เดอะซีเคร็ต หรือเดอะท็อปซีเคร็ต ขอ เชื่อ รับ . . .

(y) เดอะซีเคร็ต หรือเดอะท็อปซีเคร็ต ทฤษฎี ขอ เชื่อ รับ ไครอ่านแล้วบ้างครับ
ขอแล้ว เชื่อมั่น ว่าจะได้รับ แล้วจะสมหวัง จริงหรือไม่ครับ

 

อ่านแล้วครับ

ทฤษฎีว่าด้วย ความคิดเรามีแรงดึงดูด เหมือนแม่เหล็ก

คิดดีก็จะดึงดูดสิ่งดี คิดไม่ดีก็จะดึงดูดแต่สิ่งไม่ดี

ตามทฤษฎี บอกว่า ให้ ขอ เชื่อ และรับ สิ่งที่ยากที่สุดคือการรับ

การรับนั้น แม้เรายังไม่ได้รับ แต่ให้ทำเสมือนว่าเราได้มันมาครอบครองแล้ว

ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก เสมือนว่าเราได้สิ่งนั้นมาครอบครองแล้ว และพลังแห่งการ ดึงดูด จะจัดสรรมันมาให้เราเอง

ตามทฤษฎีกล่าวไว้เช่นนี้

หนังสือ The Secret นั้นเขียนโดยฝรั่ง เค้าจะไม่ได้บอกเหตุผลไว้ละเอียดมากนัก

ว่าทำไมเราถึงได้ตามที่เราเชื่อ แต่จะอ้างเอาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล

ส่วน The Top Secret นั้นเขียนโดยคนไทย จะอธิบายเหตุผลแบบอ้างหลักทางพระพุทธศาสนา

นอกจากนี้ยังมีหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีก เช่น The Key , The Secret of The Secret เป็นต้น ลองหามาอ่านดูก็ได้ ถึงแม้บางอย่างมันยังไม่เป็นจริง แต่มันก็ทำให้คนมีความหวัง คนเราอยู่ได้ด้วยความหวังและความฝันครับ

โชคดีครับ

 

อืม....ถ้าลงท้ายด้วย คนมีความหวัง คนเราอยู่ได้ด้วยความหวังและความฝัน
นี้ก็ใช่เลย เป็นของศาสนาหนึ่งๆ ซึ่งถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเล่นคำสลับ
hope กับ belive ย้ำไปย้ำมาด้วยกลวิธีการโน้มน้าว จนคำว่า belive
เด่นชัด ก็เป็นจะลงด้วย love แต่ใช้ภาพแทน เช่น ภาพครอบครัว ภาพ
การกอดกัน etc.

แต่เห็นชื่อหนังสือหลากหลาย แต่ copy word มา ก็นึกถึง

พ่อรวยสอนลูกรวย .......ฯลฯ copy แม้แต่หน้าปก ซื้อผิด
มาเล่มหนึ่ง ไม่ทันดูว่าไม่ใช่ original พี่ไทยนะพี่ไทย !

 

หนังสือพลังจิต อย่าลืมอุดหนุนกันนะ

 

อยากจะซื้อมาอ่านเหมือนกันแต่ ยังไ่ม่แน่ใจ ว่าในเล่มมันมีเนื้อหา แบบไหน บ้าง

 

ลองอ่าน The Top Secret ดีกว่าครับ เขียนโดยคนไทยโดย ทันตแพทย์ สม สุจีรา เพราะนำเอา The Secret ของฝรั่งมาวิเคราะห์และเพิ่มเติมหลักพุทธศาสนาเข้าไป ได้ทั้งโลกีย์และโลกุตระ และตอนนี้ The Top Secret ได้ขายไปแล้วกว่า 5 แสนเล่ม พิมพ์เป็นครั้งที่ 19 แล้วครับ

ส่วน The Secret มีหลักการเดียวกับการสะกดจิตเพื่อสั่งจิตใต้สำนึกของตนเอง และได้บอกหลักของการดึงดูดทางความคิด เหมือนกฏการดึงดูดของนิวตั้นเพียงแต่เป็นการดึงดูดทางความคิด และได้นำมาวางเป็นหลักการ 3 ข้อ

