงานเป็นประจำ พวกเราเตรียมตัวกันแบบนี้ อย่างที่บอกไว้หากอานิสงส่งผลเมื่อไรอย่าว่ากัน เรื่องดอกไม้ เพราะไม่ใช่แค่ผมถวายคนเดียว แก้วๆของผมนี่ เขาก็ช่วยพากันถวายพระ หลวงปู่หลวงพ่อท่านนั่งเป็นพยานอยู่ทุกคืนวัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8447.jpg
      DSCN8447.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.9 KB
      เปิดดู:
      23
    • DSCN8448.jpg
      DSCN8448.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN8451.jpg
      DSCN8451.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.6 KB
      เปิดดู:
      26
    • DSCN8453.jpg
      DSCN8453.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN8454.jpg
      DSCN8454.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.9 KB
      เปิดดู:
      21
    • DSCN8456.jpg
      DSCN8456.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.8 KB
      เปิดดู:
      25
    • DSCN8457.jpg
      DSCN8457.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.9 KB
      เปิดดู:
      21
    • DSCN8459.jpg
      DSCN8459.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.2 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN8461.jpg
      DSCN8461.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • DSCN8462.jpg
      DSCN8462.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      39
    • DSCN8464.jpg
      DSCN8464.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN8465.jpg
      DSCN8465.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • DSCN8466.jpg
      DSCN8466.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.8 KB
      เปิดดู:
      27
    • DSCN8467.jpg
      DSCN8467.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.3 KB
      เปิดดู:
      35
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...