แนะนำ ด้วยครับ สมเด็จบางขุนพรหม อกครุฑ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย AKE789, 25 ตุลาคม 2014.

  1. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ถ้าพี่จะหาเรื่องผมหรือเปล่า
    มาแรกๆมาแนวอยากให้ช่วย ธาตุแท้เริ่มออกแล้ว
    ผมบอกแล้วไห้ศึกษาเอาเองไม่มีใครบอกพี่ได้หมดหรอกครับ ผมเองก็ไม่ได้เป้นเซียน ขายพระอะไร ยิ่งพวกเซียนยิ่งไม่มาบอกเคล็ดกันหรอก นี่ด้วยพี่เขียนมาขอให้ช่วย
    ยิ่งมายิ่งมั่วยิ่งหาเรื่อง
    มากๆไปผมถือว่าไม่เคารพกัน ก็ต้องตอบกลับแล้วนะครับ
     
  2. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ด้วยความเคารพครับ
    กับสิ่งที่ท่านให้มา มันยังคุมเครือ
    ผมเองก็ ไม่ได้ต้องการที่จะเอาชนะท่าน
    สิ่งที่ผมเอามาอ้างอิง ก็ เป็นบทความของผู้มีชื่อเสียงในสังคม
    ผมอาจมีจินตนาการส่วนตัวในบางเรื่อง แต่หลักส่วนใหญ่ ผมมีบทความอ้างอิงตลอด
    ด้วยความเคารพครับ
     
  3. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เชื่อเขาก็ไม่ต้องถามครับ ผมว่าพี่ก็มีวิจรณะญาณพอควร คงไม่ต้องให้ใครบอกหรอกครับ คำตอบมีในใจชัดเจนขนาดนี้แล้ว
     
  4. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ด้วยความเคารพครับ
    การที่ท่านกรุณา มาให้คำปรึกษา ให้ความเห็น ผมซึ่งในน้ำจิตน้ำใจ ท่านมากครับ
    การแสดงความเห็นของท่าน ช่วงแรกท่านก็บอกว่าคราบกรุบางขุนพรหม ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บอกสี โชว์รูปตัวอย่าง ผมก็ได้อ่านเจอบทความของอาจารย์ท่านอื่นที่พูดถึง คราบกรุต่างๆๆ มีหลายชนิด ไม่ได้เจาะจงว่าจะมี คราบแบบเดียวกับที่ท่านให้ความเห็นไว้ การที่ผมเอาบทความที่แย้งกับท่าน ท่านถือเป็นการละเมิด เช่นนั้นหรอครับ ท่านต้องชี้จุดของคราบกรุ ว่ามันไม่เป็นไปตามธรรมชาติอย่างไร ตรงไหนที่มันเป็น คราบกาวลาเท๊กซ์ องค์พระผมถ่ายมาชัด ตรงไหนที่มันไม่เป็นธรรมชาติ
    ตัวอย่าง ล่าสุด ท่านให้ความเห็นว่า พระกรุบางขุนพรหมต้องมีคราบรัก ยกตัวอย่างของอาจารย์ ที่เขียนบทความ มีรูปมาให้ดู
    ก็ด้วยความเคารพ มีท่านอื่นโพสรูป มาเป็นตัวอย่าง ในกระทู้ที่ถาม ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านชี้แนะ ผมไปดูพระแท้สากลของเซียนใหญ่(องค์ล่ะหลายล้าน ชนะการประกวดไม่มีการอุดการซ่อม สภาพเดิม) ที่ท่านชอบพูดถึง ก็ไม่มีคราบลงรัก ทุกองค์ การที่ผมสงสัยว่าการลงรัก ที่สมเด็จบางขุนพรหมต้องมีทุกองค์เลยหรอ ในพระกรุบางขุนพรหมที่ผมได้ไปอ่านมา มีวัดต่างๆๆช่วยเอาพระมาลงบรรจุก็หลายวัด ทุกวัดจะลงรักเหมือนกันทุกองค์84000องค์ เลยหรอ
    ถ้าท่าน จะหาว่าผมเรื่องมาก ละเมิดท่าน งดความเห็น ผมก็จนด้วยใจ
    ถ้าท่านไปต่อ ไม่เป็น ผมก็ขอขอบคุณในน้ำใจของที่ท่านอาจารย์ช่วยมาเป็นจิตอาสา ในการให้ความรู้แก่ตัวผม และเพื่อนสมาชิก ที่ได้อ่าน
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  5. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ก็ผมให้พี่อ่าน พี่ก็ไม่อ่าน บางทีเรื่องพวกนี้เป็นตถตา คงผิดที่ผมทำให้พี่เข้าใจไม่ได้ ก็จนใจครับ คงงดออกความเป้นครับผม
     
