ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

มาแล้วครับตามสัญญา พอดีงานเริ่มซาๆช่างชิตก็เลยอู้งานและดันอยากกลับบ้าน(เป็นอะไรไม่รู้ ความรู้สึกมันอยากจะกลับซะงั้น)เลยตัดสินใจกลับวันจันทร์ที่ผ่านมาช่วงเช้า ตั้งใจว่างวดนี้จะไปทำบุญกับหลวงตาพาแฟนไปกราบท่านให้ได้ ช่างชิตลงที่ขอนแก่นครับแวะหาแฟนก่อนแล้วจะพากันกินข้าวกับพ่อและแม่ที่อุดรปรากฏว่าแม่ไม่ว่างซะงั้นก็เลยเปลี่ยนไปเป็นวันอังคารเที่ยง สรุปเย็นวันจันทร์ก็พักผ่อนที่ขอนแก่น เช้าวันอังคารโทรเช็คพ่อกับแม่นัดเจอกันที่บ้านตอนเที่ยงและโทรเช็คหลวงตา ครูบาบอกหลวงตาอยู่วัดครับช่างชิตดีใจมาก ก็วางแผนจะไปกินข้าวกับพ่อแม่ก่อนแล้วไปหาหลวงตาช่วงบ่ายเย็นๆ พอเที่ยงช่างชิตก็ซื้อกับข้าวกับปลาไปกินกับพ่อแม่ที่บ้านก็จึงได้รับรู้เลยว่า "พ่อกำลังจะพาครอบครัวไปในจุดเสี่ยงที่อันตรายมาก" (เหมือนที่อยากกลับบ้านเพราะมีอะไรมาดลใจให้มารู้สิ่งนี้และยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น)วันนั้นก็ได้โอกาสเปิดอกคุยกันกับพ่อเลยให้ท่านเปลี่ยนใจ(เป็นเรื่องที่พัวพันไปถึงหลวงตาด้วย รอดูบทสรุปจะกลับมาเล่าให้ฟังนะครับขอเว้นไปก่อน)หลังจากคุยกับพ่อจนคิดว่าในสถานะลูกได้พูดดีที่สุดแล้วก็กราบลาพ่อแม่รีบไปวัดหลวงตาต่อ เพราะช่างชิตกลับชลเย็นวันอังคารนี้ ซื้อน้ำซื้อกาแฟซื้อน้ำผึ้งและพวกน้ำใบบัวบกกับกระเจี้ยบเป็นน้ำปานะไปถวายท่าน พอไปถึงวัดหลวงตากลับไม่อยู่ออกไปข้างนอกทำช่างชิตใจเสียไปชั่วครู่รีบโทรหาหลวงตาก็ได้รับคำตอบว่ากำลังจะกลับมาถึงวัด ช่างชิตก็รีบกวาดถูศาลารอหลวงตา พอหลวงตากลับมาถึงก็มานั่งที่อาสนะที่จัดเตรียมไว้ ช่างชิตกราบท่านเสร็จก็เรียกแฟนไปกราบหลวงตา ต่อจากนี้จะเป็นบทสนทนาบางส่วนระหว่างหลวงตากับช่างชิตและแฟนนะครับ