ขอ คือการร้องขอกับตนเองในสิ่งที่เราปารถนา
รับ คือการจินตนาการล่วงหน้าว่าตนเองได้รับสิ่งที่ขอแล้ว
เชื่อ คือมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าส่งที่เราขอนั้นจะเป็นจริงได้

ทั้งเล่มจะนำเอาคำพูดของคนต่างๆ มาบอกถึงสรรพคุณของการ ขอ รับ และ เชื่อ

ส่วนหนังสือ The Key เป็นภาคต่อของ The Secret แต่เน้นด้านการปฏิบัติ

 

ผมคิดว่ายังไงซะในอนาคตต้องมีหนังสือว่าด้วยเรื่องพวกนี้ต่อมาอีกหลายเล่มน่ะ

 

ขอ เพื่อ.....เราเคยให้หรือยัง ถ้ายังไม่เคยให้ ก็จงหยุดขอ

รับเพื่อ.......เราเคยได้รับหรือยัง ถ้าเคยได้รับแล้ว ก็จงพอ

เชื่อเพื่อ.....เราเคยใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อหรือยัง ถ้ายังก็จงหยุดเชื่อ

 

ทำบุญเยอะๆ แล้ว อธิษฐานจิตเอาดีกว่าน่ะ

 

ผมไม่ได้อ่าน และผมก็ไม่เชื่อ
น่าจะลองไปหาหนังสือเรื่อง why people believe weird things มาอ่าน
ถ้าคุณหาข้อมูลเกี่ยวกับ the secret คุณจะพบว่าเป็นหนังสือที่โดนโจมตีอย่างแรงว่าทำให้คนงมงาย กับสิ่งไร้สาระ
ถ้าคุณเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องนี้
เพราะคนเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน นับปีไม่ได้
ทำกรรมหลากหลายมากมาย อะไรหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลของมัน
แต่ไม่ใช่มาจาก positive thinking หรือ optimistic แน่นอน

 

ทั้งสามความเห็นก่อนหน้าผม ถูกใจอยางแรง

 

แต่ผมเชื่อครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของตัวเองซึ่งมันต้องเกิดจากความคิดก่อน คนเราน่ะคิดยังไงก็ได้อย่างงั้นแหละ

 

สาธุ สาธุ ดึกแล้วนอนไม่หลับ เลยมานั่งอนุโมทนาบุญกับท่านผู้มีบุญทั้งหลาย สาธุ สาธุ

 

มีประโยชน์ดีจริงๆ

 

เชื่อ ทำ อย่างตั้งใจ ทุกอย่างจะสมดั่ง ที่หวังไว้ครับ

 

เห็นด้วยค่ะ The Top Secret เขียนโดย ทันตแพทย์ สม สุจีรา อ่านเข้าใจง่ายกว่าเยอะ เพราะท่านนำ The Secret มาขยายความโดยใช้หลักของพุทธศาสนาเข้ามาวิเคราะห์เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
denceedenceedencee:z2

 

ถ้ามีความลับอย่างหนึ่งที่มีค่าควรแก่การค้นหาอย่างแท้จริง มันคือ"ความลับของธรรมะ" ไม่ใช่กฏแห่งการดึงดูด จริงอยู่ กฏแห่งการดึงดูดสามารถมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการให้กับคุณได้ แต่มันไม่จำเป็นต้องนำสิ่งที่ดีสำหรับคุณมาให้ กฏแห่งการดึงดูดสามารถนำไปใช้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี แต่ธรรมะเปรียบเหมือนพ่อแม่ที่คอยนำทางให้คุณพบปัญญาอันยิ่งใหญ่และเติบโตขึ้น สิ่งที่ธรรมะต้องการเพื่อคุณเป็นที่สุดคือ เข้าใจชีวิตให้ถ่องแท้
พรที่ดีที่สุดที่คุณสามารถขอ คือขอให้เข้าใจตัวเองและรู้ว่าพันธกิจของการเข้ามาอยู่ในโลกนี้ของคุณคืออะไร? และจะใช้เวลาอย่างไรให้คุ้มค่ากับชีวิตบนโลกใบนี้ดีล่ะ