หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...โอเล่ ดงห์
.
แจกไฟล์ภาพต้นฉบับ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร สามารถนำไปอัดกรอบขนาดใหญ่ได้ ดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างของแต่ละรูปภาพครับผม
ปล.กดเข้าไปในรูปภาพจะมีลิงค์ด้านล่างของแต่ละรูปภาพ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
#เรื่องเล่าเมื่อครั้ง ไปแดนไกล

ครั้งหนึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์จำนวน 6 รูป
เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีคุณธรรมอันประเสริฐทั้งสิ้น
ในขณะที่จาริกไปตามแว่นแคว้นหัวเมืองต่างๆในยุโรปนั้น
องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ได้สั่งสอนอบรมในเรื่องต่างๆ
ในระยะที่องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์
ได้ประกาศพระศาสนานำคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสั่งสอนอบรม พุทธบริษัทที่ ยุโรปนั้น
ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน
ขณะนั้นผมจึงได้ทำการอุปฐากให้ความสะดวกรับใช้ต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้ง 6 รูปด้วยความขยันขันแข็ง
พ่อแม่ครูบาอาจารย์และพระติดตามก็ให้ความเมตตาผม
จึงได้สนทนาและ สอบถามข้ออรรถข้อธรรมบ้างสอบถามความเป็นมาตั้งแต่ยุคก่อนๆของพระป่าบ้าง
บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ลี้ลับ
หรือเป็นเรื่องลับที่หลายๆคนสงสัย และบางคนก็ไม่รู้เรื่องเลย
บางครั้งก็ขอโอกาสพ่อแม่ครูบาอาจารย์สอบถาม
เรื่องหลวงปู่หลวงตาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ดูยุคก่อนๆ
การเดินธุดงค์
การบำเพ็ญเพียรภาวนา
โดยเฉพาะอิทธิปาฏิหาริย์
การเหาะเหินเดินอากาศ
หรือแม้แต่ดำดินเดินบนน้ำ
ก็ถามให้สิ้นความสงสัย
#จนมาถึงเรื่องของพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
ได้ถามครูบาอาจารย์ท่านว่า
#หลวงพ่อครับหลวงพ่อรู้จักหลวงปู่บุญส่งไหมครับ
องค์หลวงพ่อท่านตอบว่าหลวงปู่บุญส่งไหน
ผมตอบท่านว่าหลวงปู่บุญส่ง
วัดเขาน้ำตก
หรือว่าสันติวนาราม
จังหวัดจันทบุรีครับผม
องค์หลวงพ่อท่านตอบว่าเรารู้จัก
สมัยเราอุปฐากหลวงปู่แหวนอยู่
เห็นท่านมาเป็นประจำ
ท่านมาอุปฐากหลวงปู่แหวนเหมือนกัน
เป็นครั้งเป็นคราวแล้วท่านก็จากไป
แต่อาจารย์บุญส่ง ท่านไม่ได้จำพรรษาที่วัดดอยแม่ปั๋ง
ท่านไปๆมาๆ
จากนั้นท่านก็เล่าเรื่องหลวงปู่บุญส่งให้ฟังหลายเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องที่หลวงปู่บุญส่งกับหลวงปู่หนู
หลวงพ่อท่านเล่าว่ามีแต่อาจารย์บุญส่งนี่แหละเอาหลวงปู่หนูลงได้
หมายถึงว่าทั้งวัดดอยแม่ปั๋งจะไม่มีพระสงฆ์องค์เณรรูปใด กล้าต่อปากต่อคำกับองค์หลวงปู่หนู
ท่านเล่าหลวงปู่หนูพูดอย่างไรก็จบอย่างนั้น จะไม่มีพระองค์พูดต่อ
แต่มีอาจารย์บุญส่งนี่แหละ
ที่กล้าต่อรองกับหลวงปู่หนู
อันที่จริงหลวงพ่อท่านเล่าเยอะกว่านี้
แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะนำมาเล่าต่อได้
#เมื่อท่านเล่าเรื่องมาถึงตรงนี้
ผมก็ถามท่านต่อว่า
หลวงพ่อครับ
หลวงพ่อรู้หรือเปล่าครับว่าหลวงปู่บุญส่งท่านสร้างโบสถ์ใหญ่มาก
น่าจะใช้เงิน 2 - 3 ร้อยล้านนั่นล่ะครับ
เผื่อจะสร้างเสร็จ
เพราะตอนนั้นผมบอกหลวงพ่อไปประมาณนั้น ถ้าผมจำไม่ผิด
หลวงพ่อท่านตอบว่า รู้แต่ว่าสร้างโบสถ์
แต่ไม่รู้ว่าจะสร้างใหญ่ขนาดนั้น
ใช้เงินเยอะขนาดนั้น
ผมก็ถามหลวงพ่อต่ออีกว่า
แล้วหลวงปู่ บุญส่ง
ท่านจะสร้างเสร็จไหมครับ
เพราะตอนนี้อายุท่านก็จะ 80 แล้วครับ
#หลวงพ่อท่านตอบว่า
ท่านอาจารย์บุญส่ง
ท่านมีบุญบารมี
มีฤทธิ์มีเดชมาก
มีพวกกายทิพย์เป็นบริวารมาก
พวกเหล่าเทวดาทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ท่านทั้งนั้น
ก็ไม่น่าจะยากนะ
ที่ท่านจะทำให้สำเร็จ
และยังมีอีกหลายประการที่องค์หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟัง
แต่ไม่สามารถนำเล่าให้ฟังได้ทั้ง
เพราะบางคน ที่ไม่เชื่อ ก็อาจจะปรามาส คำพูดของครูบาอาจารย์ได้ ว่าพูดเกินความเป็นจริง
#เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว
ผมก็ได้มีโอกาสไปบีบนวดหลวงปู่บุญส่ง
จึงได้นำคำที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังไปเล่าสู่พระเดชพระคุณหลวงปู่บุญส่งให้ท่านได้รับทราบ
ท่านก็รับรองว่ารู้จักหลวงพ่อองค์นี้ดี
เมื่อท่านพูดว่ารู้จักดี
ผมก็เลยสอบถามองค์หลวงปู่ไปว่า
หลวงปู่ครับเมื่อท่านมีฤทธิ์
มีอภินิหาร
ทำไมหลวงปู่ไม่ใช้ ฤทธิ์เดช ดลบันดาลจิตใจให้เศรษฐีมหาเศรษฐีมาช่วยหลวงปู่สร้างโบสถ์ครับ
หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า
ฤทธิ์อะไรเราผ่านมาหมดแล้วปาฏิหาริย์อะไรเราผ่านมาแล้ว
เราจะไม่กลับไปใช้
พวกนั้นอีก
#โบสถ์หลังนี้เราจะใช้ธรรมฤทธิ์
คือธรรมะของพระพุทธเจ้า
เท่านั้น
คนยากคนจนยาจกมหาเศรษฐีก็มาร่วมทำกับเราได้
เราต้องการโปรดลูกศิษย์ทุกคนไม่ว่าระดับชั้นไหน
เราจะใช้พลังอานุภาพของพระพุทธเจ้าธรรมะของพระพุทธเจ้า
#ธรรมะสร้างคน
คนมาช่วยเราสร้างโบสถ์
#ก็จะเป็นธรรมฤทธิ์สำเร็จด้วยการแสดงธรรม
คำกล่าวของพระมหาเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐ
จะขอกล่าวเพียงเท่านี้
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย
แต่เกิดไกลถึงยุโรป
เมตตาในพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านเล่าให้ฟัง
น้อมกราบองค์หลวงปู่บุญส่งผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...สมเกียรติ ภิรมยาภรณ์
.
ได้กลับไปดูความก้าวหน้าของพระอุโบสถวัดสันติวนาราม.. สร้างได้เร็วขึ้นกว่าเดิมเยอะมากครับ.. ลิฟท์ก็ติดตั้งแล้วไม่ต้องเดินให้เหนื่อยเพราะอุโบสถสูงถึง82เมตร.. ดีใจที่ได้ไปดูเทวดาประจำซุ้มทิศเหนือที่ผมได้บริจาคเงินสร้างครับ.. สวยจริงๆๆขอบอก.. ปี2568.. พระอุโบสถเสร็จแน่นอนครับ.. ต้องยกย่อสถาปนิกและทีมงานทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างพระอุโบสถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก.. เนื้อที่5ไร่.. สุดยอดจริงๆๆครับ.. สาธุสาธุสาธุ

