เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    อยู่กับความจริงในทุกวันนี้แหละ...คิดอะไรมาก ทำมาหากินไปไม่หลอกตนเองไม่หลอกคนอื่น..

    ยืดอกรับผลกรรมที่ทำมา...มีหนี้กรรมก็ต้องชดใช้ หมดหนี้เมื่อไหร่ก็เห็นทางสว่างเองนั่นแหละ
     
  2. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เกิดมาเพื่อตายจะกลัวทำไมความตายกลัวเกิดจะดีกว่า

    ทำความดีให้มากๆ ทำความดีเพราะเห็นว่าตนเองเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น...เห็นคุณค่าในตัวเองนั้นแหละดีที่สุด...ถึงวันตายก็ปล่อยให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาลัยในสิ่งใด...ที่มีอยู่ในใจปล่อยให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ ปล่อยแม้กระทั่งลมหายใจ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2019
  3. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    มีให้กินก็กิน มีให้ใช้ก็ใช้ไม่เบียดเบียนใครพอแล้ว..

    โลกก็เป็นอย่างนี้ หมุนไปสู่วันหมุนไปสู่คืน...มีมืดมีสว่างอยู่อย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยน...คิดมากทำไมปวดหัวเปล่าๆ
     
  4. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เดี๋ยวต่อไปตัดแปะแล้ว...ตัดแปะให้อ่านคำสอนครูบาอาจารย์นั่นแหละ
     
  5. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    การบริกรรมภาวนาให้จิตอยู่ ณ จุดเดียว คือ พุทโธ เมื่อจิตมาจดจ้องอยู่ที่คำว่า พุทโธ ให้พิจารณาตามองค์ ฌาน 5 คือ การนึกถึง พุทโธ เรียกว่า วิตก จิตอยู่กับ พุทโธ ไม่พรากจากไปเรียกว่า วิจารณ์หลังจากนี้ ปิติ และ ความสุข ก็เกิดขึ้น...เมื่อ ปิติและความสุขเกิดขึ้นแล้ว จิตของผู้ภาวนาย่อมดำเนินสู่ความสงบ เข้าไปสู่ อุปจารสมาธิ และ อัปปนาสมาธิ ลักษณะที่จิตเข้าสู่อัปนนาสมาธิ ภาวะจิตเป็นภาวะสงบนิ่ง สว่าง ไม่มีกิริยาอาการแสดงความรู้ ในขั้นนี้เรียกว่า จิตอยู่ในสมถะถ้าจะเรียกโดยจิตก็เรียกว่า อัปนนาจิตถ้าเรียกโดยสมาธิเรียกว่า อัปปนาสมาธิถ้าเรียกโดยฌานก็เรียกว่า อัปปนาฌานบางท่านนำไปเทียบกับฌานขั้นที่ 5 จิตในขั้นนี้เรียกว่า จิตอยู่ในอัปปนาจิต อัปปนาสมาธิ อัปปนาฌาน จิตย่อมไม่มีความรู้อะไรเกิดขึ้น นอกจากมีสภาวะรู้อยู่อย่างเดียวเท่านั้นเมื่อนักปฏิบัติผู้ที่ยังไม่ได้ระดับจิต เมื่อจิตติดอยู่ในความสงบนิ่งเช่นนี้ จิตย่อมไม่ก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งวิปัสสนาได้เมื่อเป็นเช่นนั้น ให้พิจารณา กายคตาสติ เรียกว่ากายคตาปฏิปทา โดยการพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนังโดยน้อมนึกไปในลักษณะความเป็นของปฏิกูลน่าเกลียด เป็นของโสโครก จนกระทั่งจิตมีความสงบลง รู้ยิ่งเห็นจริงตามที่ได้พิจารณาเมื่อผู้ปฏิบัติได้พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นสิ่งปฏิกูล ในที่สุดได้เห็นจริงในสิ่งนั้นว่าเป็นของปฏิกูล โดยปราศจากเจตนาสัญญาแล้ว ก็เกิดนิมิตเห็นสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นของปฏิกูลน่าเกลียดโสโครกจริงๆ โดยปราศจากสัญญาเจตนาใดๆทั้งสิ้น จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้พิจารณาเห็น อสุภกรรมฐานและเมื่อได้พิจารณาอสุภกรรมฐานจนชำนิชำนาญ จนรู้ยิ่งเห็นจริงในอสุภกรรมฐานนั้นแล้ว ให้พิจารณาร่างกายให้เห็นเป็นธาตุ 4 ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนกระทั่งเห็นเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อจิตรู้ว่าเป็นแต่เพียงสักแต่ว่าธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ จิตก็จะเกิดความรู้ขึ้นมาว่า ตามที่พูดกันว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ไม่มี มีแต่ความประชุมพร้อมของธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่านั้น เมื่อเป็นเข่นนั้น จิตก็ย่อมรู้จักอำนาจของความคิดขึ้นมาได้ว่า ในตัวของเรานี้ไม่มีอะไรอัตตา ทั้งสิ้น มีแต่ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่านั้น

