พระกรุ พระเกจิอาจารย์ เครื่องรางของขลัง เปี่ยมพลังพุทธานุภาพ

พระขุนแผน กุมารทอง พิมพ์สองหน้า หลวงพ่อกวย

ลูกค้าเก่าเช่าบูชาแล้วครับ

ที่แขนท่าน ไม่ใช่รอยร้าว แต่เป็นรอยนูนขึ้นมา เป็นเส้นรอยบล็อคแตก น่ะครับ

พระขุนแผนกุมารทอง พิมพ์สองหน้า เนื้อผงน้ำมัน โซนเนื้อละเอียด ของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท สร้างประมาณปี พ.ศ ๒๕๐๐ ผมยังไม่ใด้ซื้อจากเจ้าของเดิมมาซะทีเดียว แต่..ด้วยความดีใจที่ไม่ใด้พบพระขุนแผนกุมารทอง พิมพ์สองหน้า สวยงามมีหน้ามีหน้า หรือจะไม่มีหน้ามีตามานาน 20 กว่าปี พอใด้เจอจึงอดไม่ใด้ที่จะนำภาพมาฝากกันชมก่อน ส่วนผมจะซื้อออกมาใด้ไหม และลูกค้าจะซื้อต่อจากผมใด้ไหม นั่นมันอีกเรื่องหนึ่งครับ

ส่วนใหญ่เท่าที่เจอ จะเป็นพิมพ์หน้าเดียว แล้วก็ไม่ใช่พิมพ์ที่สวยงามสง่า มีหน้ามีตาแบบพิมพ์นี้ พิมพ์หน้าเดียวเท่าที่ผมเจอ..จะเป็นอีกพิมพ์หนึ่ง ซึ่งจะไม่สวยงามคมขัดเท่ากับพระขุนแผน พิมพ์สองหน้านี้


เรื่องราคาเช่าบูชา ผมยังไม่ใด้ตีราคาไว้ครับ เพราะว่ายังไม่ใด้ของออกมาเป็นสิทธิ์ขาดของผมซะทีเดียวน่ะครับ แต่..ด้วยเป็นพระขุนแผน กุมารทอง ซึ่งเป็นพิมพ์ที่หายากมากๆๆ 20 กว่าปี เพิ่งใด้พบเจอ จึงขออนุญาติท่านเจ้าของพระคนเก่านำภาพมาเผยแผ่ ให้เพื่อนๆในห้องนี้ใด้ชมก่อน น่ะครับ

 

ตะกรุดจันทร์เพ็ญ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

ดอกนี้ น่าจะเป็นตะกรุดจันทร์เพ็ญ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า..ที่ดูง่ายที่สุดในโลก ด้วยมีธรรมชาติของความเก่าปรากฏอยู่ แทบจะทุกอณูของตะกรุด น่ะครับ

แท้แน่นอนครับ บูชาแล้วสบายใจได้ชั่วชีวิต ไม่ต้องมาผวาว่าจะแท้ไหมหนอ เก่าถึงยุคหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือเปล่าหนอให้จิตตก ซึ่งเป็นเหตุให้เราใช้ วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ไม่เข้มขลัง ด้วยจิตเราไม่นิ่งไม่เป็นสมาธิ ไม่มีพลังอำนาจ นั่นเอง ตะกรุดจันทร์เพ็ญ เป็นสุดยอดปรารถนาของผู้ที่เลื่อมใสในเครื่องรางของขลัง ที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านไดสร้างและปลุกเสกไว้ให้ลูกศิษย์ของท่าน..ตะกรุดจันทร์เพ็ญดอกนี้มีขนาดประมาณมวนบุหรี่ ยาว 4.5 นิ้ว ไม่ได้ถักเชือกมาแต่เดิม ดอกนี้ผมว่าดูง่ายมากๆ ดูง่ายที่สุดเท่าที่ผม..จะพึงหาได้แล้วครับ


ตะกรุดจันทร์เพ็ญ ดอกนี้เป็นตะกรุดเนื้อตะกั่วนมทุบ เยี่ยงตะกรุดโบราณยุคเก่า หนาบางไม่เท่ากัน เนื้อแท้เป็นตะกั่วนมผสมปรอท เข้าเนื้อชินเล็กน้อย เหมือนเนื้อพระเครื่องของท่าน ค่อนข้างหนา ม้วน 3 รอบ ด้วยความเก่าร้อยกว่าปี ผิวจึงออกสนิมแดงคล้ายพระกรุ มีขึ้นสนิมขุม ชนิมไข สนิมแดง ขึ้นปกคลุมตามผิวตะกรุดตะกรุด สำหรับตะกรุดจันทร์เพ็ญดอกนี้ เจ้าของเก่า..ท่านคงจะทำตกน้ำนานมาแล้ว น่าจะทำตกในยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมปลูกบ้านเป็นเรือนแพ อยู่ริมสายน้ำ จึงมีคราบตะกรันน้ำจับแน่นตามผิว และยังมีคราบดินคราบทรายเข้าไปอุดแน่นจนแข็งแกร่งดั่งหิน อยู่ในรูร้อยเชือกตะกรุด เป็นประจักษ์พยานถึงความเก่าแก่คร่ำคร่า...ของตะกรุดดอกนี้ได้เป็นอย่างดี



