เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ภาพหลวงปู่ทิมกับผงพรายฯ
อันลือลั่นของท่าน บวกคำพร
มหามงคล รับไว้ด้วยความยินดี

 

คนสุดท้ายที่ตกหล่น คงเป็นผมแหละครับท่านพี่ ซึ่งได้แจ้งหนูน้ำฝน ทางลายน์ส่วนตัวตั้งแต่ 7 พย.แล้ว ทั้งเรื่องการโอนและที่อยู่สำหรับจัดส่ง และได้แจ้งหนูน้ำฝน ให้ทราบอีกครั้งแล้วครับ รับปากว่าวันจันทร์จะดำเนินการให้ น้องเขาอาจจะภารกิจล้นมือ ก็เลยขาดตกไป ไม่เป็นไรครับท่านพี่ คนสุดท้าย เขาว่าแฟนสวย???

 

เช้าวันอาทิตย์กับภาพสดใส
ชื่นบานน้องมากิ เขียนตามไป

มุมแมกไม้........สายน้ำโค้ง
จุดเชื่อมโยง......โมงสุขสันต์
ตูนไม้แกะ.........แวะแบ่งปัน
ชมวิวนั่น...........สำราญเริง!

ส่วนผลงานมาสเตอร์พีชหนุ่มน้อย
ดวงดาวในเรื่องจะเป็นเยี่ยงไร?
เชิญติดตามกันในช่วงบ่ายนี้

 

อ้าว คนใกล้ตัวกันเองนี่แหละ หลงๆลืมๆทำหล่นดีนัก พรุ่งนี้รีบจัดแจงให้ครับ ท่านหมื่นฯเป็นเสือปินไวแจ้งแต่ไก่โห่ คุณน้ำฝนงานเป็นกระบุงคงลืมจริงด้วย แต่ที่ว่าคนสุดท้ายแฟนสวยนั่นจริงหรือ เห็นจีบใครถ้าไปสาย แห้วทุกที-ฮ่า

 

จบทุกโพสท์ไม่ค้างคาหรือตกหกหล่น
พักนิ้วพักเที่ยง ไว้พบกันอีกยก ช่วง
ที-ไทม์ อากาศดี น่าเดินป่า-สวัสดี
วันดีๆ มีความสุขทุกท่านครับ

 

เรียนถาม พี่ wanwi / พี่ suthamma และพี่รุ่นอาวุโสทั่งหลาย ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพิธีวัดราชประดิษฐ์ปี 2515 ที่กล่าวกันประกอบการขายพระว่าลป.ทิมมาเสกด้วย บางที่ก็มีรูปประกอบด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร? ที่สงสัยเพราะ 1) รูปที่มาลงต่อๆ กันนั้นท่านใส่แว่นตา เพราะเท่าที่ผมสนใจเรื่องราวประวัติของท่าน มาตั้งแต่ปี 2530 ยังไม่เคยเห็นท่านใส่แว่นตาเลย แล้วตามประวัติคือท่านอายุ 96 ยังสายตาดี ฟันแข็งแรง 2) ตอนปี 2515 ท่านก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก จนกระทั่ง ลป.โต๊ะ ลพ.เงิน เป็นผู้บอกแก่ญาติโยมว่าพระองค์แก่ๆ องค์นี้สมาธิท่านแก่กล้า จึงอยากให้พี่ๆ ที่พอจะทันช่วงนั้นช่วยคลายความสงสัยให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ

 

อันว่า "แห้ว" นั้น เขาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "สมหวัง" ตั้งแต่สมัยคุณประภัตร โพธสุธน ดำรงตำแหน่ง รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี ๒๕๔๓ แล้วครับ
ดังนั้นถ้าบอกว่า "แห้ว" ก็เท่ากับ "สมหัวง" ดี ๆ นี่เองครับ
แล้วหวังว่าท่านหมื่นฯ คงไม่ต้องไปหาแฟนใหม่เพราะคำว่า "คนสุดท้ายแฟนสวย" นะครับ

 

สวัสดียามบ่ายครับอาจารย์wanwiและFCนักขุดทุกท่าน#รู้สึกวันนี้อากาศอบๆนะครับ

 

นี่คือสิ่งที่ผมพยายามบอกเล่าเก้าสิบจนเหนื่อยในกระทู้นี้ว่า อย่าอ่านนิยายหรือนิทานขายพระมาก หากเคารพในอริยสงฆ์องค์ใด จงศึกษา ประวัติ-ปฏิปทา-วัตรปฏิบัติของท่านก็พอ ประวัติต่อเติมเสริมแต่งด้านอภินิหารหลุดโลก-อย่าเชื่อ..!!!

