ผ้ายันต์ครูบาเหนือชัย โฆสิโต วัดถ้ำป่าอาชาทอง งานออกนิโรธกรรม ปี 2556

​

1.พระผงพระพุทธมหาปัญจมิตร ครูบาเหนือชัย สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง บูชา 200 บาท (ปิดรายการ)

พระผงพระพุทธมหาปัญจมิตร ครูบาเหนือชัย โฆษิโต สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย ด้านหลังเสือจำศีลสะท้านฟ้า สภาพสวยมาก แท้ โดยตรงจากทางวัด บูชาพร้อมซองเดิมจากทางวัด

พระผงพระพุทธมหาปัญจมิตร อธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน, ครูบาเหนือชัย, ลป.บุญ, ครูบาวิฑูรย์, หลวงพ่อเณร ศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่ควรพลาด

พระพุทธมหาปัญจมิตร เนื้อผง ที่ระลึกเนื่องในโอกาสหล่อพระพุทธมหาปัญจมิตร เนื้อโลหะขนาดบูชา เพื่อประดิษฐานที่ วัดโป่ไฮ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย (วัดสาขาของครูบาเหนือชัย)

รายนามพระเกจิอาจารย์ในพิธีอธิษฐานจิต

๑. พระครูบาเหนือชัย โฆษิโต วัดถ้ำป่าอาชาทอง
๒. พระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
๓. หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
๔. หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
๕. หลวงพ่อสุวรรณ วัดยาง จ.สิงห์บุรี (เทพเจ้าตะกรุดโทน)
๖. พระอาจารย์นิล ชาคารธมฺโม จ.สกลนคร
๗. พระครูบาหน่อแก้วฟ้า ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ จ.นครราชสีมา
๘. พระครูบาวิฑูรย์ ปรียนันท์ธรรมสถาน จ.นครสวรรค์
๙. พระอาจารย์หนึ่ง วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
๑๐. พระราชพัฒนโสภณ (หลวงพ่อเณร ญาณวินโย) วัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) เขตประเวศ กรุงเทพฯ

พุทธลักษณะของพระผงสวยงามมาก เป็นพระทรงเครื่องจักรพรรดิ์ด้วย

 

ประวัติพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต

​

ชีวิตในวัยเด็ก
เดิมครูบาชื่อ นายเสมอ ใจปินตา
เกิดเมื่อ วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2505 ปีขาล
บิดาชื่อ สามยอด
มารดาชื่อ น้อย
เป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน

จากพื้นเพแล้วโยมพ่อโยมแม่เป็นคนเชื้อสายยอง ซึ่งบรรพบุรุษของครูบาอพยพมาจากจังหวัดลำพูน โยมแม่เล่าให้ฟังว่าท่านเป็นคนมีลูกยาก จึงได้ไปขอลูกจากพระธาตุดอยตุง เมื่อกลับมาถึงบ้าน คืนหนึ่งโยมแม่ก็ผันว่ามีม้าสีขาวมารับ แล้วพาท่องไปทั่วจักรวาล หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ตั้งท้อง แล้วให้กำเนิดครูบาขึ้นมา

ในวัยเด็กโยมแม่เล่าให้ฟังว่าครูบาเป็นเด็กที่เลี้ยงยากมาก ร้องไห้งอแงอยู่ตลอดเวลา โยมแม่จึงพาไปหาหมอดูประจำเผ่า โดยได้รับคำแนะนำว่าให้ใช้ช้างและม้ามารับขวัญ แต่ในขณะนั้นโยมพ่อก็ไม่มีเงิน แต่ด้วยความจำเป็น โยมพ่อจึงใช้กูศโลบาย โดยได้นำถ่านหุงข้าวมาวาดเป็นรูปช้างและม้าติดไว้ที่ฝาผนังบ้าน แล้วก็บอกกับครูบาว่า “นี่เป็นช้างกับม้าที่พ่อซื้อมารับขวัญ” หลังจากนั้นมาครูบาก็กลายเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมาตลอด

