รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 25 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    รับทราบค่ะ ^_^
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    รับทราบค่ะ ^_^
     
  3. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ปลงอสุภะเค้าปลงกันแบบนี้ หรอคะ? ดิฉันว่าเหมือนวิปัสนึกเอามากกว่ารึเปล่า ไม่ใช่วิปัสสนา ที่เป็นการกำหนดรู้ .. รอผู้รู้ชี้แนะค่ะ แต่คุณเก่งนะคะ ดิฉันทำเบเกอรี่ไม่เป็น เลยไม่รู้ส่วนผสมของมาการองและไอติม
    มีพระสงฆ์ในกลุ่มไลน์แนะนำให้ดูอุจจาระปัสสวะของตัวเองบ่อยๆ อันนี้เค้าเรียกว่าอาหารเรปฏิกูลสัญญารึเปล่าคะ จับชื่อแนวการปฏิบัติไม่ได้

    เรื่องการปลงอสุภะ ต้องมีกำลังสมาธิในการพิจารณา ถ้าไม่มีกำลังสมาธิมันจะกลายเป็นสังขาร คือ ปรุงแต่งอารมณ์ เป็นวิปัสนึก นึกคิดจินตนาการ.

    สมาธิ มี ๓ ขั้น ดังนี้

    ๑.) ขณิกสมาธิ
    คือสมาธิที่เข้าไปตั้งมั่นในอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ชั่วขณะหนึ่ง ๆ คำว่าชั่วขณะหนึ่ง ๆ ในที่นี้หมายความว่าเมื่อจิตเข้าไปรับรู้อารมณ์ใด สมาธิก็เข้าไปตั้งอยู่ในอารมณ์นั้นตลอดเวลาที่จิตยังรับรู้อารมณ์นั้นอยู่ แต่เมื่อจิตเปลี่ยนไปรู้อารมณ์อื่น สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นในอารมณ์ใหม่ที่จิตเข้าไปรู้อยู่นั้น เมื่อจิตเปลี่ยนไปรู้อารมณ์อื่นอีก สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นในอารมณ์อื่นที่จิตเข้าไปรู้นั้น เพื่อความเข้าใจในเรื่องนี้จะขอหยิบยกเอาตัวอย่างมาแสดงให้เห็นลักษณะของขณิกสมาธิสักเรื่องหนึ่ง
    โดยปกติ อารมณ์มีรูป เสียง กลิ่น รส เป็นต้น ย่อมมาปรากฏให้จิตได้รับรู้ตามทวารต่าง ๆ อยู่เสมอ เป็นระยะเวลาสั้นบ้าง ยาวบ้าง ตามสมควรแก่ปัจจัย เมื่อรูปารมณ์มาปรากฏทางทวารตา จิตที่รู้รูปารมณ์นั้นก็เกิดขึ้น สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นในรูปารมณ์นั้นตลอดเวลาที่จิตยังรับรู้รูปารมณ์นั้นอยู่
    แต่เมื่อมีเสียงมาปรากฏทางทวารหู จิตที่รับรู้รูปารมณ์อยู่นั้นเปลี่ยนมารับรู้เสียงทางทวารหู สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ที่เสียงนั้น เช่นนี้เป็นต้น
    หรือในกรณีของผู้ที่เจริญวิปัสสนาในอิริยาบถบรรพ ในขณะที่นั่งอยู่ จิตก็มีรูปนั่งเป็นอารมณ์ สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในรูปนั่งนั้นตลอดเวลาที่ยังไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถ แต่เมื่ออิริยาบถนั่งถูกทุกข์บีบคั้นให้เปลี่ยนอิริยาบถเป็นยืน สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในอิริยาบถยืน เมื่ออิริยาบถยืนถูกทุกข์บีบคั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนมาเป็นอิริยาบถนั่ง สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในอิริยาบถนั่งนั้นอีก
