เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวัสดียามเช้าจากอุทัยธานีค่ะ

วันนี้มุแวะใส่บาตรเตรียมยาแก้ปวดเมื่อยแบบสเปรย์พ่นและแบบทา ถวายหลวงตาที่เจอบังเอิญตอนเช้า ก่อนแว่บเดินเล่นริมน้ำสะแกกรัง มุแวะทักทาย คนหลายคนในตลาด เดินทางแบบงง ๆ เนื่องจากสอนเสร็จเลิกสองทุ่ม แล้วรีบขึ้นรถจากกรุงเทพ มาถึงที่นี่เข้าพัก เกือบเป็นเช้าวันใหม่อีกวัน เอาฮานะคะ มุว่าคราวนี้ ทั้งน้อง Laptop และ ฺBluetooth Speakers คงได้บุญด้วย ก็นึกภาพขำๆ ละกันค่ะ

@suthamma อยากจะบอกว่ามุเคยแต่งชุดขาวแบกธนูไม้ กับไม้เท้ามาแล้ว คราวนี้มุก้าวหน้าถึงขั้นเอาลำโพงแบบ sound bar มาด้วยเลยค่ะ หนักกว่าเดิม พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีความบ้าระดับหนึ่ง

@ทำจิตให้ว่าง ขอบคุณนะคะที่ทำให้อาจารย์ธรรมดาอย่างมุ สนใจการเข้าห้องอัด จนมุใช้วิชาเสียงปัญญาประดิษฐ์ เพื่อทำสื่อการสอน

มุไม่ได้คิดเลยว่าหลายครั้งที่มุมีปัญหา มุพบว่ากระทู้ของคุณลุง @wanwi นั้นทรงพลังมากแค่ไหน หรือกลายเป็นพื้นที่ให้มุเติบโต แบบช้า ๆ และงดงาม คุณปัญหาหรือเจ้ากรรมนายเวรไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ มุถึงขั้นหนีมาชาร์จแบต เรื่องแปลกคือเวลาเจออุปสรรคใหญ่ ๆ มุก็จะได้รับโอกาสก้าวหน้าสูงขึ้นตามไปด้วย เช่นทำงานกับทีมนักวิจัยชั้นนำต่างประเทศ จนมุแปลกใจว่า สิ่งที่มุเจอมาเพื่อ.... แล้วกรอกตามองบน ฮา นี่มุเองก็บ้าพอชนิดที่ว่า ตื่นเช้ามา พลางขำ ๆ ตัวเองว่า ชั้นมาทำอะไรที่นี่ แถมมีเพื่อนฝากซื้อขนมปังสังขยา ฮา

ระหว่างทานก๋วยจั๊บหมูแดง ริมแม่น้ำ มุได้ยินพระท่านพูดว่าเมื่อเจอปัญหา เป็นธรรมดา บทสนทนาเรียบง่ายคุยกับคนขาย เออมันก็จริง ยาที่มุติดมา ได้ถวายให้กับพระชราไป เนื่องจากเห็นท่านเดินใช้ไม้เท้า จังหวะก้าวย่างท่าน ทำให้มุรู้ในทันทีว่า ทุกย่างก้าว ฝ่าเท้าของท่านเป็นจังหวะ ราวกับคนภาวนาไป และก้าวไปอย่างมีสติ

มุได้แต่ร่วมบุญและเจอขบวนพาเหรดบุญ เนื่องจากที่วัดในจังหวัดมีงานหล่อหลวงปู่ทวด เดาว่าวันนี้คงไม่ได้ทวนกรรมฐาน นอกจากกราบหลวงพ่อและนั่งสมาธิริมแม่น้ำ ใต้กุฏิเก่าของครูบาอาจารย์ ปัจจุบันบูรณะใหม่จนงามนัก

มุแวะมาส่งข่าวค่ะ เนื่องจากคุณลุงทราบว่ามุป่วยและรอผลการตรวจอยู่ รอลุ้นผลน้องปฺู มุเจอหมอเลื่อนผลเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวค่อยมาส่งข่าวค่ะ