    ....ถ้าหากภูมิจิตของผู้ปฏิบัติจะมองเห็นแต่เพียงกายทั้งหมดนี้ เป็นแต่เพียงธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ รู้แต่เพียงว่าเพียงธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ และภูมิจิตของท่านอยู่แค่นั้น ก็มีความรู้เพียงแค่ขั้น สมถกรรมฐานและในขณะเดียวกันนั้น ถ้าภูมิจิตของผู้ปฏิบัติปฏิบัติความรู้ไปสู่ พระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ไม่เที่ยง ทุกขัง เป็นทุกข์ อนัตตา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง...ถ้าหากมีอนิจจสัญญาความสำคัญมั่นหมายว่าไม่เที่ยง ทุกขสัญญา ความสำคัญมั่นหมายว่าเป็นทุกข์ อนัตตสัญญา ความสำคัญมั่นหมายว่าไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ภูมิจิตของผู้ปฏิบัตินั้นก็ก้าวเข้าสู่ภูมิแห่งวิปัสสนา เมื่อฝึกฝนอบรมจิต ให้มีความรู้ด้วยอุบายต่างๆ และมีความรู้แจ้งเห็นจริงในลักษณะของอสุภกรรมฐานโดยอุบายอย่างใดอย่างหนึ่ง จนมีความรู้แจ้งเห็นจริงในลักษณะที่ว่า กายเรานี้เป็นแต่เพียงธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ มีความเห็นว่า ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็เป็นแต่เพียงธาตุ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา ด้วยอุบายดังกล่าวแล้ว ผู้ปฏิบัติยึดหลักอันนั้น ภาวนาบ่อยๆ กระทำให้มากๆ พิจารณาให้มากๆ พิจารณาย้อนกลับไปกลับมาจิตจะค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ภูมิรู้ ภูมิธรรม เป็นลำดับๆ ไป...

    หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    15662777643489.jpg
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    AAGaQcZ.jpg
     
  8. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ในเมื่อกายยาว ๑ วา หนา ๑ คืบนี้แล เป็นตัวธรรม เป็นตัวโลกเป็นที่เกิดแห่งธรรม เป็นที่ดับแห่งธรรม เป็นที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้อาศัยบัญญัติไว้ซึ่งธรรมทั้งปวงแม้ใครใคร่จะปฏิบัติธรรมก็ต้องปฏิบัติที่กายและใจเรานี้ หาได้ไปปฏิบัติที่อื่นไม่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องหอบสังขารนี้ไปที่ไหนถ้าตั้งใจจริงแล้วนั่งอยู่ที่ไหน ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้นนอนอยู่ที่ไหน ยืนอยู่ที่ไหน เดินอยู่ที่ไหน ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้น นั่นแล.."

