พระสมเด็จฝังตะกรุด ๕ ดอก หลวงพ่อลมูลวัดเสด็จ ปี๒๕๑๐

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,008
    ค่าพลัง:
    +5,707
    จองครับ
     
  2. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    3,008
    ค่าพลัง:
    +5,707
    จองครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750311906960.jpg
    FB_IMG_1750311926142.jpg
    พระโพธิสัตว์เมืองใต้
    หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง ชุมพร ผู้จะมาตรัสองค์ที่ ๑๓
    หลวงพ่อบุญมาท่านเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อสงฆ์ครับ หลวงพ่อบุญมานี้ท่านเป็นพระเกจิที่มีพลังจิตสูงอีกรูปหนึ่ง มีคนเคยเห็นท่านจารตะกรุด แล้ว ให้ตะกรุดม้วนเองได้มาแล้ว....ประสบการณ์ยิงไม่ออกครับ พระดีมีประสพการณ์ ท่านเป็นเกจิที่เมตตามากๆครับ
    หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง “หาดทรายรี” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งภายในอ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีสถานที่สำคัญ 3 แห่งคือ ศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์,สวนพระตำหนักกรมหลวงชุมพรฯ และวัดถ้ำโพงพาง (วัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์) ซึ่งผู้ที่สร้างวัดนี้คือ หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร อดีตเกจิอาจารย์ดังแห่งวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ปัจจุบันมีหลวงปู่บุญมา ปภากโร อายุ 80 ปี ลูกศิษย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาส พื้นเพท่านเป็นชาวเมืองตรัง หมู่ที่ 4 ต.นาบินหลา อ.เมือง ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค. 2469 ตรงกับปีขาล ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 (เดือนอ้าย) อัฏฐศก จ.ศ.1288 ร.ศ.145 อธิกมาส (8 สองหน) โยมบิดาชื่อนายเฉจวน โยมมารดาชื่อนางพริ้ง นามสกุล “คงคูณ” เมื่ออายุ 15 ปีได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใกล้บ้าน และได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่อง 5 ปี จนกระทั่งได้เข้าสอบธรรมสนามหลวงในระดับนักธรรมตรี,โท และเอก ตามลำดับ ในขณะบวชเณรได้ 5 พรรษา มีอายุครบ 20 บริบูรณ์ต้องเข้ารับการคัดเลือกทหาร และจับได้ใบดำต้องรับราชการทหารอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการได้ครองเรือนตามวิสัยฆราวาส จนมีอายุได้ 25 ปี จึงอุปสมบทที่วัดปากจ่า ต.ควนโส อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อปีพ.ศ.2494
    พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ (เลี่ยน จันทสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พร้อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์คล้าว กตปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ปภากโร” หลังจากนั้นได้เน้นร่ำเรียนทางกรรมฐานทั้งสมถะ และวิปัสสนาโดยตรง จนเข้าพรรษาที่8 ในขณะมีอายุได้ 33 ปีจึงออกธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ
    ในช่วงที่ท่านธุดงค์ไปที่เขาชัยสน จ.พัทลุง ในคืนหนึ่งขณะนั่งสมาธิได้นิมิตเห็น ในบริเวณป่าเขาที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่งนี้มีเหวลึก ในเหวนั้นมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์และเจดีย์อยู่ รุ่งเช้าท่านจึงเดินทางไปดูตามนิมิตก็เห็นเป็นจริงตามนั้น
    อีกครั้งหนึ่งหลังจากท่านนั่งสมาธิตามปกติ เมื่อจิตหยั่งลงสู้สมาธิเป็น “เอกจิต”แล้ว ท่านได้เห็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จมาหา โดยพระองค์ได้ตรัสกับท่านว่า “ท่านบุญมามาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่รู้อะไรดอกหรือ” ท่านได้ถวายพระพรถามไปว่า “มหาบพิตรมีอะไรดี ก็ขอบอกแก่อาตมาบ้าง” พระองค์ตรัสว่า “ถ้าอย่างนั้นก็คอยจดจำไว้ให้ดี ฉันจะบอกให้ คาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันได้ใช้มาตั้งแต่ยังผนวชเป็นพระภิกษุอยู่” ในนิมิตนั้น ท่านได้เห็นแผ่นป้ายหินชนวนขนาดใหญ่สีดำ รัชกาลที่ 4 ได้เขียนพระคาถาให้ท่องจำซึ่งมีทั้งหมด 11 พระคาถามีชื่อว่า “รัตตนัตตะยะปะภาวาภิยา จะนะคาถา” พระองค์ทรงใช้มาตั้งแต่ครั้งผนวชอยู่ที่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) และเมื่อทรงย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิวเศ ก็ทรงใช้เจริญภาวนามาจนถึงวันที่ทรงลาผนวชออกมาครองราชย์ และใช้ภาวนาสวดมนต์จนถึงวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ทั้งนี้ หลวงปู่บุญมาท่านได้ยึดพระคาถาของรัชกาลที่ 4 มาเป็นแนวปฏิบัติควบคู่ไปกับปฏิปทาของพระอาจารยืคือ หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาขอประชาชนชาวเมืองชุมพร และภาคใต้หลายจังหวัด
    ในด้านวิชาอาคมท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่สงฆ์ และไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ส่วนการสร้างวัตถุมงคล เริ่มครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2532 ที่สร้างชื่อเสียงและได้รับความนิยม อาทิ เสือหล่อกวัก,เหรียญเสมารุ่นแรก ,รูปเหมือน ฯลฯ วัตถุมงคลของท่านกล่าวขานว่า ดีทางคุ้มครองป้องกันภัย โดยเฉพาะในหมู่ชาวเล ต่างเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ เพราะช่วยให้รอดชีวิตกันมาจำนวนมาก
    (ขอบพระคุณข้อมูลจาก คุณ warut )
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ผ้ายันต์สิงห์หลวงพ่อบุญมา
    วัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์ (วัดถ้ำโพงพาง)
    ผ้ายันต์หายาก นิยมในศิษย์สายนี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่อีกรูปในภาคใต้ของไทย
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250619_200437.jpg IMG_20250619_200458.jpg IMG_20250619_200515.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2025 at 20:30
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750405377286.jpg

