ทุกร่างมีองค์คุ้มครอง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top bgColor=#fbf5d8 background="#FBF5D8"><TD width="90%">

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma][/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ทุกร่างมีองค์คุ้มครอง เอาพิธีเปิดพระโอษฐ์พิสูจน์...เจ๋งๆ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เชื่อหรือไม่???...มนุษย์เราเกิดมาจะ มีองค์บารมีคุ้มครองสังขารกันทุกคน [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]จะเป็น องค์เทพ องค์พรหม หรือ สัมภเวสี...[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ก็แล้วแต่สัญญาที่ทำกันไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ...[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่สามารถที่จะเลือกองค์บารมีประจำสังขารได้ [/FONT]

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]คนใดที่พูดหรือบอกว่า องค์นั้นองค์นี้เสด็จมาประทับในร่างของตนเอง [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แล้วสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้นั้น ไม่จริง...(หลอก) [/FONT]

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เพราะ องค์เทพจะไม่มีบารมีในการช่วยเหลือมนุษย์คนใดได้เลย [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เนื่องจากว่าองค์เทพแต่ละองค์นั้นมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]อาจจะมีบ้างเป็นบางองค์ที่ลงมาเพื่อสร้างบารมีช่วยเหลือมนุษย์ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แต่ส่วนใหญ่แล้วจะลงมา เพื่อคุ้มครองร่างเท่านั้น...[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]จึงจะไม่ยินยอมช่วยเหลือใครๆ ทั้งสิ้น [/FONT]

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ก็มีการที่ทำพิธีอัญเชิญเทพประจำร่างของแต่ละบุคคล [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ซึ่งในทางพราหมณ์เรียกว่า “เปิดพระโอษฐ์” คือ[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เมื่อเทพเข้ามาทรงในร่างแล้วก็จะ พูดออกมาเป็นภาษาเทพ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ก็จะสื่อกันรู้เรื่องในวงเทพด้วยกัน [/FONT]

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ถ้าจะว่าไปแล้ว องค์บารมี ก็ เปรียบเสมือนกับพระไตรปิฎกหรือหนังสือตำรา[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]อะไรเทือกนั้น แต่ว่าคนที่เป็นเจ้าของมีไว้ไม่ยอมมาเปิดอ่านเลย [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ก็จะไม่รู้ไม่เข้าใจในหนังสือนั้น [/FONT]

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ด้วยฉะนี้ จึงต้องเปิดหนังสือนั้นดูเนื้อหาข้างใน... ...[/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เช่นเดียวกันกับที่ เปิดพระโอษฐ์ เพื่อที่จะให้เทพประจำร่างนั้น [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แสดงตนออกมาว่า...เป็นผู้ใด๋ [/FONT]




</TD></TR><TR vAlign=top bgColor=#fbf5d8 background="#FBF5D8"><TD colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

แล้วศิษย์อาจารย์ ประหยัดท่านหนึ่งก็เข้ามานั่งแทนอาจารย์
พร้อมกับส่งเสียงโต้ตอบกันเป็นภาษาที่ฟังคล้ายกัน

ก็ได้รับคำบอกเล่าจากอาจารย์ประหยัดว่า
เขาพูดภาษาเทพกันแล้วก็รู้เรื่องกันแล้วว่าเป็น
เทพองค์ใดที่มาคุ้มครองร่างสังขารของคุณกุณฑล

คุณธงชัย พุ่มพวง ซึ่งเป็นหัวหน้าของ คุณกุณฑล ในสำนักงาน
เข้าลองบ้าง ทำในรูปแบบเดียวกัน แต่ว่าไม่มีอาการใดๆ
ซึ่ง อาจารย์ประหยัด บอกว่าร่างกายของ คุณธงชัย ไม่พร้อม
สุขภาพไม่สมบูรณ์

คุณธงชัยก็บอกว่าจริง เนื่องจากช่วงนั้นเป็นไข้หวัด...
เออ ไม่ทราบว่าอาจารย์ประหยัดรู้ได้ อย่างไรว่าไม่สบาย

อีกคนที่เข้าไปทดสอบชื่อ

 

​

อาจารย์ประหยัด จึงบอกว่า
​

 

