พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1536. ศิษย์สายหลวงปู่ศุข ที่ไม่ธรรมดา พระผงพิมพ์ หลวงพ่อศุข หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน จ.กาญจนบุรี ให้บูชา 750 บาท


    upload_2023-3-5_14-17-11.png

    upload_2023-3-5_14-17-33.png

    upload_2023-3-5_14-19-3.png

    หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน หรือ พระครูภาวนาวกิจ (เปรมสีโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติคีรีศรีบรมธาตุ กาญจนบุรี ท่านเกิดเมื่อวันที ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ แต่ไม่ปรากฏชื่อโยมบิดาและโยมมารดาของท่านว่าชื่ออะไร หลวงพ่อท่านเป็นพระเกจิยุคหลังปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่โด่งดังของเมืองกาญจนบุรีอีกรูปหนึ่ง

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เมื่อหลวงพ่อเล็กมีอายุได้ ๑๔ ปี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำให้ครอบครัวของท่านต้องลำบาก หลวงพ่อต้องลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่ระยะหนึ่ง

    ครั้นปี พ.ศ. ๒๔๘๙ หลวงพ่อมีอายุได้ ๑๗ ปี ท่านได้ออกจากบ้านไปฝึกช่างเชื่อมโลหะที่กรุงเทพฯ เป็นอยู่ได้ประมาณ ๑ ปีเศษ และได้มีโอกาสเป็นครูช่างฝึกสอนนักเรียนโรงเรียนการช่างที่ กรุงเทพฯ

    ในระหว่างที่ประกอบอาชีพเป็นครูช่างอยู่นั้นท่านได้สนใจศึกษาพุทธศาสนาทางไสยศาสตร์ควบคู่กันไป โดยอาจารย์คนแรกของท่านเป็นฆราวาสชื่อว่าอาจารย์ทองสุก ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนบ้านกล้วย จังหวัดราชบุรี

    อาจารย์ทองสุก เป็นทหารสนิทของเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ และเคยติดตามกรมหลวงไปวัดปากคลองมะขามเฒ่า วิชาที่อาจารย์ทองสุกเชี่ยวชาญคือวิชาจับผีไล่ผี

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ท่านมีอายุครบ ๒๑ ปี ท่านต้องเข้ารับราชการทหาร ครั้นเมื่อท่านจับได้ใบดำ ไม่ต้องเป็นทหาร ท่านจึงเอาเวลามุ่งไปทางไสยเวทย์ที่ท่านสนใจอยู่ ท่านได้พยายามสืบเสาะหาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเพื่อน้อมนำเป็นลูกศิษย์ศึกษาพระเวทย์ตามความคิดและความต้องการของท่าน

    ทำให้ท่านได้พบกับพระอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค สมญานามว่า ผู้ชนะสิบทิศ คือพระอาจารย์ทองดี อุชัยอังกุโร แห่งวัดท่าเกวียน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

    หลวงพ่อเล็กได้กราบและขอบวชเป็นศิษย์ท่าน เพื่อขอเล่าเรียนวิชาอาคมกับท่าน โดยพระอาจารย์ทองดี นั้นได้รับสมญานามว่าผู้ชนะสิบทิศ เพราะว่า มีอยู่คราวหนึ่งที่วัดชนะสงครามฯ ได้จัดให้มีการแข่งขันพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูปซึ่ง ๑ ใน ๑๐๘ รูป นั้นก็มีพระอาจารย์ทองดีรวมอยู่ด้วย การคัดเลือกได้เป็นไปทีละขั้นตอนจนกระทั่งในที่สุดการคัดเลือกก็มาถึงช่วงสุดท้าย ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์เข้ารอบเพียง ๘ รูปเท่านั้น

    หลวงพ่อเล็กเล่าให้ฟังว่า เท่าที่จำได้ก็มีหลวงพ่อจง หลวงพ่อจัด หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และพระอาจารย์ทองดีซึ่งหนุ่มที่สุด หลวงพ่อแช่มท่านอาวุโสกว่าเพื่อนเป็นองค์นั่งบริกรรมแข่งขันกันว่าใครจะมีอำนาจพลังจิตสูงสุด ท่านได้นำเหล็กจารมาบริกรรมคาถาโดยให้พระเกจิอาจารย์ที่เหลือนั่งล้อมวง เมื่อบริกรรมเสร็จท่านก็เอาเหล็กจารวางบนพื้นแล้วตบลงไป เหล็กจารกลับกลายเป็นจิ้งเหลนในทันที จิ้งเหลนจากเหล็กจารของหลวงพ่อแช่มวิ่งวนไปรอบๆ พระเกจิที่นั่งล้อมรอบ
    ในรอบแรกผ่านไปไม่มีใครจับได้ แต่พอรอบสองหลวงพ่อจัดจับไว้ได้แต่ยังเป็นจิ้งเหลนอยู่ไม่กลับเป็นเหล็กจารอันเป็นต้นกำเนิด จึงปล่อยจิ้งเหลนให้วิ่งวนไปตามเดิมแต่ก็ไม่มีใครสามารถจับได้หลวงพ่อแช่มจึงบอกให้พระอาจารย์ทองดีลองจับดูซึ่งพระอาจารย์ทองดี นั่งเงียบมาตลอดเพราะมีอาวุโสน้อยกว่าเพื่อน พระอาจารย์ทองดีจึงจับจิ้งเหลนตามคำสั่ง หลวงพ่อแช่ม ปรากฏว่าจับได้และที่มหัศจรรย์คือจิ้งเหลนเสกหลวงพ่อแช่มกลับกลายเป็นเหล็กจารตามสภาพเดิมทันที

    คณะกรรมการจึงตัดสินให้พระอาจารย์ทองดีเป็นผู้ชนะในการแข่งขันและได้รับสมญานามว่า ผู้ชนะสิบทิศ หลวงพ่อเล็กได้ศึกษาวิชากับ พระอาจารย์ทองดีในฐานะทายาทพุทธาคม เมื่อพระอาจารย์ทองดี มรณภาพ ก็ได้มอบตำราคาถาอาคมต่างๆ ให้กับหลวงพ่อเล็ก ซึ่งท่านรักและเมตตาเพื่อให้เป็นทายาทสืบแทนท่านต่อไป

    วิชาอาคมที่หลวงพ่อเล็กได้ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์ทองดีนั้นเป็นวิชาที่ลึกลับและศึกษายากมาก เช่น วิชาตะกรุดใต้น้ำ หนุมานห้ามทัพ หนุมานงำเมือง หนุมานสะกดทัพ หลวงพ่อเล็กสามารถรับการถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ หลวงพ่อเล็กได้ออกธุดงค์มาจำพรรษา ณ วัดพระญาติการาม อยุธยา และได้ศึกษาคาถาอาคมกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีก ๒ รูป ได้แก่ หลวงพ่ออั้น ศิษย์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่ออั้นได้ถ่านทอดวิชามหาราช ลบถม และสอนการฝึกกรรมฐาน ส่วนพระรูปที่สองคือ หลวงพ่อเภา ผู้ได้รับสมญานามว่า อาจารย์หินทุ่ม ท่านได้สอนวิชามหาชาตรี ให้

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ท่านธุดงค์ผ่านมาที่สุพรรณบุรี และได้มาศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่ออ่อน ญาตุโน ผู้เชี่ยวชาญด้าน สมถกัมมัฏฐาน ตำรายา และโดยเฉพาะการหยั่งรู้อนาคต จนเชี่ยวชาญแตกฉานแล้วท่านจึงออกธุดงค์ต่อไปอีก