หากจะพูดถึงชีวิตในวัยเด็ก ครูบาเป็นเด็กที่มีความสนใจในเรื่องพระพุทธศาสนามาก เพราะเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ 2 แห่ง ถ้าหากไม่อยู่ที่วัด ก็จะอยู่ตามทุ่งนาเพื่อไปนั่งสมาธิชอบที่จะเข้าพระธุดงค์และหนาน โดยมีโอกาสได้ไปศึกษาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดแม่คำ ขณะเดียวกันนั้นก็มีความสนใจในศิลปะการป้องกันตัวตามตำรา “อัฏมาศ” หรือรู้จักกันในชื่อการต่อสู้ ตามแบบ “กองกำลังจตุรงคบาท” ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องกระบี่ กระบอง พลองไทย และแม่ไม้มวยไทย

ในด้านการเรียนการศึกษานั้น ครูบาเรียนจบชั้น ป.7 จากโรงเรียนบ้านแม่คำชั้น และจบชั้น ม.ศ. 5 จากโรงเรียนแม่จันวิทยาคม จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ โดยสอบเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ศึกษาถึงปีที่ 3 ก็ต้องลาออกเพื่อกลับมาช่วยงานที่บ้านเนื่องจากโยมพ่อป่วย

อุปสมบทและเผยแพร่ธรรมะอยู่ในป่า
ครูบาเหนือชัย โฆสิโต ได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕
ณ อุโบสถ วัดล้านตอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
โดยมี ครูบาทองสืบ วิสุทธจาโร เจ้าอาวาสวัดล้านตอง เป็นพระอุปัชฌาย์

ศึกษาธรรมโดยการออกธุดงค์อยู่ในป่าเขาตามแนวชายแดน และปฏิบัติธรรมอยู่บริเวณ ถ้ำป่าอาชาทอง จึงได้ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง ขึ้นจนถึงปัจจุบัน เหตุที่ตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมขึ้นมานั้น เพราะครูบาเป็นพระที่เผยแผ่ธรรมะอยู่ในป่า เคยธุดงค์มาสั่งปฏิบัติกรรมฐานอยู่ที่หน้าถ้ำป่าอาชาทองแห่งนี้ พอชาวบ้านเห็นจึงพากันมาถวายภัตตาหารและมาทำบุญกันบ่อยขึ้น มีคนบอกครูบาว่าน่าจะตั้งที่นี่เป็นวัดดีกว่า แล้วประกอบกับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบันท่านมีดำริให้ดำเนินโครงการ “บวร” พุทธศาสนาอันหมายถึง บ คือ บ้าน ว คือ วัด ร คือ โรงเรียน เป็นการนำหลักธรรมเผยแผ่ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรม ส่วนเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนมากเป็นเด็กที่ครูบารับมาอุปการะ เด็กที่นี่บางคนก็เป็นเด็กกำพร้าแม่ เพราะพ่อแม่ติดคุกเรื่องยาเสพติด บางคนพ่อแม่เสียชีวิตก็เพราะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ครูบาก็เลยต้องรับอุปการะเด็กๆ เหล่านี้ไว้ให้คอยช่วยงานที่สำนักปฏิบัติธรรม ส่งให้ได้เรียนหนังสือ คอยสั่งสอนให้เค้าเป็นคนดี ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สอนให้เค้ามีพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดี หากได้รับการอบรมสั่งสอนและการดูแลที่ดีแล้วเค้าก็จะเป็นคนดีที่มีศีลธรรม

ศึกษาธรรมะ
ครูบาได้ศึกษาพระธรรมตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นฆราวาส โดยได้ยึดแนวทางปฏิบัติของ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ตอนอายุ 15 มีโอกาสได้บวชเณรกัลหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดศรีค้ำ โดยอาศัยการภาวนาปฏิบัติ “สัมมาอะระหัง” จากนั้นก็ยึดถือปฏิบัติมาตลอด นอกจากนี้ในสมัยที่เป็นนักศึกษาก็ได้มีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จากรุ่นพี่ และตามไปกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีที่บ้านซอยสายลมจากนั้นเป็นต้นมาเมื่อมีโอกาสก็จะไปวัดปากน้ำและบ้านซอยสายลมเสมอมา

