แนะนำ ด้วยครับ สมเด็จบางขุนพรหม อกครุฑ

เพื่อง่ายต่อการดูรูปภาพในกระทู้
ผมขอลงรูปในกระทู้ ที่หน้านี้อีกรอบครับ

 

บางครั้งบางคราวเวลาผมดูรูปพระสมเด็จที่พี่ๆเพื่อนๆเอามาโพ้สสอบถามแล้วผมเกิดความไม่แน่ใจขึ้นเพราะรูปแบบนี้หรือเนื้อแบบนี้ผมไม่เคยเห็น ผมก็ใช้วิธีคิดพิจารณาง่ายๆตื้นๆเอาว่า ถ้าผมเจอพระองค์นี้วางให้เช่าในราคาหลักร้อยหลักพันผมจะเช่ามั้ย ถ้าคำตอบคือเช่า ผมก็คิดว่าพระองค์นี้ดีมีลุ้นนะ ดังนั้นสำหรับพระของพี่องค์นี้เนื่องด้วยผมไม่ถนัดบางขุนพรหมผมก็ใช้วิธีง่ายๆอย่างที่กล่าวครับ ซึ่งพระของพี่ผมก็ว่าพอมีลุ้นเหมือนกันครับ

 

ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพ ผมก็ไม่ได้มีเจตนา จะกล่าวหาว่า พระของท่านที่โพสโชว์ด้วยความภาคภูมิใจในคอมเม้นส์ จะมีเนื้อหาเหมือนพระในกระทู้ของผมที่บรรดาผู้มีความรู้ความชำนาญมากด้วย(reppower)ได้ลงความเห็นไว้ว่าเก๊เก่า หรือเก๊โรงงาน ด้วยความรู้เกี่ยวกับเรื่ององค์พระผมก็ได้เคยเรียนไปแล้วว่าผมไม่มีเลย ผมก็ได้เปรียบเทียบจากรูปภาพ

 

มีตรงส่วนไหน ที่ผมชี้จุด สัญลักษณะไว้ไม่ถูกต้อง เชิญท่านชี้แนะด้วยนะครับ
(โดยส่วนตัว ผมคิดว่าองค์พระของท่าน เป็นพระถูกเนื้อถูกพิมพ์ตามหลักสากลครับ ผมจึงยึดเอารูปท่านเป็นครู เอามาเปรียบเทียบในการอธิบายของผม)
ด้วยความเคารพครับ

 

อย่างที่บอกครับพี่ว่าถ้าดูองค์จริงเทียบกับรูปพระของผมที่ลงให้ดูแล้วคราบกรุและเนื้อพระใกล้เคียงกันก็สบายใจได้ครับ เพราะรูปที่ผมถ่ายจะใกล้เคียงกับองค์จริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับสมเด็จบางขุนพรหม ผมเพิ่งขยับมาศึกษาเท่านั้นและยังเห็นของจริงมาไม่เยอะ แต่หลักการดูพระสมเด็จบางขุนพรหมถ้าเป็นกรุใหม่ให้ดูคราบกรุเป็นอันดับแรกแล้วจึงดูเนื้อดูธรรมชาติอายุพระ ส่วนพิมพ์นั้นดูทีหลังครับ แต่ถ้าเป็นกรุเก่าที่คราบกรุแทบจะไม่มีก็ให้ดูคล้ายกับดูพระสมเด็จวัดระฆังเพราะเชื่อกันว่าพระกรุเก่าเนื้อมวลสารจะใกล้เคียงกับวัดระฆังมากครับ

อย่างที่บอกว่าพระของพี่ผมดูจากรูปก็คิดว่าพอมีลุ้นในสายตาคนที่ยังดูไม่ค่อยเป็นแบบผมนะครับ ถ้าพี่เพิ่งเริ่มศึกษาพระสมเด็จผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนปักใจเชื่อในสิ่งที่เราคิด แต่ให้เชื่อมั่นใจระดับหนึ่งแล้วก็ค่อยศึกษาเพิ่มพูนไปเรื่อยๆ วันหน้าพระที่เราดูว่าแท้เมื่อตอนแรกเราอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ครับ ผมพูดแบบนี้เพราะผมมีประสบการณ์ของตัวเองมาครับ ศึกษาพระสมเด็จให้เป็นต้องอย่าท้อนะครับ และหมั่นลงภาคสนามบ่อยๆครับ