ล ต "ออยพาใครมาด้วยเพื่อนหรอ" *ช่างชิตชื่อเล่นชื่อ ออย ครับ
ช ช "แฟนครับหลวงตา"
ล ต "เป็นเวียดนามหรือลาวคนไทยเปล่า???"
ช ช "คนไทยครับ 5555" (แฟนช่างชิตหน้าตาจะออกไปโทนเวียดนาม 5555)
ช ช "หลวงตาสบายดีนะครับ"
ล ต "ตามประสาคนแก่ สังขารมันทดถอยไปหมดก็ตามธรรมชาติละ"
แล้วช่างชิตก็เรียกแฟนมาถวายของและปัจจัยกับหลวงตามีหลายสิ่งที่ถวายตอนนั้นไม่ได้เพราะมีน้ำตาลก็โดนหลวงตาดุไปเหมือนกันว่าบวชมาทั้งสองรอบยังไม่รู้ว่าอะไรถวายช่วงเลยเที่ยงได้ไม่ได้ 55555555 พอถวายเสร้จก็มานั่งเข้าทีเตรียมพร้อมสนทนากับหลวงตาต่อ
ช ช "อยากให้หลวงตาสอนเรื่องการมีสติกับธรรมะเบี้องต้นให้แฟนหน่อยครับเพราะเหมือนน้องเขายังไม่ค่อยเข้าใจอยู่มาก"
ล ต "เรื่องของสติ สติก็คือความระลึกรู้ ต้องมีกันทุกคนถ้าไม่มีก็จะเป็นคนบ้าคนไม่สมประกอบ สติ นั้นคือการระลึกรู้ตัว แต่ถ้ารู้ตัวตลอดเวลาจะเรียกว่า สัมปชัญญะ คทั่วไปก็มีสติแบบทั่วไปมากน้อยก็ตามนิสัยใจคอ แต่ถ้าอยากมีให้มากขึ้นก็ต้องฝึกเหมือนนักบวช ฝึกให้กำลังสติมากมันก็จะยิ่งระลึกรู้อยู่ทุกขณะ การฝึกก็กำหนดลมหายใจง่ายๆ พุทโธ ไม่ให้จิตมันส่ายไปไหนให้มันปล่อยวางจากความคิดอย่างอื่นมาจดที่ พุทโธ ถ้าสติยิ่งมากการทำอะไรถ้ามีสติกำกับความผิดพลาดก็จะน้อยไปด้วยพอเราฝึกมากๆเข้ามันก็จะกลายเป็น สัมปชัญญะ หรือที่เขาชอบเรียก สติสัมปชัญญะ หมายถึง การระลึกรู้ตัวเสมอตลอดเวลา"
ช่างชิตกับแฟนก็นั่งพนมมือฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจจนหลวงตาพูดจบ (อาจจะไม่เหมือนทุกคำพูดนะครับแต่จับใจความได้ก็ประมาณนี้ละ ผิดพลาดประการใดก็เกิดจากช่างชิตเองที่ไม่อาจจำได้หมด)
ช ช "อ่อครับ แฟนไม่เคยมาวัดป่าซักทีแต่พื้นฐานก็ชอบทำบุญทำทานอยู่แล้วไปวัดที่อื่นก็จะมี ดูดวง สะเดาะเคราะห์ นั้นนู้นนี้ อยากให้หลวงตาสอนหน่อยครับว่ามันเป็นยังไง"
ล ต "พระก็คนธรรมดานี้ละมีทั้งดีและไม่ดีแต่เรามาวัดมาทำไม มาทำบุญทำทานรักษาศีลละชั่วให้ทำดี ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนเอาไว้ อย่างเช่นการทำบุญ เหมือนวันนี้ที่พากันมาหาหลวงตาเอาของมาถวายวัด ก็เป็นการฝึกให้ตัวเองไม่ตระหนี่รู้จักเป็นผู้ให้ การรักษาศีลก็เป็นการป้องกันการไปทำชั่วเพราะศีลเป็นข้อห้ามไม่ให้เราไปเบียดเบียนผู้อื่น อย่างน้อยก็ต้องศีล5นะ และให้พิจารณาดู กาย วาจา ใจ ตลอดเวลาด้วย เพราะการทำบาปก็เริ่มที่จิตใจและส่งออกมาทางกายและทางวาจา เช่น ไปตบยุง ไปฆ่าคน ไปด่าเขา ไปพูดโกหกส่อเสียด พูดใส่ร้ายให้คนเข้าใจผิดกัน เช่นนี้ล้วนเป็นบาป คนเราดีชั่วมันอยู่ที่เราทำเองเราก่ออะไรจะดีหรือชั่วเราก็ต้องได้รับผลจากสิ่งนั้น พระบางองค์ท่านมีความรู้แบบนั้น(หมายถึง ดูดวง สะเดาะเคาระห์ เปลี่ยนชื่อ ทำพิธีอะไรลงทองหรืออะไรต่างๆนาๆ)ท่านก็สงเคราะห์ไปแบบนั้นตามที่ท่านรู้ เพื่อเสริมกำลังใจของเราเฉยๆ แต่จริงๆแล้วจะดีจะชั่วมันไม่ได้อยู่ที่ ดวง หรือ ชื่อ อะไรมันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมด พระพุทธเจ้าถึงสอนให้เราละชั่วทำดี เราทำดีมันก็ต้องได้ดี ให้เชื่อว่าชั่วมีดีมี ทุกข์มีสุขมี มันเป็นของคู่กันอยู่ที่เราเลือกจะทำอะไรแบบไหน อย่าไปหลงผิดว่ามีแต่ทุกข์ไม่มีสุข
นี่ท่านก็ว่าคิดผิดหลงทาง เหมือนเด็กวัยรุ่นขอของเล่นกับพ่อแม่พอพ่อแม่ไม่ให้ก็คิดไปเองว่า พ่อแม่ไม่รักเรา จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นนะ"


*ง่วงนอนแล้วเดี้ยวมาต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ

 