 

เช้าวันอาทิตย์ ประสิทธิผลกับการบุญข้างถนน ได้ร่วมอนุโมทนาก่อนเพล เป็นบุญทันใจให้เป็นวันหยุดที่งดงาม

 

ด็อกเตอร์แบกบุญจากอุทัยมาฝาก ก็ต้องรีบโมทนาตามในทุกบุญที่ได้กระทำเช้านี้เช่นกัน อุตส่าห์แบกเครื่องไม้เครื่องมือหนักอึ้งติดตัว แถมยังนำบุญเผื่อแผ่ ก็ต้องขอบคุณมากๆ

เรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ขออาราธนาบุญที่ทำไว้มากมาย ช่วยให้ผลออกมาในทางที่ดี กินปูแก้เคล็ดไปแล้ว "น้องปู" ก็คงไม่มากล้ำกราย

เดินทางไป-มาปลอดภัย ชาร์จแบตฯแล้ว ไปลุยงานหนักงานเบาต่อไปด้วยหัวใจนักสู้ครับ

 

ภาพนัองเรย์เช้านี้สดใสมาก
และงามมากเช่นกัน แถมกวี...

**ริมฝั่งน้ำ...ล้ำเลอเลิศ
ม่านฟ้าเปิด..เฉิดฉายฉาน
ผ่านมุมมอง..ผ่องสะคราญ
จินตนาการ..วิมานเทวินทร์!

 

"หลวงพ่อพ่วง" วัดกก 2473
จันทร์ลอยกรุเพดานโบสถ์!
===============

พระเนื้อดินเลื่องชื่อของเมืองหลวงมีไม่มากนัก เท่าที่พอนึกออกก็ "กรุวัดราชนัดดา" ส่วนที่เกจิดังสร้าง และบรรจุกรุก็แทบนับไม่ครบนิ้วทั้ง 5 บนมือ

พระกรุ "หลวงพ่อพ่วง วัดกก" บรรจุบนเพดานโบสถ์ จึงเป็นหนึ่งเนื้อดินที่ถือว่า เด่นดังระดับ "พระหลัก" ของเมืองกรุง!

หลวงพ่อพ่วง เป็นยอดเกจิยุคก่อนสงครามโลกที่เลื่องชื่อลือนามมานาน

--เป็นพระกรรมวาจาจารย์ "หลวงปู่ไปล่ วัดกำเพง" เจ้าของเหรียญหล่อจอบเมืองกรุงแพงที่สุด!!!
--เป็นอาจารย์ หลวงปู่ไปล่ วัดกำแพง และพระดังอีกหลายรูปรวมทั้ง หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ที่มีชื่อเสียงรุ่นหลังไม่เสียชื่อครูบาอาจารย์
--เป็นพระที่ "ท่านเจ้าคุณเฒ่า-หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง" ยกย่องว่า...เยี่ยมยุทธ!!!
--เป็นพระอุปัชฌาย์ รูปที่ 2 ของชาวฝั่งธนฯ ในสมัยที่มีเพียง "เจ้าคุณเฒ่า" หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังเพียงรูปเดียวอยู่นาน

เกียรติประวัติ หลวงพ่อพ่วง วัดกก ยังมีอีกมาก ทั้งการสร้างวัด อุปถัมภ์พระศาสนา สร้างความเจริญรุ่งเรืองเหลือคณา

พระเนื้อดินบรรจุกรุเพดานโบสถ์ หลวงพ่อพ่วง ระดมพระ-เณรในวัดสร้าง ปี 2472 ตามจำนวนพระธรรมขันธ์ 84,000 องค์ มีทั้งหมด 24 พิมพ์