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านได้เดินทางเข้าสู่เขตจังหวัดนครสวรรค์ และได้ไปขอศึกษาวิชากับหลวงพ่อทูล คือวิชาแต่งคน ซึ่งเป็นวิชาเสกอาคมคุ้มครองให้ปลอดภัยจากศัตรู วิชาทำเขต เป็นวิชาเกี่ยวกับการสร้างเขตคุ้มครอง เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ไม่ให้รบกวนและวิชาเมตตามหานิยม

    ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้ธุดงค์เข้าสู่เขตจังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามวิชาวัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อท่านไปถึงได้พบกับศิษย์ของหลวงปู่ศุข ชื่อพระสมุห์กลับ แสงเขียว ท่านผู้นี้อยู่กับหลวงปู่ศุข มาตลอด และเป็นผู้ใกล้ชิดที่สุดตำราจึงตกอยู่กับพระสมุห์กลับมากมาย

    หลวงพ่อเล็กจึงขอเรียนวิชาอาคมต่างๆ ตลอดตำราพิชัยสงคราม ตำราพิชัยยุทธ ซึ่งเป็นวิชาวิชาหลักในการศึกษาไสยศาสตร์ พระสมุห์กลับ ท่านมีความสามารถมาก ตามประวัติท่านนั้นเล่ากันว่าสามารถแปลงตัวเป็นหมูป่าไปตามสถานที่ต่างๆ ได้และท่านก็ได้สอนวิชาสำคัญต่างๆ ให้กับหลวงพ่อเล็กเป็นอย่างดี

    หลังจากได้ศึกษาวิชาจนเชี่ยวชาญแตกฉานหลวงพ่อเล็กก็ธุดงค์มายังจังหวัดกาญจนบุรี และเริ่มสร้างกระท่อมร้างกลางป่าช้า และลองไสยศาสตร์ต่างๆ เช่นการผูกหุ่นพยนต์ การปลุกผีในป่าช้า ฯลฯ

    ใน ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ซึ่งช่วงนั้นทางวัดเขาดิน ได้รับการจัดตั้งเป็นวัดขึ้น และยังว่างเว้นตำแหน่งเจ้าอาวาส ชาวบ้านและคณะกรรมการวัดจึงสืบเสาะหาจนมาพบหลวงพ่อเล็ก ซึ่งเป็นพระที่น่าเลื่อมใส จึงได้นิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเพื่อปกครองวัดเขาดินต่อไปวัดสันติคิรีศรีบรมธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดเขาดิน" ตั้งอยู่บริเวณถนนแสงชูโต ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๑๘ – ๑๑๙ หมู่ ๔ ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่ดินที่กองทัพบกยกให้ ณ หมู่บ้านเขาดิน ตรงข้ามศูนย์การฝึกของกรมการขนส่งทางบก วัดนี้เดิมเรียกกันว่า "วัดเขาดิน" ตามสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของวัดเป็นภูเขาดินสูง ๑๑ วา

    วัดสันติคิรีศรีบรมธาตุเป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ เริ่มแรกเป็นเพียงสำนักสงฆ์ เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๘ อดีตสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณศิริ) ขณะดำรงสมณศักดิ์ พระธรรมดิลก ได้รับวัดนี้อยู่ในความอุปถัมภ์และได้ขนานนามให้วัดใหม่มีชื่อปรากฎตามหลักฐานว่า "วัดสันติคิรี"

    เมื่อหลวงพ่อเล็ก ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาดิน ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถ จนวัดได้เจริญขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ท่านยังได้อบรมชาวบ้านเขาดินให้อยู่ในศีลในธรรม

    จนในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ร.อ.ทวี ทิวแก้ว แห่งอาศรมชีประขาว และคณะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระสาวกธาตุจำนวนมากมาบรรจุ ณ พระปรางค์พระบรมธาตุเจดีย์ หลวงพ่อเล็ก จึงก็ได้เปลี่ยนนามวัดให้ใหม่อีกวาระหนึ่ง ตามลิขิตซึ่งมีคณะกรรมการบริหารวัดข้อความว่า "....เมื่อปรากฎว่าวัดสินติคิรีนี้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย ก็ควรให้ปรากฏเป็นเกียรติวัด ฉะนั้นในการตั้งชื่อวัดควรว่า วัดสันติคิรีศรีบรมธาตุ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙"

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ หลวงพ่อเล็กและคณะกรรมการวัดได้ร่วมกันขอพระราชทานวิสุงคามสีมาวัดเขาดิน จนมีพระบรมราชโอการลงวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๒

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ทางวัดได้สร้างพระอุโบสถจนสำเร็จลุล่วง โดยทางวัดได้รวบรวมเงินบริจาคและเงินทำบุญและด้วยบารมีของหลวงพ่อเล็ก ทำให้งานลุล่วงไปได้โดยง่าย จนสามารถประกอบพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตร เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๔

    นากจากนี้ท่านยังได้ส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ท่านมีวิริยะอุตสาหะทำนุบำรุงพัฒนาวัดและสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดอย่างมาก ได้ชักชวนผู้มีจิตศรัทธาให้ความอุปการะก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ อาทิเช่น

    สร้างศาลาการเปรียญอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นอาคาร ๒ ชั้น ขนาดใหญ่เนื้อที่กว้าง ๒๒ เมตร ยาว ๕๐ เมตร แทนที่หลังเดิมที่มีสภาพชำรุด ทรุดโทรม ไม่สามารถใช้การได้

    สร้างพระอุโบสถ วิหารพระร่วง โรงเรียนปริยัติธรรม วิหารพระศรีอาริย์ กุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัด
    สิ่งสำคัญภายในวัดนอกจากพระบรมสารีริกาธาตุ และสมเด็จพระร่วมฤทธิ์โรจน์ ยังมีรูปหลวงพ่อพระศรีอาริย์ รูปฤาษีบรมโกส รูปหมอชีวกโกมารภัจ รูปหลวงปู่ทวด รูปหลวงปู่พระครูดำ อีกทั้งพระพุทธบาท ๔ รอย จำลองมาจากพระพุทธบาทสี่รอย ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

    นอกจากนี้ยังสร้างรูปหลวงปู่ทวด ขนาดใหญ่จำลองจากรูปหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี โดยมีคุณทวี ทิวแก้ว มีศรัทธาสร้างด้วยเงินบริจาคของคณะศิษย์ อาศรมชีประขาว จังหวัดฉะเชิงเทรา

    แล้วยังมีเงินเหลือนำมาสร้างพระอุโบสถหลังปัจจุบันพร้อมด้วยบุษบกที่ประดิษฐานรูปหลวงปู่ทวดและพระปรางค์ที่เป็นพระองค์พระบรมธาตุเจดีย์ได้จดทะเบียนมีมูลนิธิ ชื่อว่า "มูลนิธิสมเด็จหลวงปู่ทวด วันสันติคิรีศรีบรมธาตุ" ตั้งขึ้น พ.ศ. ๒๕๑๕ จำนวนเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาท) เป็นเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคนานผูกพัทธสีมาปิดทองลูกนิมิตพระอุโบส

