หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระเกจิ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ปาปมุต"

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Northernwind, 5 พฤษภาคม 2016.

  1. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    ผมเชื่อว่าในเว็บพลังจิตนี้ มีพี่ๆเพื่อนๆที่เป็นลูกศิษย์ หลานศิษย์ หลวงปู่บุดดาอยู่หลายท่านนะครับ หากไม่เป็นการรบกวนเกินไปนัก เพื่อช่วยกันเผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์ ขอให้ท่านช่วยกันบอกเล่าประสบการณ์ หรือ เรื่องราวของหลวงปู่ เพื่อสาธารณชนทั่วไป ได้รับทราบรับรู้กิตติคุณของครูบาอาจารย์ และ สืบสานเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับหลวงปู่ไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลานะครับ
     
  2. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    _2_913.jpg
    หลวงปู่กับสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์

    หลวงปู่ท่านเรียกสรรพนามสมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์นี้ว่า “สมเด็จไส้ออก”

    เวลาท่านผ่านมาทางวัดบวรนิเวศ ถ้าพระองค์เห็นเข้าก็จะจูงมือหลวงปู่ขึ้นบนกุฎิปิดประตูสนทนากัน และจัดให้หลวงปู่จำวัดในพระตำหนักด้วย

    ท่านบอกว่า

    “ท่านบุดดามีพร้อมแล้วไม่ติดที่อยู่ พอออกพรรษาก็ออกไปเหมือนนกกระจอก อ้ายเรามันติดที่อยู่ที่นี่จนออกพรรษาแล้วก็ยังอยู่กับที่”
    ครูบาศรีวิชัย.jpg
    พบครูบาศรีวิชัย

    หลวงปู่จำพรรษา ณ วัดราชานิวาส สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้นคือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิตร ครูบาศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ หลวงปู่ได้ไปเยี่ยมท่านครูบาศรีวิชัยที่วัดเบญจมบพิตร ท่านเล่าว่า

    ครูบาศรีวิชัยเห็นหลวงปู่ไม่พาดสังฆาฏิ จึงทักท้วงว่า

    “เราเป็นนายฮ้อยก็ต้องให้เขารู้ว่าเป็นนายฮ้อยไม่ใช่นายสิบ”

    นี่คือสาเหตุที่หลวงปู่ท่านไปไหนก็ตามท่านจะพาดสังฆาฏิเสมอ ครูบาศรีวิชัยได้ถวายคนโทน้ำที่ท่านใช้ให้หลวงปู่ลูกหนึ่ง คนโทลูกนั้นคงยังอยู่ที่วัดราชาธิวาสนั่นเอง พอออกพรรษาท่านจากไปก็เพียงบาตร ห่อผ้าอาบน้ำและร่มเท่านั้น ถ้าออกป่าก็มีกาน้ำอีกลูกหนึ่ง
    พระฝ่ายปฏิบัติอื่น ๆ กับหลวงปู่

    พระฝ่ายปฏิบัติอันเป็นที่เคารพสักการะมีอยู่ทุกภาคและแทบทุกท่านมักจะได้เคยพบวิสาสะกันตอนจาริกธุดงค์ เพราะต่างก็แสวงหาสถานที่วิเวก และมีสิ่งเกื้อกูลอื่นๆ เหมือนๆ กัน สถานที่เช่นนั้นจึงเหมือนเป็นจุดนัดพบของพระฝ่ายปฏิบัติ และจุดสำคัญต่างๆ นี้ ท่านออกธุดงค์จะต้องผ่าน เช่น ภาคกลาง มีพระพุทธบาท พระพุทธฉายและเขาวงพระจันทร์ ภาคเหนือก็ พระแท่นศิลาอาสน์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ พระธาตุพนม และพระปฐมเจดีย์ของภาคกลางด้วย
    พระสายปฏิบัติฝ่ายธรรมยุต สายท่านเจ้าคุณอุบาลี และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สายนี้พูดได้ว่าหลวงปู่รู้จักเป็นส่วนมาก ที่พรรษาสูงกว่า หลวงปู่เรียก หลวงพ่อ เช่นเรียกหลวงพ่อมั่น หลวงพ่อเสาร์ และอาจารย์สิงห์ ฯลฯ รุ่นเรียก อาจารย์ ก็คือรุ่นราวคราวเดียวกันหรืออ่อนกว่า

    กล่าวได้ว่าสายปฏิบัติฝ่ายธรรมยุต กับฝ่ายปฏิบัติธรรมของมหานิกาย สายหลวงปู่เภา พุทธสโร และหลวงปู่บุดดา ท่านไม่มีความรังเกียจซึ่งกันและกันเลย จะเห็นได้จากประวัติของท่านสุภัทโท (เจ้าคุณโพธิญาณเถระ) นอกจากนั้น วัดมหานิกายที่ถือข้อวัตรปฏิบัติแบบหลวงพ่อเภากับวัดธรรมยุตของจังหวัดลพบุรีท่านก็มีการติดต่อกันอยู่เสมอ

    คราวหนึ่งหลวงปู่ได้พบหลวงพ่อสด จันทสโร จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โดยบังเอิญ ณ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ เมื่อได้สนทนาธรรมและร่วมทำวัตรสวดมนต์โดยมีหลวงพ่อเกรียง กิตติธรรมโม จากวัดหินหักใหญ่ ลพบุรีร่วมธุดงค์มาด้วย ได้ชวนกันจาริกไปพระธาตุดอยสุเทพโดยธุดงค์ไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาแรมเดือนจึงถึงจุดหมายแล้วเมื่อร่วมพักปฏิบัติธรรมอยู่ ๗๕ วัน ต่างก็แยกทางกันตามอัธยาศัย ซึ่งหลวงปู่ชอบธุดงค์องค์เดียว
    หลวงปู่ปานวัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา หลวงปู่เรียก หลวงพ่อปาน ท่านบอกว่า “หลวงพ่อปาน ท่านปรารถนาพุทธภูมิ” ท่านออกธุดงค์แต่ละครามีพระ เณร อุบาสิกา ติดตามเป็นขบวนยาวมาก ที่ที่ท่านพบกันเสมอก็คือบริเวณเขาวงพระจันทร์ที่ซึ่งในเวลาต่อมาหลวงปู่ปานได้มาสร้างเป็นวัดสะพานนาค

    สายครูบาศรีวิชัย นอกจากครูบาเอง ท่านยังสั่งมอบหมายไว้ ก็คือ หลวงปู่พระสุพรหมยานเถร วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งหลวงปู่มีความเคารพเป็นอย่างยิ่ง และนับถือพระสุพรหมยานเถรเป็นพี่ชายของท่าน หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่อยู่บ่อย ๆ ด้วยความปิติและเบิกบานในอมตธรรมเป็นอย่างยิ่ง
    ท่านพุทธทาสภิกขุ.jpg
    ท่านพุทธทาสนิมนต์หลวงปู่ไปสวนโมกข์
    ระหว่างที่หลวงปู่ได้จำพรรษาที่วัดราชาธิวาสนั้น ท่านพุทธทาสได้พบและสนทนาวิสาสะเป็นที่ถูกใจกับหลวงปู่ ถึงขนาดที่ท่านพุทธทาสภิกขุได้ออกปากนิมนต์หลวงปู่่ให้ไปจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม หลวงปุ่ได้กล่าวบอกกับท่านพุทธทาสว่า อย่าให้ท่านเป็นผู้ทำลายแบบแผนที่วางไว้เลย จากเหตุคราวนั้น ทำให้ท่านพุทธทาสแก้ไขระเบียบที่ว่าผู้ที่จะเข้าพำนักในสำนักของท่านได้ ต้องเป็นเปรียญหรือนักธรรมเอก มาเป็นข้อยกเว้นว่า หากไม่มีประโยคหรือประธานใด ๆ ท่านพุทธทาสต้องทดสอบเองก่อน

