มีใครพอทราบไหมว่า มีที่ไหนที่สามารถเปิดจิตและรับรู้กรรมเก่าของตัวเองได้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย strongblack, 25 มิถุนายน 2008.

  1. strongblack

    strongblack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +38
    พี่เป็นสมาชิกใหม่ ตอนนี้ มีปัญหาบางอย่าง ที่ทำให้อยากรู้อดีต กรรมเก่า ของตัวเอง (f) ในเวบนี้มีผู้เก่ง ๆ หลายท่าน ใครพอจะแนะนำได้บ้าง
     
  2. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่ไปอ่านเจอมา และเชื่อว่าทำกรรมปัจจุบันให้ดี ผลที่จะเกิดในอนาคตก็ต้องดี เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สุด ไม่ต้องไปมัวโศกเศร้าเคล้าน้ำตาหวลหาอดีตที่มันเอาคืนมาไม่ได้แล้ว



    http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20080407230309AA38bAf&show=3


    ถาม คุณคิดอย่างไร เรื่องระเบิดจิต เรื่องการแก้ปัญหา กรรมเก่า จากอดีตชาติ สามารถล่วงรู้ได้ และ แก้ปัญหาได้จริง หมดเคราะห์กรรม เพราะรู้กรรมเก่า ทำได้จริงหรือ?




    ตอบ ด้านการระเบิดจิตนั้น ถ้าทำได้เองหรือใครทำให้ได้ รับรองว่าคนที่โดนระเบิดจิต ไม่มีสิทธิ์มีชีวิตได้ จิตก็รวมไม่ได้ ความหมายคือวิญญาณแตกสลาย จะรวมตัวได้ก็อย่างน้อย ๑ พุทธกัปล์ แล้วเริ่มใช้กรรมใหม่ต่อไป คนที่ทำเช่นนั้นกับในได้ต้องศึกษาทางอวิชชา ถึงขั้นสมาบัติ ๕-๘ แล้วล่ะ

    อนึ่ง คนที่สามารถล่วงรู้อดีตชาติ รู้กรรมเก่าตนเองนั้น มี ๒ ประการ คือ

    ๑. ล่วงรู้เองโดยบังเอิญ ด้วยทุนกรรมดีที่ฝากธนาคารไว้เสริมส่ง

    ๒. ล่วงรูปด้วยการฝึกจิตสมาธิ ถึงขั้นเข้าสมาบัติได้ดีระดับสูงแล้ว หรือบรรลุโสดาปฏิบัติแล้ว

    การแก้กรรมนั้นแก้ไขไม่ได้ เพราะว่ายังไม่มีใครที่ย้อนอดีตชาติไปแก้ไขตนเองได้เลย แม้นแต่พระโพธิสัตว์ หรือพระอรหันต์ มีแต่การใช้กรรมที่กระทำไว้ ซึ่งการใช้กรรมมี ๒ แบบคือ

    ๑. ใช้กรรมเต็ม คือไปเสวยกรรมที่ตนกระทำไม่ดีไปรับกรรมนั้นก่อน และเสวยกรรมดี หรือเสวยกรรมดีก่อนแล้วค่อยไปเสวยกรรมไม่ดี ตามอายุกรรมของตน

    ๒. การใช้กรรมแบบทอนกรรม คือใช้กรรมที่ไม่ดีในขณะมีชีวิตอยู่ในส่วนหนึ่งก่อน หรือใช้กรรมดีบางส่วนในขณะมีชีวิตอยู่ บางคนแย้งว่า ไม่น่าใช่...

    อธิบายเพิ่มว่า ได้แน่นอน มีวิธีทอนกรรม แล้วแต่ใครจะมีโอกาสได้รับการชี้แนะให้ทอนกรรมเหล่านั้น เหมือนการรับโทษประหาร ได้รับอภัยโทษเหลือตลอดชีวิต ต่อมาเรื่อยกลับอยู่ในคุกประมาณ ๑๐ ปีก็พ้นโทษ นั่นคือการทอนกรรมที่ให้เห็นเป็นตัวอย่างในโลกปัจจุบัน และในโลกซ้อนโลกนั้น

    คือ กรรมที่จะเสวยในภพหน้า ก็ทอนได้ แต่ต้องมีวิธีกรรมที่ถูกต้อง นั่นหมายถึงเจ้ากรรมนายเวรของตนยินดีละกรรมให้ทอนกรรมได้ เปรียบง่ายๆ ความผิดอย่างไรก็ต้องผิดเสมอ แต่จะรับโทษสถานหนักตามเหตุของโทษเลยหรือมีเหตุลดหย่อน..ฉันใดก็ฉันนั้น ...

