ห้องพระเครื่อง "ศิลป์พระ๙" พระเครื่องทั่วไทย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิลป์พระ9, 26 ธันวาคม 2020.

  1. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,269
    โอนแล้วตามสลิบ รายละเอียดทางpm
    0C75F4F9-2C9F-42B2-95E7-0C10F24B704E.jpeg
     
  2. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
  3. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    289.เหรียญ 25 ศตวรรษ พิมพ์เสมา บล๊อคแขนโต ปี 2500 ((( บูชา 1,450 บาท )))
    สภาพสวยแชมป์

    “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ถือว่าสุดยอดแห่งประวัติศาสตร์ของวงการพระเครื่อง พิธีจัดสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีตั้งแต่กรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีพิธีใดจะยิ่งใหญ่เท่า เนื่องด้วยพิธีที่ยิ่งใหญ่ เจตนาและวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อหารายได้สร้างพุทธมณฑลที่ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาในเมืองไทย

    ในการทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในครั้งนั้น ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณมาทำพิธีถึง ๒ ครั้ง โดยในครั้งแรกเป็นการนำวัตถุที่จะใช้สร้างพระมาทำพิธีพุทธาภิเษกก่อนครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ โดยมีพระคณาจารย์มาทำพิธีครบ ๑๐๘ องค์ และต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จฯ และทรงกดพิมพ์พระจำนวน ๓๐ องค์ กับพระทองคำ ๔ องค์ เป็นปฐมฤกษ์

    หลังจากนั้นได้สร้างพระโดยตั้งโรงงานผลิตภายในบริเวณวัดสุทัศน์ ใช้ระยะเวลาสร้างประมาณ ๓ เดือนจึงแล้วเสร็จ และได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกอีกครั้งระหว่างวันที่ ๒-๔ พฤษภาคม ปีเดียวกัน โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณชุดเดิมที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นก็นิมนต์มากปลุกเสกทุกวัด เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย) วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม พระครูโสภณกัลยานุวัตร (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร เป็นต้น

    ในเอกสารงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ๑๒-๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๐ ระบุไว้ว่า พระเนื้อชิน มีการจัดสร้าง จำนวน ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์ ประกอบด้วย พลวง ดีบุก ตะกั่วดำ ผสมด้วยนวโลหะ คือ ชินหนัก ๑ บาท เจ้าน้ำเงินหนัก ๒ บาท เหล็กละลายตัวหนัก ๓ บาท บริสุทธิ์หนัก ๔ บาท สังกะสีหนัก ๖ บาท ทองแดงหนัก ๗ บาท เงินหนัก ๘ บาท และทองคำหนัก ๙ บาท ตลอดจนแผ่นทองแดง ตะกั่ว เงิน ที่พระอาจารย์ต่างๆ เกือบทั่วราชอาณาจักร ได้ลงเลขยันต์ส่งมาให้ รวมทั้งเศษชนวนจากการหล่อพระในแห่งอื่นๆ รวมหล่อผสมลงไปด้วย


    572022_220710_28.jpg 572022_220710_29.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2022
  4. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    290.เหรียญหลวงปู่ดุลย์ ปี 2523 จ.สุรินทร์ ((( บูชา 1,350 บาท ))) "ปิดรายการ"
    เหรียญสวยแชมป์

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล” นับเป็นศิษย์อาวุโสรุ่นแรกสุดของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายอาริยะวาสีในยุคปัจจุบัน พระเถระที่เป็นสหมิตรและมีอายุรุ่นเดียวกันกับหลวงปู่ดูลย์ ได้แก่ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา และหลวงปู่ขาว
    อนาลโย วัดถ้ำกองเพล จังหวัดอุดรธานี ด้วยความปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของหลวงปู่ดูลย์ ท่านจึงมีศิษย์สำคัญๆ หลายองค์ ศิษย์รุ่นแรกๆ ก็มี “หลวงปู่ฝั้น อาจาโร” วัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร “หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ” วัดป่านิโกรธาราม จังหวัดอุดรธานี “หลวงปู่สาม อกิญจโน” วัดป่าไตรวิเวก จังหวัดสุรินทร์ และพระเทพสุธาจารย์ (หลวงปู่ชาติ คุณสมฺปนฺโน) วัดชิราลงกรณ์ อำเภอปากช่อง นครราชสีมา สำหรับศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ดุลย์ ได้แก่ พระวิสุทธิธรรมรังสี (หลวงพ่อเปลี่ยน โอรโส) วัดป่าโยธาประสิทธิ์ จังหวัดสุรินทร์ หลวงพ่อสุวรรณ สุดใจ วัดถ้ำศรีแก้ว จังหวัดสกลนคร เป็นต้น

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นพระอริยะเจ้าที่มีคุณธรรมล้ำลึก ท่านเน้นการปฏิบัติภาวนามากกว่าการเทศนาสั่งสอน สำหรับพระสงฆ์และญาติโยมที่เข้าไปกราบนมัสการและขอฟังธรรม หลวงปู่มักจะให้ธรรมะสั้นๆ แต่มีความล้ำลึกสูงชั้นเสมอ ท่านเทศน์เรื่อง “จิต” เพียงอย่างเดียว โดยจะย้ำให้เรา “พิจารณาในจิต” อยู่เสมอ

