ตัวตนที่แท้จริงถูกบุคลิกภาพของเราบดบัง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 1 มิถุนายน 2008.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ตัวตนที่แท้จริงถูกบุคลิกภาพของเราบดบัง
    ตามหลักจิตวิทยา คน ๆหนึ่งจะพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ มีวุฒิภาวะได้ ขึ้นอยู่กับว่าความต้องการตามลำัดับพัฒนาการของคน ๆนั้นในวัยเด็กได้รับการตอบสนองอย่างเหมาะสมหรือไม่ ความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองในวัยเด็กจะกลายเป็นช่องว่างที่ขวางไม่ให้เราสัมผัสตัวตนที่สมบูรณ์ได้ และสิ่งที่คนเราสร้างขึ้นมาลดช่องว่างเหล่านั้นก็คือบุคลิกภาพของเราเอง

    บุึึคลิกภาพเหมือนเฝือกที่หุ้มแขนที่บาดเจ็บของเราไว้ เราต้องการเฝือกเพื่อให้แขนของเรามีโอกาสได้สมานแผล และหายเป็นปกติ แต่ถ้าเราไม่ถอดเฝือกออกเสียที แขนของเราก็ไม่มีวันทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพของมัน มิหน่ำซ้ำการเจริญเติบโตของแขนจะหยุดชงักไปด้วย คนบางคนสร้างบุคลิกภาพขึ้นมามากขนาดเทียบเท่ากับการเข้าเฝือกร่างกายทั้งร่าง และไม่มีใครเลยที่โตขึ้นมาโดยไม่มีเฝือกอยู่ตามร่างกายเลยแม้แต่น้อย คนเราต่างต้องการบุคลิกภาพเพื่อปกป้องเราให้พ้นจากความเจ็บปวดที่แสนสาหัสในวัยเด็ก
    ถ้ามองบุคลิกภาพให้เป็นเฝือกชั่วคราว มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนา มันเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของเราในยามที่เราอ่อนแอที่สุด และไม่เพียงแต่มันจะช่วยให้เราเอาตัวรอดในสังคมได้เท่านั้น มันยังเป็นสิ่งที่พาเราไปสู่ขั้นต่อไปของการพัฒนาตนอีกด้วย

    แต่เพราะบุคลิกภาพแท้จริงแล้วประกอบด้วย ปฏิกิริยา ความกลัว และความเชื่อของเราเท่าันั้น ไม่มีสิ่งใดในบุคลิกภาพที่เป็นตัวเราเลยแม้แต่น้อย การยึดติดกับบุคลิกภาพจึงเท่ากับการละทิ้งตัวตนนั้นเอง ตราบใดที่เรายังคิดว่าบุคลิกภาพของเรานี่แหละคือตัวเราจริง ๆ เราก็จะไม่มีวันเลิกยึดติดกับมัน และเหตุผลที่ทุกคนปฏิเสธที่จะกลับไปหาตัวตนที่แท้จริงเป็นเพราะ่ การกลับไปสู่ตัวตนที่แท้จริงทำให้เราต้องเจ็บปวดกับการละทิ้งตัวเองที่เราได้ทำมา วันที่เราพูดกับตัวเองว่า ฉันขอเป็นตัวฉันเองจริง ๆ ฉันขอเผชิญหน้ากับความจริง วันนั้นเราได้เริ่มหันเข้าหาตัวตนที่แท้จริงของเราแล้ว

    การหันเข้าหาตัวตนที่แ้ท้จริงจะทำให้เราสัมผัสถึงความเจ็บปวดในวัยเด็กของเราอีกครั้ง ดังนั้น เราควรพัฒนา ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวเอง ควบคู่ไปด้วย เราต้องหันที่จะรักตัวเองให้มากพอที่จะยอมกลับไปค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเราอีกครั้ง เราต้องรักตัวเองมากพอที่จะไม่เลิกล้มหากต้องเจ็บปวดหรือวิตกกังวลกับความเจ็บปวดในวัยเด็กเหล่านั้นอีก