    คนเราเกิดมามีกรรมกำหนด เพราะเราได้ทำกรรมกับใครก็ต้องชดใช้กรรมกับเขาผู้นั้น

    จะหนักหรือเบาอยู่ที่เหตุของกรรมประการแรก และประการต่อมานั้น เจ้าของกรรมนั้นอภัยทาน (อโหสิ) ให้จึงมีเหตุลดหย่อนกรรม จึงเป็นเหตุใด้คนเราบางครั้งก็ทำดี แต่ไม่ได้รับผลดีตอบแทน แต่คนทำไม่ดี แต่เจริญก็มี เพราะว่าช่วงนั้นเขาเสวยกรรมหนึ่งอยู่ต่างหาก

    และคนหลายคนมีเหตุรับกรรมมาเรื่อยๆ จนแทบจะทนไม่ได้ ทั้งๆที่ทำดียังไม่ได้รับผลดี...เพราะไม่ได้รับการแนะนำให้ทอนกรรมที่ถูกวิธีต่างหาก...

    ตัวอย่างมีมาสมัยพุทธกาล ยกตัวอย่างให้ ๒ ชื่อนะครับ พระโมคคัลลานะ มีฤทธิ์มาก ทำไมจึงปล่อยให้โจรทำร้ายจนกระดูกหักทั่วร่างกาย ก่อนที่ตนเองจะนิพาน องคุลีมาล ฆ่าคนมามากมาย ทำไมสำเร็จอรหันต์ในชาตินั้น...

    ตรองด้วยเหตุและผลนะครับ...เพราะศาสนาพุทธให้พิจารณาด้วยเหตุและผล รวมทั้งการเอากรรมเป็นที่ตั้ง

    การหมดเคราะห์กรรมในศาสนาพุทธ คือการนิพาน ดังนั้นจงตั้งมั่นฝากธนาคารความดีสะสมไว้ดีกว่า ถ้ากรรมหนักอยู่ อยากใช้กรรมนานๆ ด้วยการทอนกรรม ก็ลองค้นหาคำตอบดูนะครับ..

    ถ้าอยากใช้เวรกรรมแบบรวดเดียว ก็ควรสร้างกรรมดีให้มาก เมื่อพ้นกรรมไม่ดีแล้วจะได้เสวยกรรมดี สุดท้ายจะได้เข้าสู่ขั้นพ้นกรรม....

    การเชื่อในเรื่องของกรรมนั้นเป็นหลักพื้นฐานชาวพุทธอยู่แล้ว การแก้กรรมในอดีตชาติ กรรมเก่านี้ เราไม่สามารถแก้ได้ครับ เพราะอยู่เหนือเหตุผลครับ แต่จะแก้ได้คือปัจจุบันกรรมครับ

    ถ้าเปรียบเทียบเหตุและผลนะครับ คือปัญหาที่เกิดในปัจจุบัน คือการกระทำในอดีตที่ผิดพลาด หรือไม่มีสติ เพราะผลส่งให้เห็นในปัจจุบัน หรือเรียกว่าปัจจุบันชาตินี้ อันนี้ผมขอไม่แนะนำให้เราไปคิดถึงชาติที่แล้ว เพราะการกระทำเราไม่สามารถรู้ได้ บนขีดความสามารถในสังขารขันธ์

    แต่เราหาเหตุผลง่ายๆจากปัจจุบันนะครับ เป็นเหตุเป็นผลกันและตรงกับความจริงคือ ถ้าอยากเห็นอนาคตต้องดูที่ปัจจุบันถ้าอยากดูปัจจุบันต้องย้อนหาอดีตครับ อันนี้ในความคิดของผมถือว่าถูกต้องครับ ถ้าการจะทำดี เราได้ผลที่ดี เราจึงได้กรรมดีนะครับ