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    FB_IMG_1566474102126.jpg
     
  9. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    หนักเท่าไหร่ก็เอา ถ้าเราเล็งดูเหตุผลแห่งความวิเศษของจิต แห่งความพ้นจากทุกข์แล้ว ความเพียรหนักเท่าไร เราทุ่มได้ทั้งนั้น ผู้มีเหตุผลแล้วต้องทุ่มกันลงได้ นอกจากให้กิเลสเป็นตัวเหตุตัวผลแล้วเสียอย่างเดียว จะไม่มีเวลาทำอะไรได้เลย เดินจงกรมชั่วขณะก็จะตาย บังคับจิตใจเล็กๆ น้อยๆ พอกิเลสมันตื่นนอนก็หงายไปแล้ว นี่เป็นเรื่องของกิเลสทั้งมวล ที่แทรกอยู่ในวงความเพียรของเรา แต่เราไม่ทราบ ขอให้ทราบมันโดยลำดับตั้งแต่บัดนี้ไป การเดินจงกรม อย่าเข้าใจว่าเราทำความเพียรโดยถ่ายเดียว กิเลสทำงานอยู่กับทางจงกรม อยู่กับกิริยาแห่งการทำความเพียรของเราทุกอิริยาบถ เราไม่ทราบมันได้ ต่อเมื่อธรรมเหล่านี้ฉายแสงมันออกมา เราจะทราบ ทราบได้ทุกระยะๆ จนกระทั่งทราบได้รอบตัวภายในจิตใจ เอ้า ทีนี้ กิเลสกระเด็นออกจากจิตใจเราหมดแล้ว มันอยู่ในใจของสัตว์ ของบุคคลใดก็ตาม แสดงออกมาในลักษณะใด รู้หมด ปิดไม่อยู่ ทีนี้ หัวใจเราไม่มีมันอยู่กับหัวใจใด มันแสดงออกมาในกิริยาท่าทางใด เป็นกิเลสประเภทใด รู้หมด เพราะเรียนมันจบแล้ว ทำไมจะไม่รู้มันล่ะ จะไปถามที่ไหน เพราะมันเคยกองอยู่ภายในใจเราแล้ว ถูกกำจัดให้ราบเรียบไปจากนี้แล้ว ทำไมจะไม่รู้ นั่น เมื่อกำลังพอกันแล้ว ความสามารถพอกันแล้ว ไม่ต้องไปถามใคร.....
    รู้ทั้งนั้น !

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    FB_IMG_1566455164682.jpg
     
  10. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
  11. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ทุเรียนมีเปลือกหนา หนามคม ก็เพื่อรักษาเนื้อในของมันไว้ ท่านที่ต้องการรับประทาน จงค่อยพลิกหาที่รอยต่อพูของมันฉีกออก ท่านก็คงได้รับประทานและรู้จักรสอันโอชะสมหวังทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มีอะไรบ้างที่ดีแล้ว ถูกแล้ว หมดทุกประการนอกจากคนฉลาดผู้มีปัญญา จะรู้จักฝึกฝนอบรมตนเองให้ดีและถูกต้องเท่านั้น..

    โอวาทธรรม...
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

    FB_IMG_1566481089089.jpg
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    e0ddd1bcb3104443ee5183c206b44a10.jpg
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เราหายกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะหรือว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ไม่ และท่านเหล่านั้นหาได้ทำให้แจ้งซึ่งผล คือ ความเป็นสมณะและผลคือความเป็นพราหมณ์ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไม่ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นแล เรายกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะและยกย่องว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ และท่านเหล่านั้นย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งผล คือ ความเป็นสมณะ และผลคือความเป็นพราหมณ์ด้วยปัญญาอันยิ่งในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ฯ

    สมณพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดซึ่งทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ธรรมชาติเป็นที่ดับทุกข์ ไม่มีส่วนเหลือโดยประการทั้งปวง และไม่รู้ชัดซึ่งมรรคอันให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ สมณพราหมณ์เหล่านั้น เสื่อมแล้วจากเจโตวิมุติและจากปัญญาวิมุติเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ สมณพราหมณ์เหล่านั้นแล เป็นผู้เข้าถึงชาติและชรา ส่วนสมณพราหมณ์เหล่าใดรู้ชัดซึ่งทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ธรรมชาติเป็นที่ดับแห่งทุกข์ไม่มีส่วนเหลือ โดยประการทั้งปวง และรู้ชัดซึ่งมรรคอันให้ถึงความสงบแห่งทุกข์
    สมณพราหมณ์เหล่านั้น ถึงพร้อมด้วยเจโตวิมุติและปัญญาวิมุติ เป็นผู้ควรเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ได้สมณพราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้ไม่เข้าถึงชาติและชรา ฯ

    สมณสูตร
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗

    FB_IMG_1520612049599.jpg
     
  14. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    "โลกุตตระนิพพานปราศจากวิญญาณจึงไม่มีเกิด ไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บ ไม่มีตายมีแต่ความสุข สุขสบาย ปราศจากอามิสหาความสุขอันใดจะมาเปรียบด้วยพระนิพพานไม่มี.."

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
     
  15. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    กายสังขาร คือ ลม วจีสังขาร คือ นึกแต่งคำพูด จิตสังขาร ความคิดนึกดับ

    "รู้" ไม่ดับ

    กายสังขารไหวก็รู้ วจีสังขารไหวก็รู้ จิตสังขารไหวก็รู้ รู้ไม่ติดสิ่งใดๆ ที่ตนรู้ คือสังขารทั้งหลายไม่ปรุงจิตได้ มีแต่ตัวรู้ นึกขึ้นก็เกิดจิตเกิดสังขาร
    ต้องการใช้ก็มีขึ้น ไม่ต้องการใช้ก็ดับไปเอง โดยธรรมชาติของเขา

    "รู้" ย่อมอยู่เหนือสิ่งใดๆ ทั้งหมด นั่นแหละ คือ "วิมุติ" ผู้ปฏิบัติต้องให้กำหนดรู้อย่างนี้จึงจะได้ผลดี ในการปฏิบัติจิตใจนั้นก็มีเท่านี้เอง


    ท่านพ่อลี ธัมธโร
     
  16. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ตาไม่ติดรูป รูปไม่ติดตา - หูไม่ติดเสียง เสียงไม่ติดหู - จมูกไม่ติดกลิ่น กลิ่นไม่ติดจมูก - ลิ้นไม่ติดรส รสไม่ติดลิ้น - กายไม่ติดสัมผัส สัมผัสไม่ติดกาย -ใจไม่ติดอารมณ์ อารมณ์ไม่ติดใจ

    แยกออกเป็นส่วนๆ เรียกว่า "ภควา" เป็นตัววิปัสสนาญาณ เป็นฉฬงฺคุเปกฺขา- ปล่อยได้ทั้งอายตนะภายใน อายตนะภายนอก

    ท่านพ่อลี ธัมธโร

    FB_IMG_1566522519806.jpg
     
  17. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เป็นไงท่านลามปามศิษย์คลอง10...เราไม่พูดพล่ามก็ได้ตัดแปะให้อ่านอย่างเดียวเลยมาเป็นชุด555555...



    จ๊วด จ๊วดดดด..
     
  18. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ภาวนาพุทโธเร็วๆถี่ๆไม่ให้มีความคิดอื่นเกิดขึ้นได้..

    วางลมหายใจให้เป็นธรรมชาติแล้วมาอยู่กับคำภาวนาอย่างเดียว

    มีเท่านี้แหละคำแนะนำจากเรา..
     
  19. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    FB_IMG_1566523742996.jpg
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    FB_IMG_1543823168540.jpg
    ถือเสียว่า...
     

แชร์หน้านี้

Loading...