ท่านผสมผงพุทธคุณคลุกเคล้าครบถ้วน แล้วเผาแบบสุมไฟแกลบ พระทุกองค์จึงมีสีสันเนื้อหาไม่เท่ากัน ทั้งทูโทน 2 สี และ ดำ เหลือง เทา แดง เป็นชุดพระที่จัดว่า "คลาสสิค"มากรุ่นหนึ่ง แถมยังเนื้อหาสะอาด เพราะบรรจุอยู่บนเพดานโบสถ์ ไม่ได้ฝังดิน ฝังในกรุเจดีย์ที่เจอน้ำท่วม ดินถล่มใส่

ทางวัดกก เปิดกรุรื้อลงมานำพระออกให้บูชาเมื่อทำการบูรณะโบสถ์ ด้วยจำนวนพระพอสมควร ส่วนที่เหลือจากการเปิดให้บูชาเพื่อนำรายได้บูรณโบสถ์ ก็คัดแยกทุกพิมพ์ใส่กล่องอย่างละ 8 องค์ 3 กล่องครบ 24 พิมพ์ ซึ่งปัจจุบัน กล่องบรรจุ 8 องค์นี้ราคาหลักหมื่น

ความมหัศจรรย์ของเนื้อดินหลวงพ่อพ่วง วัดกก ยังมีอีกประการคือ...แม่เหล็กดูดติด!!!

องค์นี้เป็น "พิมพ์จันทร์ลอย" ทูโทน 2 สี ดำ-เทาพิมพ์ที่ค่อนข้างพบน้อย มอบร่วมบุญพระอายุหย่อนร้อยปี(94ปี) ถ้ารวมอายุเวลาสร้างก็ต้องนับ 95 ปี...

=======1,200=======

จันทร์ลอย-หลวงพ่วง ปี 2473 เนื้อดินเรียบง่าย แต่คลาสสิคดั่งจันทร์เต็มดวง มี 2 สี จากการเผาไฟสุมแกลบที่ให้ความรัอนไม่สม่ำเสมอ

ท่านคงใส่วัสดุมวลสารอาถรรพ์บางอย่างลงไป ทำให้พระถูกแม่เหล็กดูดติด เป็นความมหัศจรรย์ของพระโบราณที่ผู้สร้างไม่ได้จงใจ แต่เกิดเอง

ความเก่ากาลของอายุ และการอยู่บนเพดานโบสถ์หลายสิบปี ทำให้เนื้อพระบางส่วน "ลั่น" แต่ไม่ร้าวหรือแตกหัก

ด้านหลังเรียบ มีรอยปาดเป็นกาบหมาก เห็นมวลสารอื่นที่ผสมประปราย เนื้อสองสีทู โทนชัดเจน ส่วนที่เนื้อหลุดไปก็คงเกิดจากการกดพิมพ์และปาดหลังตั้งแต่คราวแรก แต่ก็ไม่รบกวนให้เสียรูปโฉมหรือเสียทรง

ข้าง 2 ด้าน
2 สีแปลกตา
รวมทั้งงามตา

ขนาดจันทร์ลอยเด่นดวง
ใหญ่กว่าทรงกลมทั่วไป
แต่ก็ไม่ถึงกับเทอะทะ

 

ร่วมบุญครับ

 

ผมขอเพิ่มประวัติของหลวงพ่อพ่วง วัดกก ครับ
http://www.9mahaalap.com/category/17/พระเนื้อดินเผาหลวงพ่อพ่วง-วัดกก-ปี2473

 

น้องเสฯคนราช-รีแต่มีนิวาสถานแถวบางขุนเทียน จึงตามเก็บอริยเจ้ารุ่นเก่าบางขุนเทียนไว้หลายรูป อาทิ หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน วันนี้คว้า หลวงพ่อพ่วง วัดกก ไปอีกรูป เป็นที่สุดแห่งเกจิฯก่อนสงครามโลก