    เกี่ยวกับท่านพุทธทาสนั้น เมื่อคราว ที่หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปยังเพชรบุรีได้พบกับท่านพุทธทาสอีก ซึ่งต่อมาหลวงปู่บุดดาได้ไปเยี่ยมท่านพุทธทาสที่สวนโมกข์อีกหลายครั้ง บางครั้งก็พักค้างคืน ครั้งหลังสุดเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษาปี ๒๕๓๓ ท่านก็ยังไปเยี่ยมท่านพุทธทาส จวบจนหลวงปู่ปรารภว่าจะไม่ไปไหนอีกแล้ว
     
  3. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00001.jpg
    หลวงปู่บุดดา พยากรณ์หลวงปู่ดู่
    ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่บุดดาท่านไปเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่ดู่
    หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรีได้กล่าวกับท่านไว้ว่า


    “วันนี้ผมนำมงกุฎพระพุทธเจ้ามามอบให้คุณ นิมนต์อยู่ต่อเถิด ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ที่คุณปรารถนานั้นน่ะ สำเร็จแน่ ต่อไปคุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้า”

    ปกติหลวงปู่บุดดาท่านมักจะพกกระป๋องแป้งติดตัวอยู่เสมอเพื่อประทานให้แก่ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการ เมื่อหลวงปู่บุดดาและหลวงพ่อต่างกราบกันและกันเสร็จเรียบร้อยแล้วหลวงปู่บุดดาท่านได้ประทานแป้งใส่มือหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ดู่ท่านรับมาแล้วนำมาทาบนศรีษะ

    มีญาติโยมที่นั่งอยู่ด้วยเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า ทำไมจึงนำแป้งไปทาบนศรีษะ

    ท่านตอบว่า

    "ของพระอรหันต์ให้ แกจะให้เอาไปทาที่ไหนละจึงจะสมควร เดี๋ยวจะกลายเป็นความไม่เคารพ นอกจากบนหัวของเรา"

    เมื่อตอนประมาณปี พ.ศ. 2523-2525 ผู้เขียนก็ได้ข่าวว่าหลวงปู่บุดดาท่านจะละสังขาร ขณะนั้นหลวงปู่อายุได้ 88 ปี ผู้เขียนจึงพาคณะไปกราบแล้วก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะขออารธนาให้ท่านอยู่ต่อ แต่เมื่อไปถึง พอไปกราบท่านแล้วยังไม่ทันพูดอะไร ท่านก็บอกวา "จะขออยู่ต่ออีก 12 ปี เพื่อช่วยเหลือศาสนา" ทำให้ผู้เขียนรู้สึกทึ่งในญาณอันแจ่มใสของท่าน แล้วก้เป็นจริงดังนั้น เมื่อหลวงปู่อายุครอบ 101 ปี เกินมา 1 ปี ท่านก็นิพพานไป หลวงพ่อดู่เคยบอกว่า "หลวงปู่บุดดาก็คือพระอรหันต์องค์หนึ่ง"

    ในวันที่ผู้เขียนไปหาหลวงปู่บุดดานั้น ก็มีลูกศิษย์หลวงปู่บุดดาคนหนึ่งต้องการที่จะได้วัตถุมงคลของหลวงพ่อดู่ เมื่อได้ไปแล้วเขาก็ใช้การตรวจสอบทางจิต เสร็จแล้วเขาก็บอกว่า ทำไมพลังในพระนั้นถึงมีมากมายเกินกว่าที่เขาจะรับได้ เขาตั้งสติไม่ทัน ในที่สุดเขาก็ขอวัตถุมงคลนั้น และวัตถุมงคลนั้นก็คือ แก้วสารพัดนึกของหลวงพ่อดู่ และขอรูปอีก 1 ใบ โดยผู้เขียนขอเกศาของหลวงปู่บุดดาเขาเลยให้ตามความประสงค์ ก่อนที่จะกลับ เขาก็ได้เอารูปของหลวงพ่อดู่ไปให้หลวงปู่บุดดาพิจารณา เมื่อหลวงปู่บุดดาเห็นรูปหลวงพ่อดู่ ท่านก็บอกว่า "รูปนี้ให้นำไปเก็บไว้ในที่สูง อย่านำเอาไปไว้ที่ต่ำ" และท่านยังได้ฝากพระทอง (แต่จริง ๆ แล้วเป็นทองเหลือง) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกให้นำมาถวายหลวงพ่อดู่ หลวงพ่อดู่ท่านก็เคยบอกข้าพเจ้าว่า "แสดงว่าหลวงปู่บุดดานั้นรู้ด้วยญาณว่า หลวงพ่อท่านปรารถนาพุทธภูมิ หรือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า"
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ พระอริยะสงฆ์เป็นสรณะที่พึ่งคนโบราณจึงถือว่าพระรัตนตรัยอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้าด้วยเหตุผลฉะนี้
    ที่มา
    ถอดเทปการสนทนาธรรมบางช่วงที่สำคัญ เมื่อครั้งที่หลวงปู่บุดดา ถาวโร มาเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่วัดสะแก

    หลวงปู่บุดดา : เออ หายซะ หายใจไว้ ธรรมะไม่ป่วย ป่วยแต่ร่างกาย ธรรมะไม่ป่วยหร๊อก

    พระที่ติดตาม : พอบ่ายหน่อย หลวงปู่ชวนมาเยี่ยมหลวงปู่ครับ

    หลวงปู่ดู่ : ให้หายซะที

    หลวงปู่บุดดา : หาย หายซะ

    หลวงปู่ดู่ : อยากให้มามากๆมันจะได้ตายไวๆ

    หลวงปู่บุดดา : พระรุ่นเก่าหายหมดแล้ว ไม่มีใครป่วยแล้ว หายป่วยแล้ว

    หลวงปู่ดู่ : เมื่อวานนี้หลวงพ่อโง่นมา มาเยี่ยม

    หลวงปู่บุดดา : หายป่วย หายไข้ซะ

    หลวงปู่ดู่ : ให้สมองดีๆหน่อย จะได้ไปเกาะผ้าเหลืองพระพุทธเจ้า ไม่อยากอยู่แล้ว เต๊มที

    หลวงปู่ดู่บอกกับญาติโยม : นั่นไง น้ำร้อน น้ำแร้นน่ะ เอ้า ใครยังไม่ได้ (แป้ง) เรียงเข้ามานะ

    เอ้า ให้ท่านจับหัวเถอะ ไม่เป็นไรหรอก เหลือแต่แก่นแล้ว กระพี้หล่น

    โยมท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้วัด พูดขึ้นขณะทาแป้งเสกของหลวงปู่บุดดา : หมดโรคภัยไข้เจ็บ หมดทุกอย่างเลย

    หลวงปู่ดู่ : ข้าไม่เอาให้หมดโรคภัย ไข้เจ็บ ข้าเอาให้หมดกิเลส โลกเอาไว้หน่อย เดี๋ยวบ้านเขาพัง เขาจะขับตีเอาเข้า

    หลวงปู่บุดดา : พระพุทธ พระโสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์ น่ะพ้นได้ (ครับ ครับ ยัง ยังไปไม่ได้) มัจจุราชมันตามไม่ทัน (ครับ) ตามพระโสดาไม่ได้ ตามพระสกิทาคาไม่ได้ ตามพระอนาคาไม่ได้ ตามพระอรหันต์ก็ไม่ได้ มันหายตัวไปหมด ธรรมะก็พ้นได้

    หลวงปู่ดู่ ถามพระที่ติดตามหลวงปู่บุดดา : นี่ไปไหนมาด้วยรึ รึมานี่

    หลวงปู่บุดดา : มาจากวัดนั่นล่ะ พระทำงานอยู่ เณรทำงานอยู่ รถมันว่างก็เลยมาได้ ….. งานประจำวันไม่ว่างหร๊อก

    หลวงปู่ดู่กล่าวขึ้นขณะญาติโยมกำลังจะประเคนของถวายหลวงปู่บุดดา : ท่าน (หลวงปู่บุดดา) ทอดสะพานไปสวรรค์ให้