    เมื่อเจริญวิปัสสนาไปจนวิปัสสนาญาณเกิด สังขารทั้งหลายปรากฏแก่ผู้เจริญวิปัสสนาโดยอาการไม่เที่ยงบ้าง เป็นทุกข์บ้าง เป็นอนัตตาบ้าง ขณะที่เห็นสังขารโดยความไม่เที่ยง สมาธิก็เข้าไปตั้งอยู่ในความไม่เที่ยง ต่อมาเปลี่ยนมาเห็นสังขารโดยความเป็นทุกข์ สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในอาการที่เป็นทุกข์ ต่อมาเปลี่ยนมาเห็นสังขารโดยความเป็นอนัตตา สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในอาการเป็นอนัตตา สมาธิที่มีลักษณะเปลี่ยนอารมณ์และเข้าไปตั้งมั่นในอารมณ์ที่มาปรากฏตามทวารต่าง ๆ เพียงชั่วขณะหนึ่ง ๆ นี้เรียกว่า ขณิกสมาธิ เป็นสมาธิที่ต้องมีในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
    ๒.) อุปจารสมาธิ
    คือ สมาธิที่ใกล้จะถึงอัปปนาสมาธิ เป็นสมาธิที่มีกำลังมากกว่าขณิกสมาธิ สามารถเข้าไปตั้งอยู่ในอารมณ์เดียวได้ โดยไม่เปลี่ยนไปรับอารมณ์อื่น ๆ แต่เนื่องจากกำลังยังไม่มากพอ จึงตั้งอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้ขณะหนึ่ง แล้วก็ตกภวังค์ แล้วก็กลับเข้ามาตั้งอยู่ในอารมณ์เดิมนั้นอีก อุปจาระสมาธินี้ ย่อมมีแก่ผู้เจริญสมถกรรมฐาน จนเกือบจะสำเร็จอัปปนา สามารถข่มนิวรณ์ได้
    ๓.) อัปปนาสมาธิ
    คือ สมาธิที่เข้าไปแนบแน่นกับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งจนไม่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้ เช่น ผู้ที่เพ่งปฐวีกสิณจนฌานจิตเกิดสมาธิเข้าถึงอัปปนา แนบแน่นกับปฐวีกสิณ ถ้าผู้นั้นออกจากฌานแล้ว ภายหลังจึงเข้าฌานนั้นอีก อัปปนาสมาธิก็จะมีอารมณ์เป็นปฐวีกสิณเหมือนเดิมอีก จะเปลี่ยนไปรับอารมณ์อย่างอื่นที่นอกจากปฐวีกสิณไม่ได้เลย สมาธินี้สามารถข่มนิวรณ์ได้เช่นเดียวกับอุปจาระสมาธิ
    เหตุที่การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ต้องใช้สมาธิที่เป็นขณิกสมาธิก็เพราะการเจริญวิปัสสนานั้น ไม่ใช่เป็นการทำจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์อันเดียว แต่เป็นการเจริญภาวนาที่ต้องพิจารณาอารมณ์ที่มาปรากฏตามทวารต่าง ๆ เพื่อให้รู้ลักษณะของอารมณ์แต่ละอย่าง ๆ ตามความเป็นจริง และอารมณ์ที่มาปรากฏเฉพาะหน้าตามทวารต่าง ๆ นั้นก็มีหลายอย่าง แตกต่างกันไป สุดแต่ว่าจิตจะปรารภที่จะรับรู้อารมณ์ใด สมาธิก็เข้าไปตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ตามที่จิตปรารภเป็นขณะ ๆ ไป ซึ่งสมาธิที่เข้าไปตั้งอยู่ในอารมณ์เป็นขณะ ๆ นี้เรียกว่า ขณิกสมาธิ
    ฉะนั้น การเจริญวิปัสสนาจึงต้องมีขณิกสมาธิเข้าร่วมด้วยเสมอไป ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นบาทให้ปัญญาได้เข้าไปพิจารณาเห็นความจริงในอารมณ์ที่สมาธิเข้าไปตั้งมั่นแล้วนั้น
    สมดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า “น หิ ขณิกสมาธํ วินา วิปัสฺสสนา สมฺภวติ” แปลว่า
    “เป็นความจริงว่า เว้นขณิกสมาธิเสีย วิปัสสนาหาเกิดได้ไม่”
    ความทั้งหมดมีดังนี้.


