ปิดครับ #สรุปรายการหน้าที่ 27

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Anantsit, 24 เมษายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 162
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2024
  2. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 163

    P1.JPG P2.JPG

    A1.jpg A2.jpg A5.jpg

    พระผงสุปฎิบันโนรุ่นพิเศษ เนื้อเขียว ปีพ.ศ.2537
    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน


    #ประวัติการจัดสร้าง เดือนกรกฎาคม ๒๕๓๖ พระพงษ์ศักดิ์ คัมภีร์ธมโม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อฯ ได้ มาปรารภกับข้าพเจ้าว่า ท่านอยากจะสร้างพระผงด้วยวัตถุมงคลที่ไม่เคยมีผู้ใดกระทำมาก่อน เนื่องจากพระคุณเจ้ามีผงพระธาตุพระสิวลี พระธาตุพระอรหันต์ และพระธาตุพระปัจเจก อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งได้เคยนำมาให้หลวงพ่อตรวจสอบความจริงแท้แล้ว และได้มีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรจะนำพระธาตุทั้งหมดมาทำเป็นพระผงรุ่นพิเศษ และจะช่วยกันทำเอง นับตั้งแต่การบด ผสม และปั๊มเป็นรูปพระผงตามต้องการ เพื่อจะได้มีพระธาตุครบสมบูรณ์ และมีส่วนผสมของพระธาตุมากที่สุด คณะผู้ดำเนินการจัดทำจึงได้เดินทางไปปรึกษาขอคำแนะนำจากหลวงพ่อที่วัดพระ พุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งหลวงพ่อก็เห็นชอบด้วย ขณะที่เรากำลังปรึกษากันอยู่ถึงรูปแบบของรูปองค์พระผงที่จะพิมพ์ในครั้งนี้ ได้มีศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่ง คืออาจารย์ปฐม พัวพันธุ์สกุลแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มากราบนมัสการหลวงพ่อก่อนที่คณะของพวกเราจะไปถึง และท่านได้ลาหลวงพ่อเพื่อจะเดินทางกลับไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่ได้ขับรถยนต์กลับมาที่วัดอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ (คงถูกหลวงพ่อเรียกกลับมา) ขณะที่เข้าพบหลวงพ่ออยู่นั้น ท่านได้ยินคณะของพวกเรากำลังปรึกษากันถึงรูปแบบของพระผงที่จะจัดทำขึ้น จึงถามว่ามีใครปั้นรูปแบบเพื่อทำบล๊อกให้แล้วหรือยัง ข้าพเจ้าจึงตอบไปว่ายังไม่มี อาจารย์ปฐม จึงขอรับอาสาปั้นรูปแบบให้ทั้งนี้เพราะท่านเป็นปฏิมากรฝีมือเยี่ยมสอน นักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างมาก หลวงพ่อได้ให้แนวความคิดว่า พระผงรุ่นนี้มีความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ เพราะวัตถุธาตุที่นำมาทำเป็นองค์พระเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แ ละได้ปฏิมากรฝีมือเยี่ยมมาช่วยปั้นรูปแบบให้ หลวง พ่อจึงให้ปั้นรูปของท่านนั่งอยู่ด้านหน้าองค์พระพุทธรูป และด้านหลังของพระผงท่านเขียนคาถา “นวภา” ให้ ซึ่งเป็นคาถาที่ให้ความเมตตามหานิยม และป้องกันภัย ภายหลังจากที่ได้ทำการปั้นแบบและย่อส่วนเพื่อทำเป็นบล๊อกพิมพ์เสร็จแล้ว ได้ทำการปั๊มพระผงรุ่นแรกได้ภาพหลวงพ่อชัดเจนเหมือนองค์จริง และมีภาพพระพุทธรูปปรากฏอยู่ด้านหลังอย่างเด่นชัดสวยงามมาก.
    การหาพระธาตุ

    #การสร้างพระผงรุ่น “พระสุปฏิปันโน” ครั้งนี้ หลวงพ่อได้บอกให้พวกเราไปนำวัตถุมงคลที่ถ้ำแห่งหนึ่งอยู่ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นส่วนผสมที่ศักดิ์สิทธิ์ ท่านเล่าให้ฟังว่า วัตถุมงคลที่ให้ไปเอามานี้เป็นพระธาตุของพระอรหันต์ถึง ๕๐๐ องค์ ซึ่งมานิพพานพร้อมกันที่ถ้ำแห่งนี้
    ภายหลังจากที่ได้ทำการเผาพระศพ ไฟที่เผานั้นไม่ยอมดับ และความร้อนนั้นได้แผ่กระจายไปถึงเมืองบาดาล ทำให้พญานาคที่อยู่ภายใต้ถ้ำแห่งนี้ต้องขึ้นมาพ่นน้ำดับไฟและเป็นสิ่งที่น่า ประหลาดใจว่า ลำธารน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขายังคงปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ พระธาตุของ พระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ องค์ จึงยังคงอยู่ในถ้ำ คณะของพวกเราได้ไปสำรวจหาสถานที่ในถ้ำตามที่หลวงพ่อบอกใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง จึงได้พบวัตถุมงคลดังกล่าว ซึ่งมีผู้เฝ้าพิทักษ์รักษาอยู่คือ ลูกพญานาคเป็นงูใหญ่สีดำขดอยู่ริมผนังถ้ำชูหัวแลบลิ้นให้พวกเราได้เห็นทุกคน โดยไม่ทำอันตรายทั้ง ๆ ที่พวกเราจะต้องผ่านหลืบถ้ำห่างจากที่เขาเฝ้าอยู่ไม่เกิน ๑ ฟุต ภายในถ้ำมีอากาศหายใจน้อยมาก เพราะอยู่ลึก และไม่มีแสงสว่างเลย นอกจากแสงจากไฟฉาย ที่พวกเรานำติดตัวไป เราได้ทำพิธีขอวัตถุมงคลสร้างพระพุทธรูปและขอน้ำพญานาคจากภายในถ้ำออกมาถวาย หลวงพ่อด้วย

    พระพงษ์ศักดิ์ฯ ได้มารายงานหลวงพ่อให้ทราบว่า ในคืนที่พักอยู่ที่วัดเชิงเขาได้นิมิตเห็นช้างเผือกจำนวนมากไม่สามารถนับ จำนวนได้ วิ่งผ่านท่านไปสู่พระราชวังแห่งหนึ่ง พร้อมกับได้ยินเสียงปืนยิงสลุดหลายนัด หลวงพ่อได้อธิบายว่า…ช้างเผือกที่เห็นนั้นเปรียบได้กับพลังพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ องค์ และที่วิ่งไปสู่พระราชวังนั้น เป็นพระราชวังของพระเจ้าคำแดงซึ่งอยู่บริเวณเชียงดาว เป็นเจ้าแห่งคนธรรพ์ ที่รักษาอยู่บริเวณนั้นและเป็นพระเสื้อเมืองเชียงใหม่ เป็นนิมิตที่ดีสำหรับการสร้างพระผงของพวกเราที่จะมีพลานุภาพมาก
    พระ ธาตุ 500 อรหันต์นี้ อาตมาเคยให้คนไปสักการะบูชาที่เขาใหญ่ งูจะมาเฝ้าเลย พอไปถามครูบาวงศ์ ท่านบอกว่าไม่ใช่งูนะเป็นพญานาค แต่งูนี้แปลกมาก จะขอถ่ายรูป ถ้าเป็นพญานาคจริง ขอถ่ายรูปนะ แล้วต้องชูคอให้ด้วย ให้เห็นว่ารับรู้ เขาชูคอขึ้นมาจริงๆ แล้วก็ถ่ายรูปมาด้วย แต่ไม่ติด..