    พระที่ติดตาม : วันนี้ว่าง ไม่ได้ไปไหน หลวงปู่ (บุดดา) ชวนมาวัดสะแกกัน มาเยี่ยมพระป่วยหน่อย (ท่านบอก)….หายๆ



    หลวงปู่ดู่ : หลวงพ่อโง่นมาเมื่อวานนี้ บอกไม่มีอะไรแล้วล่ะ เอาไปทิ้งเขา

    พระที่ติดตาม : หลวงปู่เอาไปทิ้งคลองซิครับ

    หลวงปู่ดู่ : ไม่ไปคลองนี่ ผมก็อยู่แค่เนี้ย ไม่เดินไปโน่นหรอก …เหนื่อย

    หลวงปู่กล่าวกับหลวงปู่บุดดา : ที่ถวายนี่ เขาเอามาทำบุญด้วย สังฆทานมั่งอะไรมั่ง รวมๆไว้ เอาไว้สร้างวัด ท่านมาโปรดผม ก็เลยจ่ายไปโน่นก่อน มันไกล ที่ใกล้ๆนี่เอาไว้ต่อไป

    หลวงปู่ดู่ : เป็นบุญเหลือเกินล่ะ

    หลวงปู่ดู่กล่าวกับโยมท่านหนึ่ง : ทาไป ทาให้ขาวจั๊ว ไปบ้าน เอ๊ ใครหว่า มา ฮ่าๆ

    หลวงปู่ดู่สั่งให้ศิษย์ช่วยกันนำพระบูชาที่สร้างมาถวายพระที่ติดตาม …ประกอบด้วยพระปางประทานพร หลวงปู่ทวด และหลวงปู่เกษม เขมโก

    พระที่ติดตาม : เอาตัวหลวงปู่ไปไม่ได้เหรอครับ

    หลวงปู่ดู่ : ไม่ได้หรอก ต้องเลี้ยงแย่ซิ …. (ไม่เป็นไรครับ เลี้ยงได้) ไม่ ด๊ายยย เลี้ยงผมมันเลี้ยงยาก

    หลวงปู่ดู่แนะนำศิษย์ท่านหนึ่ง : กินเลยซิ กินเลยน่ะ เอ้ากินเลย เออ เชื่อข้าเหอะ ข้ากินแล้ว กินเข้าไปสองแก้วแล้ว

    พระที่ติดตาม : หลวงปู่กินข้าวได้แล้วนะครับ

    หลวงปู่ดู่ : อ้าว…ได้สองชามแล้ววันนี้

    หลวงปู่บุดดา : หายโรค หายภัยซะ ธรรมะรักษาหาย … ทศบารมีก็สิบ ทศอุปบารมีก็สิบ ทศปรมัตถบารมีก็สิบ บารมีสามสิบยังอยู่ (หลวงปู่ดู่ว่า…สามสิบแล้ว)

    หลวงปู่บุดดา : พระพุทธยังอยู่ พระธรรมยังอยู่ พระสงฆ์ยังอยู่ แต่อวิชชาไม่อยู่หร๊อก อวิชชามันหนีเราไปแล้ว

    หลวงปู่ดู่ : ดีแล้วมงคลอย่างสูงสุด หลวงพ่อท่านหา ท่านมาเองนะ ไม่ได้บอกให้ท่านมาน่ะ ท่านมาเอง เห็นว่างงานก็เลยมาเยี่ยม

    พระที่ติดตาม : หลวงปู่นึกถึงละมั๊ง

    หลวงปู่ดู่ : นึกถึง แต่ไม่ได้บอกให้มา นึกให้มาฉันจังหันที่นี่

    พระที่ติดตาม…..นั่นไง พอดีมีโยมมาจากกรุงเทพฯครับ ก็เลยมาไม่ได้

    หลวงปู่ดู่ : นึกเรื่อยเป็นที่พึ่งสรณะแล้ว ผมขอยึดถือ (หลวงปู่บุดดา) ตลอดชีวิตผม หลวงพ่อเกษมองค์นึง ตลอดชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2016
  4. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    ภาพหลวงปู่บุดดา ถาวโร กับพระเถระอาจารย์ต่างๆครับ นำมาให้พี่ๆเพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ เป็นอาจารย์ท่านใดกันบ้าง ลองชมภาพกันนะครับ
    00001.jpg
    หลวงปู่บุดดากับหลวงปู่ดู่
    00002.jpg
    หลวงพ่อชากับหลวงปู่บุดดา
    00021.jpg
    หลวงพ่อสังวาลย์กับหลวงปู่บุดดา
    00023.jpg
    หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)กับหลวงปู่บุดดา ถาวโร
    1234.jpg
    ภาพถ่ายเมื่อครั้งประชุมสงฆ์ช่วงระยะเวลาปีที่ทำการก่อสร้างพระเกษแก้วจุฬามณี ณฬถ้ำเขาภูคา
    จากซ้าย หลวงปู่เกลื่อน หลวงพ่อสังวาล์ หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระครูพลอย และพระที่ติดตาม
    AAA01.jpg
    หลวงปู่บุดดา ถวายสังฆทานภัตตาหาร แด่หลวงปู่สี ฉันทสิริ (หลวงปู่บุดดา ให้ความเคารพหลวงปู่สีเป็นอย่างมาก )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2016
  5. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    _paragraphparagraph__11_161.jpg
    หลวงปู่บุดดา เยี่ยมอาการอาพาธหลวงปู่คำคะนิง
    00006.jpg
    หลวงปู่บุดดากับครูบาพรหมจักร (หลวงปู่บุดาให้ความนับถือเปรียบเสมือนพี่ชายของท่าน)
    00005.jpg
    หลวงปู่เทศก์ เทสรังสีเยี่ยมหลวงปู่บุดดา
    00011.jpg
    หลวงปู่เย็น ทานรโตกับหลวงปู่บุดดา ถาวโร (หลวงปู่เย็นเป็นผู้ที่นมัสการหลวงปู่บุดดามาจำพรรษาประจำที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ในบั้นปลายชีวิตของหลวงปู่)
     
  6. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00008.jpg
    หลวงปู่บุดดา กับ หลวงปู่แว่น
    00003.jpg
    หลวงปู่บุดดา กับ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
    00004.jpg
    หลวงปู่บุดดา กับหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    00009.jpg
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย กับหลวงปู่บุดดา
    00007.jpg
    หลวงปู่คำพันธ์ กับ หลวงปู่บุดดา
     
  7. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00012.jpg
    หลวงปู่สิม กับหลวงปู่บุดดา
    00010.jpg
    ครูบาชัยยะวงศา กับ หลวงปู่บุดดา
    00017.jpg
    หลวงปู่บุดดา กับ หลวงพ่ออุตตมะ
    ดาวน์โหลด (4).jpg
    หลวงปู่บุดดา กับ หลวงปู่ชอบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images (2).jpg
      images (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.9 KB
      เปิดดู:
      801
  8. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00015.jpg
    หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ กับ หลวงปู่บุดดา
    12321244_761039080693321_3617026305683928015_n.jpg
    หลวงพ่อจรัญ กับ หลวงปู่บุดดา
    11311036_1604837629800532_1388103694_n.jpg
    หลวงปู่ท่อน กับ หลวงปู่บุดดา
    901.jpg
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(พ่อหลวงของเรา) กับ หลวงปู่บุดดา
     