มาต่อกันครับ

ช ช "หลวงตาครับหลวงตารู้จักฤษีตนนึ่งที่ผมยาวๆชื่ออะไรหน่า....???"
ล ต "ฤาษี...(ขอสงวนนาม)....ใช่ไหม ผมยาวเกือบถึงพื้นไม่รู้ผมจริงผมปลอมนะแต่เห็นกันบ่อยงานครูบาอาจารย์"
ช ช "ใช่ครับคนนั้นละ ไปเห็นภาพเขาเป่าหัวให้พระทำไมทำแบบนั้นละครับ"
ล ต "โอ้ย...พระไม่รู้เรื่อง พระมืดพระบอดก็เป็นแบบนั้นละ" หลวงตายิ้มและหัวเราะเบาๆ
ช ช "แต่ฤาษีก็น่าจะรู้นิครับว่าถึงพระจะมาขอให้ทำก็ไม่ควรทำ"
ล ต "สงสัยกลัวพระจะน้อยใจถ้าไม่เป่าให้(พูดแล้วยิ้มๆ) ก็พระไปให้ความเคารพเขาๆก็ถือว่าไม่ได้ด้อยสถานะกว่า ซึ่งจริงๆพระพุทธเจ้าก็บอกไว้หมดแล้วนะว่าอะไรควรไม่ควร"
ช ช "เห็นรูปถ่ายกับหลวงปู่อินทรถวาย ลูกศิษย์ฝั่งฤาษีก็พากันออกมาบอกว่า ขนาดครูบาอาจารย์ระดับนั้นยังยอมรับ"
ล ต "หลวงปู่ท่านยอมรับก็ยอมรับในสถานะ พุทธศานิกชนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่ได้ยอมรับว่า มีฤทธิ์มีเดชอะไรหรือสถานะเหนือกว่าพระ หลวงตาเจอหลายครั้ง ฤาษีเองแกก็ดีงานครูบาอาจารย์แกก็มาช่วย เจดีย์หลวงตาบัวที่หลวงปู่ลีสร้างแกก็เอาเหล็กมาช่วย ก็เหมือนพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่นับถือพระพุทธศาสนา ส่วนแกจะมีฤทธิ์มีเดชอะไรหลวงตาไม่เคยเจอ ฤาษีก็มีศีลอย่างน้อยก็ศีล 5 และถ้าแกปฏิบัติสมาธิในระดับหนึ่งแกก็คงจะมีญาณมีอะไรบ้างละ แต่หลวงตาไม่รู้ไม่เคยเห็น"
ช ช "อ่อครับ"
จังหวะนั้นเองก็มีพระลูกวัดบอกหลวงตาว่ามีโยมเอาพระบูชามาไว้ที่วัดบอกเป็น "พระผีสิง" หลวงตายิ้มแล้วบอกให้ไปเอามา เดี้ยวจะมาเล่าต่อนะครับถ้ามีคนอยากอ่าน ทำงานก่อน

 

นานๆ มาที ยังมีกั๊กอีกนะนายช่างออย (เอ๊ยช่างชิต)

 

รอพระอาจารย์มาเม้นมาไลค์อยู่ครับ 55555 คุยคนเดียวมันเหงา

 

เงียบได้ใจจริงๆ 5555555 ไม่เป็นไรครับถือว่าเล่าไว้เป็นหลักฐานไม่สูญหาย
มาต่อกันครับ เรื่อง "พระผีสิง"

พอหลวงตาบอกให้ครูบาเอาพระมาให้ซักครู่ ครูบาก็ไปหยิบพระบูชานาคปรกปิดทองเหลืองทั้งองค์มาวางข้างๆหลวงตา หลวงตาจับขึ้นมาดูแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ช่างชิตก็อดสงสัยไม่ได้จึงเรียนถามหลลวงตาไป

ช ช "หลวงตาครับ ทำไมเขาถึงบอกว่าพระผีสิงละครับเรื่องเป็นยังไงมายังไง ในเมื่อเป็นรูปของพระพุทธเจ้าผีที่ไหนมันจะกล้ามาสิง"
ล ต "เห็นบ้านใกล้ๆวัดที่ยังสร้างไม่เสร็จไหม เริ่มสร้างเป็นของโยมคนหนึ่งที่ได้แฟนคนต่างชาติซื้อที่แล้วสร้างบ้านขึ้นมา แต่สร้างเท่าไรก็ไม่เสร็จ จนเขาคิดว่ามันมีอาถรรพณ์เจ้าที่แรง
งวดแรกสร้างไปบ้านก็ทรุดพังก็รื้อทำใหม่ พอทำใหม่ก็มีเหตุให้บ้านต้องไม่เสร็จอีก
หมดไปเกือบ 20 ล้าน สุดท้ายก็ไม่เสร็จก่อนจะขายให้กับอีกเจ้ามีแฟนต่างชาติเหมือนกันพออีกเจ้ามาสร้างต่อก็ยังไม่เสร็จจนทุกวันนี้ พระองค์นี้เป็นพระของหลวงตาเอง คือ เจ้าแรกตอนบ้านมีปัญหาเขาก็ไปดูดวงมา หมอดูบอกต้องตั้งศาลพระภูมิแล้วเขาก็มาปรึกษาหลวงตา หลวงตานั่งนิมิตเห็นภาพงูใหญ่อยู่ใต้ดินก็บอกเขาว่าเอาพระนาคปรกไปตั้งแทนและถ้าเห็นงูก็อย่าไปฆ่างูนะ ก็เลยให้เขาเอาพระนาคปรกไปวางแทนพระภูมิ กราบไหว้รูปพระพุทธเจ้าดีกว่ากราบไหว้ผีสาง ให้ไปนานแล้วพอได้ข่าวว่าเขาขายที่ต่อ หลวงตาก็นึกอยู่ว่าพระองค์นี้ไปอยู่ไหน อยากได้กลับมาวัด จนวันนี้มีโยมมาบอกว่าเก็บพระบูชาองค์นึ่งได้ข้างทางเป็นป่ารกใกล้ๆบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จนั้นละ เขาเลยเอามาให้หลวงตาบอกว่ามีคนลือว่าเป็น พระผีสิง มีไว้แล้วไม่ดี" หลวงตาพูดไปก็ยิ้มไป
ช ช "อ้าวซะงั้น แล้วตอนหลวงตาเอาพระไปให้เขาไหว้บูชาแทนพระภูมิแล้วพระไม่ช่วยให้เขาดีขึ้นเลยหรอครับ"
ล ต "พระจะไปช่วยอะไร ทำบาปทำไม่ดีก็เราเองเป็นคนทำ พอได้รับผลของสิ่งที่ทำมาเป็นเรื่องไม่ดี จะให้พระไปช่วยอะไรในเมื่อตัวเองเป็นคนทำ ทำผิดศีล......(ข้อ 3).....เป็นอานิจมันก็เป็นกรรมหนักตัวเองยังไม่หยุดไม่เลิกทำ พระท่านก็ช่วยไม่ได้หรอก"
ช ช "อ่อครับ หลวงตาหรือเจ้าที่จะแรงจริงๆแบบเขาว่าละครับ"
ล ต "ก่อนจะเป็นโยมแฟนคนต่างชาติมาซื้อ ที่ตรงนี้สมัยก่อนก็เป็นของครูคนหนึ่งเขาก็อยู่ดีมีสุขตามอัตตาภาพ จะบอกว่าเจ้าที่แรงเกี่ยวไหมก็คงมีบ้าง เจ้าที่แรงแต่คนไปอยู่ไปอาคัยมีศีลมีธรรมเจ้าที่ท่านก็เอ็นดูดูแล"
ช ช "แล้วก็มาโทษพระที่หลวงตาให้ว่าเป็นพระผีสิงพระไม่ดี เหอๆ"
หลวงตาไม่ตอบแต่ท่านก็นั่งยิ้มกรุมกริ่ม
ฟ ชช "หลวงตาคะ อยากให้หลวงตาช่วยรดน้ำมนต์รถให้หน่อยคะ พอดีชนบ่อยเหลือเกิน"
ล ต "เอ้า!! ออย ไปเอาขันน้ำมนต์มา"

