จิตจักรวาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 3 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ในเรื่องจิตจักรวาลดวงใหญ่ดวงแรกสุดที่ถือกำเนิดขึ้น แล้วสร้างจิตจักรวาลดวงต่อๆมา
    ที่มีขนาดเล็กกว่านั้น คล้ายกับความเชื่อเรื่องปรมาตมัน และอาตมันของพราหมณ์
    การเรียกจิตจักรวาลดวงแรกว่าพระบิดา และการสร้างจักรวาล สร้างโลก สร้างมนุษย์
    คล้ายกับศาสนาคริสต์ ผสมดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จิตจักรวาล กับ พระพุทธเจ้า
    สอนไม่เหมือนกันบางเรื่องนะครับ


    ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะศรัทธาอะไรไปครับ
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เราคงไม่ทราบได้ว่าพระพุทธเจ้าท่านทราบอะไรบ้าง
    เพียงแต่ท่านบอกว่า สิ่งที่ท่านนั้นรู้เท่ากับป่าประดู่
    ที่ศาสนาพุทธที่ท่านนำมาสอนนั้นท่านกับใบไม้ในกำมือนะคะ
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ศาสนาพราหมณ์เป็นศาสนาแรกดั้งเดิมที่เกิดก่อนศาสนาพุทธ
    ซึ่งพระองค์ที่ได้ตรัสรู้ประกาศบรรลือสีหนาทประกาศศาสนา
    พระพุทธองค์ได้ล่วงรู้ความเชื่อของคน ทิฐิ 62 ประการ
    แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสถึง ความเชื่อหลากหลายของคนยุคนั้น
    พระองค์ก็ไม่ได้ทรงคัดค้านทั้งหมด
    แต่ได้ปรับความเชื่อที่ผิดเหล่านั้นให้ได้มารู้อย่างถูกต้องเพื่อความหลุดพ้น
    และก็มีความเชื่อว่า ศาสนาพราหมณ์ อาจมีความถูกต้องในบางอย่างก็ได้
    แต่ไม่ตรงทางดั่งศาสนาพุทธ ที่เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นนะคะ
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ครับ


    พราหมณ์ฮินดูสอนเรื่องความหลุดพ้นมาก่อนพุทธน่ะครับ
    เรียกว่า "โมกษะ" แต่พราหมณ์ยุคหลังๆ เสื่อมลงไปก็เลย
    ปฏิบัติไม่ได้มรรคผลกัน ภายหลัง พระพุทธเจ้าตรัสรู้เองแล้ว
    จะใช้คำว่า "โมกษะ" ในตอนนั้นก็ไม่ได้ เพราะพราหมณ์ส่วน
    ใหญ่หลงผิด ปฏิบัติผิด มากมาย จะกลายเป็นปัญหาเปล่าๆ ครับ


    เลยเป็นเหตุให้ต้องประกาศศาสนาใหม่ (แท้จริงแล้วสัจธรรมก็เหมือนกัน)
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    หากคุณรับสื่อจากจิตจักรวาลได้
    ก็สามารถรับสื่อจากแหล่งอื่นๆ ได้
    เช่นกัน เช่น พรหมโลก, สุขาวดี ฯลฯ


    ยากแค่ตอนจูนคลื่นให้ตรงเท่านั้น พอจูนตรงแล้ว
    ต่อไป ก็ไม่ยากแล้ว ไปคลื่นเดิมๆ อารมณ์แนวเดิมๆ
    ผมจะช่วยจูนพระกฤษณะ หรือพระศากยมุนีให้ ก็ได้ครับ
     
  7. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่เริ่มสนใจเรื่องสมาธิ
    ด้วยความที่อยู่ ตจว. จึงมีแต่หนังสือเท่านั้น ที่เป็น"ครู"
    มีหลายแนวเหลือเกิน เช่น สายพระป่า สายฤาษีลิงดำ สายพุทธทาส สายธิเบต สายนิกายเซ็น สายโยคี สายปรัชญาต่างๆ
    สรุปได้เองว่า สายหลักจริงๆแล้วก็คือ สายพระพุทธเจ้า พระไตรปิฏกนี่แหละสายตรงที่สุด
    2500กว่าปี ถ้อยคำพระไตรปิฏกคงไม่เปลี่ยนอะไรมาก แต่ที่หลากหลายคือผลพวงความเข้าใจของผู้ปฏิบัติ ผู้นำการปฏิบัติ
    นี่คือผลพวงจากการปฏิบัติของเรา(น่าจะเข้าข่าย วิปัสสนา)

