เรื่องเด่น เป็นภูมิแพ้ทำอานาปานสติไม่ได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย €-¥, 27 ธันวาคม 2020.

  1. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของผ้าขี้ริ้วครับ
    ถ้ามีสพานชุบแป้งทอด
    เปลี่ยนผ้าขี้ริ้วเป็นผ้ากำพล
    ไร้คมอาจแพ้รบในสนามนี้ก็ได้ครับ
    เพราะไร้คมยัง 09.00 น.
     
  2. fu

    fu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +42
    ภาพนิมิตหากเกิดขึ้นระหว่างที่ทำสมาธิที่ไม่ได้กำหนดภาพ ให้ละเลิกการรู้ภาพนิมิตนั้น กำหนดต่อไปยังอารมณ์กรรมฐานเดิม
    เราเคยเห็นภาพนิมิตมาก่อนขณะทำอานาปานสติเช่นกัน (เป็นภาพหมอกควันลอยวนเป็นก้นหอย คล้ายภาพกาแล็กซีทางช้างเผือกหมุนวนช้าๆอะไรอย่างนั้น)
    แม้จิตนิ่งขนาดถึงลมหายใจดับ นิมิตก็ยังเกิดได้เลย นิมิตที่เกิดจะเป็นตัวดึงความสนใจจากอารมณ์กรรมฐาน
    ถ้าสนใจไปรู้ภาพ ก็เหมือนติดภวังค์ สมาธิจะไม่ก้าวหน้าจากเดิม
    ถ้าอยากจะเปลี่ยนอารมณ์กรรมฐานไปกำหนดภาพกสิณ ก็ให้กำหนดภาพขึ้นจากจิตเอง เป็นภาพเดียวนิ่งๆ ไม่ควรกำหนดไปที่ภาพนิมิตที่มันเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ
    (อาการหูเริ่มไม่ได้ยินเสียงของเจ้าของกระทู้ยังไม่ใช่อาการหูดับน่ะค่ะ ถ้าฌาน4ที่ลมหายใจดับ-หูดับ หูจะดับเหมือนโดนแรงดันอัดให้หูดับสนิทค่ะ จะดับแบบดับสนิทไม่สามารถได้ยินอะไรเลยค่ะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2020
  3. €-¥

    €-¥ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    10
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10
    ภาพกสินกำหนดยังไง เอาภาพนิ่งมาจากไหนหรอคะ แนะนำเพิ่มเติมหน่อยค่ะ
     
  4. fu

    fu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +42
    ภาพกสิณนั้นต้องกำหนดเอาเองจากจิตค่ะ คือนึกให้มันเกิดขึ้นมา
    ขอออกตัวก่อนว่าเรากำหนดภาพกสิณได้ แต่ยังไม่ชำนาญมาก
    จริงๆแล้วถ้าจิตไม่นิ่งพอ เราไม่แนะนำให้กำหนดภาพเอง เพราะภาพที่ได้มักจะไม่นิ่งไปตามความคิดฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้น
    ภาพกสิณเวลาฝึกกันส่วนใหญ่จึงให้ดูจากแบบก่อนแล้วนึกเอาขึ้นแบบนั้นค่ะ เพราะถ้านึกขึ้นมาเองเลยลอยๆภาพมันมักจะเปลี่ยนไปมา ไม่นิ่ง ใช้จับภาพไม่ได้
    แต่สำหรับเรา อาจเพราะเราฝึกสมาธิทุกวันค่ะ ถ้าจิตสงบดีแล้วกำหนดภาพเองขึ้นมา (เช่นภาพวงกลมแสงขาว) ภาพจะนิ่งมีความชัดเท่าตาเห็น จิตสงบมากภาพจะนิ่งมาก ใช้จับเป็นอารมณ์กรรมฐานได้ (แต่ไม่แนะนำให้ทำตามกับคนที่ปฏิบัติใหม่ๆ)

    ฝึกอานาปานสติไปก่อนน่าจะดีกว่าค่ะ ฝึกจิตให้นิ่งที่สุดก่อน ถ้าจิตนิ่งที่สุดแล้วจะกำหนดภาพอะไรมันก็นิ่งได้ ถ้าจิตไม่นิ่งกำหนดอะไรขึ้นมามันก็ไม่นิ่ง ใช้จับภาพไม่ได้ค่ะ
     