  6. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ้ด้วยความเคารพครับท่านอาจารย์
    ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เคารพท่าน ไม่ได้อยากจะเรื่องมาก
    พระองค์นี้ผมก็ไม่ได้ฟันธง ว่าจะต้องแท้
    แต่สิ่งที่ ท่านให้ความเห็นมา และผมได้เอาบทความของอาจารย์ท่านอื่น แย้งไป
    ท่านพิจารณา บทความของอาจารย์ท่านอื่น ที่ผมได้อ้างอิงถึง เป็นอย่างไร
    มีความน่าเชื่อถือ อย่างไร ท่านไม่ได้ลงความเห็นในบทความที่ผมอ้างอิงว่าท่านคิดเห็นอย่างไร องค์พระในกระทู้ ท่านอาจารย์ก็น่าจะดูเห็นว่า พระโดนน้ำมาเป็นเวลานาน มีร่องรอยเรื่องราว ของกาลเวลา ผิวแห้งสนิท ร่อนออกได้ คราบกรุที่ท่านอาจารย์หลายๆๆท่านได้ชี้แนะ (คราบกรุดิน) ผมก็เห็นว่าไม่น่าจะใช่ คราบกรุ ในองค์พระกระทู้ ผมก็ได้กราบเรียน ว่า พระในกระทู้ น่าจะเป็น คราบกรุเม็ดทรายและโดนน้ำซึมท่วมองค์ ตลอดโดยเฉพาะหน้าฝน เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า จะเอาคราบกรุดินมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้
    ท่านอาจารย์ หนุ่มทะเล ก็ เอาองค์พระ ที่ท่านมี มาให้ผมชมเป็น ความรู้ แล้วองค์พระท่าน น่าจะอยู่ในที่สูงไม่โดนน้ำ ซึ่งต่างจากองค์พระในกระทู้ เรื่องคราบกรุผมก็เห็นต่างจากท่านอาจารย์ที่ให้บรรทัดฐานไว้ คงไม่มีใครบอกได้ พระองค์ในกระทู้อาจเป็นพระองค์ครู ที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัวของคราบกรุ ผมก็พยายามเรียนถามท่านอาจารย์หลายๆๆครั้งในกระทู้ ถึงทรงพิมพ์ และมวลสารในเนื้อพระ รวมทั้ง รอยตรายางที่ด้านหลัง ท่านอาจารย์ไม่ได้วิเคราะห์สิ่งเรานี้ (แต่ก็มีบางท่านให้ความเห็นว่าชอบ)
    พิมพ์ทรง มวลสาร เป็นเอกลักษณะขององค์พระสมเด็จบางขุนพรหม ร่องรอยอายุ เส้นขอบ สีเนื้อขององค์พระ ผมไม่เห็นมีอาจารย์ท่านใดจะลง ความเห็นให้การชี้แนะ เพื่อนๆสมาชิก ที่ได้เข้ามาศึกษา และตัวผม จะได้ศึกษา พิมพ์ทรง มวลสาร ในความคิดผม น่าจะชี้ชัดง่ายกว่า กว่าดูเอกลักษณ์ของคราบกรุ(สำหรับมือใหม่แบบผม)
    ผมอยากให้ กระทู้ของผมนี้ เป็นกระทู้ ที่ให้ความรู้แก่เพื่อนสมาชิก ไม่ได้มีเจตนาหวังผลกำไร หรืออยากจะมาโชว์พระ โชว์พาว
    ด้วยความเคารพครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  7. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ก็บอกแล้วว่าให้ไปอ่าน ท่านที่ไม่เข้าใจ ผมก้บอกแล้วจะงดออกความเห้น เชิญท่านศึกษากับท่านอื่นเถอะ ผมไมไ่ด้เก่งอะไร
    ปล่อยผมอยู่ตามยถากรรมเถอะครับผมขอร้อง เด๋วมันจะไม่จบเอา ท่านก็เพิ่งเข้ามา มีหลายท่านให้ศึกษาท่านก็ไปศึกษากับเขาเถอะครับ ผมคงสอนอะไรท่านไม่ได้ครับ