ตะกรุดจันทร์เพ็ญ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดตะกรุดในตำนาน ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งมีกรรมวิธีในการสร้างที่สลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก จะต้องเคี่ยวเนื้อตะกั่วกับปรอท แร่ และส่วนผสมต่างๆ ในกระเพาะควายเผือกเท่านั้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าในหนื่งปีนั้นจะสร้างได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี เมื่อเคี่ยวตะกั่วจนครบเจ็ดวันเจ็ดคืนแล้ว นำมาเทลงบนสมุดข่อย..ถ้าส่วนไหนยังหนาอยู่นำไปตีไล่จนมีความหนาบางพอใกล้เคียงกัน จากนั้นต้องดำน้ำลงไปจารอักขระบนแผ่ตะกั่วที่ใต้น้ำ จารเสร็จแล้วแล้วปล่อยให้ตะกรุดลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ ถ้าตะกรุดดอกไหนลอยขึ้นมาเป็นอันว่ามีพระพุทธคุณเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ตามที่หลวงปู่ศุข ท่านต้องการ



พระพุทธคุณ ขึ้นชื่อตะกรุดจันทร์เพ็ญ หลวงปู่ศุข พระพุทธคุณย่อมมีครบถ้วนครอบจักรวาล แต่..เนื่องจากตะกรุดจันทร์เพ็ญ เป็นตะกรุดที่สร้างโดยพระอาจารย์ยุคโบราณ ที่บ้านเมืองยังยังไม่สงบนิ่งดีนัก มีการฟาดฟันกันด้วย ไม้ตะพด มีดดาบ หอกหลาว ทวน ปืนคาบศิลา จึงมีการปลุกเสกให้ตะกรุดจันทร็เพ็ญ มีพระพุทธคุณหนักทางมหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ตามความเป็นอยู่ตามวิถีชีวิตของผู้คน สถานการณ์บ้านเมืองชาวสยามเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ฯ

ดอกนี้ น่าจะเป็นตะกรุดจันทร์เพ็ญ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า..ที่ดูง่ายที่สุดในโลก ด้วยมีธรรมชาติของความเก่าปรากฏอยู่ แทบจะทุกอณูของตะกรุด น่ะครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หนุมานหน้าโขน เขาควายเผือกถูกฟ้าผ่า หลวงพ่อสุ่น

" ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม " สมญานามที่คนในวงการเครื่องรางของขลัง กล่าวถึง..หนุมาน หลวงพ่อสุ่น

เป็นหนุมานหลวงพ่อสุ่น องค์ครู องค์จะใหญ่กว่าปรกติเล็กน้อย กว้าง 2 ซ.ม ความสูง 4.7 ซ.ม หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี เจ้าตำหรับหนุมานทรงเครื่อง ที่ทรงอานุภาพเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประจักษ์แก่นักนิยมสะสมเครื่องรางของขลัง มาแต่โบราณกาล จวบจนถึงปัจจุบันนี้ ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ และความนิยมมิได้ลดลงไปเลย กลับยิ่งทวีความนิยมในหมู่นักนิยมสะสมเครื่องรางของขลัง มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกมากมายนัก เป็นประจักษ์พยานแห่งความศักดิ์สิทธิ์

อุปเท่ห์ในการสร้างหนุมาน เนื่องจากหนุมานเป็นบุตรพระพาย เป็นอมตะฆ่าไม่ตาย มีพละกำลังมหาศาล เป็นทหารเอกพระราม รบเก่งมีไหวพริบปฏิภาณสูง รับอาสาไปทำงานครั้งใดก็สำเร็จทุกครั้งไป อีกทั้งเสน่ห์แรงไปรบที่ไหนพบรักที่นั่น ดังนั้นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า จึงนำอุปเท่ห์ดังกล่าวมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลังรูปหนุมาน ไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาพกติดกาย

เขาควายเผือก ถูกฟ้าผ่าตาย เป็นของกายสิทธิ์ทนสิทธิ์มีฤทธิ์เดชมีพลังอำนาจในตัวเอง แม้ไม่ใด้ปลุกเสกก็มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ พกพาติดตัวเป็นเครื่องรางของขลังใด้ เพราะมีคุณวิเศษในตัวเอง เนื่องจากใด้รับการประจุพลังจากเทวาบนฟากฟ้า

พระคาถาบูชาหนุมาน ว่านะโม 3 จบ พร้อมว่าคาถากำกับหนุมาน
"นะ บังเพลิง โม บังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธังโธอุด ธังอัด อะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห "

สำหรับตัวผมเองนั้น..ถ้าหากว่าเกิดเหตุกระทันหันจะใช้หัวใจหนุมาน " หะนุมานะ " ถ้าพอมีเวลาใช้ " หะนุมานะ นะสังสะตัง " ถ้ามีเวลามากพอ..ก่อนจะนำติดตัวไปท่องบทใหญ่ข้างบนก่อนเลย ถ้ามีเหตุท่องเพียงหัวใจ 4 ตัว หรือ 8 ตัว ตามแต่จิตของท่านชอบ


หนุมาน หลวงพ่อสุ่น ดีทางสุดยอดคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุตม์ มหาเสน่ห์ มีตบะบารมีฤทธิ์เดชอำนาจ โดยเฉพาะท่านที่รับราชการ รับอาสาทำการงานต่างๆ โบราณท่านว่า เจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานยิ่งๆขึ้นไป ดีนักแล ฯ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