เดี้ยวจะมาต่อนะครับ

 

มีกั๊กไว้อีกเป็นระยะๆ นะ ชช. เดี๋ยวให้ ฟชช.เขียนเล่าแทนซะเลย ดีมั๊ยเนี่ย

 

55555555 ผมไม่ได้กั๊กครับพระอาจารย์ ว่างก็เข้ามาเขียน ถ้าจะเขียนหมดมันก็ยาวเกินเดี้ยวจะไม่อยากอ่านกันอีก และที่สำคัญมันนึกออกเป็นระยะๆครับ 5555

 

มาต่อครับ

พอหลวงตาว่าดังนั้นช่างชิตก็รีบไปเอาขันน้ำมนต์หลวงตามา หลวงตาก็พรมน้ำมนต์รอบรถและเจิมรถให้พร้อมกับนั่งเพ่งจิต(ไม่รู้จะเรียกอะไรอะครับ)ซักพักก่อนจะบีบแตร่สามครั้งแล้วบอก "ไปดีมีสุขแคล้วคลาดปลอดภัยนะ" พอหลวงตาลงมาจากรถก็ได้เวลาบ่ายสี่โมง
กว่าๆแล้ว ซักพักหลวงตาก็กลับไปกุฏิช่างชิตก็ตามไปสงน้ำหลวงตาครับแต่ก่อนที่จะสงก็เข้าไปนวดขาให้ท่านหน่อยตามที่ เราเคยทำมาให้พ่อแม่ครูอาจารย์จังหวะนั้นเอง ช่างชิตก็นึกอะไรในใจออก(ติดใจอยู่พอดีเพราะเคยให้พระเกจิอาจารย์ท่านนึ่งจับดูท่านบอกว่า "ตะกรุดเงียบจัง" เล่นเอาใจเสียไปหลายวันเลยครับแต่พอตั้งสติได้ ช่างชิตว่าพลังจิตของท่านคงไม่ถึงผู้สร้างเพราะเกจิสมัยก่อนทำอะไรออกมาจะลงบังวิชาไว้พลังไม่ถึงก็สัมผัสไม่ได้)จึงถอดตะกรุดที่คาดเอวให้หลวงตา

ช ช "หลวงตาครับช่วยจับให้หน่อยได้ไหมครับว่าตะกรุดดอกนี้ดีไหม คนที่ให้มาบอกเป็นของเก่าพระที่ทำก็เก่งครับ" (เดี้ยวจะมาเฉลยครับว่าของใคร)
ล ต "เอ้า หาอะไรมาแขวนให้รกอีกแล้ว พุธโธ ดีสุดทำไมไม่เอา" หลวงตาพูดไปก็จับดูไป
ล ต "แล้วนี้อะไร"
ช ช "เบื้ยแก้ครับ"
ล ต "นี่ละ"
ช ช "หอยโบราณเสกครับ"
ล ต "หึหึ ก็ช่างหามาห้อยมาแขวนเน๊าะให้รกให้เต็มตัวไปหมด ทั้งหอยทั้้งเบื้ย เยอะแยะ เอาแต่ดีนอก ดีในทำไมไม่ชอบเอา พุทโธ ภาวนาไปสิทำใจตัวเองให้ขลัง"
ช ช "ชอบครับเอาทั้งดีนอก ดีใน ครับ 5555"
แล้วหลวงตาก็หันไปคุยกับพระครูบาที่รอมาสงน้ำกับช่างชิตไปซักพัก มือท่านก็กำตะกรุดไว้อยู่ตลอดเวลา ซักพักหลวงตาก็ยกมาดูพร้อมถามว่า
ล ต "จะให้หลวงตาดูอะไรก็เป็นแท่งๆแบบนี้ละ"
ช ช "อยากให้หลวงตาจับดูว่าขลังไหมครับ ดีไม่ดี" ช่างชิตว่าตรงๆเลยไม่กลัวโดนด่าละ
ล ต "โอ้ยเน๊าะ" หลวงตายิ้มและหัวเราะเบาๆ มือก็กำตะกรุดไว้เหมือนเดิมซักพักหลวงตาก็พูดว่า
ล ต "ดีอยู่เขาทำมาดีอยู่ แต่ให้เอามาสวด อิติปิโส 9 จบ ก่อนนอนทุกวันนะจะได้ดียิ่งขึ้น" พร้อมส่งตะกรุดให้ช่างชิตคืนมา ช่างชิตดีใจมากแล้วหลวงตาก็ลุกไปเข้าห้องน้ำบรรดาลูกศิษย์รวมทั้งช่างชิตก็ตามไปสงน้ำท่าน