    หลวงพ่อเล็ก ปกครองวัดเขาดินเรื่อยมาจนมรณภาพอย่างสงบในวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นับรวมสิริอายุได้ ๘๒ ปี ๖๐ พรรษา
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1537. พระนางพญาข้างกนก วัดชิโนรส พิมพ์สังฆาฏิ แขนหักศอกหูบายศรี เนื้อผงพุทธคุณ ให้บูชา 750 บาท


    upload_2023-3-5_15-42-8.png


    สมเด็จนางพญาข้างกนก วัดชิโนรส สร้างประมาณปี ๒๕๐กว่าๆ
    หลวงปู่นาค วัดระฆัง ร่วมปลุกเสก
    จัดสร้างโดยเจ้าคุณสุวรรณเวที(ทองดี เมธารัตน์ ราชธมฺโม) กับพระปลัดมานพ ทุลฺลโภ
    โดยการขอแม่พิมพ์ และ มวลสาร ผงพระพุทธคุณ จากหลวงปู่นาค วัดระฆัง
    มาตกแต่งแม่พิมพ์และแต่งพระพักตร์ให้มีพระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ และคาง ตลอดจนเซาะสังฆาฏิให้ลึกชัดเจน ขัดเกลาแขนกางหักศอกให้ดูขึงขัง มีหูบายศรี พระพักต์เทวดา สวมกระจังหน้า รูปชฎายอดเกศเรียวแหลมเป็นปลี ชูยอดจรดซุ้มเส้นลวด
    ดังนั้นพิมพ์นี้จึงมีชื่อว่า พระสมเด็จวัดชิโนรส พิมพ์สังฆาฏิ แขนหักศอกหูบายศรี

    ปลุกเสกโดยพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม๙รูป
    เช่น
    หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์
    และพระเถราจารย์อีก ๗ รูป
    นอกจากนี้ ยังได้นำพระเครื่องชุดนี้ ให้หลวงปู่สุข ธัมมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง ปลุกเสกด้วยเป็นกรณีพิเศษอีกครั้งหนึ่งด้วย

    ข้อมูลที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกล่าวถึง หลวงปู่นาค ในวันที่ไปปลุกเสก พระชุดนี้..
    ดังนี้
    (สำหรับกระแสจิตหลวงพ่อนาคนี่พุ่งออกมาใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด เรียกว่าแสงสว่างของจิตแทรกลงไปในเครื่องของขลังอยู่ที่ผิดด้านหน้า ยันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมด อาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างชัด ของพระครูธรรมาภิราม พุ่งออกมาเหมือนหอก เป็นกระแสเล็กแต่พุ่งแรงมาก แสดงว่าพระครูธรรมาภิราม เป็นพระนักเลง ชอบคงกระพันชาตรี ของหลวงพ่อนาคนี่เต็มไปด้วยอำนาจพระพุทธบารมีจริงๆ มีความเยือกเย็นสบายๆ ยังไงชอบกล)
    หนึ่งในพระเจิ ที่ปลุกเสก มี หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐม ไป ปลุกเสกด้วย..ซึ่ง ลพ.ฤาษีลิงดำ ท่านสนิทกับหลวงพ่อ บุญธรรม (หลาน ลพ.ปาน วัดบางนมโค ) หลวงพ่อ บุญธรรม ชอบ แสดงฤทธิ์ ทำ แขนสั้น แขนยาว.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2023
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1 ในพิมพ์ยอดนิยมของ วัตถุมงคลวัดประสาทบุญญาวาส ปี06

    พระเนื้อผง พิมพ์จันทร์ลอยใหญ่ เนื้อผงบางขุนพรหม พระพิมพ์นี้ที่เคยถูกเล่าขานกันมาว่า สามารถบูชาแทน พระสมเด็จวัดระฆัง, บางขุนพรหม รุ่นเก่าที่ราคาแสนแพงได้เลยครับ เนื่องด้วยมวลสารที่จัดจ้านมากๆครับ


    upload_2023-3-5_17-36-24.png

    upload_2023-3-5_17-36-32.png

     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1538. พระผงในหลวงทรงผนวช เนื้อแดง สร้างในปี 2507 ทำพิธีที่วัดบวรฯ (ทรงผนวชตั้งแต่ปี 2499) ได้รับพระราชทานมวลสารจากในหลวงเช่นเดียวกับสมเด็จจิตรดา ให้บูชา 999 บาท


    upload_2023-3-5_21-0-12.png

    upload_2023-3-5_21-5-8.png
    พิธีใหญ่มาก สมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานพร้อมด้วยพระคณาจารย์
    นั่งภาวนาปลุกเสก ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น มาร่วมพิธี 108 รูป
    สมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานพร้อมด้วยพระคณาจารย์นั่งภาวนาปลุกเสก
    จะมีเนื้อเดียว 3 สี คือ ดำ, ขาว, แดง

    พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์คาถาจุดเทียนชัย ๑๐ รูป คือ
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ ป.ธ.๔) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
    สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ ป.ธ.๙) วัดบวรนิเวศวิหาร
    สมเด็จพระวันรัต (ทรัพย์ ป.ธ.๗) วัดสังเวศวิศยาราม
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ป.ธ.๙) วัดสามพระยา
    พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ป.ธ.๗) วัดไตรมิตรวิทยาราม
    พระพุทธิวงศมุนี (สุวรรณ ป.ธ.๗) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
    พระพรหมคุณาภรณ์ (เกี่ยว ป.ธ.๙) วัดสระเกศ
    พระธรรมปิฎก (นิยม ป.ธ.๙) วัดชนะสงคราม
    พระราชมนต์มุนี (ทองคำ ป.ธ.๕) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
    พระสังวรกิจโกศล (บุญเลิศ) วัดราชสิทธาราม

    รายนามพระคณาจารย์ที่นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก ๑๕ รูป คือ
    สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ ป.ธ.๙) วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพ ฯ
    พระราชธรรมวิจารย์ (ธูป) วัดสุนทรธรรมทาน กรุงเทพ ฯ
    พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพ ฯ
    พระรัตตากรวิสุทธิ์ (ดุลย์) วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์
    พระราชพุทธิรังษี (คำ) วัดหนองจิก จังหวัดปัตตานี
    พระสังวรวิมลเถร (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพ ฯ
    พระครูถาวรวิทยาคม (เพิ่ม) วัดสรรเพ็ชญ์ จังหวัดนครปฐม
    พระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง) วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม
    พระครูเมธีสาครเขต (ชื่น ป.ธ.๖) วัดตึกมหาชยาราม จังหวัดสมุทรสาคร
    พระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด) วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร
    พระครูสุตตาธิการี (ทองอยู่) วัดหนองพะอง จังหวัดสมุทรสาคร
    พระครูธรรมกิจโกศล (นอง) วัดทรายขาว จังหวัดปัตตานี
    พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน) วัดหนองสุ่ม จังหวัดสิงห์บุรี
    พระครูสังวรธรรมานุวัตร (พล) วัดหนองคณฑี จังหวัดสระบุรี
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    สวัสดีครับ
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1539.เกจิอาจารย์ผู้สร้างตำนาน ตะกรุดดอกดำ ดอกแดง เหรียญหลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง จ.อยุธยา รุ่นแช่น้ำมนต์ ผิวกะไหล่ทอง ด้านหลังพระปิดทวาร ปี46 ให้บูชา 450 บาท


    upload_2023-3-6_16-39-13.png

    upload_2023-3-6_16-39-31.png

    upload_2023-3-6_17-8-41.png

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2023
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1540. เกจิขลังแห่งเมืองอ่างทอง เหรียญรุ่นแรก บล็อกคอยาว(ประสบการณ์) หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง ปี17 ให้บูชา 800 บาท


    upload_2023-3-6_16-59-20.png



    อีกหนึ่งเกจิผู้เรืองเวทย์ วัตถุมงคลของท่านเด่นทางด้านแคล้วคลาด และอยู่ยงคงกระพัน ชาวบ้านระแวกนั้นออกรถมาใหม่ก็ไปให้ท่านเจิมให้ครับบอก ต่อกันแบบปากต่อปากถึงประสบการณ์ที่ได้รับกับตัวเอง วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นเพชรน้ำเอกอีกชิ้นหนึ่งของจังหวัดอ่างทองครับ