ตัวเล็กกรามใหญ่สุดๆ ดุขาดใจเลยครับ

ลูกค้า..จองแล้วครับ

สำหรับประวัติของ พระเดชพระคุณ พระครูพิพัฒนิโรธกิจ หรือหลวงพ่อปาน อดีตเจ้าอาวาส วัดมงคลโคธาวาส ที่ชาวบ้านเรียกมาแต่โบราณว่า วัดบางเหี้ย ทุกท่านต่างก็ทราบกันเป็นอย่างดีแล้ว ว่าท่านมีภูมิลำเนา ถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ในย่าน ต.บางเหี้ย หรือตำบลคลองด่านในทุกวันนี้นั่นเอง โดยท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๘ มีพี่น้องมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3

เมื่อครั้งยังเยาว์วัย บิดามารดาได้นำไปบวชเรียนเขียนอ่านภาษาไทย กับท่านเจ้าคุณศรีศากยมุนี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง จากบวชเรียนศึกษาวิชาต่างๆ อยู่สักระยะหนึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าสักกี่ปี ท่านจึงใด้สึกจากสามเณร กลับมาอยู่บ้านที่ ต.บางเหี้ย คลองด่านตามเดิม

ครั้นเมื่ออายุครบเกณฑ์ที่จะบวชเป็นพระภิกษุ ท่านจึงใด้กลับไปบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ณ.วัดอรุณราชวราราม โดยมีท่านเจ้าคุณศรีศากยมุนี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ช่วงนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าหลวงพ่อปาน ใด้ร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์องค์ในย่านนั้นมาบ้าง รู้แต่ว่าหลังจากที่ท่านกลับลงมาจำพรรษาที่วัดบางเหี้ย ท่านพร้อมกับหลวงพ่อเรือน ใด้ขึ้นไปที่เมืองบางปลาสร้อย หรือเมืองชลบุรี ในปัจจจุบันนี้

เพื่อไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี เจ้าสำนักตักกะศิลาใหญ่ทางพระเวทย์วิทยาคมต่างๆ แห่งภาคตะวันออก เพื่อเรียนพระเวทย์วิทยาคมในการสร้างและปลุกเสกเสือ จากเขี้ยวเสือ จากหลวงพ่อแตง อนึ่ง..ลูกศิษย์สายนี้นอกจากหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย แล้วยังมีท่านเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ตากันฆราวาสผู้เรืองวิชาแห่งอ่าวดงตาลสัตหีบ ที่เสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ยเคยไปลองวิชากับตากัน แต่กินกันไม่ลง สุดท้ายใด้เป็นพระสหายกับตากัน

พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "เสด็จประพาส มณฑลปราจิณ” ได้เล่าถึงพระปานไว้ว่า “พระครูปานมาหาด้วย พระครูปานรูปนี้นิยมกันในทางวิปัสสนา และธุดงควัตร มีพระสงฆ์วัดต่างๆ ไปธุดงค์ด้วยสองร้อยสามร้อย แรกลงไปประชุมที่วัดบางเหี้ย มีสัปบุรุษที่ศรัทธาเลื่อมใสช่วยกันเลี้ยง กินน้ำจืดที่มีไว้เกือบจะหมดแล้วก็ออกเดิน ทางที่เดินนั้น ลงไปบางปลาสร้อย แล้วจึงเวียนกลับขึ้นไปปราจิณ นครนายก ไปพระบาท แล้วเดินลงมาทางสระบุรี ถ้ามาตามทางรถไฟ แต่ไม่ขึ้นรถไฟ เว้นแต่พระที่เมื่อยล้าเจ็บไข้ ผ่านกรุงเทพฯกลับลงไปบางเหี้ย ออกเดินทางอยู่ในแรมเดือนยี่ กลับไปวัดอยู่ในราวเดือนห้าเดือนหก ประพฤติเป็นอาจิณวัตรเช่นนี้มา ๔๐ ปีแล้ว

คุณวิเศษที่คนเลื่อมใสคือ ให้ลงตะกรุด ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ ที่นิยมกันมากคือ เขี้ยวเสือแกะเป็นรูปเสือ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ฝีมือหยาบๆ ข่าวที่ร่ำลือกันว่า เสือนั้นเวลาจะปลุกเสก ต้องใช้หมู ปลุกเสกเป่าไปข้อไร เสือนั้นกระโดดลงไปในเนื้อหมูได้ ตัวพระครูเองเห็นจะได้ความลำบาก เหน็ดเหนื่อยในการที่ใครๆ กวนให้ลงโน่นลงนี่ เขาว่าบางทีก็หนีไปอยู่ในป่าช้า ที่พระบาทฯ (สระบุรี) ก็หนีไปอยู่บนเขาโพธิ์ลังกา คนก็ยังตามไปกวนไม่เป็นอันหลับอันนอน แต่บริวารเห็นจะได้ผลประโยชน์ ในการทำอะไรๆ ขาย เวลาแย่งชิงก็ขึ้นไปถึง ๓ บาท ว่า ๖ บาทก็มี ได้รูปเสือนั้นแล้วจึงไปให้พระครูปลุกเสก สังเกตดูอัธยาศัยเป็นคนแก่ใจดีมีกิริยาเรียบร้อย อายุ ๗๐ แล้วยังไม่แก่มาก รูปร่างล่ำสันใหญ่โต เป็นคนพูดน้อย มีคนมาช่วยพูด"