    อ้างอิงจากปัญญาสาร มูลนิธิแนบมหานีรานนท์ ฉบับที่ ๑๓๐
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอบพระคุณมากค่ะ /||\ การเจริญวิปัสสนาแค่ขณิกสมาธิก็พอแล้ว หลายปีก่อนดิฉันก็ปฏิบัติแบบข้างต้นที่ยกมาค่ะ ลืมที่เคยปฏิบัติมาเลยจริงๆ
     
  5. เพียงเงา

    เพียงเงา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +37
    สอนคนอื่นเป็นวรรคเป็นเวรแต่ไม่ย้อนสอนตัวเองตามจริงเล๊ยยยย :boo:
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เหอะๆๆๆ ใครมันจะสติรั่วเหมือน Sriaraya5 ได้
    เพราะไม่มีใครคิดว่าตนเองเป็นพระเยซูคริสต์กลับชาติมาเกิดเหมือนกับ Sriaraya5
     
  7. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
    ขอบคุณนะครับ
    ไฟล์นี้ ยิ่งเหมือนกันครับ

    ไม่มีศาสนาไหนจะมีวิปัสนาญาณ นอกจากพุทธศาสนา

    ...................................

    เรื่องนอกอีกหน่อย

    หากพี่ศรี จะเอาข้อมูลในไฟล์นี้ที่ว่า
    บรรลุแล้ว ไม่ต้องไปถามใคร ยืนยันด้วยตัวเองได้

    ผมน่ะเห็นด้วย เพราะธรรมเป็นสันฐิติโก ยืนยันด้วยตัวเอง


    แต่ความต่างมันอยู่ที่ว่า

    หลังจาก บรรลุธรรมแล้ว คำสอนและคำแนะนำแนวทาง
    ทุกท่านจะเหมือนๆกันหมด ไม่มีออกนอกแนวพระรัตนตรัย


    อะไรที่มันออกแนวแหวกกอ มันเป็นของปลอมนะพี่ศรีน๊า

    กลับตัวตอนนี้ยังทันนะครับ เอาแค่นี้ก่อนก็ได้ครับ

    ไว้ได้จังหวะใหม่ หายใจให้คล่องก่อน
     
  8. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณนิวรณ์ร่ายกลอนจีบคุณYostro1310หรอคะ คิกๆๆๆ ^0^
     
  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^ ^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    แค่นี้ ยังสรุปอะไรไม่ได้นะครับ

    การไปด่วนสรุป ก็ไม่ต่างจากเหตุการณ์ในเรื่ิอง ราโชมอน หรืออุโมงค์ผาเมือง

    หรือเหมือนเหตุการณ์ ในคดีอาญา นาย ก ตายในห้องตนเองที่บ้านตนเอง มีคนเห็น นาย ข แถวบริเวณหน้าบ้าน ชาวบ้านคือ ค เป็นพยานบอกว่าเห็น นาย ข กระหืดกระหอบออกจากหน้าบ้านนาย ก ถ้าการสอบสวนแบบเดิม นาย ข ถูกจับ แต่เผอิญเพิ่มเรื่องเข้าไป ตำรวจพบลายมือแฝงในบริเวณบ้าน แต่ไม่พบลายมือนาย ข ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เป็นลายมือ นาย ง นาย ง รับสารภาพ ปีนเข้าทางหน้าต่าง จะไปขโมยเงินในห้อง แต่นาย ก มาพบ เลยเป็นเรื่องสุดท้ายนาย ก ตาย