    เหรียญพระอานนท์เถระเจ้า.พุทธอนุชา ครูใหญ่สายวิชาโลกุตระธรรม. ครูผู้เป็นเลิศด้านสติปัญญา จดจำพระธรรมคำสอน และ คาถาอาคม. แม่นยำเป็นเลิศกว่า ภิษุทั้งหลาย.
    พระอานนท์เถระเจ้า พุทธอนุชา. นี้ ท่านใดมีไว้บูชา จักมีสติปัญญา เป็นสิริมงคล แก่ตัวเอง ชีวิตรุ่งเรืองไม่อับจน
    พระอานนท์เถระเจ้า. พุทธอนุชา. นี้. คือครูใหญ่สายวิชาโลกุตระธรรม. ธรรมที่พ้นโลก.
    เป็นครูใหญ่ของ. หลวงพ่อสมบูรณ์. วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร. ใครยกครูเรียนวิชากับหลวงพ่อแล้ว. ถือว่าเป็น ศิษย์ พระอานนท์เถระเจ้า.
    เป็นศิษย์หลวงพ่อสมบูรณ์. เป็นศิษย์ในสายวิชาโลกุตระธรรม.
    “คำว่าไม่มีอย่าได้มี”
    ประวัติพุทธาคม
    พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์
    ( หลวงพ่อสมบูรณ์ รตนญาโณ)
    วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
    พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ ( สมบูรณ์ รตนญาโณ ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ หรือ นามเดิม สมบูรณ์ บุญมา ( ชาย ) เกิดวันพุธที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๑ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือน ๘๘ ปีจอ ณ.บ้านหนองหว้า ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนเดียวของ นาย เลี้ยง บุญมา และ นาง ฝ้าย วิสเกษ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ในวัยเยาว์ ได้จบการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านนาโนน ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ วิชาอาคมในครั้งแรกที่ได้ศึกษาเล่าเรียนนั้น เริ่มจากแม่ ที่ได้ถ่ายทอดวิชา ท้าวก่ำกาดำ,คาถามหาเสน่ห์,คาถาเป่าฝี เป่าพิษปลาดุก เป่าพิษแมงป่อง,สะเดาะก้างติดคอ,สะเดาะลูกออกจากท้อง,คาถาคัดเลือด ต่อมา ได้เรียนวิชาจากพ่อ เป็นวิชา ตำราพรหมชาติ,ตำราหมอดู เพื่อที่จะทำหน้าที่แทนผู้เป็นพ่อแม่ ในการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ด้วยความที่ชอบวิชาอาคม จึงได้ไปขอเรียนวิชา พรายกระซิบ จาก อาจารย์ฆราวาส บ้านหนองเรือ เรียนวิชา คาถาสาริกา,คาถาแก้พิษงูเห่า จาก อาจารย์ฆราวาส ชาวเขมร บ้านยางแรด เรียนวิชาผูกหุ่นพยนต์,ปั้นวัวควายธนู จาก ทายกวัดหนองไฮ ใน จ.ศรีสะเกษ ทั้งหมด วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ.พัทสีมาวัดสระกำแพงใหญ่ ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระอธิการเครื่อง สุภทฺโท ( พระมงคลวุฒิ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สุข โกวิโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสมชาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า รตนญาโณ ซึ่งแปลว่า ผู้มีญาณเพียงดั่งแก้ว หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้กราบลาพระอุปปัชฌาย์ ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่ วัดพงพรต ต.หนองห้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปศึกษาพระธรรมวินัยและการปฏิบัติสมาธิตลอดจนทั้งพุทธาคม โดยมี หลวงปู่เสาร์ เจ้าอาวาส วัดพงพรต เป็นผู้อบรมสั่งสอน และซึ่งในขณะนั้น หลวงปู่ใหญ่ลา วัดพงพรต มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก ด้วยทั้งตะกรุดโทน,ตะกรุดฝนแสนห่า เป็นที่ต้องการของชาวบ้านทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ อีกทั้งในตอนนั้น หลวงปู่ใหญ่ลา ก็ชราภาพมากแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ จึงได้อยู่รับใช้ปรนนิบัติ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมกับ หลวงปู่ใหญ่ลา วิชาที่ได้เรียนมานั้น มีวิชา ตะกรุดโทน,ตะกรุดฝนแสนห่า,ตะกรุดเมตตามหานิยม,อ้อป่อง ในพรรษาแรกของการบวช หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้แสวงหาวิชาความรู้ต่อ จากอาจารย์ฆราวาส ชื่อ อาจารย์บุญทัน บุญมา เป็นอ้อหมอรำ ให้กับ หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่ ซึ่งมีศักดิ์เป็น อาแท้ๆ จึงสอนวิชา อ้อป่อง ให้ จากนั้น หลวงพ่อสมบูรณ์ ก็ได้เรียนวิชา อ้อป่องและคาถาอาบน้ำว่าน ๗ อังคารจาก อาจารย์นัน บุญมา ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆด้วยเช่นกัน และ สุดท้าย ก็ได้เรียนวิชา แม่น้ำทั้ง ๕ ไล่ผี ถอนของ แก้คุณไสย จาก หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่ ก่อนที่จะได้รับอารธนาจากศรัทธาญาติโยม นิมนต์ให้มาเป็นรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ที่ วัดนาโนน ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เมื่อมาอยู่เพียงไม่นาน ก็ได้เรียนวิชา ต้มสีผึ้งผีหุง จาก พระอาจารย์บุญส่ง วัดนาโนน ( หลวงลุง ) และได้ศึกษา ตำราธรรม ๙ โกฏิ อยุู่ที่วัดนาโนน พร้อมตำราพระเวทย์ต่างๆอีกด้วย หลังจากที่ได้ศึกษาเล่าเรียนจนเชี่ยวชาญในทุกแขนงวิชาที่เรียนมานั้น ในปี พุทธศักราช ๒๕๒๔ จึงได้ออกธุดงค์ จาก วัดนาโนน ไปกราบนมัสกการพระธาตุพนม เพื่อไปอธิษฐานจิตต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ ที่ปรารถนาไว้ ปี พุทธศักราช ๒๕๒๖ ได้เข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาบาลี ที่ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โดยการสอบท่องปาฏิโมกให้ได้ หลวงพ่อสมบูรณ์ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สอบเข้าสังกัดวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารได้ หลังจากที่สอบผ่านแล้ว ก็ได้มาอยู่ คณะ ๔ ซึ่งเป็นคณะเดียวกันกับเจ้าคุณพระเทพรัตนโมลี เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ในขณะที่ได้อยู่ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารนั้น ก็ได้พบตำราสมุดข่อยโบราณสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร หลวงพ่อสมบูรณ์จึงได้ศึกษาพระยันต์ต่างๆ จากตำราสมุดข่อยโบราณ ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญจนสำเร็จ ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา นะปัดตลอด จาก อาจารย์สมาน อดีตเจ้าคณะ๔ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ปีพุทธศักราช ๒๕๓๗ หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก็ได้พบกับ พระอาจารย์แดง วัดสันกำแพง จ.หนองคาย (จ. บึงกาฬในปัจจุบัน ) พระอาจารย์แดง ได้มอบตำราสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ให้แก่หลวงพ่อสมบูรณ์ไว้เพื่อเรียนพระยันต์คาถาอาคม ต่อมา หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา คาถานะโมตาบอด จาก หลวงปู่เทพา วัดเซกา จ.หนองคาย ( ปัจจุบัน พระราชภาวนาโสภณเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ ) ปีพุทธศักราช ๒๕๔๓ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา นะโมตาบอด,พระเจ้า๑๖พระองค์กับหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ ต่อมา หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา มนต์พยัคฆ์ จาก พระอาจารย์เสือ วัดบ้านตาโกน จ.ศรีสะเกษ ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘-๒๕๔๙ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชาอาจอจาซิม(หมากินความคิด)กับอาจารย์สมุทร ต่อมามีเณรจากวัดพลับได้นำตำราใบลานโบราณมาถวายหลวงพ่อสมบูรณ์ ซึ่งหลวงพ่อสมบูรณ์ก็ได้เป็นผู้แปล และ เผยแพร่ พระคาถาโลกุตตรธรรม ทั้ง ๑๙ บท ทั้งหมด หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา คาถาขุนแผนผูกจิต,คาถาเสกกุมาร จากพระอาจารย์อภิชาติ วัดเกาะสุวรรณนาราม ดอนเมือง ( เป็นคาถาของ หลวงปู่กล้าย วัดหงส์ฯ ) สุดท้าย หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้ศึกษาร่ำเรียน วิชาโหราศาสตร์ และ เป็นผู้กำเนิดวิชา ตะกรุดคู่ชีวิตหนุนดวง อันลือลั่น ในปัจจุบัน
    ผู้สร้างเจดีย์พุทธาคมรตนญาณมุนีศรีนครลำดวน พระธาตุหนุนดวง วัดนาโนน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

    FB_IMG_1750405234948.jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญพระอานนท์เถรเจ้ารุ่นแรกหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250620_142853.jpg IMG_20250620_142947.jpg IMG_20250620_142804.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2025 at 16:02
  5. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,159
    ค่าพลัง:
    +7,194
    -ขอจองครับ
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    เมื่อวานและวันนี้ จัดส่ง
    1750415384416.jpg
    1750414984539.jpg
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2025 at 17:26
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396


    FB_IMG_1750428218261.jpg

    เหรียญพระศากยมุนีศรีอโยธยา เนื้อทองแดง
    สร้างที่รฤกในการสร้างอนุสาวรีย์
    หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่ออั้น
    พุทธภิเษกใหญ่ในงานเททองหล่อพระศากยมุนีศรีอโยธยา
    (พระลีลาปางประธานพระองศ์ยืนใหญ่ หน้าวิหาร หลวงพ่อกลั่น)
    ปลุกเสกเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี พ.ศ. 2537
    หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ปลุกเสกเดี่ยวก่อนจะมีพิธีปลุกเสกใหญ่
    ( และพิธีใหญ่ พระเกจิที่มานั่งอธิษฐานจิต มีรายนามดังนี้ )
    ๑ สมเด็จมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม
    ๒ หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ
    ๓ หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    ๔ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    ๕ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    ๖ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    ๗ หลวงพ่อหมื่น วัดตูม
    ๘ หลวงพ่อเผื่อน วัดสามบัณฑิต
    ๙ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์
    ๑๐ หลวงพ่ออุตะมะ วัดวังก์วิเวการาม
    ๑๑ หลวงพ่อผัน วัดแปดอา
    เป็นต้น ฯลฯ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญอยู่ในซองเดิมซีนไว้ ไม่แกะนำมาถ่ายรูป

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250620_204552.jpg IMG_20250620_204630.jpg IMG_20250620_204647.jpg
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750405377286.jpg