    มีคนเคยเอาพระธาตุ 500 อรหันต์ ไปเช็ก เขานั่งข้างใน เขาบอกว่าไม่ใช่ห้าร้อยนะท่าน คืออาตมาไม่ได้ไปเองหรอก โยมเขาอยากทราบว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์จริงไหม มีความศักดิ์สิทธิ์ไหม ปรากฎว่ามีคนเห็นพระอรหันต์เต็มท้องฟ้า นับพัน ๆ องค์ เป็นพระอรหันต์ล้วน ๆ ไม่ใช่แค่ห้าร้อยแต่เป็นพัน ๆ เลย...
    นอกเหนือจากนี้แล้ว หลวงพ่อได้สั่งให้พวกเราไปนำผงธูปที่ได้จุดบูชาพระรัตนตรัยจากวัดต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดประมาณ ๒๐ วัด เช่นทีเชียงแสน พระธาตุพนม แพร่ ลำพูน (พระพุทธบาทตากผ้า) ซึ่งเป็นกระแสพระเมตตาคุณของพระพุทธองค์ และหลวงพ่อให้นำเอาดินจากสังเวชนียสถานที่ ๔ แห่งจากประเทศอินเดียมาผสมด้วย
    วัตถุมงคลที่นำมาทำพระผง
    ๑. ผงพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า ให้คุณด้านลาภ
    ๒. ผงพระธาตุพระสิวลี ให้คุณด้านโชคลาภ
    ๓. ผงพระธาตุพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ซึ่งหลวงพ่อได้ให้ศิษย์สงฆ์และฆราวาส ไปนำมาจากถ้ำแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ได้มาด้วยความยากลำบากชนิดเสี่ยงชีวิตเข้าแลก
    ๔. ดินจากสังเวชนียสถาน ๔ แห่งในประเทศอินเดีย ซึ่งผู้บูชาจะอธิษฐานขอในสิ่งที่ไม่ผิดศีลธรรมได้
    ๕. ผงธูปจากวัด ๒๐ แห่งซึ่งพระพุทธองค์เคยเสด็จไปประทับ เป็นกระแสของพระเมตตาคุณของพระพุทธเจ้าที่แผ่มายังผุ้ที่เคารพบูชาพระพุทธ องค์
    ๖. น้ำจากบ่อพญานาค ซึ่งมีคุณวิเศษในทางป้องกันไฟไหม้
    ๗. ผงไม้จันทน์และผงกำยาน
    ๘. ดอกไม้บูชาพระเขี้ยวแก้ว ที่ศรีลังกา

    #พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๑
    ภายหลังจากทำพระผงรุ่นนี้สำเร็จแล้วได้นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ของ หลวงพ่อ เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งหลวงพ่อได้ให้ชื่อพระผงรุ่นนี้ว่า “พระสุปฏิปันโน” และท่านได้พูดว่า “เป็นพระผงที่วิเศษที่สุด ดีมากและหายาก”
    พระผงรุ่นพิเศษ
    หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้ทำพระผงรุ่นพิเศษด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง โดยผสมผงพระธาตุเพิ่มมากขึ้น และฝังพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี และพระธาตุข้าว รวมทั้งพระธาตุพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ให้เป็นพระธาตุแต่ละองค์อย่างชัดเจน ทำทั้งหมดประมาณ ๔๐๐ องค์
    ในวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังทำพระผงอยู่ ได้นำพระผงที่ปั๊มเสร็จแล้วไปผึ่งบนโต๊ะไว้กลางแจ้ง แล้วทำงานอื่นต่อไป ได้ยินเสียงแกรกกราก หันไปดูปรากฏงูขนาดใหญ่ประมาณเท่างูเหลือม มาแผ่พังพานอยู่ใกล้บริเวณที่ตากพระผงไว้ เป็นงูที่มีหนวดด้วย มาขดอยู่นานหลาย ชั่วโมง พอดีเป็นเวลาพลบค่ำแล้วยังไม่ไปข้าพเจ้าจึงเข้าบ้านปิดประตู รุ่งเช้าขึ้นมาก็ไม่เห็นแล้ว เมื่อเล่าเรื่องนี้ให้หลวงพ่อฟัง ทานบอกว่าพญานาคจากเขาสามร้อยยอดมาดู และมาโมทนากับการทำพระครั้งนี้

    #พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ ๒
    เมื่อทำพระผงเสร็จแล้ว ได้นำไปเข้าพิธี… พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มโดยมีองค์หลวงพ่อและพระในวัดทำ พิธีตั้งแต่ตอนค่ำวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๓๗ จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ ๒๗ มีนาคม เมื่อนำพระผงกลับมาถึงบ้านข้าพเจ้าได้สำรวจดูก่อนที่จะเก็บเข้าที่ ได้เห็นพระผงบางองค์เป็นประกายเหมือนโรยด้วยเกล็ดเพชรละเอียด ๆ ซึ่งผิดไปจากองค์อื่น ๆ และมีกลิ่นหอมคัดออกมาได้ ๑๐ องค์
    เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๗ ข้าพเจ้าได้นำพระผงปาฏิหาริย์ไปถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อพิจารณาดู แล้วบอกว่าเกล็ดเพชรใสแสดงถึงสมองของพระอรหันต์ ปรากฏขึ้นเพื่อบอกว่า “ทำถูกแล้ว” หลวงพ่อเรียกว่า “พระพุทธสาวกะชนะและดับภัย” ท่านอธิบายต่อไปอีกดังนี้
    “ที่มีประกายขึ้นมาเป็นปาฏิหาริย์ เพราะพระอรหันต์ท่านแสดงให้เห็นว่าพระผงนี้มีพระธาตุพระอรหันต์จริง เพื่อผู้ที่นำไปบูชาจะได้ไม่สงสัย ท่านแสดงความเป็นอรหันต์ให้เห็นให้รูว่าเป็นพระธาตุของพระอรหันต์ ท่านได้เผยแผ่บารมีที่ท่านได้สร้างไว้ให้คนเอาไปบูชาเป็นมงคลศรัทธาสาวกะผู้ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะได้ดวงตาเห็นธรรม ดังกิเลสได้เป็นอรหันต์ แล้วแต่ผู้นับถือเอาไปปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่จะรุ่งเรืองดีไป
    คุณวิเศษอย่างที่สอง คือปลอดภัย ใครเอาไปบูชาก็ปลอดภัย อย่างที่สาม แล้วแต่ความปรารถนา จะปรารถนาหาโชคลาภก็ขอให้สมปรารถนาขอได้ทุกอย่าง ขอพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐
    และพระอรหันต์อีกจำนวนมากนับไม่ได้ที่มีพระธาตุอยู่ในองค์พระนี้ให้ช่วย ส่วนการได้ปัญญา ทางธรรม
    นั้นแล้วแต่ปรารถนา ขอให้มีปัญญาเฉลียวฉลาด คิดอะไรให้สมปรารถนาอย่างที่คิด คิดยาวสาวกว้าง ไม่คิดสั้น เห็นสั้น ที่มีเกล็ดเพชรขึ้นมาเป็นของสบายใจ เป็นการฉลองศรัทธาผู้ที่นับถือศาสนาเจริญต่อไป
    มวลสารต่าง ๆ ที่นำมาสร้างพระนี้เป็นของหายาก นำมาจากนานาทิศา เอามาจากประเทศของพระพุทธเจ้าหรือประเทศของพระอรหันต์ ธาตุทุกอย่างที่เอามาผสมก็มาจากที่ไกล อินเดีย ลังกา ประเทศไทย ถ้าจะตั้งใจไปเอามาได้หมดเงินไปหลายหมื่นหลายแสน กำลังใจกำลังแรงทีไปเอามาก็ทุ่มเทไปมากมาย ถึงแม้นพวกเราจะนำพระธาตุทั้งหมดมาทำพระอีก ก็จะได้พระผงอย่างเดิมจะทำให้เป็นปาฏิหาริย์เช่นนี้อีกทำไม่ได้ ที่มีไม่มากก็พอแสดงให้รูเหตุเท่านั้น”
    คุณวิเศษของพระผงรุ่น “พระสุปฏิปันโน”

    #จากคำบอกเล่าของผู้ที่นำไปบูชา และจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า (พ.ศ. ๒๕๓๗ -๒๕๕๐) เป็นดังที่หลวงพ่อได้บอกไว้ คือ
    ๑. ควบคุมความประพฤติให้อยู่ในกรอบที่ดีงาม ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว จะได้ธรรมะที่เฉียบแหลมยิ่งขึ้น
    ๒. ปลอดภัย ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ จะปลอดภัย ผู้ที่มีเคราะห์หนักจะกลายเป็นเบา
    ๓. ผู้ที่ทำกิจการค้าขาย เมื่อถึงจุดอับ นำพระผงไปบูชาแล้วกิจการเจริญรุ่งเรืองดี ขึ้นมาก
    ๔. ผู้ที่บูชาด้วยความเคารพ จะปรากฏพระธาตุสีขาวขึ้นเป็นองค์เล็ก ๆ ประปรายอยู่ ทั่วองค์
    ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา


    = Sold Out

    11/3/2567 EMS : ED 3176 5712 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2024
  3. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 164

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG
    P4.JPG P5.JPG P6.JPG

    A1.jpg A2.jpg A3.jpg A4.jpg A5.jpg A6.jpg

    ตะกรุดพิสมรใบลาน รุ่นแรก วัดเขาน้ำซับ
    + ยันต์พระมหาอุปคุตเถระ มหาลาภ ปราบมาร (ซองเดิม)


    #ตะกรุดพิสมรใบลาน รุ่นแรก วัดเขาน้ำซับ
    สร้างจากคัมภีร์ใบลาน ของหลวงปู่พิศดู ที่ท่านเก็บรักษาเอาไว้ตั้งแต่ปี 2502 ผ่านการอธิษฐานจิตสวดมนต์จากองค์หลวงปู่มาหลายสิบปี พระคัมภีร์ใบลานนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนแห่งพระธรรม ต่อมาหลวงปู่ท่านได้มอบให้พระอาจารย์หนึ่งไว้บูชา และเก็บรักษาไว้ประจำวัดเขาน้ำซับ