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เว็บ อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ http://ww2.se-ed.net/prayadcb [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]เว็บบอร์ อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ http://b.bbznet.com/prayadcb [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]สำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องจิตวิญญาณ ผีแทรกผีเข้า [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]โดนคุณไสย์ โดนจับเป็นร่างทรงโดยไม่เต็มใจ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แก้ไขได้ ไม่ต้องรับขัน ไม่เสียเงิน [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma][/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่มีค่าครูหรือค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่มีการแจกซองผ้าป่า กฐินใดๆ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]และไม่มีการชี้นำว่าต้อง "แก้แบบโน้นแบบนี้ ไปทำกับใครก็ได้ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แต่ถ้าทำผิดก็จะเป็นโทษกับตัวเอง" [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]แบบนี้ใครๆ ก็ต้องกลัวและก็ต้องทำกับเจ้าสำนัก... [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]อย่างมากก็ให้ไปทำสังฆทานเอง ไปวัดไหนก็ได้ [/FONT]
[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ทำเองรู้เอง สัมผัสเอง และเรียนรู้และปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]สายสัญญาบารมี-อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ[/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ขาวสะอาด เที่ยงธรรม อิสระ [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่รับจ้างสร้างบารมี [/FONT]​

[FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]ไม่รับจ้างเขียนองค์พระธรรม[/FONT]​

 

<<< การทรงผี >>>

จริงๆ แล้วเป็นลักษณะของมารแทรก
ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับศิษย์ในสายสัญญาบารมี-อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ

ในงานพิธีไหว้ครูเปิดตำหนัก ซึ่งเจ้าตำหนักลงไปเลื้อยเป็นงู
ลักษณะการลงประทับเป็นลักษณะแบบโดนคุม ซึ่งจะเลื้อยไปทั่วบริเวณงาน
เมื่อองค์ถอยก็รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย

ในขณะที่ร่างทรงท่านอื่นๆ ที่มาร่วมงานบอกว่า เป็นองค์พญานาค
บ้าง นาคีนาคา บ้าง...

แต่ในความเป็นจริง คนที่เป็นร่างทรงยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองทรงองค์เทพฯ จริงๆ
หรือไม่ แล้วจะไปรู้ว่าคนอื่นทรงอะไร

สมมุติว่า ร่างทรงที่มาร่วมงานรู้ ก็ต้องถามว่า "ทำไม่ถึงไม่ปราบ"

นี่คือความแตกต่างระหว่าง "สายสัญญาบารมี-อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ"
กับร่างทรงทั่วไป

เพราะถ้าเป็นศิษย์สายสัญญาบารมี-อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ ละก้อ
ไม่ว่า "อินทร์ พรหม ยมยักษ์ เจ้าที่ เจ้าทาง วิญญาณพเนจร สัมปะเวสี ฯลฯ"
ที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ปลิ้นปล้อนหลอกลวง สร้างเวรสร้างกรรม โดยปราบหมด

แต่สิ่งที่ควรจำสำหรับศิษย์ที่เพิ่งได้ "ออกเหตุเห็นผล"
ใหม่ในด้านอิทธิฤทธิ์ เมื่อเจอกับเจ้าทรงอาชีพ
เขาจะใช้ประสบการณ์การเป็นจ้าทรงอาชีพ เล่นกับเรา... เช่น
หาทางชิ่ง ไปทางอื่น ด้วยคำพูดต่างๆ นานา (สำหรับในกรณีที่เขาเห็นองค์ของเรา)
แต่ถ้าไม่เห็นหล่ะก้อ...

คุณก็จะได้รู้จักคำว่า "สายสัญญาบารมี-อาจารย์ประหยัด เจริญบุญ
เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร" นั้นเป็นอย่างไร...

 

อืม

อยากรู้จัง

ว่าผมมีองค์เป็นอะไร?

 

คนชั่ว คนเลว มีองค์เหมือนกันใช่ใหมครับ
แล้วคนบ้าที่นั่งข้างถนน ไม่มีเสื้อใส่เขามีด้วยหรือเปล่าครับ

ผมเห็นแล้วสงสัยว่าจิตเขาขณะนั้นอยู่กับตัวเขาเห็นภาพอะไรอยู่หรือเป็นอย่างไรนะ (ใครเคยบ้า..อะไม่ใช่เคยรู้เรื่องคนบ้า) แนะนำหน่อยครับ

 

ถึงแม้ว่าจะมีเทพคุ้มครอง

แต่ไม่มีมนุษย์คนไหน..

อยู่เหนือกฎแห่งกรรม

 

สันโดด เจาะ ตลาดล่าง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด เจ๋งจริง ๆ อนุโมทนาด้วยนะ ^-^

 

เบื่อพวก ชอบงมงาย ไม่เชื่อ พระตถาคต

สันโดษ...สู้เพื่อ พระพุทธศาสนา....สู๋..สู๋
อดทน...อดทน

 

กลับมาเเล้วหรือท่าน ขจร....ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

พอดี คำว่า องค์ .....มันเป็นตามกระเเส....จะเทพ หรือ วิญญาณ

It is โอปะติกะ มีแต่ จิตละเอียด ที่ไม่มีร่างกาย ทั้งสิ้น

ท่านก็เคย คุยกับเจ้าแม่กวนอิม แล้วถูกไหม?