    เหรียญพระอานนท์เถระเจ้า.พุทธอนุชา ครูใหญ่สายวิชาโลกุตระธรรม. ครูผู้เป็นเลิศด้านสติปัญญา จดจำพระธรรมคำสอน และ คาถาอาคม. แม่นยำเป็นเลิศกว่า ภิษุทั้งหลาย.
    พระอานนท์เถระเจ้า พุทธอนุชา. นี้ ท่านใดมีไว้บูชา จักมีสติปัญญา เป็นสิริมงคล แก่ตัวเอง ชีวิตรุ่งเรืองไม่อับจน
    พระอานนท์เถระเจ้า. พุทธอนุชา. นี้. คือครูใหญ่สายวิชาโลกุตระธรรม. ธรรมที่พ้นโลก.
    เป็นครูใหญ่ของ. หลวงพ่อสมบูรณ์. วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร. ใครยกครูเรียนวิชากับหลวงพ่อแล้ว. ถือว่าเป็น ศิษย์ พระอานนท์เถระเจ้า.
    เป็นศิษย์หลวงพ่อสมบูรณ์. เป็นศิษย์ในสายวิชาโลกุตระธรรม.
    “คำว่าไม่มีอย่าได้มี”
    ประวัติพุทธาคม
    พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์
    ( หลวงพ่อสมบูรณ์ รตนญาโณ)
    วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
    พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ ( สมบูรณ์ รตนญาโณ ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ หรือ นามเดิม สมบูรณ์ บุญมา ( ชาย ) เกิดวันพุธที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๑ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือน ๘๘ ปีจอ ณ.บ้านหนองหว้า ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนเดียวของ นาย เลี้ยง บุญมา และ นาง ฝ้าย วิสเกษ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ในวัยเยาว์ ได้จบการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านนาโนน ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ วิชาอาคมในครั้งแรกที่ได้ศึกษาเล่าเรียนนั้น เริ่มจากแม่ ที่ได้ถ่ายทอดวิชา ท้าวก่ำกาดำ,คาถามหาเสน่ห์,คาถาเป่าฝี เป่าพิษปลาดุก เป่าพิษแมงป่อง,สะเดาะก้างติดคอ,สะเดาะลูกออกจากท้อง,คาถาคัดเลือด ต่อมา ได้เรียนวิชาจากพ่อ เป็นวิชา ตำราพรหมชาติ,ตำราหมอดู เพื่อที่จะทำหน้าที่แทนผู้เป็นพ่อแม่ ในการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ด้วยความที่ชอบวิชาอาคม จึงได้ไปขอเรียนวิชา พรายกระซิบ จาก อาจารย์ฆราวาส บ้านหนองเรือ เรียนวิชา คาถาสาริกา,คาถาแก้พิษงูเห่า จาก อาจารย์ฆราวาส ชาวเขมร บ้านยางแรด เรียนวิชาผูกหุ่นพยนต์,ปั้นวัวควายธนู จาก ทายกวัดหนองไฮ ใน จ.ศรีสะเกษ ทั้งหมด วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ.พัทสีมาวัดสระกำแพงใหญ่ ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระอธิการเครื่อง สุภทฺโท ( พระมงคลวุฒิ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สุข โกวิโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสมชาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า รตนญาโณ ซึ่งแปลว่า ผู้มีญาณเพียงดั่งแก้ว หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้กราบลาพระอุปปัชฌาย์ ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่ วัดพงพรต ต.หนองห้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปศึกษาพระธรรมวินัยและการปฏิบัติสมาธิตลอดจนทั้งพุทธาคม โดยมี หลวงปู่เสาร์ เจ้าอาวาส วัดพงพรต เป็นผู้อบรมสั่งสอน และซึ่งในขณะนั้น หลวงปู่ใหญ่ลา วัดพงพรต มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก ด้วยทั้งตะกรุดโทน,ตะกรุดฝนแสนห่า เป็นที่ต้องการของชาวบ้านทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ อีกทั้งในตอนนั้น หลวงปู่ใหญ่ลา ก็ชราภาพมากแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ จึงได้อยู่รับใช้ปรนนิบัติ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมกับ หลวงปู่ใหญ่ลา วิชาที่ได้เรียนมานั้น มีวิชา ตะกรุดโทน,ตะกรุดฝนแสนห่า,ตะกรุดเมตตามหานิยม,อ้อป่อง ในพรรษาแรกของการบวช หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้แสวงหาวิชาความรู้ต่อ จากอาจารย์ฆราวาส ชื่อ อาจารย์บุญทัน บุญมา เป็นอ้อหมอรำ ให้กับ หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่ ซึ่งมีศักดิ์เป็น อาแท้ๆ จึงสอนวิชา อ้อป่อง ให้ จากนั้น หลวงพ่อสมบูรณ์ ก็ได้เรียนวิชา อ้อป่องและคาถาอาบน้ำว่าน ๗ อังคารจาก อาจารย์นัน บุญมา ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆด้วยเช่นกัน และ สุดท้าย ก็ได้เรียนวิชา แม่น้ำทั้ง ๕ ไล่ผี ถอนของ แก้คุณไสย จาก หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่ ก่อนที่จะได้รับอารธนาจากศรัทธาญาติโยม นิมนต์ให้มาเป็นรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ที่ วัดนาโนน ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เมื่อมาอยู่เพียงไม่นาน ก็ได้เรียนวิชา ต้มสีผึ้งผีหุง จาก พระอาจารย์บุญส่ง วัดนาโนน ( หลวงลุง ) และได้ศึกษา ตำราธรรม ๙ โกฏิ อยุู่ที่วัดนาโนน พร้อมตำราพระเวทย์ต่างๆอีกด้วย หลังจากที่ได้ศึกษาเล่าเรียนจนเชี่ยวชาญในทุกแขนงวิชาที่เรียนมานั้น ในปี พุทธศักราช ๒๕๒๔ จึงได้ออกธุดงค์ จาก วัดนาโนน ไปกราบนมัสกการพระธาตุพนม เพื่อไปอธิษฐานจิตต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ ที่ปรารถนาไว้ ปี พุทธศักราช ๒๕๒๖ ได้เข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาบาลี ที่ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โดยการสอบท่องปาฏิโมกให้ได้ หลวงพ่อสมบูรณ์ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สอบเข้าสังกัดวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารได้ หลังจากที่สอบผ่านแล้ว ก็ได้มาอยู่ คณะ ๔ ซึ่งเป็นคณะเดียวกันกับเจ้าคุณพระเทพรัตนโมลี เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ในขณะที่ได้อยู่ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารนั้น ก็ได้พบตำราสมุดข่อยโบราณสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร หลวงพ่อสมบูรณ์จึงได้ศึกษาพระยันต์ต่างๆ จากตำราสมุดข่อยโบราณ ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญจนสำเร็จ ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา นะปัดตลอด จาก อาจารย์สมาน อดีตเจ้าคณะ๔ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ปีพุทธศักราช ๒๕๓๗ หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก็ได้พบกับ พระอาจารย์แดง วัดสันกำแพง จ.หนองคาย (จ. บึงกาฬในปัจจุบัน ) พระอาจารย์แดง ได้มอบตำราสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ให้แก่หลวงพ่อสมบูรณ์ไว้เพื่อเรียนพระยันต์คาถาอาคม ต่อมา หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา คาถานะโมตาบอด จาก หลวงปู่เทพา วัดเซกา จ.หนองคาย ( ปัจจุบัน พระราชภาวนาโสภณเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ ) ปีพุทธศักราช ๒๕๔๓ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา นะโมตาบอด,พระเจ้า๑๖พระองค์กับหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ ต่อมา หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา มนต์พยัคฆ์ จาก พระอาจารย์เสือ วัดบ้านตาโกน จ.ศรีสะเกษ ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘-๒๕๔๙ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชาอาจอจาซิม(หมากินความคิด)กับอาจารย์สมุทร ต่อมามีเณรจากวัดพลับได้นำตำราใบลานโบราณมาถวายหลวงพ่อสมบูรณ์ ซึ่งหลวงพ่อสมบูรณ์ก็ได้เป็นผู้แปล และ เผยแพร่ พระคาถาโลกุตตรธรรม ทั้ง ๑๙ บท ทั้งหมด หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เรียนวิชา คาถาขุนแผนผูกจิต,คาถาเสกกุมาร จากพระอาจารย์อภิชาติ วัดเกาะสุวรรณนาราม ดอนเมือง ( เป็นคาถาของ หลวงปู่กล้าย วัดหงส์ฯ ) สุดท้าย หลวงพ่อสมบูรณ์ ได้ศึกษาร่ำเรียน วิชาโหราศาสตร์ และ เป็นผู้กำเนิดวิชา ตะกรุดคู่ชีวิตหนุนดวง อันลือลั่น ในปัจจุบัน
    ผู้สร้างเจดีย์พุทธาคมรตนญาณมุนีศรีนครลำดวน พระธาตุหนุนดวง วัดนาโนน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

    fb_img_1750405234948-jpg.jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญพระอานนท์เถรเจ้ารุ่นแรกหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250620_202020.jpg IMG_20250620_202055.jpg IMG_20250620_201959.jpg
     
  9. ktv

    ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,180
    ค่าพลัง:
    +1,217
    จอง เหรียญพระอานนท์เถรเจ้ารุ่นแรกหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    [​IMG]
    [​IMG]
    พระโพธิสัตว์เมืองใต้
    หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง ชุมพร ผู้จะมาตรัสองค์ที่ ๑๓
    หลวงพ่อบุญมาท่านเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อสงฆ์ครับ หลวงพ่อบุญมานี้ท่านเป็นพระเกจิที่มีพลังจิตสูงอีกรูปหนึ่ง มีคนเคยเห็นท่านจารตะกรุด แล้ว ให้ตะกรุดม้วนเองได้มาแล้ว....ประสบการณ์ยิงไม่ออกครับ พระดีมีประสพการณ์ ท่านเป็นเกจิที่เมตตามากๆครับ
    หลวงปู่บุญมา วัดถ้ำโพงพาง “หาดทรายรี” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งภายในอ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีสถานที่สำคัญ 3 แห่งคือ ศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์,สวนพระตำหนักกรมหลวงชุมพรฯ และวัดถ้ำโพงพาง (วัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์) ซึ่งผู้ที่สร้างวัดนี้คือ หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร อดีตเกจิอาจารย์ดังแห่งวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ปัจจุบันมีหลวงปู่บุญมา ปภากโร อายุ 80 ปี ลูกศิษย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาส พื้นเพท่านเป็นชาวเมืองตรัง หมู่ที่ 4 ต.นาบินหลา อ.เมือง ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค. 2469 ตรงกับปีขาล ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 (เดือนอ้าย) อัฏฐศก จ.ศ.1288 ร.ศ.145 อธิกมาส (8 สองหน) โยมบิดาชื่อนายเฉจวน โยมมารดาชื่อนางพริ้ง นามสกุล “คงคูณ” เมื่ออายุ 15 ปีได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใกล้บ้าน และได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่อง 5 ปี จนกระทั่งได้เข้าสอบธรรมสนามหลวงในระดับนักธรรมตรี,โท และเอก ตามลำดับ ในขณะบวชเณรได้ 5 พรรษา มีอายุครบ 20 บริบูรณ์ต้องเข้ารับการคัดเลือกทหาร และจับได้ใบดำต้องรับราชการทหารอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการได้ครองเรือนตามวิสัยฆราวาส จนมีอายุได้ 25 ปี จึงอุปสมบทที่วัดปากจ่า ต.ควนโส อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อปีพ.ศ.2494
    พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ (เลี่ยน จันทสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พร้อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์คล้าว กตปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ปภากโร” หลังจากนั้นได้เน้นร่ำเรียนทางกรรมฐานทั้งสมถะ และวิปัสสนาโดยตรง จนเข้าพรรษาที่8 ในขณะมีอายุได้ 33 ปีจึงออกธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ
    ในช่วงที่ท่านธุดงค์ไปที่เขาชัยสน จ.พัทลุง ในคืนหนึ่งขณะนั่งสมาธิได้นิมิตเห็น ในบริเวณป่าเขาที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่งนี้มีเหวลึก ในเหวนั้นมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์และเจดีย์อยู่ รุ่งเช้าท่านจึงเดินทางไปดูตามนิมิตก็เห็นเป็นจริงตามนั้น
    อีกครั้งหนึ่งหลังจากท่านนั่งสมาธิตามปกติ เมื่อจิตหยั่งลงสู้สมาธิเป็น “เอกจิต”แล้ว ท่านได้เห็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จมาหา โดยพระองค์ได้ตรัสกับท่านว่า “ท่านบุญมามาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่รู้อะไรดอกหรือ” ท่านได้ถวายพระพรถามไปว่า “มหาบพิตรมีอะไรดี ก็ขอบอกแก่อาตมาบ้าง” พระองค์ตรัสว่า “ถ้าอย่างนั้นก็คอยจดจำไว้ให้ดี ฉันจะบอกให้ คาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันได้ใช้มาตั้งแต่ยังผนวชเป็นพระภิกษุอยู่” ในนิมิตนั้น ท่านได้เห็นแผ่นป้ายหินชนวนขนาดใหญ่สีดำ รัชกาลที่ 4 ได้เขียนพระคาถาให้ท่องจำซึ่งมีทั้งหมด 11 พระคาถามีชื่อว่า “รัตตนัตตะยะปะภาวาภิยา จะนะคาถา” พระองค์ทรงใช้มาตั้งแต่ครั้งผนวชอยู่ที่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) และเมื่อทรงย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิวเศ ก็ทรงใช้เจริญภาวนามาจนถึงวันที่ทรงลาผนวชออกมาครองราชย์ และใช้ภาวนาสวดมนต์จนถึงวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ทั้งนี้ หลวงปู่บุญมาท่านได้ยึดพระคาถาของรัชกาลที่ 4 มาเป็นแนวปฏิบัติควบคู่ไปกับปฏิปทาของพระอาจารยืคือ หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาขอประชาชนชาวเมืองชุมพร และภาคใต้หลายจังหวัด
    ในด้านวิชาอาคมท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่สงฆ์ และไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ส่วนการสร้างวัตถุมงคล เริ่มครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2532 ที่สร้างชื่อเสียงและได้รับความนิยม อาทิ เสือหล่อกวัก,เหรียญเสมารุ่นแรก ,รูปเหมือน ฯลฯ วัตถุมงคลของท่านกล่าวขานว่า ดีทางคุ้มครองป้องกันภัย โดยเฉพาะในหมู่ชาวเล ต่างเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ เพราะช่วยให้รอดชีวิตกันมาจำนวนมาก
    (ขอบพระคุณข้อมูลจาก คุณ warut )