    วันนึงนึกถึงตอนหนึ่งในประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ท่านนั่งสมาธิวิปัสสนาบนหน้าผา "เหมือนกับว่าถ้าไม่บรรลุธรรมก็ไม่ลุกออกจากที่
    ถ้าเผลอสติ ก็ให้ตกเขาตายไปเลย"
    มานึกคิดดูแล้วก็อยากจะลองดูมั่ง แล้วก็ได้ลองในคืนหนึ่ง
    ลองแบบอานาปานี่แหละไม่ได้ทำอะไรมากเลย
    หายใจเข้า หายใจออกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ไม่รุนานแค่ไหนรู้สึกเหน็บกินขา เจ็บปวดรวดร้าวไปหมด
    ก็อดทนเจ็บ พิจารณาว่า พระพุทธองค์ตรัสว่า สรรพสิ่งไม่เที่ยง มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป
    ตอนนี้มันปวดขาเหลือเกิน ปวดจริงๆ ปลอบใจตัวเองว่า ทนหน่อยๆๆ มันปวด มันปวดอยู่ เดี๋ยวมันก็คงหายไป
    ตอนนั้นเหงื่อแตกพลั่กเพราะความปวดและมันก็กินเวลาไม่ใช่น้อย สองจิตสองใจว่าเลิกนั่งดีกว่ามั้ย อีกใจก็อยากรู้ว่าแล้วมันจะยังไงนะ
    ทนปวด-เหงื่อแตก-"อดทนหน่อยเดี๋ยวคงหาย"........สักพักใหญ่มากๆ จึงรู้สึกว่าปวดน้อยลง
    แต่...เอาอีกแล้ว มันมาอีกแล้ว มันปวดอีกแล้ว โอ้ยไม่ไหวแล้ว ทำไมปวดยังงี้ ปวดยิ่งกว่าเดิมอีก
    ...จะลุกออกจากการนั่งก็หลายครั้ง แต่ก็ความคิดตีโต้กลับไปกลับมา ระหว่างความอยากรู้กับความความปวด มันตอบโต้ไปมาโดยตลอด
    แล้วความปวดครั้งที่สอง ก็เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป อีกครั้ง...
    สักพัก เอาอีกแล้ว มันมาอีกแล้ว ระลอกสาม..สี่....(จำไม่ได้ว่ากี่ละลอก)
    สุดท้าย ความปวดหายไป
    บวกกับ ความรู้สึกว่า ขาตัวเองไม่มี
    ลำตัวของตัวเอง ไม่มี มีแต่ หัว
    หัวตัวเองไม่มี แต่รู้สึกว่า "หายใจอยู่"
    และก็มีประโยคท้าทายว่า"ถ้าหายใจอีกครั้ง ต้องตายแล้วนะ"
    (เรียกว่าทั้งหมดอาจเกิดภายในเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววินาที)
    นาทีนั้น ตัดสินใจ"ตายเป็นตาย" หายใจออกเป็นครั้งสุดท้าย
    แล้วก็...............(ขอไม่เล่าในรายละเอียด สรุปว่า เจอกับจักรวาลที่ไม่มีอะไร )
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    จิตประภัสสร
    ประภัสสร แปลว่า บริสุทธิ์ สีเลื่อมพราย แสงแพรวพราว

    จิตมนุษย์แต่ละคนนั้น โดยเนื้อแท้แล้วบริสุทธิ์ สะอาด ไร้เล่ห์มารยา
    และเป็นอิสระเหนือข้บังคับหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ในจักรวาล..

    ข้อความคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล


    สนามพลังงานจักรวาล เป็นสนามพลังงานสากล

    จักรวาล...ภายในจักรวาลจะมีระบบเอกภพ
    ระบบเอกภพ คือ ระบบที่ยึดโยงใยดาวเคราะห์ เทหวัตถุต่าง ๆ
    ที่ยึดรั้งให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเรียกว่า ระบบเอกภพ
    และภายในระบบเอกภพ จะประกอบระบบกาแล๊กซี่ หลายหมื่นล้านระบบ
    และโลกของเราก็อยู่ในระบบสุริยะกาแล๊กซี่ทางช้างเผือก
    จึงเข้าใจว่า สนามพลังงานสากล นั่นเป็นจุดกำเนิดของสิ่งทั้งปวง
    ที่เรียกว่า ต้นธาตุต้นธรรม นะคะ

    เราทุกคนล้วนมาจากจุดเดียวกัน....
     