    ต่อมาคัมภีร์ใบลานดังกล่าวเกิดชำรุดตามกาลเวลา พระอาจารย์หนึ่ง จึงได้นำมาพลี สร้างตะกรุดพิสมร จารอักขระด้วยมือท่านเองทุกดอก จัดเป็นของดีที่ทรงคุณค่าในตัว และทันหลวงปู่อธิษฐานจิตยาวนานหลายสิบปี ตั้งแต่ยังเป็นคัมภีร์ใบลาน

    ตะกรุดพิสมรใบลานนี้ พระอาจารย์ท่านได้ให้พระที่วัดช่วยกันถักเชื่อกหุ้ม จากนั้นได้ลงยางรัก และคลุกผงมวลสารพุทธคุณอีกหลายชนิด และทำการปลุกเสกและเข้าพิธีพุทธาภิเษกสำคัญอีกหลายพิธี ตะกรุดพิสมรใบลาน จะมีแผ่นโค๊ตทุกดอก

    #เหตุที่ต้องสร้างพิสมรใบลาน
    เหตุที่พระอาจารย์หนึ่ง ต้องสร้างพิสมร เนื่องมาจากพระอาจารย์ท่านมีความเชื่อมั่นศรัทธาในพิสมรที่ท่านใช้ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก (เชื่อกันว่าเป็นพิสมรของวัดสะพานสูง เพราะท่านเป็นคน จ.นนทบุรี) พระอาจารย์ท่านเคยมีประสบการณ์จะๆกับพิสมร ในด้านแคล้วคลาดปลอดภัยมาหลายครั้ง ด้วยความชอบส่วนตัว จึงตั้งใจไว้ว่าอยากจะสร้างเองสักรุ่น และจะทำให้ดีที่สุด
    เมื่อปี 2565 พระอาจารย์หนึ่งได้เริ่มก่อสร้างอุโบสถวัดเขาน้ำซับ ซึ่งต้องใช้ปัจจัยอีกจำนวนมาก ท่านจึงได้ตัดสินใจสร้างตะกรุดพิสมรขึ้น โดยนำคัมภีร์ใบลานกัณฑ์เทศน์เก่า ของหลวงปู่พิศดูที่หลวงปู่เก็บรักษามาหลายสิบปี ผ่านการอธิษฐานจิตสวดมนต์จากหลวงปู่มายาวนานที่สุด มาพลีสร้าง ซึ่งตามตำราบางฉบับได้ระบุไว้ว่า ใบลาน " กัณฑ์เทศน์ " เมื่อนำมาสร้างเป็นตะกรุดหรือลูกพิสมร จะมีคุณในทางป้องกัน ด้วยชื่อของ กัณฑ์(เทศน์) มีคำว่า กัน ในความหมายทางวิทยาคม ครูบาอาจารย์บอกว่า ใช้เป็นเคล็ดในทาง กัน หรือป้องกันภัยต่างๆได้มีคุณในตัว ยิ่งกัณฑ์เทศน์ที่เคยใช้มาแล้วยิ่งดีนักถือว่าผ่านการเทศนาสวดสาธยายพระมนต์ สอนสั่งให้พุทธบริษัทตั้งมั่นอยู่ในความดีไม่ตกไปในทางที่ชั่ว พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าหลายๆท่าน จึงนิยมนำใบลานกัณฑ์เทศน์ที่ผุพังชำรุดแล้ว นำมาเผาเพื่อทำเป็นมวลสารสร้างพระ หรือนำมาลงอักขระทำเป็นตะกรุดและพิสมรให้ลูกศิษย์ได้ติดตัว อีกประการหนึ่งใบลานกัณฑ์เทศน์นั้นถือได้ว่าเป็นตัวแทนของพระธรรมซึ่งเป็นของสูงของมงคล เป็นหนึ่งในสรณะที่ชาวพุทธสักการะบูชาและประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อความพ้นทุกข์

    #อักขระคาถาที่ใช้จารในพิสมรใบลาน (ตอน 2)
    (เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)
    เมื่อพระอาจารย์หนึ่งมีความปรารถนาจะสร้างตะกรุดพิสมรด้วยใบลานกัณฑ์เทศน์(ที่หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตปลุกเสกไว้) พระอาจารย์ได้พิจารณาว่า จะต้องลงด้วยยันต์หรือคาถาบทใดถึงจะเหมาะสมและดีที่สุด เพราะก็มีอยู่หลายตำราด้วยกัน เมื่อสงสัยดังนั้นท่านจึงได้เข้ากัมมัฏฐาน ตั้งจิตระลึกถึงครูบาอาจารย์เจ้าของตำราพิสมรทั้งหลาย รวมถึงเทพเทวา ให้ช่วยบอกหรือดลใจเพื่อใช้ในการจารลงในแผ่นใบลานเพื่อสร้างเป็นพิสมร
    เมื่อพระอาจารย์ได้เข้ากัมมัฏฐานตามกรรมวิธีของท่านแล้ว ก็ได้มีเสียงหนึ่งกระซิบบอกท่านว่า " ให้ใช้คาถาพญายมราช (ปะโตเมตัง...) "
    เมื่อออกจากกัมมัฏฐานแล้ว ท่านได้ไปปรึกษาถามจากผู้มีความรู้ด้านการสร้างวัตถุมงคล ก็ทราบว่า วิชาตะกรุดพิสมรใบลาน เป็นวิชาของท่านพญายมราช ซึ่งก็ตรงกับในนิมิตที่พระอาจารย์ได้จากการเข้ากัมมัฏฐาน พระอาจารย์จึงใช้คาถาพญายมราชในการจารเป็นอักขระขอม ประกอบกับจารอักขระพระคาถาสำคัญอื่นๆลงไป โดยใช้เหล็กจารของหลวงปู่พิศดูในการลงจารในใบลานทุกแผ่น
    ซึ่งทั้งใบลานกัณฑ์เทศน์ที่นำมาพลีทำพิสมร รวมถึงเหล็กจารก็ยังเป็นของหลวงปู่พิศดู ก็เท่ากับว่าตะกรุดพิสมรรุ่นนี้ทันหลวงปู่พิศดูปลุกเสก และอาจจะกล่าวได้ว่า มีกระแสญาณบารมีขององค์หลวงปู่พิศดูบรรจุอยู่เต็มๆทุกอณูเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงผงวิเศษต่างๆที่หลวงปู่ทำและปลุกเสกเอาไว้และมวลสาร แร่วิเศษอีกมากมายที่นำมาผสมสร้างพิสมรรุ่นนี้
    #ด้านอานิสงค์ของการสวดพระคาถาพญายมราช เชื่อกันว่าภูติผีปีศาจไม่กล้าระราน ผู้นั้นจะมีตบะบารมีที่น่าเกรงขาม ใครคิดร้ายด้วยทุจริตมิชอบอิจฉาตาร้อน จะแพ้ภัยด้วยตัวเขาเอง นอกจากนี้หากหมั่นบูชาพระคาถานี้อยู่เสมอๆท่านว่าจะเป็นผู้มีความผาสุข ห่างไกลจากโรค และภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง ผู้นั้นจะมีอำนาจวาสนาดี มีอายุยืนยาว ไม่ตายก่อนอายุขัย ทั้งยังเป็นผู้มีโชคลาภโภคทรัพย์อยู่เป็นเนืองนิจ