    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ผ้ายันต์สิงห์หลวงพ่อบุญมา
    วัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์ (วัดถ้ำโพงพาง)
    ผ้ายันต์หายาก นิยมในศิษย์สายนี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่อีกรูปในภาคใต้ของไทย
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250621_125741.jpg IMG_20250621_125820.jpg IMG_20250621_125757.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    วันนี้จัดส่ง
    1750505307369.jpg

    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750598423972.jpg FB_IMG_1750597715446.jpg FB_IMG_1750597718845.jpg FB_IMG_1750597724190.jpg

    พระคาถามหาปทุมเสริมชะตาโชคลาภ(ของสมเด็จพระสังฆราชแพ)
    นะโมสามจบ
    ' สุกิตติมา สุภาจาโร
    สุสีละวา สุปากะโต
    ยัสสะสีมา วะเจธีโร
    เกสะโรวา อะสัมภิโต ฯ
    คนชอบมาขอพรเรื่องหน้าที่การงาน ความเจริญทางโลกสมเด็จพระสังฆราชแพท่านก็จัดให้สวดคาถาบทนี้ครับ
    คาถาสุกิตติมา เป็นคาถาที่หลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวรารามท่านจะใช้ลงในขันน้ำมนต์ของท่านเป็นประจำ คาถาใช้ว่า "สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปากะโต" เป็นเมตตามหานิยม ถ้าใครอยู่กับเจ้านายแล้วเจ้านายกัดบ่อย ให้ใช้คาถาบทนี้นึกถึงหน้าเขาแล้วก็ภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว
    เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวรารามท่านจะใช้ยันต์สุกิตติมากับยันต์บารมี๓๐ทัศน์คู่กันลักษณะทำเป็นกลีบบัวบานแล้วเขียนตัวอักขระ ด้านหนึ่งจะอยู่ก้นขันน้ำมนต์ ด้านหนึ่งจะอยู่ที่ฝา ถ้าเป็นภาษาของนักเล่นคาถา เขาจะเรียกว่า ยันต์ประทับหน้ากับยันต์ประทับหลัง
    เหตุที่เรียกว่ายันต์ดวงนี้เพราะด้านหลังองค์พระปิดตาจะมียันต์สุกิติมาซึ่งเป็นยันต์โบราณมีที่มาจากคาถาดังนี้ สุกิติมา สุภาจาโร สุปากโต ยัสสสีมา วเจติโร เกสโรวา อสมภิโต เป็นคาถาที่พระสังกัจจายน์ใช้อธิษฐานปิดตาเข้าอภิญญาอธิษฐานลาภ หลวงปู่โต๊ะท่านได้เล่าเรียนคาถานี้มาจากหลวงพ่อโหน่งวัดอัมพวันสุพรรณบุรีท่านจึงได้นำมาลงไว้ในหลังพระปิดตาของท่านพระปิดตารุ่นนี้เมื่อได้มีผู้บูชาไปแล้วปรากฏว่ามีลาภเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมมากเงินทองไม่ขาดสายชีวิตดีขึ้นชาวบ้านเลยเรียกพระปิดตารุ่นหลังยันต์คุ้มดวงคือหมายความว่าพระปิดตารุ่นนี้คุ้มดวงชะตากลับร้ายกลายดีได้ต่อมาก็เรียกกร่อนเป็นยันต์ดวงนี่เอง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญพระเจ้าห้าพระองค์ หลังยันต์สุกิติมา
    นิตยสารลานโพธิ์ เพื่อเป็นที่ระลึกครบรอบ 5 ปี เนื้อทองแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒
    ลานโพธิ์ยุคนั้นบุกตลาด สร้างพระดีๆ เหรียญดีๆ หลายรุ่นน่ะครับ แจกมากับนิตยสารลานโพธิ์ ที่จำได้ชัดเจน หรือเหรียญหลวงพ่อทวด ปลุกเสกโดยหลวงปู่ ดู่ รุ่นกระโดดบาตร เป็นที่นิยมมาก เหรียญหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า พิธีสายวัดมะขามเฒ่า เนื่องจากเขาเป็นสื่อทำให้ อิทธิพล เส้นสาย ด้านวัตถุมงคลพอสมควรและ รู้ข่าวคราววงใน วัดไหนดี มีพิธีดี จะเอาไปขอพระ ไปขอหลวงปู่ หลวงพ่อ เมตตา เป็นที่ราบรื่น เป็นของที่ สร้างมาปลุกเสกอย่างดี
    วาระพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก
    วาระที่ : 1
    - หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จังหวัดชุมพร อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 2
    - หลวงพ่อดำ วัดตุยง จังหวัดปัตตานี อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 3
    - พระอาจารย์แอบ วัดปากน้ำ หาดใหญ่ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 4
    - หลวงพ่อขวัญ วัดปากอ่าว จังหวัดสุราษฏร์ธานี อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 5
    - พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 6
    - พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 7
    - หลวงพ่อหงษ์ วัดชลคราม จังหวัดสุราษฏร์ธานี อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 8
    - หลวงพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 9
    - พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อง จังหวัดนครศรีธรรมราช อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 10
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 11
    - หลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 12
    - พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    วาระที่ : 13
    - พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเวฬุราชิน ตลาดพลู ธนบุรี เมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ.2522 โดยมีพระเกจอาจารย์ดังนี้
    1.) หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,
    2.) หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม,
    3.) หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา,
    4.) หลวงปู่สาม วัดไตรวิเวก,
    5.) หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์,
    6.) หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม,
    7.) หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู,
    8.) หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,
    9.) หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง,
    10.) หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง,
    11.) หลวงพ่อทองดำ วัดถ้ำตะเพียนทอง,
    12.) หลวงพ่อสุด วัดกาหลง,
    13.) หลวงพ่อทองสุข วัดสพานสูง,
    14.) หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น
    วาระที่ : 14
    - พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเวฬุราชิน วันที่ 22 ธันวาคม 2522
    1.) สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
    2.) พระวิสิทธาธิบดี วัดไตรมิตรวิทยาราม
    3.) พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทพธิดาราม
    4.) พระราชโมลี วัดราชโอรสาราม
    5.) พระวิสุทธิวราภรณ์ วัดจันทาราม
    6.) พระศรีกิตติโสภณ วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
    7.) พระธีรสารมุนี วัดอัปสรสวรรค์
    8.) พระครูสังฆวิสุทธิคุณ วัดเวฬุราชิน
    9.) พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    10.) พระครูสมุห์กลั่น คุณวโร วัดอินทราวาส อ่างทอง
    11.) หลวงปู่วัน เขมโก วัดสิทธาราม อ่างทอง
    12.) พระสุนทรธรรมภาณี (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    13.) พระวิสุทธิ์สารเถร (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    14.) พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตมะ) วัดวังวิเวการาม กาญจนบุรี
    15.) พระครูไห (หลวงพ่อไห) วัดบางทะลุ เพชรบุรี
    16.) พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) วัดกาหลง สมุทรสาคร
    17.) พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพระอง สมุทรสาคร
    18.) พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อไพฑูรณ์) วัดโพธินิมิตร กรุงเทพ
    19.) พระอาจารย์สมบัติ ปิยธมํโม วัดทองศาลางาม กรุงเทพ
    20.) พระอดุลธรรมเวที (หลวงพ่อไวย์) วัดบรมวงศ์ อยุธยา
    21.) พระครูภาวนารังสี (หลวงพ่อเปลื่อง) วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา
    22.) พระญาณนายก (หลวงพ่อผา) วัดอุดมธานี นครนายก
    23.) พระครูนนทกิจโสภณ (หลวงพ่อทองสุข) วัดสะพานสูง นนทบุรี
    24.) พระอาจารย์ทองคำ อินฺทวังโส สำนักสงฆ์ถ้ำตะเพียนทอง ลพบุรี
    ก่อนจะนำไปหากมีเวลาจะนำไปให้ หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาปิ้ง ปลุกเสกหากติดขัดด้วยเวลาจะนำให้พระคณาจารย์อื่นปลุกเสกแทน
    อ้างอิง : ข้อมูลจากนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ ฉบับ ปี 2522

