กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

เดาอันหลังผิดไปแต่ก็ใกล้ๆกันอยู่เนาะอิอิ อัศจรรย์จริงๆคนที่อยากเป็นใหญ่เค้ารู้ได้ยังไงว่าต้องครอบครองที่ตรงนั้นตรงนี้ แต่พูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านๆที่เบื้องบนท่านก็เล็งเห็นว่าใครมีเจตนาไม่ดีก็เลยให้ครอบครองไม่ได้เนาะ

 

กลุ่มท่านที่มีหลายเศียร ท่านไม่เอาด้วยหรอกครับ
แม้พวกนั้นมีบารมี แม้มีความรู้ทางโลกเชิงธุรกิจมากมาย
แต่ปนไปด้วย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญทั้งนั้น
แถมแอบคิดยังจะเอา สัญลักษณ์คลายๆเครื่องหมายบวก
มาปนเป็นสัญลักษณแล้วด้วย
ภูมินี้ เคารพศรัทธา ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพมาก
ถึงขนาดเมืองที่มี ท่านผู้เป็นใหญ่อาศัยอยู่
หากใครเคยเข้าไปได้ จะได้พบท่านสีขาว และท่านสีดำ
เฝ้าพระสรีระของ ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพองค์ปัจจุบันอยู่
ตรงหลังประตูทางเข้าโน้น.....
ต้นไม้ต้นใหญ่มาก ขนาดฝ่าฟ้า ต้นไม้หัก
ล้มมาทับ บางท่านมรณะภาพไป ก็น่าจะคิดได้
ว่าอะไรควรเล่น ไม่ควรเล่นด้วย

ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพหมายถึงได้รับการยกย่อง
เครารพสรรเสริญ จากภพภูมิในไตรภพนี้ทุกๆชั้น
การพยายามเป็นเลิศในภพใดภพหนึ่งนั้น
บารมียังห่างไกลกันอีกหลายกับหลายกัลป์อยู่มาก...

นี่ก็นิทาน....
ปล.ถ้าพลังจิตยอดเยี่ยม บารมียอดเยี่ยมจริงๆ
จะไม่มีความคิด ที่จะใช้หลักการเอาพลังงาน
ต่างๆมาหนุนแบบนี้หรอกครับ....
สมัยก่อนเค้าทำเพื่อรักษาบ้านเมือง
ปกป้องผู้คน ไม่ให้ได้รับอันตราย
จากภัยต่างๆ ผู้ง่ายๆว่าไม่ใช่เพื่อตน
ไม่ใช่เพื่อ ความเป็นใหญ่
ในลักษณะที่ ยังติ้ดทั้ง ลาภ ทั้งยศ ทั้งสุข
ทั้งการสรรเสริญหรอกครับ..
นี่ก็นิทานอีกนั่นหละ ๕๕๕

 

ตั้งใจอ่านต่อไปนะครับ...
(ผมเน้น..ผมเน้นครับ)
เมื่อสืบค้นอย่างละเอียดและละออ
จุดที่ตัดกัน...จุดที่ 3
จะเป็นจังหวัดกำปงธม
เป็นจังหวัดที่มีเนื้อที่อันดับ 2 ของเขมร
ที่สำคัญมีสถาปัตยกรรมเขมรเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ปราสาท Sambor Prei Kuk (สมโบไพรกุก)
ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นเดียวกับนครวัด
...และปราสาทวัด Andet ที่เก่าแก่มาก
กำปงธมเป็นหนึ่งในเก้าจังหวัด
....ที่มีอาณาเขตติดต่อกับโตนเลสาบ

ชื่อเดิมของจังหวัด คือ กำปงโพสธม
หมายถึงนครแห่ง*งู*
ตามตำนานท้องถิ่นเล่าขานกันว่า
ที่ท่าเรือริมทะเลสาบใกล้กับแม่น้ำแสน
มีงูใหญ่อาศัยอยู่ในถ้ำทั้ง 2 แห่ง ซึ่งใกล้เคียงกัน
เมื่อถึงทุกวันสำคัญทางศาสนา
งูเหล่านี้จะปรากฏให้ชาวบ้านบริเวณนั่นเห็น
จึงเรียกที่แห่งนั้นว่า กำปงโพสธม
ปัจจุบันนี้งูใหญ่ไม่ค่อยมีใครพบเห็น
จึงเรียกชื่อสั้นลงเป็น กำปงธม