  5. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,807
    ผมขออนุญาตอธิบายเสริมคุณ @fu นะครับ… การจับภาพนิมิต หรือภาพกสิณใดๆ ภาพจะชัดหรือไม่ชัด จะสว่างหรือไม่สว่างไม่ได้อยู่ที่อาการเพ่ง หรืออาการของภาพ หมายความว่าอย่าสนใจในภาพ ที่เราจับอยู่ หรือนึกถึงอยู่ว่า เอ๊ะ! ทำไมเป็นแบบนั้น เอ๊ะ! ทำไมเป็นแบบนี้ ให้สนใจที่กำลังใจ หรือใจของเราเป็นสำคัญนะครับ ใจยิ่งนิ่ง ใจยิ่งสงบ ภาพจะชัด จะแจ่มใสขึ้นเป็นลำดับ อย่าสนใจในภาพ ดูความเปลี่ยนแปลงของภาพ อย่างใจที่เป็นปกติเท่านั้นพอ แต่ให้จำ ให้สนใจความรู้สึกของใจเท่านั้น สังเกตดูนะครับ พอใจเราเริ่มสงบนิ่ง+ใจเริ่มเป็นสุข ภาพก็จะเริ่มใสแจ่มชัดขึ้นตามมา ชัดเจนขึ้น เริ่มสว่างขึ้น อันนี้เข้าสู่อุปจารสมาธิแล้วครับ ถ้ากำลังใจ สงบระงับแนบแน่นลงไปได้อีก ความเป็นประกายของภาพจะปรากฏขึ้น ถ้าฌาณหนึ่ง หรือปฐมฌาน ภาพวงกลมแสงขาวที่เราจับ ขอบด้านนอกจะเป็นประกาย ยังไม่กินเข้าไปด้านใน ที่เล่ามานี่ มันพึ่งจะจุ่มเองนะครับ พึ่งจะเข้าสู่อัปปนาสมาธิในเบื้องต้น [พิจารณาเอาภาพวงกลมแสงขาวที่เราจับเป็นตัวตั้ง ถ้าเป็นประกายสว่าง หนึ่งในสี่ = ฌาณหนึ่ง เป็นประกายสองในสี่ = ฌาณสอง เป็นประกาย สามในสี่ = ฌาณสาม ถ้าเป็นประกายสว่างจ้า เต็มดวงภาพกสิณทั้งดวงนั่นแหละฌาณสี่] การฝึกที่จะให้ได้ผล ของการจับภาพกสิณ ทุกเวลานาที ภาพที่เราตั้งใจจับไว้นั้นต้องอยู่กับใจเราตลอดเวลา นึกปุ๊บ เห็นปั๊บ หรือไม่ก็ทรงอยู่ในใจตลอดเวลา จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน ไห้ภาพกสิณนั้น ติดตา ติดใจอยู่ตลอดเวลา ถ้าทำได้อย่างนี้แล้วสิ่งที่เราปรารถนาไว้ จะสมประสงค์แน่นอน…

    โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยกับคุณ @fu และท่านอื่นๆที่ว่าสำหรับท่านที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีปัญหาสุขภาพทางกาย ควรพิจารณาฝึกอานาปานสติ, จงกรม หรือกำหนดอิริยาบถหลัก/ย่อยไปก่อนน่าจะดีกว่าครับ

    อนุโมทนากับคุณ @
    fu ครับ… สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2020
  6. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    เมื่อมองลงมาเห็นทันที "ความรู้ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เรา"

    การติดข้องของสัตว์ทั้งหลาย มันยากที่จะช่วยได้หมด..

    หากอินทรีย์ยังไม่ถึงพร้อม ก็ยากที่จะเห็นแจ้ง..

    หากยังขาดความเพียร ก็ยากที่จะพ้นไปได้..

    อาการและสภาวะที่หวั่นไหวทุกชนิด เป็น เพียง สังขาร..

    หาก "หยุด" ได้อย่างสมบูรณ์ สังขารทั้งหลายก็ไม่สามารถปิดบัง พระนิพพาน..
     
  7. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    พรุ่งนี้ปีใหม่ ขอให้ เจริญใจ เจริญในธรรม..
     