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญพระเจ้าห้าพระองค์หลังยันต์ดวงสุกิตติมาดังนี้เป็นยันต์ที่อยู่ในหลังพระปิดตารุ่นแพงๆหลวงปู่โต๊ะและเหรียญหลวงปู่โต๊ะและเหรียญนี้ยังได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่โต๊ะอีกหลายวาระ เหรียญสวยเดิมรมดำผิวรุ้งอมม่วง

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250622_201619.jpg IMG_20250622_201650.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2025 at 00:21
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750601203233.jpg FB_IMG_1750601207293.jpg

    หลวงพ่อหมอ สุดยอดพระเกจิ เพื่อนรักของหลวงพ่อคูณ พระเกจิองค์เดียวที่หลวงพ่อคูณ มวนและจุดยาสูบให้
    พระสงฆ์ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำยกย่องว่าเป็น
    “…เจ้าของธนาคาร…”
    ขออนุญาตยกบทความของคุณพยุงศักดิ์ เศรษฐมาตย์
    ที่ได้รวบรวมเรื่องราวของท่านไว้
    มาเผยแพร่บารมีองค์หลวงพ่อนะครับ
    : #เจ้าของธนาคาร :
    ครั้งหนึ่ง ราวปี พ.ศ 2532
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    มาร่วมงานเททองหล่อพระที่วัด
    แห่งหนึ่งใน อ.ท่าเรืองานนั้น
    หลวงพ่อหมอ ก็ไปร่วมงานด้วย
    ผู้คนที่มาในงานต่างมาห้อมล้อม
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    กันมากมายเพื่อกราบขอเมตตา
    ขอบารมีจากท่าน
    ระหว่างที่ผู้คนห้อมล้อมท่านอยู่นั้น
    หลวงพ่อฤษีลิงดำ ก็ได้ชี้ไปที่
    หลวงพ่อหมอที่นั่งอยู่คนละฝั่งกัน
    กับท่านแล้วพูดว่า
    " ผู้ใดมีบารมี ผู้ใดจะโชคดีโน้น...
    ไปขอหลวงพ่อหมอโน้น นี้แหล่ะ
    เจ้าของธนาคารตัวจริง
    ไปกราบขอท่านไป "
    เป็นคำกล่าวของครูบาอาจารย์ผู้รู้ซึ้ง ซึ่งภูมิธรรมของกันและกัน
    " ปราชญ์ย่อมรู้ในปราชญ์ ".
    หลวงพ่อประเสริฐ(หมอ) โอภาโส
    วัดโคกกระต่ายทอง ท่าเรือ อยุธยา
    พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงฤทธิ์อภิญญา
    วาจาสิทธิ์หูทิพย์ ตาทิพย์
    วัตรปฏิบัติแปลกๆ ทำตัวแปลกๆ
    จนชาวบ้านหาว่าท่านเป็น " พระบ้า "
    คน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นับถือท่านมาก
    เรื่องโชคลาภนั้นเป็นเลิศนัก
    ผู้สร้างตำนานโรงทานอันลือลั่น
    ฝ่ามือมหาลาภ วัตถุมงคลท่านศักดิ์สิทธิ์นัก
    เรื่องหวยเรื่องเบอร์นั้นท่านโดงดังมาก
    แนวทางปฏิบัติ กิน เดิน นั่ง นอน ท่านจะภาวนาตลอดเวลา กิจสำคัญของท่านที่ขาดไม่ได้เลยคือการ ออกบิณฑบาต
    โปรดญาติโยม เรื่องราวพิสดาร
    ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์
    อัศจรรย์พันลึก วัตรปฏิบัติแปลกๆ
    จนชาวบ้านเรียก " พระบ้า "
    ปริศนาธรรมคำคมหลวงพ่อหมอ
    * ศรัทธาตัวเดียว
    ผู้ปฏิบัติต้องมีศรัทธาอย่างแรงกล้า
    ถึงจะได้พบธรรมะเบื่องสูง ที่ไม่มีตัวตน *
    * ธรรมะต้องเกิดในดวงจิต
    ดวงใจถึงจะเป็นของจริง *
    * สมาธิเปรียบเหมือนต้นไม้ ศีลเหมือนพื้นดินสมาธิอาศัยศีล เหมือนต้นไม้อาศัยดิน *
    * เรากางร่มก่อน ร่มถึงจะมากางเรา
    ถ้าเรามีศีลมีธรรมแล้ว ศีลธรรมก็มารักษาเราเป็นเรื่อง ปัจจัตตัง อัตตะโน นาโถ
    (ทำเอง รู้เอง เห็นเอง) *
    เรื่องราวทั้งหลายทั้งปวง ที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้คือเรื่องราวพิสดาร ปาฏิหาริย์ ประสบการณ์ต่างๆ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง
    จากบันทึกของศิษย์และคำบอกเล่าจาก ลพ.ทอง เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่ายทอง รูปปัจจุบัน
    เรื่องราวปาฏหาริย์ พิสดารลึกลับ
    ของหลวงพ่อหมอ ยังมีอีกมากเล่ากันเจ็ดวันเจ็ดคือก็ไม่หมด เอาพอหอมปากหอมคอ
    ให้รู้ว่า พระดีๆ เก่งๆ ที่ทรงฤทธิ์อภิญญา แบบนี้ยังมีให้เราได้ค้นหากันอยู่
    " โยมไม่ทันท่าน แต่ได้พระท่านไปบูชา ก็เหมือนได้แก้ววิเศษของท่านแล้ว "
    ( หลวงพ่อทอง เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่ายทอง เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้กล่าวไว้ )
    ชาติภูมิ
    หลวงพ่อหมอ โอภาโส
    ถือกำเนิดในสกุล จันทรส ณ บ้านบักเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
    เกิดเดือน ๑๒ ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๕๘
    เดิมท่านชื่อว่า เพชร แล้วเปลี่ยนมาเป็น ประเสริฐส่วนชื่อ หมอ นั้นชาวบ้านพร้อมใจกันตั้งให้ท่านเพราะกิตติศักดิ์ของท่านนั้นเอง
    หลวงพ่อหมอ ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์อีกรูปหนึ่งผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัตชอบ ท่านใช้ชีวิตในสมณเพศอย่างเป็นประโยชน์ยิ่ง ไม่เคยสะสมเงินทองมาเป็นของส่วนตัวมีเท่าไหร่ท่านนำไป บริจาก สร้าง แจก เพื่อก่อประโยชน์ต่อบวรพุทธศาสนา เลี้ยงเด็กกำพร้าและเด็กยากจนที่อยู่ในความอุปการะคุณของท่านทั้งหมด
    สงเคราะห์ญาติโยมผู้ตกทุกข์ได้ยาก
    จากวัตรปฎิบัติแบบแปลกๆ ของท่าน เเม้ยางคนที่ไม่เข้าใจ มองท่านอย่างผิวเผินว่าท่าน ออกจะแปลกๆ พิกลไม่เหมือนพระสงฆ์ทั่วไป
    การออกธุดงค์ของทาานก็แปลก ไม่เคยมีกลดหรือมุ้งติดตัวเลย จะมีเพียงแค่จีวรห่มกาย และบาตรใบเดียวเท่านั้น
    แต่เมื่อได้สัมผัสได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ
    วัตรปฏิบัติ อุบายธรรม หลักคำสอนต่างๆ ของท่านแล้ว ความสงสัยในตัวท่านนั้น ก็จะคลายสิ้น.
    ______________________________
    : #นวโกวาทเป็นครู :
    หลวงพ่อหมอ ท่านว่าท่านเอาตำราเป็นครู
    เอานวโกวาทเป็นครู ภูมิธรรมที่เกิดขึ้นนั้นได้จากตำรา
    หลวงพ่อหมอ เคยปรึกษาหารือสนทนาธรรมกันกับ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ถึงนวโกวาท
    ซึ่งในนวโกวาทนี้เขาบอกไว้ทุกเรื่อง ทุกเหลี่ยมทุกมุม
    แต่ไม่ปฏิบัติกัน
    ท่านว่าคนที่จะบรรลุธรรมะ คือ ศรัทธาตัวเดียว ไม่ได้เรียนมามากท่านเอ่ยตามพระวินัยสนใจให้มากรักษาตามนวโกวาทให้ดีๆ
    ศรัทธาตัวเดียว ผู้ปฏิบัติต้องมีศรัทธาอย่างแรงกล้า ถึงจะได้พบธรรมะเบื่องสูง ที่ไม่มีตัวตน.
    ___________________________
    : #หมอ :
    ที่มาของคำว่า หมอ
    ที่ อ.ตะพานหินคือมีญาติโยมผู้หญิงที่ตั้งท้องมากราบ หลวงพ่อหมอ แล้วถามว่าเด็กในท้องเป็นยังไง ปรากฏว่าหลวงพ่อหมอ ท่านบอกเพศ วัน เดือน ปี ที่เด็กจะเกิดไว้ ชึ่งพอถึงเวลาก็คลอดตามที่หลวงพ่อพูดตรงทั้งหมด ทำให้เป็นเรื่องที่แปลกมาก คนท้องในสมัยนั้นแห่กันมาถามหลวงพ่อจนวุ่นวาย
    เท่านั้นยังไม่พอบางคนมาขอให้ท่านแผ่บารมีรักษาอาการเจ็บป่วยให้หาย ท่านก็รักษาตามนิมิตของท่านบางท่าน หลวงพ่อหมอ ให้ไปกินก๋วยเตี๋ยวสามชามก็หาย
    บางคนโดนท่านถีบ ท่านพลักก็หายหรือบางท่านโดนตบก็มีส่วนใหญ่ ญาติโยมไปหาหลวงพ่อแล้วท่านทำให้หายหมด คนตะพานหินจึงเรียกท่าน หลวงพ่อหมอ ตั้งแต่นั้นมา
    สมัยที่หลวงพ่อหมอ ท่านออกธุดงค์ ปฏิบัติตัวแปลกๆ เป็นคนสติไม่ดี ดำเนินจิตตามนิมิตรบอก