 

ขอบพระคุณครับท่านหนุ่มทะเล
องค์ความรู้ที่ท่านได้ประสพมาเกี่ยวกับเรื่องพระสมเด็จเป็นวิทยาทานที่ดีสำหรับตัวผมและท่านที่ได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้
คำแนะนำที่ว่าให้หมั่นลงภาคสนาม ผมอยากกราบเรียนทำความเข้าใจให้ตรงกันถึงสาเหตุที่ผมได้เข้ามาตั้งกระทู้นี้
1.ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบเก็บสะสมพระเครื่องวัตถุมงคล
2.ไม่ได้เข้ามาร่ำเรียนเพื่อไปประกอบสัมมาอาชีพ ในด้านนี้
3.ไม่ได้ศึกษาหาความรู้ เป็นงานอดิเรก
4.ผมแค่อยากรู้ว่าพระที่มาตั้งกระทู้ถามมีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ผมเชื่อว่าคงมีเพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน"เคยสงสัยว่า"พระที่อยู่บนแท่นบูชาหรือบนหิ้งพระ ภายในบ้านที่เก็บรักษาไว้มานานเป็นพระพิมพ์เรียกว่าอะไรจัดสร้างโดยวัดไหนโดยรวมมีชื่อเรียกว่าอะไร ปัจจุบันเทคโนโลยี เกี่ยวกับการสื่อสารได้พัฒนาไปไกลกว่าในอดีตมาก การเข้าถึงค้นหาแหล่งข้อมูลในองค์พระต่างๆมีให้ศึกษาเปรียบเทียบมากมาย หลายบทความหลายสำนัก(สำนักไหนจะถูกหรือจะผิดตัวผมเองยากนักที่แยกแยะจึงได้แต่อ่านทุกสำนักแยกแยะคิดตามหลักความเป็นจริงอันไหนเป็นนิยายที่เสริมเติมแต่งอันไหนเป็นข้อมูลจริง) หลังจากการได้รับข้อมูลในเชิงวิชาการแล้ว การแยกแยะจุดลักษณะขององค์พระ(ดันมีพระแท้ พระโรงงานอีก) กับข้อมูลที่เราหาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มีปัจจัยหลายสาเหตุที่มือใหม่แบบผม วิเคราะห์ตีความลักษณะขององค์พระไม่ถูก ด้วยเพราะขาดประสพการณ์ เป็นโชคดีของผมที่ได้มาเจอเวปไซค์นี้(เป็นประโยชน์แก่สาธารณะชนมาก)ผมได้ตั้งกระทู้สอบถามเกี่ยวกับองค์พระที่ผมสงสัย ได้มีท่านที่มีความรู้ ความชำนาญ มาให้ความเห็นไว้เป็น3แนวทาง1.พระแท้ (พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ กรุใหม่วัดใหม่อมตรส) 2.พระแท้ แต่ไม่ใช่ กรุใหม่ของวัดใหม่อมตรส 3.พระเก๊(พระไม่แท้ พระโรงงานทำเลียนแบบ พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่)
(เอาล่ะสิที่นี้ งงเป็นไก่ตาแตกเลยแล้วผมจะเชื่อใครดีล่ะทีนี้)เนื่องจากมีหลายความคิดเห็น ผมก็ได้แต่เรียนรู้วิเคราะห์ตามในข้อมูลที่ท่านเหล่านั้นลงความเห็นในเชิงวิเคราะห์ไว้ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะแสดงความไม่เคารพในความเห็นเหล่านั้นหรือจะอวดอ้างว่าพระในกระทู้นี้เป็นพระแท้(จนหลายๆท่านไปตั้งกระทู้ใหม่เชิงสั่งสอนผม) การไปต่อของผม จึงได้มีการเปรียบเทียบ รูปของท่านอาจารย์หนุ่มทะเลที่มาให้ดูให้ศึกษา
ด้วยความเคารพครับ
ปล.รบกวนท่านอาจารย์หนุ่มทะเล หรือ เพื่อนสมาชิก ช่วยวิเคราะห์เปรียบเทียบรูปที่ผมได้ชี้จุดในองค์พระในกระทู้นี้ เพื่อที่ผมจะได้ไปต่อด้วยครับ(ติดอยู่ที่คราบกรุ)