เครดิต : ประวัติพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต

 

นักบุญแห่งขุนเขา

​

ได้รับการขนานนามว่า “นักบุญแห่งขุนเขา”

หลายคนมักจะคุ้นตากับภาพที่ครูบาขี่ม้าบิณฑบาต จนหลายคนเรียกติดปากว่า “ครูบาขี่ม้า” ครั้งแรกเลยไม่เคยมีความคิดจะใช้ม้าในการออกรับบิณฑบาตหรอก แต่มีชาวบ้านมาบนขอให้หายป่วย พอหายป่วยก็เลยเอาม้ามาแก้บน ชาวบ้านเอาม้ามาแก้บน เลยต้องเลี้ยงไว้เพราะเขาเอามาถวาย เราเป็นพระไม่รับก็ไม่ได้

เหตุที่ต้องขี่ม้าบิณฑบาตรนั้นก็เพราะแต่ละหมู่บ้านอยู่ห่างไกลกันมาก ต้องเดินทางข้ามเขาเป็นลูกๆ การเดินด้วยเท้าจะลำบาก ยิ่งหน้าฝนทางเดินลื่นมาก การใช้ม้าช่วยให้การออกรับบาตรสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ครูบามีโอกาสได้ไปเผยแผ่หลักธรรมตามหมู่บ้านชาวเขาในแนวชายแดนที่ห่างไกลอีกด้วย ส่วนในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่ที่พระขี่ม้า ครูบาเห็นว่าน่าจะดูที่การปฏิบัติกิจของสงฆ์มากกว่า

ครูบาใช้ม้าเพื่อเผยแผ่ศาสนาในโครงการ “มิตรมวลชน คนชายแดน” ที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงรับเป็นองค์สังฆราชูปถัมป์โครงการนี้ด้วย มีเนื้อที่ในการดูแลรักษาผืนป่าอย่างเป็นทางการ จำนวน 880 ไร่ และอีกจำนวน 400 ไร่ เป็นผืนป่าเสื่อมโทรมที่เป็นต้น้ำลำธาร (ที่รอการรับรองจากกรมป่าไม้)

โดยปัจจุบันได้จัดตั้งโครงการอนุรักษ์ม้าไทย โดยมีม้าในความดูแลทั้งสิ้น 200 กว่าตัว นอกจากนี้ยังมีโค – กระบือ อีก 10 ตัว มีคนงานชาวเขาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถึง 60 คน ซึ่งม้าดังกล่าวนั้นครูบาอนุญาตให้ชาวเขา ข้าราชการครู ตำรวจ และทหารในพื้นที่หยิบยืมไปใช้ได้ การใช้ม้าจึงมีความสะดวกในการเดินทางเกือบ 17 ปี ของการออกธุดงค์ เผยแผ่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าตามชายแดนไทย – พม่า โดยไม่แบ่งชาติพันธุ์

ในที่สุดก็ได้รับขนานนามว่า “นักบุญแห่งขุนเขา” จากเจ้าหน้าที่ที่ร่วมงานกันในโครงการ “มิตรมวลชน คนชายแดน” ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังเฉพาะกิจกรมการทหารราบที่ 17 กองพันที่ 3 (ฉก.ร.17 พัน 2) ตั้งให้ เพราะเห็นว่าครูบาเป็นพระที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า เผยแผ่ธรรมะอยู่ในป่า

เครดิต : นักบุญแห่งขุนเขา

 