    #กรรมวิธีการสร้างพิสมรใบลาน ของวัดเขาน้ำซับ (ตอน 3)
    อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า พิสมรใบลานรุ่นนี้ ทุกขั้นตอนทำกันภายในวัดเขาน้ำซับ ไม่ได้จ้างโรงงานให้ทำสำเร็จรูปใดๆเลย
    #เริ่มตั้งแต่.. ใบลานกัณฑ์เทศน์ของหลวงปู่พิศดู ที่ท่านเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ 2502 ผ่านการใช้เทศนาบนธรรมาสน์ และสวดมนต์อธิษฐานจิตจากองค์หลวงปู่มายาวนานหลายสิบปี ต่อมามีความชำรุดตามกาลเวลา พระอาจารย์หนึ่งจึงได้ขอพลีมาทำพิสมรดังกล่าว
    โดยการตัดใบลานให้ได้ขนาดตามต้องการ และพระอาจารย์หนึ่ง ได้อัญเชิญเหล็กจารของหลวงปู่พิศดู มาทำการจารอักขระยันต์ลงไปจนเต็มแผ่น
    จากนั้นท่านได้ใช้น้ำมันอนันตคุณ 108 (น้ำมันวิเศษประจำสำนัก ที่หุงมาจากน้ำมันวิเศษของเหล่าเกจิอาจารย์ 108 สำนัก และมวลสารอีก 108 ฯลฯ) มาทาที่แผ่นใบลานที่ลงอักขระ และฉาบด้วยผงพุทธคุณเป็นสัมทับแรก จากนั้นก็ม้วนและกรึง พันด้วยด้ายสายสิญจน์
    เมื่อได้จำนวนมากพอแล้ว ทั้งพระอาจารย์และพระลูกวัดได้ช่วยกันถักเชือกจนครบทุกดอก
    เมื่อทำการถักเชือกเรียบร้อย พระอาจารย์ได้ให้พระลูกวัดชุบยางรักแท้ เพื่อรักษาเชือกและใบลานให้แข็งแรงคงทน แล้วจึงนำมาคลุกผงพุทธคุณและแร่วิเศษอีกมากมายอีกสัมทับหนึ่ง แล้วจึงนำไปร้อยเรียงเพื่อตากให้แห้งสนิท
    แล้วจึงนำมาทำพิธีปลุกเสกตามขั้นตอนต่อไป... ซึ่งแต่ละขั้นตอนไม่ได้ทำกันอย่างง่ายๆเลย นับเป็นความวิริยะ และตั้งใจเป็นพิเศษจริงๆ สำหรับเครื่องรางชุดนี้

    #พิธีปลุกเสกพิสมรใบลาน วัดเขาน้ำซับ
    1.พิธีอัญเชิญดวงจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่พิศดู มาประจุพลังฤทธิ์ให้กับพิสมร ทำพิธีโดย พระอาจารย์หนึ่ง วัดเขาน้ำซับ
    2.พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงปู่สุข วัดหนองฆ้อ จ.ระยอง
    3.พิธีสวดพระปาฏิโมกข์ และเจริญพระพุทธมนต์ใหญ่ โดย คณะพระภิกษุทั้งอำเภอแก่งหางแมว
    4.พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล และรูปเหมือนหลวงปู่ทิม ณ #วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน โดย ครูบากฤษดา สุเมโธ และหลวงพ่อขันติ ขันติธโร
    5.พิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ใหญ่ สวดมนต์ข้ามปี วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี
    6.พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล โดย พระอาจารย์สุริยัณ #วัดป่าฉัพพรรณรังสี จ.ชัยภูมิ
    7.พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงปู่สนม #วัดพระปรางค์เหลือง จ.นครสวรรค์
    8.พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล วัดเนินโพธิ์ จ.จันทบุรี โดย พระอริยะ และเกจิอาจารย์ผู้มากด้วยวิทยาอาคมขลังหลายรูป
    9.พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงปู่อ่อง วัดธรรมสุขสว่าง(ถ้ำเขาวง) จ.จันทบุรี (ฝากไว้ 2 สัปดาห์)
    10.พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ #วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี โดย หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และพระอริยะ เกจิอาจารย์ผู้มากด้วยวิทยาอาคมขลังหลายรูป
    ฯลฯ... ฯลฯ...


    = Sold Out

    29/5/2566 EMS : ED 1336 4926 9 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2023
  4. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 165

    P1.jpg
    P2.jpg
    P3.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg

    เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) บารมีขรัวโต เนื้อทองแดง

    #ด้านหลังเหรียญยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า

    #พิธีอภิมหาพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่13วาระ

    #โดยพระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง นิตยสารศักดิ์สิทธิ์จัดสร้างปีพ.ศ.2543
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  5. สิริพงษ์

    สิริพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2017
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +350
    จองครับ
     
  6. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  7. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 166

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    เหรียญหล่อ หลวงปู่ เดินหน อิเกสาโร รุ่นเพชรยอดมงกุฎ
    เนื้อสัมฤทธิ์ ตอกโค๊ด พร้อมบัตรรับรอง

    #มีชนวนเก่าของหลวงปู่ผสมในทุกเหรียญ

    #เหรียญนี้เลี่ยมงานเลนส์วินเทจ


    = Sold Out

    22/9/2566 EMS : ED 8613 1374 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2023
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,906
    ค่าพลัง:
    +6,804
    ขอจองครับ
     
  9. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  10. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    สิริพงษ์ = ED 5601 5755 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
  11. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 167

    P1.JPG P2.JPG

    A1.jpg

    เหรียญหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ หลัง สก. รุ่นทูลเกล้า บล็อกกษาปณ์ (บล็อกนิยม)
    หลวงปู่สอ พันธุโล วัดป่าบ้านหนองแสง จังหวัดยโสธร


    = Sold Out

    28/9/2566 EMS : ED 8613 2975 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2023
  12. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 168

    P1.JPG P2.JPG

    พระนาคปรกอธิษฐาน เนื้อผงปฐวีธาตุ
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จังหวัดนครพนม

    #พระนาคปรกอธิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี42
    ช่วงนั้นหากใครไปกราบหลวงปู่คำพัน มักจะถามหาปฐวีธาตุของหลวงปู่
    ซึ่งหลวงปู่ได้ให้รับรองเองว่า “กันนิวเคลียร์ได้”
    ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่พร้อมหินกรวดแม่น้ำโขงถุงใหญ่ (4กิโลฯ)
    เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ หลังจากหลวงปู่อธิษฐานเสร็จ ได้ขอปฐวีธาตุกลับมา1กำมือ
    พร้อมเรียนถามหลวงปู่ว่า “ถ้านำปฐวีธาตุไปบดเป็นผงแล้วทำพระยังจะกันนิวเคลียร์ได้อยู่รึเปล่าครับ”
    หลวงปู่ก็ตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานซ้ำ”
    หลังจากสนทนากับหลวงปู่ซักพักจึงลาหลวงปู่กลับ
    ตอนกราบลา หลวงปู่ได้ดันถุงใส่ปฐวีธาตุกลับมาพร้อมพูดว่า “จะเอาไปสร้างพระไม่ใช่เหรอ”
    ผมจึง คิดว่าหลวงปู่คงต้องการให้สร้างพระมาถวายจึงได้นำปฐวีธาตุถุงใหญ่กลับมาทำพระ
    ซึ่งตอนนั้นผมเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยปี 1
    และแทบไม่มีความรู้เรื่องการสร้าพระเลย
    หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในวงการสร้างพระคือ
    คุณอำพล เจน ที่เป็นธุระในการเขียนยันต์ข้างหลังองค์พระซึ่งเป็นพุทธคาถาในพุทธทำนาย
    คุณเนาว์ นรญาณที่เป็นธุระในการทำแม่พิมพ์พระฯ
    และคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาพร้อมวลสารในการสร้างพระ ฯลฯ
    หลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้วซึ่งแบ่งเป็นเนื้อโรงงาน 5,000 องค์
    เนื้อเกสรซึ่งกดมือกันเองอีกหลายพันองค์ (จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ซึ่งน่าจะราว5000องค์)
    ได้ไปถวายหลวงปู่เพื่ออธิษฐานหลังวันเข้าพรรษาปี42 หนึ่งวัน
    เมื่อไปถวายหลวงปู่ได้สั่งให้เก็บไว้ก่อนท่านยังไม่อธิษฐานเดี๋ยวนั้น
    และพระได้อยู่กับท่านจนออกพรรษาได้ราว5วันจึงได้ไปถวายพระนาคปรกเนื้อเกสรอีกราว5,000 องค์ที่กดกันเองในพรรษา
    (พระที่กดในพรรษาจะบรรจุทรายคำไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์)
    โดยหลวงปู่ได้เก็บพระที่ถวายไว้ในช่วงเข้าพรรษาทั้งหมด(พระชุดแรก)ไว้ที่หัวนอนท่านตลอดพรรษา
    และระหว่างสนทนาได้เล่าถวายให้ท่านฟังถึงการทำพระที่กดมือกันเองออกมาไม่สวย
    ท่านก็เมตตาให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไรอย่างพระสมเด็จวัดระฆังก็กดมือเหมือนกัน”
    และทราบว่าพระชุดนี้หลวงปู่มิได้จำหน่ายจ่ายแจก จนผ่านไปหลายปีจึงได้ยินว่าคุณเง็กได้รับแจกมา