 

ทำบุญวิหารทาน เป็นบุญใหญ่
พระพุทธเจ้าเล่าอดีตชาติให้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีฟัง
ท่านเคยเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ เวลามะ
มีจิตใจเลื่อมใสต่อการบริจาคทาน
ท่านทำมหาทาน บริจาคทองมหาศาล เงินมหาศาล
เครื่องประดับ ของมีค่า ยานพาหนะ
แม่โคให้นม ผ้า เครื่องนุ่งห่ม
ที่นอนหมอนมุ้งทุกอย่าง
สร้างโรงทานขึ้นที่บ้านของตน
แล้วประกาศทั่วไปว่า คนทั้งหลายที่ไม่มีกินให้มารับอาหารได้ที่โรงทานนี้ ตลอด
หรือถ้าหากบุคคลใดไม่มีที่พักอาศัย ไม่มีเครื่องนุ่งห่มแล้ว
ขอให้มาแจ้งความประสงค์ จะจัดการให้ทานแก่บุคคลเหล่านั้นโดยทั่วถึงทั้งหมด
การทำทานของเวลามะพราหมณ์นี้ ได้อานิสงส์ถึงอสงไขยภพ (เป็นอานิสงส์มาก)
- อานิสงส์ที่เวลามะพราหมณ์ได้รับนี้ จากการทำมหาทาน ก็ยังน้อยกว่าอานิสงส์ของผู้ที่ได้เลี้ยงอาหารแก่พระโสดาบันบุคคลเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระโสดาบันบุคคลร้อยองค์ ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่พระสกทาคามิบุคคลเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระสกทาคามิบุคคลร้อยองค์ ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่พระอนาคามิบุคคลเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระอนาคามิบุคคลร้อยองค์ ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่พระอรหันตบุคคลเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระอรหันตบุคคลร้อยองค์ ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยองค์ ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงองค์เดียวและครั้งเดียวไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวนั้น ก็ยังสู้อานิสงส์ของการเลี้ยงอาหารแก่ภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย สังฆทาน ที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุขไม่ได้
- อานิสงส์ที่ได้รับจากการเลี้ยงอาหารแก่ภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุขนั้น ก็ยังสู้อานิสงส์ของการสร้างวิหาร ถวายแก่ภิกษุสงฆ์ที่อยู่ทั่วทั้ง ๔ ทิศ หรือ ๘ ทิศ (จตุทิสาสังฆิกวิหารทาน) ไม่ได้


ศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียดได้ที่ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เวลามสูตร

 

วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฏาคม 2565
.
#บุญสำเร็จแล้ว
.
ศิษยานุศิษย์ร่วมบุญกับ #หลวงปู่บุญส่ง น้อมถวายเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝนและผ้าป่าสามัคคี ก่อนเข้าพรรษา พร้อมทั้งร่วมสร้างบุษบกและพานพุ่มดวงไฟประทีป(โลหะ) อุโบสถวัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
.
#ยอดร่วมบุญงานถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝนและผ้าป่าสามัคคี ก่อนเข้าพรรษา
.
#ร่วมสร้างบุษบกและพานพุ่มดวงไฟประทีป(โลหะ)
.
ยอดร่วมบุญทั้งหมด 2,070,064.02บาท
.
ผ้าป่าสามัคคีศาลาฐิตสาโร 309,133.70บาท
.
อนุโมทนาสาธุกับศิษยานุศิษย์ทุกท่าน...
.
.
อนึ่ง #งานกฐินสามัคคีประจำปี2565
ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลา 11.00น
#ประธานเจ้าภาพ ด.ญ.ภานิชา อังศุวนิช
.
.
#สาธุอนุโมทนาบุญ

 

#แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน เศรษฐกิจจะไม่ดียังไง
#แต่คนมีบุญน่ะอยู่ได้ ขออย่าให้ขาดจากบุญล่ะกัน
#ผมสังเกตุว่าคนที่มาหาหลวงปู่บางคนประสบปัญหาชีวิตต่างๆนานาสารพัด .....
ท่านก็เมตตาแก้ไขปัญหาให้เขาเหล่านั้นเกิดปัญญาด้วยธรรมะ
........ #รอดพ้นจากปัญหากันไปมากมาย

น้อมกราบในบารมีหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร คุ้มครอง ลูกหลานครับ

คณะศิษย์ หลวงปู่บุญส่ง ฐิสาโร วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ. จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
อานิสงส์ของการบริจาคเลือด ส่วนประกอบของเลือด
จะทำให้เรามีบารมีสูงขึ้น ในวันที่เราต้องการความช่วยเหลือหรือเจ็บไข้ได้ป่วย จะมีคนมาคอยดูแลเรา รักษาเรา โดยที่เราไม่ต้องเรียกร้อง เรียกหา

#หลวงปู่บุญส่ง_ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ศร จันทบุรี
.
#กราบไหว้ที่ไทย...ไม่ต้องไปถึงอินเดีย...
หลวงปู่บุญส่ง ท่านเมตตาแสดงธรรมแก่คณะศิษย์ผู้ติดตามบนรถ ขณะเดินทางไปมูลนิธิหลวงปู่มั่น ที่ กทม..
ท่านเมตตาเล่าว่า แต่ก่อนก็มีศิษย์ผู้หลักผู้ใหญ่อยู่กลุ่มหนึ่งเคยมากราบขออาราธนาท่าน ไปทัวร์ที่ประเทศอินเดียกับคณะของพวกเขา บอกว่าจะพาหลวงปู่ไปแสวงธรรมบ้าง ไปกราบสังเวชนียสถานถึงเมืองประสูตรของพระพุทธเจ้าบ้าง อะไรประมาณนี้ โดยทางคณะเป็นผู้ดำเนินการและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
แต่องค์ท่านพิจารณาแล้ว ตอบกลับไปว่า
" ที่จะไปกันนี่ ไปแล้วเอากิเลสไปทิ้งที่อินเดียกันหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เอากิเลสไปทิ้งที่นั่น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปนะ
คิดกันหรือยัง ...ว่าไปแล้วจะไปทำอะไรกัน ไปแล้วเกิดประโยชน์อะไร
บางกลุ่ม บางคน ไปแล้ว ไปประพฤติผิดศีลธรรมอีก...ไปประพฤติผิดต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า รู้ตัวกันหรือเปล่า
บางคนไปงัด ไปแงะ ไปแคะ ไปขุด เอาดิน เอาหิน เอาทราย เขามา แล้วก็มาอวด..มาอ้างกัน ว่าฉันได้ของดีมาว่า นี่คือดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 เลยนะ มีความวิเศษ อย่างนั้นอย่างนี้
แถมผู้ที่ไปบางกลุ่ม ไปก็เหมือนเสียเปล่า เสียเวลา
ไปแล้วก็กลับมาอวดมาอ้าง มาโชว์กิเลสกัน ว่าฉันไปมาแล้วนะอินเดีย ฉันไปไหว้ที่นั่น..ไหว้ที่นี่ ...
ไหว้ที่ไหน...ก็เหมือนกันนะ ไหว้ที่บ้านเรา ไหว้ที่วัดที่ไหนๆ ก็ไหว้ได้ ...แต่ให้่ไหว้ด้วยใจ ไหว้ด้วยความเคารพศรัทธา เชื่อมั่นในคุณงามความดีของพระพุทธเจ้าท่าน...ให้ใจมันน้อมลงไป ถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกันหมด
แทนที่จะเอาเวลาที่ี่ไปอินเดีย มาตั้งสติตนเอง
ให้อยู่...ให้ทัน...ในปัจจุบันธรรม..ดูสิ่งต่างๆ ที่เข้ามากระทบ.. มาสัมผัส แล้วให้รู้เท่าทันมัน ไม่ใช่ปล่อยให้จิตใจไหลไปตามกระแสความอยากหรือกระแสกิเลส...นี่สิสำคัญ
เพราะฉนั้นไหว้ที่ไหนๆ ก็ถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกันนะ เพียงขอให้ใจเราระลึกถึงท่าน น้อมถึงท่าน..
จะเป็นประโยชน์กว่าเยอะนะ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...คิว เมืองขุขันธ์
.
คุณแม่ชีสาว ลูกศิษย์อุปฐากเก่าแก่ยุคแรกในองค์หลวงปู่ ผู้ติดตามรับใช้หลวงปู่มาตั้งแต่ปี2515 ตั้งแต่เเรกเริ่มก่อตั้งสำนักขึ้น และเป็นผู้จัดสร้างพระสมเด็จรุ่นแรก ปัจจุบันไม่ได้ประจำอยู่วัดสันติวนาราม ท่านจะมาเฉพาะมีงานสำคัญหรือเมื่อเวลาหลวงปู่ต้องการพบ ถือเป็นบุคคลสำคัญของวัดสันติวนาราม ผู้มีความอาวุโส จดจำเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตหลวงปู่ไว้มากมาย เพราะเป็นผู้อุปฐากดูแลมานาน