    หลวงปู่ดูลย์ เกิดปีชวด วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2431 ที่บ้านปราสาท ต. เฉนียง จ.สุรินทร์ โดยมีท่านพระครูวิมลศีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ในพรรษาที่ 6 หลวงปู่ได้เดินทางด้วยเท้าไปจังหวัดอุบลราชธานี พำนักอยู่ที่วัดสุปัฎนาราม เพื่อเรียนปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี แล้วเรียนบาลีไวยากรณ์ต่อ ถึงแปล
    ลมูลกัจจายน์ได้

    “หลวงปู่” ได้รู้จักชอบพอกับ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนามของแม่ทัพใหญ่แห่ง “กองทัพธรรม” ในสายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทำการเผยแผ่ธรรมะในสาย “พุทโธ” จนแพร่หลายมาตราบนานเท่าทุกวันนี้ ในปีที่ 2 ที่หลวงปู่ไปพำนักอยู่ที่อุบลราชธานี หลวงปู่ดูลย์และหลวงปู่สิงห์ สองสหายผู้ใคร่ธรรม ได้ไปกราบนมัสการและฟังธรรมของพระอาจารย์ใหญ่ และเกิดความอัศจรรย์ใจและศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง จึงตัดสินใจ เลิกละการเรียนด้านปริยัติธรรมะ แล้วออกธุดงค์ ตามหลวงปู่มั่นไปในที่ต่างๆ อยู่นานปี

    “หลวงปู่ดูลย์” เที่ยวเดินธุดงค์หาความวิเวกตามป่าเขานานถึง 19 ปี จึงได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการคณะสงฆ์ให้หลวงปู่เดินทางไปประจำอยู่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดการศึกษาด้านปริยัติธรรม และเผยแพร่ข้อปฏิบัติ
    ทางกัมมัฎฐานไปด้วยกัน หลวงปู่จึงได้ไปพำนักอยู่ประจำที่วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ พ.ศ.2477 จนบั้นปลายชีวิตของท่าน

    นับตั้งแต่บัดนั้นมา “แสงแห่งรัศมีของพระธรรม” ทั้งทางปริยัติและทางปฏิบัติ ก็เริ่มฉายแสงรุ่งเรืองตลอดมา โดยหลวงปู่มีภาระทั้งฝ่ายคันถธุระและวิปัสสนาธุระ บริหารงานพระศาสนาอย่างเต็มกำลังสามารถ ในปฏิบัติส่วนตัวของท่านนั้นไม่เคยละทิ้งกิจธุดงค์บำเพ็ญเพียรทางใจอย่างสม่ำเสมอตลอดมา ด้วยเหตุที่หลวงปู่มีเมตตาธรรมสูงจึงช่วยสงเคราะห์บุคคลทั่วไปได้อย่างกว้างขวางโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

    “หลวงปู่” มีสุขภาพดีอย่างยิ่ง แข็งแรง ว่องไว ผิวพรรณแจ่มใส มีเมตตาเป็นอารมณ์ สงบเสงี่ยม เยือกเย็นทำให้ผู้ใกล้ชิด และผู้ได้กราบไหว้ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาอย่างสนิทใจ

    ทางวาจา ท่านเสียงใหญ่ แต่พูดเบา พูดน้อย พูดสั้น พูดจริง พูดตรง ปราศจากมารยาทางคำพูด คือ ไม่พูดเลียบเคียง ไม่พูดโอ๋ ไม่พูดปลอบโยน ไม่พูดประชด ไม่คิดนินทา ไม่พูดขอร้อง ขออภัย ไม่พูดขอโทษ ไม่พูดถึงความฝัน ไม่พูดเล่านิทานตลกหรือนิทานปรัมปรา เป็นต้น

    ทางใจ ท่านมีสัจจะ ตั้งใจทำสิ่งใดก็จะทำจนสำเร็จ มีเมตตากรุณาเป็นประจำ สงบเยือกเย็น อดทน ไม่เคยมีอาการกระวนกระวายวู่วาม ไม่แสดงความฮึดฮัด หงุดหงิด หรือรำคาญ
    ไม่แสวงหาทองเพื่อสั่งสม หรืออาลัยอาวรณ์กับของที่สูญหายไป ไม่ประมาท

    รุ่งเรืองด้วยสติสัมปชัญญะ และเบิกบานอยู่เสมอ เป็นอยู่โดยปราศจากทุกข์ ไม่หลั่งไหลไปตามเหตุการณ์ และเบิกบานอยู่เสมอ เป็นอยู่โดยปราศจากทุกข์ ไม่ถูกภาวะอื่นครอบงำ ท่านสอนอยู่เสมอว่า “ให้ทำความเข้าใจกับสภาวธรรมอย่างชัดแจ้งว่า เกิดขึ้น เปลี่ยนแปลง สลายไป อย่าทุกข์โศกเพราะสภาวะนั้นเป็นเหตุ”

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระอริยเจ้าผู้ประเสริฐได้ละเสียซึ่งสังขารเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2526 สิริรวมอายุได้ 96 ปี กับ 26 วัน พระอรหันต์ธาตุของท่านได้เก็บรักษาไว้ให้สาธุชนได้สักการะที่ “พิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐาน” ในวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