ก็ขอให้สักวัน ได้เก็บ "หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง"กับ "เจ้าคุณเฒ่าวัดหนัง" หรือ กริ่งหนองแส หลวงปู่กลีบ วัดตลิ่งชัน และอย่าลืม หลวงปู่ชู วัดนาคปรก อีกรูป ก็เด็ดสะระตี่ไม่เป็นรองใครในปฐพีก่อนปี 2500 ได้พระที่ถึงยุคของท่านเหล่านี้ไว้ครบแค่อย่างละชิ้น ก็โม้ได้ว่าเป็นสุดยอดนักสะสมคนหนึ่ง

เข้ามาร่ายรับการเคาะน้องเสฯช้า เพราะวันนี้มัวทำธุระส่วนตัวนอกบ้านเสียเกินครึ่งวัน หวนคุยความหลังที่น้องเสฯเคยเล่า แสดงว่าผมยังมีความจำโอเคอยู่ ขอโมทนาและจัดส่งท่านเดินทางพรุ่งนี้ครับ

 

ประวัติ "หลวงพ่อพ่วง วัดกก" ตอนแรกผมก็กะลอกมาลงเหมือนกัน แต่ก็เห็นว่า เป็นเรื่องราวที่ทุกคนสามารถเปิดหาอ่านได้ไม่ยาก เพราะท่านจัดเป็นยอดขุนพลแถวหน้าของฝั่งธนฯและเมืองไทย ผมจึงเลี่ยงไปเขียนกว้างๆ เอาเรื่องพระเครื่องเป็นหลัก

น้องเสฯอุตส่าห์ค้นคว้ามาแถมให้สมาชิกได้อ่านกันเพลินๆ และรับรู้คุณวิเศษความเก่งกาจสามารถของท่านครบถ้วนขอกำชับสมาชิกอย่าลืมเปิดอ่าน เป็นเรื่องที่คนเล่นพระ นักสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลควรทราบ จะได้ไม่พลาดเมื่อเจอะเจอพระเครื่องของท่านในราคาที่เราสามารถเก็บบูชาได้ เพราะพระเก่าบางทีมีหลงหูหลงตาจากคนรุ่นหลังที่ไม่รู้ แถมไม่ใฝ่รู้อีกมาก

"รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม" ได้เปรียบเสมอในยุคที่มีคนเล่นพระมาก แต่ "รู้พระน้อย"!!!

ขอบพระคุณน้องเสฯอย่างแรงที่ช่วยเสริมเติมความรู้ให้

 

หลวงปู่นาค วัดระฆัง 2495
สมเด็จผงใบลาน-ทนสิทธิ์!
===============

งัดกรุเปิดกล่อง หลวงปู่นาค วัดระฆัง ทั้งพิมพ์และเนื้อหายากๆฝากแฟนๆก่อนนอนอีกสักองค์

พิเศษสุดในคุณวิเศษ เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณสมเด็จวัดระฆัง+ผงพระปิลันทน์+ผงใบลาน+ทนสิทธิ์อาถรรพ์บางอย่างที่หลวงปู่ผสมผสานเข้าไปกระทั่งเป็นเนื้อผงที่...

***แม่เหล็กดูดติด***

ติดแบบจ่อด้านไหนท่านก็ล้มใส่ ไม่ใช่ติดโครมคราม ไม่อยากเสียเวลาบรรยายปากเปล่า นำไปประกอบ "ภาพเล่าเรื่อง" ให้เห็นภาพ เห็นความวิเศษอัศจรรย์ แจ่มแจ้งแดงแจ๋...

หรือจะนำไปบูชา ส่องกันให้อิ่มเอมใจกับองค์หายาก+พิมพ์หายาก ก็ไม่ยากกับราคาร่วมบุญที่จัดให้...