    ผมขอสรุปนะครับ ทำอะไรต้องอยู่ที่สติครับ มีสติเมื่อไรหมดเคราะห์กรรมเมื่อนั้นนะครับ ทุกคนทำได้ครับ

    สุดท้ายนี้ครับ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น อยู่กับการกระทำของเราทั้งหมดครับ ดีหรือไม่ดี จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ สุดความสามารถของเรา เชื่อในหลักทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วครับ

    และทำจิตใจให้ผ่องใสปราศจากนิวรณ์ธรรม และมีสติอยู่เสมอ ง่ายแค่นี้ครับแล้วเราก็จะหมดกรรม



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2008
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เรื่องของอดีต แก้ไม่ได้เลย เลยไม่รู้ว่าจะรู้ไปทำไม ทีนี้ แล้ว เราจะทำอย่างไรถ้าหากว่าเรากระทำสิ่งไม่ดีลงไปแล้ว
    และไม่รู้ว่า ทุกวันนี้ที่ ทุกข์นี้เป็นเพราะอะไร ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้อ่าน

    คนหนึ่งคน รักกันมานานแสนนาน ทะเลาะกันด่ากันทีเดียวเลิกคบ

    คนหนึ่งคน จนมาแสนนาน ทุกข์ท้อแท้มาแสนนาน ถูกล็อตเตอรี่ ที่เดียว หายทุกข์เลย ไม่สนเลยว่าอดีตเป็นอย่างไร

    คนหนึ่งคน เลิกกับคนรักก็ทุกข์ใจมานาน ได้แฟนใหม่ ก็ลืมแฟนเก่า หรือ แฟนเก่ากับมาคืนดี ก็ หายทุกข์ใจได้

    นี่แสดงให้เห็นว่าอะไร แสดงให้เห็นว่า การจะทำให้เราดีหรือเลวลงนั้น ไม่ได้ไปแก้ไขในอดีต หรือ เอาอดีตมาเพื่อแก้ไข หรือ ไปงมหาว่า เหตุนั้นอยู่ที่อดีต

    การจะทำให้เราสุขใจ สบายใจนั้น คือ 1 ต้องมีกุศลมาก เพื่อมาตัดรอน อกุศล เช่นคนทุกข์ใจ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ก็หายทุกข์ทันที การมีกุศลมานี้ ไม่จำเป็นต้อง ได้เงิน แต่ แค่คิดได้ว่า เราพอใจในสภาพของเราแล้ว เราก็หายทุกข์ได้ หรือบางคนยังไม่ถนัดพิจารณา ก็อาจจะทำบุญมากๆ ก็มีอำนาจกุศลมา ช่วยเกื้อหนุนให้หายทุกข์ใจได้ หรือ จะทำสมาธิ ให้จิตใจสงบ ก็ได้

    ทีนี้ สำคัญคือ ถ้าจิตใจยังไม่เบิกบานแล้ว ต่อให้แก้อดีตขนาดไหน มันก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือ ใจที่สบาย หาใช่ วัตถุภายนอก คนเราหาวัตถุภายนอกก็เพราะอยากสบายใจ สบายกาย แต่ เราลืมมองว่า ง่ายที่สุด คือ หันมาทำใจนี้ ให้สบาย มันก็จะง่ายกว่า การไปหาวิธีอื่น

    ไม่ว่า อดีตจะเป็นอย่างไร อย่าไปค้นคว้าหามันเลย เพราะมันจะยิ่งทำให้แย่ลงไป เช่นพวกระเบิดจิตอะไรพวกนี้ ไม่เกิดประโยชน์ ทำบุญ ทำสมาธิ ทำให้จิตใจเบิกบานขึ้น แล้ว ปัญหาทุกอย่างจะแก้ได้ด้วยใจที่เบิกบานขึ้น


    ก็ลองพิจารณาดู
     
  4. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เมื่อคุณผู้ถามสนใจที่จะทราบอดีตนะคะ ก็ลองไปหาแม่ชีธนพร ที่ดังมากๆ ท่านนี้ดูสิคะ เห็นว่าที่ปทุมธานีก็มีอีกอาจารย์ มีเพื่อนสมาชิกไปหามา แต่อาจาราย์ไปเมืองนอกแล้ว

