รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

ตกลงลพ.ฤาษีลิงขาว มีเมียจริงมั้ย ? ถ้าไม่มีหลักฐาน แสดงว่ากล่าวตู่นะ เอาหลักฐาน ไม่เอาเรื่องเล่า เรื่องอย่างนี้ถือเป็นการปรามาสพระสงฆ์รึเปล่า

 

ตอบหน่อย สงสัยจริงๆ

 

เป็นไปตามกรรมครับ ของแต่ละคน

 

ขอบคุณนะครับฟังแล้ว
หลวงพ่อทูลสอน ก็เหมือนหลวงปู่พุธสอน เหมือนๆกัน

............................

ขอนอกเรื่องต่อ

พี่ศรี ยังเชื่อ นิมิตที่ตัวเองฝันอยู่อีกเหรอครับ

เอาความเป็นจริงเฉพาะหน้านี่ มีอะไรที่มันแม่นบ้าง
อัดตราส่วน สามต่อหนึ่งก็ยังดี

นี่สูนย์ตลอด
ต้องหันมาดูตัวเองแล้วล่ะ ว่าความแจ่มใสภายใน มันตรง ถูกต้องหรือเปล่า

 

นี่คือข้อความที่ Sriaraya5 พาดพิงถึงหลวงพ่อฤาษีลิงขาว
นำมาให้อ่านอีกครั้ง เพื่อให้เห็นว่าเป็นการปรามาสพระสงฆ์ใช่หรือไม่ ?

 

อ้อออ อ่านข้อความตอนต้นอย่างมีสติ พิจารณา อ้อ!

 

กลับมาที่ประเด็นนะ สรุปดิฉันก้อยังปลงอสุภะไม่เป็น แต่จะเตือนตัวเองถึงคำที่ท่านว.วชิรเมธีกล่าวว่า กามารมณ์อยู่ในความคิด (ตอนนั้นวู้ดดี้ถาม) เราจะเน้นให้มีสติกับตัว เผลอคิดเรื่องบัดสีปุ๊บถ้ามีสติทัน เราจะรู้ตัว แล้วมันก้อไม่มีอารมณ์อะไรหรอก กำหนัดก้อไม่มี คือมันมีอยู่ในความคิด ในจินตนาการก่อน เราตัดตรงนั้นเลย เจ้าที่ก้อรู้ว่าเราก้อต้องปฏิบัติ เค้าก้อไม่ได้ลุ่มล่ามอะไร เค้าให้เกียรติดี เราไม่ได้ยึดติดความฝัน แต่เราต้องยอมรับความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย .. รู้อยู่แก่ใจ

 

กรณีที่ยกมาน่าจะเป็นการมีเมียอย่างเปิดเผย ไม่เช่นนั้น
ชาวบ้านคงไม่รู้....
แต่กรณีที่มีเมียแบบลับๆ และหลายๆเมีย
แต่รู้เฉพาะคนวงใน
ก็ใช่ว่าจะมีน้อย....และการปฏิบัติกิจขับเคลื่อนศาสนกิจ
ก็ยังดำเนินไปได้ โดยDSI ไม่มี
การเรียกไปตรวจสภาพ

 

ดิฉันว่าไม่ปรามาสนะ เพราะชาวบ้านก้อรู้กันทั่วนี่ แต่น่าจะมีบทความอะไร จากแหล่งที่เชื่อถือได้มาแปะ ไว้ให้อ่านซะหน่อย

 

น่ารักจนกินไม่ลง ^0^

 

อย่างนี้ จะปลงอสุภะได้ยังไงครับ

เห็นสักแต่ว่า ธาตุสิครับ ถ้าไปมโนคิดว่า รูปร่าง สัดส่วน แสง สี ที่ผสมผสานเป็นตัวตนว่า อุ้ย นี่ รูปสัตว์น่ารักๆๆ อย่างนี้ สวยงามดูศิลป์อย่างนี้ๆ ก็ไม่อสุภะได้ เห็นแต่เพลิดเพลินยินดีว่า โอ้โห้ สวยงามน่ารัก ก็ไม่อสุภะ