    ส่วนคำสอนของหลวงปู่ ซึ่งเป็นคำสอนสั้นๆ และเฉียบคมล้ำลึกนั้น ท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนีได้รวบรวมและพิมพ์ไว้ในหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้” หลวงปู่เน้นเรื่อง “การปฏิบัติภาวนา” ให้พิจารณา “จิตใจจิตจนรู้แจ้ง” ท่านเทศนาเพียงสั้นแต่เฉียบคม ท่านสอนว่า… “หลักธรรมที่แท้จริง ‘จิต’ ของเราทุกคนนั้นแหละ คือหลักธรรมสูงสุด ที่อยู่ใน ‘จิต’ เรา นอกนั้นแล้วมันไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย ของให้เลิก ละ การคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น จิตในจิตจะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีประจำอยู่แล้วในทุกคน”

    572022_220710_12.jpg 572022_220710_13.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2022
  5. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    291.เหรียญหลวงปู่บุญ วัดดอนเสลา จ.ราชบุรี ((( บูชา 550 บาท )))

    หลวงพ่อบุญ วัดดอนเสลา จ.ราชบุรี พระเกจิยุคเก่าที่ชาวราชบุรีให้ความเคารพศรัทธายิ่งนัก ท่านเป็นสหธรรมมิก (พระสหายธรรม)กับหลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง ผู้สร้างพระปิดตามหาอุตม์เนื้อเมฆพัด และเนื้อดินขุยปู อันเลื่องลือในยุทธจักรวงการพระเครื่อง

    572022_220710_10.jpg 572022_220710_11.jpg
     
  6. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    292.เหรียญหลวงพ่อบ้านแหลม ปี 2514 ((( บูชา 850 บาท )))

    เหรียญใบสาเก หลวงพ่อบ้านแหลม ปี2514 เหรียญพิธีใหญ่มีเกจิอาจารย์มานั่งปรกปลุกเสก พุทธาภิเษกมากมาย
    อาทิเช่น
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงปู่สุด วัดกาหลง
    หลวงพ่อคลี่ วัดประชาโฆสิตาราม
    หลวงพ่อเก๋ วัดแม่นํ้า
    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์
    หลวงพ่อมา วัดนางตะเคียน
    หลวงพ่อสาย วัดจันทร์เจริญสุข
    เป็นต้น ฯลฯ
    และยังมีอีกหลายเกจิอาจารย์สายลุ่มนํ้าแม่กลองครับ นับว่าเป็นเหรียญมีวาระดีพิธีใหญ่ที่น่ามีไว้บูชามากๆครับ

    572022_220710_14.jpg 572022_220710_15.jpg
     
  7. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    293.เหรียญพระอุปัชญาย์คำ วัดสนามจันทร์ จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2581 ((( บูชา ปิดรายการ บาท ))) >>>พี่สิริพงษ์
    ยันต์เล็ก ขอบเลื่อย


    ของดีของเก่าไม่ควรพลาดสำหรับเหรียญนี้ เป็นเหรียญปี 2481 กรรมวิธีขอบเลื่อย พระอาจารย์ที่ปลุกเสกระดับปรมาจารย์แห่งยุค ราคาไม่แพงครับ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสกในสมัยนั้น เหรียญสภาพสวย