เสือที่แกะจากเขี้ยวเสือ ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย แกะจากเขี้ยวเสือ แล้วลงเหล็กจารด้วยตัวท่านเอง ปลุกเสกโดยใส่ ‘พระคาถาหัวใจเสือโคร่ง’ ลูกศิษย์ลูกหาได้ยินท่านท่องว่า พยัคโฆ พยัคฆา สูญญา สัพติ อิติ ฮัมฮิมฮึม มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในเรื่องพระพทธคุณทางด้านมหาอุม์ แคล้วคลาด คงกระพันสุดยอดทางด้าน ตบะ มหาอำนาจ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระสี่เหลี่ยมประภามณฑลรัศมี หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง

พระองค์นี้ ดูการแกะแม่พิมพ์ ดูกลีบบัว และเส้นยันต์ที่มีรูปร่างค่อนข้างใหญ่โตแล้ว น่าจะเป็นพระสีเหลี่ยมประภามณฑล ของหลวงปู่ศุข ที่สร้างในยุคแรกๆ

เบื้องต้น..สมเด็จนวม วัดอนงค์ ท่านเป็นคนจังหวัดชัยนาท บ้านเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า น่าจะเป็นสหธรรมมิกกัน ดังนั้นเวลาหลวงปู่ศุข ลงมาทำธุระหรือว่ามีกิจนิมนต์ที่กรุงเทพ หลวงปู่ศุขท่านก็จะมาพักกับสมเด็จนวม ที่วัดอนงค์ ย่านวงเวียนเล็ก ฝั่งธน เพราะว่าเป็นคนชัยนาทบ้านเดียวกัน จึงทำให้หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ใด้รู้จักกับหลวงปู่ทับ วัดอนงค์ จากนั้นหลวงปู่ศุขท่านจึงได้ขอศึกษาวิชาการสร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์ จากหลวงปู่ทับ วัดอนงค์ ปรมาจารย์ผู้เป็นต้นตำหรับ การคิดค้นสร้างพระเมฆสิทธิ์ใด้สำเร็จ เป็นองค์แรกของประเทศไทย

แต่..บางท่านว่าพระเครื่องของหลวงปู่ศุข ที่เป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงปูศุข หลวงปู่ทับ ช่วยกันเทหล่อกันที่กุฎิของหลวงปู่ทับ นั่นแหล่ะ จากนั้นหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ทับ วัดอนงค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ร่วมพลังกันปลุกเสกที่วัดอนงค์ หลังจากนั้นหลวงปู่ศุข ได้นำกลับไปปลุกเสก ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ขัยนาท อีกครั้งหนึ่ง


เนื้อเมฆสิทธิ์ นั้นเป็นเนื้อกายสิทธิ์มีคุณวิเศษ มีฤทธิมีเดชในตัวเอง แล้วนี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สมเด็จพระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ หลวงปู่ทับ วัดอนงค์ จ้าวตำหรับพระเนื้อเมฆสิทธิ์ ร่วมด้วยช่วยกันปลุกเสกทั้ง 3 องค์ จะเพิ่มพูนพลังคุณวิเศษทางด้านมหาอุตม์ แคล้วคลาด โชคลาภ ค้ำคูนหนุนนำดวงชะตาเจ้าของพระเพียงใด ก็ลองคิดดูเอาเองเถิดครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระขุนแผนใบพุทรา หลวงพ่อหร่ำ วัดกร่าง ปทุมธานี

สุดยอดขุนแผน มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม แห่งเมืองปทุม องค์พระมีขนาดใหญ่กว่านิ้วโป้งมือเล็กน้อย มีขนาดกว้าง 2.8 ซม. ความสูง 3.5 ซม. สภาพสวยงามสมบูรณ์สุดๆ ตามภาพเลยครับ พระขุนแผนใบพุทรา เนื้อดินเผา ของหลวงพ่อหร่ำ วัดกร่าง เป็นพระเนื้อดินเผาโบราณที่ถูกสร้างไว้นานแล้ว ท่านน่าจะเดินธุดงข์แถวๆเขตรอยต่อ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วไปพบพระแตกกรุ กระจายอยู่ตามพื้นดิน ท่าน จึงให้ลูกศิษย์นำมาไว้ที่วัดกร่าง

เท่าที่พบเห็นจะมีอยู่ประมาณ 2 พิมพ์ 1.พระขุนแผนใบพุทรา ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมสูงสุด 2.พระเม็ดน้อยหน่า องค์เล็กประมาณปลายนิ้วก้อย ใน 2 พิมพ์ดังกล่าวยังแยกออกไปพิมพ์ต่างๆอีกหลายพิมพ์ อนึ่งพระขุนแผนใบพุทรา ของหลวงพ่อหร่ำ ที่เป็นเนื้อผงพุทธคุณเคยพบเห็นอยู่เหมือนกัน แต่น่าจะมีจำนวนน้อยมากๆ


ลพ.หร่ำ วัดกร่าง จ.ปทุมธานี เจ้าของสมญานาม..ขุนแผนเมืองปทุม ด้วยพระเครื่องพิมพ์ขุนแผนใบพุทราที่ท่านสร้างขึ้นนั้น ขึ้นชื่อลือชาที่สุดในเรื่อง เมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาอุตม์ แคล้วคลาด จนเป็นที่ยอมรับของชาวปทุมธานี และผู้ที่นิยมพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า

บูชา 3000 บาท มีองค์เดียวครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระขุนแผน เนื้อผงผสมซีเมนต์ขาว หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

