จิตจักรวาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 3 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    หลักๆ คือ ทุกคนเข้าถึงพุทธสภาวะได้ครับ
    แต่บางคนยังไปไม่ถึงของจริง แล้วถูกหลอกว่า
    เป็นพุทธะ ไม่ต้องไปฟังอะไรใครอีกแล้ว ปิดหู ปิดใจ
    ไปเลย พอเราไปบอกเขาว่ามันของปลอมนะ เขาก็ไม่ฟังเรา


    อินทรีย์ของคน เป็นตัวสำคัญที่เราจะให้ธรรมระดับสูงเขาได้หรือไม่
    บางครั้ง ธรรมสูงไป ใหม่ไป ล้ำหน้าเกินไป ก็ให้เขาไม่ได้ครับ
    ไม่ใช่ว่าเราอยากปิดบังหรือกลัวใครมาเก่งเกินหน้าเรา ไม่ใช่
    แต่มันมีปัญหา เช่น อินทรีย์เขาอ่อนอยู่ เราบอกธรรมเขา
    เขาถึง "จิตประภัสสร" (จิตจักรวาล) เลย พอเขาถึง
    แล้ว เราก็จูนให้เขาต่อสายธรรม เพื่อเดินธรรมต่อ
    ไปตามทางของพระศากยมุนี แต่เขาไม่ฟังเรา
    อีกแล้ว จิตจักรวาลจูนเขาไปหมดแล้ว เรา
    ก็ทำอะไรไม่ได้เลย พลังจิตของเขาก็
    มากกว่าเรา (ของจิตจักรวาลนะ)


    เนี่ย เลยไม่รู้จะทำยังไงดีนะครับ
     
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    แต่สำหรับผมมองว่าจะลือกธรรมใดก็ตามก็อยู่ที่เราจะใช้หรือไม่ใช้ธรรมนั้นนี่ครับผมก็อยากให้ท่านดอกไม้บอกมาเรื่อยๆนะครับผมและหลายๆท่านจะได้มีมุมองที่กว้างไกลกว่าเดิม
     
  3. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ท่านดอกไม้ครับแล้วอย่างจิตจักรวาลก็ยังมีการเรียนรู้เพื่อเข้าสู้กายธรรม กายวัชระ กายอมตะ กายอื่นๆ อีกเช่นกันหรือเปล่าครับ
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ทุกคนล้วนเข้าถึงพุทธสภาวะได้
    แต่มิใช่เป็นพุทธสภาวะอยู่แล้ว


    จิตบริสุทธิ์อยู่แล้ว เรียกว่าจิตประภัสสร
    คำสอนเรื่องจิตประภัสสรมีตั้งแต่สมัยพุทธกาล
    แต่คำสอนเรื่อง "พุทธสภาวะ" จะแพร่หลายหลังกึ่งกลางพุทธกาล
    คำสอนเรื่อง "จิตประภัสสร" กับ "พุทธสภาวะ" คนละเรื่องกัน อย่าปะปนกัน
    จำต้องผ่านคำสอนเรื่องจิตประภัสสรแล้ว จึงไปต่อเรื่อง "พุทธสภาวะ" ได้

    คำสอนเรื่อง "ความบริบูรณ์ในธรรมอยู่แล้ว" เป็นคำสอนในอวตังสกสูตร
    จะเอามาปนกับคำสอนเรื่องสุญตาใน "ปรัชญาปารามิตาสูตร" ไม่ได้
    และเอามาปนกับเรื่องพุทธสภาวะในสัทธรรมปุณฑริกสูตรก็ไม่ได้
    ให้ผ่านเรื่องสุญตาก่อน จึงมาสู่ความบริบูรณ์ในธรรมอยู่แล้ว
    จากนั้น จึงมาต่อเรื่องพุทธสภาวะได้ พระศากยมุนีทรงรู้
    ว่าคนเราต้องพัฒนาตัวเองนาน ไม่อาจจะสำเร็จได้
    ในชาติเดียว จึงค่อยๆ เปิดเผยทีละน้อย เพื่อ
    ไม่ให้เกิดปัญหา (ผู้อินทรีย์อ่อนจะแย่)


    ทว่า บางท่านกำลังยำใหญ่ใส่สารพัด มันก็เลย "เจ๊ง" นะครับ
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    มีครับ เข้าใจถูกต้องแล้ว


    เบื้องบนได้ลงมาสร้างศาสนาคริสต์ไว้ เพื่อทำกิจนี้โดยเฉพาะ
    เรียกว่า "การรับพระจิตเจ้า" พระจิตเจ้า ก็คือ จิตจักรวาล
    ซึ่งหมดวาระในการทำกิจ พิทักษ์จักรวาลแล้วเขาจะ
    มาสู่ร่างมนุษย์ ที่ผ่าน "พระธาตุนิพพาน" คือผู้
    ไร้ใจ ใจไม่มี ใจว่างเปล่า จิตนิพพานแล้ว