    รู้อดีตชาติเอากี่ชาติละคะ

    รู้แล้ว...รู้เพื่ออะไร

    จะรู้ทำไมคะ เพื่อหาทางแก้กรรมให้ดีขึ้นหรือคะ

    ขอให้พบทางออกที่ถูกต้องค่ะ เป็นกำลังใจให้
     
  5. strongblack

    strongblack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณมากค่ะ และเข้าใจในสิ่งที่ทุกคนพูดหมดเลย แต่ว่า เรื่องบางเรื่องต้องรู้อดีต ถึงแก้ไขได้ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความรักหรอกค่ะ มีบางอย่างที่มากกว่านั้น เพราะบางเรื่อง ต้องรู้จากอดีต ถึงได้คำตอบ เพราะไม่รู้เหตุ เราถึงไม่เข้าใจผลที่ตามมา แต่ยังไม่คิดถึงขั้นระเบิดจิต แรงเกิน ส่วนแม่ชีที่ว่า รู้กรรมเราได้ ก็คงไม่ใช่คำตอบ เพราะบางเรื่อง ต้องรู้เห็นด้วยตนเองเท่านั้น เพราะใครบอกเรา ก็คงไม่เชื่อ (f)
     
  6. ratanapool

    ratanapool สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +6
    อยากแนะนำคุณstrongblack ลอง M มา ratanapoolchuen@yahool.co.th เผื่อว่าจะสนใจ
     
  7. strongblack

    strongblack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +38
    วันศุกร์จะไปที่นึง ต่างจังหวัด สอบถามหลายคน ทุกคนเห็นกรรมตัวเองกันทั้งนั้น ก็เลยว่าจะลองดู ถ้าดี จะกลับมาเล่าให้ฟัง และถ้าไม่ได้ จะอีเมลล์ไปหานะค่ะ
     
  8. ครูอ้วน

    ครูอ้วน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +11
  9. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    กรรมถ้าเราไม่ตัด เราไม่วาง กรรมก็ยังมีต่อไป
    แก้อดีตที่ผ่านมาแล้วแก้ไม่ได้ ถ้ารู้แล้ววางไม่ลง กรรมก็เกิดต่อ
    แก้อดีตที่จะเกิด แก้ได้ด้วยปัจจุบัน ณ.ขณะนี้ อดีตก็จะดี อนาคตก็จะดี
    ขอให้พบทางสุขสงบโดยเร็ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2008
  10. ครูอ้วน

    ครูอ้วน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +11
    <TABLE height=200 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3 height=15><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD width=152 height=33>[​IMG]</TD><TD width=433 background=pictures/frame/blue02.gif> </TD><TD width=15>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width=15 background=pictures/frame/blue_05.gif height=224 rowSpan=2> </TD><TD vAlign=top align=left width=600 background=pictures/frame/blue_01.gif bgColor=#add4f5 height=5>[​IMG]</TD><TD width=15 background=pictures/frame/blue_07.gif rowSpan=2> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width=570 bgColor=#add4f5 height=200>
    ผู้ปฎิบัติมักจะสงสัยว่าวิธีการปฏิบัติ "อายตนะวิปัสสนากรรมฐาน" สามารถระลึกชาติได้จริงหรือ?