แต่จงเชื่อสิ่งที่รองรับด้วยอริยบุคคลเสมอเหมือนเทียมเท่ากันหรือสูงกว่า จะเห็นว่าผมไม่เคยนำเสนออภินิหารหลวงปู่-หลวงพ่อท่านใดเกินเลยไปกว่า บันทึกที่บุคคลระดับเทียบเคียงกันได้รับรอง ยืนยันไว้ และเป็นบันทึกที่บุคคลผู้นั้น เป็นที่เชื่อถือได้ในสังคมและในโลกทุกทิศ ทุกที่ ทุกสถาน

เรื่องหลวงปู่ทิมก็เช่นกัน อภินิหารท่านแทบจะหลุดโลกไปแล้ว โม้ทั้งนั้นโดยนักทำพระ-ขายพระเขียนต่อๆกันมา แต่ละคนเมื่อคัดลอกเขียนใหม่ ก็เพิ่มเติมต่อหาง ต่อแขน-ขาเรื่องราว ใส่ความคิด ทัศนะ กับเรื่องเหนือโลกเพิ่มลงไปมากยิ่งขึ้น ด้วยเกรงว่าเขียนเหมือนของเก่า จะถูกหาว่าลอกเขามาและไม่มีคนอ่าน ไม่สาสมหัวใจนายทุนนักขายพระทีี่โยนเศษเงินให้โปรโมท ด้วยหนังสือพระกับหนังสือโฆษณา ไม่ต่างกันตรงไหนเลย

พระแก่ๆบ้านนอกอย่างหลวงปู่ทิมบังเอิญเรื่องราวท่านดำเนินไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ไม่เคยขาดสายจากนักขายพระติดต่อกันหลายสมัยถูกโฉลก นักเล่านิทาน ก็ดันเล่าเก่งไม่อับอายที่จะปั้นเรื่อง ท่านจึงดังระเบิดระเบ้อหลุดโลกไป

ผมขอให้ข้อสังเกตเป็น"รูปธรรม-เรื่องจริงผ่านจอชัดแจ้ง"สักเรื่องว่า...หลวงปู่ทิมท่านถือสัจจะ ไม่ลอดราวบันได ใต้ถุน หรืออะไรก็ตามที่ส่อว่าเป็นการ"มุด-ลอด"... แบบเดียวกับ หลวงปู่มั่น ทัตโต แห่งอุบลราชธานี การที่จะมีคนนิมนต์ท่านออกจากวัดจึงยากมาก นี่เป็นอีกเรื่องที่นักเขียนที่รู้ดี พยายามเลี่ยงไม่เขียน กลัวคนจับไต๋เรื่องออกไปปลุกเสกพระนอกวัดได้ว่า ไม่มีมากเหมือนในนิยายที่ปั้นแต่ง

พระที่ท่านปลุกเสกหลังจากชื่อเสียงเกรียงไกรแล้ว จึงอยู่ที่แถบถิ่นใกล้ๆระยอง สัตหีบ ชลบุรี จันทน์ ฯลฯไม่ต้องเดินผ่านการลอดสะพานหรือสิ่งอวมงคลให้ท่านเสียสัจจะ กับที่แน่ๆคือการนำวัตถุมงคลนั้นไปให้ท่านเมตตาปลุกเสกถึงวัด อย่างนั้นชัวร์ หากมีการบันทึกไว้แข็งแรง เช่นชุดวัดผาทั่ง-อุทัยธานี กับอีกหลายชุด

ส่วนการรับรองหลวงปู่ทิมโดยหลวงปู่โต๊ะกับพ่อเงินนั่นก็นิยายอีก และเรื่องหลวงปู่ปลุกเสกปลัดขิกวิ่งในบาตรน้ำมนต์หน้าลพ.หอม วัดซากหมากกับลพ.อ่ำ ปรมาจารย์เครื่องรางรูปแพะนั่นก็สุดยอดนิยายเขียนโดยนักเขียนเก๋ากึ๊กส์ในค่ายมหาโพธ์สมัยโบราณ เอามาคัดลอกต่อๆกันมาจนกลายเป็นนิทานจริง