แยกจิตออกจากกาย

ปฏิบัติการด้วยการแยกจิตออกจากกาย

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ขณะที่กำลังนั่งสมาธิบนโขดหินโดยอธิษฐานว่า “จะขอนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะบรรลุธรรม แม้ตายก็จะไม่ลุกจากที่นี่” นั่งนิ่งอยู่ 15 วัน จนผึ้งมาเกาะทำรังตามเนื้อตัว รู้สึกเจ็บจึงพยายามแยกความรู้สึกของกายออกจากจิต มาบวชนี้ก็ต้องการความพ้นทุกข์แล้ว เจ้ากรรมนายเวรอยู่ที่ไหนก็แห่กันมาเลย มาเอาไปเลยทั้งต้นทั้งดอก สักพักมาจากไหนไม่รู้ มาตอมเลย กระดุกกระดิดฟุ้งซ่านมันต่อยเอา เอ้า!บทไหนก็จะตายแล้ว ปวดๆ เมื่อยๆ ไปหมดเลย กระดูกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ลุกก็ลุกไม่ได้ผึ้งตอมอารมณ์ใจเวลาคนธาตุขันธ์จะแตก เขาเรียกว่ายางคางคกมันออก เขาเรียกคราวตาย ตาฝ้าฟางเสลดจุกติดคอหายใจไม่ออก กระดูกกระเดี้ยวคาถาบทไหนก็เอาไม่อยู่ จะตายแล้ว ชินบัญชรก็เอาไม่อยู่ อิติปิโสก็เอาไม่อยู่ บทไหนๆ ก็ไม่อยู่แล้ว ตายแน่ๆ ก็เลยภาวนาบทหายใจเข้าตายแน่ หายใจออกตานแน่ แม้กายจะเจ็บแต่จิตนิ่งใสสว่าง ความเจ็บก็ทุเลาลง นั่งจนหมดสติไป ในฝันได้เห็น “หลวงปูเกษม” ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง มาบอกว่า นี่คือการเข้านิโรธสมาบัติ แยกจิตกับกาย และให้หมั่นเพียร นั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการบรรลุธรรม

เมื่อแยกจิตออกจากกายได้แล้ว ให้แยกจิตออกจากเวทนา แรกๆ มันไม่อยากจะแยกออกจากเวทนา เพราะมันเป็นเพื่อนก่ากันมาหลายภพหลายชาติ เวทนามีทั้งทุกข์และสุข แต่จิตต้องการความสุข เมื่อมีความสุขก็ดีใจ เมื่อเจอความทุกข์ก็โวยวาย ต้องเอาจิตคบกับเพื่อนใหม่ เพื่อนใหม่ของจิตนั้นคือสมาธิ แรกๆ ไม่อยากจะคบหรอก เพราะสมาธิมันหยุด มันนิ่ง มันสงบ ไม่อยากจะคบ เพราะไม่เคยคบ คบแต่เวทนา

ทีนี้เมื่อใจหยุด ใจนิ่ง เมื่อนิ่งได้ 10 วินาที ก็สงบ เมื่อสงบได้ 2 นาทีก็เป็นสมาธิ เป็นสมาธิได้ 2 ชั่วโมงก็เป็นสมาบัติ พอเป็นสมาบัติ 3 วัน ขึ้นไปก็เป็นนิโรธสมาบัติ เมื่อเป็นนิโรธสมาบัติเสร็จแล้วก็เข้าสู่วิมุตติ หลุดออกจากโลกธรรม 8 หลุด ออกจากกาย ขันธ์ 5 เข้าสู่วิมุตติญาณทัสสนะญาณรู้ทัสสนะตัวเองก็พบเชาว์พระนิพพาน เชาว์พระนิพพานมีพระวรกายเหมือนพระประธานเป็นกายแก้ว เมื่อเข้ามาใกล้ๆ เราแล้วนี่เป็นกายที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเต้มไปหมด หัวเราะชอบใจเสร็จแล้วค่อยๆ เดินห่างไปกลายเป็นกายแก้วทีละองค์ๆ เต็มป่าเต็มเขาไปหมด

เครดิต : แยกจิตออกจากกาย ครูบาเหนือชัย

 

พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ให้บูชา รับประกันแท้ 100%
ท่านที่ได้จองเอาไว้ จองได้ 5 วันครับ ถ้าเลยกำหนดแล้วไม่ได้โอนเงิน ก็ขอยกเลิกสิทธิ์การจองครับ