เดี้ยวจะมาต่อนะครับ

*เฉลยตะกรุด ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดลายห้าเสาของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามครับ ช่างชิตได้มาแบบบุญพาวาสนาส่งจริงๆ พ่อของเพื่อนคนพื้นที่สิงห์บุรีเป็นลูกศิษย์ท่านรับมากับมือท่านประมาณปี 2517-2518 เพื่อนว่างั้นนะบอกตั้งแต่เขายังไม่เกิด พ่อเพื่อนเอามาให้เพื่อนติดตัวตอนเรียนโรงเรียนช่าง(อุเทนถวาย) เพื่อนไม่ชอบแขวนอะไรแบบนี้ก็เก็บไว้ไม่แขวนจนทำงานมาเจอช่างชิต(เพื่อนสามสิบปลายๆจะสี่สิบละครับ) หลายปีก่อนมีเหตุให้เอามาฝากช่างชิตไว้ ช่างชิตก็รับปากว่าจะไม่ขายให้ใครจะเก็บไว้ติดตัวจนตาย (ตอนนั้นหลวงพ่อกวยยังไม่ดังเท่าไรและที่สำคัญช่างชิตรู้จักแค่ได้ยินชื่อมาเฉยๆก็รับมาแบบช่วยเพื่อน ค่านมลูก ไม่กี่ตัง) ทุกวันนี้เพื่อนมาอ้อนวอนขอเช่าคืนเป็นเงินหลายบาทโขเลยละ แต่ช่างชิตต้องบอกกับเพื่อนว่า "เสียใจครับ 55555" ยันต์ลงตะกรุดของหลวงพ่อนั้นมีกี่แบบไม่มีใครรู้แต่ที่ท่านชอบลงมากคือ ยันต์มหากาฬกับยันต์ไตรสรณาคมน์(ข้อมูลในเวปหลวงพ่อกวยจากสายตรงที่เคยแก้คลี่ออกมาดู) และยันต์ที่ลงดอกนี้ช่างชิตคิดว่า(คิดเอาเองนะครับ)จากที่หลวงตาบอกแสดงว่า หลวงพ่อกวยท่านลงดอกนี้เป็นยันต์ไตรสรณาคมน์ซึ่งถอดมาจากบทบูชาพระรัตนตรัย หลวงตาจึงให้สวด อิติปิโส เพื่อเสริมอารธนายันต์ในตะกรุดยิ่งขึ้น คิดเองนะครับจริงไม่จริงตามคิดก็ต้องคลี่ดูอย่างเดียวซึ่งคงไม่ทำ 55555

 

แล้วตัวที่อยู่ตรงกลางตะกรุด ระหว่างเบี้ยแก้ กับหอยโบราณ นั้นมันคืออะไร ของใคร หลวงตาท่านไม่ได้ถามหรอกหรือ ชช.

 

อ่อ พอดีที่หลวงตาท่านถามเพราะไม่รู้จักครับ(เบี้ยแก้หลวงตายังบอกว่าก้อนอะไรกลมๆ) อันกลางท่านคงรู้ว่าเป็น ปลัดขิก อยู่ อิอิ

ถือว่าท่านไม่เอาด้านนี้จึงไม่ได้อะไรมากมาย คนก็ไม่ได้รู้จักเป็นวงกว้าง
เพราะเคยเห็นหลวงตาเล่าให้ฟังอยู่ว่า วิชาคาถาอาคมหลายอย่างกับหลวงปู่บุญจันทร์
หลวงตาไม่ได้เรียนมาทั้งหมดเรียนมาบางอย่าง หลวงปู่จะสอนให้หมดละแต่หลวงตาไม่เอา
เพราะมันไม่ต้องตามเป้าหมายของท่าน รู้มากก็เหนื่อยมากวุ่นวายมาก(โปรดโลก สงเคราะห์โลก)
ถ้าหลวงตาชอบทางนี้ช่างชิตว่า สงสัยวัดแตกครับ

 

เล่าทริปนี้มาหลายตอนแล้วถือว่าคุ้มค่าไม่เสียเที่ยว มาปิดทริปนี้ด้วยตอนสุดท้ายเลยดีกว่า ต่อครับ