หลวงปู่ทิมท่านไม่ต้องมีคนรับรอง เพราะท่านเก่งอยู่แล้ว ของจริง แต่สิ่งที่เกิดก่อนท่านดังนั้น เป็นนิยายประกอบการขายพระทั้งสิ้น ก็ถือว่าน้องณัฐเป็นคนรักพระสะสมวัตถุมงคลที่มีเหตุ มีผลใช้ได้ อย่างน้อยยังมีหลักกาลามสูตรแห่งพระพุทธองค์ติดสมอง

ฝากชื่อ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ผู้เกรียงไกรแห่งบางบาล อยุธยาไว้ให้นึกถึงด้วย เวลามีชื่อปลุกเสกในสถานที่ใดจากนักเขียนนิยาย แล้วเขียนให้กลายเป็นหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่--แค่นี้ซึ้งมั้ย?

อ้อ-อยากเล่าเสริมเป็นวิตามินสมองให้ว่า ในปี 2520 เหรียญหลายรุ่นหลวงปู่ทิม ขายราคาเพียง20บาท ทุกรุ่นทีี่แพงลิบลิ่วนี่แหละ บางแห่งเจ้าของแผงแจกฟรี ถ้าหากซื้อพระราคาเกิน 500บาท เรียกว่า ไล่แจก-ไล่แถม แต่อย่าแปลกใจเลย พระหลวงปู่โต๊ะ จากวัดประดู่ฯ ในช่วงปี 18-22...ของท่านก็ไล่แจกฟรีเหมือนกัน โดยเฉพาะแจกทางนิตยสาร"ลานโพธิ์"หนังสือพระหลายรุ่น

นี่คือเส้นทางพระเกจิยุคพ.ศ.นั้น...ยุคที่วงการพระเล่นหากันแต่เบญจภาคี พระกรุ พระเก่า เหล่าเกจิดังก่อนพ.ศ.2500ยุคสงครามอินโดจีนเป็นหลัก...

พระเกจิยุคหลังนี้ต้องผ่านการร่วมพิธี "ยี่สิบห้าศตวรรษ" ต่อให้ท่านอยู่ในซอกหลืบไหนของประเทศ รัฐบาลก็ไปรับท่านออกมา ขอให้เก่งจริง ไม่รอดพ้นสายตารัฐหรอกครับ

จากนั้นรอหลังปี 40 พระเกจิมากมายจากจำนวนนั้นจึงทะยานพิชิตพระกรุได้อย่างเด็ดขาด แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ เพราะพระกรุ-พระเก่าชื่อดังขลังอดีต...กำลังรีเทิร์นกลับมา เนื่องจากพระใหม่ๆสร้างแล้วคนสร้างเจ๊งระเนน กับกฏเหล็กห้ามขายพระในวัด ทำเอาพระใหม่ม้วนเสื่อเกินครึ่ง ไม่มีคนสร้างเลย

 

ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อ ผมสาบานได้ว่า
ยังไม่เคยได้ยินประโยคนี้กับหู...
"ขอซื้อคุณสมหวังสักถุงครับ"
แม้แต่หนเดียวในชีวิต-ฮ่า

 

เมื่อวานทำท่าหนาวปนฝน
วันนี้ดันมีความร้อนอ้าวระอุ
อากาศแบบนี้ ไม่สบายดีนัก
คนแก่มักจากลาช่วงนี้ รักษา
สุขภาพด้วยน้องไพเรท

 

พักจิบกาแฟ กลับมาเข้าเรื่องเล่า
บุกตะนาวฯให้สำราญวันหยุด
รอการจิ้มเช่นเคยครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ความเดิม...สายลมเย็นแห่งขุนเขากรูกระหน่ำ เสียงแห่งพระพายกรีดวู่หวิว พัดผ่านร่างดวงดาวขนลุกสะท้านชูชัน หากนั่นเป็นเพียงกายเนื้อที่คงรับรู้ร้อน-หนาว...กายในดวงดาวหาได้สะดุ้งสะเทือนเยือกไหวไปกับดินฟ้ารอบตัวไม่!
____________________

หนุ่มน้อยเป่าลมผนวกมนตรามหาเวทย์ใส่มีดหมอมหามนต์ขลัง...พลังพุทธคุณผนึกแนบแน่นกับอักขระมหายันต์ที่จดจารไว้บนด้ามกับใบมีด ล้วนตีด้วยโลหะธาตุหายากทั้งสิ้น มีเพียง 3 เล่มในโลก!