    ที่จริงแล้วไม่ว่าวัยเด็กจะทรมานแสนสาหัสมากแค่ไหน ตัวตนที่แท้จริงของเราจะไม่ได้ความเสียหายเลยแม้แต่น้อย แต่มันจะถูกจำกัดและควบคุมด้วยบุคลิกภาพของเราแทน คนที่มาจากครอบครัวที่ล้มเหลวจะบุคลิกภาพจะควบคุมตัวตนที่แท้จริงอย่างเข้มงวดมาก ในขณะที่คนที่มาจากครอบครัวที่สมบูรณ์บุคลิกภาพจะอรุ่มอร่วยมากกว่า

    ดังนั้นคนที่มีความทรงจำในวัยเด็กที่ปวดร้าวจึงไม่ต้องกังวลว่าพื้นฐานของตนไม่ดี ช่องว่างระหว่างตัวตนที่แท้จริงกับตัวเราอาจจะไกลกว่าคนอื่น แต่ตัวตนที่แท้จริงของเรายังบริสุทธิ์ไม่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เพียงแต่เราต้องใช้ความพยายามมากหน่อยในการลดช่องว่างเหล่านั้น ตัวตนที่แท้จริงของทุกคนต้องการที่จะเผยตัวเองออกมาอยู่แล้ว

    เมื่อใดที่ตัวตนที่แท้จริงเผยตัวออกมา เราจะได้พบกับ ความสัตย์ ความรัก การไม่หลอกตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์ ปัญญา การพึ่งพาตัวเอง ความสุข อำนาจ และความสงบ ที่แท้จริง ซึ่งเราได้แต่หวังจากบุคลิกภาพของเรา แต่มันไม่เคยให้เราได้จริง ๆเสียที


    http://www.dekisugi.net/enneagram/article.jsp?id=330
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อืมน่าสนใจ ตัวตนแท้จริง

    กับบุคคลิภาพที่สร้างตัวตนขึ้นใหม่

    ตัวตนไหนคือเรา จีจี

    แต่โบราณเขาว่าไว้

    ของเก่าดั้งเดิมมีค่า

    มากกว่าของใหม่ทำเลียนแบบ

    ใช่ป่าวคะ
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แล้วแต่มองครับ

    ผมว่าตัวตนที่แท้จริงของทุกคนเหมือนกันหมด
    ทุกวันนี้ที่เราเป็นเรา เขาเป็นเขา
    เพราะไปหลงสร้างตัวตนขึ้นมาในตัวคน
    แน่นนอน ของใหม่มักจะถูกมองว่าดีเสมอ หุหุ
    ที่จริงแล้ว ของใหม่อาจเป็นหรือเก่าจะไม่มีความหมายเลย
    ถ้ารู้ธรรมชาติความจริง ปรัชญาเซนจึงว่า

    เมื่อแรก ภูเขาเป็นภูเขา
    ต่อมาเมื่อเข้าไปกระทำ ภูเขากลับไม่ใช่ภูเขา
    แต่เมื่อถึงที่สุดก็วางใจเป็น คือภูเขากลับเป็นภูเขาอีกครั้งหนึ่ง หุหุ
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็เพราะว่า บุคลิกภาพ มาจาก สัญญา สังขาร และ วิญญาณ มันก็เลยไม่เที่ยง
    หากยังยึดอุปาทาน มันก็จะเป็นไปตาม อุปาทานแห่งสัญญา

    ทีนี้ บุคลิกภาพ มันก็แปรเปลี่ยนได้ หากมีอำนาจตัณหา มาบีบคั้น มันก็โดนเร้าไปตามปัจจัย
    คนที่ บุคลิกภาพขรึม ลองไปอยู่ต่อหน้าเสือสิ หรือ ผู้จัดการเคร่งขรึมลองไปอยู่ต่อหน้าเมียสิ