    "ตำนานเหรียญขลังแห่งสนามจันทร์" สมญานาม....เหรียญเสื้อเกาะแห่งบ้านโพธิ์...
    เหรียญ อุปัชฌาย์ คำ พรหมสุวณณ วัดสนามจันทร์ ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก ยันต์ใหญ่ ปี 2481 จัดสร้างเพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานฝังลูกนิมิตร์ ณ วัดสนามจันทร์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ นับเป็นเหรียญรุ่นแรก.. ((( อุปัชฌาย์ คำ พรหมสุวณณ วัดสนามจันทร์ ฉะเชิงเทรา ))) สุดยอดอมตเถราจารย์ แห่งเมืองแปริ้ว
    ... หลวงพ่อคำท่านเป็นบุตร โยมคล้าย กับ โยมอ่วม บ้านอยู่ปากคลองสนามจันทร์ในสมัยเด็กๆ ท่านไม่ค่อยกลัวใคร จนในละแวกนั้นต่างก็ยกให้เป็นลูกพี่ เป็นนักเลงหัวไม้ ต่อมาเมื่อ พศ 2422 อายุครบบวช ท่านบิดามารดาจึงอุปสมบทให้ที่วัดบ้านโพธิ์ ท่านก็ปลงตก โยนมีดโยนปืนทิ้งน้ำ แล้วเข้าสู่ ร่มกาสาวพัก โดยมี หลวงพ่อแก้ว วัดบ้านโพธิ์เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วท่านก็เกิดศรัทธาอยากแรงกล้า ในพระพุทธ ศาสนา สามารถเข้าสอบพระธรรมวินัยได้ที่ 1 ในสมัยนั้นการสอบข้อเขียนไม่มี มักสอบกันปากเปล่า ท่านมีความจำดีสามารถท่องพระธรรมวินัยและชอบศึกษาพุทธาคมและชอบทดลอง ท่านเป็นพระนักพัฒนา เป็น ผู้รวบรวมทุนรอนมาสร้างพระอุโบสถด้วยตัวท่านเองจนสำเร็จ นับเป็นพระอุโบสถที่งดงามที่สุด แห่งหนึ่ง ท่านทุ่มเทให้กับพุทธศาสนาและวัดสนามจันทร์ ให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนเป็นผลให้ได้รับพระราชทานเหรียญขนาดยักษ์กว้างถึง 24 นิ้ว จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล ถึง 2 รัชกาลด้วยกันเลยทีเดียว นับเป็นเกียรติ เป็นมงคลแก่ ล.พ. คำ และ จังหวัด ฉะเชิงเทรา เป็นยิ่งนัก จนถึงปลายปี พศ 2488 ลพ คำ ก็ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดสนามจันทร์ ในด้าน พุทธาคม ล.พ. คำ ท่านก็มิได้ด้อยไปกว่า คณาจารย์ในสมัยนั้นเลย แม้แต่ ลพ ดิ่ง วัดบางวัว ท่านก็อาวุโสกว่าถึง 19 ปี เมื่อท่านบวชได้ 5 พรรษา ท่านจึงเดินธุดงค์ไปในป่าเพื่อฝึกจิตจนไปพบ ตาพุ่ม หรือ อาจารย์ พุ่ม และท่านก็ได้เล่าเรียนพุทธาคมจนแตกฉาน ในป่าช้าก็คือสำนักปฏิบัติเล่าเรียนวิชา ของ อาจารย์ พุ่ม ท่าน สำเร็จวิชามหาอุด ตะกรุดใต้น้ำ ล่องหนหายตัว และท่านก็ยังเรียนกับ หลวงพ่อแก้ว พระอุปัชฌาย์ของท่าน จนหลวงพ่อแก้วเอ่ยปาก ชมว่า หลวงพ่อคำศึกษาได้เร็ว หลวงพ่อ แก้วท่านเก่งทางมหาอุด พัดโบก กำบังไพร เมตตามหานิยม และสำเร็จผงปถมัง ฯลฯ มีอยู่ครั้งหนึ่งมรรคนายกวัดสนามจันทร์ ขุนแพทย์มงคล ต้องการพิสูจน์ว่าท่านเก่งจริงหรือไม่ จึงแอบขโมยหยิบผ้าอาบของหลวงพ่อคำไปผูกติดกับต้นไม้แล้วลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก แชะ แชะ แชะ ทั้งสามครั้ง ชาวบ้านในละแวกนั้นจึงแย่งผ้าอาบและฉีกแบ่งกัน ต่อมาก็มีทหารพกปืนไปที่วัด หลวงพ่อจึงถามว่า ไอ้นี่หรือวะที่เขาเรียกว่าปืน มันดีอย่างไร ยิงผ้าขี้ริ้วของกูก็ยังไม่ออก กูไม่เห็นมันจะดีตรงไหน ทหารผู้นั้นจึงขอลองยิง หลวงพ่อจึงหยิบผ้าเช็ดน้ำชาที่รองปั้นน้ำชาโยนไปที่พื้น ทหารผู้นั้นจึงชักปืนขึ้นยิงไปที่ผ้า แต่ก็ยิงไม่ออกเลย ทหารผู้นั้นจึงก้มลงกราบหลวงพ่อ และขอผ้าผืนนั้นไปบูชา..และเป็นที่เชื่อได้อีกอย่างคือ ก่อนถึงการเกณฑ์ ทหาร บรรดาหนุ่มๆต่างมานอนค้างที่วัด เพื่อรอ ขอ ล.พ. คำ ทำน้ำมนต์รดให้ จะได้ ไม่โดน ทหาร ต่อมา สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จมาที่วัดสนามจันทร์ และได้แต่งตั้งหลวงพ่อคำเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านจึงได้เริ่มสร้างพระอุโบสถขึ้น และเมื่อปี พ.ศ.2481 พระอุโบสถวัดสนามจันทร์ก็สำเร็จลุล่วง หลวงพ่อจึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้มาฝังลูกนิมิต การสร้างเหรียญนี้ แผ่นทองแดงที่นำมาปั๊มเหรียญได้ส่งไปถวายให้ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม หลวงพ่อสาด วัดปทุมคณาวาส สมุทรสง คราม หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ หลวงพ่อวงค์ วัดบ้านค่าย ฯลฯ ลงจารที่แผ่นโลหะ ประมาณ 300 แผ่น แล้วจึงนำกลับมาให้ช่างในกรุงเทพฯ รีดเป็นแผ่นโลหะแล้วปั๊มเป็นรูปเหรียญ ต่อมาได้นำเหรียญมาทำพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดสนามจันทร์ โดยมี 1.ท่าน เจ้าคุณพุทธิรังสีมุณีวงศ์ (โฮ้ว) เจ้าคณะจังหวัด ฉะเชิงเทรา 2. ท่านเจ้าคุณสันทัดธรรมาจารย์ เจ้าคณะ จังหวัด ปราจีนบุรี 3. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี 4. หลวงพ่อพูน วัดตาลล้อม ชลบุรี 5. หลวงพ่อศรี วัดพนัส ชลบุรี 6. หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว แปดริ้ว 7. หลวงพ่อเสือ วัดสามกอ แปดริ้ว 8. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก แปดริ้ว 9. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี ....ร่วมปลุกเสก กันยันรุ่ง หลังจากนั้นหลวงพ่อคำท่านก็ได้นำเหรียญของท่านมาปลุกเสกต่อที่กุฏิของท่าน อีก 1 พรรษา เหรียญนี้จะมีพิมพ์ด้านหน้าคล้ายกัน แต่พิมพ์ด้านหลังมี 2 แบบ คือ พิมพ์ยันต์ใหญ่ และพิมพ์ยันต์เล็ก นอกนี้ยังมีเนื้อเงิน ยันต์ใหญ่ สร้างน้อย หายากมากด้วย... พระพุทธคุณทันตาเห็น ในงานฝังลูกนิมิตร วัดสนามจันทร์ ต่างก็มี ทหารและ ตำรวจ มาร่วมรักษาการให้ แต่พอเวลาร่วงเลยเข้า ในคืนสุดท้าย ตั้งวงกินเหล้ากันแต่เกิดมีปากเสียงไม่พอใจกัน ถึงขั้นชักปืนออกมาดวลกันเลย มีคนวิ่งไปบอก ล.พ. คำ ว่าทหารกับตำรวจจะยิ่งกันตายแล้ว ให้ ท่านไปห้าม แต่ท่านกลับบอกว่า ไม่ต้องไปห้ามหรอก ให้มันยิงกันทั้งคืนก็ไม่ตาย ลงท้ายก็จริงดั่งคำท่าน ต่างคนต่างยิงเข้าหากัน แต่ก็ลูกด้านทั้งคู่ ดัง แชะๆๆๆ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ต่างคนต่างได้เข้าไปรับแจกเหรียญทองแดง จาก ลพ คำ มา ทั้งคู่ ภายหลัง มีคนนำลูกปืนของทั้งคู่ ไปลองยิงอีกครั้ง กลับ ยิงออกดังสนั่น ทุกลูก รายต่อมา นาย สมชัย สินกังวาน อยู่ อ.บ้านโพธิ์ นัดกับพวกกินเหล้าและเกิดขัดใจกันขึ้น อีกฝ่าย คว้า เก้าอี้ไม้ฟาดไปที่หัวนาย สมชัย 3-4 ครั้งจนเก้าอี้หักแหลกคามือ แต่นายสมชัย กับไม่เป็นอะไร ไม่มีบาดแผลเลย ในตัวแขวนเหรียญ อุปัชฌาย์ คำ เหรียญเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับ นาย ง้วน กรรมการวัดสนามจันทร์ ถูกดักตีด้วยไม้แต่ไม่เป็นอะไรเลย ในตัว แขวนเหรียญ ท่าน เหรียญเดียวเช่นกัน และยังมีประสบการณ์ ในด้าน ใช้อาราธนา ทำน้ำมนต์ในยามคับขัน เพื่อรักษาโรคก็ได้ผลกันมากมาย ทั้งด้าน โชคลาภ หรือทำกิจการงาน ก็จะได้ดีไปทุกอย่างก็ว่าได้ เหรียญ อุปัชฌาย์ คำ ถือได้ว่าเป็นเหรียญ เก่าแก่ ระดับเดียวกับ เหรียญ ลพ คง วัดซำป่าง่าม / เหรียญ ลพ ดิ่ง วัดบางวัว แบบนี้นับได้เลยว่าเป็นของดี ประจำเมืองแปดริ้ว
    cr.เพจวัดสนามจันทร์