    เฉพาะคำพูดของชาวบ้านแค่นี้ ไม่อาจบ่งบอกอะไรได้เลย เหมือนในพระไตรปิฎก พระโพธิสัตว์ออกบวช ภริยา(อดีตชาติพระนางพิมพา) ได้ไปคอยถวายข้าวน้ำเป็นประจำ ชาวบ้านก็รู้ใช่ไหม พระโพธิสัตว์จิตใจตัดขาดหมด บริสุทธิ์ ทำใจกับอดีตภริยา แค่ โยมอดีตเมีย แต่ชาวบ้านก็ต้องพูดว่า เมียของพระโพธิสัตว์ ถูกไหม ข้างภริยาพระโพธิสัตว์บารมียังอ่่อนกว่า ชาตินั้น ไม่ตัดความรู้สึกได้หมด แม้ไม่มีสัมพันธ์ทางกาย แต่ว่าใจยังไม่ตัด เมื่อวันหนึ่ง มาถวายของ พบเห็นนางกินรีมาเข้าเฝ้ากราบกรานฟังธรรมจากพระโพธิสัตว์ นางมโนไปว่าพระโพธิสัตว์คงตบะแตก เลยต่อว่าต่อขานทำนองว่า ติดใจ หลงในความสวยของนางกินรีใช่ไหม ก็ว่าแค่นั้น พระนางพิมพายังต้องขอขมาลาโทษพระพุทธองค์ด้วยอดีตกรรมข้อนี้

    ที่ท่านเล่า ที่ท่านเห็น เนื้อความไม่อาจชี้ได้ว่า หลวงพ่อฤาษีลิงขาวมีภริยาในขณะดำรงสมณะเพศ นอกจากนี้ คำพูดชาวบ้านตามท้องเรื่องที่ท่านเล่า ก็แค่บอกว่า ภริยาหลวงพ่อ ไม่อาจทราบว่า ถามชาวบ้านกี่คน ถามคนไหน บางคนจิตใจอิจฉาริษยาก็มี ถ้าไม่มีธรรมะ บางทีเห็นโยมหญิง เห็นชีพราหมณ์หญิง ทำบุญถวายพระ ปวารณาในการถวายทำบุญ ตักบาตร ช่วยเหลือปัจจัยอันจำเป็น บางทีอิจฉา ก็ว่า เป็นเมีย ในความรู้สึกคนที่อิจฉา คงจะคิดว่า ทำตัวเป็นเมีย เมื่อจิตไม่ดีก็พูดรวบๆ สั้น ๆ แบบว่าไม่ชอบ

    ดังนั้น หากหลวงพ่อฤาษีลิงขาว เป็นพระภิกษุ การกล่าวด้วยข้อเท็จจริงด้วยเข้าใจว่า เป็นพระมีเมีย เค้าคนอื่นทั่วไปที่อ่านจะเข้าใจว่า กล่าวหาท่านว่าในขณะครองเพศสมณะมีเมีย ซึ่งเป็นการกล่าวว่าท่านผิดศีลข้อร้ายแรง เป็นหมิ่นประมาททางอาญานะครับ ส่วนทางธรรมต้องพิจารณาเอาเอง

    ถ้าเราไม่แน่ใจ เวลาจะเขียนหรือพูดในทางที่เป็นผลเสียหายแก่ผู้อื่น เราไม่ควรพูดด้วยหลักฐานเพียงเท่านี้

    ในทางคดีความ จะอ้างว่าเข้าใจโดยสุจริต ไม่ได้ เพราะถือว่า ไม่พิจารณาให้รอบคอบ ในเมื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ศาลฟังว่า ข้อความนี้ ผู้เขียน
    ผู้พูด ผิดฐาน หมิ่นประมาทบุคคลอื่น แล้วครับ
     