หลงจากสงน้ำหลวงตาเสร็จบรรดาลูกศิษย์พระในวัดและโยมอย่างช่างชิตก็มานั่งรอให้ท่านอบรมสั่งสอนต่อ พอหลวงตานั่งลงพวกเราก็ก้มกราบ โดยพระกราบก่อนแล้วโยมกราบทีหลังเป็นทำเนียบปรกติของสายพระป่า ทันใดนั้นก็มีครุบารูปนึ่งพูดถึงประเด็นเรื่อง "พระผีสิง"อีกรอบคราวๆคือ เพราะเจ้าของที่ผิดศีลข้อ 3 เป็นอานิจใช่ไหมถึงทำอะไรไม่ดีขึ้น หลวงตาก็บอกว่าใช่ เพราะมัวเมาในกิเลสในกามคุณชีวิตแม้จะบุญพาวาสนาส่งแต่สุดท้ายก็พังหมดลูกศิษย์หลวงตาหลายคนรวยๆก็เสียไปเพราะเรื่องนี้ มีเท่าไรก็หมดถ้าผิดศีลข้อนี้แล้วหลวงตาก็อบรมยาวไปซักพักจึงหยุด ครูบารูปนั้นได้ฟังก็หน้าเสียทำไรไม่ถูกนั่งเงียบไป หลวงตาก็เลยให้บรรดาครูบากลับไปสงน้ำกัน พอออกกันไปบางส่วนรวมทั้งครูบารูปที่ถามหลวงตาด้วย ที่เหลือก็เข้ามาจับเส้นให้หลวงตา แล้วหลวงตาเลยพูดขึ้นมาว่า
ล ต "ครูบา....(สงวนนาม)... ต้องฝึกอสุภะหนักๆ ไม่งั้นอยู่ยาก"
ช ช "ทำไมละครับหลวงตา" ช่างชิตสงสัยจึงเอ่ยถาม มือก็นวดจับเส้นหลวงตาไปด้วย
ล ต "ครูบา....เจ้าชู้ชอบไปเล่นเมียชาวบ้านเขา เขาจะฆ่าเอาญาติเลยต้องพาหนีมาบวช หลวงตาก็ให้ฝึกดูอสุภจะได้ปลงกับสังขาร"
ช ช "อ่อครับ แล้วหลวงตาไม่พาครูบาเขาฝึกละครับ"
ล ต "หลวงตาพาฝึกไม่เท่าเขาฝึกเอง เหตุมันเกิดที่เขามันต้องแก้ที่เขา หลวงตาบอกหลวงตาสอนหมดแล้ว"
ช ช "อ่อครับ แล้วหลวงตาครับในกล่องฟ้านั้นอะไรอะครับ" สายตาที่ซุกซนอยู่แล้วกวาดไปรอบๆกฏิเจอเหมือนกล่องใส่พระกำมะยี่เลยหน้าด้านถามหลวงตา 55555
ล ต "เหรียญระฆังเนื้ออัลปาก้า ได้ไปแล้วไม่ใช่หรอ"
ช ช "ได้แล้วครับแต่เนื้ออื่น" ใบหน้าช่างชิตฉาบไปด้วยรอยยิ้มสยามขอความเมตตากับครูบาอาจารย์
ล ต "เอาไป" หลวงตาก็หยิบมาให้ช่างชิตพร้อมสติ้กเกอร์ติดรถมาด้วยสามสี่แผ่น ทำให้บรรดาครูบาที่อยู่ด้วยมองด้วยความอยากหรืออาจจะหมั่นไส้ช่างชิตด้วยก็ไม่รู้เหมือนกัน 5555 จังหวะนั้นเองช่างชิตก็ปรึกษาหลวงตาเกี่ยวกับปัญหาทางบ้านที่พ่อได้ตัดสินใจทำไป แต่พอดีช่างชิตมาเห็นเสียก่อนจึงได้เตือนสติพ่อทัน หลวงตาฟังก็บอกว่าหลวงตาไม่เห็นด้วยในสิ่งที่พ่อคิดจะทำ ท่านก็ไม่อยากให้พ่อช่างชิตทำแบบนั้น ช่างชิตจึงบอกหลวงตาว่า
ช ช "หลวงตาครับ เดี้ยวจะให้น้องชายพาพ่อมาหาหลวงตาวันที่ 1 ฝากหลวงตาอบรมเตือนสติพ่อหน่อยนะครับหรือหลวงตาจะคุยทางโทรศัพท์ตอนนี้" ช่างชิตไม่ลืมกำชับหลวงตา
ล ต "ไม่คุยหรอก ต้องคุยตัวเป็นๆให้น้องพาพ่อมานั้นละ เดี้ยวหลวงตาจะบอกแต่พ่อเขาจะเชื่อไม่เชื่ออันนี้ก็สุดแล้วแต่พ่อเขานะ" หลวงตาบอกกับช่างชิต
ช ช "ครับ แต่คิดว่าพ่อคงเชื่อหหลวงตาแน่นอนครับ" เพราะพ่อช่างชิตก็มีพื้นฐานที่เคารพนับถือครูบาอาจารย์อยู่แล้วสมัยก่อนท่านก็ไปกราบ หลวงปู่ขาว อาจารย์วัน บ่อยๆ
หลังจากนั้นก็พากันพูดคุยกันถึงเรื่องครูบาอาจารย์ต่างๆ หลวงตาก็เล่าถึงพึ่งไปกราบหลวงปู่แตงอ่อน(หลังจากวันนั้นไม่กี่วันท่านก็ดับขันต์สู่นิพาน)และอีกหลายๆรูป จวบจนจะได้เวลาหนึ่งทุ่มหลวงตาจึงให้หยุดให้พระทุกองค์ไปเตรียมตัวที่ศาลาสวดมนต์กัน
ล ต "ออย แฟนรออยู่ไม่ใช่หรอพากลับได้ละ เดี้ยวจะโกรธเอา" หลวงตาหันมาที่ช่างชิต เสมือนเตือนสติว่าไม่ได้มาคนเดียว
ช ช "อ่อครับๆ หลวงตาจะไปศาลาเลยไหมครับ" ช่างชิตก็เผลอเกือบลืมไปเหมือนกัน
ล ต "ไป พอแล้วพากันไปเตรียมสวดมนต์ได้แล้ว" หลวงตาพูดให้พวกเราที่จับเส้นหยุดแล้วท่านก็ลุก พวกเราก็ลุกเตรียมตัวไปศาลา ช่างชิตก็บอกว่าเดี้ยวจะไปส่งหลวงตาที่ศาลาเอง รีบออกมาเตรียมจัดรถพร้อมกับง้อแฟนนิดหน่อยที่ให้นั่งรอด้านนอกประมาณ 2 ชั่วโมง 5555 ทำไงได้นานๆเจอพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็คิดถึงหลวงตาอยากอยู่กับท่านนานๆ เพราะเวลาอยู่กับหลวงตาจะรู้สึกอบอุ่นมากเมตตาท่านมหาศาลเหลือเกินจนลืมว่าแฟนนั่งรอด้านนอก พอหลวงตาออกมาจากกุฏิ ช่างชิตไปรับย่ามเชิญหลวงตาขึ้นรถขับไปส่งท่านที่ศาลาใหญ่ ระหว่างทางช่างชิตก็ลองหยอดหลวงตาหน่อยเผื่อมีของดีให้แฟน (แฟนงอนๆอยู่ด้วย) แฟนจะได้หายงอนเร็วๆ
ช ช "หลวงตามีของดีให้แฟนออยบ้างไหมครับ"
ล ต "ของดีก็ให้ไปแล้วนะเด้" (หมายถึงเหรียญที่ให้ช่างชิตในกุฎิ) แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อก็ถึงศาลาพอดี
พอถึงศาลาช่างชิตรีบจอดรถแล้ววิ่งมาเปิดประตูให้หลวงตาลงพร้อมส่งย่ามให้ท่าน จังหวะนั้นหลวงตาก็ล้วงมือไปหยิบกระเป๋าในย่ามแล้วบอกแฟนช่างชิต
ล ต "แบมือๆ" หลวงตาก็หยิบอะไรซักอย่างออกจากกระเป๋า
ช ช "แบมือเร็วสิ หลวงตาจะให้ของดี" ช่างชิตรีบบอกแฟนปานนกรู้
ฟ ช ช "จ๊ะๆ" แฟนช่างชิตก็รีบแบมือทันที หลวงตาก็มอบเหรียญพระพุทธเนื้อตะกั่วกับแหวนครบรอบวันเกิดปีนี้ของท่านคนละชุด ช่างชิตกับแฟนดีใจมากก้มกราบลาหลวงตาขอตัวเดินทางกลับกรุงเทพ หลวงตาอวยพรแล้วหันหลังเข้าศาลาไป พวกเราก็พากันขับรถออกมาด้วยความปิติยินดีในวันนั้นครับผม