    ท่านไม่ค่อยสร้างวัตุมงคลมากรุ่นนัก

    เหรียญ ปี2517 คอยาวประสพการณ์มากเคยลง หนังสือ พิมพิ์ไทยรัฐหน้าหนึ่งมาแล้ว เด็กนักเรียน ร.รจินดามณีถูกนักเรียนต่างโรงเรียนยิงด้วย ปืนลูกซองสั้นเข้ากลางหลังและน่องขาปรากฏว่าลูกปืนไม่ระคายผิวเด็กนักเรียน ผู้นั้นเป็น แค่รอยไหม้เท่านั้น ลูกปืนตะกั่วติดกับผิวหนังเป็นที่ฮือฮ่ามากปกติหลวงพ่อท่านเก่งและดังเป็น ที่เคารพนับถือของคนทั่วไปไม่ถือตัวเป็นพระบ้านๆ ยิ่งหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ไทยรัฐลงข่าวหน้า แรก เสียด้วยตลึงเด็กนักเรียน หนังเหนียวยิงไม่เข้าเท่านั้น ไม่รู้ว่าคนจากไหนแห่กันมาที่วัดเพื่อมาบูชาเหรียญคอยาว17 จนหมดจากวัดอย่างรวดเร็ว
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1546. เหรียญหล่อมหามงคลพิมพ์ห้าเหลี่ยม หรือที่เรียกขานกันว่า พิมพ์ซุ้มประตู หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จัดสร้างขึ้น เพื่อย้อนตำนานเหรียญหล่อซุ้มประตูหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ องค์ครูบาอาจารย์ของท่าน ให้บูชา 2250 บาท เนื้อสตางค์ผสมชนวนเก่าของหลวงปู่ใจ



    upload_2023-3-6_17-4-2.png

    หลวงพ่อหยอดเป็นองค์ประธาน จัดประกอบพิธีเททอง ณ วัดแก้วเจริญเมื่อปี 2529 โดยมีนายถนอม ทองอินทร์เป็นช่างเททองตามสูตรโบราณ พระพิมพ์ซุ้มประตูที่เทหล่อในครั้งนั้น ประกอบด้วยเนื้อทองเหลืองผสมชนวนตลอดจนขันลงหินเก่าๆ และเนื้อพิเศษจำนวนไม่เกิน 300 องค์ ที่เทหล่อขึ้นจากเหรียญสตางค์ อันเป็นเหรียญบาทเหรียญห้าบาทซึ่งเป็นเนื้อนิเกิ้ล ที่หลวงพ่อหยอดได้เก็บและปลุกเสกใว้อย่างเข้มขลัง ผสมผสานด้วยชนวนโลหะธาตุวิเศษ
    * เมื่อเททองแล้วเสร็จ ช่างก็ได้นำเหรียญหล่อซุ้มประตูที่เทหล่อทั้งหมด กลับไปเก็บแต่งองค์พระให้เรียบร้อยสมบูรณ์ ได้เร่งแต่งชึ้นมาจำนวนหนึ่ง คือเนื้อสตางค์ทั้งหมด และเนื้อทองเหลืองผสมจำนวนหนึ่ง จัดส่งให้หลวงพ่อหยอดปลุกเสกก่อนเพื่อแจกในวาระสำคัญ ไม่ได้ตอกโค๊ตใดๆทั้งสองเนื้อ จากนั้นจึงได้จัดส่งพระที่แต่งเรียบร้อยแล้วทั้งหมด ให้หลวงพ่อหยอดปลุกเสกต่อไป โดยพระชุดนี้คือพระที่เททองหล่อที่วัดพร้อมกันพิธีเดียวกัน แต่ได้นำมาตอกโค๊ตตัวเฑาะที่มุมล่างด้านขวา
    * เหรียญหล่อพิมพ์ซุ้มประตู ได้รับความนิยมจากศิษยานุศิษย์ ตลอดจนสาธุชนผู้ศรัทธาทั่วไป จึงได้หมดจากวัดไปด้วยระยะเวลาไม่นาน นับเป็นสิ่งมงคลของหลวงพ่อหยอด ที่มาตรฐานและทรงความเข้มขลังเอกอุ มากด้วยอิทธิคุณเปี่ยมประสบการณ์ในทุกๆด้าน
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1547. เครื่องรางสายเหนียว ตะกรุดดอกดำ 3 นิ้ว หลวงพ่อจำลอง เขมนฺนโท วัดเจดีย์แดงจ.พระนครศรีอยุธยา ไตรมาสปี47 ให้บูชา 800 บาท ประสบการณ์มากมายครับ พี่MATHS จองครับ


    upload_2023-3-6_19-48-40.png

    upload_2023-3-6_19-48-59.png



    #หลวงพ่อจำลอง เขมนฺนโท วัดเจดีย์แดงจ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิสายเหนียว ของอยุธยา..
    อาจารย์ชื่อดังสายเหนียวคงกระพันเจ้าตำรับ"ตะกรุดดำ-แดง"ที่โด่งดังสุดขีด…
    ท่าน มีอุปนิสัยชอบศึกษาค้น
    คว้า สุขุมรอยคอบ กล้าหาญจึงชอบ
    ศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมโดยฝากตัว
    เป็นศิษย์ของอาจารย์สังวาล วัดสามวิหาร ได้เรียนวิชาสำคัญในการทำตะกรุด สักยันต์ และยังได้ศึกษากับ
    อาจารย์อีกหลายท่าน
    จนท่านมีความรู้แตกฉานในเรื่องทำตะกรุดโทนเป็นอย่างมาก และต่อมาท่านได้
    ทำตะกรุดดำและตะกรุดแดง จนมี
    ชื่อเสียงลือลั่น ที่สำคัญและเป็น
    ที่กล่าวขวัญกันเป็นอย่างมากคือ
    หากศิษย์ที่มาเช่าตะกรุดดำ จะต้อง
    ให้หลวงพ่อทดสอบความเหนียวคง
    กันทุกคน และศิษย์ต่างประจักษ์ถึง
    ความเข้มขลังคงกระพันเป็นจำนวน
    มาก หลวงพ่อมรณะภาพเมื่อวันที่
    8ก.พ.2555สิริอายุ86ปี

    ตะกรุดทำจากตะกั่วรีดจารอักขระ"ยันต์เฉลียวเพรช"ตามตำรับเก่าโบราณสมัยอยุธยา หลวงพ่อทำตะกรุดมากว่า 30 ปี มีศิษย์มากมายตะกรุดแดงฝากบูชากันได้ส่วนตะกรุดดำได้คนละดอกเฉพาะชายเท่านั้น ปัจจุบันหายากศิษย์ที่มีต่างหวงแหนเพราะหลวงพ่อได้มรณะแล้วปี 2555...พุทธคุณเก่งทุกด้านจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2023
  11. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +902
    ขอจองครับ
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับพี่
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    แนะนำเหรียญดีที่น่าบูชา
    อำนาจจิตท่านสูงมาก เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกัสสปมุนี หลังยันต์พุทธเกษตร วัดปิผิวนาราม หลวงพ่อปลุกเสก ไตรมาส ปี18


    upload_2023-3-6_20-25-5.png

    upload_2023-3-6_20-27-39.png

    ยันต์พุทธเกษตร(ยันต์นี้ท่าน ได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)
    หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้
    บันทึกเก่า ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2524 มีศิษย์ท่านหนึ่งกราบเรียนถามหลวงพ่อกัสสปมุนีว่า ตอนที่หลวงพ่อใช้พลังจิต"ลากรถไฟขึ้นเขาที่อินเดีย"นั้น หลวงพ่อทำอย่างไร.
    หลวงพ่อกัสสปมุนีตอบว่า
    "ใช้การรวมพลังเข้ามาเป็นหนึ่ง และออกเดินนำหน้าทันที ไม่เหลียวหลัง ไม่ใช่อิทธิวิธี หากเป็นการใช้"อาโลกสิน"(แสงสว่าง,ความว่าง) ดึงรถไฟขึ้นไป..!!?!"
    ขนาดหัวรถไฟที่ว่าหนัก หลวงพ่อยังใช้พลัง กระแสจิต ลากขึ้นเหมือนเบาๆ ได้ แล้วเหรียญที่ท่านปลุกเสกถึงไตรมาส อนุภาคจะขนาดไหนกัน