เป็นพระเนื้อผงกัมฐาน ที่สร้างในยุคแรกๆ ประมาณปี พ.ศ 2500 กว่าๆเล็กน้อย ในสมัยที่ยังใช้บล็อคดินเหนียวเป็นแม่พิมพ์ ซึ่งในตอนหลังจะใช้ดินน้ำมันเป็นแม่พิมพ์ องค์พระมีขนาดกว้าง กว้าง 2.7 ซ.ม สูง 5 ซ.ม เนื้อพระจะเป็นเนื้อผก่ปูนซีเมนต์ขาว


พระขุนแผนของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ดีทุกครบทางแหล่ะครับ ผมเชื่อว่าทุกพระเกจิอาจารย์ ท่านก็รู้ดีว่าขุนแผนนั้นเป็นนักรบ และเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ ถ้าปลุกเสกแล้วพระขุนแผนของท่านไม่มีเสน่ห์เมตตามหานิยม คนที่นำไปแขวนจะว่าผู้ปลุกเสกไม่เก่งจริง ดังนั้นผมว่าขุนแผน หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อกวย ไว้ใจใด้เรื่องเมตตามหนานิยม มหาอุตม์ แคล้วคลาดขาดไม่ใด้ ก็ขุนแผนเป็นนักรบนี่ครับ

บูชาองค์ละ 900 บาท ครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หุ่นพยนต์ สายอาจารย์ลอย อยุธยา

เลี่ยมเก่า มาแต่ครั้งเจ้าของเดิม เจ้าของเก่าเก็บดีน่ะครับ คือเลี่ยมแล้วก็เก็บเอาไว้เฉลยๆ ไม่ใด้เอาไปแขวนใช้เลี่ยมพลาสติก จึงแลดูสดใสสะอาดตา น่ะครับ

ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดใด้ล้านคำ ชายคนหนึ่งเคยพูดไว้

 

พระขุนแผนทรงพล หล่อโบราณ หลวงพ่อกึ๋น วัดดอน

องค์พระกว้าง 2.5 ซม. สูงถึงปลายห่วงด้านล่าง 4.2 ซม.หล่อแบบโบราณหูในตัว พิมพ์นี้หายากมากครับ แทบไม่พบเห็นในตลาดพระ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น..จะเป็นพิมพ์พระประจำวัน แทบจะทั้งนั้นครับ

พระขุนแผนทรงพล หล่อโบราณ หลวงพ่อกึ๋น วัดดอน สร้างประมาณปี พ.ศ 2485 เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ในช่วงต้นๆสงครามโลก ครั้งที่ 2 พิธีการสร้างจัดได้ว่าใหญ่โตมากในสมัยนั้น โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ แห่งวัดสุทัศน์ ทรงเสด็จมาร่วมเป็นประธานในพิธีพร้อมทั้งมอบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ รุ่นต่างๆ เพื่อเป็นชนวนในการสร้างเหรียญหล่อพิมพ์ต่างๆของวัดดอน ยานนาวา เช่น พิมพ์พระกริ่งประภามณฑล พิมพ์พระประจำวันต่างๆครบทั้งเจ็ดวัน พิมพ์พระขุนแผนทรงพล พิมพ์พระขุนแผนแขนอ่อน พิมพ์พระร่วง พิมพ์พระชินราช พิมพ์พระลีลา พิมพ์ยอดธง และน่าจะยังมีอยู่อีกหลายพิมพ์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่เราพบเห็นกันเป็นประจำจนชินตา จะเป็นพิมพ์พระประจำวันต่างๆ ทั้ง 7 วัน ส่วนพิมพ์อื่นๆ ค่อนข้างจะพบเห็นได้ยาก

เหรียญหล่อโบราณพิมพ์ต่างๆ ของวัดดอน ยานนาวา จัดได้ว่าเป็นของดีล้ำค่าที่ราคาเช่าบูชายังไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับปีที่สร้าง 2484 ที่สำคัญมีชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ เป็นจำนวนมากผสมอยู่ในเนื้อ อีกทั้งสมเด็จพระสังฆราชแพ ยังเมตตาเสด็จมาเป็นประธานในพิธีการสร้าง และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นมาร่วมพิธีปลุกเสก ดังนั้นในเรื่องพระพุทธคุณ มีครบถ้วนทุกด้านทุกแบบ สามารถใช้แขวนแทนพระหล่อโบราณ พระกริ่งวัดสุทัศน์ ได้เลยครับ

องค์ละ 800 บาท

จริงๆแล้วราคาท่านแพงกว่านี้มาก แต่นี่เป็นราคาแบ่งปันกัน ท่านใด้ของดีราคาถูก ผมใด้เงินไว้กินข้าวเติมน้ำมันรถไปทำงาน ใด้มิตรภาพแห่งการแบ่งปัน ขอบพระคุณมากครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์วัดนก

ลูกค้า เช่าบูชาแล้วครับ

องค์นี้ เป็นเนื้อชินตะกั่วปรอท..ครับ จริงๆแล้วพระองค์นี้มีลงเหล็กจารแผ่วๆ แต่ด้วยเป็นพระที่ถูกแขวนใช้มาพอสมควร รอยเหล็กจาร จึงเห็นเพียงลางๆ ครับ