    จิตจักรวาลจะกลับมาสู่ร่างนั้น เพื่อเดินธรรมให้ถึงพุทธะต่อไปครับ
     
  6. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ผมเชื่อครับว่านานนนนนนนน ผมเคยมีความรู้สึกว่าตัวผมเหมือนเฟืองตัวเล็กตัวนึงที่ค่อยๆหมุนอย่างมั่นคง มีผู้ที่ผมเคารพได้บอกผมว่าเธอเคยเห็นนาฬิกาใหม อะไรเดินก่อน? ผมตอบเข็มวินาที ท่านบอกถูกแล้วการจะพัฒนาตัวเองนั้นเริ่มจากตัวเราซึ่งเป็นจุดเล็กๆที่จะหมุนไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำให้เฟืองตัวใหญ่หมุนฉนั้นทุกอย่างอยู่ที่เราที่จะต้องเดินอย่างมั่นคงอย่าท้อแท้ เมื่อเดินอย่างถูกต้องมั่นคงเดี่๋ยวเบื้องหลังผู้ดูแลเขาก็ช่วยให้เฟืองหมุนต่อเอง
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ที่ใดมีการแข่งขันช่วงชิง
    ที่นั่นมี หมากเบี้ย เดินนำไปก่อน



    ที่ใดไร้การแข่งขันช่วงชิง
    ที่นั่นมี ผู้นำ เดินนำไปก่อน
     
  8. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ เบี้ยจึงสามารถเรียนรู้ต่อไปได้เรื่อยๆ ยังสนุกกับการเรียนรู้สิ่งเล็กๆที่คนอื่นมองข้ามไป และที่สำคัญใครจะมองว่าเราเป็นเบี้ยนั่นไม่แปลก แต่อยู่ที่เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้นมากกว่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2016
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    หากหลงผลรางวัลจากการแข่งขันเมื่อใด
    การเรียนรู้ก็จะสิ้นสุดลงไปด้วยนะครับ
     
  10. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    สำหรับรางวัลที่อยากได้คือ เขาได้เรียนรู้อะไรจากธรรมชาตินี้มากกว่าครับเพราะพวกเขาเหล่านั้นมองว่าการกลับมาเรียนรู้ใหม่มันเสียเวลา โดยที่เขาไม่ได้มองตัวเองว่าเขายังเรียนรู้อะไรได้อีกเยอะแยะ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้วแค่ทำในสิ่งที่ทำได้เท่านั้นเองครับ และถ้าผมพลาดทุกอย่างที่ทำมาก็จะไม่เหลืออะไรเลยแต่ก็ยังมีธรรมชาติอยู่นะครับ
    ที่สำคัญมีบุคคลอย่างท่านดอกไม้ มีนิพพานพุทธเกษตรที่คอยดูแล มนุษย์ย่อมพัฒนาไปในทางที่ถูกที่ควรได้อย่างสบายใจครับ
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    เรียนรู้ร่วมกัน แลกเปลี่ยนกันน่ะครับ


    ผมเองก็ติดธรรมวัชรยานเยอะ เวลาใช้ จะแหลมคม ทิ่มแทงใจคน
    หรือบาดความรู้สึกของคนอื่น ทำให้เขาไม่ชอบ และปิดใจกั้น
    ได้เหมือนกัน ผมก็ต้องเคลียร์ตัวเอง เคลียร์ธรรมเก่าเช่นกัน


    คุณ คนโง่โง่ ก็มีธรรมที่น่าสนใจ เหมือนดอกบัวบาน นะครับ
     
  12. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ผมไม่เคยศึกษาแบบวัชรยานเลยครับ แต่ที่ท่านดอกไม้บอกก็ดีนะครับเวลาจะใช่้สมมุติกับใครลองใส่ความจริงลงไปด้วยมันจะได้เกิดขึ้นทั้งรูปนาม เหมือนทำกับข้าวเลยปรุงตามใจชอบสนุกนะครับพลิกแพลงได้เยอะเลย จริงๆ เท็จๆ แต่ถ้าเจอคนไม่กินก็จบข่าวครับ
     
  13. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขอบคุณสำหรับคำชมครับอาจจะไม่ใช่ดอกบัวบาน แต่ถ้ายิ้มหน้าบานละก็ใช่เลยครับ
    สวัสดีปีใหม่ ไชน่าครับ
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จุติจิต จิตจักรวาล และการเคลื่อนของจิต


    เมื่อเกิด "ขันธปรินิพพาน" แล้ว วิญญาณขันธ์นิพพานโดยรอบจิต
    เหลือแต่จิตประภัสสร สว่างไสว อยู่นั้น จิตประภัสสรสามารถ
    เคลื่อนไปยังภพภูมิต่างๆ ได้โดยอิสระ อยู่เหนือกาลเวลา
    หากในกายสังขารของเรามีกายทิพย์เป็นขันธ์ครอบอยู่
    ก็เพื่อประคองให้จิตดำรงคงในกายต่อไปไม่ละเสีย
    ก็จะไม่ละสังขารภายใน 7 วัน ยังคงชีพต่อไปได้