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บูญส่ง
.
#เทศนาธรรม #ความเจ็บป่วย
" คนมีสติจะไม่ร้องครวญคราง โอดโอย จะต้องหัดพิจารณา รู้ว่า มันต้องเจ็บปวด แก่ชรา เพราะมีสังขารเป็นธรรมดาแบบนี้ เบื่อหรือยัง เจ็บพอหรือยัง ถ้ายังต้องมาเกิดก็ต้องเวียนว่ายเจ็บปวดอยู่ทุกชาติแบบนี้แหล่ะ ต้องหัดเบื่อหน่ายสังขารนี้ พอแล้วกับความเจ็บปวดที่เกิดจากการมีร่างกายนี้ มันจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
อย่างนี้เขาเรียกคนมีสติ คนปฏิบัติธรรม ไม่ต้องไปไหนไกล ทำบุญให้ทำที่ใจ ทำใจเอาไว้ได้ มันก็เกิดบุญ ร่างกายเราแบกหามยกของได้ไม่เท่าไหร่มันก็แบกมากไม่ไหวแล้ว
แต่ใจของเรานี่ มันแบกบุญได้กว้างขวางใหญ่โตไม่มีที่สิ้นสุด ไม่หนักด้วย แบกข้ามภพข้ามชาติไปได้อีกใหญ่โตมหาศาล ให้เราทำบุญที่ใจไว้นะ สะสมเอาไว้ จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดกันอีก "
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร


พุธ 7/9/2565
เทศนาธรรรม ระหว่างในการถวายข้าวหอมสุรินทร์ 420 ก.ก. และสังฆทาน วานนี้
Cr. ปิยสิริมน ปิยสิริมน