หลวงปู่ศุข พิมพ์วัดนก เป็นพระเนื้อชินตะกั่วยุคต้นๆ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท เหตุที่เรียกว่าพิมพ์วัดนก เนื่องมาจากว่าช่างที่แกะแม่พิมพ์อาศัยเค้าโครงของ พระกรุวัดนก จ.อ่างทอง เป็นแม่แบบ (พระวัดนกเป็นเนื้อผงน้ำมัน) เนื่องหลวงพ่อแก้ว ผู้สร้างพระเนื้อผงน้ำมันพิมพ์ต่างๆ ของวัดนก ท่านเป็นสหธรรมมิกกับ กับหลวงปู่ศุข ดังนั้นหลวงปู่ศุข นำพระวัดนกที่ใด้รับจากสหธรรมมิกของท่าน มาให้ช่างแกะแม่พิมพ์ประจำวัด แกะบล็อคโดยอาสัยเค้าโครงของพระพิมพ์วัดนก แม่แม่แบบ ใจผมว่าพระพิมพ์นี้ดูแล้วมีเสน่ห์ แกะแม่พิมพ์สวยคลาสสิค แบบเรียบง่าย


พระพุทธคุณ มีอย่างครบถ้วนมหาอุตม์ แคล้วคลาด อยู่คง เมตตามหานิยม เหมือนกับพระสี่เหลี่ยม ประภามณฑลรัศมี ที่เป็นเนื้อชินตะกั่ว ทุกประการ ฯ

บูชาองค์ละ 7000 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์วัดระฆัง หลังฆ้อน

พระพิมพ์นี้ ถ้าใครไม่รู้ก็ต้องบอกว่า เป็นพระวัดระฆังหลังฆ้อน เนื้อชินตะกั่ว แต่จริงๆแล้วพระพิมพ์นี้เป็นพระของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่น่าจะอาศัยเค้าโครงของหลังฆ้อน วัดระฆัง มาแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่ จุดสังเกตุคือ พระหลวงปู่ศุขพิมพ์หลังฆ้อน เข่าจะเป็นเส้นตรงเส้นเดียวเลย หรือว่าหลวงปู่ศุข ท่านจะหยิบยืมแม่พิมพ์กันมา ผมก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนัก ด้วยไม่ชำนาญพระวัดระฆัง หลังฆ้อน จึง
ไม่แน่ใจว่า พระวัดระฆัง หลังฆ้อน เขามีทั้งหมดกี่พิมพ์กันแน่ แต่..ที่แน่นอนที่สุดพระของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จะเทด้วยเนื้อชินตะกั่ว เข้าปรอท บางองค์ที่เก็บรักษาดีๆ จะเห็นคราบปรอทจับตามผิวองค์พระ ส่วนใหญ่คราบผิวปรอท จะไม่ค่อยเหลือให้เห็นแล้วล่ะครับ

พระพุทธคุณของ พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เนื้อชินตะกั่ว พิมพ์วัดระฆังหลังฆ้อน เท่าที่เคยสอบถามนักเล่นรุ่นเก่าๆ เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ต่างบอกว่าพระเนื้อชินตะกั่ว ของหลวงปู่ศุขทุกพิมพ์ ดีทางมหาอุตม์ แคล้วคลาด อยู่คง เมตตามหานิยม เป็นหัวใจสำคัญ ของพระเครื่องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หลวงพ่อปาน พิมพ์ขี่ไก่เบรค เนื้อชินตะกั่ว วัดบางนมโค

เก่าได้ใจเลยครับ สำหรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เนื้อชินตะกั่วองค์นี้ ถ้าเราดูจากคราบไขของตะกั่ว พอที่จะประเมินได้เลยว่าอายุต้องมีประมาณ 100 ปี บวกลบไม่มาก พระของหลวงพ่อปาน ท่านมีสร้างเอาไว้หลายเนื้อ เพืยงแต่เนื้ออื่นๆจะมีจำนวนการสร้างที่ค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับหลวงพ่อปานเนื้อดินเผา เหตุที่เป็นดังนี้..อาจเป็นที่หลวงพ่อปาน ท่านต้องการสร้างพระเป็นจำนวนมาก 1 พระธรรมขันธ์ 840000 องค์ ถ้าใช้เนื้ออื่นจะต้องใช้เงินทองมากมาย เนื้อดินจึงสะดวกที่สุดถูกที่สุด หน้าวัดหลังวัดข้างวัดในคลอง กลางท้องทุ่งนา มีวัตถุดิบคือดิน ให้เอามาทำพระอย่างมากมาย จึงเป็นเหตุให้เนื้อดินมีจำนวนการสร้างที่มากกว่าทุกๆเนื้อ เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาถูกที่สุด หาใด้ง่ายที่สุดนั่นเองครับ

จากการที่เคยใด้พระหลวงพ่อปาน เนื้อตะกั่ว เนื้อชินตะกั่ว มาหลายองค์ มีข้อสังเกตุว่า ถ้าเป็นพระเนื้อตะกั่ว ก็จะเป็นเนื้อตะกั่วโบราณธรรมดา ถ้าเป็นเนื้อชินตะกั่ว น้าจะใช้เนื้อตะกั่วโบราณเป็นหลัก แต่น่าจะมีพระกรุเนื้อชินเงิน ที่ชำรุดแตกหัก เป็นมวลสารในการหล่อหลอมพระหลวงพ่อปาน เนื้อชินตะกั่ว เพราะเคยพบเศษพระเนื้อชินเงินชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ละลายผสมอยู่ในพระเนื้อชินตะกั่วหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยู่หลายครั้งหลายหน

สำหรับพระพุทธคุณของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่เป็นพิมพ์ขี่ไก่ โบราณว่าไก่นั้นเป็นสัตว์ที่ขยันมากๆ ตื่นแต่เช้ามืดเพื่ออกคุ้ยเขี่ยหาอาหารกิน ไม่รู้จักหยุดหย่อนตลอดวันเช้ายันค่ำ อันคนเรานั้นถ้าขยันหากินเหมือนไก่ ชีวิตจะพบเจอแต่โชคลาภ เจริญรุ่งเรืองร่ำรวย ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่า..พระหลวงพ่อปาน พิมพ์ขี่ไก่ จึงมีดีทางทำมาหากินในทางค้าขาย เป็นพ่อค้าแม่ค้าเปิดกิจการห้างร้านต่างๆ ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

ตะกรุดโทน เนื้อตะกั่วปรอท หลวงพ่อเนียม วัดน้อย

ตะกรุดโทนหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ดอดนี้ยาว 4.5 นิ้ว ถักด้วยเชือกป่านโบราณ ลงรักรักษาเชือกไว้ไม่ให้เปื่อยยุ่ย แต่ด้วยความเก่า ด้วยอายุไขที่ยาวนานนับร้อยปี และการใช้งานอย่างหนักตลอดเวลา รักที่ลงไว้จึงใด้หลุดล่อนออก..จนเกือบหมด

หลวงพ่อเนียม วัดน้อย พระอรหันต์เมืองสุพรรณบุรี สุดยอดพระเกจิอาจารย์ระดับปรมาจารย์อมตนิรันกาล หนึ่งเดียวของเมืองสุพรรณบุรี สุดยอดพระเกจิอาจารย์ ผู้เรืองวิทยาคมขั้นสูง มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อันมากล้น มีบารฌานอันแกร่งกล้า มีวาจาอันสิทธิ์ แม้แต่น้ำหน้าวัด ที่พ่อค้าชาวจีนท่านหนึ่ง ตักมาจากท่าน้ำหน้าวัด ขอให้ท่านปลุกเสกให้เพื่อนำไปทำเป็นน้ำมนต์ พอถือขวดโหลเดินมาถึงตัวหลวงพ่อเนียม..ท่านบอกว่าปลุกเสกเสร็จแล้ว พ่อค้าชาวจีนนึกในใจว่า เอ้ๆๆ..หลวงพ่อนี่แปลก ยังไม่ได้จับโหลยังไม่ได้สวดมนต์ปลุกเสกสักคำ ทำไมท่านจึงว่าปลุกเสกเสร็จแล้ว จึงลาหลวงพ่อเดินทางกลับบ้านด้วยความเกรงใจท่าน

ครั้นพอเดินเลยพ้นหน้าวัดพ้นสายตาหลวงพ่อเนียมแล้ว จึงจัดการคว่ำโหลน้ำ เทน้ำทิ้งทันที แต่ต้องพบกับความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ใจยิ่งนัก น้ำจากท่าน้ำในโหล ที่หลวงพ่อยังไม่ใด้ปลุกเสก แข็งเป็นน้ำแข็ง จะเทอย่างไรไม่ออก ในที่สุดชาวจีนคนนั้นต้องเดินร้องไห้กลับไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อไปกราบขอขมาท่าน นี่แหละหนาไม่เชื่อวาจาอันศักสิทธิ์ ของหลวงพ่อเนียม แม้แต่ฝรั่งฝีมือดีมาแอบถ่ายรูปท่าน ถ่ายอยู่หลายครั้งหลายหน..กลับถ่ายรูปท่านไม่ติด รูปภาพที่ถ่ายติดจึงเป็นภาพถ่ายหลังจากที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว




วัดน้อย ในยุคของหลวงพ่อเนียม เป็นดั่งเช่นสำนักตักศิลา ของเมืองสุพรรณบุรี จึงมีพระภิกษุสงฆ์..ในจังหวัดสุพรรณ จังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงทั่วทุกสารทิศ มาร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆจากท่าน วัดน้อยในยุคของหลวงพ่อเนียม คนเก่าๆเล่าว่าคราคร่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมาก จนศาลาวัดไม่พอรองรับผู้คน ที่ไปขอให้หลวงพ่อเนียม ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ บ้างก็มาศึกษาพระเวทย์วิทยาคมต่างๆจากท่าน



ตะกรุดโทน เนื้อตะกั่วผสมปรอท ของหลวงพ่อเนียม พระพุทธคุณจะหนักไปทางด้านมหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ ไข้ป่า ยาสั่ง โรคห่า อหิวาตกโรค ตรงนี้เป็นความเชื่อถือของคนรุ่นเก่าๆ ที่มีต่อวัตถุมงคล เนื้อตะกั่วปรอท ของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย สำหรับตะกรุดของหลวงพ่อเนียมนั้น มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ถ้าใครเคยอ่านหนังสือพระเครื่องลานโพธิ์ ที่คุณลุงมนัส โอภากุล เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ โดยการไปสัมภาษสอบถามโดยตรงจากผู้ที่เคยใช้วัตถุมงคลของหลวงพ่อเนียม จะทราบใด้ดีว่าวัถุมงคลของหลวงพ่อเนียม พระพุทธคุณทางด้านมหาอุตม์ แคล้วคลาด หรืออยู่คงนั้นสุดยอด ไม่แพ้เครื่องรางของขลังแพงๆ สำนักใดเลย

 