    854049.jpg

    572022_220710_30.jpg 572022_220710_31.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2022
  8. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    294.เหรียญหลวงพ่อเม้ย วัดลาดเมธังกร ปี 2500 จ.ราชบุรี ((( บูชา 3,500 บาท ))) "จอง" >>>พี่ j999
    เหรียญสวยหายาก บล๊อค 0 กลม

    หลวงพ่อเม้ย วัดลาดเมธังกร ถือเป็นอีกหนึ่งพระเถระยุค ๒๕๐๐ ที่โด่งดังมากในพื้นที่จังหวัดราชบุรี พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์มากมาย แก่ผู้ที่ห้อยบูชา โดยเฉพาะเรื่องเหนียว

    Untitled-1.jpg


    หลวงพ่อเม้ย ท่านเป็นคนราชบุรีมาแต่กำเนิด มีชื่อว่า เม้ย นามสกุล พระสุทธพันธุ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๒ ณ ตำบลคลองลาด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการบันทึกชื่อของโยมบิดาและมารดาไว้ ต่อมาโยมบิดาและโยมมารดาได้ย้ายถิ่นฐานมาทำมาหากินที่บ้านโพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

    ในสมัยเด็กหลวงพ่อเม้ย ได้มีโอกาสมาศึกษาเล่าเรียนที่วัดบพิตรภิมุข กรุงเทพมหานครฯ โดยอาศัยอยู่ดับญาติที่ฝั่งธนบุรี จนเมื่อจบการศึกษาจึงได้กลับไปอยู่บ้านเดิมที่ราชบุรี และได้ไปอยู่กับพระอาจารย์นุช วัดตรีญาติ ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อเล่าเรียนเขียนอ่านภาษาบาลีเพิ่มเติม

    หลวงพ่อเม้ย ได้เรียนอ่านเขียนภาษาขอมและภาษาบาลีจนคล่องแคล้ว และได้บวชเป็นสามเณรที่วัดตรีญาติ อยู่หลายพรรษา จนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดตรีญาติ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้รับฉายาว่า “มนฺตาสโย” โดยมี