    การธุดงค์หลวงพ่อหมอ มีอัฏฐบริขารติดตัวเพียงจีวรห่มกาย และบาตรเท่านั้น กลดมุ้งไม่เคยมีแต่แปลกผิวหลวงพ่อหมอ ไม่มีรอยยุงกัดเลย.
    ______________________________
    : #พระบ้า :
    ลูกศิษย์ท่านหนึ่งชาวตะพานหิน เล่าว่ามีชาวบ้านแถวบ้านตนเอง ไปดูหลวงพ่อหมอ อยากรู้ว่าพระบ้าเป็นอย่างไร ก็ได้พบหลวงพ่อหมอ เมื่อได้สัมผัสหลวงพ่อหมอ อย่างจริงจังแล้วขนลุกรู้สึกได้ทันทีว่า
    พระองค์นี้ไม่เพียงมิใช่พระบ้า แต่เป็นพระที่ไม่ธรรมดาและเป็นพระที่เก่งมากๆ เสียด้วย นึกคิดอะไรในใจท่านรู้หมด ก่อนหวยออกไม่กี่นาที
    หลวงพ่อหมอ ท่านได้เขียนเลขเล่นๆ ไว้ 6 ตัว พอหวยออกมา รางวัลที่ 1 ออกตรงแป๊ะไม่มีคลาดเคลื่อนเลยทั้ง 6 ตัว
    แบบนี้จะเป็นพระบ้าได้อย่างไร.
    ______________________________
    : #ยาสีฟันรักษาโรคประหลาด :
    คนนครสวรรค์ผู้หนึ่ง ได้ดูถูกปรามาสว่า
    หลวงพ่อหมอ เป็นพระผีบ้า
    จู่ๆได้เกิดเป็นโรคประหลาด เป็นก้อนเนื้อขึ้นตามผิวหนังของแขนทั้งสองข้าง ไปหาหมอรักษาโรงบาลไหนก็ไม่หาย รู้สึกปวดทรมานมาก
    ก็เลยนึกได้ว่าก่อนเป็นนั้น ตนเองนั้นได้ดูถูกปรามาสหลวงพ่อหมอ ว่าเป็นพระผีบ้า
    ก็เลยจะมาขมาหลวงพ่อหมอ
    เมื่อเจอหน้ากัน ยังไม่ทันได้พูดอะไร
    หลวงพ่อหมอ ถามขึ้นก่อนโดยทันทีว่า
    " เป็นบ้ามั๊ย โยมคนนี้จึงตอบท่านไปว่า ไม่บ้าครับ หลวงพ่อหมอ ก็พูดขึ้นว่า เอ้อ..แก่ก็ยอมรับแล้วว่า ข้าไม่บ้า แล้วหลวงพ่อหมอ ก็บอกให้ไปซื้อยาสีฟันจากร้านที่ท่านบอก ให้เอามาทาแล้วจะหายภายใน 7 วัน "
    เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่ยาสีฟันที่หลวงพ่อหมอ
    บอก ให้ไปซื้อมาทา สามารถรักษาอาการทุกข์ทรมานจากโรคประหลาดที่เป็นอยู่นั้น หายอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่ไปรักษาจากโรงพยาบาลมาหลายแห่งแล้วไม่หาย.
    _____________________________
    : #จากตะพานหินสู่วัดโคกกระต่ายทอง :
    หลังจากที่หลวงพ่อหมอได้อยู่สร้างความเจริญทางวัตถุที่วัดพฤษะวันโชติการาม
    ควบคู่กับปลูกฝังรากแห่งความศรัทธาต่อบวรพุทธศาสนาให้เกิดขึ้นและฝังลึกในจิตใจชาวตะพานหินและละแวกใกล้เคียงเป็นเวลาหลายปี
    ร้านค้าชาวจีนหรือเหล่าศิษย์ในอ.ตะพานหิน
    จะมีรูปท่านบนหิ้งพระทุกร้าน
    พระอาจารย์ทองอยู่ แห่งวัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ
    ได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านได้ไปพบท่าน
    จึงขอให้ท่านนำกฐินมาทอดที่
    วัดบัวงาม ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา เมื่อท่านนำกฐินมาทอดแล้ว
    ชาวบ้านท่าเรือเลื่อมใสศรัทธาท่านมากต่างปรึกษากันว่าจะหาวัดให้ท่านมาอยู่ จึงนิมนต์ให้ท่านมาอยู่ที่ วัดโคกกระต่ายทอง ซึ่งวัดนี้เป็นวัดโบราณเก่าแก่มาก เป็นวัดร้างมานานแล้ว อยู่ที่ ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา.
    ______________________________
    : #เดินข้ามแม่น้ำป่าสัก :
    ครั้งหลวงพ่อหมอ มาอยู่ วัดโคกกระต่ายทอง ท่านได้นั่งรถไฟมาลงที่ท่าเรือ แล้วเดินเท้ามายังวัดชุมแสง เพื่อที่จะข้ามท่าเรือ มายังวัดโคกกระต่ายทอง
    ซึ่งอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งแม่น้ำกัน
    ขณะที่หลวงพ่อหมอ มาถึงท่าวัดชุมแสงนั้น เป็นเวลาค่ำแล้วจึงไม่มีเรือข้ามฝากไปยังท่าวัดโคกกระต่ายทอง
    ทันใดนั้นหลวงพ่อหมอ ได้เดินลงเหยียบบนผิวน้ำอัศจรรย์ยิ่งตัวท่านยืนอยู่เหนือผิวน้ำแล้วเดินข้ามแม่น้ำไปยังท่าวัดโคกกระต่ายทอง
    โดยที่มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ว่าเห็นพระเดินข้ามแม่น้ำ บ้างก็ว่าท่านเหยียบยืนบนฝาบาตรลอยข้ามแม่น้ำในครั้งนั้น
    จนเป็นที่กล่าวขานล่ำลือไปทั่วในเขต อ.ท่าเรือ ในสมัยนั้น
    (เรื่องราวจาก ลพ.ทอง เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่ายทอง รูปปัจจุบัน).
    ______________________________
    : #สหมิกธรรม :
    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
    ให้ความเคารพนับถือ ยอมรับในคุณธรรมของ
    หลวงพ่อหมอ เป็นพระองค์เดียวที่หลวงพ่อคูณ มวนและจุดยาให้สูบ เรียกว่าท่านเป็นเพื่อนชี้กันเลยทีเดียว ท่านทั้งสองต่างรู้ภูมิกัน
    อันที่จริงหลวงพ่อคูณ ท่านเคารพนับถือในองค์หลวงพ่อหมอ มาก หลวงพ่อหมอ ท่านจะอายุมากกว่า หลวงพ่อคูณ 8 ปี
    หลวงพ่อคูณ ท่านกล่าวว่า
    " หลวงพ่อหมอ เก่งกว่ากูเยอะ ".
    ____________________________
    : #เขาดีกว่ากูอีก :
    หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค นครสวรรค์
    บอกแก่ชาวบ้านช่องแค
    สมัยที่หลวงพ่อหมอ ท่านออกธุดงค์ ปฏิบัติตัวแปลกๆ ทำตัวเป็นคนสติไม่ดี ดำเนินจิตตามนิมิตรบอก
    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อหมอ ได้ธุดงค์ผ่านไปแถวช่องแค อ.ตาคลี ชาวบ้านที่พบเห็นต่างโจษขานกัน กับความแปลกประหลาดในวัตรปฏิบัติแปลกๆของท่านที่ไม่เหมือนพระทั่วไป จนชาวบ้านบางส่วนมองท่านว่าเป็นพระบ้า
    ด้วยความสงสัยจึงนำเรื่องราวไปถาม
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ว่ามีพระสติไม่ดีนุ่งจีวรเก่าๆ มาธุดงค์ปักกรด แถวช่องแค ชาวบ้านเอาภัตตาหารไปถวายบางวันไม่ฉันนั่งนิ่งทั้งวัน บางทีชาวบ้านมาพบเจอฉันภัตตาหารกลางคืน
    บางวันมีญาติโยมที่ศรัทธา มานั่งห้อมล้อมเยอะเพราะไปถามอะไรท่าน ในเรื่องที่ตนเองทุกร้อนใจ ท่านรู้ตอบถูกหมด รู้ทุกอย่างที่ชาวบ้านถาม บ้างก็มาให้ท่านทำน้ำมนต์ ให้ดูดวง บ้างก็มารักษาให้ท่านพ่นเป่า บ้างก็มาขอหวย มีทั้งคนที่นับถือ มีทั้งคนที่มาก่อกวนท่าน เพราะหาว่าท่านเป็นพระบ้า
    ชาวบ้านจึงนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อพรหม
    ว่าเป็นพระบ้า หรือ อย่างไรกันแน่
    หลวงพ่อพรหม นั่งนิ่งสักพักแล้วท่านบอกกับโยม
    ที่สงสัยในตัวหลวงพ่อหมอว่า
    " เขาดีกว่ากูอีก "
    จึงไม่มีใครกล้าไปตอแยก่อกวนหลวงพ่อหมออีกเลย.
    ______________________________
    : #ฝ่ามือมหาลาภ :
    เรื่องมหาลาภ ของหลวงพ่อหมอนั้นว่ากันว่าขลังเป็นยิ่งนัก
    ฝ่ามือมหาลาภของท่าน นับว่าเป็นของวิเศษนัก
    หลวงพ่อหมอ ท่านจะเน้นไปทางด้าน
    โชคลาภ โภคทรัพย์ เงินไม่ขาดมือ
    ในวัตถุมงคลของท่านมักจะมีรูปฝ่ามือมหาลาภของท่าน วางประทับอยู่ด้านหลังวัตถุมงคลนั้นๆ
    ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ หรือพระสมเด็จ
    จะมีรูปฝ่ามือมหาลาภ ของท่านประทับอยู่ข้างหลังขององค์พระเกือบทุกรุ่น
    ฝ่ามือมหาลาภที่ประทับไว้ด้านหลังวัตถุมงคลของท่านนั้นยังแฝงไว้ด้วยซึ่งปริศนาธรรรม
    ว่าฝ่ามือของท่านนั้นค่อย ช่วยเหลือ ผลักดัน
    ส่งเสริม อุปถัมภ์ค้ำชู มิให้ตกต่ำ
    วัตถุมงคลของท่านนั้นจะดีไปในทาง
    โชคลาภ โภคทรัพย์ เมตตา ค้าขาย เจริญก้าวหน้า ทำมาหากินคล่องตัว ทั้งยังคุ้มครองป้องกัน
    นักเสียงโชคและคนค้าขาย ควรหามาบูชายิ่งนัก
    วัตถุมงคลของท่านนั้นราคาไม่แพง เพราะคนไม่ค่อยรู้จักท่าน
    แต่ที่น่าแปลกคือหาไม่ค่อยได้ไม่ค่อยพบเจอ.