*เดี้ยวจะถยอยเอาภาพวัตถุมงคลที่ได้มาลงนะครับ

 

แล้วเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ ที่ ชช. สร้างถวาย ลต. ไปถึงไหนแล้วหล่ะ
หรือว่าต้องรอให้ออกพรรษาก่อน (ถามดักไว้ เผื่อ ชช. จะลืม)

 

ไม่ลืมครับ พระอาจารย์ ช่างชิตบอกหลวงตาว่า "หลวงตาจะสร้างเหรียญที่ไรก็มีเหตุให้ต้องใช้ตัง หลวงตาให้ออยมีบุญได้สร้างในปีนี้ด้วยนะครับ"

หลวงตาบอกว่า "อย่าไปทำให้มันทุกข์มันยากเจ้าของ มีเหลือค่อยทำ ให้หลวงตา 80 ก่อนค่อยทำ ไปสร้างของขลังในใจตัวเองนั้นละ สร้างไป" เจอดอกนี้ไปไม่เป็นเลย 55555 แต่หน้าด้านขอไปเรื่อยๆจนหลวงตายิ้มเฉยๆแสดงว่าจะได้สร้างในปีนี้ะครับ 55555 คิดเอาเองนะ

 

วัตถุมงคลที่ได้รับจากหลวงตาวันที่ไปกราบครับ นำมาให้ชมกัน

 