  8. €-¥

    €-¥ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    10
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10
    ดิฉันชอบกสิณลมตอนเด็กๆเคยฝึก กสิณลมเขาบอกให้มองภาพใบไม้ที่ปลิวลมเอามาเป็นภาพให้จำให้ได้ขึ้นใจ แต่ก็เลิกไปก่อน จำไม่ได้ว่าคนสอนให้ฝึกจนจิตสงบแล้วค่อยมานึกภาพหรือเปล่าค่ะ
     
  9. fu

    fu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +42
    กสิณลมยังไม่เคยฝึกน่ะค่ะ คงไม่สามารถแนะนำใดๆได้ ถ้าจะฝึกกสิณจริงๆคงต้องหาท่านอื่นๆที่ชำนาญค่ะ ท่านที่เก่งๆมีอีกมากมายนัก
    ส่วนตัวคิดว่าถ้าจิตสงบแล้วนึกภาพใดๆ ภาพนั้นๆก็จะดีที่สุดตามที่นึกค่ะ
    แต่ถ้าจิตยังไม่สงบ ก็ดูตามแบบก่อนแล้วนึกภาพตามแบบ น่าจะดีกว่าค่ะ
    กรรมฐานทุกอย่างถ้าจิตสงบมันก็จับอารมณ์กรรมฐานง่าย ถ้าจิตไม่สงบจะจับยาก ก็คงต้องมีตัวช่วยให้จับง่ายๆบ้างน่ะค่ะ (เช่นคำบริกรรม ภาพต้นแบบกสิณ เป็นต้น)
     
  10. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    พระราชพรหมยานวัดท่าซุง
    หมวดกสินชอบแบบไหนเลือกฝึกได้เลยครับ
    ในยูทูปก็มี ขอเพียงฝึกเอาจริงเอาจัง
    ไม่ฝึกเล่นฟังเล่นครับ
     
  11. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    บริกรรมหรือสวดมนต์ เป็น จิตตานุปัสสนา
    ได้ระลึกรู้ในการใช้ทั้ง จิตตสังขาร และ วจีจิตตสังขาร
    ธรรมารมณ์ ก็เป็นทั้ง ธัมมานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา
    รู้ทั่วถึงทั้งร่ายกาย ก็เป็นทั้ง กายานุปัสสนา และ อานาปานสติ

    สติปัฏฐาน 4 อานาปานสติ บริกรรมหรือสวดมนต์ นั้นไม่ได้แยกกัน

    แต่หากเดินเฉยๆแล้วก็รู้ไปเฉยๆอาการมันไปเฉยๆ
    ส่วนที่เจริญสติถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    อาจจะไม่ได้ระลึก พระป่าท่านก็ให้บริกรรมพุทโธเป็นส่วนใหญ๋
    สายหลวงปู่ดู่ให้สวดบทจักรพรรดิ

    การเจริญสติความตายเคยถามพระป่าเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง
    ท่านตอบก็พุทโธไง

    ตามความเข้าใจ พุทโธ ก็เป็นทั้งพุทธานุสสติ
    พร้อมทั้งเห็นการเกิด ดับ ที่เราบริกรรมไปด้วย
    ขันธ์มารตัว เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ฝึกกสิณเพ่งสีขาวเฉยๆ พระท่านยังเพิ่มเป็นให้เพ่ง
    พระพุทธรูปสีขาว ได้ทั้งกสิณและพุทธานุสสติเลย

    กรรมฐานไม่มีแตกแยก
    มีแต่สภาพน้ำหลายสายแต่ไหลไปรวมกันในที่เดียว

     
  12. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,216
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,807
    … ผมชอบประโยคนี้ที่คุณ @Mdef โพสต์กล่าวสรุปมากครับ… ลึกซึ้ง แต่ เรียบง่าย ชัดเจน และ โดนใจครับ … สาธุครับ
     
  13. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    สาระไม่ใช่รูปแบบภายนอก แต่อยู่ภายใน คือให้ดูความรู้สึกตัว รู้สึกตัวล้วนๆ .... ต้องทำให้ธาตุรู้ตื่นขึ้นมาให้ได้ ของที่คว่ำจะหงายออก แล้วสติจะช่วยจิตให้ค่อยๆ ถอนตัวอยู่เหนืออารมณ์ทุกชนิด ....

    ที่เถียงกันทุกวันนี้ก็รูปแบบ และเถียงแต่เรื่องสมถะ
     
  14. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609


    อีสาน บ่เจ้า..
     
  15. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
  16. fu

    fu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +42
    บอกเพิ่มเติมก็ได้ ถ้าเจ้าของกระทู้อยากทราบว่า"หูดับ"ใน ฌานที่4 เป็นอย่างไร
    ลองสังเกต อาการหูดับ ตอนที่ร่างกายหาวอย่างเต็มที่(ถ้าหาวไม่เต็มที่หูไม่ดับน่ะค่ะ) ถ้าร่างกายหาวเต็มที่ หูจะดับสั้นๆประมาณ 1 วินาที

    (หูดับแบบนี้คล้ายแรงดันในร่างกายอัดเข้าหู จะดับสนิทแบบไม่ได้ยินอะไรเลย)

    หูดับใน ฌานที่4เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่หูดับได้ต่อเนื่องนานกว่า1วินาทีเท่านั้นเอง
     
  17. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ตอนช่วงขับรถผ่านช่องเขา ก็ ใช่..