    ผู้ปฎิบัติบางคนแสดงอาการต่างๆ เช่น ฟันดาบ ฟ้อนรำ เป็นเสือ ช้าง หรือถูกทรมาน ร้องไห้ หัวเราะ ทำให้เกิดข้อสงสัยต่างๆ เป็นการระลึกชาติจริงหรือ หรือเป็นแค่อุปทานของจิต ทำให้เกิดความลังเล เกิดวิตกจริต จริงๆแล้วไม่มีแม้แต่หนึ่งอย่างเกิดขึ้นกับจิตที่ไม่ใช่อุปทาน นอกจากจิตที่บริสุทธิ์แล้วเท่านั้น ซึ่งไม่มีอุปทาน การลังเลสงสัยก็เกิดมาจากอุปทาน กิเลสทำให้เกิดตัณหา ตัณหาทำให้เกิดอุปทาน อุปทานทำให้เกิดทุกข์ ทุกข์เพราะลังเลสงสัย ทุกข์เพราะกลัว การปฏิบัติธรรมโดยใช้อุบายวิธีแบบไหนก็เหมือนกัน เป้าหมายก็เพื่อล้างอุปาทาน สำคัญอย่าไปสร้างอุปาทานใหม่ขึ้นมา เพียงเพื่อให้เกิดความสงบชั่วครู่ แต่ปัญญาไม่เกิด ก็ไม่มีความก้าวหน้า จมปลักกับอุปาทานที่สร้างขึ้น
    อิริยาบถต่างๆที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติอายตนะวิปัสสนา เป็นการสะท้อนออกมาจากธรรมารมณ์ในจิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นสัญญาซึ่งสะสมมา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเคยเกิดขึ้นจริงในอดีต หรือเราปรุงแต่งขึ้นเองในอดีต ก็กลายเป็นสัญญาซึ่งถูกบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกแล้ว ถือว่าเป็นอุปาทานทั้งหมด กลายเป็นวิบากกรรมซึ่งเกิดขึ้นแล้วในจิต เรามีหน้าที่เข้าไปยอมรับแล้วก็เหวี่ยงทิ้ง ไม่ใช่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น
    ในขณะเดียวกันก็ใช้อารมณ์ในขณะนั้นเป็นฐานที่ตั้งในการเจริญสติ ไม่มีของเสียแม้แต่หนึ่งอย่าง ทำไปเรื่อยๆก็ได้เจริญสติ เจริญปัญญา ขัดเกลาจิตให้ผ่องใส ได้ใช้หนี้กรรม และได้กายภาพบำบัดร่างกายปัจจุบัน ดิน น้ำ ลม ไฟ ในร่างกายได้ปรับสมดุล ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคโดยธรรมชาติฟื้นขึ้น โรคภัยไข้เจ็บจะได้ทุเลาเบาบางลง ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

    การทำดี ละชั่ว ขัดเกลาจิตให้ผ่องใส เป็นการสะเดาะเคราะห์ที่ดีที่สุด จึงขอให้ผู้แสวงหาธรรมทั้งหลาย จงทำดีละชั่ว ขัดเกลาจิตให้ผ่องใสทุกวัน คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้น สาธุ สาธุ อนุโมทามิ...............



    </TD></TR><TR><TD height=15>[​IMG]</TD><TD background=pictures/frame/blue_11.gif> </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.plarnkhoi.com/jitjai_ralukchat.php
     
  11. pawan

    pawan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +19
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ทุกอย่างไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรขอให้มีสติ และทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ค่ะ
     
  12. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    เข้าใจคุณ Strongblack ค่ะ
    เวลาเราติดขัดอะไรสักอย่าง..มันก็ต้องการจะหาเหตุปัจจัยให้ได้..
    ตัว "สวนะ" เอง เมื่อก่อนโน้น..ไม่เคยสนใจในอดีตภพชาติเท่าไร
    จนกระทั่งเทพประจำตัวเอง ต้องการให้เราได้รู้..ท่านมาบอกกล่าวเอง..
    เมื่อเรารู้เรื่องราวในอดีตภพชาติ เราไม่ควรยึดติดกับมันนะคะ
    หากเป็นเรื่องดีงามชวนให้ปิติ ก็อย่าไปลุ่มหลง..ยิ่งเป็นเรื่องราวที่ไม่ดีนัก
    ก็ยิ่งต้องตัดให้ได้.. เพราะพลังจิตใต้สำนึกของเรามันมีมากมายนัก
    หากเราจดจำแต่สิ่งไม่ดีในอดีตก็จะเป็นพลังด้านลบกับชีวิต
    แล้วเราจะยิ่งติดขัดในทุกสิ่งที่เราปรารถนาจะกระทำ เนื่องจากมีแรงดึงดูด
    ของด้านลบอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราอยู่เสมอ..ย่อมทำให้ชีวิตยิ่งถดถอยค่ะ
    อยู่กับปัจจุบัน ..หมั่นสร้างกุศล ไม่ว่าจะเป็นทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้มั่น ..
    กำหนดรู้ทุกขณะจิตที่กระทำ..ทำให้จิตเป็นสมาธิ
    เมื่อจิตสงบก็จะพบทางสว่าง จนเกิดปัญญาแก้ไขความทุกข์ต่างๆ ได้จริงๆ ค่ะ
    แล้วอย่าลืมหมั่นแผ่เมตตาจิตไปยังสรรพสิ่งทั้งหลายที่อยู่รอบตัวเรา
    ร่วมถึงบิดร มารดา เจ้ากรรมนายเวร เทพเทวาที่ปกป้องรักษาเรา
    ..เชื่อมั่นว่า คุณ Strongblack จะพบหนทางสว่างในเร็ววันค่ะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2008
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เมื่อจะทำอะไรก็ตาม หากนำหน้าด้วยความอยาก ก็เท่ากับเจริญอกุศลจิตอยู่