     
  8. watgeang_e

    watgeang_e เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    459
    ค่าพลัง:
    +449
    นิดหนึ่งครับ..สีพระสมเด็จที่เกิดสีนี้คือสีความเก่าหรือเรียกว่าสีถั่วทอดการเกิดจะไม่เกิดทั้งองค์เช่นนี้ครับ..และสีเนื้อพระและขี้กรุโทนสีจะไม่เหมือนกันเช่นที่เห็น แบบนี้คือขี้กรุที่น้ำค่อยๆแห้งซึมผ่านองค์พระลงไป จุดที่น้ำผ่านปูนได้ก้อคือรูเข็มที่มีทุกตารางนิ้วของพระแท้ เมื่อผ่านรูเข็มดินที่ผสมปะปนในน้ำก้อจะตกตะกร่อนอยู่เหนือรูเข็มเรียงตัวสวยงามและเรียบ100
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0976.jpg
      DSCF0976.jpg
      ขนาดไฟล์:
      558.2 KB
      เปิดดู:
      181
    • DSCF0981.jpg
      DSCF0981.jpg
      ขนาดไฟล์:
      600 KB
      เปิดดู:
      127
    • DSCF0988.JPG
      DSCF0988.JPG
      ขนาดไฟล์:
      524.7 KB
      เปิดดู:
      141
  9. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์
    การอธิบายของท่าน เข้าใจง่าย มีภาพตัวอย่างประกอบ(ภาพตัวอย่างใช่สมเด็จเกศไชโยหรือป่าวครับ)
    รบกวนถามท่านอาจารย์ รอยดำๆตามองค์พระในกระทู้(ด้านหลังมุมล่างซ้ายจากรูป)และมีกระจายทั่วองค์ เล็กๆ ลักษณะของรอยดำๆ คือร่องรอยที่เหลืออยู่ของการลงรัก หรือไม่ครับ(มีอาจารย์ท่านอื่นให้ความรู้มาว่า จะต้องมีร่องรอยของการลงรักในองค์พระ) ผมเพิ่งสังเกตุเห็น
    ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  10. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ผมมาไล่อ่านกระทู้ใหม่อีกรอบ มาสะดุด ตรง ความคิดเห็นของท่านอาจารย์ครับ
    ผมอยากให้ท่านอาจารย์ ช่วยขยายความเพิ่มเติมในความเห็นของท่านที่ว่า "พูดด้วยเหตุ ผล พระองค์ นี้ ไม่น่าเก้ ครับ" (เก้=เก๊ ผมเข้าใจถูกต้องใช่หรือไม่ครับ)
    ถ้าใช่ อะไรคือหลักที่อาจารย์พิจารณา ว่า ไม่เก๊ แต่มาจาก กรุอื่นครับ

    ขอความกรุณาด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  11. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    คราบกรุของพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม แบ่งออกเป็นสภาพใหญ่ ได้ดังนี้
    1.คราบกรุสีน้ำตาล
    ลักษณะคราบกรุแบบนี้จะมีเม็ดขี้กรุทั้งเม็ดเล็กเม็ดใหญ่มีทั้งคราบกรุสีน้ำตาลที่หนาแน่นมากจนสีดำไปหมดเกือบทั้งองค์ คราบกรุสีน้ำตาลถ้ามีค่อนข้างน้อย ก็จะทำให้พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมดูสวยงามมีเอกลักษณ์ดีมาก แต่ถ้ามีมากเกินไป อาจทำให้องค์พระดูไม่ค่อยสวยงาม
    คราบกรุสีน้ำตาลนี้ค่อนข้างแข็ง ขนาดใช้เครื่องมือหรือของมีคม มาเฉือน ยังเฉือนไม่ค่อยจะเข้า เม็ดขี้กรุสีน้ำตาลบางเม็ดดูเหมือนจะเขี่ยหลุดออกมาได้ง่ายกลับเขี่ยไม่ออก ถ้าหลุดออกมาง่าย ๆ ก็ให้ระวังว่าเป็นคราบกรุที่ไม่ใช่ของแท้
    คราบกรุสีน้ำตาลนั้นเกิดจากน้ำมันตังอิ๊วอันเป็นตัวประสานเนื้อปูน ระเหยและไหลซึมออกมาจากองค์พระเมื่อผ่านระยะเวลายาวนานภายในกรุผสมกับแคลเซี่ยมในอากาศกลางพระเจดีย์ กลายเป็นคราบกรุสีน้ำตาลเข็มที่แข็ง
    เหมือนหินและเป็นคราบกรุที่งอกออกมาจากเนื้อไม่ใช่คราบกรุที่จับอยู่ผิวนอกเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถเขี่ยออกไปได้ง่าย ๆ
    การเปิดกรุในปี พ.ศ. 2500 พระสมเด็จที่มีคราบกรุหนามาก บางองค์ก็มีขี้กรุเต็มองค์ ผู้ที่ได้บูชาพระดังกล่าวไป
    มักจะนำไปให้ช่างกรอคราบกรุออกจากองค์พระโดยใช้เครื่องกรอฟันกรอคราบกรุลึกลงไปจนเกือบถึงผิวองค์พระ
    พระที่ถูกกรอคราบกรุออกไปจะมีรอยหยาบ ๆ เหมือนถูด้วยกระดาษทรายหยาบไม่เป็นธรรมชาติ เราเรียกว่าพระลอกขี้กรุ
    บางคนอาจเรียกไม่น่าฟังเข้าไปอีกว่าพระไสกบ การลอกขี้กรุในลักษณะดังกล่าวมักทำให้พระเสียหาย
    ฉะนั้นพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมที่สวยงามโดยธรรมชาติ ปราศจากการตกแต่งใด ๆ ย่อมดีที่สุด
    2. คราบกรุฟองเต้าหู้
    ลักษณะของคราบกรุหรือขี้กรุฟองเต้าหู้ จะเป็นแผ่น ๆ อยู่เป็นที่ๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังขององค์พระ
    อยู่สลับหรือเคลือบอยู่บนคราบกรุสีน้ำตาลก็มี จะเห็นได้ทั่วไปในพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมกรุใหม่
    บางองค์จะมีคราบฟองเต้าหู้ปกคลุมอยู่ทั้งองค์ บางองค์คราบฟองเต้าหู้แตกจะกะเทาะออกมาเป็นแผ่น
    พระที่มีคราบฟองเต้าหู้ปกคลุมเต็มองค์มักจะมีพิมพ์ทรงดูตื้นกว่าปกติ
    คราบฟองเต้าหู้นี้เข้าใจว่าเกิดจากหยาดน้ำฝนที่ไหลเข้าไปในกรุผสมกับฝุ่นละอองของปูนขาวที่ผสมอยู่ในอากาศ
    ตกลงมาทับถมบนผิวพระกลายเป็นแผ่นหินปูนหรือเกล็ดหินปูน พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมบางองค์มีคราบฟองเต้าหู้เป็นแว่นกลม