=======3,500=======

เนื้อผงสีเทาสีของเนื้อพระปิลันทน์ผสมใบลานของสมเด็จที่ดัดแปลงพิมพ์มาจาก เทวดาแขนหักศอกปี 2485 ตัดใบหูออก ส่วนแขนกว้างเกือบจะหักศอกแต่ไม่หัก พิมพ์นี้คล้ายกับ "นักเลงโต" ของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งเชื่อว่าได้แรงบันดาลใจจากการมาศึกษาแบบพิมพ์และเรียนทำผงวิเศษที่วัดระฆังระยะหนึ่ง

แต่อย่านำไปเล่นเป็นหลวงพ่อกวยเป็นอันขาด เพราะ "เนื้อหา-ความเก่า" องค์นี้แตกต่างมาก เฉพาะ "คราบ" ที่เกิดจากการนำ "ผงพระปิลันทน์" ผสมมากมาย ทำให้เกิดความเก่าคลุมเป็นหย่อมๆ

ถ่ายภาพอาจจะไม่ชัด แต่องค์จริง คราบแห่งกาลเวลาของเนื้อพระปิลันทน์ที่เป็นส่วนผสมเห็นตาเปล่าตามซอก และบนพื้นผิว

ด้านล่างสุดนอกกรอบ เม็ดผงพุทธคุณ "สมเด็จวัดระฆัง" ก้อนไม่เล็ก เห็นชัด และสวยสุดซึ้งเมื่อมองผ่านเลนส์

ด้านหลังสวยสุด เรียบง่ายแต่มวลสารวิเศษอัศจรรย์ที่นำมาผสมขนาดนี้ หาไม่ง่าย!

พระไม่เคยผ่านการใช้ เก็บรักษามาอย่างเดียว บ้านเดียว และมือเดียว ไม่มีการรับมาจากใคร

เม็ดทนสิทธิ์บางอย่างไม่แน่ใจว่า เป็นเม็ดจำพวกตระกูลเหล็กไหลบางชนิดหรืออย่างไร?

เก่า...คร่ำคร่า ติดอย่างหมิ่นเหม่ แต่ก็แข็งแรง ผมเคยลองเขี่ยแต่ไม่หลุด จึงเลิกล้มเพราะเกรงทำให้องค์พระเสียหาย
อีกด้านของขอบข้างที่สมบูรณ์ เนื้อหาสุดคลาสสิค ส่องไปตรงไหนก็ไม่อยากวาง

พระมีแอ่นเล็กน้อยตามธรรมชาติของพระสมเด็จยุคโบราณที่ไม่หนามาก จะมีอาการ "แอ่น" เล็กๆน้อยๆเสมอ บ่งบอกการผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านกาลเวลาหลายสิบฝนแท้ทรู!

ปากกาวงเม็ดผงพุทธคุณที่พลาดไม่ได้สำหรับพระสมเด็จ "หลวงปู่นาค" ทุกองค์ จะมากหรือน้อย ก็ต้องมีให้เห็น บางองค์อาจฝังลอยระเรื่อใต้พื้นผิวสำหรับเนื้อที่ตำ-บดละเอียด

เนื้อผสมผงใบลานกับผงพระปิลันทน์แตกหักมาก อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ "เนื้อสมเด็จ" อยู่เป็นก้อน

 

วันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
อนุโมทนาบุญกับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่าน
ขอให้อาจารย์ฯ พี่น้องพร้อมครอบครัว อยู่ดีมีสุข ไร้ทุกข์ไร้โศกไร้โรคไร้ภัย ประกอบอาชีพสำเร็จรุ่งเรืองก้าวหน้าทุกท่าน เฮงๆรายๆ สาธุ

 

เช้าวันจันทร์เปิดงานนำหรับคนมีงานทำทุกคน ฝนรบกวนคนเมืองกรุงตั้งแต่เช้าเล็กน้อย

ไปดูทางใต้ น่าจะปลอดโปร่งฟ้าโล่งไร้ฝน แม่ค้าทำบุญยามเช้าก่อนจะค้าขาย ร่วมอนุโมทนาขอเธอขายของดี มีลูกค้าอุดหนุนคับคั่งตลอดวัน

 