พญาเต่าเรือน หล่อโบราณ ตัวติดกัน เนื้อทองผสมแก่ทอง

พญาเต่าเรือน เนื้อทองผสม หล่อโบราณตัวนี้ ไม่ทราบว่าเป็นของพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า วัดใดสร้าง ซื้อพระมาก็น่าจะหลายพันองค์ ซื้อพญาเต่าเรือน เนื้อทองเหลืองหล่อมาก็หลายสิบตัว เห็นพญาเต่าเรือนเนื้อทองเหลืองหล่อโบราณ มาเป็นร้อยตัว แต่..พญาเต่าเรือนตัวนี้แปลกที่สุด ตั้งแต่เล่นพระมาเพิ่งเคยเห็น และเพิ่งเคยใด้เป็นครั้งแรกในชีวิต

ตำนานพญาเต่าเรือน ได้กล่าวว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงเสวยชาติ เป็นพญาเต่ามีร่างกายใหญ่โตมาก ใหญ่เท่ากับบ้านเรือนขนาดใหญ่ จำศิลอยู่บนเกาะร้างกลางมหาสมุทรใหญ่แห่งหนึ่ง มีอายุยืนนานมานับร้อยๆ ปี จนมาวันหนึ่ง..มีผู้คนเดินเรือสำเภาเพื่อไปทำการค้าขาย แต่เกิดพายุฝนอย่างหนักทำให้เรือแตกอับปาง ผู้คนจำนวนมากมาย จึงติดอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเวลานาน จนกระทั่งอาหารบนเกาะมีน้อยลง ต่อมาด้วยความอดอยากทำให้คนบนเกาะหันมาเข่นฆ่ากัน เพื่อเอาเนื้อหนังของอีกฝ่ายมากินเป็นอาหาร เพื่อประทังชีวิต

พญาเต่าเรือน ได้เห็นเหตุการณ์โดยตลอด เกิดความสลดสังเวชใจ และจิตปรารถนาจะช่วยเหลือ เพื่อสืบสานบารมีแห่งพระโพธิญาณ พญาเต่าเรือนจึงได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขา จากนั้นได้กลิ้งตัวเองลงมาทำให้กระดองที่หุ้มตัวแตกออก เนื้อหนังฉีกเป็นชิ้นๆและได้สิ้นใจลง บรรดาผู้ที่เรือแตกจึงได้อาศัย..กินเนื้อของพญาเต่าเรือน หรือว่าเนื้อของพระโพธิสัตว์ เป็นอาหารและเสบียงกรังสำหรับเดินทาง จากนั้นบรรดาผู้ที่เรือแตก จึงได้นำเอากระดองของพญาเต่าเรือน ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านหลังหนึ่ง มาทำเป็นเรือสำเภาออกเดินทางรอนแรมในมหาสมุทรใหญ่ จนกระทั่งกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย พบหน้าลูกเมียของตน ชาวเรือเหล่านั้น..ได้ระลึกถึงพระคุณของพญาเต่าเรือน ที่ได้ให้เนื้อเป็นอาหาร ให้กระดองทำเป็นเรือสำเภา จึงได้วาดภาพพญาเต่าเรือน ไว้บูชาสักการะเพื่อระลึกถึงพระคุณอันใหญ่หลวง ของพญาเต่าเรือน ฯ

ดังนั้นพระเกจิอาจารย์ในสมัยโบราณ จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปพญาเต่าเรือน บ้างแกะจากคตบางชนิด งาช้าง เขาสัตว์ กระดูกสัตว์ บ้าง หล่อจากเนื้อโลหะต่างๆสืบทอดต่อกันมา เพื่อระลึกถึงพญาเต่าเรือน ซึ่งเป็นชาติหนึ่งของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้ พระเกจิอาจารย์บางองค์จึงมีการทำเครื่องรางของขลัง เป็นรูปพญาเต่าเรือน เพื่อระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลดุจดั่งมหาสมุทร ของพระโพธิสัตว์เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน

พระพุทธคุณ ของพญาเต่าเรือน เด่นทางโชคลาภ เมตตามหานิยม ทำมาค้าขาย ซื้อง่ายขายคล่อง เงินทองไหลมาเทมา ดีเยี่ยมทางแคล้วคลาดจากภัยอันตรายใหญ่หลวงนานัปการ ดั่งที่พญาเต่าเรือนเคยช่วยผู้คนมากมายจากเรือแตก บนเกาะร้างกลางมหาสมุทรใหญ่ ให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยแสนสาหัส..กลับถึงบ้านมาได้อย่างปลอดภัย

พระพุทธคุณ..ที่คนยุคใหม่ไม่ค่อยรู้ นั่นคือ ทางด้านคดีความ หากถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกใส่ความ โบราณว่า เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ให้บูชาพญาเต่าเรือน พร้อมท่องคาถาพญาเต่าเรือนไปด้วย จะประสบชัยชนะในชั้นโรงชั้นศาลในที่สุด แต่ต้องขอบอกว่า..นี่เป็นความเชื่อของผู้คนในยุคเก่าๆ

พระคาถา พญาเต่าเรือน ให้ท่านทำจิตให้มีสมาธิ ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วว่า พระคาถาตามข้างล่าง..ครับ

นะมะพะทะ นาสังสิโม สังสิโมนา

สิโมนาสัง โมนาสังสิ

นะอุทะกะ เมมะอะอุอะ

บูชา 2500 บาท ครับ