    ทีนี้ ในเรื่องที่ว่า มาจากการเลี้ยงดู ก็ส่วนหนึ่ง แต่หากว่า คนๆ นั้นมาทางธรรมแล้วสิ่งต่างๆ ก็ไม่มีผลเพราะว่า มันเท่าทัน มันก็เลือกที่จะใช้ปัญญา มากกว่าความเคยชิน หรือ สัญญาที่ดองไว้


    ตัวตนที่แท้จริง ถูก อุปาทานบดบัง ไว้ทั้งสิ้น และพอเอาเข้าจริงแล้ว ตัวตนที่แท้จริงที่สุดก็คือ ธรรม
    ถ้าแบบนี้เหมือนกัน เข้ากันได้สนิท ด้วยธรรมนั้นแหละ
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ที่จริงแล้ว ไม่มีเขา ไม่มีเรา
    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าบุคลสองคนหลุดจากสมมุตติแล้ว โคจรมาพบกัน
    ผมว่าอาจจะต้องมองหน้ากันดัวยซ้ำ หุหุ
    แค่รู้กันก็พอ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มิถุนายน 2008
  6. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เคยเห็นคนที่หน้าตาดีแต่ใจร้าย ส่วนคนขี้เหร่แต่จิตใจดี คนที่ปากร้ายแต่ใจดี คนที่พูดเพราะแต่คิดร้ายในใจ หลายครั้งที่บอกไม่เอาแต่ใจนั้นอยากได้ ขอฝากให้พี่ๆ และอาจารย์ช่วยกะเทาะเฝือกที่ห่อหุ้มร่างให้กับเราด้วยนะ ขอฝากตัว :)
     
  7. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    หลายคนตกม้าตาย เพราะรูปลักษณ์
    ตรึงตามามาก แต่มาพบทีหลังว่าไม่อาจตรึงใจได้นาน

    คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ
    หลายคนเข้าใจผิดกันเรื่องการคบคน...
    เข้าใจกันว่า ต้องดูที่หน้าตาดี หล่อเร้าใจ สาวไว้ก่อน
    แล้วผักใสให้พวกขี้เหร่ เป็นคนไม่น่าคบหา

    ที่จริง คำว่า ดูหน้า หมายถึงหน้าที่ สุจริต หรือ ทุจริต
    หน้าอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องสวย ต้องหล่อ หน้าตาดีเสมอไป
    ดังนั้นการจะมองใคร อย่ามองที่เปลือก เพียงอย่างเดียว.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มิถุนายน 2008
  8. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    มันคล้ายกับคำว่าบุคลิกภาพ ป่าว ตัวตนที่แท้จริง เวลาเรากล่าวถึงคำำคำนี้ เราหมายถึงตัวตนจริง ๆ ตัวตนที่แท้จริงคือส่วนที่เป็นตัวเราจริง ๆ ซึ่งเราว่าคงลึกกว่าบุคลิกภาพของเราแน่ ถ้าทั้งหมดที่เป็นตัวคุณเปรียบเหมือนลำธาร ตัวตนที่แท้จริงเปรียบเหมือนน้ำในลำธารนั้น และบุคลิกภาพเปรียบเหมือนคลื่นเหนือน้ำนั้น สิ่งที่มีตัวตนจริงจับต้องได้คืือน้ำ หาใช่คลื่นเหนือน้ำนั้นไม่

    น้อยคนนักแม้แต่ตัวเราเองอาจยังไม่เคยสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเราเพราะบุคลิกภาพครอบงำจิตใจของเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราตื่นตัวอยู่เสมอและสังเกตเห็นปรากฏการณ์ที่บุึึคลิกภาพกำลังครอบงำจิตใจของเรา เราจะสามารถสัมผัสตัวตนที่แท้จริงได้โดยตรง คนที่สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ยังคงมีชีวิตประจำวันเหมือนกับคนทั่วไป แต่เขาเหล่านั้นคือคนที่ค้นพบตัวเองแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2008
  9. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    บุคลิกภาพส่วนบุคคล ตัวตนที่แท้จริง บางครั้งก็แสดงออกมาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน แต่บุคลิกคือสิ่งที่มองเห็นสังเกตได้ แต่ตัวตนที่แท้จริงอาจเป็นสันดานเฉพาะตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2008
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถ้าเปรียบสายน้ำ ก็ให้นึกถึงลำธาร