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...วาทิต วาทิตานนทน์
.
ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ ความเพียรและศรัทธา
ทำให้เรามุ่งมั่นและทำได้ถึงขนาดนี้
#รวมยอดปัจจัยที่ได้ถวาย
องค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
ในการสร้างโบสถ์และอื่นๆ ตลอด 4 ปีกว่า
#ในกองบุญทั้งหมด 21 กองบุญ
จำนวนเงินทั้งสิ้น 5,042,229.99 บาท
#ยอดทองคำทั้งหมด 9 บาท 2 สลึง
วันนี้จะขอรวบรวมกองบุญต่างๆ ที่ผมได้ทำถวาย องค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบันให้ทุกๆ ท่านได้ร่วมโมทนาบุญกันนะครับ
เป็นเวลา 4 ปี 5 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561
ทุกๆ เดือนผมจะประกาศกองบุญให้ทุกท่านได้ร่วมบุญกันมาไม่เคยหยุด เพื่อหาปัจจัยถวายองค์หลวงปู่ในการสร้างอุโบสถจตุรมุข วัดสันติวนาราม ด้วยศรัทธาที่ผมมีต่อองค์หลวงปู่ และสัจจะวาจาที่ได้ปวารณากับองค์หลวงปู่ว่า ผมจะช่วยหลวงปู่จนกว่าอุโบสถสำเร็จ
มีหลายท่านที่ร่วมบุญกันมาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันไม่เคยทิ้งกัน จะมากบ้างน้อยบ้างตามกำลัง หลายท่านก็ร่วมปิดยอดกองบุญต่างๆ ผมถือว่าทุกๆ ท่านที่ร่วมบุญกันมา เป็นเจ้าของกองบุญนี้ด้วยกัน
ต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ
#รายการกองบุญต่างๆ มีดังนี้
1. กองบุญสร้างจิตรกรรมเสาเอก 1,932,002 บาท
2. กองบุญทองคำหล่อผอบทองคำ 9 บาท 2 สลึง
3. กองบุญผ้าป่าซื้อทองคำ 119,000 บาท
4. กองบุญกำแพงแก้วทศทิศ 10 ช่อง 250,000 บาท
5. กองบุญซุ้มประทีปโคมไฟ 1 ซุ้ม 100,000 บาท
6. กองบุญสร้างพระทีปังกร 165,500 บาท
7. กองบุญสร้างปีนักษัตร 106,800 บาท
8. กองบุญสร้างราวบันได 500 เมตร 506,408 บาท
9. กองบุญจิตรกรรมภาพ "พระพรหม" 300,000 บาท
10. กองบุญกระเบื้องหลังคาอุโบสถ 200,000 บาท
11.ร่วมบุญยกช่อฟ้าอุโบสถ 15,000 บาท
12. กองบุญประติมากรรมองค์เทพเทวาประจำซุ้มประตูหน้าต่าง 150,000 บาท
13. กองกบุญกฐินสามัคคีรวมใจสร้างอุโบสถ ปี 2564 143,193 บาท
14. กองบุญตาวิเศษ ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบวัดสันติวนาราม 308,620 บาท
15. กองบุญแผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระพุทธเจ้า ๒๔ พระองค์ บนยอดโดมเจดีย์อุโบสถ 150,000 บาท
16. กองบุญเสาเอก “ศาลาฐิตสาโร” 121,561.98 บาท
17. กองบุญบูชาคุณ “องค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร” เจริญอายุวัฒนมงคล ๘๕ ปี 100,000.01 บาท
18. กองบุญสามัคคีรวมใจสร้างอุโบสถจตุรมุข วัดสันติวนาราม 66,105 บาท
19. กองบุญสังฆทาน 5,000 บาท
20. กองบุญหลอด LED ประดับที่วิหารคตทั้ง 4 ทิศ 214,640 บาท
21. กองบุญผ้าป่าสร้างบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 88,400 บาท
ขอให้ทุกท่านร่วมโมทนาบุญและมีส่วนในบุญนี้ร่วมกันครับ
#กองบุญยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าอุโบสถจะสำเร็จครับ
ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
องค์หลวงปู่ลี
กับองค์หลวงปู่บุญส่ง
ในขณะที่องค์หลวงปู่ลีท่านเดินทางไปถึงวัดสวนป่าบุญฤทธิ์ก่อน
ท่านได้นั่งในอาสานะ
องค์หลวงปู่บุญส่ง
ก็เดินทางมาถึงเวลาไล่เลี่ยกัน
ด้วยความอ่อนน้อมในองค์หลวงปู่ท่านจึงเข้าไปกราบ ทำวัตรหลวงปู่บุญส่ง
ในขณะนั้นเราจึงเห็นพระมหาเถระทั้งสองรูปได้กระเซ้าเย้าหยอกกัน
องค์หลวงปู่บุญส่งท่านกล่าวว่า บวชได้กี่พรรษาแล้วถึงมากราบผม
พระติดตามจึ่งได้บอกหลวงปู่บุญส่งไปว่า 52 พรรษา
หลวงปู่บุญส่งท่านก็พูดกับองค์หลวงปู่ลี
กราบได้ยังไงพรรษาเยอะกว่าผมอีกท่านก็หัวเราะกัน
องค์หลวงปู่บุญส่งท่านจึงหันกลับมาถามผมว่าเราบวชได้กี่พรรษาวะ
กระผมจึงตอบองค์หลวงปู่
ไปกระผมก็จำแม่นปีนี้น่าจะ 53 หรือ54 พรรษาแล้วครับ
ท่านบอกอ่อๆเราบวชก่อนหลวงปู่ลี
น้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งสองรูปโดยเศียรเกล้า — ที่ วัดสวนป่าบุญฤทธิ์

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ธนภัทร เลิศเทอดสกุล
.
แม้เพียงท่านเห็นรูปภาพหลวงปู่หงษ์ตั้งอยู่ ซึ่งแต่เดิมก็ตั้งอยู่แบบนี้ ไม่ได้นำวางเพื่อเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด ... คือวางอยู่นานแล้ว #กราบหลวงปู่หงษ์ .... #กราบหลวงปู่บุญส่ง ....

 