  11. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275

    ขอเสริมอีกนิดนะครับ ขณิกสมาธินั้นยังมีนิวรณ์ ๕ รบกวนอยู่มาก แนะนำให้ทำสมาธิให้ได้ระดับอุปจารสมาธิ ขึ้นไป จนถึงระดับ อัปนาสมาธิคือระดับ ปฐมฌาน ถึงจตุตถฌาน ได้ยิ่งดี เพื่อดับนิวรณ์ ๕ เสียก่อน เมื่อต้องการจะปลงอสุภกรรมฐาน ให้ถอนกำลังมาอยู่ที่ขณิกสมาธิ แล้วจึงทำวิปัสนากรรมฐาน ตอนนี้ผลของสมาธิขั้นสูงยังมีอยู่ นิวรณ์ ๕ ยังไม่เข้ามารบกวน การพิจารณาธรรมใดๆก็จะเห็นชัด เห็นง่าย เสมือนบ่อน้ำขุ่นที่ตกตะกอนใสแล้ว ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่านเทอญ.
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไหนๆ ก็ไหนๆ และ เห็นเจ้าของกระทู้ ชวน "อริเยอะ(ป๋ม)" คุย
    จะ นิ่งเสียเป็นหลักปฏิบัติให้ดู เดี๋ยวก็ งง ไปกันใหญ่ ขอพูดมั่งก็คงล่ายเนาะ

    แต่ไม่รับประกัน ฝาด ขวดน้ำตาลไหม้ นะเว้ยเฮ้ย ( ถ้าไม่อยากให้แตะ
    ก็อย่า ชวนคุย )


    ***************

    รูปแทนตัวก่อนหน้า ที่ว่า โครงหน้าดี อันนั้น " พิมพมาดา " ดาราที่เป็น
    เมร็งแล้ว " กำหนดรู้ทุกข์ " ด้วยจิตตรงต่อธรรม ทำให้เธอมี โอกาสได้
    เข้าหา พระที่ใช่ ได้มุขนัยในการปฏิบัติที่ สบาย "กำหนดการตายก่อนตาย"
    เลย ภาวนาเข้าเป้า ....เราก็เลย เอารูปมาแทนตัวเพื่อ ยอยกพระพุทธศาสนา


    *****

    เรื่องจีบ โยซูสตรอย ไม่ได้จีบ แค่ตัดแปะ เพลงของ นักเขียน ที่คุณไม่เคารพนับถือคนหนึ่ง
    เลยทำให้ไม่รู้ว่า เขาแต่งไว้

    ****

    ทีนี้ ที่อดไม่ได้ ต้องขอคุย คือ จะมา ชม ผู้หญิงฉลาด ไม่ได้ โง่ ซ้ำสอง
    อันเกิดจาก พี่จี๋ (ใครก็ไม่รู้นะ)

    พี่จี๋ แกเก่งเรื่อง พูด แกะ กับ แพะ ให้อยู่ใกล้ๆกัน เหมือนมันชนกัน
    แต่จริงๆ ไม่ได้ชนกัน พี่จี๋เขาช่ำชองเรื่อง การเขียนข้อความบนเว็บ
    มาสามสิบปีได้ ไอ้ที่เขียนแล้ว จะโดนกฏหมายเล่นงาน อันนี้ต้อง
    พินาให้ดี ต้อง เก่งให้สมเป็นผู้หญิงเก่ง ที่เห็นได้ว่า มันเป็น ประโยค
    สองประโยค สามประโยค ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เอามาพูดต่อๆกัน

    ดังนั้น เอารูป แพะ ชนแกะ กับ รูปปลาไหล มาแสดง นี่แปลว่า กำหนดรู้
    การฟัง พี่จี๋ ได้ ฟัง พี่จี๋ เป็น ฟังเป็นจะไม่ ด่าพี่จี๋ ไม่ชื่นชมพี่จี๋ มีแต่นิ่ง
    เนี่ยะ แค่นี้ก็ ปฏิบัติเข้าใกล้โสดาบันแล้ว ไม่ต้องไป อัปนงอัปนา อุปจารเฮียๆ
    ฮาๆ เท่านี้ใช่ อย่างอื่นเปล่า เอาปัญญาอบรมสมาธิไป แค่นี้ก็เห็นได้ว่า