    #พระปรกอธิษฐาน เป็นนามที่คุณเง็ก บางลำภู
    ได้เรียกพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ของหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย
    เมื่อไปถามคุณเง็ก ถึงที่มาของชื่อจึงทราบว่า
    มีคราวหนึ่งเพื่อนคุณเง็กซึ่งรู้จักกับหลวงปู่คำพันเป็นอย่างดี
    ได้ฝากปัจจัยไปถวายหลวงปู่ เมื่อคราวที่คุณเง็กได้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด
    พร้อมกำชับให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่า เขาขอพระหลวงปู่เป็นที่ระลึกด้วย
    หลังจากคุณเง็กได้กราบเรียนหลวงปู่แล้ว
    หลวงปู่จึงหยิบพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ขึ้นมาแจกทุกคนคนละ1องค์และได้ฝากไปให้เพื่อนคุณเง็กด้วย
    โดยหลวงปู่ได้กล่าวว่า “อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา”
    ตั้งแต่นั้นมาที่พันทิพย์งามวงศ์วานก็เรียกพระรุ่นนี้ว่า พระปรกอธิษฐาน
    ซึ่งคุณเง็กเล่าว่าปรกติเวลาหลวงปู่แจกพระให้คุณเง็ก
    ท่านจะแจกเป็นกำแต่กับพระรุ่นนี้ท่านให้แค่คนละ1องค์เท่านั้น
    เป็นประกอบกับคำกล่าวของหลวงปู่คำพันที่ว่า
    อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา
    จึงเป็นเหตุให้คุณเง็กซึ่งเป็นเซียนใหญ่พระหลวงปู่คำพัน
    ได้เริ่มกว้านเก็บพระปรกอธิษฐานตั้งแต่นั้นเป็นตนมา
    คุณเง็กเล่าต่อว่าพระหลวงปู่คำพันที่คุณเง็ก มีประสบการณ์มี2อย่าง
    คือพระพุทธปฐวีธาตุและพระปรกอธิษฐาน


    #หากจะกล่าวถึงการเล่นแร่แปรธาตุแล้ว หลายท่านคงจะทราบว่ามีอยู่หลายอย่าง และหลายแบบตามแต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน จะมีวิธีและวิชาอันแก่กล้าที่สามารถเสกหรือทำของต่างๆ ให้มีความขลัง

    ด้วยบทพระเวทย์ วิทยาคม อันแก่กล้า หรือด้วย จิต กฤตยา หรือบุญฤทธิ์ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้สิ่งของนั้นๆ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครอง ให้คุณแก่ผู้ที่ศรัทธานับถือ นำไปติดตัวไว้ใช้แล้วบังเกิดสิ่งอัศจรรย์ เหนือธรรมชาติ ที่วิทยาศาสตร์อันทันสมัยในปัจจุบัน ไม่สามารถอธิบายเป็นเหตุผลออกมาได้

    ผู้ที่มีความนับถือ ศรัทธาต่อองค์ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของแห่งธาตุวิเศษ สิ่งเหล่านี้ ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "ปัจจัตตัง" คือ สิ่งเฉพาะตน

    "ปฐวีธาตุ พระเพชรแห่งแม่น้ำโขง" ปฐวีธาตุของ เจ้าคุณสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนมนี้ มีความเป็นมา ครั้งตั้งแต่ท่านยังเป็นเพียงพระภิกษุธรรมดาของชาวบ้านตำบลมหาชัย จ.นครพนม
    แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีดีอยู่ในองค์ท่าน จากการปฏิบัติธรรม ฝึกจิต ตามแนวทางกรรมฐาน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล บูรพาจารย์ใหญ่ของสำนักกรรมฐานในยุคนั้น และวิชาสายพระเวทย์ของ ปะขาวครุฑ ซึ่งเป็นสายวิชาของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ผู้โด่งดังสองคาบฝั่งโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงแรกนั้น ทหารและตำรวจในพื้นที่ ต่างทราบถึงกิตติคุณท่านดีว่า เป็นพระดี มีวิชา จากปากคำของชาวบ้าน ปากต่อปาก ทำให้ทหารและตำรวจเข้าหาท่าน และจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ ขอของดี แต่ท่านปฏิเสธไป พร้อมกับบอกว่า ท่านเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง ไม่มีอะไรจะให้ได้ นอกจากพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ทั้งกลุ่มทหารและตำรวจ จึงลาท่านกลับไป แต่ด้วยกิตติคุณและบารมีธรรมของท่าน ทำให้ทั้งตำรวจ ทหาร และข้าราชการหลายกลุ่มยังเดินทางมาพบท่าน และก็เช่นเคย คือ ขอของดีจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคล และคุ้มครอง เพราะในสมัยนั้น (ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐) บ้านเมืองยังคงเต็มไปด้วย โจร ผู้ร้าย สัตว์ป่านานาชนิด และฝ่ายที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้การทำงานของข้าราชการฝ่ายต่างๆ มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตสูง เมื่อความศรัทธาที่มีต่อท่านมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ ปฐวีธาตุพระเพชร แห่งแม่น้ำโขง

    ศรัทธาของผู้ที่มาพบท่าน และต้องการขอของดีไว้คุ้มครองตัว เมื่อมีมากขึ้น ท่านจึงเอ่ยปากจะทำของดีให้ โดยให้ชาวบ้านและเหล่าทหารที่มาพบ ไปช่วยกันนำ หิน ที่อยู่ในแม่น้ำโขงขึ้นมา ซึ่งมีอยู่หลากหลายวรรณะ สีสันแตกต่างกันออกไป หลายลักษณะ สุดแต่ผู้ใดจะเก็บมาได้แบบไหน เมื่อได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมากองรวมกันแล้ว เสกตามสายวิชาที่ท่านได้เรียนมา
    หลวงปู่คำพันธ์ ได้แจก หินเสก ให้ลูกศิษย์ ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อเกิดประสบการณ์ จากเรื่องประสบอุบัติเหตุ ที่ผู้ประสบเหตุการณ์นั้นรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์สารพัดเรื่องราว ทำให้ปฐวีธาตุ และชื่อเสียงของหลวงปู่คำพันธ์ ยิ่งขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น

    จากการบอกกล่าวของผู้รู้ทางด้านวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ ให้ข้อมูลว่า การเสก ทำของ หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหินแม่น้ำธรรมดาๆ นั้น ให้เป็นของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่จะเสกด้วยจิตอันแก่กล้า และพระเวทที่ใช้เสกปฐวีธาตุนั้น คือ มนต์คาถาชินบัญชร เฉกเช่นเดียวกันกับ ปฐวีธาตุ ของ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย
    ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ และ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต มีความเหมือนกันหลายอย่าง คือ หลวงปู่คำพันธ์เสกและตั้งเป็นองค์พระ ท่านเรียก "พระเพชร" ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านก็เสกและตั้งเป็นองค์พระเช่นเดียวกัน ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ เรียกปฐวีธาตุของท่านว่า "พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ"

    ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้"พระคาถาชินบัญชร" เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณของปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์แห่งวัดธาตุมหาชัย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุที่เย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยที่เกิดจากรังสีของความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
    ในขณะที่ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์นั้น เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตเสร็จ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์ไว้ แล้วท่านได้กล่าวกับศิษย์ว่า พระแม่ธรณีนี้วิเศษนักหนา ท่านได้อธิษฐานให้เป็นของวิเศษ ให้เป็นพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีมีคุณอันอเนกอนันต์ เปรียบดังคุณแห่งมารดา ที่รักลูกจนหาที่สุดมิได้
    ท่านกล่าวกับศิษย์ว่า รักษาไว้ให้ดี กันฟ้า กันไฟ ได้นะ กันรังสีของนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์มีจำนวนน้อยมาก เพราะท่านทำไว้ก่อนท่านจะมรณภาพเพียงไม่นาน คือ ช่วงวาระสุดท้ายของสังขารท่าน
    ฉะนั้น กรณีที่มีหลายคนมีหินแล้วบอกว่าเป็นปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรรัตน์ ขอให้ท่านใช้สติ และปัญญาแห่งชาวพุทธ พิจารณาที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ด้วย
    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์นั้น ยังพอที่จะหาได้จากผู้รู้จริง แต่ควรจะเป็นการมอบให้กัน โดยไม่มีราคาค่างวด เหตุเพราะเป็นหินนั่นเอง ลักษณะและการพิจารณา ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เสกหรือไม่เสก แท้หรือไม่แท้ แตกต่างจากพระเครื่องอย่างสิ้นเชิง
    ให้ท่านคิดดูว่า พระเครื่องที่ดูแล้วสามารถบอกได้ว่าชนิดไหน สำนักใดผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังโดนของเก๊ เลียนแบบ

    ส่วนหินแม่น้ำนั้น สามารถหยิบหาที่ไหนมาก็ได้ แล้วบอกว่า เป็นปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นำมาตั้งราคาค่างวดซื้อขายกัน โดยมิได้ทำบุญเช่าหามาจากวัด นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีศรัทธา แต่ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาแบบชาวพุทธแท้จริง ท่านอาจจะแขวนกรวดงาน หรือหินตู้ปลาที่ไหนก็ได้ นับว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
    สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณคณะศิษย์ธาตุมหาชัย ที่เอื้อเฟื้อภาพ และข้อมูล ซึ่งเป็นผู้จัดทำหนังสือ "สัมผัสแห่งอริยะ" ซึ่งถือเป็นหนังสือที่รวบรวมทุกเรื่องราวของ หลวงปู่คำพันธ์ ได้อย่างสมบูรณ์เล่มหนึ่ง