หลวงปู่บุญส่งเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนผมบวช ผมเคยตายมาแล้ว ตื่นมาหิวน้ำมาก
ผมเลยถามว่า หลวงปู่เคยตายแล้วฟื้นเหรอครับ
หลวงปู่:สมัยยังไม่บวชโน้น ตายเพราะความรัก อกหักกินยาฆ่าตัวตาย555 ดีนะไม่ตายก่อน ได้มาบวช พอมาบวชละเห็นโทษของความรักเลย มันเป็นทุกข์
หลวงปู่ย้ำกับผมว่า "เณรอย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้นะ มันไม่ได้ยากเกินเราหรอก แต่ก็ไม่ได้ง่าย อย่าคิดว่ามันยากเกิน"
หลวงปู่:ผมนิเคยมีความรัก คบหากัน 4 ปี ผมไม่เคยล่วงเกินเขาเลย ก็มาบวช ทีแรกว่าจะบวช 3 เดือน ก็อยู่มาเรื่อยๆ เขาก็มาถามทุกวันๆ เราก็เลิกนะ ไหนๆก็ไม่เคยล่วงเกินกันนิ เลิกกันไปก็หน้างอไม่เกิน 2 วันหรอก ก็เลยได้ถวายตัวให้พระพุทธเจ้า ชีวิตทางโลกเป็นทุกข์จริงๆนะเณร
บวชได้ไม่นานก็ขึ้นเหนือ ไปอยู่กับหลวงปู่แหวน ที่ดอยแม่ปั๋ง สมัยนั้นยังไม่มีคนเยอะ พอเริ่มๆมีพระมาอุปัฏฐากเราก็ถอยเลย
ผม:หลวงปู่ไปหาหลวงปู่เเหวนปีไหนครับ
หลวงปู่:เดี๋ยวนะคิดก่อน บวชได้พรรษาที่ 4 พ.ศ.25...(ผมลืม)
ก็ไปหลายรูปรุ่นเก่าๆ หลวงปู่ขาว เราก็สนิทรู้จักหลวงปู่บุญเพ็ง อาจารย์จันทา หลวงปู่จวน หลวงปู่วัน ฯลฯ
ผมเคยไปอยู่เลย อยู่ผาน้อย
ผม:หลวงปู่ได้ไปอยู่กับหลวงปู่ชอบไหม
หลวงปู่:เคยไป อยู่บนยอดเขา มองลงมาก็เห็นโคกมน ไม่ไกลจากหลวงปู่ชอบ
ผม:สมัยหลวงปู่ไปหลวงปู่ชอบเดินได้ไหมครับ
หลวงปู่:เริ่มไม่ค่อยได้แล้ว
แต่ก่อนไปอยู่ป่า มันต้องต่อสู้นะเณร กลางคืนมาเงียบสงัด บางคืนก็สงบวิเวก บางคืนก็น่ากลัว
แต่ก่อน 4-5 วัน มาในบ้านคนครั้ง เวลามาออกจากป่า เข้าบ้านคนเหมือนกับเข้าปราสาทราชวังนะ นานๆทีมา มาลงอุโบสถ พอกลับไป ถ้าติดในบ้านเมืองก็ชักกลัวๆ แต่อยู่นานๆก็เริ่มชิน กลับไปใหม่ๆถ้าติดในบ้านเมืองละก้อ ชักอยู่ไม่ได้ มันต้องต่อสู้เยอะ
สมัยก่อน ผมอยู่คนเดียวไปคนเดียว ไม่ค่อยอยู่กับหมู่คณะ อยู่คนเดียวก็คุยกับสัตว์ กับนก กับไก่ไป ไม่ได้บ้านะ แต่ไม่มีคนคุยด้วย มันเหงาก็เลยคุยกับสัตว์ รู้เเก่ใจว่าไม่ได้บ้า
เคยเดินป่ามาแล้วรู้สึกเหงา อยู่คนเดียวในป่ามันแทบบ้านะ เคยนอนแผ่ลงกับพื้น
ผม:หลวงปู่ผ่านมาได้ยังไงครับ ใช้อุบายยังไง
หลวงปู่:ผมก็ถามตัวเองว่า ที่ผมบวชมา เราบวชมาเพื่ออะไรมาหาหมู่คณะ หรือมาเอาธรรม สำคัญต้องมีสตินะเณร
ผม:หลวงปู่รู้จักหลวงปู่กวงไหม
หลวงปู่: รู้จักรุ่นเดียวกัน
ผม:หลวงปู่ประสิทธิ์นิยังไงครับ
หลวงปู่:ท่านอายุมากกว่านิดหน่อย
สมัยก่อนไปเที่ยวเดินป่าด้วยกัน มีประสิทธิ์ มีกวง มีผม กับอีกรูป จำชื่อไม่ได้ ไปกัน 4 รูป สมัยก่อนครูบาอาจารย์ปฏิบัติกันจริงๆจังๆนะเณร
โบสถ์นิสร้างมา 10 ปีไม่เคยเป็นหนี้นะ เราบอกเทวดาว่า ถ้าเป็นหนี้จะหนีเขาป่า ก็สร้างมาได้ตลอด เราทำตามที่มีเลยไม่เป็นหนี้
หลวงปู่สิมให้เราอยู่ทีนี้ ที่ตรงนี้เลวที่สุดในประเทศ มีคนมาหาเรื่องเรา มายิงเรานะ แต่ไม่เป็นไร ยิงมาใกล้จะถึงเรามันตกลงหมด เราก็ฝึกมาตั้งหลายปี คนที่จะมาฆ่าเรา ก็พากันตายหมด เราไม่ได้อาฆาตเลยนะ ไม่ได้สาปแช่งอะไร เขาตายเอง กรรมเขา ทีแรกก็ตายไป 5 คน ต่อมาก็อีก 3 คน
หมู่คณะว่าเราติดที่ จริงๆเราไม่ได้ติดให้คนอื่นมาอยู่เขาอยู่ไม่ได้หรอก เราเลยต้องอยู่ เราเลยว่าถ้าท่านมาผมจะไป ตรงนี้แต่กลัวป่าเถื่อนนะเณร หลวงปู่สิมว่า เอาเลยอยู่ต้องนี้เลย ก็เป็นการฝึกในตัวนะ พอสร้างโน้นสร้างนี่จะไปแล้วก็ไปไม่ได้ดินพอกหางหมู คนโน้นคนนี้มา ก็ได้มาสร้างโบสถ์นี่ละ ตั้งแต่ปี 2555 ปีนี้ 10 ปีพอดี
หลวงตามหาบัวนิท่านไม่เคยดุเราเลยนะ ไปหาท่านมีแต่คอยจะส่งเสริม รูปอื่นโดนท่านดุ
เป็นต้น
เล่าแค่นี้ละขี้เกียจพิมพ์ เมื่อวานไปกราบท่าน อยู่คุยกับท่าน 2 ชม. จนหมดเวลาท่านลงรับแขก ลูกศิษย์มานิมนต์ท่านพักผมเลยกราบลากลับ
ก่อนกลับ ขอโอกาสท่านอธิษฐานจิตแผ่นเงินไปหล่อพระ กับวัตถุมงคลต่างๆ
ท่านว่าท่านจารไม่ไหว อธิษฐานเอานะ เราแก่เเล้ว มือไม่ค่อยไหว
ตอนท่านอธิษฐานจิต จะถ่ายรูป ดันไม่ติด ถ่ายยังไงก็ไม่ติด เลยไม่ถ่าย
Cr. Jo sung