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จฐานสิงห์ปิดทองหลังปั๊มหมึกแดงรอยมือ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250622_211950.jpg IMG_20250622_212018.jpg
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750599383615.jpg FB_IMG_1750600373147.jpg


    พระเนื้อดินผสมผง หลวงพ่อพระงาม จัดสร้างพิธีเดียวกันกันเนื้อดินหลวงพ่อ ลี วัดอโศการาม , รูปเหมือน พระครูสังกิจโจ และอื่นๆฯ ออก ที่วัดเขาพระงาม ลพบุรี รวมพระเกจิอาจารย์สายกรรมฐาน ปลุกเสก ปี ๒๕๐๐ สภาพสวย
    พระเครื่องชุดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา พิธีจัดสร้างโดย พระครูสังกิจโจ วัดเขาพระงาม(วัดสิริจันทรนิมิตวรวิหาร ) จังหวัดลพบุรี เนื้อดินผสมผง จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2500 มีหลากหลายเนื้อและพิมพ์ทรงรูปแบบ เป็นพระในชุดที่เข้าร่วมในพิธีใหญ่ฉลอง 25ศตวรรษ โดยท่านพ่อลี ธัมมธโร จัดขึ้นที่วัดอโศกราม จังหวัดสมุทรปราการ อธิษฐานจิต 7 วัน 7 คืน โดยครูบาอาจารย์สายกรรมฐานของท่านอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เหตุที่ว่าพระชุดนี้ทำไมถึงได้เข้าพิธีกึ่งพุทธกาลที่วัดอโศการาม คือ วัดเขาพระงามเป็นวัดในอุปถัมภ์ ของท่านพ่อลี ซึ่งมีความสัมพันธ์กันมาแต่ครั้งก่อน
    รายนามครูบาอาจารย์ที่เข้าร่วมอธิษฐานจิต
    1. พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน
    2. หลวงพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม
    3. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม
    4. หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก
    5. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
    6. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง
    7. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก
    8. หลวงตามหาบัว วัดบ้านตาด
    9. หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง
    10. หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    11. หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    12. ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต
    13. หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ
    14. หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    15. หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    16. หลวงปู่เทศก์ วัดหินหมากเป้ง
    17. เจ้าคุณแดง วัดป่าประชานิยม
    18. หลวงปู่ดูล วัดบูรพาราม
    19. หลวงปู่อ่อน ญานสิริ วัดป่านิโครธาราม
    20. หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย
    21. พระอาจารย์จวน วัดภูทอก ฯลฯ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จหลวงพ่อพระงาม
    ลพบุรี ปี ๒๕๐๐ พิธีใหญ่สายกรรมฐานหลวงปู่มั่นหลวงปู่เสาร์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250622_203401.jpg IMG_20250622_203332.jpg
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,284
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1750610411547.jpg


    พระครูสาทรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ อำเภอเมือง จ.ปทุมธานี ศิษย์เอกของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ พระเกจิดังแห่งเมืองปทุมธานี ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกในพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ปี2515 หลวงพ่อลมูล ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆ พลังจิตของท่านดีมาก จนชาวบ้านยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งสวนพริกไทย หลวงพ่อละมูล ท่านเองก็ชอบสร้างพระสมเด็จเช่นกันครับ เหมือนอาจารย์ท่าน คือหลวงปู่เทียน โดยหลวงปู่เทียน นอกจากท่านจะสำเร็จวิชาการทำผงวิเศษ ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และ ผงพุทธคุณ แล้ว ท่านยังเป็นพระที่สำเร็จวิชา “ผง ๑๒ นักษัตร์” ซึ่งเป็นผงที่เขียนลบมาจากยันต์ ๑๒ นักษัตร์ ทั้ง ๑๒ ปี ดังนั้น พระเนื้อผงของท่านจึงดีเด่นสูงค่าไปด้วยพระพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม อุดมโชคลาภ มีกินมีใช้ทุกปี ไม่ขัดสน เข้าได้กับทุกผู้คน ทุกปีเกิด สามารถป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลาที่มีพระเครื่องของท่านพกพาอาราธนาติดตัวอยู่ เวลาดวงชะตาตกต่ำ ก็จะค้ำจุนไม่ตกอับจนเกินไป เวลาดวงชะตารุ่งโรจน์ ก็จะเสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น หลวงปู่เทียนท่านได้ถ่ายทอดวิชาผง ๑๒ นักษัตร์นี้ให้แก่ศิษย์ คือ หลวงพ่อลมูล โดยหลวงพ่อลมูลท่านจะทำพิมพ์ให้ต่างจากหลวงปู่เทียน และท่านก็ลบผงพุทธคุณเองด้วยเช่นกัน พระท่านน่าแขวน รุ่นเก่าๆหาก็ไม่ค่อยง่ายเช่นกัน ทางพื้นที่นิยมกันมากครับ จำไว้ว่าตะกรุดที่ฝังจะไม่เรียบร้อยเช่นกัน ม้วนไม่ค่อยกลมนะครับ วัตถุมงคลของท่านนั้นสามารถใช้ป้องกันภัยอันตราย จากสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ที่มีมากมายในสวนสมัยก่อนได้อย่างน่ามห้ศจรรย์ อีกทั้งยังมีพุทธคุณครบเครื่อง ไม่เป็นรองอาจารย์ของท่าน ทั้งคงกระพัน มหาอุด มหานิยม เมตตา โชคลาภ ลูกศิษย์ทั้งหลายล้วนทราบกันดี
    หลวงพ่อลมูล ขันติพโล วัดเสด็จ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
    หลวงพ่อลมูล ขันติพโล หรือท่านพระครูสาทรพัฒนกิจ เจ้าอาวาสวัดเสด็จ ตำบลสวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มหาชนในยุคก่อนและยุคนี้ต่างก็ให้ความเคารพนับถือมากมาย หลวงพ่อลมูลท่านเป็นชาวมอญโดยกำเนิด เดิมชื่อลมูล จับจิตต์ เกิดวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2458 แรม 5 ค่ำ ปีเถาะ บิดาชื่อ นายติ่ง มารดาชื่อ นางแม้น จับจิต ท่านเกิดที่หมู่ 4 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีพี่น้องด้วยกัน 6 คน ท่านเป็นคนที่ 2 ของครอบครัว เมื่อท่านอายุได้ 3 ขวบ ท่านได้ย้ายตามบิดามารดามาอยู่ในคลองบางใหญ่หมู่ที่ 1 ตำบลสวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพราะโยมปู่เหลือ และโยมย่าแหวว จับจิตต์ ได้มอบมรดกที่ดินให้กับครอบครัวของท่านไว้ทำกิน ท่านจึงต้องย้ายมาอยู่ด้วย พอท่านอายุได้ 12 ปี โยมพ่อได้นำท่านไปฝากให้เรียนหนังสือกับ"พระอาจารย์ไม้" ที่วัดเสด็จ ท่านอยู่ได้ 1 ปี ทำให้ท่านได้ฝึกฝนนิสัยไปในทางอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักที่สูงที่ต่ำ ทั้งสิ่งที่ควรและไม่ควร ต่อมา "ครูชั้น ดำกลิ่น" ได้มาขอตัวท่านจากพระอาจารย์ไม้ไปเป็นศิษย์ โดยให้ไปเรียนหนังสือเพิ่มเติมที่วัดพระเชตุพน คณะ 20 ท่านศึกษาจนอ่านออกเขียนได้เป็นอย่างดี โดยสมัยนั้นสมเด็จป๋าสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น ปุ่ณณสิริ) ยังคงเป็นครูสอนภาษาบาลีอยู่ ณ สำนักแห่งนี้ แต่ในการเรียนต่อของท่านในขณะนั้นได้ชะงักลง เพราะเหตุที่โยมพ่อต้องการให้กลับมาช่วยดูแลทำนาเพื่อช่วยครอบครัว ท่านจึงต้องกลับมาทั้งๆที่เสียดายมาก หลังจากที่ท่านกลับมาอยู่บ้าน ท่านก็ได้ช่วยโยมพ่อทำนาพร้อมกับได้เริ่มเรียนหนังสือต่ออีก เพราะอายุท่านนั้นไม่พ้นเกณฑ์ยังอยู่ในภาคบังคับ ต้องเรียนหนังสือต่อ หลวงพ่อลมูลจึงเรียนที่วัดเสด็จซึ่งได้มีการเปิดโรงเรียนประชาบาลภาคบังคับขึ้น ท่านจึงได้เริ่มเรียนหนังสือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาอีก ท่านเป็นนักเรียนคนที่ 38 ของโรงเรียนนี้ ท่านเรียนจนจบชั้นประถมปีที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนในสมัยนั้น หลังจากที่ไม่ได้เรียนแล้ว ท่านก็ได้ช่วยเหลือบิดา มารดาทำนา ตามความประสงค์จนอายุได้ 18 ปี บิดามารดาของท่านได้ขอให้ท่านแต่งงานเปรียบเสมือนโซ่ตรวนผูกมัดไม่ให้บวช อีกประการหนึ่งท่านต้องการศึกษาหาความรู้ใส่ตนให้มากขึ้นกว่านี้ ประกอบกับจิตใจของท่านฝังลึกว่า การบวชนั้นเปรียบเสมือนทางไปสวรรค์ที่จะสามารถบันดาลให้พ้นทุกข์ได้
    ความตั้งใจของหลวงพ่อลมูล ขันติพโล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี สัมฤทธิ์ผล คือโยมบิดา มารดา ไม่อาจขัดได้จึงได้นำท่านไปฝากเป็นนาคกับ พระอธิการเผือก สุกโก ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส วัดเสด็จ ในขณะนั้นหลวงพ่อลมูล ขันติพโล ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยสมบูรณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2497 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 7 เวลา 14 นาฬิกา 50 นาที ที่พระอุโบสถวัดเสด็จ โดยมีหลวงปู่เทียนหรือท่านพระครูบาวรธรรมกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเผือก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ไม้ รุกขโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ขันติพโลภิกขุ"
    หลังจากที่ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านได้ตั้งใจแน่วแน่ว่า ท่านจะเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามระเบียบของวัด คือการเรียนพระปริยัติธรรมและจะตั้งใจปฏิบัติกิจในพระบวรพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดตลอดชั่วชีวิต ในเพศพรหมจรรย์ของท่านจะขอถวายตัวเป็นพุทธบุตรผู้สืบต่อพระพุทธศาสนาไปจนชีวิตจะหาไม่ พรรษาแรกท่านก็ได้เรียนนักธรรมชั้นตรี พรรษาที่ 2 ท่านก็สอบนักธรรมชั้นตรีได้ ในพรรษาที่ 3 ท่านก็สอบนักธรรมชั้นโท แต่สอบตก ท่านจึงอธิษฐานจิตจะไม่ขอเรียนนักธรรมชั้นโท และนักธรรมชั้นเอกอีกต่อไป ท่านจะเปลี่ยนแนวทางมุ่งไปในทางปฏิบัติ เมื่อหลวงพ่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว ท่านก็ออกเดินธุดงค์ มุ่งหาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร แต่ก่อนเดินธุดงค์นั้นท่านได้ขอไปฝึกกรรมฐานเพิ่มเติมจาก หลวงปู่เทียน พระอาจารย์ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน ซึ่งท่านก็ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เต็มที่ หลังจากได้รับการฝึกฝนในด้านสมาธิอย่างเพียงพอ หลวงปู่เทียน ท่านได้มอบหมายให้หลวงปู่พร้อม เป็นหัวหน้านำในการธุดงค์ในครั้งนั้น ในด้านส่วนลึกของหลวงพ่อลมูล ท่านต้องการออกธุดงค์ไปองค์เดียวแต่ติดขัดในข้อบัญญัติทางพระธรรมวินัยว่าพระที่จะออกธุดงค์ถ้ามีพรรษาไม่ถึง 5 พรรษา ต้องมีพระพี่เลี้ยงนำไป แต่ถ้าเกิน 5 พรรษาไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมี จุดแรกที่ที่ท่านออกธุดงค์ ก็คือที่วัดพระพุทธบาทสระบุรี เพราะสถานที่นี้เป็นที่อันศักดิ์สิทธิ์ มีความสงบ ร่มรื่นเหมาะในการบำเพ็ญเจริญภาวนา ต่อจากนั้นท่านก็มุ่งสู่ภาคเหนือ แม่สอด ตาก กำแพงเพชร เพราะท่านเห็นว่ามีภูเขามากเป็นแดนที่สงบ ในการเดินทางไปภาคเหนือครั้งนั้นท่านพบกับอุปสรรคอย่างมากมาย จากสัตว์ป่าบ้าง ตลอดจนอาหารที่ฉันท์เพราะไม่ค่อยมีหมู่บ้าน ท่านต้องฉันท์ผลไม้ป่าแทนแทบทุกวัน ฉันท์วันละเพียงมื้อเดียว ส่วนในด้านฝึกหัดปฏิบัติธรรมและจำวัดในตอนกลางคืน หลวงพ่อท่านก็ต้องหาสถานที่ปลอดภัย หลวงพ่อลมูลตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หลังจากการเดินทางเข้าสู่พรรษาที่ 5 พระพี่เลี้ยงต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ หลวงพ่อลมูล จึงออกเดินธุดงค์เพียงองค์เดียว เดินทางไปถึงประเทศพม่า ท่านได้ไปพบกับถ้ำประหลาดซึ่งอยู่ในภูเขาลูกเล็กๆ แต่มหัศจรรย์มากเพราะภายในถ้ำมีแต่ขี้ค้างคาว แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นเลยสักนิดเดียว และมีค้างคาวเต็มไปหมด แต่ค้าวคาวก็ไม่เคยบินมาถูกท่านเลย การเดินทางเอาตัวรอดในป่าดงดิบก็ด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังต่อเนื่องและเคร่งครัดอำนาจบารมีของพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณ เป็นอำนาจสูงสุด ผู้ปฏิบัติเคร่งครัดย่อมได้ผล แม้แต่ไปเจอสิงห์สาราสัตว์ที่ดุร้าย เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา ด้วยอานุภาพบารมีดังกล่าวช่วยคุ้มภัยได้เป็นอย่างดี
    หลังจากที่หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ท่านได้ธุดงค์ได้ระยะหนึ่ง หลวงพ่อท่านก็ได้เดินทางกลับมายังวัดเสด็จ เพื่อมาช่วยเหลือกิจการของสงฆ์ในวัด ซึ่งในขณะนั้น หลวงปู่เผือกผู้ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสมีปัญหาเกี่ยวกับการปกครอง เนื่องจากมีพระภิกษุในวัดเดียวกันจะคิดกำจัด และปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า บัญชีของวัดทำไม่ถูกต้อง และหย่อนสมรรถภาพในการปกครอง แต่ในข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเป็นเพราะหลวงปู่เผือกเป็นพระที่มีความละเอียดรอบครอบ กระทำสิ่งใดๆไม่หวังผลประโยชน์มากเกินไป จึงเป็นเหตุให้ฝ่ายตรงข้างเสียผลประโยชน์ พากันกลั่นแกล้งท่าน หลวงปู่เทียนซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านกลางจึงได้เรียกตัวหลวงพ่อลมูลไปปรึกษาและมอบหมายให้ช่วยเหลือหลวงปู่เผือก ในด้านภารกิจต่างๆท่านได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ตั้งแต่นั้นมาท่านจึงไม่มีโอกาสออกเดินธุดงค์อีกต่อไป เพราะหน้าที่บังคับและหลังจากนั้นท่านก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ.2491 คือหลังจากที่พระอธิการเผือกได้มรณะภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2490
    ในด้านผลงานของหลวงพ่อลมูล ท่านได้พัฒนาไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ถนนหนทาง จนถึงบ้านพักและสถานีตำรวจสวนพริกไทย อนามัย และโรงเรียน ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเลื่อมใส ต่างก็ได้ส่งบุตรหลานของตนเข้ามาบวชอยู่กับท่านอย่างมากมาย ทุกคนได้หันหน้าเข้าวัดด้วยการฝึกปฏิบัติธรรมกับท่านมิได้ขาดเพราะชาวบ้านถือกันว่าท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง จากผลงานในด้านปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม ทำให้ทางคณะสงฆ์มีความเห็นขอแต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูใบฏีกาลมูล เมื่อปี พ.ศ.2495 โดยฐานะนุกรมของท่านเจ้าคุณธรรมกิตติในปีพ.ศ.2500 ท่านได้รับตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
    ผลงานในด้านปริยัติธรรมหลวงพ่อลมูล ท่านก็ได้ตั้งสำนักเรียนนักธรรมตั้งแต่ชั้นตรี -โท- เอก ขึ้นรวมทั้งสอนแผนกบาลีด้วย ทางด้านปฏิบัตินั้นท่านได้ฝึกอบรมกรรมฐานเป็นประจำ จนมีญาติโยมเข้ามาฝึกกรรมฐานกันมากขึ้นทุกวันเพราะเชื่อกันว่า การฝึกกรรมฐานกับท่านแล้วทำให้เกิดศรัทธาแรงกล้า ส่วนในระยะที่อยู่ในพรรษาแต่ละพรรษาท่านต้องเป็นผู้นำพระใหม่ และเก่าฝึกกรรมฐาน รวมทั้งเป็นผู้นำสวดมนต์เช้าเย็นมิได้ขาดทุกวัน ตลอดจนสั่งสอนอบรมจริยวัตรในขณะที่เป็นสงฆ์และไปเป็นฆราวาส ด้านการพัฒนาวัด หลวงพ่อลมูลได้ทำต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ท่านเข้าดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเสด็จด้วยความสามารถนานาประการของหลวงพ่อลมูล จึงจัดว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งของเมืองไทยที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก หลวงพ่อลมูล ขันติพโล วัดเสด็จ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ท่านมรณภาพเมื่อพ.ศ.๒๕๔๘ สิริอายุ ๘๙ ปี

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูง

    พระสมเด็จหลวงพ่อลมูลปี ๒๕๑๐ หลังพัดยศ ฝังตะกรุด ๕ ดอก

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250622_214140.jpg IMG_20250622_214208.jpg IMG_20250622_214231.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...