//สืบค้นถึงตรงนี้...ผมว่ามันมีอะไรที่คล้ายๆกัน//
ดอนสวรรค์...ดอนแห่งพญานาค
นครกำปงธม...ดินแดนแห่งงูใหญ่

สามเหลี่ยมปริศนาน่าจะยังไม่จบเพียงแค่นี้
...คงต้องรอท่านอจ.นพมาเล่านิทานต่อ

 

Wow ! !
สุดยอดเลยท่าน...สดๆร้อนๆ
...เดินผ่านสวนทางกันแว๊บเดียว

**เชิญท่านมาเล่าต่อที่นี่ครับ**

 

หมดเรื่องจะโม้เป็นนิทานแล้วครับ ๕๕๕
เอาว่า จุดต่างๆเหล่านั้น
ก็จะมีรูปร่างคล้าย ปิรามิด ในอียิปต์
นั่นหละครับ หมายถึงรูปลักษณ์ทางพลังงาน
ที่เหมือนรูปร่างปิรามิดนะครับ...
แต่ จะเป็นปิรามิด ที่จุดนั้นๆก่อน
๓ จุดก่อน ที่จะรวมกันที่ปลายเป็นปิรามิด
ใหญ่อันเดียวนั่นเอง
นี่ก็นิทานปนโม้อีกตามเคย...

 

มีจริงๆเหรอครับเนี่ย จักรแก้ว ตรี สังข์ ธนู แต่ก่อนผมเคยฝันว่าเคยใช้สังข์ แล้วก็ใช้กสินจากสังข์ด้วยมี น้ำ ไฟ ลม ดิน เหมือนเป็นนิมิตให้เห็น อดีตผมเคยทำได้ใช่มั้ยคับ แต่หลายวันก่อนฝันเห็นปู่ศรีสุทธโธคับ เหมือนกำลังขึ้นเรือข้ามมหาสมุทร ในฝันท่านบอกว่าจะช่วยแล้วให้งูใหญ่ตัวหนึ่งคอยดูแลไปด้วย ในฝันเห็นท่านรูปนี้คับมีในเน็ตจริงๆด้วย ตัวจริงท่านเหมือนหรือป่าวคับ แต่พอขอดูท่านใกล้ๆก็เป็นอีกรูปหนึ่งคล้ายๆนักแสดงจักรๆวงศ์ๆ

 

ความฝันมันก็มาจากสัญญาในจิตนั่นหละ
จิตเคยผ่านอะไรมา มันก็ฝันได้
แต่จะผลิกให้ขึ้นมาใช้งานได้จริงๆหรือเปล่า
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างๆน้อยๆจะต้องผ่าน
๑.เรื่องเมตตา
๒.ความเฉลียวในการใช้งาน
๓.การทดสอบเรื่องความตาย
๔.เบสิค คือ กสิณใช้งานได้อย่างน้อย ๑ กอง...ทางที่ดีควร ๕ กอง
ผ่านสามส่วนนี้ได้ ถึงจะใช้ได้...นะออเจ้า...
ปล.คนอื่นๆจะสามารถสัมผัสได้ด้วย....
นิทานๆ

 

อยากสัมผัสกสินสักกองคุณนพช่วยได้หรือเปล่าคับ

 

ลองดูว่าฝันอะไรเด้อ

 

๕๕๕ ใจเย็นๆให้ดูในความฝันก่อน
เด่วรู้เอง

 

ผมถามคุณนพไปงั้นแหล่ะคับ สมาธิผมไม่ได้เรื่องไม่ได้ทำนานแล้ว คงไปสัมผัสอะไรไม่ได้ แต่ชอบเรื่องแบบนี้รู้สึกว่าสนุกดีคับ

 

จร้าถึงได้บอกว่า ให้รอดูในความฝันนั่นหละครับ...
ฝันก่อนแล้วจะรู้เองว่า มันเป็นอย่างไร
เกทเนาะ...