    อาการเดียวกันเลย..
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,301
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,453
    เป็นเครื่องหมายบอกให้ทราบว่า
    กำลังของการฝึกจิตขณะนั้นละเอียดจนสามารถเห็นการปรุงแต่งของสังขาร ได้ (ชั่วคราว)
    คุณน่าจะมีการฝึกจิต ฝึกสติ-สัมปชัญญะ รู้เท่าทันการปรุงแต่งของจิตสังขาร ได้ระดับหนึ่ง

    การที่เห็นมันกำลังวนเข้ามาใกล้ หมายถึง จิตกำลังเห็น การปรุงแต่งของจิตสังขารกำลังจะเกิด
    ถ้าเอาจิตเข้าไปร่วมในก้นหอยสีดำที่หมุนวนนั้น ความทุกข์ตามสายปฏิจจสมุปบาทจะเกิดขึ้นทันที

    ความรู้สึกสุขที่ตามมา เป็นได้สองอย่าง
    อย่างหนึ่ง ถ้าได้เผลอเอาจิตเข้าไปในก้นหอยสีดำแล้ว ตามความเคยชินของจิตที่ยังมีกิเลส ความรู้สึกสุขนั้น ก็เป็นเพียงแค่สุขเวทนาในวงจรปฏิจจสมุปบาทที่ล่อให้เราติดยึด เพื่อจะได้สร้างเหตุการเกิดตามปฏิจจสมุปบาทเพิ่ม ( ยังต้องฝึกฝนสติสัมปชัญญะให้ยิ่งขึ้นไปอีก จะได้เห็นขั้นตอนที่ขาดหายไป ก่อนจะรู้สึกสุข )

    อีกอย่าง ถ้าไม่ได้เผลอเอาจิตเข้าไปร่วมในกระบวนการปรุงแต่งของสังขาร(ก้นหอยหมุนวนสีดำ)
    ความรู้สึกสุขนั้น เป็นสุขอันไม่อิงอาศัยโลกียะปัจจัยปรุงแต่งทางอายตนะหก เป็นการชิมลางของสุขแบบไม่อิงอาศัยโลกียะ( แบบเล็กๆ ) ที่พ้นจากการปรุงแต่งของสังขารชั่วคราว ให้เป็นกำลังใจฝึกฝนให้สติ-สัมปชัญญะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป


    ----------------

    ไม่ต้องเชื่อผมนะครับ แค่ เพ้อ สันนิษฐานเอาเอง
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,301
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,453
  20. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    สาเหตุ ที่เวลานิมิตเกิด แล้วตอนนี้ผมแนะนำให้ ดูเฉยๆ ไม่ต้องไปคิดอะไร

    เพราะว่า ผู้ฝึกที่ยัง มี สติ สัมปชัญญะ ไม่มาก เวลามี ธรรม ปรากฎ ในสมาธิ

    ไม่ว่าจะเป็น ภาพ เสียง ความรู้ มักจะใช้สัมปชัญญะ ไปที่ ธรรม ที่ปรากฎ ทำให้หลุดจากฌาน

    ต่อไปเมื่อมีสติ สัมปชัญญะ มากขึ้น เวลามี ธรรม ปรากฎ เมื่อหยุดแล้วก็สามารถพิจารณาธรรมนั้นต่อได้เลย


    แล้วถ้าเราเจอเป็นประจำ แล้วเราฝึกดูไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มเข้าใจคำว่า สัมปชัญญะใน

    แล้วถ้าสัมปชัญญะในของเรามีมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเริ่มสังเกตว่า มีสิ่งที่นอกเหนือจาก

    สัมปชัญญะใน อีกหนึ่งสิ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า จิต หรือปล่าวก็ไม่แน่ใจ

    เฝ้าดูอยู่ด้วยเช่นกัน


    สำหรับสิ่งที่ทำให้ สัมปชัญญะใน มีมาก เท่าที่ลองมา มีอานาปานสติ + มรณานุสติ +อสุภกรรมฐาน

    หรือใครอยากเห็นอะไรๆแปลกๆ ก็เพิ่ม อาโลกสิณ เข้าไปอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...