จะคิดเป็นอสุภะ ก็พิจารณาตามความเป็นจริง นี่เป็นส่วนผสมของ น้ำ นมโค เนย ผักหรือผลไม้ (สตรอเออรี่ ช็อคโกแลต ฯลฯ) สีผสมอาหาร เห็นเป็น ธาตุต่าง ในสถานะต่าง มาผสมกัน แล้วถูกแสงส่องสะท้อนแสงสี แล้วจิตเราชอบเหมารวม เห็นเป็นสิ่งที่เห็น เป็นรูปสัตว์ รูปหน้าคน หน้าสัตว์ แล้วมโนต่อไปว่า น่ารัก เหมือนเราชอบมโนว่า สุนัข มันน่ารัก แต่ว่าลองไปเจอสุนัขป่า มันจะน่ารักไหม มันจะกัดเราตาย แต่เรามโนแต่ที่ชอบใจ ว่าสุนัข หมี น่ารัก พอไปอยู่ป่าเจอหมีควายตะปปที ปางตายได้ มันจะน่ารักไหม ยิ่งดูการ์ตูนยิ่ง อุ้ย แพนด้าน่ารัก ตอนไปดูที่เชียงใหม่ มันเอาแต่กินไผ่ จะมาอ้อนเรา ทำหน้าตาน่ารักเหมือนในการ์ตูนไม่มีหรอก แถมรายการข่าวก็ใส่เสียงดนตรี เสียงเด็กร้องเพลง เร้าอารมณ์ให้เอ็นดูเข้าไป อีก

ก็พิจารณาตามจริงอย่างนี้ ไอติมนี้ คือ ธาตุต่างๆ ในรูปของน้ำ นม เนย ความเย็น สีผสมอาหาร นำ้ตาล มาผสมปรุงแต่งตามจิตของพ่อครัว มันดำรงอยู่ขณะหนึ่ง จะละลายหายไปเมื่อโดนความร้อน และเละเทะที่ชามหรือจาน หรือเมื่อตักหัวแพนด้าที่น่ารักเข้าปาก มันดดนความร้อนก็ละลาย สู่ท้องก็โดนย่อย สุดท้าย กลายเป็น ปัสสาวะ อุจจาระ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครบเลย) จากไอติมรูปสัตว์น่ารัก กลิ่นหอมหวานเย็น กลายเป็น อุจจาระ เหม็นเน่าชวนอาเจียน

พิจารณาอย่างนี้ ทุกอย่าง ที่เข้ามาในชีวิต นี่ก็เรียกว่า อสุภะ แบบพื้นๆ ไป

เห็นมันไม่งาม เห็นมันโสโครก จากนั้น ก็ทำใจกลางๆ สักแต่ว่าธาตุ

 

มันมีหลักว่า ถ้าคุณนวลปรางเข้าใจว่า หลวงพ่อฤษีลิงขาวเป็นพระภิกษุ ต้องเข้าใจว่า เป็นพระภิกษุไม่อาจมีเมียได้ เว้นแต่ มีเมียมีลูกก่อนบวช ซึ่งแม้ทางกฎหมาย การสมรสไม่สิ้นสุดเพราะการบวชของสามี แต่ทางธรรมก็เป็นที่รู้กันว่า ต้องตัดขาดกับเมียลูกทั้งทางกาย วาจา และใจ แล้ว เห็นเป็นโยมเท่านั้น

ถ้าอ่านข้อความที่เค้าเขียนแล้ว เข้าใจว่า หลวงพ่อฤาษีลิงขาวมีเมีย ชาวบ้านก็รู้กันทั่วไป หมายถึง ข้อความนี้ ทำลายพระพุทธศาสนา ทำลายพระธรรมและพระวินัย เพราะพระภิกษุในธรรมวินัยนี้ ในประเทศไทย ห้ามมีเมีย การที่บอกว่าชาวบ้านรู้กันทั่วไป คนอ่านเข้าใจว่า ชาวบ้าน พุทธบริษัท ปล่อยให้มีพระภิกษุมีเมียทั้งที่ครองเพศบรรพชิต แปลว่า ใส่ร้ายพุทธบริษัท ไม่ทำหน้าที่รักษาพระศาสนาตามพระธรรมและวินัย

ถ้าคนเขียนกล่าวว่า พระภิกษุมีเมียเท่ากับ หมิ่นประมาทพระภิกษุนั้นว่า ผิดพระธรรมวินัย มีโทษอาญา และถ้าข้อความไม่เป็นความจริงและหลวงพ่อฤษีลิงขาวเป็นพระอริยะหรือพระปฏิบัติดี ถือว่า ทำลายสงฆ์ ทำลายพระศาสนา ต้องตกนรกแน่นอน ตามนัยพระไตรปิฎก

 

อ้อ อย่างนี้นี่เอง งั้นก้อเข้าข่ายกล่าวตู่ ตามที่ดิฉันว่า

 

555 ขอโทษดูผิด นึกว่าไอติม นี่มัน มากาฮอง นี่ครับ

งั้นก็แก้ส่วนประกอบเป็น ผงอัลมอลด์ ไข่ขาว น้ำตาลไอซิ่ง ผลไม้(ทุเรียน มะพร้าว บลูเบอรี่ ฯลฯ ) สีผสมอาหาร น้ำตาลทราย น้ำ