    ขอบวงกลมจะเป็นสันนูนเล็กน้อย ตรงกลางของวงกลมจะต่ำกว่าขอบของวงกลมเป็นลักษณะของการตกผลึก คราบดังกล่าวจะแข็งมาก
    มีทั้งจับแน่นบนผิวและไม่จับแน่นนัก
    3.คราบกรุแบบเม็ด
    คราบกรุที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ สีขาวอมเหลืองมักจับอยู่บนผิวองค์พระ
    โดยเฉพาะพระกรุเก่า จะเป็นคราบของขี้กรุที่เกิดจากฝุ่นละอองแคลเซี่ยม
    เหมือนคราบกรุฟองเต้าหู้ แต่มีลักษณะที่ไม่เป็นแผ่นแต่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กเม็ดน้อยจับแน่นอยู่บนผิว มีความแข็งแกร่งเหมือนหินปูน
    4. คราบดิน
    ดินที่จับอยู่บนผิวพระสมเด็จบางขุนพรหม จะมีเอกลักษณ์และสีไม่เหมือนกับสีดินทั่วไป จะเป็นลักษณะสีดินเหนียวที่ละลายน้ำแล้ว
    จับแน่นอยู่บนผิวองค์พระ ดินที่เกิดขึ้นน่าจะอยู่ในก้นกรุ หรือน่าจะเป็นดินเหนียวที่ใช้สำหรับตกพระ และเมื่อปี พ.ศ. 2485 กรุงเทพฯ เ
    กิดอุทกภัยน้ำท่วม เป็นเหตุให้น้ำท่วมกรุ ดินกรุจึงได้จับบนผิวพระ สีดินเหนียวนี้กลายเป็นเอกลักษณ์ของดินขี้กรุพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
    5. คราบกรุเป็นผิวแป้ง
    สำหรับพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมที่ไม่มีคราบกรุจับ จะมีอยู่ 2 เหตุผลคือ เป็นพระที่ไม่ได้บรรจุกรุ หรือเป็นพระที่ค้างอยู่บนไม้ค้ำยัน คานไม้และขอบภายในองค์พระเจดีย์ ไม่ล่วงลงไปที่ก้นกรุจึงไม่ถูกน้ำและดินกรุ จึงอยู่ในสภาพที่สะอาดและปราศจากคราบกรุต่าง ๆ แต่จะปรากฏเพียงลักษณะคล้ายคราบแป้งสีขาวบาง ๆ คราบดังกล่าวจะเกิดจากคราบละอองหินปูนของปูนแคลเซี่ยมในอากาศมาจับตามผิวเท่านั้น
    วิจารณ์ วาทะกิจ คเณศ์พร ฉบับที่ 166 ปี 2548 หน้า 19-20

    คงยากยิ่งนัก ที่ผมจะเข้าใจ มองเห็นภาพ ถึงการบรรยายในบทความต่างๆ เอามาเปรียบเทียบประยุกต์ใช้สังเกตุ ดูพระที่ตัวเองมีว่าเป็นเช่นไร
    มีตัวอย่างบทความเรื่องเล่าพระตลาดล่างตามริมทางฟุตบาท เซียนเล็ก เซียนใหญ่ ส่องแล้วก็วางไว้ที่เดิม ทั้งๆๆที่ราคาพระพวกนี้ องค์ล่ะกี่บาท ถูกตีเก๊ในสายตาเซียน
    แต่มีผู้รู้ดูลักษณะพระเป็น ได้เช่าบูชาไป จากองค์ไม่กี่สตางค์ไป แห่ในสนามใหญ่ได้เป็นราคาเป็นหมื่นเป็นแสน

