ปรากฎการณ์ หมอกธุมเกตุ ในหลวงรัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 9

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 14 ตุลาคม 2016.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ “หมอกธุมเกตุ” หลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต

    หลังจากที่ สำนักพระราชวัง แถลงการณ์ ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต รวมพระชนมพรรษา 89 พรรษา สร้างความโศกเศร้าให้กับพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างมากนั้น

    ล่าสุด (14 ต.ค. 59) โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ “หมอกธุมเกตุ” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 13 ต.ค. 59 หลังจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ซึ่งตามตำรากล่าวว่า มักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ ๆ เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์


    ทั้งนี้ เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ก็มีบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ “หมอกธุมเกตุ” นี้เช่นเดียวกัน ดังข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล

    “พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียวทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอกขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ ๆ เกิดขึ้น”

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่มา

    http://pantip.com/topic/35698943
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=20-03-2007&group=2&gblog=32
    http://news.mthai.com/hot-news/social-news/525305.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    กระบวนพยุหยาตราพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


    [​IMG]


    ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้


    เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ข้าพเจ้าเจ็บเป็นบิดมีไข้ขึ้นอยู่ที่วังประตูสามยอด (วังเชิงสพานดำรงสถิต ปัจจุบันเป็นอาคารพานิช) กำลังนอนหลับสนิท และสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยได้ยินเสียผู้ชายร้องไห้อย่างเต็มเสียง ข้าพเจ้าตกใจเพราะไม่เคยได้ยินเสียงผู้ชายร้องไห้ แล้วก็นึกว่าฝันไป สักครู่ได้ยินเสียงนั้นอีก และคราวนี้จำได้ว่าเป็นสุรเสียงของเสด็จพ่อ ข้าพเจ้าก็ยิ่งตกใจมากขึ้น จึงหันไปปลุกแม่นมของข้าพเจ้าซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ถามเขาว่า "ได้ยินอะไรไหม" พอดีเห็นเสด็จพ่อทรงยืนอยู่ทางปลายมุ้ง ตรัสว่า "พระเจ้าอยู่หัวสวรรคตเสียแล้วลูก" แล้วก็ทรงพระกันแสงโฮใหญ่ ข้าพเจ้าก็ร้องไห้ตามไปด้วย แล้วท่านก็เสด็จกลับไปทางท้องพระโรง ทรงพระดำเนินไปช้าๆเหมือนคนหมดแรง

    รุ่งขึ้นเช้ามืดทุกคนตื่นด้วยนอนไม่หลับ มีพวกข้าราชมาเฝ้าเสด็จพ่ออยู่ตลอกเวลา บางคนมาฟังว่าสวรรคตจริงๆหรือ เพราะไม่มีใครทราบข่าวว่าทรงประชวรมากแต่อย่างไร แม้เสด็จพ่อเองก็เพิ่งทรางทราบว่าทรงประชวรมากเมื่อวันศุกร์ ก่อนเสด็จสวรรคตเพียงวันเดียว เสด็จพ่อทรงเล่าว่าพระองค์ท่านเสด็จไปตรวจราชการทางใต้เสียวันหนึ่ง กลับมากรุงเทพฯบ่ายวันอาทิตย์จึงเลยไปเฝ้าที่พญาไท ซึ่งเป็นที่เสด็จประพาสและทรงทำนากันอยู่ในเวลานั้นทุกๆเย็น เมื่อเสด็จไปถึงก็เสด็จขึ้นเสียแล้วไม่ทันได้เฝ้า เขาทูลว่าเสด็จขึ้นเร็วเพราะไม่ทรงสบายพระนาภี เสด็จพ่อจึงเสด็จตามเข้าไปฟังพระอาการที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ได้ความว่าพระนาภีเสียและเสวยยาถ่ายแล้ว ไม่มีอาการมากมายอันใด ก็เป็นอันเบาพระทัย และเสด็จกลับวัง