  9. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    1203048294.jpg หลวงตามหาบัว.jpg
    หลวงตามหาบัว กล่าวถึงหลวงปู่บุดดา ถาวโร
    หลวงปู่บุดดาท่านเป็นเหมือนปู่เรานี่ จะว่าไง
    พระลูกศิษย์หลวงปู่บุดดาได้ไปหาเราที่สวนแสงธรรม เราก็ได้ถามถึงอาการของหลวงปู่ท่านว่า แต่ก่อนธาตุขันธ์ของท่านเป็นคุณเป็นประโยชน์ ทำประโยชน์ให้โลกมามากต่อมากนานแสนนาน จนกระทั่งอายุถึงปูนนี้ และได้เข้ามาอยู่ศิริราชแล้ว เวลานี้เพื่อจะลาขันธ์ไป เพราะขันธ์นี้ใช้ไม่ได้แล้ว นอกจากใช้ไม่ได้แล้ว ยังเป็นโทษรอบตัวอีก ไม่มีช่องว่างของขันธ์ที่จะไม่เป็นโทษต่อท่าน แล้วยังจะเอาท่านไว้อย่างนั้นอยู่เหรอ สมควรแล้วหรือ ให้ลูกหลานไปพิจารณานะ

    นี่อาจารย์ชาก็เป็นอย่างนี้นะ เราบอกตรงๆ เลย อาจารย์ชาก็เกี่ยวกับเราอีกเหมือนกัน คุ้นกันมาสักเท่าไหร่แล้ว แล้วนี่หลวงปู่บุดดาก็เหมือนกัน คุ้นกันมานาน สนิทสนมกันมาก ทั้งสององค์นี่กับเรานะ

    หลวงปู่บุดดาท่านเป็นเหมือนปู่เรานี่ จะว่าไง พอเราไปกราบที่ตักท่าน ท่านก็ อู๊ย จับโน่นลูบนี่ จับนั่นจับนี่เรานะ ท่านทำด้วยความเมตตาจริงๆ แหละ

    ท่านยังยกยอต่อลูกศิษย์ลูกหาของท่านเองด้วย เขาเอาเทปเราไปเปิดให้ท่านฟัง กัณฑ์เด็ดๆ เสียด้วยนะ ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟัง ท่านพูดเวลาจบแล้วท่านว่า ได้ยินชื่อท่านมานานและแหละท่านมหาบัวนี่ คุ้นกันมาสักเท่าไรแล้วยังไม่รู้อยู่เหรอ ว่าคุ้นกัน จะมาเล่าอะไรให้ฟังอีกล่ะ

    ที่นี้เมื่อพระมาหาเรา เราก็ฝากข้อคิดไปว่า เวลานี้ขันธ์ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับท่านแล้ว ลูกศิษย์จะหวังชื่นชมยินดีเพราะไฟคือธาตุขันธ์เผาไหม้ท่านอยู่อย่างนี้ สมควรแล้วเหรอ เวลานี้ไฟขันธ์เผาตลอดไม่มีว่างเลย ให้ไปพิจารณานะ


    ที่มา...หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์ หน้า ๓๙๓-๓๙๔
     
  10. saysin

    saysin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +370
    เรื่องนี้ ผมเคยสงสัย อยู่เหมือนกัน จนกระทั่ง มีโอกาส ก็เลยถามหลวงปู่ บุดดาเลย โดยถาม ว่า ....หลวงปู่ครับ หลวงปู่รู้จักแม่ชีบุญเรือน รึเปล่าครับ ....หลวงปู่ท่านตอบ เรียบง่าย ว่า ...ท่านได้อภิญญาจริงๆ นะ ....... คำตอบของหลวงปู่ คงตอบคลุมทุกอย่างนะครับ คำถามนี้ ผม ถามเอง ไม่อ้างอิงใครครับ
     
  11. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    images (4).jpg
    ช่วงปลายชีวิต
    ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงปู่บุดดาต้องเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อหายแล้ว ท่านได้กลับไปเยี่ยมและพักผ่อน ณ วัดบุญทวี ถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี ช่วงระยะหนึ่งเมื่อจวนเข้าพรรษา หลวงปู่เย็น ทานรโต เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.พักทัน จ.สิงห์บุรี ในสมัยนั้นได้นิมนต์ขอให้หลวงปู่ไปจำพรรษากับท่าน หลวงปู่จึงได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เย็นโดยมีพระมหาทอง กาญจโน ศิษย์และอุปัฏฐากผู้ใกล้ชิดติดตามมาอยู่ด้วย สำหรับวัดกลางชูศรีเจริญสุขนั้น ได้สร้างมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเป็นวัดร้าง หลวงปู่เย็นได้เริ่มดำเนินการบูรณะและก่อสร้างโบสถ์ขึ้นก่อน ต่อเมื่อหลวงปู่บุดดามาอยู่ ด้วยบารมีของท่านและหลวงปู่เย็น และด้วยการบริหารของพระมหาทองจึงทำให้วัดกลางชูศรีเจริญสุขพัฒนาขึ้นจนเป็นวัดที่มีความสมบูรณ์สวยงามสง่านับเป็นวัดที่ทันสมัยวัดหนึ่ง

    เนื่องจากคณะศิษย์จำนวนมากในช่วงหนึ่ง ทราบว่าหลวงปู่เป็นผื่นคันตามตัว ต่างคนต่าง ก็นำแป้งหอมชนิดต่าง ๆ มาน้อมถวายคราวละมาก ๆ เมื่อจะลากลับ หลวงปู่ได้เมตตานำแป้งที่ได้รับไว้กลับเอามา แล้วให้แบมือขึ้นเทแป้งใส่ให้ พร้อมกับบอกให้ทาแป้งมงคลเสีย กันขี้กลาก ขี้เกลื้อน กันหลง กันลืม ให้หายโรคหายภัย จนกระทั่งเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ ที่แจกแป้งมงคลให้คณะศิษย์ธรรมได้หน้าขาว สวยสง่าขึ้นทุก ๆ คน ซึ่งท่านจะแจกให้หมดทั้งพระสงฆ์ สามเณร และโยม พร้อมบอกว่า “ตั้งแต่ศีลแปดขึ้นไป ก็ทาเป็นยาได้.... เอาแป้งไปทาแล้ว มันหายโรคหายภัยได้จะว่าอย่างไรเล่า !”

    หลังจากจบกิจ พรรษาที่ ๔ แล้วท่านได้ออกจาริกทั่วทั้งประเทศไทยตลอดจนถึงพม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย และได้ออกเทศนาสั่งสอนทั้งภิกษุ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ด้วยการสั่งสอน โปรดสัตว์ ช่วยการก่อสร้างถาวรวัตถุระดับคุณธรรมให้สูงขึ้นทุกเพศชั้นวรรณะโดยหลวงปู่ได้ออกเยี่ยมเยียนจนถึงที่อยู่ เช่นเดียวกับสมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า ซึ่งได้กล่าวแก่สาวกทั้งหลายว่า จงจาริกไปเพื่อประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

    ในช่วงระหว่างปี ๒๕๒๒ จนถึง ๖ ก.พ. ๒๕๓๖ หลวงปู่คงจาริกไปโปรดศิษย์และญาติโยม โดยอาศัยรถพาหนะของรถวัดกลางชูศรีฯ และศิษย์ผู้ติดตามทั้งพระภิกษุ สามเณรและฆราวาส โดยเฉพาะพระครูโสภณจารุวัฒน์ (พระมหาทอง กาญจโน) รองเจ้าคณะอำเภอบางระจัน เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข และพระสมบุญ ญาณวิเวโกได้เฝ้าดูแลใกล้ชิด ติดตามท่านออกโปรดญาติโยมที่นิมนต์ท่าน แม้ว่าท่านเองจะไปด้วยตนเองไม่ไหวต้องอาศัยศิษย์ช่วยพยุงท่านเดินถึง ๒ ท่าน มีพยาบาลจาก รพ.สิงห์บุรีคอยดูแล หลวงปู่ก็ยังรับนิมนต์จากศิษย์และญาติโยมออกโปรดด้วยการแสดงธรรม หรือพุทธาภิเษก ฉัน รับสังฆทานร่วมพิธีต่าง ๆ อาจารย์มหาทอง กาญจโน เป็นเจ้าอาวาสและติดตามอุปัฏฐากหลวงปู่มาแต่ปี ๒๕๒๐ จนถึงที่สุดแห่งวาระชีวิตของหลวงปู่