ราคาบูชารวมค่าจัดส่งแล้ว

บัญชีสำหรับโอนเงินนะครับ : ธนาคารกรุงไทย หมายเลขบัญชี 938-0-56058-3 ชื่อบัญชี เมธา รุ่งพัฒนพันธ์

 

​

2.พระสมเด็จลอยฟ้า ครูบาเหนือชัย บูชา 250 บาท (ใน 1 ถุงมี 3 องค์ ที่เวบอื่นแค่องค์เดียวก็ให้เช่าบูชาที่ 500 บาท รายการนี้สุดคุ้มครับ) (ปิดรายการให้คุณ eng_wil)

​

พระสมเด็จลอยฟ้าพระครูบาเหนือชัย เล่าว่าได้นิมิตจากครูบาอาจารย์หลายองค์จึงมาสร้างองค์พระสมเด็จลอยฟ้า ได้ลักษณะกลมจากลูกแก้วหลวงปู่สด องค์พระได้มาจากองค์สมเด็จพุฒาจารย์โต (โต พรหมรังสี) เก้ายอดสองข้างได้มาจากหลวงพ่อปาน ผึ้งน้อยได้มาจากครูผึ้ง(ครูคาถาเงินล้าน) คำว่า "สัมมาอะระหังสตางค์มา" ได้มาจากหลวงปู่แหวน (หลวงปู่แหวนบอกว่าสัมมาอะระหังใช้ได้พันช่อง) ยันต์ข้างหลังหัวใจเศษฐี เอามาจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงมาเป็นองค์พระสมเด็จลอยฟ้า ทำมาจากเนื้อดินในถ้ำป่าอาชาทอง ชั้นที่ ๙ มาเผาเองในบาตรพระ ใส่ส้มป่อย(ของดีล้านนาทางแก้อาถรรพย์) ดอกดาวเรือง กาฝากไม้มงคล ทุกอย่างใส่ในบาตรเผารวมกันในหลุมที่ ท่านพระครูบาได้เตรียมเอง เผาเสร็จออกมาแช่น้ำพุทธมนต์ ๗ วัน ออกผึ่งลมอีก แล้วเอาเข้าไปอธิฐานจิตในถ้ำม้าอาชาทองอีก ๙ วัน จึงเสร็จพิธี รุ่นนี้ท่านพระครูบาเหนือชัยเสกเดี่ยว

พุทธคุณ : ใช้ได้สารพัดนึก

 

เรียนเชิญครับ..

 

ขอจองรายการนี้ครับ

 

รับทราบครับ

 

รายการที่2 พระสมเด็จลอยฟ้า ครูบาเหนือชัย โอนเงินแล้วครับ ที่อยู่ในการส่งแจ้งทาง PM ครับ

 

จัดส่งไปให้แล้วครับ

รหัสตรวจสอบพัสดุ EMS = EN532368342TH

ขอบคุณครับ

 

​

3.ผ้ายันต์เสือจำศีลสะท้านฟ้า ครูบาเหนือชัย บูชา 180 บาท (ปิดรายการ)

ยันต์เสือจำศีลสะท้านฟ้า เป็นยันต์เสือลายสิงห์ พุทธคุณ เป็นมหาอำนาจ คงกะพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย นะจังงัง ตัวโค๊ดเป็นยันต์ผึ้งน้อย ได้มาจากครูผึ้งตอนนั่งสมาธิท่านมาบอกให้เอาไปใช้เมตตาญาติโยมทางด้านโชคลาภ

ยันต์เสือจำศีลสะท้านฟ้า ยันต์ประจำองค์ท่านครูบาเหนือชัย มีพุทธคุณครอบคลุมทุกทางตามแต่จะอธิษฐาน เป็นเมตตา ตบะเดชะบารมี ครูบาท่านมักจะสอนให้เหล่าลูกศิษย์ทำใจให้สบาย มีเมตตากับคนทุกชนชั้น เพราะเมตตานี้เป็นของดี หมั่นเจริญเมตตาบ่อยๆใครเห็นก็สบาย แล้วจะรวยเอง