    การเรียนรู้ ที่ยังไม่ถึงที่สุด ก็คงต้องพยายามเรียนรู้ต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  12. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ด้วยความเคารพครับ
    ความแตกต่างของ พระกรุใหม่บางขุนพรหม(กทม)กับพระกรุเกศไชโย(อ่างทอง)ที่ผมได้ไปอ่านเจอมา มันมีความแตกต่างกันตรงที่ กรุใหม่บางขุนพรหมน้ำท่วมในปี2485 แต่กรุเกศไชโยน้ำไม่ท่วม จะเป็นไปได้ไหมครับที่คราบกรุ ของกรุบางขุนพรหมจะแตกต่างจากกรุเกศไชโย ต่างสถานที่ ต่างสถาวะแวดล้อม
    วันนี้ผมได้อ่านบทความที่อาจารย์มาสั่งสอนให้คำแนะนำซ้ำๆ เกี่ยวกับความแปลก แตกต่างเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมีในองค์พระ ผมก็พยายามลองหาข้อมูล เกี่ยวกับคราบกรุโรงงาน
    ผมเจอแต่ข้อมูล ส่วนรูปภาพตัวอย่าง มันไม่โชว์ (ผมก็เลยนึกภาพไม่ออก) มีคำบรรยายเกี่ยวกับคราบกรุโรงงานที่ทำเลียนแบบ คราบกรุของจริง ผมจับใจความได้ว่า จะเอาองค์พระไปชุบกาวทอด เพื่อให้องค์พระมีลักษณะเหมือนมีคราบกรุ เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีภาพตัวอย่างให้ศึกษา ผมก็ได้แต่จินตนาการถึงพระชุบกาวแล้วเอาไป ทอด
    เนื้อองค์พระ คงคล้ายไก่ทอด สีน้ำตาลเข้มๆ มีคราบกาวที่แห้งจับตามองค์พระ ส่วนรายละเอียดที่คราบกาวทอดบนองค์พระจะมองเห็นรายละเอียดชัดแบบไหนผมก็จินตนาการไม่ถูก
    วันนี้ผมลองเอารูปพระในกระทู้ มาให้ท่านอาจารย์ช่วยพิจารณา อธิบายไขความกระจ่างให้ผมด้วยครับ(รวบรวม ตามข้อแนะนำของอาจารย์ท่านอื่นที่เคยมาช่วยชี้แนะไว้)
    รูปด้านหลังองค์พระและด้านหน้า
    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยน้ำมันตังอิ้ว
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสารไม่มีร่องรอยโดนความร้อน รอยขูดขีดตกแต่ง
    3.สีแดง ร่องรอยคราบรัก
    4.สีส้ม มวลสารที่มองเห็นอยู่บนคราบน้ำ
    5.สีเขียว สีอ่อนแก่เนื้อหาต่างๆ บนคราบน้ำ
    6.สีฟ้า เนื้อนูน เนื้องอก
    7.สีม่วง การยุบตัวหดตัวขององค์พระ (เส้นซุ้มวงแขน)
    1.ลักษณะคราบน้ำขององค์พระในกระทู้ จะเป็นคราบกาวทอด หรือ มีสารเคมีมาเคลือบผิว หรือไม่ครับ
    2.มีร่องรอย ตบแต่งในองค์พระในกระทู้หรือไม่ครับ

    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  13. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ช่วยชี้จุดทีครับ ว่า จุดไหน มีปูนมาฉาบ
    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยน้ำมันตังอิ้ว
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสารไม่มีร่องรอยโดนความร้อน รอยขูดขีดตกแต่ง
    3.สีแดง ร่องรอยคราบรัก
    4.สีส้ม มวลสารที่มองเห็นอยู่บนคราบน้ำ
    5.สีเขียว สีอ่อนแก่เนื้อหาต่างๆ บนคราบน้ำ
    6.สีฟ้า เนื้อนูน เนื้องอก
    7.สีม่วง การยุบตัวหดตัวขององค์พระ (เส้นซุ้มวงแขน)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  14. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    คราบรัก เป็นแบบ วงสีแดง ใช่ไหมครับ
    ผมจะชี้จุด ให้ดู ทั่วทั้งองค์

    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยน้ำมันตังอิ้ว
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสารไม่มีร่องรอยโดนความร้อน รอยขูดขีดตกแต่ง
    3.สีแดง ร่องรอยคราบรัก
    4.สีส้ม มวลสารที่มองเห็นอยู่บนคราบน้ำ
    5.สีเขียว สีอ่อนแก่เนื้อหาต่างๆ บนคราบน้ำ
    6.สีฟ้า เนื้อนูน เนื้องอก
    7.สีม่วง การยุบตัวหดตัวขององค์พระ (เส้นซุ้มวงแขน)
    ตรงส่วนไหนเป็นคราบกาว ตามที่ท่านฟันธงเก๊ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  15. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยน้ำมันตังอิ้ว
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสารไม่มีร่องรอยโดนความร้อน รอยขูดขีดตกแต่ง
    3.สีแดง ร่องรอยคราบรัก
    4.สีส้ม มวลสารที่มองเห็นอยู่บนคราบน้ำ
    5.สีเขียว สีอ่อนแก่เนื้อหาต่างๆ บนคราบน้ำ
    6.สีฟ้า เนื้อนูน เนื้องอก
    7.สีม่วง การยุบตัวหดตัวขององค์พระ (เส้นซุ้มวงแขน)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  16. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ด้วยความเคารพครับ
    ฟ้องด้วยภาพ ที่ผมสังเกตุดูจากรูป
    1.คราบน้ำไม่ได้เคลือบ หรืออยู่บนคราบรัก (ขึ้นเฉพาะผิวเนื้อพระ)
    2.คราบน้ำไม่ได้เคลือบเม็ดมวลสาร(ขึ้นเฉพาะผิวเนื้อพระ)
    3.บนคราบน้ำ มีคราบน้ำมันตังอิ้วผุดขึ้นมา
    4.สีบนคราบน้ำ มีเฉดสีแตกต่างกันไป(แก่-อ่อน)
    5.บนก้อนมวลสาร ไม่มีร่องรอย ขูดหรือ โดนความร้อน
    6.คราบรัก สีเป็นเอกลักษณ์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ที่โดนความร้อนหรือสารเคมี
    ผมจึงได้ข้อสันนิฐานว่า คราบน้ำในองค์พระกระทู้ ไม่ใช่สารเคมีหรือปูนฉาบ หรือ เอาพระไปชุบกาวแล้วทอด
    การที่มีอาจารย์ มีการให้ความเห็น ว่ามีการฉาบปูนเก่า หรือ เอาพระไปชุบกาวแล้วทอด จึงน่าจะตกไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  17. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    สมเด็จครับสมเด็จ :p
     