    หลวงปู่ได้ปฏิบัติของพระศาสนาดังกล่าวมานี้ไม่สามารถจะหาที่เปรียบพระคุณหลวงปู่ได้ แม้กระทั่งว่า ศิษย์ได้สอบถามท่านว่าเวลาพักผ่อนของหลวงปู่เวลาจะหลับตั้งใจให้หลับ หรือว่าหลับไปเอง ท่านกล่าวให้ฟังว่า หลับไปเอง กลางวันทำงาน ๑๐ ชม. พักผ่อน ๒ ชม. และกลางคืนทำงาน ๑๐ ชม. พักผ่อน ๒ ชม. เว้นแต่หลวงปู่เจ็บป่วย

    จากการสอบถามและได้รับเมตตาจากหลวงปู่เล่าให้ฟังปะติดปะต่อมา หลวงปู่ได้เคยไปสนทนาธรรมพบปะ และเยี่ยมเยียนกันกับพระเถระที่มรณภาพไปแล้วหลาย ๆ ท่าน ได้แก่ ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่มั่น หลวงพ่อเติม หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อรุ่ง หลวงพ่อเงิน หลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อปาน มีทั้ง ๓ ปาน ครูบาพรหมจักร ท่านเจ้าคุณนรฯ เจ้าคุณอุบาลี สมเด็จพุฒาจารย์ (อาสภเถระ) หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ชา ท่านพุทธทาส หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่วัย หลวงพ่อสังวาลย์ หลวงพ่อพุธ ครูบาชัยวงษา หลวงพ่อแพ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่แว่น หลวงพ่อคง จันตตามโร ครูบาธรรมชัย หลวงพ่อมหาอำพัน หลวงปู่สาม หลวงปู่โง่น ครั้งป่วยอยู่ รพ.ศิริราชฯ และพระเถระที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้แก่ สมเด็จสังฆราชญาณสังวรฯ หลวงพ่อเพ็งฯ, หลวงพ่อ บุญเพ็ง, หลวงปู่เหรียญ, อาจารย์วิชัย, อาจารย์จำเนียร, อาจารย์จรัล, หลวงพ่อเหรียญ, หลวงพ่ออุตตมะ ฯลฯ

    ส่วนฆราวาส อุบาสก อุบาสิกา ที่นิมนต์หลวงปู่ ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่เลือกชั้นวรรณะได้โปรดอย่างทั่วถึง ผู้ที่ได้เคยใกล้ชิดท่านบ้างจะทราบได้ทันทีว่า บารมีหลวงปู่เมื่อไปอยู่ใกล้ท่านจะได้รับความสงบเยือกเย็นอย่างประหลาด แต่ก็ยังมีบางท่านไม่เข้าใจในปฏิปทาในช่วงที่ท่านอายุมากแล้ว เช่นหลวงปู่แจกแป้ง หลวงปู่จับเงินทอง หลวงปู่จับหัวสตรี หลวงปู่ห่มผ้าไม่เหมือนพระองค์อื่น หลวงปู่ไม่ค่อยจะสอนวิธีปฏิบัติ หลวงปู่นอนห้องแอร์ และอื่น ๆ เนื่องจากท่านเหล่านั้นไม่ได้ติดตามหลวงปู่เป็นเวลานาน ๆ เท่าที่ควร และเพิ่งจะได้พบหลวงปู่ช่วงที่อายุมากแล้ว ขอให้ท่านได้ติดตามศึกษาชีวประวัติท่านให้ตลอดก่อน และหลักธรรมคำสอนที่ท่านได้แนะนำให้มาตลอด

    ซึ่งหลวงปู่ได้เคยเตือนว่าในสมัยพุทธกาล เศรษฐีได้ถ่มน้ำลายไล่พระอรหันต์ขี้เรือนที่บิณฑบาตผ่านหน้าบ้านเศรษฐี ตายไปต้องตกนรกถึง ๕๐๐ ชาติ และชาติที่ได้สำเร็จเป็นพระโสดา ก็ยังต้องถูกโจรฆ่าตาย เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นได้พบหลวงปู่เวลาสั้น ๆ จึงขอให้ท่านขอขมากรรมและ ขออโหสิกรรมต่อท่านเสีย

    หลวงปู่เล่าว่า แม้ท่านจะจำพรรษาที่แห่งเดียวติดต่อกันบ้างบางแห่ง แต่ท่านว่า ท่านไม่เคยอยู่ที่ใดติดต่อกันตลอดทั้งปี เพราะพอออกพรรษาหลวงปู่ก็ออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าตามเขาจนอายุใกล้ ๗๘ ปี ร่างกายของท่านทรุดโทรมแล้วจึงหยุดเข้าป่าขึ้นเขา แต่ท่านก็ยังจาริกไปตามอัธยาศัย ท่านบิณฑบาตโดยไม่กลับย้อนหลัง บิณฑบาตที่เชียงใหม่ไปฉันที่เชียงราย คือวันหนึ่งท่านฉันมื้อหนึ่งและเว้นไปอีกวันท่านจึงฉัน จนกระทั่งท่านอายุมากแล้ว อายุ ๘๐ ปี ท่านจึงหยุดการปฏิบัติตนเองแบบเคร่งครัดเพื่อพักผ่อนกายสังขาร ตามคำนิมนต์ของบรรดาศิษย์

    อาจารย์มหาทอง กาญจโน เจ้าอาวาส วัดกลางชูศรีฯ เป็นผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาได้ติดตามอุปัฏฐากหลวงปู่บุดดามาแต่ปี ๒๕๒๐ เริ่มแต่วัดอาวุธวิกสิตาราม กทม. ได้กล่าวว่า “หลวงปู่เป็นพระพอดี ไม่ได้เกินดี ไม่ได้ขาดดี” เช่นถามเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ หนาวไหม หนาวพอดี ร้อนไหม ร้อนพอดี เกี่ยวกับการขบฉัน การเจ็บป่วย จะไม่เคยเรียกหาอะไรเพิ่มเติมเลย เวลาท่านฉัน ไม่เคยบอกก่อนเลยว่าท่านเจ็บป่วย ต้องสังเกตเอาเองและคอยสอบถามท่านว่าไม่สบายมีอาการเป็นอย่างไร
     
  12. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    000.jpg
    สำหรับพระอรหันต์ถึงแม้ว่ามีคุณวิเศษสามารถแยกจิตกับกายออกจากกันได้แล้วก็ตาม แต่ย่อมไม่สามารถที่จะบังคับให้กายสังขารทรงความมีชีวิตให้ยิ่งยืนนานตลอดไปได้ฉันใด กายสังขารของหลวงปู่บุดดา ถาวโร ก็เช่นเดียวกัน

    เมื่อวันที่ ๖ ก.พ. ๒๕๓๖ หลวงปู่บุดดาได้ไปร่วมพิธีทำบุญ ๑๐๐ วัน หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถร (หลวงพ่อฤๅษี) ณ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี หลังท่านกลับถึงวัดกลางชูศรีเจริญสุขแล้วเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. หลวงปู่มีอาการป่วยกะทันหัน พระครูโสภณจารุวัฒน์ (พระอาจารย์ มหาทอง) จึงได้นำส่งโรงพยาบาลสิงห์บุรี นายแพทย์วิศิษฐ์ ถนัดสร้าง ได้นำหลวงปู่เข้าเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่โรงพยาบาล หมอประเจิดพบว่าสมองด้านซ้ายฝ่อเส้นโลหิตอุดตัน และปอดอักเสบ หลวงปู่หอบเพราะเสมหะตกค้างในปอดมาก แพทย์ตัดสินใจใส่ท่อช่วยหายใจทางปาก