อักขระศักดิ์สิทธิ์ชักเส้นยันต์กำกับครบสูตร ๑๐๘ พุทธคุณโดยสุดยอดปรมาจารย์ พลันเรืองฤทธิ์ราวกับมีชีวิต ปรากฏแสงเรื่อเรืองแหวกความมืดมิดแห่งราตรีที่ห้อมล้อม!!!

ทั้งหมดนั้น ดวงดาวทันเห็นเมื่อเปิดเปลือกตา หะแรกนึกว่าตาฝาดเป็นแสงดาวที่กระพริบเจิดจ้าบนห้วงนภานับล้านดวง ประกายพฤกษ์ที่เกลื่อนเวหนระยิบระยับดังกากเพชรอาจสาดส่องลงมากระทบใบมีด แต่ดวงดาราเบื้องบนไม่มีแสงขนาดนั้น ดวงจึงมั่นใจว่าแสงเรื่อเรืองที่กระทบชั่ววิบตานั้น ไม่ใช่ตาฝาด!

กำลังใจเพิ่มพูนเต็มอกแฟบๆ หนุ่มอีสานยกมีดหมอบรมครูขึ้นจบเหนือหัวอีกครั้ง ลุกยืนกำหนดหาทิศทาง คุณเทพที่รออยู่แล้ว เดินออกจากถ้ำกับเจ้ามะ ช่วยกำหนดให้ดวงดาวจรดใบมีดกับพื้นพสุธา กราบขอขมาแม่พระธรณี จากนั้นขีดเส้นมหามนต์เป็นทวารบาลปกปักคุ้มกบาลผู้พักอาศัย

===========ครืน...!==========

ทันทีที่ใบมีดแรกจรดลงกับพื้น ฟ้าร้องกระหึ่มก้องขานรับ ดวงดาวกับทุกคนขนหัวตั้ง เงยหน้ามองกันในความสลัวเลิ่กลั่ก...

"ขีดเส้นเลยดวง เทพ-เทวดาท่านรับรู้ ช่วยแล้ว"...!

คุณเทพระล่ำระลั่กดีใจ ดวงดาวพยักหน้า จดมีดลงดิน ลากจากปากถ้ำทางขวาไปซ้าย โค้งเส้นเข้าหาประตูทั้ง 2 ฟากฝั่ง จิตที่ยังนิ่งกำหนดพระมหาคาถา"มงกุฏฯ"ตามไป ไม่ประมาทเลินเล่อ

จบพิธีนอกถ้ำ ชาวคณะแห่เข้าด้านในโถงใหญ่ อาจารย์เลิศ นอนนิ่งอยู่ข้างกองไฟ มือประสานกลางอก หลับตาหายใจสม่ำเสมอ

หนทางด้านหลังเชื่อมต่อเส้นที่มุดเข้าไปหาถ้ำซึ่งเจอเหล็กไหลก้อนแรก ถูกขีดเส้นตราตรึงก่อน คุณเทพเดินเอาไฟฉายส่องชี้ให้ดวงปักมีดลากเส้นห้อมล้อมทุกจุดที่มองแล้วหละหลวม สามารถเล็ดรอดผ่านเข้ามาในบริเวณถิ่นพักอาศัย

ปราการมนตราที่กระทำกันเหงื่อท่วม เปรียบเทียบง่ายๆ ต้องบรรยายว่า แข็งแกร่งดังผนังทองแดงกำแพงเหล็ก แม้แต่มดตัวน้อยก็ยากผ่านช่องว่างเส้นพุทธมนต์ !