    แต่เพราะ"พระเพชร"หรือ"ปฐวีธาตุ"นั้น หากจะว่ากันโดยกายภาพภายนอกแล้ว ก็คือ"ก้อนกรวด"เราดีๆนี่เอง
    ไม่อาจ"ตอกโค้ด"หรือ"รันนิ่งนัมเบอร์"แยกของเสกกับไม่เสกได้
    ต้องได้มาจาก"แหล่งที่เชื่อถือได้"เพียงสถานเดียวเท่านั้น จึงจะวางใจได้ว่า ไม่ได้เอากรวดตู้ปลา หรือกรวดก่อสร้างเปล่าๆมาห้อยให้หนักคอ หนักใจแท้ทีเดียว

    ด้วยเหตุนี้ จึงคณะศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ จึงได้นำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นองค์"พระเครื่องพระบูชา"เป็นหลายรุ่นหลายแบบด้วยกัน เพื่อตัดปัญหาดังกล่าวให้สิ้นไปโดยปริยาย อันเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด น่าอนุโมทนาสาธุการด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    หนึ่งใน"พระผงพระเพชร"ของหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัยที่หลวงปู่ท่านสั่งให้สร้างไว้ด้วยองค์เอง ซึ่ง"พุทธวงศ์"รู้เห็น,ช่วยเหลือในการจัดหาแม่พิมพ์มาตั้งแต่ต้น ที่ใคร่จะขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานสืบไปก็คือ"พระนาคปรกอธิษฐาน" ที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"แจกยาก"ที่สุดชุดหนึ่งเลยนั่นเทียว..!!?!

    แต่ก่อนที่จะเล่าล้วงลูกลึกไปถึงปฐมเหตุแห่งการจัดสร้างอันมีที่มาที่ไปค่อนข้างจะผิดแผกจากปกติภาพทั่วไป ก็ใคร่ขอพูดถึงเรื่องของพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ชุดนี้ก่อนสักเล็กน้อย
    แต่แรกสร้าง ก็ไม่ตั้งชื่อวิจิตรพิศดารอะไร นอกจากจะเรียกหาตามรูปลักษณ์อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่เพียงว่า "พระนาคปรกใบโพธิ์" เท่านั้น
    จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ"เง็ก บางลำพู" เซียนพระสายเจ้าคุณนรรัตน์ฯและหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรกๆ ซึ่งนับถือหลวงปู่คำพันธ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างยิ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกราบหลวงปู่ถึงวัดธาตมหาชัย อันเป็นกิจวัตรที่คุณเง็กได้กระทำมาโดยตลอด แทบไม่มีการว่างเว้นเลยแม้สักเดือนเดียว
    ในฐานที่เป็นศิษย์เก่าแก่ที่เคารพนับถือกันมานาน หลวงปู่คำพันธ์มักจะหยิบพระเครื่องรางให้คุณเง็ก บางลำพูทีละ"เป็นกำเป็นหอบ"เป็นของฝากจากนครพนมไปแจกจ่ายคนที่กรุงเทพอยู่เสมอๆ
    แต่มาคราวนี้ การกลับไม่เหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจ
    เพราะหลวงปู่คำพันธ์ หยิบ"พระนาคปรกใบโพธิ์"ให้คุณเง็กเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น..!!!!
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่ หรือองค์ที่สิบยี่สิบเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว..!?!?
    ยิ่งไปกว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์ยังสั่งกำชับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วยว่า
    "ปรารถนาอยากได้อะไร ลองอธิษฐานดูได้น๊ะ..!!??"

    ด้วยเหตุแห่งคำสั่งของหลวงปู่คำพันธ์ดังกล่าวข้างต้น "พระนาคปรกใบโพธิ์" จึงมีอันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ไพเราะและแฝงไว้ด้วยความนัยที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ด้วยประการฉะนี้ฯ

    สำหรับปฐมเหตุแห่งการอุบัติแห่ง"พระนาคปรกอธิษฐาน"รุ่นนี้ เกิดจาก"บอล" เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 1 (ประมาณปี 2541)ซึ่งสนใจศรัทธาพระสายกรรมฐานเป็นพิเศษได้ให้เพื่อนไปหา"กรวดแม่น้ำโขง"ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมให้ถวายให้หลวงปู่คำพันธ์เสกเพื่อเอาไว้"กันนิวเคลียร์"ตามกระแสนิยมในยุคนั้นที่สถานการณ์บ้านเมืองและโลกค่อนข้างที่จะร้ายแรง เสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่มิใช่น้อย โดยเมื่อเสกเสร็จ "บอล"ก็กราบเรียนถามหลวงปู่คำพันธ์ทีเดียวว่า
    "หลวงปู่ครับ ถ้าเอาปฐวีธาตุนี้ไปบดสร้างเป็นองค์พระแล้ว จะกันนิวเคลียร์ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ..???"
    หลวงปู่คำพันธ์ตอบทันทีว่า
    "ได้..!!!!"
    แต่...
    "ต้องเอามาให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกทีหนึ่งน๊ะ..!!!!"

    และภายหลังจากที่ได้สนทนาธรรมกับท่านจนพอสมควรแก่กาลเวลาอย่างยิ่งแล้ว ก่อนที่จะลาหลวงปู่คำพันธ์กลับ "บอล"ก็ล้วงเอาปฐวีธาตุออกจากถุงมากำมือหนึ่งด้วยหมายใจจะนำไปแจกจ่ายเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนท่านว่า
    "ปฐวีธาตุส่วนที่เหลือ ผมขอถวายหลวงปู่นะขอรับ..."
    ในทันใด สิ่งที่ไม่คาดคิดก็พลันเกิดขึ้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ผลักถุงปฐวีธาตุทั้งหมดนั้นออกมา พร้อมกับออกปากทีเดียวว่า
    "เอ้า..เอาไป จะเอาไปสร้างพระมิใช่หรือ..??!!??"
    และนี้เอง ก็คือปฐมเหตุแห่งการสถาปนา"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตามรูปแบบภายนอกทั่วไปแล้ว ไม่น่าจะมีความสลักสำคัญอันใด ด้วยเป็นเพียง "พระเครื่องเด็กสร้าง" เท่านั้น...
    แต่ไปๆมาๆ "พระนาคปรกอธิษฐาน"กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งในพระเครื่องดีที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"โปรดปรานสงวนรักษา"มากที่สุดชุดหนึ่งในกาลต่อมาอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
    เพราะหากไม่นับ"ศิษย์ต้น"ที่ตามปกติ หลวงปู่จะเทย่ามแจกพระให้ทีละเป็นกำเป็นหอบเป็นปกติอย่าง"เง็ก บางลำพู" แต่ท่านกลับให้เพียงองค์เดียวอย่างน่าฉงนอย่างที่กล่าวไว้แต่เบื้องต้นแล้ว ที่สุด แม้แต่"นายทหารชั้นผู้ใหญ่" บรรดาศักดิ์สูงท่านหนึ่งไปกราบท่าน แทนที่จะให้พระเหรียญพระกริ่งพระบูชาราคาสูงๆมาแจกให้สมกับศักดิ์ศรีทหารใหญ่อย่างที่น่าจะเป็น
    แต่คราวนั้น หลวงปู่คำพันธ์กลับเลือกหยิบ"พระนาคปรกอธิษฐาน"นี้ให้ทหารไทยใจหาญเพียง"โดดๆ"องค์เดียว..!!!???
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่นอกเหนือจากนี้เป็นอันเด็ดขาด
    และแม้แต่"ศิษย์ใกล้ชิด"คนอื่นๆ หลวงปู่ท่านก็มิได้แจกพร่ำเพรื่อแต่อย่างใดทั้งสิ้น
    แต่ท่านจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่"นับถือกันจริง"แต่เพียง"สถานเดียว"และเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น
    "สงวนรักษา"อย่างยิ่งถึงขนาดนี้จริงๆ......

    และภายหลังจากที่ได้รับคำประกาศิตจากหลวงปู่คำพันธ์มาเช่นนั้น "บอล"จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษาในการสร้างกับ"พุทธวงศ์" ซึ่งเคยได้กราบไหว้ใกล้ชิดท่านมาบ้าง ทำให้รู้ถึงความเป็น"พระดีพระเก่ง"อย่างครบเครื่องแห่งท่าน จึงยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อมกับได้จินตนาการดำริเสนอไอเดียไปว่า
    "อันหลวงปู่คำพันธ์นี้ ทราบมาว่าท่านมีความเกี่ยวข้องกับพญานาคอย่างยิ่ง (บางท่านว่า ท่านเคยเป็นพญานาคผู้มีศักดิ์ใหญ่และมีฤทธิ์มากมาแต่ชาติปางก่อน) แม้ปฐวีธาตุในสายของท่าน ก็เกี่ยวข้องกับพญานาคอยู่ด้วย จึงเห็นควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์นาคปรก เห็นถ้าจะเหมาะจะควรที่สุดเป็นแน่..."