    - ๙ ก.พ. ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับหลวงปู่เข้าเป็นคนไข้พระราชูปถัมภ์ คณะแพทย์สิงห์บุรีจึงได้นำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาล ศิริราช ณ ห้องไอซียู โดยมี ศ.พ.ญ. นันทา มาระเนตร์ เป็นแพทย์เจ้าของไข้

    - ๑๑ ก.พ. ๒๕๓๖ หลวงปู่ได้รับการรักษาที่ห้องอภิบาลการหายใจ (อาร์ซียู) ตึกอัษฏางค์ ชั้น ๒ หลวงปู่อาการดีขึ้นตามลำดับ หายใจได้เอง

    - ๑๔ ก.ค. ๒๕๓๖ หลวงปู่ได้ย้ายไปที่ห้องพิเศษ ตึก ๘๔ ปี ห้อง ๘๐๘ โดยอยู่ในความ ดูแลของแพทย์และพยาบาลประจำตึก มีพระอุปัฏฐากอยู่ประจำ ๒ รูป

    - ๒๖ พ.ย. ๒๕๓๖ หลวงปู่มีอาการทรุดลงทั้งหอบและไอ แพทย์ได้นำเสมหะไปเพาะ เชื้อปรากฏว่าหลวงปู่ติดเชื้ออย่างแรง

    - ๒ ธ.ค. ๒๕๓๖ แพทย์ได้ย้ายหลวงปู่กลับไปที่ห้องอาร์ซียูอีกครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น

    - ๑๑ ม.ค. ๒๕๓๗ ช่วงกลางคืนอาการหลวงปู่สุดวิสัยที่คณะแพทย์จะเยียวยารักษาได้

    วันดับขันธ์แห่งดวงประทีปพุทธศาสนา

    เช้าของวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗ อาการของหลวงปู่ได้ทรุดหนักลง พระมหาทอง (พระครูโสภณจารุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข ซึ่งคอยเฝ้าสังเกตอาการของหลวงปู่เห็นดังนั้น จึงได้แจ้งให้คณะแพทย์ทราบโดยคณะแพทย์ได้เรียกระดมแพทย์ที่ให้การรักษามาทำการเยียวยาอย่างสุดความสามารถ

    พระมหาทองได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ท่านได้เฝ้าดูอาการหลวงปู่มาอย่างใกล้ชิด จึงคาดว่าไม่ช้านี้หลวงปู่คงมรณภาพเพราะอาการขณะนี้มีเปอร์เซ็นต์ให้หวังได้เพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ระบบการหายใจแย่ลงทุกที

    พระครูโสภณจารุวัฒน์ หรือมหาทองได้ กล่าวอีกว่า หลวงปู่บุดดาเคยสั่งเอาไว้ว่าหากท่านมรณภาพไม่ให้จัดพิธีงานศพใดๆ ทั้งสิ้นด้วยเกรงว่าจะเป็นการสิ้นเปลือง

    แต่แล้วเมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น. ทางคณะแพทย์ได้แจ้งให้บรรดาสานุศิษย์ทั้งหลายได้ที่เฝ้ารอดูอาการของหลวงปู่ที่หน้าห้องไอซียู ว่าหลวงปู่ได้ละสังขารไปอย่างสงบแล้ว

    เหมือนสายฟ้าฟาดลงมายังบรรดาสานุศิษย์ที่มารอฟังข่าวของหลวงปู่ และยังเป็นข่าวร้ายอีกด้วย

    เป็นเวลา ๓๔๐ วัน ที่หลวงปู่ต้องทนต่อสู้กับโรคปอดบวม สมองซีกซ้ายฝ่อและเส้นโลหิตอุดตัน ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะแพทย์ที่ให้รับการรักษาและสานุศิษย์ทั้งหลายที่มารอเฝ้าดูอาการจนวาระสุดท้ายก่อนจะสิ้นลม สิริรวมอายุ ๑๐๑ ปี ๗ วัน ๗๓ พรรษา

    ดวงประทีปแห่งพุทธศาสนาได้ดับสูญไปอีกดวงหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่หลวงปู่บุดดาได้สอนไว้ยังคงอยู่

    "คนเราจะเป็นสุขเมื่อรู้จักพอดี ไม่มีใครได้อะไรตลอดไป หรือเสียอะไรตลอดไป ไม่มีใครหรือสิ่งไหนคงอยู่ตลอดไปโดยไม่สูญสิ้น ขอเพียงแค่รู้จักพอดีทุกคนจะเป็นสุข"

    (คราวที่หลวงปู่ได้รับการรักษาที่ โรงพยาบาลตำรวจก็ได้รับการสงเคราะห์จากศิษย์ผู้อำนวยการ รพ. ตำรวจเป็นอย่างดีและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จเยี่ยมด้วย)
     
  13. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    เล่าเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดร
    คืนหนึ่งในเดือนพฤษภาคม 2527 หลวงปู่ (บุดดา ถาวโร) นอนให้ลูกศิษย์นวดอยู่ หลวงปู่ก็จะเล่านิทานธรรมะ ให้ลูกศิษย์ฟังไปด้วย พวกเรานั่งฟังธรรมะหลวงปู่ ราว 6-7 คน

    ข้าพเจ้ามีความสงสัยเรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งลงในหนังสือ “คนพ้นโลก” ของอาจารย์ปถัมภ์ ในหนังสือเล่าว่า หลวงปู่โลกอุดร มีอายุเป็นพันปี และท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ที่มีญาณวิเศษ ท่านสามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนแก่ คนหนุ่ม หรือ ฆราวาส แล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์บุคคลนั้นๆ เพราะเหตุใด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาใจข้าพเจ้าตลอดมา เมื่อมีโอกาส ข้าพเจ้าจึงถามหลวงปู่ว่า.....

    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่เทพโลกอุดรมีจริงไหมคะ?

    หลวงปู่- มีจริงซิ โอ!!!! รูปร่างท่านสูงใหญ่ สูงแปดศอกโน่น !!! เวลานอน ท่านนอนหนุนขอนไม้ เราไม่เคยเจอท่านหรอก

    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ อายุเป็นพันปี ท่านอยู่ได้อย่างไร?

    หลวงปู่- อยู่ได้ด้วยญาณวิชา อยู่ในจอมปลวก ในถ้ำ ในภูเขา อยู่ได้เป็นพันๆ ปี อยากรู้เรื่องของท่าน ไปถามหลวงปู่วัยซี โน่น!! ท่านอยู่หินกองโน่น หลวงปู่ใหญ่ ท่านมาหาหลวงปู่วัยบ่อยๆ

    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่วัย ที่เอาจีวรหลวงปู่โลกอุดร มาถวายหลวงปู่ใช่ไหมเจ้าคะ?

    หลวงปู่- อือ.....

    หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้มีโอกาสมานมัสการหลวงปู่วัย จัตตาลโย ที่วัดเขาเทพพนมยงค์ จ.สระบุรี หลวงปู่วัย เมตตาเล่าเรื่องหลวงปู่ใหญ่ให้ฟังว่า

    ท่านมาเยี่ยมหลวงปู่ถึงกุฏิ องค์หลวงปู่ท่านสูง เวลาเดินเข้ากุฏิหลวงปู่ ท่านต้องก้มศีรษะลง วันนั้นมีหม่อมอรพินท์อยู่ด้วย ได้เห็นท่านหลวงปู่ ไม่ทราบว่าท่านจะมา จึงไม่ได้เตรียมต้อนรับ ได้ยกเก้าอี้มาให้หลวงปู่ใหญ่นั่ง พร้อมกับชี้ไปที่เก้าอี้ที่หลวงปู่ใหญ่นั่งให้ดู หลวงปู่ใหญ่ได้สนทนากับหลวงปู่พอสมควรแล้ว ท่านออกจากกุฏิหลวงปู่ คนที่นั่งอยู่ข้างนอกไม่เห็นหลวงปู่ใหญ่เลย คงเป็นเพราะท่านไม่ต้องการให้เห็น