    ปิดอกุศล ไม่ให้ส่งถึงจิต จิตไม่สัดส่ายไปในอกุศล ปิติมันเกิด ปัสสัทธิมัน
    แสดงความรำงับที่จิต ไม่เอาอามิส สุข สำราญใจ กูเก่ง เนี่ยะ จิตตั้งมั่น
    แทงเข้า โพฌชงค์ ได้แล้ว

    ส่วนผู้ชายโง่ๆ อ่านไม่เป็น ฟังไม่เป็น

    เห็นประโยค 1. พี่จี๋สมอ้างว่า เสวนาถามตอบ กับ พระองค์หนึ่ง
    แต่ ประโยคที่ 2 ระบุว่า ชาวบ้านพูด ....

    สองประโยคนี้ ต่างกรรม ต่างวาระ คนละเรื่อง คนละราว

    ส่วนประโยคที่สาม ก็พูดลอยๆ ไม่รู้จะทำอะไร ชั่วช่างชีดีช่าง
    สงฆ์ (ถูกต้องตรงธรรม อีกต่างหาก ถ้าจะให้คะแนน )

    แต่ ผู้ชายเว้ยเฮ้ย เสียสะติด โดน พี่จี๋หลอก พูดฮาอะไรไม่รู้ เป็นวรรคเป็นเวร

    จะไปโทษ พี่จี๋ ก็ไม่ได้

    อายเฮียนี่ มันแค่ อยากเล่าสิ่งที่มันสำคัญตัวว่า มันฟังมาคนเดียว มัน
    อยากเล่าว่า มันรู้ ในเรื่องทีคนอื่นไม่รู้ โง้นนนนบานลาย !!!


    ส่วน เก๊กเธอม นี่อีกหน่อย ก็ เฮีย อีกไม่นาน เข้าสำนักโน้น ออกสำนักนี้
    ไปขนคำสอนอ่านเข้าตา เอ๊อะใช่ อันนั้นที อันนี้ที ไปเอา ข้อเขียนจานลาย
    ของ สมาชิด ศิกมันฟรอย มักกะโท ดอกไม้เย็น มาโพส นี่ก็ โง่ปิดนิพพานไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2016
  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณนิวรณ์รู้เรื่องแล้วทำไมไม่บอกดิฉันตรงๆ ให้ดิฉันสับสนไปเรื่อยๆ ดิฉันสะกิดใจนะ ช่วงเวลาที่คุณศรีโพสปมตัวเอง เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ดิฉันโพสปมตัวเองขายตัวเอง มันตรงกันแปลกๆ เหมือนคุณศรีทำตัวอย่างให้ดูเป็นเงาสะท้อนของสิ่งที่ดิฉันแสดงออกดิฉันมองว่าคุณศรีกำลังสอนบทเรียนกับดิฉัน แทนการพูดตรงๆ ว่าเห้ย!แกออกนอกทางแล้วว่ะ

    คุณนิวรณ์ความรู้เยอะ ทีหลังพูดอะไรตรงๆดีกว่าค่ะ จะเหน็บไปเหน็บมาทำไม แล้วเพลงที่ว่าใครเป็นคนร้องล่ะ จีวันแบนหรอ ดิฉันไม่ได้ติดตามรู้ไปทุกอย่างนี่

    และแม้จะไม่ฟังครูอ้อยแล้ว ใช่ว่าดิฉันจะทิ้ง เพราะคำสอนหลายอย่างมีประโยชน์กับชีวิตฆราวาสมาก
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ ขออนุญาติ โยนผ้าขาว เอา นักมวย ออกมาอีกคนหนึ่ง