 

​

4.ล็อกเก็ตพระสีวลีขี่ม้า ครูบาเหนือชัย โฆสิโต บูชา 1,xxx บาท (ปิดรายการครับ)

ล็อกเก็ตพระสีวลีขี่ม้า ครูบาเหนือชัย ด้านหน้าเป็นรูปพระสีวลีขี่ม้า ด้านหลังบรรจุตะกรุด 2 ดอก พระธาตุหรือธาตุกายสิทธิ์ 1 องค์ และเกศาครูบาเหนือชัย โฆสิโต พร้อมกับกล่องกำมะหยี่เดิมๆ จากสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง สีฟ้าสวยงาม

ล็อกเก็ตพระสีวลีขี่ม้า ครูบาเหนือชัยปลุกเสก และนำไปเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุนอีกรอบหนึ่ง

 

คาถาพระสิวลี ครูบาเหนือชัย​

 

ครูบาเหนือชัย พระขี่ม้าเผยแผ่ธรรม​

 

ล็อกเก็ตพระสีวลีขี่ม้า บรรจุตะกรุด 2 ดอก พระธาตุหรือธาตุกายสิทธิ์ 1 องค์ และมีเกศาครูบาเหนือชัย โฆสิโต หายากแล้วครับ

 

พระเครื่องวัตถุมงคล ครูบาเหนือชัย โฆสิโต บูชาเบาๆ ไม่แพง

 

พระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่จัดสร้างหรืออธิษฐานจิตโดยครูบาเหนือชัย หากมีโอกาสเก็บได้ก็เก็บกันนะครับ ครั้งหนึ่งผมจำไม่ได้ว่าปีไหนแล้ว ท่านเข้านิโรธกรรมหลายวัน ผมเองไม่ได้ไปที่วัด ผมอยู่ที่บ้านก็อธิษฐานขอพร สามารถสัมผัสพลังในช่วงที่ท่านเข้านิโรธกรรม เป็นพลังแรงแบบครอบจักรวาล

ในประสบการณ์ของผมพบเจอผ้ายันต์ที่มีพลังแรงแผ่ออกมา ก็มีเช่น ผ้ายันต์ลายเท้า หลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุข อุบลราชธานี, ผ้ายันต์ที่จัดสร้างโดยครูบาเหนือชัย และผ้ายันต์ครอบจักรวาล หลวงพ่อเกษม เขมโก

 

​

5.พระกริ่งโฆสิโต รุ่นสัมมาอะระหัง สตางค์มา พระครูบาเหนือชัย ปกติบูชา 2,500 บาท พิเศษลดเหลือ 1,800 บาท (ปิดรายการ)

พระกริ่งโฆสิโต รุ่นสัมมาอะระหัง สตางค์มา (รุ่นแรก) เนื้อสัมฤทธิ์ พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ต๊อกโค้ทหมายเลข ๒๓๖

รายการนี้ไม่มีกล่อง เพราะแยกออกมาจากชุดใหญ่

 

​

6.พระครูบาเหนือชัย ชุดใหญ่ (สมเด็จองค์ปฐม 5 องค์, พระกริ่งโฆสิโต ครูบาเหนือชัย รุ่นแรก 1 องค์ และพระสมเด็จลอยฟ้า 5 องค์) บูชา 3,500 บาท (ปิดรายการ)

พระชุดที่ระลึกงานออกนิโรธกรรม ประจำปี 2556 ครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ประกอบไปด้วย

พระสมเด็จองค์ปฐม หลังยันต์เกราะเพชร(วัดท่าขนุน ปี 53) จำนวน 5 องค์ + พระกริ่งโฆสิโต รุ่นหนึ่ง(นิโรธฯ56) จำนวน 1 องค์ + พระสมเด็จลอยฟ้า (รุ่นจันทร์เพ็ญ 55) จำนวน 5 องค์ รวมทั้งหมด 11 องค์