ไม่พอ ดวงดาวอุตส่าห์ปีนป่ายตระพักด้านข้างผนังถ้ำ ลากมีดหมอแกร็กๆ ไปทั่ว เท่าที่แขนน้อยๆ เอื้อมถึง นอกจากผนังทองแดงฯ ดังกล่าว... ทุกจุดยังเปรียบดั่ง"มหาอุตม์" หรือยันต์เกราะเพ็ชร เป็นสิ่งที่เหลือไว้พึ่งทางใจเพียงนั้น เพราะรู้ดีว่า ต่อให้มีปืนโตสักโหลก็ไม่มีทางต้านทานสิ่งเหนือโลก ณ สถานที่นี้

แน่ใจว่าทุกจุดครบถ้วน มะจัดแจงต้มน้ำร้อน ชงกาแฟดำข้นคลั่กให้คุณเทพซึ่งงัดบรั่นดีเหยาะใส่ 2-3 หยด เพิ่มปริมาณข้นเข้ม รักษาโมเมนตั้มการอดนอนสูงสุด ดวงดาวกับมะทดลองจิบกาแฟขมดำก่อนทำหน้าเบ้ จะถ่มทิ้งก็เกรงใจ ฝืนกลืนเอื้อกลงคอ สักครู่ก็ได้รับรู้อาการหู-ตาสว่าง...

อ้อ...พวกชาวศิวิไลซ์มีเครื่องดื่มแปลกๆ แบบนี้เอง แต่มันกับมอญหนุ่ม ขอเป็นคนหลังเขาตามเดิม ปฏิเสธเมื่อหนุ่มใหญ่ใจกว้างเสนอให้เหยาะบรั่นดี

4 ชีวิต 3 นั่ง 1 นอน...ห้อมล้อมรอบกองไฟเงียบๆ ทุกคนมีผ้าห่มอย่างดีที่คุณเทพงัดเอาของคุณชาติกับคุณนงมาให้ห่มตัวอย่างไม่รังเกียจ ไม่รู้เจ้าของเดิมจะได้กลับมาใช้มื้อไหน ทิ้งไว้ในหีบสัมภาระช่างโง่เขลา และไร้ประโยชน์

กาแฟร้อน-บรั่นดี น้ำร้อน ผ้าห่มเนื้อดีห่อตัว ฟังเสียงฟืนประทุเปรี๊ยะ ประสานสำเนียงไพรด้านนอก จั๊กจั่น เรไร แมลงกลางคืน สัตว์ราตรีบางชนิดกรีดโหยหวนเป็นเพื่อน...ลมหนาวที่ผ่านเข้ามาในถ้ำเป็นพักๆ กลายเป็นลมทักทายแห่งเทือกเขา สร้างความเย็นสบาย ...

บรรยากาศผ่อนคลาย คุณเทพยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา พรายน้ำสีเขียวเรืองแสงอ่อนๆ...

" 4 ทุ่มแล้ว ท่าจะปลอดโปร่ง"...

=========="ตึง"!!!...==========

หาทันสิ้นเสียงหนุ่มใหญ่ ...มหาอุปราการยามราตรีที่ไม่อยากขอชมก็เปิดวง ประเดิมด้วยเสียงเหมือนค้อนยักษ์กระหน่ำลงบนพื้นพสุธา ความรุนแรงคลื่นเสียงและการสั่นสะเทือนพื้นถ้ำ ทำทุกคนสะดุ้งโหยง!

มะลืมตาโพลง ผุดลุกนั่งคุกเข่าข้างเดียว ดวงดาวรีบลุกขัดตะหมาดมือกุมมีดหมอกระชับ คุุณเทพซึ่งจิบบรั่นดีผสมกาแฟพอกรึ่มๆ ขี้ขึ้นหัวน้อยกว่าทุกคนเพราะฤทธิ์น้ำอมฤติเปลี่ยนนิสัย ที่ทำเห็นช้างเท่าหมู ร้องเสียงดัง...

"อยู่เฉยๆ อย่าตกใจ มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก"..!?

"ฮะ ฮะ ฮ่า..." กรีดสำเนียงหัวเราะแหลมบาดแก้วหู ทะลวงหัวใจแหวกฝ่าความเงียบสงัดเข้าในโถงถ้ำ เสียงเหมือนดังก้องห้อมล้อมรอบกาย พลังเสียงจับทิศทางไม่ได้ ลอยจากด้านใด?...

มันกระทบโสตประหนึ่งข้างหน้าก็ใช่...ด้านหลังก็มี แถมบางทียังกับอยู่ข้างตัว...!