 

ตอนผมฝัน เป่าน้ำออกมาจากสังข์น้ำลอยอยู่บนอากาศรู้สึกว่าหายใจได้ปกติ ครอบเต็มห้อง ส่วนไฟยื่นสังข์ออกไปก็เห็นเป็นไฟลุก ตอนเป่าลมจะเห็นเป็นลมหมุนออกมาเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกา ไปเป็นวงกลมบนอากาศ ตอนเป็นดิน เหมือนลมพุ่งลงบนดินเป็นวงกลมบนดินให้เห็นเหมือนแผ่นไว้ฝึก (ไม่มีอะไรทำก็เลยมาเล่าคับ)

 

ประมานนั้นหละครับ ลักษณะของพลังมัน
ปล ถ้าหมุนตามเข็มจะเป็นการดูด
ไม่มีอะไรเล่าให้ฟังเฉยๆ
สังข์จะใช้ทำพิธี เหมือนเทลงดิน
แล้วแต่จะขออะไร ประมานนี้

 

**ผมเรียกท่านเป็นอาจารย์(อ.)เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง**
นอกจากความอาวุโสด้านพุทธะ ด้านจิตวิญญาณ ด้านพลังงานเหนือคำอธิบายบางอย่าง และอื่นๆ
...ซึ่งผมสัมผัสได้ด้วยภาวะจิตส่วนลึกว่า "ของดีมีอยู่ในตัวอ.นพมากมาย"

....ขอวกเข้าเรื่องที่ค้างคาใจเรื่องราวของ*สามเหลี่ยมๆ*
นอกจากเป็นพลังอำนาจตามที่ท่านว่าไว้

...ผมคิดว่า*สามเหลี่ยม*ทั้งหลายซ่อนสิ่งเร้นลับไว้มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นความมหัศจรรย์ "สามเหลี่ยมปิรามิด"แห่งกิซ่าที่อียิปต์

ความลึกลับของสามเหลี่ยมเมอร์คิวดา หรือสามเหลี่ยมปีศาจ เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 บันทึกไว้น่าสนใจว่าเรือหลายชนิด เครื่องบินบางลำ ที่ผ่านเข้าออกอาณาบริเวณสามเหลี่ยมปีศาจนี้จะหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้

ผมจึงคิดว่า...*สามเหลี่ยมๆ*เหล่านี้
น่าจะมีพลังอำนาจ พลังลึกลับบางอย่างแฝงเร้นอยู่
...ถ้าสถานที่ตั้งเป็นใจ ประจวบเหมาะกับกาลเวลาที่ผ่านเข้ามาในช่วงใดช่วงหนึ่ง

"ถ้าดี ก้อจะดี...ถ้าร้ายก้อจะร้าย"

//ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญ//
...ให้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

(ต่อครับ)

 

2-3 วันที่ผ่านมา....
ผมตั้งวงเฮฮาปาตี้กับเพื่อนบ้าน

....ตอนหนึ่งผมได้พูดถึงดอนสวรรค์
และหยิบยกสามเหลี่ยมปริศนาของท่านอ.นพขึ้นมาคุย

ระหว่างคุยกัน เพื่อนบ้านชื่อลุงเหลา
ดูเหมือนแกมีความรู้เรื่องสามเหลี่ยมๆพอสมควร

ตอนหนึ่งลุงถามว่า....
....มีใครเชื่อว่า”สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา"ได้
....สามเหลี่ยมคือพลังอำนาจทางโลกและจิตวิญญาณ
มีพลังซ่อนเร้นขับเคลื่อนเป้าหมายที่วางไว้

ลุงเหลาอธิบายว่า...
...แต่ละมุมของสามเหลี่ยมจะกำหนดเป็นชื่ออะไรก็ได้
ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและงานที่จะทำ

แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เคยพบเห็นมาคือ....
มุมบนที่ 1. ข้อมูล-องค์ความรู้-วิชาการ
มุมซ้ายฐานล่างที่ 2. ขับเคลื่อน-มวลชน-สังคม
มุมขวาฐานล่างที่ 3. บารมี-พลังอำนาจ-ความเป็นใหญ่
(หมายเหตุ--รูปที่ส่งมาแค่นำมาประกอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้)

แต่จะต้องมีรูปลักษณ์ของสามเหลี่ยมปิรามิดเป็นเกณฑ์
ไม่ว่าจะขับเคลื่อนในบริษัทองค์กร
หรือแผนพัฒนาบ้านเมือง กระทรวงทบวงกรม

**งานด้านศาสนาก็สามารถนำมาใช้ได้**

 

ลุงเหลาเริ่มออกอาการเครื่องร้อน
...เล่าต่อไปว่า

*สามเหลี่ยมที่เล่ามาคาดว่าใช้มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล*
พระพุทธองค์ทรงใช้สามเหลี่ยมในการเผยแผ่พุทธศาสนา
นับจากวันที่ตรัสรู้ ในคืนวันเพ็ญเดือน 6
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ ริมฝั่งแม่นํ้าเนรัญชรา
....นี่คือมุมที่ 1
อยู่ยอดบนของสามเหลี่ยม(ตรัสรู้ รู้แจ้ง)


เมื่อตรัสรู้แล้วก็ทรงตัดสินใจประกาศพระศาสนา
โดยการขับเคลื่อนเผยแพร่คำสอนแก่ผู้ศรัทธา
ให้ทราบถึงแก่นแท้ความสำคัญของพระศาสนา
จากนั่นจึงให้พระภิกษุออกเผยแผ่ไปตามสถานที่ต่างๆ
....นี่คือมุมที่ 2
ฐานล่างซ้ายของสามเหลี่ยม(ขับเคลื่อน-มวลชน-สังคม)


สถานที่แห่งแรกที่พระพุทธเจ้าทรงปักหลักเผยแผ่
คือแคว้นมคธ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงทราบดีว่า
เป็นแคว้นที่เหมาะในการหยั่งลึกพระศาสนา
ขณะนั่นมีพระเจ้าพิมพิสารเป็นเจ้าเมือง
ตอนนั่นมีนักพรต(ฤษี)3 พี่น้อง
ลัทธิบูชาไฟและศรัทธาใน**พญานาค**
ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารให้ความเคารพ
พระพุทธเจ้าจึงทรงโปรดเผยแพร่คำสอน
ให้นักพรต 3 พี่น้องได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
พร้อมทั้งเหล่าลูกศิษย์บริวารอีก1,000 คน
ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารก็หันมานับถือพุทธศาสนา
ตามนักพรตทั้ง3
จึงได้กลายเป็นกำลังสำคัญ
ในการช่วยเผยแผ่พุทธศาสนาได้อย่างกว้างไกล
ด้วยพระเจ้าพิมพิสารทรงมีอำนาจอยู่ในแคว้นนี้
จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้พุทธศาสนา
เจริญรุ่งเรืองมากว่า 2,500 ปี
....นี่คือมุมที่ 3
ฐานล่างขวาของสามเหลี่ยม(อำนาจ-บารมี-ความเป็นใหญ่)

….รูปแบบ “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา”
....มีพลังอำนาจ พลังจิตเร้นลับ
....ด้วยประการเช่นนี้แล

 

ท่าน อ.นพครับ (หลับหรือยัง)

“สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา”

ภูเขาใหญ่มหึมาอลังการ...หนักไหม?...แสนยากไหม?