  18. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    5วันแล้วที่ท่าน ae_noi_man ได้มาแสดงความคิดเห็นไว้ในกระทู้
    ของผม จากประสพการณ์ใน5วันมานี้ ทำให้ผม ยิ่งยืนยันความเห็นเดิม
    ที่ว่าภาพรูปถ่ายที่เอามา ให้ผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญ ต้องมีความคมชัด
    เพื่อง่ายต่อการพิจารณา
    ส่วนความเห็นของท่านที่มีความรู้ ความชำนาญ
    ที่ได้ศึกษา เกี่ยวกับองค์พระในกระทู้ ที่เราได้มาปรึกษาขอความเห็นนั้น
    จริงเท็จเป็นเช่นไร เราก็ต้องมาพิจารณา ตามข้อมูลที่ท่านเหล่านั้น ได้ให้ความเห็นไว้
    (ศัพย์ในวงการนี้ เรียกว่า "สวด")
    ผมก็ขอยกตัวอย่างพระในกระทู้ผม มีท่านที่มาสวดไว้ ว่าเช่นไร องค์พระควรจะมีอะไร และไม่มีอะไรเป็นลักษณะเฉพาะ ของพระกรุใหม่บางขุนพรหม เมื่อเราได้ คำสวดเหล่านั้นแล้ว เราก็มาพิจารณาองค์พระของเรา ว่าเป็นอย่างที่ท่านเหล่านั้นสวดหรือไม่
    รูปภาพที่เราถ่ายไว้ให้ท่านเหล่านั้นพิจารณาถ้าภาพคมชัด คนดูพระไม่เป็นแบบเราๆท่านๆ จะเห็นชัดทุกรายละเอียดและก็คิดวิเคราะห์ตามได้
    จากประสพการณ์หลายๆๆวันมานี้ ท่านที่มาสวดไว้ว่าองค์พระบางขุนพรหม กรุใหม่ จะต้องมีลักษณะที่ว่า คือ ร่องรอยของคราบรักที่ปิดองค์พระไว้(ก่อนหน้านี้คราบรัก คืออะไร ผมเองก็จำแนกไม่ออก)จะมารู้จัก ก็ตอนเห็นภาพก็ตอนที่ท่านเหล่านั้นเอารูปลักษณะพระที่มีร่องรอยคราบรักติดอยู่มาให้เห็น เมื่อเรามีข้อมูลว่าเอกลักษณ์พระกรุใหม่บางขุนพรหม ต้องมีร่องรอยคราบรักภาพที่เราถ่ายชัดๆ เราก็สามารถพิจารณาดูได้ ว่าพระที่เราสงสัย จะมีร่องรอยเหล่านี้หรือไม่
    หรือ อีกคำสวดอื่นที่ว่าองค์พระในกระทู้ของเรา ลักษณะคราบน้ำเหมือนเอาปูนเก่า มาฉาบไว้ หรือแม้แต่ว่าเอาองค์พระไปชุบกาวลาแท๊กซ์แล้วนำไปทอด การแยกแยะสิ่งเหล่านี้ เป็นศิลป์ชั้นสูงในการเรียนรู้ของบรรดาเซียนพระทั้งหลาย
    คนธรรมดาอย่างเรา จะแยกแยะออกได้อย่างไร ก็ได้แต่คิดตามแบบชาวบ้านๆ การที่มีสิ่งอื่นที่มนุษย์ตั้งใจหรือจงใจให้มีในองค์พระนั้น น่าจะมีร่องรอยการตกแต่งกลบเกลื่อน รอยแปรงทา หรือสิ่งที่ผิดปกติอื่นๆ
    หรือการเอาองค์พระไปทอดในน้ำมัน มวลสารขององค์พระซึ่งเป็นมวลสารจากธรรมชาติ ก็น่าจะเปลี่ยนสี ไม่สุกใสแบบธรรมชาติ เนื้อองค์พระก็น่าจะมีร่องรอยปริแตกเนื่องจากโดนความร้อน
    ถ้าภาพถ่ายของเราชัดเจนสิ่งเหล่านี้เราน่าจะพิจารณาเห็นถึงความไม่ปกติแบบธรรมชาติแม้ว่าเราจะไม่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูพระ ความเป็นธรรมชาติ ขององค์พระ เม็ดมวลสารในองค์พระ ร่องรอยคราบรัก รายละเอียดต่างๆ ในองค์พระที่เราถ่ายภาพมาชัดๆก็สามารถ ชี้ชัดว่า ผู้ที่มาสวดองค์พระในกระทู้ มีความถูกต้องในการสวดอย่างไร
    ภาพที่ตั้งในกระทู้ถาม กับ ภาพที่ผมมา ชี้จุดให้เพื่อนๆและสมาชิก ได้ดู ก็เป็นภาพเดียวกัน(แครบมาจากรูปภาพในกระทู้)ถึงแม้ว่า การสวดของท่านที่มาให้ข้อมูลไว้จะผิดเพี้ยน จากข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับภาพที่สอบถาม
    องค์พระในกระทู้ก็ยังไม่ได้หมายความว่า จะเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่ สร้างสมัยสมเด็จท่านมีชีวิต
    การดูพิจารณาด้วยภาพถ่ายที่คมชัดจึงมีความสำคัญในความคิดเห็นของผม
    ด้วยความเคารพ กระทู้ของผม คงเกิดประโยชน์กับหลายๆท่านที่ได้เข้ามาอ่าน
    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยน้ำมันตังอิ้ว