    พระพุทะวิริยากร(จิตร) วัดสัตตนารถปริวัตร เป็นพระอุปฌาย์
    พระครูอุดมธีรคุณ(หลวงพ่อแดง) วัดศรีสุริยวงศ์ เป็นพระกรรมวาวาจารย์
    พระอาจารย์นุช วัดตรีญาติ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบทท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติเรื่อยมา จนเมื่อพระอาจารย์เที่ยง เมธังกโร สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่บ้านลาด ตำบลสามเรือน จึงนิมนต์หลวงพ่อเม้ยมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์นี้ด้วยกัน และจำพรรษาเรื่อยมาจนพระอาจารย์เที่ยงเดินธุดงค์และกลับไปมรณภาพที่เมืองมอญ

    หลังจากที่พระอาจารย์เที่ยง ได้ธุดงค์กลับไป ทางวัดได้แต่งตั้งให้ท่านอาจารย์แย้ม ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสรักษาการณ์อยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วท่านอาจารย์แย้มก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดไสค้าน จังหวัดเพชรบุรี จนมรณภาพ

    หลวงพ่อเม้ยจึงได้ขึ้นเป้นเจ้าอาวาสสืบแทน จน มรณภาพลงในปี พ.ศ. ๒๕๑๔


    572022_220710_20.jpg 572022_220710_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2022
  9. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    295.เหรียญหลวงพ่อเม้ย วัดลาดเมธังกร ปี 2508 จ.ราชบุรี รุ่น 2 ((( บูชา 1,500 บาท )))
    ทันท่านเสก

    หลวงพ่อเม้ย วัดลาดเมธังกร ถือเป็นอีกหนึ่งพระเถระยุค ๒๕๐๐ ที่โด่งดังมากในพื้นที่จังหวัดราชบุรี พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์มากมาย แก่ผู้ที่ห้อยบูชา โดยเฉพาะเรื่องเหนียว

    Untitled-1.jpg
    หลวงพ่อเม้ย ท่านเป็นคนราชบุรีมาแต่กำเนิด มีชื่อว่า เม้ย นามสกุล พระสุทธพันธุ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๒ ณ ตำบลคลองลาด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการบันทึกชื่อของโยมบิดาและมารดาไว้ ต่อมาโยมบิดาและโยมมารดาได้ย้ายถิ่นฐานมาทำมาหากินที่บ้านโพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

    ในสมัยเด็กหลวงพ่อเม้ย ได้มีโอกาสมาศึกษาเล่าเรียนที่วัดบพิตรภิมุข กรุงเทพมหานครฯ โดยอาศัยอยู่ดับญาติที่ฝั่งธนบุรี จนเมื่อจบการศึกษาจึงได้กลับไปอยู่บ้านเดิมที่ราชบุรี และได้ไปอยู่กับพระอาจารย์นุช วัดตรีญาติ ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อเล่าเรียนเขียนอ่านภาษาบาลีเพิ่มเติม

    หลวงพ่อเม้ย ได้เรียนอ่านเขียนภาษาขอมและภาษาบาลีจนคล่องแคล้ว และได้บวชเป็นสามเณรที่วัดตรีญาติ อยู่หลายพรรษา จนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดตรีญาติ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ได้รับฉายาว่า “มนฺตาสโย” โดยมี

    พระพุทะวิริยากร(จิตร) วัดสัตตนารถปริวัตร เป็นพระอุปฌาย์
    พระครูอุดมธีรคุณ(หลวงพ่อแดง) วัดศรีสุริยวงศ์ เป็นพระกรรมวาวาจารย์
    พระอาจารย์นุช วัดตรีญาติ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบทท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติเรื่อยมา จนเมื่อพระอาจารย์เที่ยง เมธังกโร สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่บ้านลาด ตำบลสามเรือน จึงนิมนต์หลวงพ่อเม้ยมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์นี้ด้วยกัน และจำพรรษาเรื่อยมาจนพระอาจารย์เที่ยงเดินธุดงค์และกลับไปมรณภาพที่เมืองมอญ

    หลังจากที่พระอาจารย์เที่ยง ได้ธุดงค์กลับไป ทางวัดได้แต่งตั้งให้ท่านอาจารย์แย้ม ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสรักษาการณ์อยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วท่านอาจารย์แย้มก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดไสค้าน จังหวัดเพชรบุรี จนมรณภาพ

    หลวงพ่อเม้ยจึงได้ขึ้นเป้นเจ้าอาวาสสืบแทน จน มรณภาพลงในปี พ.ศ. ๒๕๑๔


    572022_220710_22.jpg 572022_220710_23.jpg
     
  10. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    293.เหรียญพระอุปัชญาย์คำ วัดสนามจันทร์ จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2581
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2022
  11. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    288.เหรียญหลวงพ่อเทพวงศ์ วัดค้างอ้อย ปี 2512 ((( บูชา 3,500 บาท )))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2022
  12. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    290.เหรียญหลวงปู่ดุลย์ ปี 2523 จ.สุรินทร์
    ((( บูชา 1,350 บาท ))) "ปิดรายการ"
     
  13. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    296.เหรียญพระครูชลาทรธำรง วัดบางใหญ่ รุ่นแรก ปี 2507 จ.สุราษฎร์ธานี ((( บูชา 2,200 บาท ))) "ปิดรายการ"