 

ผมได้เคยเอ่ยถึงเรื่องความคมชัดของรูปภาพในการมาตั้งกระทู้สอบถามกับท่านที่มีความรู้ความชำนาญในเวป ผมขอต่อยอดเรื่องความคมชัดของรูปที่มาโพสสอบถามต่อ จากประสพการณ์ในหลายวันมานี้ความเสมือนจริงของรูปถ่ายองค์พระที่ตัวผมเองได้มาโพสสอบถามไว้ในกระทู้นี้ ความคมชัดของภาพถ่าย ที่เวลาเราซูมดูเนื้อหา ขององค์พระแล้วไม่แตกเห็นรายละเอียดชัดเจน แต่ผมลืมไปว่ารายละเอียดอย่างเดียวไม่พอเรื่องของแสง-สีและมุมของภาพเป็นส่วนประกอบสำคัญในการพิจารณาผมไม่สามารถอธิบายบรรยายเป็นทางวิชาการได้ คงได้แต่เปรียบเทียบให้เห็นภาพในการอธิบายของผม พวกท่านคงเคยพิจารณาเลือกซื้อทีวี หรือโทรศัพย์มือถือกันบ้าง การให้แสง-สี ของแต่ล่ะยี่ห้อ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง(ความล่ะเอียดในเม็ดสี) กลับมาถึงเรื่องรูปภาพที่เราโพสสอบถามไว้ ที่เราคิดว่าสีใกล้เคียงกับองค์จริง
แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้อื่นที่เข้ามาดูในกระทู้ของเราจะเห็นเป็นสีเดียวกับภาพในมอนิเตอร์ของเรา เนื่องจากการ์ดจอเป็นคนล่ะยี่ห้อ สเปกความละเอียดของการ์ดจอ จึงเป็นคนล่ะสเปค การแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ของแต่ล่ะคน แต่ล่ะเครื่องจึงไม่เหมือนกันทั้งๆที่ต้นฉบับเป็นภาพเดียวกันแสงของรูปถ่าย มีผลต่อสีที่ออกมา ผมได้ลงภาพเปรียบเทียบไว้เพื่อให้เห็นภาพ เกี่ยวกับการบรรยายของผม
รูปที่1.ภาพที่แสดงไว้ในกระทู้นี้
รูปที่2.ภาพที่ถ่ายโดยโทรศัพย์มือถือ
รูปที่3.ภาพที่แสดงไว้ในกระทู้แต่ได้ปรับมุมมองขององค์พระและลดแสงสว่างลง บีบไฟล์ภาพให้เล็กลง ความละเอียดในการซูมภาพ จึงน้อยลงด้วย
กระทู้นี้ คงเป็นประโยชน์และข้อคิดสำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่ได้เข้ามาอ่าน
"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ" เป็นคำสอนที่ไม่มีตกยุคตกสมัยจริงๆครับ
ขอบคุณครับ

 