    นักมวย ยอสตรอย


    พี่จี๋ อะไรนี่ ลองไปพินาดูหลายๆ กระทู้ ประกอบก็ได้ จะเป็นการโพส
    แบบ ประโยค1 2 3 4 ที่มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย โพสสลับไป สลับมา

    ทางเทคนิค ว่า ด้วยกฏแห่งกรรมคือ อาการธรรมแตก คนปรามาสรัตนไตร
    เขาจะเป็นกันอย่างนี้ ดังนั้น เราจะไม่ซ้ำเติม คนที่ เวรกรรม กำลังให้ผล !!!

    เราอย่าไป แปลความหมาย ไปเชื่อมประโยค ให้กลายเป็นเรื่องเป็นราว

    ถ้าไม่เอา ความยินดี ยินร้าย ไปส่งประโยคให้มันเชื่อมกัน สังเกตเลย

    มันจบลงด้วยการ ไม่ต้องหยิบจับขึ้นมา ไม่ต้องต่อว่า ซ้ำเติมคนที่
    เวรกรรมกำลังให้ผล


    โน้นแหละ หากมี จังหวะดีๆ ให้เขา ขอขมารัตนไตร แบบสมาชิกท่านหนึ่ง
    ก่อนหน้า มาจากที่ราบสูง (ไม่รู้ ยอสตรอยบ มาทันอะเป่า) เขา ขอขมารัตนไตร
    แค่ วางใจระลึกถึงกิจ แค่นั้น ก็ สงบสำรวมคำพูดได้ เป็นระยะๆ แต่พักหลังนี่
    หายไปจาก บอร์ดแล้ว

    เหลือแต่ สมาชิกหญิงไม่ใช่ชายไม่เชิง ที่ เพื่อนไปภาวนาตายกลางป่า แล้วเที่ยว
    ด่าพระ !! อันนี้ ยังเห็น ร่องรอย ธรรมปิด ธรรมชักสะพาน ...แต่ก็เห็นว่า อ้างว่า
    ขอขมารัตนไตร อยู่......ก็เลยดีบ้าง ร้ายบ้าง สลับไปสลับมา ยังมาให้เห็น

    ดังนั้น

    ขออนุญาติโยนผ้า ปรับให้แพ้ แล้วไม่ต้องไปเอา อะไรกับ พี่จี๋ เลยฮับ

    ลองดู แล้วกำหนดรู้ลงที่จิต เข้ามาเลย ไม่ต้องรอ อัปนง อัปนา สันติ !!!
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พูดตรงไม่ได้ คนยังไม่จริงใจ ซื่อตรงต่อธรรม จะมาโทษ คนพูดไม่ได้

    คนกล่าวห้องนี้ พูดสละออก พอไปห้องกฏแห่งกรรม ก็กอดกวัดรัดรึงเอาไว้
    ไม่ซื่อตรงต่อธรรม

    จิตไม่ตรงต่อธรรม อ่านอะไร ต่อให้เขียนตรงๆ ตรงเผงเลย ก็หาว่า !! พูดกระทบกระเทียบ ไม่กล่าวตรงๆ

    โทษคนพูดไม่ได้หรอกฮับ ต้อง พินาที่ จิต ที่มันปลิ้นปล้อนอันนั้นก่อน
    เนี่ยะ พูดตรงนะ ไม่ใช่ กระทบกระเทียบ พูดไม่ตรง !!
     