    บางจุดก็มีน้ำไหลตกไปเป็นแอ่งเป็นร่อง น้ำที่ผิวจะเห็นเป็นแอ่งวัน
    บางจุดก็เป็นเกลียว อะไรผ่านมาก็ติดวนอยู่ตรงนั้น เหมือนคนหลง
    ความสุข ความงาม

    บางแห่งก่อนจะยกขึ้นเป็นระรอกคลื่น เป็นดั่งสัน ทำให้สายน้ำมีผืนผิว
    เป็นหลุม เป็นร่อง เป็นแอ่ง บางจุดก็ราบเรียบไหลเร็วรี่ ให้ความงาม
    ให้อารมณ์ที่เป็นสุข

    บางจุดก็เป็นการลดหลั่นกระทันหัน ทำให้น้ำกระฉอกส่งเสียงจ๊อกแจ๊ก
    เสนาะหู

    แท้จริงแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับสายน้ำ แต่เป็นเพราะ ตะกอน ก้อนหิน
    แผ่นหิน ช่องว่างขางหินที่เกิดขึ้นระหว่างก้อนหินใหญ่ ที่ทำให้เกิด
    น้ำวนอันน่าอันตรายถ้าไปติด ทำให้หลงเพลิน ถ้ามองแต่เพียงสิ่ง
    ฉาบหน้า

    ศิลปินเข้าใจความงามเหล่านี้ แต่ไม่เคยปฏิเสธ แต่กลับชอบใจ และ
    เอาไปใช้ประโยชน์ สร้างเลียน จัดวาง เพื่อดึงกิเลสของผู้คน ด้วยอุปาทาน
    ตามความรู้ ที่เก็ย หรือ สั่งสมมา บางครั้ง ก็มาจากปากของอาจารย์ว่า
    จัดวางแบบนี้เป็นความสุข เป็นความวิเศษ

    ใครจะมองตามความเป็นจริง มันเป็นเพียงหิน ที่นอนเนื่องทับถม ขัดเกลา
    ตามธรรมชาติ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

    เมื่อใดน้ำแล้ง ความงามเหล่านั้นก็หมด

    เมื่อใดน้ำแรง ความงามเหล่านั้นก็เปลี่ยนรูป

    การเข้าใจธรรม เป็นการไปเรียงจัดวางหินเหล่านั้นใหม่
    ให้ราบเนียบก็ไม่ใช่ เป็นเพียงการรู้ลงไป จนยอมรับ ว่า
    ความงามเหล่านั้น มันมีปัจจัย เมื่อปัจจยหมด ก็หมด
     
  11. Zero-One888

    Zero-One888 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    บุคลิกภาพน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนที่แท้จริงของเรา มันถูกหล่อหลอมมาจากประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ตัวตนของเรามาจากภายในเป็นยังไง เราก็สื่อมาทางบุคลิกภายนอกยังงั้น
     
  12. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    จริงอย่างที่คุณว่าคะ

    บุคลิกภาพเสมือนหนึ่งเฝือกและหน้ากาก ที่บดบังตัวตนที่แท้จริงของเรา

    แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่มีบุคลิกภาพดีย่อมเห็นเป็นที่สะดุดตาและประทับใจของใครหลายคนมากกว่า
     
  13. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    เราต่างเคยยอมให้ตัวตนที่แท้จริงของเราถูกบดบังเพราะเหตุผลบางอย่าง
    หึๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...