ท่านเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้มาให้ความรู้ในการตั้งกระทู้สอบถาม "พระคะแนนสมเด็จ เนื้อดำ" ผมได้ตั้งกระทู้ถาม 6-10-57 เวลา 11.58 pm และ ท่านได้มาตอบกระทู้ผม ในวันที่ 7-10-57 เวลา 02.30 am(นี่เป็นเหตุการณ์แรกสุดที่ผมเข้ามาในเวปนี้)
เนื้อหาที่ท่านแนะนำในกระทู้ผมสรุปได้ดังนี้
1.องค์พระจะไม่เกิดสีเดียวตลอดทั้งองค์
2.ความแตกต่างของสีเนื้อพระและขี้กรุโทนสีจะไม่เหมือนกัน
3.ลักษณะของขี้กรุ(ตามรูปที่ท่านโพสมาเป็นตัวอย่าง)
ด้วยความรู้อันน้อยนิดของผม ผมได้แต่ชี้จุดให้เห็นความแตกต่างของเนื้อหาบนองค์พระในกระทู้
1.สีน้ำเงิน องค์พระองค์นี้ตอนบรรจุกรุ มีการลงรัก (จากร่องรอยที่เห็น)
2.สีเหลือง การที่อยู่ในกรุมานาน(เกิดปฎิกริยาทางเคมีภายในองค์พระ)ทำให้เกิดคราบกรุสีน้ำตาลเข้ม(คราบน้ำมันตังอิ้ว มีเฉดสีน้ำตาลเข้ม-อ่อน เกิดขึ้นทั้งองค์พระ)
3.สีน้ำเงิน การยุบตัวหดตัวขององค์พระที่อยู่ภายในกรุ และ สภาวะแวดล้อม ทำให้รักที่ลงไว้ในองค์พระแยกตัวจากชั้นเนื้อพระ
4.สีน้ำเงิน การหลุดลอกของรักที่ปิดในองค์พระ เมื่อเจอปัจจัยภายนอก(มวลน้ำ)มาสัมผัส จึงได้หลุดลอกออกจากองค์พระ
5.สีเขียว การกัดเซาะของมวลน้ำที่มีต่อองค์พระ จุดที่เห็นชัดที่สุดในองค์พระกระทู้ คือ วงแขนข้างขวาขององค์พระ และเม็ดพระธาตุที่โผล่ขึ้นเหนือเนื้อผิวองค์พระ(ทำให้องค์พระในกระทู้มีพิมพ์ที่ตื้นกว่าที่ควรจะเป็น)
6.สีแดง คราบร่องรอยของมวลน้ำที่ไหลพัดพาสิ่งต่างๆ(มีทั้งภายในองค์พระและภายนอกองค์พระ)เม็ดพระธาตุ เศษรัก เนื้อมวลสารกับขี้ฝุ่น และเสี้ยนไม้
7.สีดำ การกัดเซาะของมวลน้ำ ขนาดของมวลน้ำที่ไหลเข้ามาในองค์พระไม่น่าที่จะหยดลงจากที่สูงแต่น่าจะไหลลงมาตามเสาไม้ที่ค้ำยันที่อยู่ในองค์เจดีย์ เม็ดมวลน้ำไม่น่าจะมีขนาดหยดเม็ดใหญ่ดูจากร่องรอยที่ปรากฎของเส้นครอบแก้วที่ขาด น่าจะเป็นหยดน้ำซึมไหลลงมาสัมผัสองค์พระในระยะใกล้ๆ ส่วนมวลน้ำจะมากหรือจะน้อย อยู่ที่ความหนักเบาของเม็ดฝนที่ตกลงมาแล้วไหลมาตามเสาค้ำยันภายในองค์เจดีย์
8.สีม่วง คราบฟองเต้าหู้(การทำปฎิกริยาทางเคมีจากภายในองค์พระและภายนอกที่เข้ามาสัมผัสองค์พระ)ในลักษณะเป็นแผ่นบางๆทั่วทั้งองค์บนคราบกรุน้ำมันตังอิ้ว(จุดสังเกตุของคราบกรุฟองเต้าหู้คือจะเกิดบนเนื้อองค์พระที่มีความหนาแน่นน้อย(บนผิวพระ)ส่วนที่มีความหนาแน่นมาก(เม็ดมวลสาร)จะรายล้อมไว้)
9.สีม่วง คราบความหนาบางของคราบเต้าหู้ที่มีในองค์พระสังเกตุได้จากสีเข้ม-อ่อนในองค์พระ(ด้านข้างองค์พระสังเกตุเห็นง่ายสุด)
10.สีส้ม การหลุดลอกของคราบเต้าหู้ในองค์พระ(คราบเต้าหู้นี้มีลักษณะแห้งสนิท หลุดร่อนได้)
11.สีชมพู มีเนื้อนูนเนื้องอกในองค์พระ
12.สีฟ้าอ่อน เนื้อในองค์พระที่กระเทาะออก
ตัวอย่างที่ผมได้หยิบยกมานี้ผมพออธิบายได้ดังนี้
1.เนื้อหาในองค์พระ ไม่ได้เกิดขึ้นมาในคราวเดียว (องค์พระในกระทู้ มี3ชั้น 1.เนื้อใน 2.คราบน้ำมันตังอิ้วที่เคลือบหน้าผิว 3.คราบน้ำเต้าหู้ลักษณะเป็นแผ่น)
2.สิ่งภายนอกที่เข้ามาสัมผัสกับองค์พระคือ มวลน้ำ(ผมเข้าใจว่าคือน้ำฝน ที่ไหลลงมาตามไม้ค้ำยันภายในองค์เจดีย์ สันนิฐานได้จากเศษเสี้ยนไม้ในองค์พระ)
3.คราบเต้าหู้ที่เป็นแผ่น น่าจะเกิดหลังสุด สังเกตุได้จากคราบฟองเต้าหู้ที่หลุดลอกออกเนื้อองค์พระที่เห็นเป็นสีน้ำตาล และคราบเต้าหู้แผ่นนี้ขึ้นรายล้อมวัสดุภายนอกที่มากับมวลน้ำ(เสี้ยนไม้)
4.องค์พระในกระทู้นี้น่าจะอยู่ในที่สูงเพราะไม่มีคราบดิน
5.สิ่งที่เกิดขึ้นบนผิวองค์พระโดนมวลน้ำล้างออก ในช่วงหน้าฝนตลอดอายุที่อยู่ภายในกรุ(ช่วงหน้าฝน3-4เดือน ภายในกรุ 2414-2500นาน86ปี)
6.ร่องรอยที่แสดงถึงอายุพระในกระทู้ คือ 1.การกัดเซาะของผิวเนื้อพระ 2.เนื้อนูนเนื้องอกและ3.การหดตัวของเส้นซุ้มและวงแขน
ด้วยความเข้าใจอันน้อยนิดของผมพอสรุปได้เท่านี้ครับ
ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะต่อด้วยครับ