    หลวงพ่อกัสสปมุนี วัดปิปผลิวนาราม เหรียญรูปเหมือนไตรมาส รุ่นแรก เนื้อทองแดง 2518 ระยอง พ.ต.อ.ประวิทย์ อินทุลักษณ์ เป็นผู้ขออนุญาตสร้างเหรียญขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมงานสร้างพระอุโบสถบนยอดเขาในวาระนั้น *เนื่องจากท่านผู้พันเคยถูกหลวงพ่อเตือนในวันหนึ่งของต้นเดือนกันยายน พ.ศ.2516 ว่า"ให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นจำนวนหนึ่งและฝึกฝนไว้ เพราะบ้านเมืองจะมีเหตุร้ายแรงในเร็ววันนี้" *เมือ่ถึงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2516 กลุ่มนักศึกษาก็พากันประท้วงและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ท่านผู้พันจึงได้นำกำลังที่ตระเตรียมไว้โดยการบอกล่วงหน้าของหลวงพ่อเข้าปฏิบัติภารกิจ และตัวผู้พันเองพร้อมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เลย จากเรื่องนี้ทำให้ท่านผู้พันมีความเลื่อมใสในหลวงพ่อเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตทำเหรียญรุ่นแรกขึ้น และหลวงพ่อก็อนุญาตอย่างเป็นทางการ *ท่านประวิทย์ได้นำปลอกกระสุนปืนเนื้อทองเหลืองไปให้หลวงพ่ออธิษฐานจิตจำนวนถึง 10,000 ปลอกเศษ หลวงพ่อทำการเสกอยู่นานเป็นอาทิตย์ก่อนจะมอบให้นำไปหลอมเป็นชนวนทำเหรียญ *ท่านประวิทย์เล่าว่าปกติโรงหล่อจะไม่รับหลอมปลอกกระสุนปืน เพราะเกรงว่าจะมีดินปืนตกค้างอยู่ในกระสุนและเป็นเหตุให้เบ้าหลอมระเบิด แต่มารดาเจ้าของโรงหล่อได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงพ่อกัสสปมุนี ขอบารมีท่านให้งานลุล่วงโดยปลอดภัย ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใด ๆ เลย *เมื่อได้ชนวนทองเหลืองมาแล้วก็นำไปปั๊มเป็นเหรียญทว่าเนื้อชนวนที่จำกัดจึงทำเหรียญทองเหลืองได้เพียง 1,000 เหรียญเศษ ท่านผู้พันเลยสั่งให้ช่างปั๊มเหรียญทองแดงขึ้นอีก 10,000 เหรียญ และทำการตอกโค้ดกันปลอมไว้ทุกองค์ *ผู้การประวิทย์นำเหรียญไปถวายหลวงพ่อที่วัดในปลายเดือนพฤษภาคม 2518 ท่านก็เริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกทุกวันไปจวบจนเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อกัสสปมุณี วัดปิปผลิวนาราม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นเหรียญรูปโล่ ตราตำรวจ ด้านหลังตอกโค๊ด กลางบน ในพื้นที่มีประสบการณ์มาก และ ตามหนังสือพระเก่าลองหาอ่านดูครับ ท่านเป็นพระสายปฏิบัติที่มีอภิญญาสูงมากครับลองศึกษาประวัติท่านดูครับ " วัดปิปผลิวนาราม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นวัดที่หลวงพ่อกัสสปมุนี ได้ก่อตั้งขึ้น อาตมาได้มาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2519 โดยคำแนะนำของศาสตราจารย์ระพี สาคริก ซึ่งท่านได้มาสร้างหอพระไว้ที่วัดฯ โดยปกติ หลวงพ่อกัสสปมุนี จะเข้านิโรธสมาบัติปีละครั้ง ช่วงออกพรรษา โดยจะเข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน ในวันที่ออกนิโรธสมาบัติ จะมีประชาชนมารอใส่บาตรตั้งแต่ตี 5 อาตมามาปฏิบัติกับหลวงพ่อช่วงนั้น ท่านจะให้นั่งภาวนา ครั้งละ 2 ชั่วโมง โดยหลวงพ่อคอยนำสมาธิให้ตลอด 2 ชั่วโมง ในช่วงนั้น หลวงพ่อจะเน้นให้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เจริญสติและสมาธิให้ขนานกัน(แบบไม่แนบชิดกัน) ไปพร้อมๆกัน โดยท่านอธิบายว่า โลกียฌานนั้นสติและสมาธิจะขนานกันไปแบบแนบชิดกัน ส่วนโลกุตตรฌานนั้น สติและสมาธิจะขนานกันไปแบบถอยห่างจากกัน การที่สติขนานกับสมาธิแบบถอยห่างจากกัน สติจะเห็นความเป็นไปอาการต่างๆขององค์ฌานและสามารถพิจารณา ในองค์ฌานได้ กล่าวคือ พอถึงฌาน 4 ท่านพิจารณาปฏิจจสมุปบาทต่อเลย ทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลม กำลังของฌาน 4 ของท่าน คือ ไปไหนมาไหนด้วยกายหยาบ เวลาท่านไปป่าหิมพานต์หรือสามเหลี่ยมเบอร์มูด้า ท่านก็เล่าให้ฟังว่า ท่านไปด้วยกายหยาบ ส่วนปฐมฌานนั้น ก็มีกำลังมหาศาล เหมือนพายุที่สามารถดับไฟป่าได้ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า หากท่านใดปฏิบัติได้ถึงปฐมฌาน สามารถเกาะชายจีวรหลวงพ่อเหาะไปทั้งกายหยาบได้เลย" " หลวงพ่อกัสสป มรณภาพวันที่ 11 สังหาคม 2531 ด้วยสิริมายุ 78 ปีเศษ ปัจจุบัน สรีระของหลวงพ่อได้ตั้งไว้ที่วัดให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้เคารพบูชา โดยท่านกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาอันควร สรีระของท่านจะลุกไหม้ขึ้นเองด้วยอำนาจเตโชธาตุ
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1548.จากบทความ "ลองเหนียวจนต้องสึก" ที่โด่งดัง ท่านเป็นอาจารย์ฆราวาสโคตรเหนียวสายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระสมเด็จ คะแนน อาจารย์ เฮง บ้านบาตร (หรือ หลวงพ่อวิชาญ วัดยาง ) สายเหนียวหลวงปู่ทอง ปิดรายการครับ


    upload_2023-3-6_21-42-44.png

    upload_2023-3-6_21-43-59.png

    upload_2023-3-6_21-48-32.png


    อ.เฮง บ้านบาตร สมัยบวชอยู่ ท่านอยู่ในยุคเดียวกันกับพระอาจารย์ตุ๋ย วัดอนงค์ ทั้งสององค์นี้ เวลาลงของให้ใครแล้วต้องลอง จะลองด้วยมีดปลายแหลม แบบกดปักแล้วกรีด ไม่ก็ลองด้วยมีดโกนแบบบานพับ
    เป็นเรื่องเอิกเกริกมากในสมัยนั้น แต่พระอาจารย์ตุ๋ย ท่านไม่โดนใครเล่นงาน สำหรับ อ.เฮง ถูกพระผู้ใหญ่เรียกไปตักเตือน ท่านจึงต้องย้ายวัดบ่อย สุดท้ายท่านจึงตัดสินใจสึกออกมาเป็นฆราวาส
    เมื่อสึกออกมาแล้ว เวลา อ.เจ็ก สามแยกไฟฉาย จัดงานไหว้ครู อ.เฮง มักไปช่วยเสมอ และเป็นคนลองทั้งที่ อ.เจ็กลง และตัวท่านลง นับว่า ท่านทั้งสองเชื่อมือซึ่งกันและกัน
    แต่เป็นที่น่าเสียดาย อ.เฮง บ้านบาตร ไม่สามารถสืบได้ว่า มีศิษย์สืบทอดหรือไม่
    เลยขอแนะนำ วัตถุมงคล ที่ อ.เฮง บ้านบาตร สร้างไว้ ท่านได้พระไว้หลายแบบเหมือนกันเช่น เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระสมเด็จ รูปถ่ายหลวงปู่ทอง รูปถ่ายตัวท่าน
    ข้อสังเกตุ วัตถุมงคล อ.เฮง ท่านจะลงจารไว้เยอะ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งทีเดียว