555

 

อ่านแล้วหนาวแทน :'(

 

การปฎิบัติธรรม อย่าไปนอกรีต นอกรอย ครูบาอาจารย์เลยครับ เดี๋ยวจะเข้ารกเข้าพง หลงกันไปใหญ่ นอกจากจะไม่ได้อรรถได้ธรรมแล้ว ยังเสียเวลาไปกับเรื่องเหลวไหล ศาสนานี้เป็นศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมครูสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นครูเป็นอาจารย์ ของเหล่าพรหม เทพเทวดา มนุษย์ ทั้งหลาย ศาสนาของท่านยังมีอยู่ คำสอนของท่านยังมีอยู่ ขอให้ปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเถิด.

 

ใช่เลยครับ ชัดเจนดีครับ เห็นด้วยตามเหตุและผล

 

ปลงอสุภะเค้าปลงกันแบบนี้ หรอคะ? ดิฉันว่าเหมือนวิปัสนึกเอามากกว่ารึเปล่า ไม่ใช่วิปัสสนา ที่เป็นการกำหนดรู้ .. รอผู้รู้ชี้แนะค่ะ แต่คุณเก่งนะคะ ดิฉันทำเบเกอรี่ไม่เป็น เลยไม่รู้ส่วนผสมของมาการองและไอติม

มีพระสงฆ์ในกลุ่มไลน์แนะนำให้ดูอุจจาระปัสสวะของตัวเองบ่อยๆ อันนี้เค้าเรียกว่าอาหารเรปฏิกูลสัญญารึเปล่าคะ จับชื่อแนวการปฏิบัติไม่ได้

 

ไม่ใช่ อสุภะ แบบกรรมฐานอสุภะ ๑๐ ครับ

แต่ผมให้เราดูว่า ไม่งาม คือ อสุภะ ที่แปลว่า ไม่งาม ไปก่อน จะได้ไม่เกิดหลงกามารมณ์ ถ้าจะฝึกอสุภะ จริง ก็คงมีคนสอนแล้วครับในบอร์ดนี้

ผมแค่บอกว่า ขนาดเรื่องขนม เราก็เห็นว่า ไม่งามได้ ก็จะได้ไม่ติดกามารมณ์ เพราะ การกิน การดูรูปสวยงาม รสอร่อย ก็จัดเป็นกามคุณ 5

 

สำหรับดิฉัน ดิฉันยึดคุณพ่อและลพ.พุธค่ะ ^_^ พอฟังลพ.พุธแล้วนึกถึงการปฏิบัติที่ปล่อยให้เกิดความคิดไป แต่มีสติกำหนดดูตามความคิดไป จนหมดแรง ปิติก้อเกิดเรื่อยๆ ล่าสุด ดิฉันปฏิบัติได้แค่นี้ แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณพ่อบอกว่า ดิฉันจะทำฌาน๔ไม่ได้ ให้ทำแค่ขณิกสมาธิ แล้วจิตจะเข้าสู่ความละเอียดประณีตไปเอง คือดิฉันอยากได้ฌาน๔ก้อกำหนดเป้าหมายไว้ มันจึงเป็นความอยาก และเป็นการฝืนจิตตัวเองด้วย คนที่วิตกจริต คิดทั้งวันทั้งคืน บางทีเราก้อไม่ยอมจับลมหายใจนะคะ แต่ใช้ปัญญาอบรมสมาธิได้ และจิตเค้าจะเข้าสู่ความสงบได้เอง

ไว้ดิฉันจะมาคุย เรื่อง ลักขณูปนิชฌานนะคะ ตอนนี้พักก่อน ธรรมะ สำหรับดิฉันเหมือนสายน้ำเอื่อยค่ะ เป็นธรรมชาติ เร่งรีบ รู้เยอะๆไป แต่ปฏิบัติไม่ได้ก้อไม่มีประโยชน์ ไม่เหมือนคนสมัยก่อนอยู่กับคำบริกรรมพุทโธตลอดวัน ดิฉันก้อเคยจับคำบริกรรมพุทโธอย่างเดียวค่ะ แต่พอมีอกุศลโทสะขึ้นมาแรง มันเป็นสัญญาเห็นคุณพ่อบอก ดิฉันเลยกลัวที่จะบริกรรมพุทโธค่ะ บางทีเราเกร็งกับคำบริกรรม และการจับลมหายใจ มันก้อเกิดอาการเกร็งเคร่งที่สมอง เป็นการฝืนธรรมชาติ