 

อ้างอิงเพิ่มเติม
1.ที่ผมได้เรียกเนื้อผิวพระสีน้ำตาลว่าคราบกรุน้ำมันตังอิ้ว
2.คราบน้ำ(ที่ผมเข้าใจแต่แรก)เปลี่ยนมาเรียกว่าคราบฟองเต้าหู้ลักษณะเป็นแผ่น
ผมได้วิเคราะห์ตามความเข้าใจของผมในบทความต่างๆที่ได้ไปอ่านเจอมา
ขอบคุณครับ

 

ส่วนแนวความคิดในการนำเสนอ ได้มาจาก ความเห็นในกระทู้อื่นที่ได้แนะนำเนื้อหาหลักความคิดใกล้เคียงกับพระในกระทู้นี้ซึ่งผมเห็นว่าเป็นจริงตามที่ท่านได้อธิบายไว้ลักษณะการโดนความร้อน หรือ โดนสารเคมีในความคิดเห็นผม น่าจะจับผิดทางตาเนื้อได้แม้มันจะผ่านเวลามานานถึง57ปี(พระออกจากกรุ2500)ในเนื้อหาที่ผมชี้จุด สิ่งเหล่านี้ สามารถซูมส่องหาชี้จุดกันได้(ภาพชัดซูมไม่แตก)ความเป็นธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถลอกเลียนแบบทำขึ้นได้ จึงน่าจะยืนยันได้ว่า พระในกระทู้นี้ มาจากร่องรอยตามธรรมชาติ
ด้วยความเคารพ

 