ไหนจะท่านขุนพลอีก รายนั้น เพื่อน กะเทพ แต่ รู้เฉพาะตน

มันเป็นเรื่อง ที่คนกลุ่มเดียวกัน เจอ ประสบการณ์ ที่เหมือนกัน

แต่พวกเรา ไม่ยึด ตรง นั้น พวกเรา เเลกเปลี่ยนธรรม

และทดสอบธรรม กันเอง ว่า จิตตนเองนิ่งหรือยัง

 

ขันธ์ ไม่ทำอะไร เอกวีร์ เพราะเป็น เด็กเรียน

ขันธ์ ไม่ทำอะไร หลงเข้ามา เพราะเป็น เด็กปฏิบัติ

ขันธ์ ไม่ทำอะไร วิมุตติ เพราะเป็น เด็กมุ่งแต่ธรรม

ขันธ์ ไม่ทำอะไร เต้าเจี๊ยว เมื่อ เอาธรรมะ มาชน

ขันธ์ ไม่ทำอะไร K.Kwan เพราะ ดูแต่ไม่คิด

ขันธ์ ไม่ทำอะไร ไร้กรรม เมื่อ เอาธรรมะแท้จริงมาตั้งกระทู้

ขันธ์ เลิกด่า สันโดษ เมื่อ สันโดษ Google ธรรมะมาแปะ

ขันธ์ จะไม่ทำอะไรใคร ถ้าไม่ออกนอกหลู่วิ่ง แห่ง นิพพาน

ขันธ์ บ้าอำนาจ แห่งคุณ พระศรีรัตนตรัย

 

ดีแล้วท่าน ขจร ดู คนให้ออกด้วยปัญญา

ท่านขันธ์ ด่า ใครเพราะอะไร พิจารณา

อย่า อ่านที่ ด่า แต่ มองที่ต้นเหตุ แห่ง ไฟ

 

อโหสิกรรม ไม่ต้องขอหรอก

หาก จิตเราไม่เคยคิดเเค้นต่อใคร

เราจะไม่ขอ อโหสิกรรมจากใคร

เพราะ จิตเราไม่ได้โกรธเคือง

หากเราขอใครให้ อโหสิกรรม

เพราะเรานั้นเอง ที่ จิตใจขุ่นเคือง

 

ในพระพุทธศาสนา ถึงบอกว่า ด่าว่า อริยะบุคคล ไม่เป็นไร

นั้นเป็นเรื่องจริง ก็คิดง่ายๆ ไม่ต้องใช้อะไร วิเศษวิโส ตอบ

ลองคิดดู เนื่องจาก อริยะบุคคล เข้าใจสัจธรรม

ทำให้ จิตท่านสะอาดและบริสุทธิ์ ไม่คิดแค้นโกรธเคืองใคร

แต่ที่เสื่อม คือ จิตของผู้ไม่นิ่ง ทุรน ทุราย โกรธ เเค้น เคือง ฯลฯ

บารมีจะลดทอน เมื่อเราใช้อารมณ์ทำร้ายผู้อื่น

ตัวเราใช้คิดทำร้ายบารมีตนเอง

 

คนทะเลาะ กัน เราก็ไป ฟัง ไปอ่าน ไปคิด ไปปกป้อง

เพราะอะไร ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่เรา?

เพราะ ตัวเราต้องการปกป้องคนดี

หรือ เพราะเราต้องการทำลายคนชั่ว

ตกลง อะไร ดีกว่ากัน? ปกป้องคนนึง เพื่อ ทำลายคนนึง

 

ปัญญามี พิจารณา ธรรม

เก็บความรู้และทุกสิ่งที่เรียนมา

เป็นเพียงแค่ รู้ เป็นพอ

อ่านอะไรแล้วอย่า เก็บมาคิด

เพราะ จิตจะอ่อนแรงมาก

อารมณ์ ความคิด และ ความรู้สึก

หากเรา ไม่นิ่ง จิตเราจะค่อยๆเสื่อม

 

อยากฟังทัศนคติ ของคุณสันโดษ ต้อการเปิดพระโอษฐ์
มันจะมีผลอะไร อย่างไร ตามมา

 

การเปิดพระโอษฐ์ คือ การอนุญาติ ให้ จิตวิญญาณอื่น (ไม่ว่าจะเป็นจิตใดก็ตามมาใช้ร่าง) มีทั้งข้อดีเเล้วข้อเสีย

เพราะ หากเราเชื่อมากเกินไป วิญญาณอื่นจะมีอิทธิพลเหนือเรา

และ ใช้ร่างกายของเรา ไปในทางที่ผิดก็เป็นได้

หากเราไม่ใช้ สติในการพิจารณา

เชื่อ สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ได้ดีเสมอไป

ควรที่จะใช้วิจารณญาณควบคู่กับ ธรรม เสมอ