    ในวันนั้น ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาจากหลวงปู่วัย โดยท่านได้มอบจีวรหลวงปู่ใหญ่ให้ไว้บูชา ข้าพเจ้าดีใจมาก และตื่นเต้นที่ทราบว่า หลวงปู่เทพโลกอุดรมีตัวตนจริงๆ และหลวงปู่วัยก็เป็นลูกศิษย์ ท่านถ่ายทอดธรรมะให้ก่อนเข้าพรรษาทุกๆ ปี หลวงปู่วัย จะตัดเย็บจีวรไปถวายหลวงปู่ใหญ่ ใช้ผ้าถึง 45 เมตร!!! ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ถวายปัจจัยร่วมซื้อผ้าไหมถวายหลวงปู่ใหญ่โลกอุดรด้วย......
    ที่มา ชัย แสงทิพย์ buddha-dhamma.com
     
  14. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00002.jpg
    หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระสายวิปัสสนากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านไม่เคยสรรเสริญพระสงฆ์องค์ไหนง่ายๆ วันหนึ่งหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านทราบว่าหลวงปู่บุดดาท่านนั่งโดยสารมาบนรสบัส หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านถึงกลับเอ่ยปากพูดกับลูกศิษย์ของท่านว่า “ไม่ต้องให้หลวงปู่บุดดาลงมาจากรถหรอกนะ เรา (หลวงปู่ชา) จะขึ้นไปกราบหลวงปู่บุดดาบนรถเอง “ และหลวงปู่ชาท่านก็เดินขึ้นไปบนรถบัส ทั้งกราบ ทั้งไหว้อย่างเรียบร้อยที่สุดครับ
    00012.jpg
    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ ท่านยังขอถวายสังฆทานและจีวรเป็นการเฉพาะและบอกว่า “ หลวงปู่บุดดา ยอดเยียมที่ ๑ แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษาและแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน มีผู้สงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บุดดาได้อฐิษฐานจิต เสกเอาไว้ ได้นำเอาพระที่ท่านเคยเสกเอาไว้แล้วส่งให้ท่านเสกอีก ท่านก็ส่งคืนถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการเสกแต่อย่างไร ครั้งนึงมีผู้นำพระหลวงปู่บุดดา ถาวโร ไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคลคิรีเขต จ.ตาก ผู้ที่นำพระได้เรียนให้ครูบาสร้อยเสกซ้ำอีกที ครูบาสร้อยได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า “ เต็มแล้วเสก ไม่ได้แล้ว “ แม้แต่ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ยังปฏิเสธไม่เสกให้ จะให้เสกทับได้อย่างไร เพราะหลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเรา พระเกจิอาจารย์ต่างยกย่องและนับถือหลวงปู่บุดดา ถาวโร ในฐานะ “ พระอรหันต์ “
    00023.jpg
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เคยบอกลูกศิษย์ของท่านเองว่า ให้ลูกศิษย์ไปกราบหลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ครั้งที่หลวงปู่บุดดา ท่านจำพรรษฺาอยู่ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้เหตุผลว่า “ ให้รีบไปกราบท่านนะหลวงปู่บุดดาท่านนี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ “ และหลวงพ่อฤาษีลิงดำยังยกย่องหลวงปู่บุดดาอีกหลายครั้งหลายหน หากท่านสงสัยในอากับกิริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนวและล่อแหลมของหลวงปู่บุดดาที่มักจะทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญอย่างแท้จริง
     
  15. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    กราบนมัสการพระอาริยเจ้าครับ สาธุๆๆๆ
     
  16. Northernwind

    Northernwind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +294
    00012.jpg
    สนทนาธรรม กับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    หลวงปู่สิม บ่ได้ไปนอนโรงพยาบาลตำรวจ บ่

    หลวงปู่บุดดา บ่ได้ไปหรอก นางอนามัยมาอยู่นี่เลย มันมานอนบ่อย นี่มุ้งมาฝากไว้นี่

    หลวงปู่สิม อยู่ในกรุงนี่ ถ้าจะสบายกว่าทางชัยนาทมั้ง

    หลวงปู่บุดดา อยู่ที่นี่สะดวก พระเณรช่วยเหลือมาก ที่โน่นพระเณรไม่พอ

    หลวงปู่สิม ๘๐ กว่าหูฟังอะไรได้ยินดีอยู่ กำลังกายตอนนี้จะขึ้นไปอีสาน ไปเชียงใหม่ได้อยู่บ่ ไปรถไฟนะ

    หลวงปู่บุดดา ไปได้ ชายทะเล ไม่ได้ค้างคืนหรอก ไปแล้วก็กลับ ร่างกายมันอ่อนแอแล้ว ต้านทานข้างนอกไม่ไหว

    หลวงปู่สิม นี่นับว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าแล้ว ๘๖ ปี มนุษย์สมัยนี้แก่กว่าพระพุทธเจ้า อากาศชายทะเลกับขึ้นไปภูเขา ชอบทางไหน

    หลวงปู่บุดดา อากาศชายทะเลดีกว่า

    หลวงปู่สิม หลวงปู่นี่มีครบทุกอย่าง ทาน ศีล ภาวนา ครบถ้วนบริบูรณ์ทุกอย่าง

    หลวงปู่บุดดา วัดนี้เป็นวัดเก่า ๑๐๐ กว่าปีแล้ว

    หลวงปู่สิม แต่ก่อนเคยมาอยู่ บ่

    หลวงปู่บุดดา เคยมาอยู่นานแล้ว เข้าเดือน ๑-๒ นี้ครบ ๒ พรรษาแล้ว สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ๘ พรรษาแล้ว

    หลวงปู่สิม แต่สมัยยังท่องเที่ยวอยู่ บ่เคยเป็นนักบวช เคยมาเกิดบ่ ทางกรุงเทพฯ นี่

    หลวงปู่บุดดา เคยมาแต่รัชกาลที่ ๑ มาถึงปีกลายก็ยังไม่แล้ว (หลวงปู่บุดดาถวายผ้าจีวรสีกลักหลวงปู่สิม) ห่มเลย ๆ

    หลวงปู่สิม ทานบารมีหลวงปู่

    หลวงปู่บุดดา พริกขี้หนู ตะไคร้ เกลือ ยาโบราณ หน้าแล้งก็เป็นหวัดหน้าแล้ง หน้าฝนก็เป็นหวัดฤดูฝนไม่ว่า กายเนื้อกายหนัง มันติดกับ นาม-รูป มันเป็นอิถีภาวะผสม ภาวะรูป ๔ มันมีทุกลมหายใจ เข้า-ออก มันไม่เหมือน ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง นี่มันเห็นได้

    หลวงปู่สิม เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน นี้ หลวงพ่อมหากัสสปท่านขึ้นไปเทศน์ให้ฟังที่ถ้ำผาปล่อง

    หลวงปู่บุดดา จากระยองหรือ ?

    หลวงปู่สิม กัสสปโบราณโน่น

    หลวงปู่บุดดา กัสสปโบราณหรือ ?