    572022_220710_6.jpg 572022_220710_7.jpg

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2022
  14. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    297.เหรียญหลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ ปี 2496 จ.นนทบุรี ((( บูชา 2,850 บาท ))) ปิดรายการ
    บล๊อค ทับ 4

    พระครูนนทวุฒาจารย์ (หลวงปู่ช่วง) วัดบางแพรกใต้ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2404 ที่บ้านในคลองบางบัวทอง ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โยมบิดาชื่อ สิงห์โต โยมมารดาชื่อ เฟี้ยม นามสกุล เพ็งแจ่ม

    เมื่อท่านอายุได้ 9 ขวบบิดามารดาได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือกับ พระที่วัดขวิด (วัดแสงสิริธรรม) ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในละแวกบ้านของท่าน ต่อมาเมื่ออายุได้ 12 ปี ท่านก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดเขมาภิตาราม โดยมีพระครูเขมาภิมุขธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พออายุได้ 19 ปี ท่านก็ ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ

    พอปีพ.ศ.2424 ท่านจึงได้อุปสมบท ที่วัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของโยมบิดาของท่าน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2424 โดยมีพระอธิการทับ วัดนครอินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการศรี วัดบางแพรกใต้ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เสือ วัดนครอินทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จันทโชโต”

    เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้วท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบางแพรกใต้ ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐาน กับพระอุปัชฌาย์ และพระคู่สวดของท่านทั้ง 3 องค์ อีกทั้งทางด้านพุทธาคมต่างๆ ซึ่งท่านทั้งสามองค์นี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น

    นอกจากนี้ท่านก็ยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมกับหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เรื่องวิชาโสฬสมงคลและไตรสรณาคมณ์ เรียนวิชาทำผ้าประเจียดและธงแดงจาก พระธรรมานุสารี (สว่าง) วัดเทียนถวาย เรียนวิชาทำผงวิเศษห้าประการจากพระครูนิโรธมุนี วัดตำหนักเหนือ เรียนทางคงกระพันชาตรีกับหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

    ในปีพ.ศ.2435 พระอาจารย์ศรี เจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้มรณภาพ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อแทน ต่อมาในปีพ.ศ.2450 หลวงปู่ช่วงท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พอปีพ.ศ.2453 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสวนใหญ่ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีศีลจารวัตรงดงาม เคร่งครัดในระเบียบวินัย และมีเมตตาธรรมสูง

    หลวงปู่ช่วงจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย หลวงปู่ช่วงได้สร้างถาวรวัตถุไว้มากมาย เช่น พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิ หอระฆัง เป็นต้น ทั้งเอาใจใส่บูรณปฏิสังขรณ์ตลอดมา จึงทำให้วัดบางแพรกใต้คืนสภาพจากความเสื่อมโทรมจนเจริญขึ้นเท่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชคนมาตั้งแต่บิดาจนถึงบุตร หลาน เหลน นับอยู่ในเกณฑ์ยาวถึง 3-4 ชั้น แม้ในยามที่ท่านชราภาพท่านก็สงเคราะห์คนอื่นตลอดมา ใครไปหาไม่มีผิดหวัง ต้องการอะไรให้ทันที

    ในเทศกาลออกพรรษาจะมีลูกศิษย์ของท่านมาให้ท่านช่วยลงกระหม่อมมาก ท่านจะใช้ดินสอพองที่ท่านได้ทำไว้มาลงให้ เรื่องวัตถุมงคลของท่านก็มีผ้าประเจียด เสื้อยันต์ ตะกรุดพิสมร ซึ่งผู้ที่อยากจะได้นำวัสดุมาขอให้ท่านทำให้ ปัจจุบันหาดูได้ยากมากครับ

    ท่านได้เคยสร้างพระเครื่องเนื้อดินสอพองผสมผงวิเศษและใบแคอัดพิมพ์ ในคราวสงครามเอเชียบูรพา ปัจจุบันก็หาชมยากเช่นกันครับ ในปีพ.ศ.2488 ลูกศิษย์ได้ขออนุญาตท่านสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นเป็นรุ่นแรกในการทำบุญฉลองอายุครบ 85 ปี ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมาก สนนราคาสูงและหายาก

    ในปีพ.ศ.2490 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูนนทวุฒาจารย์ ในปี พ.ศ.2496 วัดลานนาบุญได้จัดสร้างเหรียญรูปหลวงปู่ช่วง ออกเป็นที่ระลึกในการจำลอง พระคันธารราษฎร์ ปีพ.ศ.2497 วัดบางแพรกเหนือได้มีการยกเครื่องบนก่อสร้างพระอุโบสถ

    ในการนี้คณะกรรมการวัด ผู้ดำเนินการได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างเหรียญรูปท่านมาอีกรุ่นหนึ่ง เป็นรูปอาร์มเหมือนเหรียญรุ่นแรก แต่ย่อขนาดลง เหรียญรุ่นสุดท้ายเป็นแบบรูปสามเหลี่ยมสองหน้า ด้านหนึ่งเป็นรูปพระพุทธโสธร ด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงปู่ช่วง สร้างในปีพ.ศ.2497 แต่ทว่ายังไม่ได้นำออกมาแจก จนกระทั่งท่านมรณภาพในปีต่อมาจึงนำมาแจกเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงของท่าน