    ครั้นรุ่งขึ้นเป็นวันพุธ พอเสด็จเข้าไปถึงพระที่นั่งก็ได้ทรงทราบว่า ไม่ทรงสบายเพราะยาถ่ายเดินมากไป จนทรงเพลียถึงต้องบรรทมในพระที่ และมีพระราชดำรัสในตาม พระบรมราชินีนาถเสาวภาผ่องศรี ขึ้นมาถวายการพยาบาล เป็นอันเสด็จพ่อก็ไม่ได้ขึ้นไปเฝ้าและเลยเสด็จอยู่ในพระที่นั่งชั้นล่างกับเจ้านายผู้ใหญ่ มีสมเด็จวังบูรพาภิรมย์ และกรมหลวงนเรศวร์ฯ กรมหลวงเทววงศ์ฯ เป็นต้น เพื่อควบคุมหมอและคอยฟังพระอาการ

    ถึงเช้าวันศุกร์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสาวภาผ่องศรีเชิญเสด็จพ่อให้เข้าไปเฝ้าที่หน้าม่าน (ข้างหน้าและข้างในต่อกัน) แล้วตรัสบอกว่า "พระอาการอื่นๆดีขึ้นหมดทุกอย่าง แต่หม่อมฉันไม่ชอบเรื่องลงพระบังคนเบา วานนี้ตลอดวันมีราว ๑ ช้อนโต๊ะ จึงเชิญเสด็จท่านมาทูล จะได้คิดแก้ไข" เสด็จพ่อตกพระทัยเป็นครั้งแรก รีบทูลลาว่าจะต้องเรียกประชุมหมอ แล้วก็กลับไปทูลเจ้านายที่ห้องแป๊ะเต๋ง จัดการเรียกหมอที่ว่าดีในเวลานั้นหมดมาประชุม

    ตกลงกันว่าถวายยาฉีดถวายสวน ทุกอย่างที่จะพึงทำได้ในเวลานั้นแต่ไม่มีผล คงได้พระบังคนเบาราว ๑ ช้อนกาแฟ ซึ่งน้อยลงไปอีก พอถึงเวลาค่ำ หมอก็พร้อมกันทูลเจ้านายว่าถ้ามีราชการอันใดที่จะต้องกราบทูล ก็ให้กราบทูลเสียในตอนเช้าพรุ่งนี้ เพราะถ้าถึงเย็นจะเข้าโคม่า(ซึม) ที่ประชุมปรึกษาเห็นพร้อมกันว่า ไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องกราบบังคมทูลรบกวนแล้ว สมเด็จวังบูรพาภิรมย์ก็ตรัสสั่งให้เสด็จพ่อไปเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้ามายังพระราชฐานแต่เช้า

    รุ่งขึ้นวันเสาร์ราว ๗ น. เสด็จพ่อเสด็จตรงไปยังวังสราญรมย์ จรัสเล่าว่าสมเด็จพระบรมฯยังไม่บรรทมตื่น ทรงพบหม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ จึงตรัสบอกให้ปลุกพระบรรทมเดี๋ยวนั้น แล้วก็พากันเสด็จเข้าไปยังพระราชวังดุสิต ถึงตอนบ่ายข่าวประชวรมากก็รู้กันไปทั่วแล้ว และแทบทุกคนก็พากันไปฟังพระอาการทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน เวลาราวบ่าย ๔ โมง พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ (ซึ่งทรงเป็นหมอพระองค์หนึ่ง) ขอเข้าไปดูพระอาการ พอถึงพระองค์ท่านก็ยกพระหัตถ์ขึ้นจับพระชีพจรที่พระบาท สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงหลับพระเนตรอยู่ ตรัสถามว่า "นั่นหมอหรือ" เป็นคำหลังแล้วมิได้ตรัสต่อไปอีกเลย ค่อยๆทรงบรรทมหลับไปๆจนหมดพระอัสสาสะเมื่อเวลา ๒๔.๔๕ นาฬิกา พระบรมศพมิได้ซูบซีดปกติประการใด

    กำหนดสรงน้ำพระบรมศพที่พระที่นั่งอัมพรสถานในที่พระบรรทม แล้วเชิญพระบรมศพลงพระโกศทอง เชิญเสด็จขึ้นพระยานุมาศ เคลื่อนกระบวนจากพระราชวังดุสิตไปสู่พระมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังเวลาค่ำ ๗ น.เศษ