ก่อนไปทำงาน นอกจากได้ร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตร ยังได้รับพรดีศรีสุพรรณฯจากน้องน้อตเป็นพลังขับเคลื่อนให้ราบรื่นอีกแรง ขอพรทั้งปวงนั้นส่งคืนกลับผู้ให้ด้วยพลังเทอร์โบหลายเท่า เฮง เฮง รวย รวย เช่นกันครับ

 

เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับผม

 

น้องทำจิตฯถ่ายทอดวิทยายุทธบางส่วนให้ด็อกเตอร์นำไปต่อยอด สมคำกล่าวว่า ความรู้ในโลกนี้ เรียนไม่หมด และรู้ไม่หมด ต่อให้เป็นด็อกเตอร์ก็ต้องเรียนรู้อีกมากทั้งทางโลกและทางธรรม

ขอบคุณน้องทำจิตฯ

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 4696 6982 0 จตุจักร

 

พระยูไล วัดเล่งเน่ยยี่
พิธียิ่งใหญ่-ปี 2493 !
==============

เหรียญ "ลูกท้อแห่งสวรรค์" สร้างรูปทรงเดียวกับ "เหรียญไต่ฮงกงโจวซือ" รุ่นแรกของมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ปี 2493 และนำเข้าพิธีเดียวกัน อันมี 108 คณาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทยเอิกเกริกยิ่งใหญ่สุดแห่งปี

ลูกท้อแห่งสวรรค์พิมพ์ "พระยูไล" ซึ่งก็คือ "พระพุทธองค์" ในแบบฉบับ "มหายาน" โดย "วัดเล่งเน่ยยี่" ผ่านมหาปราณขั้นเทพโดย

--สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์
--หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
--ท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์)
--หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
--หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
--หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
--หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ
--หลวงพ่อกึ๋น วัดดอนยานนาวา
--ลพ.อ๋อย วัดไทรบางขุนเทียน
--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงปู่นาค วัดระฆัง
--หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
--หลวงพ่อโชติ วัดตะโน
--หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
--หลวงพ่อเต๋ คงทอง นครปฐม
=======ฯลฯ=======

รวมด้วยยอดภิกษุฝ่ายมหายานในยุคนั้นคับคั่งเต็มพิธี และฆราวาสจอมอาคมจีน-ไทย ร่วมเป็นงานใหญ่งานช้างประจำปีก่อนปี 2500 ที่ทำให้วัตถุมงคลทุกอย่างของงานเป็นที่ใฝ่ปองของชาวไทย และชาวไทยเชื้อสายจีน

เหรียญพระยูไล เนื้อทองแดง ปี 2493 ผ่านการบูชามาโดย อาม่าผู้ครอบครองมือแรก ท่านใช้เข็มกลัดเหน็บติดตัวหลายสิบปี มอบร่วมบุญตามสภาพ...

=======500=======

ลูกท้อสวรรค์ 2493 ความมหัศจรรย์และความศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านกาลเวลายาวนาน ทั้งการนำบูชาโดยเจ้าของมือแรก ทำให้ "ห่วงเชื่อม" ขาดหายไป กว่าจะตกมาถึงมือผม เจ้าของคนแรกก็อำลาไปเฝ้า "พระยูไล-พระพุทธองค์" โดยสวัสดิภาพ เป็นเหรียญที่นำความเจริญรุ่งเรือง ปลอดโรคปลอดภัยแด่ผู้ครอบครองบูชา

ด้านหลังสึกน้อยกว่า เพราะการ "กลัด" ติดตัวกับเสื้อ ไม่ได้แขวนบูชาเหมือนผู้ชาย ความงามของอักษรจีนมงคลอยู่ครบทุกตัว

เนื้อทองแดงเก่าสมอายุ เหรียญนี้มีแค่ทองแดงกะหลั่ยทอง กับทองแดงผิวไฟเท่านั้น สร้างไว้ไม่มาก

ขอบข้างเลื่อย
บางอย่างเหรียญ
โบราณก่อน 2500

"พระยูไล" ลูกท้อสวรรค์
ขนาดเท่าไต่ฮงกงรุ่นแรก

 

"หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร"
พระผงสุพรรณฝัง "นิล" 2500
หลังยันต์ "นะฤาชา-ลป.ศุข"!
===============

ประวัติยอดคณาจารย์ดีเด่นและโลดโผนน่าทึ่งมากทั้งทางโลก ตั้งแต่ "ชาติกำเนิด-เติบโตทางโลก-เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร" ต้องยกให้...

หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เป็นยอดคนที่มีวิถีชีวิตผันผวนน่าศึกษามากสุดท่านหนึ่ง!

ภาพและเรื่องด้านล่าง คัดลอกจาก "โรงเรียนสถาพรวิทยา" ขอขอบพระคุณ

*** ท่านเกิดวันที่ 5 ตุลาคม 2460 ตรงกับวันศุกร์ปีมะเส็ง แรม 4 ค่ำ

เป็นบุตรของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหม่อมทองหุ่น เมื่อตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ฯ ได้รับพระราชโองการจากรัชกาลที่ ๖ ให้ไปซื้อเรือพระร่วงที่ประเทศอังกฤษ จึงนำหม่อมทองหุ่น ไปฝากหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า

เมื่อคลอดเกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ มีงูรัดรอบพระอู่(เปล) หลวงปู่ศุข จึงตั้งนามว่า "สำเนียง" แปลว่าเสียง โดยมี "ง" สะกดไว้ เมื่อเสด็จพ่อทรงทราบ จึงพระราชทานนามว่า "หม่อมเจ้าสถาพร อาภากร"

ประสูติได้ 7 วัน หม่อมทองหุ่นสิ้นชีพพิตักษัย จนมีพระชนม์ได้ 6 พรรษา เสด็จพ่อก็สิ้นพระชนม์ ในวังเริ่มระส่ำระสาย นายเอมพระสหายของเสด็จพ่อนำไปฝากไว้กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพา พระขนิษฐาของเสด็จพ่อ ได้ส่งให้ไปศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก จบมัธยมปีที่ 8

ต่อมา ศึกษาโรงเรียนนายร้อยจปร. เข้ารับราชการที่กรมสื่อสารทหารบก ยศร้อยเอกดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองต่างประเทศในหน้าที่แปลข่าวสารต่างประเทศ

ได้ร่วมรบในสงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพา ต่อมาสงครามนั้นเป็นโมฆะ หลวงพ่อสำเนียงได้ทูลลาในหลวงรัชกาลที่ ๘ ว่าจะบวช 15 วันที่วัดกัลยาปากคลองบางหลวง ฝั่งธนบุรี

บวชได้ 3 วัน ทราบข่าว ในหลวงรัชกาลที่ ๘ สิ้นพระชนม์ จึงได้คิดว่า การเป็นฆราวาสเหมือน "ไม้นั่งร้านสร้างตึก เมื่อตึกเสร็จเขาก็รื้อไม้นั่งร้านทิ้ง ยังไม่มีที่จะเก็บกองเพราะหมดความสำคัญ" จึงเกิดความเบื่อหน่าย และเห็นว่าทางสายบรรพชิตเป็นทางสายที่แท้จริง และนึกถึงผู้ยากจนจึงมุ่งสู่ชนบท ก่อนมาได้เห็นปราสาทลอยตามทิศทางที่มองเห็น

ได้เห็น "วัดแหลมชะอุย" คือวัดเวฬุวนาราม ในปัจจุบัน ตามศิลาจารึกชื่อว่า "ธรรมานคร" (ข้อความจากแผ่นพับของวัดเวฬุวนาราม)

ชื่อเสียงอีกด้านของท่านคือการรักษาโรค ที่ท่านสามารถใช้พลังจิตรักษาโรคเช่น คนถูกพิษงูเห่า โดนต่อต่อย หรือคนเป็นโรคจิตประสาทให้ฟื้นคืนสติ หรือเหยียบเหล็กร้อนแล้วมาเหยียบคนรักษาโรค