    หลวงปู่ช่วงมรณภาพในปีพ.ศ.2498 สิริอายุได้ 94 ปี พรรษาที่ 74

    572022_220710_8.jpg 572022_220710_9.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2022
  15. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    298.เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดเอก(เชิงแสเหนือ) ระโนด สงขลา ปี 2517 ((( บูชา 2,300 บาท ))) "ปิดรายการ"
    เหรียญสวยแชมป์

    เหรียญนี้เป็นเหรียญประสบการณ์ ของเมืองระโนดสมัยผมเช่าพระสายพัทลุง สงขลา นครฯ สัก 10 กว่าปีก่อน หากนึกถึงพระเครื่องสายระโนด เหรียญนี้เป็นเหรียญที่นิยม สมัยก่อนเคยราคาแพงกว่านี้ ช่วงหลังมีของปลอมระบาดออกมาทำให้นักสะสมชะงักไประยะหนึ่งราคาจึงผ่อนเบาลงมา ปกติเหรียญสึกๆช้ำๆก็ สองพันกว่าบาทอยู่แล้วครับ เหรียญวักเอก เป็นเหรียญที่โด่งดังมาจากประสบการณ์ และ ความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อเดิม จึงเป็นที่นิยมของนักสะสมในพื้นที่

    ประวัติองค์หลวงพ่อเดิม
    “องค์หลวงพ่อเดิม” องค์เดิมนั้น เป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กสร้างด้วยหินปะการัง ต่อมาได้สร้างครอบองค์เดิม แต่ในสมัยใดไม่มีใครทราบได้ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๗๐ ซ.ม. สูงประมาณ ๑๒๐ ซ.ม. แต่เมื่อประมาณ ๗๐ ปี พระอธิการเจียม ได้ทําการบูรณะพระอุโบสถ และซ่อมแซมบางส่วนของพระพุทธรูปทั้ง ๓ พระองค์ ที่ภายในอุโบสถ (หลังเก่า) อนึ่งในการที่หลวงพ่อเดิมมาประดิษฐานที่วัดเอก ก็มีคําล่ำลือกันต่างๆ กันมาว่า หลวงพ่อเดิมประดิษฐานอยู่บนแพลอยน้ำ ประชาชนได้พบแล้วก็นิมนต์มาจากวัดหนึ่งทางทิศตะวันออกขณะนิมนต์มานั้น เมื่อถึงหน้าบ้านเชิงแสมีวัดอยู่ ๓ วัด คือ วัดเชิงแสเหนือ (วัดเอก) วัดเชิงแสกลาง วัดเชิงแสใต้ (หัวนอน) ประชาชนได้นิมนต์ไปทางวัดใต้ และวัดกลาง ท่านก็ไม่ไป เมื่อประชาชนเห็นดังนั้น จึงนิมนต์ไปอยู่วัดเชิงแสเหนือ

    ประวัติการสร้างวัตถุมงคล
    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเดิมวัดเอก ได้มีการสร้างเหรียญรูปไข่ด้านหน้ามีพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย ด้านหลังของเหรียญมีการวางยันต์ตารางมีขีดใขว้เป็นมุมแทยงทั้งสองด้านและด้านบนมียันต์น้ำเต้าด้านล่างระบุข้อความว่าสร้างเมื่อ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นเหรียญรมดํา มีขนาดความยาวของเหรียญ ประมาณ ๓ ซ.ม. เหรียญรุ่นนี้มีการสร้างเพียงขนาดเดียว แต่ภายหลังในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้มีการสร้างเหรียญในลักษณะใกล้เคียงกับเหรียญรุ่นแรกขึ้นมาแต่ระบุ พ.ศ.การสร้างด้านหลังเหรียญว่าปี พ.ศ.๒๕๓๗ การสร้างเหรียญรุ่นนี้มี ๒ ขนาด คือขนาดใหญ่ มีขนาดเท่าเหรียญปี ๑๗ และขนาดเล็ก และยังมีการสร้างพระบูชาเอาไว้ในปีนี้อีกด้วย เหรียญหลวงพ่อเดิมปี ๑๗ นั้น เป็นเหรียญที่นิยมที่ได้รับความนิยมกันในท้องถิ่นจังหวัดสงขลามานานแล้ว


    572022_220710_2.jpg 572022_220710_3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2022
  16. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    299.เหรียญหลวงพ่อเผื่อน วัดไทรน้อย ปี 2500 จ.นนทบุรี ((( บูชา 750 บาท )))

    572022_220710_24.jpg 572022_220710_25.jpg
     
  17. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    298.เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดเอก(เชิงแสเหนือ) ระโนด สงขลา ปี 2517 ((( บูชา 2,300 บาท )))
    เหรียญสวยแชมป์
     
  18. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    296.เหรียญพระครูชลาทรธำรง วัดบางใหญ่ รุ่นแรก ปี 2507 จ.สุราษฎร์ธานี ((( บูชา 2,200 บาท ))) "ปิดรายการ"
     
  19. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    ปิดรายการ

    285.เหรียญหลวงพ่อเคน วัดถ้ำเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี ปี 2508 ((( บูชา 900 บาท ))) "ปิดรายการ"
     
  20. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...