    และยังทราบความเพิ่มเติมมาอีกด้วยว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ยังได้เคยกล่าวพยากรณ์เรื่องราวบางประการไว้กับผู้ใกล้ชิดเมื่อครั้งกระนั้น แต่มีเนื้อความที่มาสอดคล้องเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่คำพันธ์อย่างพอดีน่าอัศจรรย์ยิ่งอีกด้วยว่า
    "พระรูปเหมือนใบโพธิ์อันโด่งดังของท่านนั้น ต่อไปจะมีพระเกจิคณาจารย์สร้างตามแบบอย่างกันมากมาย แต่จะไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่า ยกเว้นจะมีพระทางภาคอีสานองค์หนึ่ง และพระองค์นั้นจะต้องเสกปฐวีธาตุได้ด้วยฯ"
    ด้วยเหตุดังกล่าวแม้นี้ พระนาคปรกที่จะทำ ก็ควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์"ใบโพธิ์"ด้วย จึงจะสอดคล้องต้องกับคำพยากรณ์ของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯเมื่อครั้งกระนั้นไม่ผิดคำอย่างแท้ทีเดียว......

    อาจเป็นเพราะได้กระทำการอันคล้อยตามกับ"มติสวรรค์" ตามสุภาษิตจีนบทหนึ่งที่ว่า "คล้อยฟ้าดินรุ่ง ขืนฟ้าดินดับ"เช่นนี้ ผลลัพท์จึงออกมา"เกินควรเกินค่า"กับความที่เป็น"พระเด็กสร้าง" จนที่สุด ได้กลายเป็นของดีที่พระอริยสงฆ์ระดับหลวงปู่คำพันธ์"เมตตาโปรดปราน"และสงวนเก็บรักษาหวงแหนใส่ใจเป็นกรณีพิเศษตราบจนมรณภาพ ละม้ายแม้นกับกรณีของ"เหรียญเมตตาหลวงปู่สิม" ที่ก่อน" นิพพาน"ไม่เท่าไร หลวงปู่สิมก็ยังปรารภถึงด้วยความพึงใจอยู่ แทบไม่มีข้อแตกต่างกันเลยแม้เพียงนิดเดียว....

    อนึ่ง ยิ่งหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ยังได้เคยกล่าวชมเชยหลวงปู่คำพันธ์กับคุณสุธันย์ สุนทรเสวี นักสร้างพระมือดีแห่งสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงครามมาแต่ครั้งกระโน้นอีกด้วยว่า "หลวงปู่คำพันธ์ที่นครพนมนั้น เก่งเรื่องธาตุน๊ะ"ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการันตีรับรองความ"เก่งแท้แน่จริง" แห่งหลวงปู่คำพันธ์ให้เป็นที่แจ้งประจักษ์อย่างสิ้นสงสัย
    เพราะรู้อยู่แก่ใจดีว่า ย่อมเป็นการที่ยากยิ่งนักที่หลวงปู่สิมจักกล่าวยกย่องสรรเสริญหรือชมเชยผู้ใดหรือพระไหนได้ง่ายๆ หากไม่"สุดยอด"อย่างแท้จริง จริงๆ
    แต่หากลองได้"ออกปาก"รับรองแม้เพียงคำครึ่งคำ ประโยคครึ่งประโยคแล้วไซร้ ก็ไม่มีใดต้องสงสัยตลอดชั่วกัปกัลป์เลยนั่นเทียว....
    ซึ่งก็ทำให้"พุทธวงศ์"พลอยได้ซึมซาบและติดอุปนิสัย"เอาแต่ของดีจริงถึงดีที่สุดเพียงสถานเดียว"ของหลวงปู่สิมมาอย่างสนิทจนแก้ไม่ออก ลบไม่หายตราบเท่าถึงวินาทีนี้ด้วยเช่นกัน


    แต่แม้กระนั้น ก็ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่า ในกาลต่อมา จะได้มีวาสนามีส่วนในการสร้าง"พระนาคปรกอธิษฐาน" ในรูปแบบและเนื้อหาที่"ลงตัว"ด้วยเหตุทุกสถาน อันเป็นการสืบสานคำพยากรณ์"เจ้าคุณนรรัตน์" ผนวกกับคำการันตีจาก"หลวงปู่สิม" กับรุ่นน้องร่วมอุดมการณ์ถวายหลวงปู่คำพันธ์อย่างถึงที่สุดเห็นปานนี้ได้....
    "นึกไม่ถึง"มาก่อนเลยจริงๆ............

    และต่อไปนี้ คือ"ลำดับผลการดำเนินงาน"แห่ง "พระนาคปรกอธิษฐาน" ของ"บอล" ที่ได้ทำรายงานมานำเสนอ จึงขอนำมาโพสต์ไว้เป็นจดหมายเหตุหลักฐานสืบไปเมื่อหน้าต่อไปเลยทีเดียว...
    "....ต่อไปนี้ เป็นการโม้ส่วนตัว สำหรับพระ Perfect ชุดนี้ ซึ่งมีองค์ประกอบที่ทำให้พระชุดนี้ Perfect ก็คือ
    1.เป็นรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์เมตตาสั่งให้ทำเอง
    2.เป็นรุ่นที่ใช้ปฐวีธาตุผสมมากสุดๆ (ปฐวีธาตุเกือบ 4 กิโลกรัม(4,000 กรัม)ต่อพระขนาดปลายนิ้วก้อยเพียง 5,000 องค์)
    3.เป็นรุ่นที่รวมพลังกันนิวเคลียร์ไว้ถึง 3 ประการ คือ
    3.1 , ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
    3.2 , พระหลวงปู่ทวด พิธีเปิดโลกชำรุดถึง 20 องค์(บดใส่เฉพาะพระนาคปรกอธิษฐานเนื้อดำ)
    3.3 , ด้านหลังประจุยันต์พุทธคาถาจากพุทธทำนายของหลวงปู่คำพันธ์เอง
    4. เป็นรุ่นที่ใช้เนื้อพิเศษมากๆ โดยเฉพาะชุดเนื้อดำ ได้ผสมพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง(มีผงเก่าของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เจ้าตำรับชินบัญชรคาถาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่เป็นอันมาก
    5.เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ เพื่อแจกเท่านั้น ทั้งยังได้แยกบล็อคออกจากกันมิให้ทำซ้ำได้อีก โดยบล็อคด้านหลังได้นำถวายให้หลวงปู่คำพันธ์ท่านเก็บรักษาไว้ด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
    6.องค์เสกเป็นผู้ทรงทั้งวิชาและวิมุติ แถมยังเก่งเรื่องธาตุเป็นพิเศษ การทำให้พลังจากผงปฐวีธาตุที่บดสร้างกระจายไปทั่วและโดดเด่นออกมาได้ จึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ยิ่งท่านมีเวลาเสกนานถึง 3 เดือน จึงไม่ต้องบรรยาย
    7.เป็นรุ่นที่หลวงปู่ท่านเมตตาสั่งเองให้เก็บไว้กับท่าน 1 ไตรมาสก่อน
    8.สำหรับเนื้อที่กดกันเอง(สีดำ) ใช้น้ำมนต์หลวงตามหาบัวเพียวๆในการนวดเนื้อ
    9. ฯลฯ

    สำหรับ Ball จึงถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงสุดๆที่ทำมา สำหรับ Ball เองไม่ได้รู้จักหลวงปู่คำพันธ์เป็นการส่วนตัว แม้ปัจจุบัน(พ.ศ. 2542) ท่านก็ยังจำหน้า Ball ไม่ได้เลย นับเป็นโชคอย่างยิ่งที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านเมตตาให้ได้ทำบุญใหญ่เช่นนี้
    และต้องขอขอบพระคุณพี่เนาว์ที่เมตตาเป็นธุระในการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึงร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ขออนุโมทนาครับ......."