ผมได้พยายามที่จะชี้จุดถึงความเป็นธรรมชาติในคราบกรุมาพอสมควรแล้วและไม่มีท่านใดเห็นขัดแย้งในการชี้จุดของผม
การพิจารณาต่อไปของผม ขอมาที่เรื่องพิมพ์ขององค์พระในกระทู้ ในแนวความเห็นที่3 มีข้อแนะนำถึงเรื่องผิดพิมพ์ในองค์พระกระทู้ ดังได้กราบเรียนไปแล้วว่าการเข้าถึงข้อมูลในอินเตอร์เนท ผมไม่สามารถแยกแยะได้ว่า พิมพ์ไหนถึงจะถูกต้องตามหลักพระแท้สากล ผมจึงขออนุญาติทางเจ้าของภาพมาไว้ณ.ที่นี้ การนำเสนอของผมนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาภาพของท่านนั้น มาแอบอ้างแต่อย่างใด แต่ด้วยความเชื่อมั่นในภาพองค์พระของท่านที่มีความน่าเชื่อถือในสังคม จึงได้นำมาเปรียบเทียบเป็นพระองค์ครูของผมเพื่อการศึกษาเท่านั้น
ผมได้มีการเปรียบเทียบชี้จุดไปแล้วว่า องค์พระในกระทู้นี้โดนน้ำกัดเซาะผิวหน้าองค์พระไปทำให้พิมพ์ดูตื้นเขิน และด้วยสาเหตุในการเร่งรีบ ในการกดพิมพ์พระ จึงมีบ้างที่พระจะผิดเพี้ยนไปจากบล๊อคแม่พิมพ์

 

สวัสดีครับท่านAKE789 สุดยอดๆๆๆจิงๆครับกับข้อมูลข้อเท็จจิง ที่เอามานำเสนอให้เพื่อนๆสมาชิกได้ศึกษา ไม่มีใครทำได้ละเอียดเท่านี้อีกแล้วไม่มีจิงๆครับ ท่านAKE789 ลองเข้าไปดูคอลัมน์สีกาอ่าง ในไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒ ที่ผ่านมาสิครับ สีกาอ่างเอาพระพิมพ์เส้นด้ายกรุวัดบางขุนพรหม มาลง พระองค์นี้ไม่มีคราบกรุติดองค์พระเลย แถมมีแตกลายงาด้านหน้าด้วย เนื้อหาหนึกนุ่มด้วย ผมเห็นแล้วสะใจปุดๆครับ๕๕๕ ถ้าเป็นพระคนอื่นรับรองว่าพระองค์นี้เก๊ไร้ค่าล้านเปอร์เซ็นฟันธงครับ แต่พระองค์นี้โชคดีเป็นของเซียนใหญ่ในพันทิพย์ ผมก็ไม่รู้ว่าบรรดาท่านๆเซียนใหญ่เซียนน้อยทั้งหลายที่ตั้งตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญคราบกรุวัดบางขุนพรหม เห็นแล้วจะอธิบายกันอย่างไร หรือจะเรียกว่า แถ กันอย่างไรดีครับ๕๕๕๕๕ สุดยอดครับท่านAKE789 สู้ๆครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ
ผมวิเคราะห์ตามหลักความจริงที่มองเห็นภาพได้ในการชี้จุดตามความคิดเห็นต่างๆที่ได้มาในกระทู้ อะไรควรมี อะไรไม่ควรมี อะไรที่ธรรมชาติสร้างขึ้น อะไรที่เป็นฝีมือมนุษย์
องค์พระองค์จริงขนาดองค์พระ วัดความสูงจากเส้นครอบแก้วสูง 3.2 cmวัดจากเส้นบังคับกลางองค์ 2.2 cm รายละเอียดที่เล็กขนาดนั้น ฝีมือมนุษย์ไม่น่าจะทำได้ครับ(ภาพที่ถ่ายมาชัดซูมไม่แตก ผมเลยตามชี้จุดให้เห็นภาพได้ครับ)
ผมก็มีอ่านเจอเกี่ยวกับเรื่องพระแท้-เก๊ในวงการครับ
เป็นแฟนเพจของท่าน รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ตำแหน่งของท่านในวงการพระเครื่องคือ ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ครับ เนื้อความผมได้แครบหน้าจอมาให้อ่านด้วยครับ
จริงเท็จประการใด คนวงในถึงจะรู้ ส่วนตัวผมนั้นถ้ามีองค์พระตามที่ว่า ผมคงจะงงกว่านี้ล่ะครับ(ไม่รู้จะไปทางไหนดี)

 

เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ผมขอขยายความเพิ่มเติมจากข้อมูลที่ท่านให้หลักพิจารณาพระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า
ตามความเข้าใจของผมที่ได้ไปศึกษาข้อมูลในบทความต่างๆ พอจะสรุปได้ดังนี้
1.พระสมเด็จฯที่ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้เป็นประธานในการบรรจุลงในองค์เจดีย์ ของวัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม)มี 84,000องค์ตามพระธรรมขันธ์
2.พระสมเด็จที่บรรจุอยู่ในองค์เจดีย์ของวัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม)ได้จัดสร้างในคราวเดียวกันทั้ง84,000องค์
3.พระสมเด็จทั้ง84,000องค์นี้จัดสร้างตามสูตรมวลสารหลัก ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) (มวลสารจึงเหมือนของสมเด็จวัดระฆัง)
4.เนื่องจากมวลสารหลักตามสูตรของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เหลือน้อยแต่องค์พระสร้างในจำนวนมากจึงมีบางพิมพ์บางองค์ที่พบเจอมีมวลสารหลักไม่ครบตามสูตรของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)แต่ไม่ได้หมายความว่าพระที่มีมวลสารไม่ครบตามสูตรของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)จะเป็นพระเก๊ หรือในทางกลับกันพระบางองค์บางพิมพ์ที่มีมวลสารมากหรือมีครบจะเป็นพระเก๊เช่นกัน
5.องค์พระที่บรรจุอยู่ในองค์เจดีย์วัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม)ได้มีชาวบ้านนำออกมาบางส่วนจากองค์เจดีย์โดยที่ทางวัดไม่ได้รู้เห็น
6.ในปี 2500 ทางวัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม)ได้เปิดกรุในองค์เจดีย์ องค์พระสมเด็จที่บรรจุอยู่ในกรุเจดีย์นี้มีความเสียหายมากเนื่องจากน้ำท่วมในปี 2485แต่ก็มีองค์ที่ดีๆเหลืออยู่บ้างนับได้ 2,950องค์และทางวัดได้จัดให้มีการเช่าบูชาจากทางวัดแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปและได้ปั๊มตรายางวัดที่ด้านหลังเป็นสัญลักษณ์เพื่อให้เห็นถึง
ความแตกต่างที่มีชาวบ้านนำพระออกไปก่อนหน้านี้
องค์พระที่ออกจากกรุเจดีย์เดียวกันสร้างพร้อมกันแต่ต่างวาระกันแบ่งได้เป็น2กรุ
1.องค์พระที่ชาวบ้านนำออกมาก่อนที่ทางวัดจะเปิดกรุเป็นทางการในปี 2500 (เรียกพระกรุเก่า)
2.องค์พระที่ทางวัดให้พุทธศาสนิกชนเช่าบูชาทำสัญลักษณ์ไว้คือตรายางด้านหลังองค์พระ จำนวน2950องค์ ในปี2500 (เรียกพระกรุใหม่)
ด้วยความเคารพครับ
ขอบคุณครับ

 

สวัสดี ยามเช้าครับ
ผมได้หมุนภาพองค์พระในกระทู้ใหม่ครับ
มุมมองใหม่ ก็เห็นอะไรใหม่ๆ

 

ผมบงตรง คราบกรุลอยแบบนี้ไม่ดีครับ ว่าจะไม่ตอบละ ไม่ต้องเชื่อผมนะครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
ช่วยขยายความ ด้วยครับ ผมยังไม่เข้าใจในความหมาย หรือตีความหมายไม่เป็น

 

ผมแนะนำว่า ลองศึกษาพระกรุก่อนละกัน ไปลองดูคราบกรุ ว่าควรเป็นยังไง

ความเก่า ธรรมชาติ การศึกษาพระเรื่องหลายๆเรื่องมันอธิบายเป็นตัวหนังสือไม่ได้

ครับ อยู่ที่ประสบการณ์กับการศึกษา

 

แค่ท่านย่อย องค์ความรู้ แล้วถ่ายทอดมา ตามที่ท่านเข้าใจของคำว่าคราบกรุลอย ก็พอ ครับ

 

การเรียนรู้ตามตำรา และศึกษาจากประสพการณ์ตรง
การถ่ายทอด ตามความรู้สึก น่าจะลื่นไหล กว่าการไปจำในตำรามา แล้วมาพูดตามครับ