  9. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    ทุกอย่างมันมี เพราะเราอยากให้มี
    เดิมที...ไม่มีอะไร
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ได้เป็นบางครั้งค่ะ อำนาจของสมาธิไม่สูงอย่างเพียงพอ
    ถ้าได้อ่านโพสของ jityim ความมหัศจรรย์ที่ได้อย่างละครั้งเท่านั้น
    เป็นแค่เหตุผลอะไรบางอย่างก็ได้ค่ะ
    แต่ถ้าใจนิ่ง ๆ ก็สามารถรู้อะไรได้ลึก ๆ เหมือนกัน
    เปรียบเสมือนว่า ใจทิพย์ แต่ไม่น่าจะใช่
    เพราะไม่มีสิ่งพิเศษเหนือธรรมชาติเลยค่ะ...ขำขำ
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    แนวทางของคุณสองคนเป็นแนวทางแบบจิตจักรวาลนะครับ
    ซึ่งจะคนละแบบกับของพระศากยมุนีที่ผมได้รับสื่อสารมาครับ


    ไม่ได้ว่าใครผิดหรือถูกอะไร แต่บางอย่างจะต่างกัน เกรงว่าผู้ไม่รู้จะเหมารวม
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    เป็นไปได้ว่าเกิด "ขันธปรินิพิพาน" ขึ้นครับ


    จะรู้สึกเหมือนดับขันธ์ แต่ไม่ใช่ขันธ์ทั้งห้า ร่างกายก็ยังอยู่ดี
    ขันธ์ที่ดับไป คือ "วิญญาณขันธ์" เท่านั้น ดับสนิทไปเลย
    จึงเรียกว่า "ขันธปรินิพพาน" เมื่อวิญญาณดับสนิทไป
    แล้ว จึงไม่มีสภาพเป็นจิตวิญญาณในร่างดุจเดิมอีก
    วิญญาณนิพพานไปหมด เหลือแต่จิตอย่างเดียว
    จิตนี่แหละ เรียกว่า "จิตประภัสสร" สว่างเลย


    เป็นอาการเดียวกันกับตอนที่หลวงตามหาบัว คิดว่าบรรลุธรรมน่ะละครับ
     
  13. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    ชื่อว่าจิตเพราะวิจิตรพิสดารนักเฉพาะสัตว์เดรัจฉานที่เห็นบนโลกล้วนหลายหลายพิลึก
    พิลั่น นั่นเพราะจิตที่ไปถือกายใหม่นั้นวิจิตรพิสดาร ทำนองเดียวกันการทำสมาธิ. ถ้าควบคุมจิตไม่ได้ ก็อาจวิปลาสไปต่างๆนาๆ สาธุๆ
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    กาย ...


    กาย เป็นสมมุติธรรม
    เมื่อเป็นสมมุติธรรม ก็มีอนิจจัง
    เมื่อจิตเห็นแจ้งอย่างกลางๆ อย่างนี้
    ไม่มีทั้งฉันทาคติในกาย และอคติในกาย
    ไม่ได้ปฏิเสธกายหรือการมีกาย ไม่ได้หลงการมีกาย


    กายนั้นก็เป็นเพียงสมมุติธรรมเท่านั้นเอง
    นอกเสียจากว่าเราไม่เคารพสมมุติธรรม
    ก็จะมีอคติกับกาย ไปทำให้ตนไร้กายเสีย
     
  15. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    แม้จะอ่านศัพท์แสงบาลีมาบ้างแต่ก็ไม่เชี่ยวชาญคำแปลความหมายอะไรละเอียดมาก
    ขอใช้ภาษาธรรมดาๆนะครับ

    ขอเล่าเพิ่มเติมในส่วนของการปฏิบัติคราวนั้น...
    ตอนนั้นหลังจากออกจากสมาธิแล้ว ก็ครุ่นคิดว่า ตะกี้ที่เจอ มันคืออะไรนะ
    สภาพของนิพพานหรือเปล่า? ครุ่นคิดอยู่หลายวันก็สรุปเองว่า มันเป็นอะไรที่คล้ายๆแต่มันไม่ใช่
    ถ้านิพพานหมายถึงไม่มาเวียนว่ายตายเกิดอีก แล้วล่ะก็...
    ถ้า จิตคือธาตุ"รู้" แล้วล่ะก็...
    จะให้เป็นตรรกะที่สมเหตุสมผล แล้วล่ะก็....
    "ต้องทำลายสลาย"รู้"ให้ได้นั่นแหละ...จึงจะนิพพาน"
    ก็ได้ข้อสรุปของตัวเองมาอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่า ถูกต้องตามความมุ่งหมายที่แท้จริงที่พระพุทธองค์ชี้ทางหรือไม่
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ตรงทางละครับ