    เมื่ออกุศลจิตดำเนินนำอยู่ โอกาสจะได้พบกุศลจะไม่มีเลย แต่กลับจะได้อกุศลมากขึ้น

    เช่น อยากรู้ว่าอดีตชาติเป็นมาอย่างไร ก็จะทำให้ เที่ยวแสวงหาคนบอก แท้จริงแล้ว
    คนที่จะบอกถ้าเขารู้ และถ้าเห็นว่ามันจำเป็นหรือสำคัญก็คงไม่นิ่งดูดาย แต่หากมัน
    ไม่จำเป็นแล้ว ท่านก็จะปล่อยวางไป ดังนั้น จึงเป็นไปได้มากที่คนที่ไม่รู้ หรือ ทำเป็น
    รู้เท่านั้นที่จะเข้ามาหา

    ดังนั้น เมื่อทำอะไร อย่านำหน้าด้วยความอยาก แม้ลำบากลำเค็ญก็อย่านำหน้าหาวิธี
    แก้ด้วยความอยาก เพราะจะทำให้ไขว่คว้าสิ่งที่ใกล้มือ ด่วนคิดและสรุป

    ก็ขอให้ฟังตามคุณ สวนะ ที่ให้ดำรงค์จิตรู้เพียงปัจจุบันไว้ แล้วค่อยๆคิดหาทางแก้ โอกาส
    พลาดพลั้งซ้ำสองและสามจะได้น้อยลง
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เรื่องของกรรมเก่า นี้ ถ้าเราอยากจะรู้ด้วยตนเอง เราก็ต้องฝึกเพื่อมีสติ ให้มากในปัจจุบัน เมื่อมีสติมากในปัจจุบันนี้ เราจะทำอะไร จะเคลื่อนไหว อย่างไร คิดอย่างไร รุ้สึกอย่างไร เรารู้ ก็จะทำให้เราทราบได้ว่า เราผิดพลาด ประการใด คิดผิดประการใด

    ความคิดในปัจจุบันนี้เท่านั้น ทำให้เราทุกข์ใจ เพราะฉะนั้น ให้เจริญสติในปัจจุบัน แล้วระึลึกให้บ่อยว่า อะไรที่เราผิดพลาด เราก็จะหาทางแก้ไขได้ เช่นว่า ทุกข์ใจ นี่ ถ้าคอยหาเหตุได้ว่าทำไมเราจึงทุกข์ เอาแค่ดูในปัจจุับันนี้ ก็จะเห็นว่า เรายึดนั่นยึดนี่ แล้วเราก็แก้ไขผิดๆ มันก็ผิดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะอดีตชาติมีผลมาก แต่ว่า ปัจจุบันนี้แหละมีผลมากกว่า การจะกินเดิน ยืนนั่งนอน เราก็เลือกของเราในปัจจุบันนี้ได้ ก็ให้ เอาปัจจุบันนี้ ให้สำคัญที่สุด วันนี้ทะเลาะกับแฟน วันนั้น ทะเลาะกับเจ้านาย

    แบบนี้ มันผ่านไปแล้ว เอาใจในปัจจุบันให้มันทิ้งไป ก็จะลบความทุกข์ได้ แต่คนส่วนมากบอกทำยาก ผมก็จะบอกว่า เอาเวลาที่จะไปหา คนทรง เอาเวลาที่จะไปหาคนระลึกชาติ เอามาทำใจ เอามาฝึกฝนใจให้มันเลิกคิดจะง่ายกว่า เพราะเราทำตรงนี้ได้ ไม่ต้องถ่อ ไปไกล ทำตรงไหนก็ได้
     