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสารไม่มีร่องรอยโดนความร้อน รอยขูดขีดตกแต่ง
    3.สีแดง ร่องรอยคราบรัก
    4.สีส้ม มวลสารที่มองเห็นอยู่บนคราบน้ำ
    5.สีเขียว สีอ่อนแก่เนื้อหาต่างๆ บนคราบน้ำ
    6.สีฟ้า เนื้อนูน เนื้องอก
    7.สีม่วง การยุบตัวหดตัวขององค์พระ (เส้นซุ้มวงแขน)
    8.สีดำ ภาพที่มาชี้จุดต่างๆเป็นภาพที่แครบมาจากเวปในกระทู้ที่โพสสอบถาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2014
  19. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    จุดสังเกตุและข้อมูลที่เห็นได้ในองค์พระกระทู้(ตามความเข้าใจของตัวผมเองช่วงที่พิจารณาชี้จุดคราบน้ำ)
    1.คราบของรอยคราบรักที่มีอยู่ทั่วองค์พระทั้งด้านหน้าและด้านหลังแสดงให้คิดได้ว่า พระองค์นี้มีการลงรักไว้
    1.1 ขอบของคราบรักที่หลงเหลืออยู่ มีคราบน้ำรายล้อมแต่ไม่ได้เกิดขึ้นที่ผิวคราบรัก
    2.เม็ดมวลสาร
    2.1มวลสารขาวใส(ข้าวสุกตากแห้ง)ลักษณะเป็นเม็ด ไม่มีร่องรอยการโดนความร้อน ขีด ถู ตะไบ ให้เห็น ขอบมวลสารขาวใส มีคราบน้ำรายล้อมแต่ไม่เกิดขึ้นบนผิวมวลสาร
    2.2มวลสารสีแดง(เศษพระเนื้อดินกำแพงเพชร)ลักษณะเป็นเม็ด ไม่มีร่องรอยโดนความร้อน ขีด ถู ตะไบ ให้เห็น ที่ขอบมวลสาร มีคราบน้ำรายล้อมแต่ไม่เกิดขึ้นบนผิวมวลสาร
    2.3มวลสารสีดำ(ผงขี้เถ้าหรือผงใบลาน) ลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สามารถมองเห็นบนคราบผิวของคราบน้ำ และ ถึงคราบผิวของคราบน้ำจะหลุดลอกออก มวลสารสีดำก็ไม่ได้หลุดลอกออกไปด้วย
    2.4มวลสารพระธาตุ ลักษณะเป็นเม็ด สีขาวออกขุ่น มีการหดตัวของผิวเนื้อพระโดยรอบ
    2.5มวลสารสีขาว (เปลือกหอยบด)ลักษณะเป็นชิ้น
    3คราบน้ำมันตังอิ้ว มีคราบน้ำมันตังอิ้วนี้ ปรากฎทั่วองค์ ไล่โทนสีแก่-อ่อน
    4.เนื้อพระสีถั่วลิสงทอด(น้ำตาลเข้ม)
    4.1มีคราบน้ำมันตังอิ้วจับทั่วทั้งองค์ มากน้อยแล้วแต่จุด
    4.2มีคราบน้ำเกาะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คราบน้ำนี้ มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆสีออกขาวขุ่น มีทั้งคราบที่หนาและคราบที่บาง
    คราบน้ำนี้แห้งสนิท หลุดร่อนได้
    4.3ร่องรอยเศษฝุ่นกระจัดกระจาย ตามรอยทางน้ำที่ไหลผ่านองค์พระ มีลักษณะที่เม็ดเล็กๆดูเหมือนจะยุ่ย เปื่อยๆ แต่แข็งเกาะผิวองค์พระแน่ ใช้แปรงปัดไม่ออก
    4.4 ไม่มีรอยตะไบ รอยแปรง อุดซ่อม แต่อย่างใด
    5.เนื้อนูน เนื้องอก มีลักษณะ เนื้อนูนขึ้นจากเนื้อองค์พระ
    6.รอยหดตัวแตกแยกยุบตัวของเส้นซุ้มและวงแขน
    7.มีการหลุดออกของเม็ดมวลสาร
    8.ร่องรอย ตรายางสีม่วง ที่ด้านหลัง
    คราบของรอยน้ำ(ตามที่ผมเข้าใจ)ผมได้วิเคราะห์ตามแบบฉบับบ้านๆของความน่าจะเป็นไปตามธรรมชาติ
    ถึงร่องรอยที่ปรากฎให้เห็น(มีบรรยายถึงลักษณะการมาของน้ำที่ท่วมองค์พระในกระทู้หน้า3)
    ส่วนร่องรอยคราบกรุขององค์พระในกระทู้นี้ ผมก็เรียกไม่ถูกว่ามันคืออะไรจากร่องรอยที่ได้พิจารณาดู(ช่วงที่ชี้จุดคราบน้ำ)ลักษณะพระองค์นี้ เนื้อผิว มีลักษณะของผงขี้ฝุ่นที่มากับน้ำและเนื้อผิวขององค์พระในกระทู้
    พิมพ์ของพระในกระทู้ มีท่านอาจารย์ที่ผมไปตั้งกระทู้ถาม ท่านบอกว่า เป็นพิมพ์อกครุฑ (?)
    และถ้าเป็นพิมพ์อกครุฑแล้ว จะถูกพิมพ์หรือไม่ (พิมพ์อกครุฑมีกี่พิมพ์)(?)
    เนื้อมวลสารพระจะถูกต้องหรือไม่ (?)
    สิ่งเหล่านี้ ผมก็ต้องรบกวน ท่านอาจารย์ที่มีความรู้ มาช่วยชี้แนะ
     