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
เดือนกว่าๆที่ไม่ได้เจอองค์หลวงปู่ท่านวันนี้ก็เลยอยู่กับองค์ปู่
นานหน่อย
มีอะไรหลายอย่างที่หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟัง
และก็มีอะไรหลายอย่างที่ผมเล่าให้หลวงปู่ฟังเช่นกัน
ท่านได้กล่าวว่าทุกวันนี้สังขาร
ก็โรยรา
ส่วนตาก็พร่ามัว
ฟันที่เคยเคี้ยวข้าวปลาอาหารได้อร่อยก็หักหลุดไปตามเวลา
นี่คือสังขารที่เป็นไปตามวัฏจักร
ให้ใช้ร่างกายตอนที่มันยังแข็งแรง
สร้างคุณงามความดี
สะสมบารมีใส่ตัว
อย่าเห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
อยากเห็นแต่ความขี้เกียจ
เพราะโลกข้างหน้ามันยาวนานยิ่ง
โลกมนุษย์นี้แค่ไม่ถึงร้อยปีเราก็จากกันไปแล้ว
ธรรมะโอวาทขณะนวดในคืนนี้
เมตตาฐิตสาโร....

 

"พ่อแม่เปรียบได้ดุจเป็นพระอรหันต์ ต้องแย่งกันดูแลเป็นบุญมาก อย่าเบื่ออย่าบ่นอย่าว่าอย่าแช่งให้แกตายเร็วอย่าทอดอย่าทิ้งอย่าให้ท่านอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย บ้านพักคนชราจะไม่เกิดหากทุกคนรู้จักความกตัญญู เอาท่านไปทิ้ง แทนที่จะได้บุญกับสร้างกรรมหนักเข้าซะเอง ท่านบ่นทนเอาเรานิ่ง ดูแลเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว ยิ่งลำบากมากยิ่งได้บุญมาก แกอยู่กับเราไม่นานหรอกต้องดูแลกันให้ดี ต้องแย่งกันดูแล พ่อแม่ปู่ย่าตายายบ่น เรานิ่งยิ่งได้บุญ ตอบโต้ไปยิ่งได้บาป ท่านอยู่นานยิ่งเราดูแลยิ่งสร้างบุญให้เราต่อยอดบุญให้เรา นี่ล่ะจังหวะบุญ บุญครั้งใหญ่เลยทีเดียว แล้วจะเป็นคนที่มีคุณค่ามากไม่เสียชาติเกิด เป็นอภิชาติแห่งยอดบุญ อานิสงค์จะส่งเมื่อยามเราแก่ จะไม่ทำให้อนาทรร้อนใจโดดเดี่ยวเดียวดายจะมีคนคอยดูแล ถึงอยู่คนเดียวไม่มีลูกหลาน อานิสงค์จะส่งให้มีคนมาดูแล พ่อแม่ยังดูแลไม่ได้ มาวัดจะไปได้บุญอย่างไรกัน สำคัญมากนะ ความกตัญญูเนี่ยวัดค่าของคน ไม่ใช่มาวัดกันที่วัด"
(หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร)

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Nok Sasithron
.
วันนี้ได้มากราบหลวงปู่ที่วัด
เข้าใจคำว่าสมการรอคอย
และปลื้มปิติมากๆ ที่ได้พบหลวงปู่ หลวงปู่มีเมตตามากๆจริง
ได้พูดคุยกับหลวงปู่หลายประโยคมาก และจะขอทำบุญร่วมกับหลวงปู่จนกว่าอุโบสถจะเสร็จ
...วัตถุมงคลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิต กุศลผลบุญเท่านั้นที่จะติดตัวเราไปทั้งภพนี้และภพหน้า

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บูญส่ง
.
".. . ในโลกนี้ อะไรๆเราก็ทำกันได้หมด แต่ไอ้ดีชั่ว เราหากันเอง ไม่มีใครเอาจับยัดใส่หัวใจใครได้ ถึงเวลาก็ต้องแยกจากกันไปตามวิบากกรรม ตัวใครตัวมัน จะมาเข้าสัมโนครัวกันอีกเหมือนโลกมนุษย์ ไม่ได้หรอก มีแต่บุญกับบาปนั่นล่ะที่ติดตามเราไปได้.. "
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...สายัน จันทบุรี
.
ขออนุญาต adminผมคนพิการยังมีบุญวาสนากับหลวงปู่นะครับวันนี้เจอท่านได้ร่วมบุญสร้างอุโบสฟังท่านเทศนาธรรมและขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆน้องๆที่ร่วมด้วยครับ วันนี้ท่านที่ได้เจอกับผมทักทายกันได้ตลอดนะครับ

 