  15. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    อย่างที่คุณขันธ์พูดก็ถูกนะครับ.. เมื่อก่อนผมเคยมีความทุกข์มากเลย ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี รู้สึกเลยว่าคำว่ามืดแปดด้านมันเป็นยังไง...
    คำตอบสุดท้ายที่ได้พบคือต้องทำใจ ทำให้ใจสงบ ทุกข์นั้นก็จะผ่านพ้นไปได้เอง ทุกสิ่งเกิดมาแล้วก็ดับไป เมื่อมีความสุข สุขนั้นเกิดแล้วดับไป ความทุกข์ก็เช่นเดียวกัน...
    เข้าใจในความหมายของผู้ถามนะครับ บางสิ่งเราก็อยากจะรู้ด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะรู้แล้วแก้อะไรไม่ได้ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย.. แต่บางสิ่งรู้แล้วอาจจะเป็นทุกข์มากขึ้นก็ได้นะครับเรื่องบางเรื่องก็ไม่รู้จะดีกว่า
     
  16. mw1958

    mw1958 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +302
    เข้าใจว่าความประสงค์ที่ต้องการทราบอดีตชาติเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำลังประสบในปัจจุบัน
    ไม่ว่าจะเป็นทุกข์กายทุกข์ใจที่กำลังได้รับอยู่
    จะได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด
    ซึ่งผู้ประสบวิบากกรรมเก่าด้านลบประสงค์อยากทราบเพื่อแก้ผลของกรรมเก่าให้ทุเลาและ
    ค่อยๆหมดไป
    ทางออกคือต้องการผู้รู้จริงไม่อาจฝึกจิตให้รับรู้ได้ด้วยตนเองในช่วงเวลาวิกฤตนี้
    ผู้รู้ทั้งหลายหากให้คำตอบได้ก็จะเป็นกุศลยิ่ง
     
  17. strongblack

    strongblack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +38
    ใจจริงแล้ว ไม่เคยคิดอยากค้นหาอดีตเลย เพราะเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ใจไม่แข็งพอที่จะรู้ด้วยซ้ำ ถ้าเคยทำผิดมามาก อาจจะเสียใจมาก และถ้าเคยทำดีมามาก แล้วมาชาตินี้ทำไม่ดีเยอะ ก็คงเสียใจเหมือนกัน แต่สุดท้าย บางอย่างถ้ารู้เหตุจากอดีต อาจจะทำให้แน่ใจมากขึ้น และเข้าใจว่าทำไมต้องพบ ต้องเกิด (f)
     
  18. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เพียงกรรมในปัจจุบันชาติ ชาติเดียวก็เหลือคณานับ


    มีให้จดจำ ทั้งด้านทุกข์ด้านสุข อย่างไม่หวาดไม่ไหวแล้ว


    หากรู้แล้วว่าอดีตชาติภพ เคยผ่านสิ่งดีร้ายอย่างไรมา

    แต่ ถอดรหัสกรรมมิได้


    คือ วางไม่ลง ปลงไม่เป็น รังแต่จิตตก วนเวียนจ่อมจมอยู่กับสัญญาเก่า


    คงไม่ก้าวหน้าในทางธรรม ตามที่ควร





     
  19. pawan

    pawan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +19
    คุณ strongblack คะ ให้ตั้งจิตให้ดีนะคะ ขออำนาจกุศลที่เราเคยทำไปตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันช่วยดลบันดาลให้เราพบผู้รู้จริงเพื่อที่จะช่วยบรรเทาทุกช์ครั้งนี้แต่จะสำฤทธิ์ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับบุญกุศลกรรมของเราจะเป็นตัวนำขับเคลื่อนไป จำไว้อย่างนะคะผู้ที่รู้จริง ถ้าอดีตชาติไม่เคยมีเมตตาหรือเกื้อกูลกับเรามาก่อนพวกท่านทั้งหลายจะพากันวางอุเบกขา เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คำที่จะชี้แนะก็คือให้เราประพฤติดีปฏิบัติดีคิดดีทุกอย่างก็จะดีเองค่ะ
     
  20. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    อยากรู้เรื่องอะไรเหรอ ... ถามค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...