    ขันธปรินิพพานนั้น เป็นการนิพพานบางส่วน (สอุปาทิเสสนิพพาน)
    คือ นิพพานเฉพาะขันธ์โดยรอบ (วิญญาณขันธ์ที่อยู่รอบดวงจิต)
    เหลือแต่ "จิตประภัสสร" ซึ่งไม่ใช่ขันธ์ เพราะเป็นมโนธาตุ
    ที่ยังไม่นิพพาน เรียกว่า "นิพพานไม่หมด ยังเหลือเชื้อ"


    ขั้นต่อไปถูกต้องละครับ ยังต้องผ่าน "พระธาตุนิพพาน" อีก
    หากไม่ผ่านพระธาตุนิพพาน และยังไม่มีสติเท่าทันนิพพานสองตัวนี้
    (สอุปาทิเสสนิพพาน และอนุปาทิเสสนิพพาน) ก็จะไม่รู้จักนิพพานหนึ่ง
    (นิพพานแบบหนึ่งเดียว ตามปรมัตถธรรมสี่ ข้อ นิพพาน 1) หากหลงตัวรู้ก็
    จะตกเป็นเหยื่อของ "จิตจักรวาล" จิตประภัสสรนี่แหละ จะเอารู้มาเล่นงานเรา


    ตรงทางแล้วครับ นับว่าก้าวหน้ากว่า หลวงตามหาบัว ไปขั้นหนึ่ง ...
     
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    หากต่อสายธรรมกับ "พระศากยมุนี" (ต้นธาตุต้นธรรม) ได้
    ก็จะหลุดพ้นจากการถูก "จิตจักรวาล" (ตัวรู้) เล่นงานเอา


    แล้วจะปฏิบัติสุดทางได้ คือ ผ่าน "พระธาตุนิพพาน"
    ไปต่อได้จนถึงที่สุดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กุมภาพันธ์ 2016
  18. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    เอ่อ...อย่าเอา หลวงตาหรือพระผู้ใหญ่ใดๆ มาเปรียบเทียบเลยครับ...
    รู้สึก"คุณจะเทสหรือจะทำให้อะไรๆมันเขว" นะคร้าบ

    ทุกวันนี้ยอมรับคำสอนของพระพุทธเจ้า"มรรค8"
    แม้จะไม่รุว่าจุดหมายปลายทางมันเป็นอะไร
     
  19. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ตัวรู้นี่ละครับสำคัญเลย ยิ่งได้รู้อะไรโดยไม่เข้าใจถึงสิ่งที่รู้เรียบร้อยทุกรายหลุดไปไกลเลยจะกลับมาไม่ง่าย หาครูคอยแนะนำให้ได้นะครับ
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ลัทธิ "อาจาริยวาท"


    ไม่ใช่แนวทางพุทธแต่ดั้งเดิมแท้ เกิดมาทีหลังนิกายเถรวาท
    ซ้อนอยู่ในนิกายเถรวาท แล้วทำให้เถรวาทแตกเป็นกลุ่มย่อย
    แต่ละกลุ่มย่อย ยกอาจารย์ของตนเองเป็นใหญ่ จนหลงลืมไป
    ว่าต้นธาตุต้นธรรม ก็คือ "พระพุทธเจ้า" ...

    เมื่อเราจะไม่ยึดติดอะไรอยู่แล้ว ก็อย่าไปยึดติดอายุหรือความ
    อาวุโส ความเป็นหลวงปู่ หลวงพ่อ อะไรมาก เพราะเรามีจุด
    อ่อนตรงนี้ เราก็จะพลาดท่าเป็นพวกอาจาริยวาทได้น่ะสิ


    จริงๆ เรารู้ไหมว่าหลวงพ่อ หลวงปู่เขาหลุดพ้นจริงๆ? เขาตายแล้วไปไหน? นิพพานแน่หรือ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...