    เสด็จพ่อทรงสั่งราชการพลางทรงพระกันแสงพลางอยู่ที่วังตอนเช้าวันอาทิตย์ พวกพี่น้องของข้าพเจ้าเขาก็พากันกลับเข้าวังหมดแทบทุกคน ข้าพเจ้ายังมีไข้เข้าไปช่วยทำงานในวังไม่ได้ พอเสด็จพ่อทรงเครื่องเต็มยศใหญ่เข้าไปสวนดุสิตแล้ว ข้าพเจ้าก็ไปคอยเฝ้าพระบรมศพที่ริมถนนราชดำเนิน แถวโรงเรียนนายร้อยทหารบก

    พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียวทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ(๑)ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น ไม่ช้าก็ได้ยินเสียงปี่ในกระบวน เสียงเย็นใสจับใจมาแต่ไกลๆ แล้วได้ยินเสียงกลองรับเป็นจังหวะใกล้าเข้ามาๆในความมืดเงียบสงัด ที่มืดเพราะต้องตัดสายไฟฟ้าบางตอนให้พระบรมโกศผ่านได้ และที่เงียบก็เพราะไม่มีใครพูดจากันว่ากระไร ข้าพเจ้าเคยได้ยินเสียงปี่เสียงกลองมาแล้ว เคยได้เห็นพระศพเจ้านายมาแล้วหลายองค์ แต่คราวนี้ตกใจสะดุ้งทั้งตัวเมืองเห็นพระเศวตฉัตรกั้นมาบนพระบรมโกศสีขาวกับสีทองเป็นสง่า ทำให้รู้ทันทีว่าพระบรมศพ แล้วก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว

    เหลียวไปดูทางอื่นเห็นแต่เเสงไฟจากเทียนที่จุดถวายสักการะอยู่ข้างถนนแวมๆไปตลอด ในแสงเทียนนั้นมีหน้าเศร้าๆหรือปิดหน้าอยู่ เราหมอบลงกราบกับพื้นปฐพี พอเงยหน้าก็เห็นทหารที่ยืนถือปืนเอาปลายลงดิน ก้มหน้าลงบนปืน อยู่ข้างหน้าเราเป็นระยะไปตลอด ๒ ข้างถนนนั้น น้ำตาของเขากำลังหยดลงแปะๆอยู่บนหลังมือของเขาเอง ทหารผู้อยู่ในยูนิฟอร์มอันแสดงว่ากล้าหาญ ยังร้องไห้เพราะเสียดายประมุขอันเลิศของเขา

    เสด็จพ่อตรัสเล่าว่าได้โทรเลขไปตามหัวเมืองให้ระวังเหตุการณ์ในตอนเปลี่ยนแผ่นดิน ได้ตอบมาทุกทางว่า ภายใน ๗ วันแต่สวรรคตนั้น ไม่มีเหตุการณ์โจรผู้ร้ายเกิดขึ้นเลยสักแห่งเดียวในพระราชอาณาจักร

    ฉะนั้น จึงจะต้องเข้าใจว่าแม้แต่โจรก็ยังเสียใจหรือตกใจในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พระปิยมหาราชของเรา



    ....................................................................................................................................................

    (๑) ธุมเกตุ ตามตำราโบราณว่าสีดุจหนึ่งควันไฟดอกไม้เพลิง เห็นแต่เช้าไปถึงเที่ยง เห็นแต่เที่ยงไปถึงบ่ายโมงหนึ่งสองโมง ร้ายนัก ถือพระเกตุสำแดงเหตุ


    ....................................................................................................................................................


    พระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล
    ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้

    ไฟล์ภาพประกอบเรื่อง
    "พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์"
    ศาสตราจารย์ น.อ.สมภพ ภิรมย์ รน. ราชบัณฑิตย์
    โดย คุณ ปริยวาที คลังภาพประจำห้องสมุดพันทิป


    ที่มา

    ฺ์Bloggang
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1174374411.gif
      1174374411.gif
      ขนาดไฟล์:
      42 KB
      เปิดดู:
      4,278
  3. Samakkan

    Samakkan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณที่เอามาให้อ่านกันค่ะ
     
  4. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ขอบคุณเช่นกันคะ
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450

แชร์หน้านี้

Loading...