นอกจากทางด้านอภินิหารแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ได้พัฒนาวัดเวฬุวนาราม และสร้างโรงเรียนสถาพรวิทยาให้เด็กๆในชุมชนได้มีโรงเรียนศึกษา ตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กๆกำพร้า

--ปี 2523 ท่านรับโล่ "ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติดีเด่นเป็นพิเศษ" ของมูลนิธิสรรพวรรณิต จากพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
--ปี 2527 รับโล่สดุดี "นักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นประจำปี" จากมูลนิธิศาสตรจารย์ ปกรณ์ อังศุสิงห์
--ปี 2528 สำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศสดุดี ให้พระครูสถาพร พุทธมนต์ เป็นพระดีเด่นประจำชาติ และปูชนียบุคคลที่นั่งอยู่ในหัวใจคนในชาติ!

***หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร มรณภาพ 4 สิงหาคม 2531 สิริอายุ 71 ปี ***
------------------------------

คร่าวๆพอสังเขป ประวัติจริงของท่านยาวกว่านี้มาก สำหรับพระเครื่องท่านก็สร้างไว้หลากหลาย ที่สำคัญคือการประทับยันต์ "นะฤาชา" ยันต์ครูอันเกรียงไกรของ หลวงปู่ศข วัดมะขามเฒ่า ยอดปรมาจารย์องค์แท้ลงไว้ในยุคต้นก่อนปี 2500 เล็กน้อย

พระเครื่องชุดนี้มีทั้งพระสมเด็จขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก และพระเนื้อดินผสมผง พิมพ์พระ "ผงสุพรรณ" ซึ่งเป็นพิมพ์พิเศษ ท่านได้บรรจุ "พลอยเสก " หรือ "นิลกาฬ" สีดำบดผสมลงไปทั่วองค์

ทุกองค์นำเข้าร่วมพิธี "25 พุทธศตวรรษ" ปี 2500 อันเป็นสุดยอดพิธีของประเทศกึ่งพุทธกาลที่ไม่มีพิธีใดเทียมเท่าอีกแล้ว

"เพชรในซอกหลืบ" ที่ค้นมาให้ร่วมบุญบูชา ด้วยราคาเพียงหลักร้อย แต่ทั้งผู้สร้าง-ผู้เสก-เนื้อหา สูงค่ากว่าหลักล้านทั้งสิ้น...

=======500=======

ผงสุพรรณเนื้อดินขาวผสมผงพุทธคุณ ผสมพลอยเสก ด้านหน้ายังไม่เห็นพลอยมาก จะอยู่ที่ด้านข้างกับด้านหลัง ตามดูต่อไป

พระชุดนี้ท่านทำไว้หลายสี มีทั้ง ขาว-เทา-ดำ-เขียวตองอ่อน ของดีอายุเลยครึ่งศตวรรษ มากกว่า 60 ปี ไม่ต้องโฆษณา ลูกศิษย์ลูกหายุคเก่า เก็บเรียบ!

องค์นี้ไม่ผ่านการใช้หรือเหงื่อมือใคร

ยันต์ครู "นะ ฤาชา" หลวงพ่อสำเนียง สำเร็จวิชานี้ตามรอยครู "หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า" นำมาใช้ได้เข้มขลัง ไม่เสียชื่อบูรพาจารย์

จุดดำๆปะปนในเนื้อคือ พลอยบด พลอยเสก

เม็ดพลอยบดกับเม็ดผงพุทธคุณ เพียบด้านข้าง ขาว-ดำ กับ ดำ-ขาว มีคลาสสวยงาม

ด้านนี้ พลอยเสก บดอัดก้อนโตชัด ไม่ต้องลงกล้องก็เห็น

ขนาด"ผงสุพรรณ"มาตรฐาน
ดีไม่แพ้ใคร และไม่เปลืองเงิน

 

รับครับ