*แต่ถ้าองค์ประกอบทั้ง 3 มุมครบถ้วนสมบูรณ์*

...รวมพลังกายและจิตวิญญาณด้วยมุ่งมั่น
ทุกพลังศรัทธามุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้

มุมบนที่ 1. ข้อมูล-องค์ความรู้-วิชาการ
มุมซ้ายฐานล่างที่ 2. มวลชน-สังคม-แรงขับเคลื่อน
มุมขวาฐานล่างที่ 3. บารมี-พลังอำนาจ-ความเป็นใหญ่

///อย่าว่าแต่เขยื้อนภูเขาเลย///

*ขยับเขยื้อนเขย่าโลกก็ยังไหวเลยครับ*

55555555


....ผมได้นำเอาเรื่องเล่าบางส่วนของลุงเหลามาเล่าต่อ
....ว่างๆอาจมีนิทานอื่นๆมาเล่าต่ออีก
โดยเฉพาะเรื่องของกระแสพญานาค
....ยังไม่จบเพียงนี้ นะครับ

 

เล่าต่อๆกำลังมัน พอดีวันก่อนแวะไปหา
ท่านพระอาจารย์จิตไวมาครับ
เลยไม่ได้มาโม้เลย...

ส่วนตัวมองว่า ข้อมูลที่คุณลุงเล่ามา
เกี่ยวกับ ๓ เหลี่ยมถือว่าดีแล้วนะครับ
เพราะส่วนตัวไม่มีความรู้ในเรื่องเลยครับ....

แต่ถ้าถามว่า เรื่องพลังงานมันมีคนเก่งไหม
มีครับ บางคนเก่งถึงระดับพลิกจักรวาลยังได้ครับ
ถ้าหากว่า เค้าสะสมบารมีมาทางด้านนี้
แต่มันไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ครับ
ประโยคข้างบนที่พูด ไม่ใช่ข้าพเจ้าพูดเองนะครับ
ท่านที่ห่มเหลืองมีชื่อ ท่านหนึ่งพูดให้ฟัง ครับ...

ส่วนเรื่องพลังงาน จะเกี่ยวข้องกับ รูปทรงสามเหลี่ยม
ในทางปฏิบัติ มันก็เหมือนกับการรวมพลังงาน
ก่อนที่จะส่งไปไว้ที่ปลายนั้นหละครับ

และก็จะมีความเกี่ยวข้องกับ ดวงตาแห่ง รา ด้วยครับ
ดวงตาแห่งรา เราจะพบได้ ที่ยอดของปิรามิดครับ
คือปิรามิด เคยแวะไปเที่ยวมาอยู่ครับ
สมัยที่ฝึกกรรมฐานกองหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอยู่....

ซึ่งมันจะคล้ายๆการส่งพลังงานผ่านทางอากาศ
ซึ่งมันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในเรื่องการส่งพลังงาน
ที่แม้ว่า ฐานจะไม่เหมือนกัน แต่ที่ปลายจะรวม
เป็นสามเหลี่ยมเหมือนๆยอดปิรามิดนั่นหละครับ

คือ พอรวมแล้วที่ปลาย พลังงานงานนี้
จะสามารถยังไปยังเป้าหมายได้
โดยไม่ขึ้นอยู่กับกาลและเวลา
รวมถึงระยะทางนั่นหละครับ...

ท้ายนี้ อาวุธ ที่เป็นฆ้อน ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นครับ...
เคยเห็นแต่ในหนังเรื่อง ทอร์เทพเจ้าสายฟ้า..
ถ้าแบบอื่นๆ ในสายมหายาน เคยเห็นมาบ้าง
แต่บางอย่างก็ไม่รู้ว่า ใช้ทำอะไรเหมือนกัน...
ที่พอตอบได้ จะมีประมาณ ๕ อย่างครับ...
ส่วนจานข้าว เห้ย ! จานบิน เห้ย ! ถูกแล้ว
พอมีประสบการณ์บ้าง ช่วงที่หลงมิติ
และพวกที่อยู่ข้างในระยะไม่เกิน ๒ เมตร
ถ้าสนใจค่อยว่ากันครับ..

ปล.นิทานครับ นิทาน

 

พลิกจักรวาลได้ต้องเป็นพลังระดับสุดยอดเลยนะครับเหนือกว่าจะจินตนาการได้เลย