วันจันทร์ ที่ 10 ตุลาคม 2565
.
#วันออกพรรษา จะมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาหลายอย่าง วันนี้จึงขอนำการปวารณาของพระสงฆ์มาเล่าสู่ท่านทั้งหลาย
.
...... #วันมหาปวารณา เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา ตรงกับวันสุดท้ายของการจำพรรษา๓เดือน คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุทำการปวารณา คือ ยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนซึ่งกันและกัน หมายถึงยอมมอบตนให้สงฆ์ว่ากล่าวตักเตือน ในข้อบกพร่องของภิกษุทั้งหลายที่ได้เห็นได้ยินหรือข้อสงสัย #ด้วยจิตเมตตา เพื่อจักได้สำรวมระวัง ปรับปรุงแก้ไขตนเอง #วันออกพรรษา
.
.
#ความเป็นมาของวันมหาปวารณา
...ครั้งหนึ่ง ภิกษุที่จำพรรษาในแคว้นโกศล ตั้งกติกาว่า จะไม่พูดกัน แต่ใช้วิธีบอกใบ้หรือใช้มือแทนคำพูด เมื่อออกพรรษาแล้ว ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสถาม ทรงติเตียน และทรงอนุญาตการปวารณา คือ การอนุญาตให้ภิกษุอื่นว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ภิกษุจำพรรษาแล้ว ย่อมปวารณาด้วยเหตุ๓ประการคือ
๑ โดยได้เห็น
๒ โดยได้ยิน ได้ฟัง
๓ โดยสงสัย
แล้วจึงปวารณา......
.
#วิธีปวารณา
ภิกษุเถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี แล้วกล่าวปวารณา ๓ ครั้งเพื่อให้ภิกษุนวกะกล่าวปวารณาตอบ ภิกษุนวกะก็ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่งประคองอัญชลีแล้วกล่าวปวารณา ๓ ครั้ง ต่อมา พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้นั่งกระโหย่งในขณะที่ยังปวารณา และทรงอนุญาตให้ภิกษุที่ปวารณาแล้วนั่งบนอาสนะ เพราะเคยมีภิกษุชราภาพนั่งกระโหย่งคอยนานจนเป็นลมล้มลง
.
#คำกว่าวปวารณาออกพรรษา
.....สังฆัมภันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา
วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
.....ทุติยัมปิ ภันเต สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา
วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
.....ตะติยัมปิ ภันเต สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา
วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
แปลว่า "ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ กระผมขอปวารณาต่อสงฆ์ หากท่านทั้งหลายได้เห็นได้ยิน หรือสงสัย ว่า...กระผมได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอท่านทั้งหลายโปรดอนุเคราะห์ว่ากล่าวตักเตือนกระผมด้วย เมื่อกระผมมองเห็นแล้ว จักประพฤติตัวเสียใหม่ให้ดี"
.
.
___________________________
.
.
กฐินสามัคคีปี 2565
#ขอเชิญพุทธศาสนิกชน และผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕(แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑) เวลา ๑๑.๐๐น.
ณ วัดสันติวนาราม(เขาน้ำตก)
บ้านหนองกวาง ซอย ๕ หมู่ ๒ ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ. จันทบุรี
เนื่องด้วยทางคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี
โดยการจัดตั้งเจ้าภาพกฐินกองละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ๕๐,๐๐๐ บาท ๓๐,๐๐๐บาท
๑๐,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๐บาท ๓,๐๐๐บาทและ๕๐๐บาท(แต่ละกองทางวัดมีที่ระลึก)
(หรือแล้วแต่กำลังศรัทธาในการรวบรวมปัจจัยของแต่ละท่านหรือคณะ) ขณะนี้ใช้ปัจจัยวันละ ๒ แสนบาท เดือนละ ๖ ล้านบาท กำลังดำเนิน งานฝ้าเพดาน งานปูนปั้นและการตกแต่งภายในอุโบสถชั้น ๒ จึงเป็นเหตุให้งบประมาณค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นคณะศิษย์ได้พร้อมใจกันร่วมถวายเป็นกฐินสามัคคี โดยมี ด.ญ.ภาณิชา อังศุวนิช ได้มีจิตศรัทธาปวารณาเป็นประธานเจ้าภาพกฐิน
#วัตถุประสงค์ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ และช่วยทะนุบำรุงและสืบทอดพระศาสนาให้ยั่งยืนต่อไป
#กำหนดการ
วันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕(แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๑)
เวลา ๑๙.๐๐น. เจริญพุทธมนต์สมโภชองค์กฐิน
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕(แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑)
เวลา ๐๘.๐๐น. ถวายภัตตาหารพระสงฆ์
เวลา ๑๑.๐๐น. พิธีถวายผ้ากฐินโดย ด.ญ.ภาณิชา อังศุวนิช เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
และกรานผ้ากฐิน โดยหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
#ประธานอุปถัมภ์ ดร.จิตตวุฒิ ลิ้มศิริเศรษฐกุล คุณโชติก รัศมีทินกรกุล คุณอัญชลี สิริรัตนตรัย และ ดร.มาริษา จำรัสผลเลิศ ศิษย์ต่างชาติชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกงและจีน
และศิษยานุศิษย์ร่วมเป็นเจ้าภาพทุกท่าน
#ร่วมเป็นสะพานบุญ แจ้งรับซองกฐินสามัคคีได้ที่โพสต์หรือข้อความ Puttachat Bunsri
#ติดต่อร่วมจองเป็นเจ้าภาพได้ที่ คุณพุท โทร. ๐๙๙-๕๑๖๔๙๙๕ Fb : Puttachat Bunsri
คุณจ็อด Fb : Piriya Jord Chukeawngam โทร. ๐๘๒-๖๒๖๑๑๙๖
#ติดต่อโรงทาน : คุณป้าศรี ๐๖๓-๗๘๕๘๘๙๒
#ข่าวสารFb:หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
#โอนร่วมบุญบัญชี ธ.กรุงเทพ ๔๔๐ ๐ ๓๕๖๔๑๘ พระบุญส่ง ฐิตสาโร
#แจ้งโอนภายใน 15 ตค.2565
.
.
#สาธุอนุโมทนา