    หลวงปู่สิม มีเทปนี้มา คือว่าเปิ้นขึ้นไปเทศน์ให้ฟังนั้น ไปในนามคนทรง สองครั้งแล้วท่านขึ้นไปเทศน์ให้ฟัง ในถ้าผาปล่องน่ะ เปิ้นมีเมตตาอย่างใดบ่ฮู้ กัสสปน่ะ มารู้ข่าวว่าท่านยังไม่ทันเข้านิพพาน

    หลวงปู่บุดดา ยัง

    หลวงปู่สิม แน่ะ หลวงปู่ยังฮู้นี่ บ่เข้านิพพานไปอยู่ไหนล่ะ ในเมื่อท่านเข้านิพพานไปแล้ว ท่านเคยมาหาหลวงปู่ บ่

    หลวงปู่บุดดา ท่านคอยพระศรีอารย์อยู่ คอยพระศรีอารย์เวลาเทศน์จบแล้ว จะเป็นภาพทำศพอีก ๘ หมื่นปี นั่นแหละ

    หลวงปู่สิม นึกว่าได้นิพพานแล้ว ไปนิพพานเลยแม่นแล้ว ฟังข่าวหลวงปู่ ยังไม่ทันไปนิพพาน ยังคอยพระศรีอารย์อยู่

    หลวงปู่บุดดา ยังคอยเจ้าภาพศพ มีเวลามาเทศน์ ๘ หมื่นปี เสร็จแล้วจึงจะมาเผาศพ

    ธรรมพระกัสสปเถระ

    กัสสป เจ้ามีความเชื่อแล้วหรือยังว่า กัสสปเจ้าทีได้พาเจ้ามาเฝ้าพระอรหันต์ในวันนี้ ฮึ

    มาณพ มีความเชื่อแล้วครับ

    กัสสป คือมนุษย์เราเดี๋ยวนี้ มันยากนะมหาบพิตร คือ พอเขาหลับตานิดหนึ่ง เขาก็บอกว่าเห็นแล้วธรรมนี่เจ้านี่อีกคนหนึ่ง เขาหลับตานิดเดียว เขาบอกว่าเห็นแล้วธรรมน่ะ แล้วก็นำเอาไอ้คำพูดนี้ไม่ใช่ไปขึ้นพุทธภูมินะไปสู่อเวจี ใช่ไหมมหาบพิตร มันเข้าข้อธรรมของพระศาสดาบัญญัติว่า ภิกษุทั้งหลายสิ่งใดที่ไม่รู้แจ้งด้วยธรรม ก็อย่าแนะนำคนอื่นเขา ใช่ไหม มหาบพิตร ถ้าไม่ใช่คำแนะนำของพระชินวรเจ้า มันเข้าแล้วตัวอุตริมนุสธรรมใช่ไหมล่ะ ธรรมที่ไม่ได้เกิดจากคำสั่งสอนของพระชินวรเจ้านี่ละพวกเจ้านี่ละพวกเจ้าทั้งหลายนะคือว่า อาตมาไม่ได้ยกสององค์นี่นะ แต่ว่ากันตาบาลีแล้ว มหาบพิตรก็จะกำหนดมาทิ้งขันธ์ที่นี่นั้นใช่หรือเปล่า เพราะมันร้อนเร่าถึงอินทร์ พรหม ยม เทพ ทั้งหลายที่มาพิทักษ์รักษาในถ้ำนี้ เพราะบารมีของมหาบพิตรมันคมยิ่งกว่ากฤชเสียอีก อย่างพระศรีสรรเพชร์เสด็จว่านำโยธาไม่ใช่ไพร่พลสกลไกรนะ รบกับมาร ให้นำศรัทธา คือ ขันธ์ เป็นพระขรรค์ที่จะโรมรันฟันศัตรู คือ ขันธ์ธรรมตรงนี้เองใช่ไหม นี่ไม่ใช่จะมาสอนมหาบพิตรอย่างนั้นนะ คือ เราเป็นศิษย์ตถาคต เราคุยกัน

    หลวงปู่สิม ว่าไป ๆ

    กัสสป ท่านถึงมันอยู่แล้ว พระขันธ์แก้วตัวนี้แต่ว่าหลีกได้นะ ถ้าหลีกไม่ได้ก็ไม่ได้มาไกลถึงเพียงนี้ใช่ไหมล่ะ คือมารมาหาท่านนะ ท่านไม่ได้ไปหามารอย่างฤาษีเขาว่านะ มาณพน้อยฟังอาตมาว่า ฤาษีชีไพรกลัวกันนักหนา กลัวอะไรมหาบพิตรพอจะแจ่มแจ้งไหม ฤาษีชีไพรเขากลัวอะไรกัน

    หลวงปู่สิม ยังไม่แจ่มแจ้งเลย ขออภัย

    กัสสป กลัววัวเขาอ่อน รู้ไหมวัวเขาอ่อนคืออะไร ฤาษีชีไพรยังต้องตบะแตก มหาบพิตรเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วยังมาณพน้อย

    มาณพ ยังไม่เข้าใจ

    กัสสป ก็มันขวิดเองมาเวลานี้อะไรล่ะ เข้าใจแล้วยัง

    มาณพ เข้าใจแล้ว

    กัสสป มหาบพิตรนี่นะหลีกเหลือเกิน มันตามขวิดมหาบพิตรเหมือนกันใช่ไหม แต่มหาบพิตรเอาพระขันธ์กันไว้ จึงได้เป็นพระอรหันต์ในคราวนี้ปัจจุบันสัตบุรุษพุทธบริษัท ไม่คอยจะเข้าวัด อีกอย่างชอบติสงฆ์ นินทาสงฆ์ แต่สาวกของพระพุทธองค์ก็เป็นสงฆ์ไม่เต็ม แต่ไม่ใช่ทั่วไปเหมือนปลาข้องเดียวกันก็ทำให้เหม็นไปหมด พูดง่าย ๆ ภาษาบาลีว่า ตัวอลัชชี ไม่ละอายต่อบาป มาณพมากราบมีปัจจัยมาไหมล่ะ อื้อ! นี่สมมุติมหาบพิตร ถ้าเป็นลูกตถาคตอันแท้จริงอย่างมหาบพิตร เอ็งจะมีหรือไม่มี มหาบพิตรวางเฉย สบายใจ นี่เป็นอย่างนี้เรียกว่าเป็น ลูกตถาคต อาตมานี่หมายความยังมีซากเป็นสิ่งที่เวทนา เมื่อองค์พระศาสดาปรินิพพาน อาตมา ก็ไม่ได้อยู่ต้องจาริกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา แทนหูแทนตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งนั้นไปปาวานคร แดดจะร้อน ฝนจะตก ก็ตามใจมัน โภชนาอาหารใครเขานำมาเป็นทานก็ได้ขบฉัน จิตนั้นมิได้หวาดหวั่น ต่อศัตรูหมู่พาลทั้งหลาย เพื่ออยากจะให้ศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เผยแพร่ทั่วไป

    จนกระทั่งองค์พระศาสดาปรินิพพาน ไม่ได้เห็นดวงพระหฤทัยของพระองค์ท่าน ร้อนถึงท้าวเวสสุวรรณ จำแลงกายมาในกาลบัดนั้น ในคัมภีร์ว่า ถือดอกไม้ดำผ่านหน้าเพื่อให้อาตมาได้รู้ อาตมาเฉลียวใจ ได้ถามว่า เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้นที่ไหนล่ะ เขาจึงตอบว่าอ้าวพระกัสสปเถระเจ้าไม่รู้หรือว่าองค์พระศาสดาปรินิพพานแล้ว อาตมาก็วิตก แหม! ดวงแก้วหนีไปเสียแล้ว เขาจะปลงศพองค์พระศาสดาถวายพระเพลิงพระศพเท่าไรก็ไม่ทำลายได้ อาตมาถึงอธิษฐานจิตลงไป เท่านั้นไปทิพย์เกิดขึ้น ฉะนั้นอาตมาก็ต้องรอพระศาสดาข้างหน้านั้นทำลายสังขารหมดกันเสียที เอ! ก็ปุจฉาวิสัชนามาเป็นสังเขป

    หลวงปู่สิม ยังไม่พอ

    กัสสป คือว่า อาตมานี่นะ มหาบพิตรทั้งสองรูป ทว่าเป็นเรื่องเก่าที่มาเล่าแล้ว มนุษย์เดี๋ยวนี้ ไม่เชื่อว่าพระมหากัสสปเถระเจ้าปรินิพพานไปแล้ว องค์พระศาสดาปรินิพพานไปแล้ว ๒๔๘๙ พรรษา มนุษย์เขามาแก้กัน แต่อินทร์พรหม ยม เทพ เขาไม่แก้กัน ทีนี้พระกัสสปเถระเจ้าปรินิพพานแล้ว ๒๐๔๘ ปี ยังเป็นผีอยู่ได้ไฉนหนอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...