    อ.เฮง บ้านบาตร สายเหนียวหลวงปู่ทอง
    อ.เฮง บ้านบาตร ท่านเป็นศิษย์อ.แก้ว คำวิบูลย์ ยุคแรกๆ เป็นเพื่อนกับอ.เจ็ก สามแยกไฟฉาย อ.เฮง เป็นอาจารย์ที่ชื่นชอบวิชาคงกระพันมาก เวลาใครมาลงน้ำมันกับท่าน ท่านจะลองทุกคน เป็นที่หวาดเสียวแก่ผู้พบเห็น
    เนื่องจากอ.เฮงชอบลองเหนียว สมัยบวชอยู่จึงต้องย้ายวัดอยู่บ่อยๆ เนื่องจากโดนพระผู้ใหญ่เพ่งเล็ง ตอนหลังท่านได้สึกมาเป็นฆราวาส คราวนี้ท่านจะลองอย่างไร ไม่มีใครว่า ท่านดังเรื่องเหนียวจน พ่อพราหมณ์สุทโธ อาจารย์ฆราวาสชื่องดังยังมาเป็นศิษย์ ในตำราพ่อพราหมณ์สุทโธ เขียนไว้เลยว่า ถ้าชอบคงกระพัน ห้ามทิ้งวิชาอ.เฮง บ้านบาตร เป็นการรับรองว่า วิชาอ.เฮง บ้านบาตร สุดเหนียว
    แอดมินหาประวัติท่านมานาน แต่ไม่พบเจอเลย เพิ่งมาพบในเพจบอส ตรอกจันทร์ จึงขอคัดลอกมาลงให้แฟนเพจชม
    อาจารย์วิชาญ ชวนะโรจน์ หรือบรรดาลูกศิษย์ คนในละแวกบ้านบาตร เรียกว่า"อาจารย์เฮง บ้านบาตร" ผู้มีวิชาทางสักใช้เหล็กแหลมจารลงด้วยน้ำมันงา และ อาพัดใบพลูเป็นที่เลื่องลือ..ท่านเรียนวิชาคงกะพันชาตรี สายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธาจาก พ่อแก้ว คำวิบูลย์ ท่านมีศักดิ์เป็นน้องเขย ในวัยของอาจารย์เฮงได้บวช ท่านบวชเรียน อยู่หลายพรรษา และย้ายจำพรรษาอยู่หลายวัด เช่น วัดยาง บางกอกน้อย เป็นต้น เหตุที่ท่านต้องย้ายวัดบ่อย เพราะสมัยก่อนใครลงของกับท่านเสร็จ จะลองฟันลองแทงกันหนักมาก จนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้พระผู้ใหญ่หาว่าท่านอุตริ ท่านจึงต้องย้ายบ่อย ท่านร่ำเรียนอยู่ยงคงกะพันชาตรีไว้หลายอย่าง เช่น วิชาอาพัดใบพลูจาก อาจารย์ฟื้น ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดชะนะสงคราม เหตุที่อาจารย์เฮง จะเรียนอาพัดใบพลู มีอยู่วันนึง ขณะที่เกิดสงครามอินโดจีน ได้มีทหารหลายคน เอาดาบปลายปืนแทงกัน แต่ปรากฎไม่เข้า ตนจึงได้ไปถามว่ามีของดีอะไร พวกทหารบอกได้ใบพลูมาจาก อาจารย์ฟื้น จึงเกิดความเลื่อมใส จึงฝากตัวเป็นศิษย์จนร่ำเรียนวิชา อาพัดใบพลูได้อย่างแม่นยำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2023
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  16. เด็กบางบัว

    เด็กบางบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,476
    เหรียญนี้บูชาเทาไรครับ
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    มีลูกค้าปิดแล้วครับ ถ้าได้มาใหม่ผมแจ้งนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1549. พระผงวิเศษ 5 ประการ พระสมเด็จพิมพ์ทรงหนุมาน รุ่นเสาร์ห้า หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง สร้างในปี ช่วงปี พ.ศ. 2490-2495 ให้บูชาแพ๊คคู่ 2350 บาท (พิมพ์ใหญ่+พิมพ์คะแนน)


    upload_2023-3-7_13-30-19.png

    พิมพ์ใหญ่



    upload_2023-3-7_13-30-25.png

    พิมพ์คะแนน

    หลวงพ่อแฉ่งท่านเป็นลูกศิษย์ และสหายธรรมรุ่นน้องของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา ด้วยความสนิทสนมเคารพกันเป็นพิเศษ จึงได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ๆ มาจากหลวงพ่อปานด้วย พระเนื้อผงผสมว่าน ประกอบด้วยผงวิเศษ 5 ประการ อันได้แก่ ผงอิธิเจ ผงปถะมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห และเกสรดอกไม้ที่ชื่อเป็นมงคลนาม 108 ชนิด ทรายเสก ข้าวสุกเสก ผสมด้วย น้ำมันตังอิ๊ว เป็นต้น
    พระเกจิอาจารย์ยุคสงครามมหาเอเชียบูรพาท่านนี้ มีความรอบรู้ในวิทยาคมหลายแขนงนักขนาดสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เคยตรัสกับท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) ว่า “หากวัดสุทัศน์จัดพิธีปลุกพระเครื่องครั้งใด ต้องนิมนต์หลวงพ่อแฉ่ง มาร่วมพิธีด้วยทุกครั้ง”
    พระเนื้อผงน้ำมันหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง พิมพ์นี้ดูสวยงาม ฟอร์มดีมาก ยันต์หลังยังสวย
    หลวงพ่อแฉ่ง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความสำคัญในอดีต ด้วยความที่มีอาคมขลัง มีพลังทางจิตแก่กล้ายิ่ง เป็นพระปฏิบัติเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้คงแก่เรียนจนทำให้ชื่อเสียงระบือไกล หลวงพ่อแฉ่งท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมขลังมาจากเกจิชื่อดังต่าง ๆ หลายรูปและได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชามาอย่างหมดใส้หมดพุง ทั้ง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (คลองด่าน) ,หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ,หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง ,คณาจารย์สาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ,หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น. หลวงพ่อแฉ่งท่านให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อปานมาก ในฐานะลูกศิษย์และสหายธรรมรุ่นน้อง จึงได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆมาจากหลวงพ่อปานด้วย
    หลวงพ่อแฉ่งท่านมรณภาพ วันที่ 26 ก.ค. 2500 รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา สังขารของท่าน สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฎกษัตริยาราม โปรดให้เคลื่อนไป พระราชทานเพลิงอย่างสมเกียรติ เมื่อ 11 พ.ค. 2501 ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพฯ

     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    1550. ผงวิเศษของหลวงพ่อ พระธรรมจักร เนื้อผง(สีแดง) ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ. วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ปิดรายการครับ


    upload_2023-3-7_22-30-49.png


    พระธรรมจักร ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย

    ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ปรารภถึงพระธรรมจักรกับคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต และคณะศิษย์ว่า

    “เก็บรักษาให้ดีนะ ต่อไปนี้พระนี้จะเป็นจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง”

    ก่อนท่านมรณภาพ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยพิจารณาจิตท่านอาจารย์จวนแล้วพูดต่อหน้าท่านอาจารย์ว่า “กาเย นะ วาจา ยะ วะเจติวิสุทธิยา ท่านจวนเป็นผู้ที่มีกายและจิต...” คำว่า “วิสุทธิจิต” “วิสุทธิเทพ” ล้วนใช้เฉพาะกับพระอรหันต์เท่านั้น และเมื่อท่านอาจารย์มรณภาพ อัฐิของพระอาจารย์ท่านก็กลายเป็นพระธาตุ

    มาถึงการอธิษฐานจิต คุณสุรีพันธุ์บอกว่า ส่วนใหญ่จะอธิษฐานองค์ละ 1 คืน ทั้งสิ้นมีรายนามดังต่อไปนี้
    1. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    2. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    3. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    4. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    5. ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    6. ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    7. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    ราวต้นปี พ.ศ. 2520 คุณสุรีพันธุ์ มณีวัต ศิษย์ก้นกุฏิของท่านพระอาจารย์จวน และบรรดาศิษย์น้อยใหญ่ก็เห็นพ้องต้องกันว่า สะพานลอยรอบเขา “ภูทอก” ภูมหัศจรรย์แห่งนี้ จำเป็นต้องได้รับการบูรณะเสริมสร้างให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น ด้วยสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ย่อมมีความทรุดโทรมเป็นธรรมดา
    และเมื่อใดที่มีผู้ไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก ศาลาวิหารบนเขาชั้นที่ 5 ก็จะพลันแคบคับถนัดใจ สมควรจะขยายให้กว้างขวางขึ้น อีกทั้งถังน้ำฝนและระบบประปาภายในวัดก็ควรปรับปรุง ดังนั้นคณะศิษย์จึงจัดกฐินขึ้น
    ปกติคุณสุรีพันธุ์เองก็จัดกฐินมา แต่ปี 2519 ไม่ปรากฏมีเครื่องมงคลอะไรมาข้องแวะ ด้วยรู้อยู่ว่าพระสายนี้ไม่นิยม ทว่าปีนั้น เกิดนึกอยากทำของที่ระลึกแจกจ่ายให้แก่กรรมการที่มาร่วมจองกฐินเลยดำริทำ “พระธรรมจักร” เป็นพุทธานุสรณ์ โดยอาศัยเค้าจากพระพุทธรูปสลักหิน อายุ 1,400 ปี ซึ่งขุดพบที่เมืองสารนารถ ประเทศอินเดีย อันเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา มีพุทธลักษณะที่งดงาม ยิ่งบล็อกพระเครื่องชุดนี้แกะโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ จึงมีความสวยงามมาก ด้านหลังขององค์พระแกะเป็นรูป “บริโภคเจดีย์” ทั้ง 3 คือ สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงใช้สอยเมื่อครั้งยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
    คณะกรรมการได้จัดสร้างพระธรรมจักรทั้งหมดรวม 93,409 องค์ โดยทำเนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ครบทุกพระองค์
    และได้จัดทำเนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด
    นั่นเป็นเนื้อพิเศษ “ในวัง”

    ทีนี้ก็เป็นเนื้อพิเศษ “นอกวัง” จัดทำเป็น 4 สี สีละ 2,100 องค์ เรียกว่าชุด “จตุรงค์ 4 สี” ประกอบด้วย
    1. สีเขียว แทนวาระประสูติ หมายถึง ความรื่นเริงของ 3 แดนโลกธาตุ ที่ทราบถึงการอุบัติของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
    2. สีขาว แทนวาระตรัสรู้ หมายถึง ความสว่างเจิดจ้าของ “ธรรม” ที่ทรงรู้ทรงเห็น จนสามารถเด็ด “อวิชชา” ออกจากพระทัยได้

    3. สีชมพู แทนวาระปฐมเทศนา หมายถึงอาทิตย์อุทัย เปรียบได้กับการเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา

    4. สีดำ แทนวาระปรินิพพาน หมายถึงความโศกสลดของหมู่มนุษย์ และทวยเทพ ที่อาลัยรักในพระพุทธองค์

    ทุกสีที่ว่ามามีมวลสารอย่างเดียวกันหมดในเนื้อพระ แต่สีที่ต่างกันก็ด้วยเน้นหนักของมงคลบางอย่างลงเป็นพิเศษ คือ

    #สีเขียว เน้นด้วยกระเบื้องสีเขียวหลังคาวัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, จันทน์หอมจากภูทอก และที่สำคัญ เตยหอมภูทอก ซึ่งท่านพระอาจารย์จวนได้อธิษฐานจิตให้ว่า “จะแตกไปกี่กอ ทุกต้นทุกกอคือเราเสกไว้แล้ว”
    สีขาว เน้นด้วยเกสรดอกไม้, ผงงาช้าง, กระเบื้องขาววัดบวรนิเวศ และวัดราชบพิธ

    #สีชมพู เน้นด้วยชานหมากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปฏิบัติทั้งสิ้น, หินแดงจากภูทอก และที่สำคัญสุดยอด โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ซึ่งเทพที่รักษามาขอให้ท่านอาจารย์นำออกจากถ้ำบูชาภูวัว ไปแจกจ่ายแก่ประชาชน เทพเหล่านั้นจะได้ได้บุญด้วย

    #สีดำ เน้นด้วยพระผงงิ้วดำ, เบ้าหล่อพระพุทธรูป ภปร. และข้าวสารดำที่มีอายุถึง 3,000 ปี นี่เป็นมวลสารที่เป็นตัวหลัก ซึ่งใช้เฉพาะเจาะจงลงไปที่พระชุดพิเศษ 4 สี เท่านั้น
    ต่อไปจะเป็นมวลสารทั้งหมดทั้งปวง ที่ใช้ผสมในพระพิเศษ 4 สีด้วย

    #และพระธรรมดาสีแดงที่มีจำนวนจัดสร้างเท่าพระธรรมขันธ์ คือ 84,000 องค์ ด้วย ดังต่อไปนี้
    1. ดิน ใช้ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง คือ ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ดินจากที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์, ดินเชตวันมหาวิหาร, ดินรอบสถูปพระสารีบุตร, ดินสถูปพระโมคคัลลาน์, ดินสถูปพระอานนท์, ดินสถูปพระมหากัสสาปะ, ดินสถูปพระอนุรุทธ, ดินสถูปพระราหุล, ดินสถูปพระกัจจายนะ, ดินสถูปพระองคุลีมาล, ดินในถ้ำสุกรขาตา, ดินจากเขาคิชฌกูฏ และดินในพระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธองค์เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่
    มีเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับดินที่พระคันธกุฏีนี้ กล่าวคือ ครั้งหนึ่งคุณสุรีพันธุ์เป็นหัวหน้าทีมนำคณะพระกรรมฐานอันประกอบด้วยหลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และคณะศิษย์ไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ในอินเดีย
    ขณะที่เดินขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏนั้น ครั้นใกล้ถึงพระคันธกุฎี ท่านพระอาจารย์วันกับท่านพระอาจารย์จวนก็ออกวิ่งเหยาะๆนำไป คุณสุรีพันธุ์ประหลาดใจนัก เพราะปกติพระจะไม่วิ่ง ยิ่งเป็นท่านอาจารย์ทั้งสองแล้ว นับแต่เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันมา ท่านเรียบร้อยที่สุด ลงถ้าท่านวิ่ง ถึงจะช้าๆ แต่เหตุต้องไม่ใช่เรื่อง “ธรรมดา” คุณสุรีพันธุ์จึงตัดสินใจวิ่งตาม
    เมื่อถึงคันธกุฎีก็ทันเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึก ด้วยดินใกล้ๆกับที่ท่านอาจารย์ยืนอยู่เกิดการเต้นกระโดดน้อยๆ ชวนขนลุกขนพอง

    ขณะที่ตะลึงพรึงเพริดอยู่นั่นเอง ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ก้มลงเก็บดินเหล่านั้นขึ้นมาจำนวนหนึ่ง และเก็บอยู่กับท่านเป็นแรมปี จวบจนมีการสร้างพระธรรมจักร ท่านอาจารย์ทั้งสองจึงได้มอบดินอัศจรรย์นั้นมาให้ผสมเนื้อ

    ไม่ขลังคราวนี้จะไปขลังคราวไหน !!