ลองกลับไปอ่านตั้งแต่หน้าแรกมา นึกถึงอารมณ์เก่าๆช่วงเขียนแรกๆ เขียนผิดบ้าง ถูกบ้าง น่าอ่านบ้าง ไม่น่าอ่านบ้าง(ทุกวันนี้ก็ยังเป็น 5555)แต่มีคนเข้ามาพูดคุยหลากหลายก็ทำให้ดีใจ มีกำลังใจเหมือนไม่ได้คุยอยู่คนเดียว ทุกวันนี้.......แม้เหลือไม่กี่คน หลายคนที่เคยเข้ามาพูดคุยในนี้คงลืมกระทู้ๆเล็กๆบ้านๆกระทู้นี้ไปแล้ว แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่เคยแวะมาเยี่ยมกันและกราบขอบพระคุณกับคนที่ยังอยู่และถามไถ่ทักทายกันตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาเม้น มาไลค์ ยอดคนอ่านกว่าสองหมื่นคนมันมากเกินกว่าที่คิดไว้จริงๆครับ สมัยก่อนได้แต่เข้าไปอ่านไปดูของคนอื่นเห็นคนอ่านเป็นหมื่นเป็นแสนบ้าง บางกระทู้เป็นล้าน ก็ปลื้มแทนคนเขียนที่เขียนให้คนชอบได้เขาเก่งจริงๆ หวังว่าวันหนึ่งเราจะเขียนอะไรแล้วมีคนตามอ่านแบบนี้บ้าง จนได้มาเขียนเรื่องราวอีกมุมของหลวงตาที่เคารพรักในมุมที่ลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านที่ยังเบาปัญญายังติดกับวัตถุ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ต่างๆไม่สมกับที่ท่านสอนให้ละให้ทิ้ง กระนั้นช่างชิตก็ยอมรับและอยากถ่ายทอดมันให้คนอื่นๆได้รู้ในแบบฉบับการเล่าเรื่องของตัวเอง หลายคนอาจจะชอบ มากคนอาจไม่ชอบ ก็ขอขอบพระคุณและก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ จากวันนั้นจนวันนี้ยอดคนอ่านล่าสุด 21,169 คน ยอดไลค์ 1,428 Like และยังมีเพื่อนๆสมาชิกหลายคนเข้ามากล่าว ติเตียน กล่าวชม สอบถาม ไม่ให้ขาดความอบอุ่น ณ จุดๆนี้ มีความสุขในใจจริงๆถ้ามีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับหลวงตาหรือเรื่องอะไรที่มีประโยชน์ก็จะเขียนต่อไปเรื่อยๆ เขียนจนกว่าจะไม่มีคนอ่านจนกว่าช่างชิตจะไม่มีความสามารถในการถ่ายทอดแล้วนั้นละครับ ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งจากใจ ขอบพระคุณครับ

 

หายไปนานอีกแล้วนายช่าง..

 

พอดีเดินสายทำบุญเล่นในมือถือมันไม่ค่อยมันอะครับ 555 ต้องกลับมาเล่นคอมถึงจะดี เดี้ยวจะนำภาพมาฝากกันนะครับ

 

วันหยุดหลายวันช่างชิตก็เดินสายตามที่ตัวเองตั้งใจไว้ก็ถือว่าได้สมความตั้งใจครับ
เริ่มต้นจาก วัดช่องแค หลวงพ่อพรหม พระเกจิที่ไม่ต้องบรรยายอะไรมากมาย
ต้อด้วย วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงปู่สี คนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักท่านแต่ถ้าบอกว่า
"ลูกศิษย์สมเด็จโต / สหธรรมมิก หลวงปู่ศุข หลวงพ่อกลั้น หลวงปู่มั่น /
อาจารย์ของ หลวงปู่แหวน / หลวงพ่อกวย ยอมรับ / หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ศรัทธา" ที่สำคัญอายุยืนถึง 128 ปี โปรไฟล์ขนาดนี้การันตีทุกอย่างแล้วครับ
ยิงยาวต่อไปวัดท่าซุง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ช่างชิตเคยถามหลวงตาว่า "หลวงตารู้จักหลวงพ่อฤาษีไหมครับ ที่ท่านสอนเป็นไงบ้าง" หลวงตายิ้มแล้วตอบว่า "รู้จักสิ หลวงตาเคยไปกราบร่างท่าน หลวงพ่อฤาษีก็สอน ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนกันนี้ละ เพียงแต่ท่านสอนอีกทาง คือ ฤทธิ์ทางจิต มโนมยิธิ ก็เป็นหนึ่งในกรรมฐานที่พระพุทธเจ้าสอนมาเหมือนกัน" เช้าวันต่อมาก็ไปกราบ พระทันตธาตุหลวงปู่มั่นที่ วัดป่าภูริทัตราม บ่ายก็ไปทำบุญโรงศพที่ ปอเต็กตึ๊งที่ วัดหัวลำโพง ทำบุญเอาบุญมาฝากทุกๆท่าน
เดี้ยวช่างชิตจะถยอยเอาภาพมาลงนะครับ

 

เริ่มต้นที่ วัดช่องแค ครับ

 

วัดเขาถ้ำบุญนาคครับ