    หมายเหตุ , มีผู้ฝึกสมาธิท่านหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกันมานานได้ลองตรวจพุทธคุณของพระนาคปรกอธิษฐานรุ่นนี้ดู ปรากฏผลเป็นที่น่าสนใจมาก จึงเห็นควรนำมาเสนอเพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาแก่ผู้ที่มีวาสนาได้ไว้สักการะบูชาสืบไป.....
    "พระนาคปรกอธิษฐานนี้ สัมผัสครั้งแรก จะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความร้อนฝ่ายอิทธิฤทธิ์แผ่ซ่านออกมาก่อนเลย แต่พอยิ่งเข้าสมาธิลึกเข้าๆ ก็จะปรากฏกระแสเย็นปรากฏขึ้นมาแทน จึงอาจที่จะกล่าวได้ว่า พระองค์นี้ ถึงพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ครบถ้วน...!!!!"
    "และในนิมิต ยังพบด้วยว่า ในพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้ จะได้มีพญานาคเพียงตัวเดียวหรือจำพวกเดียวก็หามิได้ แต่มีพญานาคหลายจำพวกด้วยกันเข้ามาอยู่รวมกันเต็มไปหมด เท่าที่เห็นก็มีพญานาคสีทอง,สีเขียว,สีนิล,สีน้ำเงิน เลื้อยเข้ามาพันไปหมดทั้งตัว พลังนี้ซ่านขึ้นหัวไปเลย...!!!"

    "นอกจากนี้ ยังเห็นกระแสพลังใสสว่างอย่างไม่มีประมาณ 2 สายวิ่งเข้ามาเชื่อมถึงกัน ก่อนจะม้วนตัวเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตร แล้วเปลี่ยนสภาพเป็นดวงใสสว่าง และพลังแห่งพุทธะก็ได้แสดงออกมาในรูปของพระพุทธรูปแก้วใสผุดขึ้นมาจากดวงใสนั้นอีกทีหนึ่ง...

    ได้ทราบมาว่า "ปฐวีธาตุ"ปกติเพียงหนึ่ง จะมี"พญานาค"ประจำอยู่แบบ"1 By 1" ก็ยังมีอิทธานุภาพใหญ่ยิ่งดังกล่าวข้างต้นเห็นปานนี้
    ก็แล้ว"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตรวจพบว่า ไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่มีพญานาคอยู่ถึง 4 ตระกูลใหญ่ จำนวนนับไม่ได้ปรากฏอยู่ภายในดังกล่าวข้างต้น จะทรงกฤษฏาภินิหารสักเพียงไหน คงไม่จำต้องอธิบาย
    นี้จึงเป็นการเฉลยความลับสวรรค์ที่หลายๆคนหลายๆท่านข้องใจสงสัยกันมานานว่า ทำไมหลวงปู่คำพันธ์จึง"สงวนรักษา"ในพระนาคปรกอธิษฐานที่ภาพลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงพระ"เด็กสร้าง"ชุดนี้อย่างผิดปกติธรรมดา ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยนำมาแจกเป็นของขวัญในงานรับปริญญาเป็นกำๆยังกับของโหลของสนามนับเป็นร้อยๆ ทำเอา"นายพล"ท่านหนึ่ง เมื่อได้มาเห็นเข้าถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะขนาดตัวท่านเองเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์ยังให้มาแค่"องค์เดียว"เท่านั้นเห็นเพียงนี้ได้.....

    "พญานาค" เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นสัตว์ในวรรณคดีด้วย และไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา แบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
    1.ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
    2.ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
    3.ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
    4.ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

    พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก
    เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

    หมายเหตุ 2, พระนาคปรกอธิษฐานที่ทำการตรวจพุทธคุณในครั้งนี้ เป็น"เนื้อธรรมดาสีนวล"เท่านั้น
    หมายเหตุ 3 ,แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ในความแม่นยำในการตรวจพลังในคราวนี้ ก็อยู่ตรงที่พระองค์ที่ว่านี้ ได้มีการตรวจพบแต่เบื้องแรกว่า มี"พลังงานพิเศษ"บางอย่าง มีลักษณะเป็นดวงสว่างแทรกอยู่ด้วยอย่างน่าประหลาดใจ
    เป็นพลังอะไรที่"ไม่เหมือน"กับพลังของหลวงปู่คำพันธ์ แต่ใสสว่างใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์
    เมื่อได้ฟัง "พุทธวงศ์"ก็ได้แต่อมยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนที่จะเฉลย"ความลับ"ประการหนึ่งให้ฟังทันทีว่า ก่อนที่จะนำพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้มาตรวจเพียงหนึ่งวัน "พุทธวงศ์"ได้ตั้งใจที่จะนำไปถวาย"พระ"องค์หนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากเรื่องการ"ดูจิต" (ขอสงวนนามไว้ในฐานที่เข้าใจ) ซึ่งเคยทราบว่า ท่านเคยไปกราบและเรียนกรรมฐานจากหลวงปู่คำพันธ์มาแต่ก่อนเป็นอนุสรณ์
    ขณะที่ได้พบกับพระสายดูจิตองค์นั้นนั่นเอง โดยในมือพนมไหว้นั้นมี "พระนาคปรกอธิษฐาน"อยู่ภายใน พระสายดูจิตองค์นั้นเมื่อเดินผ่านมา ก็เอื้อมมือมาจับมับเข้าที่ข้อมือของ"พุทธวงศ์"ทันที เป็นนัยให้ตามท่านเข้าไปสอบถามเรื่องธรรมะเป็นการเฉพาะอย่างไม่นึกฝันมาก่อน
    นี้จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจไม่ถวายพระนาคปรกอธิษฐานองค์"ในมือ"นี้เสียดื้อๆอย่างนั้นนั่นแหละ
    เพราะถือว่าเป็นกรณีพิเศษว่า ลำพังคนทั่วไปจะมีโอกาสได้คุยกับ"หลวงพ่อดูจิต"องค์นี้เพียงคำครึ่งคำก็แสนยาก
    แต่นี้ท่านคว้าข้อมือไปคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้ ก็นับเป็นวาสนาอย่างสุดๆไปถึงเพียงไหน คงไม่ต้องอธิบาย
    พูดอย่างติดตลกได้ก็คือ วันนั้นทั้งวัน แทบไม่อยากจะอาบน้ำล้างไม้ล้างมือเลยทีเดียว!?!?

    ประมาณว่า กลัว

    "ละอองมือ"แห่งท่านจะหายไปจากตัวนั่นแล

    แต่จุดหลักใหญ่ใจความที่จะหมายจะเล่าในที่นี้ ก็คือว่า ชั่วเสี้ยววินาทีที่"หลวงพ่อดูจิต"จับข้อมือของ"พุทธวงศ์"เพียงแว่บเดียว กระแสพลังแห่ง"ปราณ"และ"ธาตุรู้"อันเข้มแข็งแห่งท่านยังสามารถไหลแทรกเข้าไปปรากฏใน"พระนาคปรกอธิษฐาน"จนมีการตรวจพบเป็น"พลังงานพิเศษ"ทั้งๆที่มิได้มีการบอกกล่าวมาก่อนได้อย่างไม่ผิดพลาด เห็นปานนี้
    ก็แล้ว "พญานาค"ถึง "4 ตระกูลใหญ่" จำนวนนับไม่ได้ ซึ่งเป็น"พลังงานหลัก"ของพระนาคปรกอธิษฐานที่หลวงปู่คำพันธ์ได้บรรจงเสกประจุนานถึงไตรมาส 3 เดือนที่ปรากฏในสมาธิ จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ไฉน ก็ขอท่านทั้งหลายได้โปรดใช้วิจารณญาณวินิจฉัยกันเอาเองเทอญฯ

    เครดิตข้อมูล : "เนาว์สถิตย์"


    = Sold Out

    2/6/2566 EMS : ED 5601 9349 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2023
  13. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    shaj = ED 1336 4926 9 TH ขอบพระคุณครับ
    พิมพา (นอกเว็ป) ระยอง = ED 1336 4924 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
  14. ฅนคลองหลวง

    ฅนคลองหลวง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,571
    จองครับ
     
  15. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  16. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รายการที่ 169

    P6.JPG P7.JPG P1.jpg P2.jpg P3.jpg

    P5.JPG

    พระชัยวัฒน์เพชรกลับ รุ่นฉลองชัย ปีพ.ศ.2541

    เนื้อทองม้าฬ่อ บรรจุเม็ดปัถวีธาตุ โค๊ต ด้านหลัง สร้าง 599 องค์

    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) จังหวัดสุรินทร์

    #องค์นี้เลี่ยมกรอบกันน้ำ พร้อมถักเชือกสวยงามครับ


    = Sold Out

    19/9/2566 EMS : ED 8143 5195 3 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2023
  17. ฅนคลองหลวง

    ฅนคลองหลวง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,571
    โอนแล้ว ที่อยู่ทางข้อความครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    รับทราบการโอนครับ วันนี้จัดส่ง EMS ให้ครับ ขอบคุณครับ
     
  19. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,280
    ค่าพลัง:
    +4,562
    วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    ฅนคลองหลวง = ED 5601 9189 8 TH ขอบพระคุณครับ
     
  20. sumobaimon

    sumobaimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,495
    ขอจองครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...