  20. AKE789

    AKE789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +109
    ด้วยความเคารพครับ
    หลังจากที่อาจารย์ได้กรุณาโพสรูปภาพให้ผมได้ศึกษาเปรียบเทียบกับพระในองค์กระทู้ที่มาสอบถาม
    ผมให้ความสำคัญทุกกระทู้ที่อาจารย์ทุกท่านได้มาให้ข้อชี้แนะแก่ตัวผม
    ผมได้นำรูปภาพในกระทู้ มาเปรียบเทียบกับรูปภาพของท่านอาจารย์
    ผมสรุปจากรูปได้ดังนี้ครับ
    สิ่งที่ต่างกัน
    1.พิมพ์ขององค์พระ
    2.สีของเนื้อพระ ตามที่ผมเข้าใจ เนื้อมวลสารในการกดพิมพ์ของพระทั้ง2องค์เป็นมวลสารคนล่ะครก(สูตรผสม หนักเบาจึงน่าจะต่างกัน)
    3.ระยะเวลาของการอยู่ในกรุ รูปภาพที่ท่านอาจารย์นำมาให้ผมศึกษา ผมสังเกตุที่ด้านหลังไม่มีรอยตรายาง จึง สันนิฐานว่า องค์พระน่าจะออกมาก่อนเปิดกรุ
    (รูปภาพพระที่อาจารย์นำมาให้ผมศึกษา เป็นพระกรุเก่า)
    4.ความคมชัดของรูปภาพ และการผิดเพี้ยนของแสง
    สิ่งที่เหมือนกัน(ด้วยองค์พระเป็นคนล่ะพิมพ์ ผมจึงขอเปรียบเทียบที่ด้านหลัง)
    1.สีน้ำเงิน ร่องรอยคราบรักที่หลงเหลืออยู่ และคราบน้ำที่ขึ้นรายล้อมรอบคราบรักแต่ไม่เกิดขึ้นบนผิวของคราบรัก
    2.สีเหลือง เม็ดมวลสาร มีคราบน้ำรายล้อม แต่ไม่เกิดขึ้นบนเม็ดมวลสาร
    3.สีดำ เม็ดมวลสาร ขนาดเล็ก ที่มองเห็นได้บนคราบน้ำ
    4.สีม่วง คราบน้ำมันตังอิ้ว ไล่โทนสี-อ่อนแก่ มีกระจายทั่วทั้งองค์
    5.สีเขียว การร่อนหลุดของคราบน้ำ ที่เป็นธรรมชาติ แต่มวลสารยังอยู่บนองค์เนื้อพระ
    6.สีแดง มีคราบขี้ฝุ่น ที่มากับน้ำเกาะบนผิวเนื้อพระ
    7.สีส้ม ลักษณะผิวเนื้อพระ เป็นตุ่มเม็ดเล็กๆๆ ดูคล้ายเม็ดทราย
    8.สีฟ้า ลักษณะสีเนื้อในขององค์พระที่กระเทาะออก
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...