พระพรากของเขียวเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

พระพรากของเขียวเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน



ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ วันที่หนูไปทำความสะอาดที่วัด หนูเห็นหญ้ามันรกก็เลยถอน อย่างนี้จะเป็นอาบัติไหมคะ ?

หลวงพ่อ : ฆราวาสถอนหญ้ามันเป็นอาบัติที่ไหนเล่า นั่นเป็นเรื่องของพระเขา จะมาแย่งอาชีพพระ มันเกินไปละ ปัดโธ่เอ๊ย

พระที่เขาดายหญ้าเพื่อทำประโยชน์ยังไม่เป็นอาบัติเลย แต่ทำเล่นไม่ได้ ต้องการทำอย่างเดียวเพื่อให้ที่สะอาด ไม่ต้องการให้รกสถานที่

แต่ว่าทำเพื่อเล่นมันก็ไม่ถูกตามลีลาของพระ อย่างทำต้นหญ้าขาดหรือตั้งใจดึงเล่นให้ขาด ยังเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้

อย่างท่านเอกตรปัตนาคราช หรือ พญาเอกตรปัตนาคราช เดิมทีท่านเป็นพระสมัยพระพุทธกัสสป ท่านไปจำพรรษาอยู่เทือกเขาชายทะเล เวลานั้นคนมีอายุ 40,000 ปี ท่านบวชและจำพรรษาภาวนาอยู่ 20,000 ปี และได้เป็นผู้ทรงฌาณโลกีย์ ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า

วันหนึ่งท่านไปอาบน้ำที่ชายทะเล เรือสำเภาก็แล่นมาแล่นช้าๆ เรือสำเภามีตะไคร่น้ำยาว ก็เลยโผตัวไปเกาะตะไคร่น้ำ เรือสำเภาก็ลากไป แต่ว่าตัวมีน้ำหนักสูง ตะไคร่มันก็หลุด ชื่อว่าพรากของเขียวให้พ้นจากที่ เป็นอาบัติปาจิตตีย์

เพราะอาศัยเป็นอาบัติเพียงเท่านี้ และท่านอยู่องค์เดียว ไม่มีที่แสดงอาบัติเวลาตายจิตก็ข้องในอาบัติที่เป็น ตายแล้วแทนที่จะเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม เพราะเจริญพระกรรมฐาน ท่านต้องไปเกิดเป็นพญานาคราช มีนามว่า เอกตรปัตนาคราช

เอกตรปัต เขาแปลว่า ตะไคร่น้ำ รุ่มร่ามๆเหมือนตะไคร่น้ำ

แต่ว่าอาศัยที่เจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐานมานาน จึงมีสภาพเป็นทิพย์ มีที่อยู่เป็นทิพย์ มีอาหารเป็นทิพย์

พญานาคจัดเป็นสัตว์พิเศษแต่ก็จัดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ตัดความเป็นพระอริยเจ้า

อย่าลืมนะ พระพรากของเขียวเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าชาวบ้านไม่เกี่ยวนะ ชาวบ้านไม่เป็นไม่บาป


(จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2524 หน้า 79-80)