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

ขอบคุณพี่วันสำหรับ 1 ท่อนยาว ๆ เข้าตะนาวศรีในวันหยุดครับ

หลายวันก่อนขึ้นห้องพระ ไปเจอเอาเหรียญมูลนิธิพระพุทธยอดฟ้าฯ อยู่ประมาณ 150 เหรียญ
จำได้ว่าได้มาหลายปีแล้วในราคาที่ไม่แพงเลย แต่ดูจากสภาพเหรียญแล้วยังใหม่จ๋องเลยละครับ

 

ไม่ว่าจะ ปฏิบัติภาวนาที่ไหน
ให้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
อย่าถือว่า จะปฏิบัติภาวนาแต่เฉพาะขณะนั่ง
หรือเดินเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกหนทุกแห่งเป็นการปฏิบัติได้ทั้งนั้น
ให้รู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ให้มีสติอยู่ ให้เห็นการเกิดดับของกายและใจ

หลวงพ่อชา สุภัทโท

# ธรรมมะสวัสดีวันนี้ครับ

 

วันนี้ไปทำบุญถวายสังฆทานเดือนพฤศจิกายน กับพระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุนที่บ้านเติมบุญ พี่พัฒนาและน้องๆที่โรงหล่อพระ ฝากปัจจัยไปร่วมทำบุญด้วยกัน พร้อมถวายพระผงขวัญถุงมหาเศรษฐี หลวงปู่บุดดา ถาวโร ปี 2534 จำนวน 56 องค์ครับ

อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ

บุญกุศลที่พึ่งเกิดขึ้นนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายและมารดา ขอตั้งจิตน้อมถวายแด่พระรัตนตรัย อันมี พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา อันมี หลวงปู่ทวด-ดู่ หลวงปู่โต พรหมรังสี สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระสังฆราชเจ้าทุกๆพระองค์ ลพ.ปาน ลพ.ฤาษีลิงดำ ลพ.เกษม เขมโก พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน ลป.ชื้นวัดญาณเสน สมเด็จฟื้นวัดสามพระยา ครูบาอาจารย์สืบสายลป.มั่น ภูริทัตโต ครูบาอาจารย์สืบสายเขาอ้อ ครูบาอาจารย์สืบสายสำเร็จลุน ครูบาอาจารย์สืบสายครูบาศรีวิชัย ลพ.กวย ชุตินธโร ลป.ครูบาอิน อินโท ลป.หมุนวัดบ้านจาน ลป.ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ลป.คำพันธ์ โฆษะปัญโญ ลพ.จรัญวัดอัมพวัน หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ หลวงตามหาบัว ลป.พิศดู ธรรมจารี ครูบากฤษดา สุเมโธ พ่อท่านผอม ถาวโร พระครูนุ่ม วัดโพธิ์ท่าเตียน พระอาจารย์สมบูรณ์ ลป.สี ฉันทสิริ และลป.บุดดา ถาวโร เป็นที่สุด

ขอถวายบุญนี้เป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชทุกๆพระองค์ และในหลวงรัชกาลที่ ๙

ขอน้อมนำคุณพระรัตนตรัยนี้ ทรงปกปักรักษาแม่หลวงของแผ่นดิน, พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10, พระเทพฯ, พระบรมวงศานุวงศ์ ขอทุกพระองค์ทรงพระเจริญ และมีพลานามัยที่แข็งแรงตลอดไปด้วยเทอญ

ขอบุญนี้ส่งผลให้ บิดา มารดา ผู้มีพระคุณ และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าและของผู้ที่ร่วมบุญทั้งหลายกับข้าพเจ้า รวมถึงท่านทั้งหลายที่คิดดีทำดี มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ด้วยเทอญ

 

ขอบคุณมากๆครับคุณอา
หนึ่งท่อน
ยาวยาว
เสียงยังทะลุ
ประตูมนตรา
คืนนี้จะไหว
ไหมสามนั่ง
หนึ่งนอนสู้

 

สวัสดีครับคุณอาและพี่น้องๆทุกท่าน
ขอพรจากหลวงพ่อขาววัดอินทขิลสะดือเมือง เชียงใหม่ ขอให้สดชื่น ขอให้ราบรื่น เผื่อให้ทุกท่านครับ