    จิตประภัสสร มีสภาวะเหมือน "จุติจิต" ต่างกันก็เพียง
    จิตประภัสสร ไม่ได้เคลืื่อนไปหาชาติภพใหม่ หรือกายใหม่
    ต่อให้มีกายวิญญาณ กายทิพย์ มารองรับ จิตนั้นก็ไม่ปฏิสนธิอีก
    ดังนั้น จึงไม่เกิด "ปฏิสนธิจิต" คือ จิตไม่ยอมเกิดในกายใหม่ นั่นเอง
    จิตนี้ จะมีลักษณะคล้ายจุติจิต คือ เคลืื่อนไปมาได้อย่างอิสระ เพราะไม่มี
    วิญญาณขันธ์มาหน่วงรั้งไว้อีกแล้ว หากจุติไปยังจักรวาล จะเป็น "จิตจักรวาล"
    แต่หากยังไม่เคลื่อนออกจากร่าง จะยังไม่เป็นจิตจักรวาล หากปฏิสนธิในกายใหม่
    ก็จะไม่ต้องเป็นจิตจักรวาล จะกลับมาเกิดในกายทิพย์ ในขันธ์นั้นๆ ชาติภพนั้นๆ ได้อีกครั้ง
     
  15. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    สำหรับคำนี้จะตอบท่านดอกไม้ว่ายังไงดี เอาเป็นว่าความหลงก็คือกิเลสตัวนึง กิเลสจะเกิดที่ไหนไม่ได้ถ้าไม่ได้เราเป็นคนสร้างเขาขึ้นมาเมื่อเราสร้างเขาขึ้นมาก็ต้องดูแลรับผิดชอบให้เขาเป็นกิเลสที่ดีไม่ทำร้ายเบียดเบียนใครโดยไม่จำเป็นเหมือนดูแลลูกกคนนึง ผมเลยมีลูกเยอะเลยครับผมก็รักลูกผมด้วยแต่ไม่เคยตามใจให้เสียคนนะครับ(ผมไม่ได้มองว่าเขาเป็นรูปหรือนามแต่เขาก็มีตัวตนสำผัสได้ ไม่รู้ว่าเรียกว่ากายในกายหรืออะไร) ถ้าเลี้ยงลูกจนมันทำร้ายเราได้แสดงว่าเราไม่ได้เรื่องละครับ
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    รู้สึกเหมือนได้เคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นอยู่เลยนะเนี่ย ...
     
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    งั้นเอาเป็นว่า กิเลสของผมก็คือ ...


    ผมจะไม่ยอมทำงานรับใช้คนที่มีบารมีธรรมต่ำกว่าผม ก็แล้วกัน
    เพราะทำแบบนั้น จะส่งผลให้คนที่อยู่เหนือผม ได้รับภัยได้
    จริงว่าด้วยอำนาจแห่งบุญและกรรม ทำให้เขาได้อยู่เหนือ
    เราได้บ้าง (เช่น เวลาเรามีกรรม เราต้องอยู่ใต้เขาหรือ
    เวลาเขามีบุญได้อยู่เหนือเรา) แต่พอหมดอำนาจนั้น
    กรรมหมดไปแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามธรรม นะครับ


    เอาเป็นว่าผมใช้กิเลสตัวนี้ เพื่อให้คนบางคนได้รับความปลอดภัย ละกัน
     
  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขอบคุณครับผม เรื่องจิตจักรวาลผมก็มองว่าเหมือนมนุษย์ลุงมนุษย์ป้าแหละครับที่ผ่านอะไรมาเยอะแต่ไม่ยอมเรียนรู้อะไรใหม่ๆแต่วันไหนที่เปิดใจเขาต้องได้อะไรดีๆแน่นอนครับ ดังนั้นให้เวลาในการเรียนรู้พวกเขาหน่อยเปิดใจกันซักนิดอาจจะมีรอยยิ้มเกิดขึ้นก็ได้นี่ครับ
    ว่าแต่ผมพิมแล้วผมจะโดนอะไรมั่งนี่
     
  19. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อะโห ขนาดนั้นเลยหรือครับก็ปรกติของคนที่จะอยู่ในธรรมชาติก็ต้องเรียนรู้ตัวเราเองให้ดีผมก็มองเหมือนท่านทุกอย่างเป็นธรรมทั้งหมดแต่ผมไม่ค่อยได้อ่านตำราในเชิงลึก ผมได้แต่มองดูตัวเองเรียนรู้อยู่กับตัวเองและธรรมชาติรอบๆตัวครับ
    ผมพักก่อนนะครับตัวหนักพิลึก
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จริงๆ ผมก็ใช้กิเลสเยอะนะครับ
    เช่น เวลาใครอยากให้เราไปเป็นขี้ข้า
    ผมก็ต้องมีความโลภ คำนวณก่อนว่าสิ่งที่ได้
    กับสิ่งที่เสียไป มันจะคุ้มไหม? ถ้าไม่คุ้ม ผมก็ไม่เอา


    เรื่องกิเลสนี่ ผมก็ชอบใช้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...