    2. ใบไม้มงคล ใบโพธิ์ที่ประสูติ ลุมพินีวัน, ใบโพธิ์ตรัสรู้ พุทธคยา, ใบสาละที่ปรินิพพาน กุสินารา, ใบโพธิ์ที่หลังพระคันธกุฎี และใบโพธิ์พระอานนท์ ณ เชตวันมหาวิหาร
    3. เส้นเกศา หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    มีเรื่องแปลกอีกเกี่ยวกับเส้นเกศา กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการกำลังรวบรวมเส้นเกศาอยู่นั้น จู่ๆก็มีพระรูปหนึ่งมาหานำเส้นเกศากับชานหมากจำนวนหนึ่งมาให้ พร้อมแจ้งว่า “หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ สั่งให้เอามาให้ เพราะทราบว่าคุณสุรีพันธุ์จะสร้างพระ” คุณสุรีพันธุ์บอกว่าน่าประหลาดนัก การสร้างพระธรรมจักร ดูจะเป็นงานใหญ่ก็จริง แต่ก็ทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในเท่านั้น หลวงปู่คำดีทราบได้อย่างไร เพราะในเวลานั้น

    คุณสุรีพันธุ์ไม่เคยรู้จักท่านเลย !!

    เมื่อสืบเสาะภายหลังจึงทราบความว่า หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย เป็นศิษย์องค์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเมื่อพระราชทานเพลิงศพท่านแล้ว อัฐิหลวงปู่คำดี ก็แปรสภาพเป็นธาตุดุจเดียวกับองค์อาจารย์

    4. ดอกไม้ ผงธูป ทองคำเปลว จากพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช, พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, พระธาตุพนม จ.นครพนม, พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร, พระร่วงโรจนฤทธิ์ จ.นครปฐม, หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา, พระมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดบวรนิเวศ, วัดราชบพิธ, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม
    5. ดอกไม้ ผงธูป จากที่บูชาพระ-สวดมนต์ของสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฒฑโน), หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี), หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระครูญาณทัสสี (คำดี ปภาโส), พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (วัน อุตตโม), ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร, พระครูปลัดสัมพิพัฒเมธาจารย์ (ไพบูลย์ สุมังคโล)
    6. ชานหมาก ข้าวก้นบาตร ก้นบุหรี่ ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระวัน อุตตโม,ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
    7. พระชำรุดนำมาบด ได้แก่ พระพุทธรูปอายุ 1,000 กว่าปี ที่ท่านพระอาจารย์จวนธุดงค์ไปพบในถ้ำแถบภูสิงห์ ภูวัว, พระสมเด็จวัดระฆัง และบางขุนพรหม, พระดินเผาสมัยสุโขทัย, พระผงกรุวัดสามปลื้ม, พระผงงิ้วดำ, พระพิมพ์วังหน้า
    8. มวลสารมงคลอื่นๆ ได้แก่ โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหลจากถ้ำบูชา, ผงงาช้าง, เขากวางคุด, แก่นจันทน์หอม นำมาจากถ้ำจันทน์ดินแดนอาถรรพณ์, ไม้มะขามจากถ้ำขาม ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร, กระเบื้องไม้หลังคากุฏิของหลวงปู่ขาว อนาลโย, หินแดงบนภูทอก, ไม้กลายเป็นหิน ซึ่งหลวงปู่ฝั้นเมตตาสกัดให้ด้วยองค์ท่านเอง, ข้าวตอกพระร่วง จ.สุโขทัย
    โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ที่ท่านพระอาจารย์จวนมอบให้นั้น คุณสุรีพันธุ์ได้ให้กองกษาปณ์ป่นเหล็กไหลทั้งหมดให้เป็นผงด้วยเครื่องบดพิเศษ เป็นเหล็กเหนียว ชื่อว่า “ไททาเนี่ยม” ว่ากันว่าเป็นเหล็กที่แข็งที่สุด ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่า กว่าจะหมด 1 กะละมัง เครื่องสึกไปจนใช้อีกแทบไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าใคร “เหล็ก” กว่าใคร
    เมื่อบดมวลสารทุกชนิดพร้อมสรรพ ก็ทำการกดพิมพ์เป็นองค์พระ โดยใช้ระบบอัดแรงสูง นั่นคือความประสงค์ของคณะกรรมการ เพราะไม่ต้องการผสมเนื้อปูน หรือกาวอะไรๆ ลงในพระ ดังนั้นพระทั้งหมดจึงมีแต่มวลสารล้วนๆ

    อย่างนี้สิถึงเรียกว่า “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง” ได้เต็มคำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2023
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,580
    ค่าพลัง:
    +463
    วัตถุมงคลที่นิยมของหลวงพ่อเต๋ (เทพเจ้าแห่งดอนตูม)

    ตลับยาหม่องพิมพ์เล็ก หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ปี 17 (รุ่นสอง) สามารถบูชาแทน รุ่นแรกของท่านที่ราคาแรงมาก



    upload_2023-3-8_0-1-27.png

    upload_2023-3-8_0-1-35.png

    นับเป็นสิ่งมงคลอันทรงคุณค่า เอกลักษณ์ที่มีมาตรฐานเฉพาะตัว เลื่องลือในประสบการณ์คุณวิเศษทุกๆด้าน เป็นที่แสวงหากันมาช้านาน
    จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นสองในปี 2517 หลวงพ่อเต๋ปลุกเสกประจุวิชาอาคมอย่างเต็มที่ ไม่ต่างจากรุ่นแรกที่สร้างมาก่อนสิบปี และมีค่านิยมสูงกว่าหลายเท่า
    * ข้อแตกต่างที่สังเกตุได้ง่ายคือ รุ่นสองปี 2517 ดวงตาหลวงพ่อเต๋จะเหลือบมองขึ้นด้านบน ในขณะที่รุ่นแรกมองตรงปกติ และมีเส้นขนแมวขวางข้างหูด้านซ้ายมือเรา
    ภายในตลับยาหม่องบรรจุด้วยผงมวลมสารว่านมงคลอันทรงฤทธิ์ ปิดด้วยหนังเสือที่ตัดเป็นวงกลมเท่าขอบ หนังเสือปรากฏพบเห็นหลากหลายแบบ สำหรับหนังเสือตามภาพเป็นหนังเสือโคร่ง ซึ่งสวยงามแลดูเข้มขลังและนิยมที่สุด
    * สิ่งมงคลทรงคุณวิเศษ เปี่ยมกฤตยานุภาพเข้มขลัง นับวันจะหาได้ยากขึ้น จึงไม่ควรพลาดในการสะสมบูชาด้วยประการทั้งปวง
     

แชร์หน้านี้

Loading...