  16. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    โถ่ คุณ น่าจะพูดอย่างนี้ตรงๆ สะกิดกันบ้าง เพราะดิฉันผีเข้าผีออกอยุ่ มันอิลักอิเหลื่อ
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็อย่าไป เชื่อ ที่ จิตมันปรารภว่า เป็นตน ตนมี ตนเป็น จิฮับ

    ยกเห็นเป็น กองสัญญาขันธ์ เกิด ดับไปเลย

    เอา สัมมาทิฏฐิ เป็น ประทานแวดล้อม มรรคอีก7 ก็พรึบ สมังคี ได้

    ไม่ต้อง ขณิโกะ ขณิกะ อัปปนง อัปปนา สันติ อะไร ยังได้ !!!
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยกตัวอย่าง

    นางปฏิกัญจรา(เถรี) ก่อนบรรลุธรรม ก็อยากมีรัก หนีตามคนใช้
    ออกจากบ้าน ทำรักต้องห้ามให้กลายเป็นจริง

    หนีไปแล้วแล้ว ก็ท้องมีน้อง อยากมี ทายาทสืบสมบัติ การงาน
    แต่ตอนจะคลอด ก็อยากไปคลอดบ้านพ่อแม่ ก็เลยกระเตงลูก
    ชวนสามี ไปขอขมา

    ระหว่างทาง ลูก ผัว ตายโหงหมด พอไปถึง บ้านพ่อแม่ ก็ตายโหง
    ไฟครอกตายไปอีก ก็เลย เสียสติเป็นบ้า

    จิตมันบอกว่า กูต้องบ้า กูต้องเสียสติ กูสองขั้ว กูเลว กูไม่มีการงานที่ดี ไม่เชื่อพ่อแม่

    ตำหนิจิต โดนจิตมันหลอก ให้จิตมันหลอก แล้วไปเชื่อมันกระซิบอยู่นั่น


    พระพุทธองค์ตรัสสั้นๆ กำหนดรู้เถิด( ก็เห็น สัญญาขันธ์เกิดดับ เกิดสติ บรรลุธรรม)




    ปล.ลิง ชื่อ บุคคลาธิษฐาน สะกดยังไง ถามเอาจาก ยอสตรอย ละกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2016
  19. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ธรรมะแบบไหนกันหนอ ที่ไม่ต้องใช้สมาธิอะไรเลย ใช้เพียงสัญญาที่จำจากตำรามา ก็พรึบสำเร็จเลยทีเดียว น่าสนใจๆ ง่ายดีจัง แหมแบบนี้มันน่าเผาตำรา " วิสุทธิมรรค " ทิ้งเสียแล้ว
     
  20. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ทำให้ได้สมาธิขั้นนี้ก้จะดีมาก เป็นมหากุศลแก่ผู้ปฎิบัติ ที่เขาได้ "สมาธิ" หรือ "จิตสงบ" ก็คือขั้นนี้แหละคับ

    แต่ถ้าทำได้อัปนาสมาธิ นี่เป็น "มหัคตกุศล" อธิษฐานจิตขึ้น อยากโทรจิตได้ ก้ต้องขั้นนี้ เพราะจิตมีกำลังสูง
    แต่ผมว่าทำได้แค่ อุปจาระ ก้ดีแล้ว จะไปเจริญต่อด้วยกาย40 หรือ สติปัฏฐาน หรือกายานุปัสสนา หรือ อสุภะ หรือความตายเป็นอารมณ์ มันได้หมดทั้งนั้น เพราะมันเหมาะกับการทำวิปัสสนาให้แจ้งจริงๆ

    จะฟังเสียงธรรมะหลวงพ่อฯ แล้วนั่งสมาธิไปด้วยก้ได้ ไม่มีอะไรผิด จุดมุ่งหมายคือนั่งยังไงให้จิตเราพัฒนาทั้งสมาธิ พัฒนาทั้งปัญญา เสียงเทศน์ของหลวงพ่อฯบางท่านนี้บางทีถูกกับจิตเรา ฟังแล้วจะรู้เย็นและผ่อนคลาย

    เข้าใจถูกต้องแล้วครับ อะไรที่น่ากังขา ก้อย่าเพิ่งไปเชื่อหรือมั่นใจว่าจริงเพราะมันไม่แน่ โลกนี้มีอะไรไม่แน่เยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...