สิ่งใดๆในจักรวาลโลก ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่คือ ดิน ไฟ ลม น้ำ ใช่มั๊ยครับ?

โอ้....พอเดเลย ก่ะลังเรียนพอดีเลย เรื่อง แบบนี้ (วิทยาศาสตร์) ฮว่าๆๆ แต่ คว๊ากซ์ นี่จู๊ดยอดดเพิ่งเคยได้ยินได้อ่านได้รู้น่ะเนี่ยะ ...ฮว่าๆๆ ได้โม้แล้วว ค๊าปปเพ่น้อง

 

ในทางวิทยาศาสตร์เก่าๆ บอกว่าคือ "ธาตุ4"
แต่ในทางอภิ__า บอกว่าคือ "ธาตุ5"


ผมมีคำตอบว่า "ธาตุที่ห้าคืออะไร?" แต่... ยังไม่ตอบตอนนี้
ผมอยากให้คนที่มีอภิ__าจริงๆ เข้ามาตอบก่อนดีกว่า......

กำลังซาหนุก... รออีกแป๊บนึง .... ครับพ๊ม
ผมยังไม่เฉลยตอนนี้ .... เพื่อความบรรเทิงทางธรรม ... อย่าคิดมากนะครับ... พวกเราๆ เห็นตลอดเวลาเลย ...ทุกลมหายใจฬฬฬ.. แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น.. นะครั่บท่าน..

ลองสังเกต... ดูดีๆ ...
ท่านจะเห็น.... ธาตุที่ห้า.... ครับ....

 

อ่านแล้วตาลายจริงๆครับ แต่ถ้าเข้าใจได้หมดนี่ จะได้รับความรู้อีกเยอะเลย เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตล้วนๆเลย เก่งมากครับคุณดวงดาว ทฤษฎีความรู้เหล่านี้ ผมนั้นอยากรู้มานานแล้ว ถึงแม้ว่าค่อนข้างจะสลับซับซ้อนนิดหน่อย การกำเนิดของจักรวาล การกำเนิดของสรรพสิ่ง พลังจิต พลังงาน แบบว่าอยากรู้ทั้งระบบจักรวาลมันทำงานกันอย่างไร แต่สติปั__ายังไปไม่ถึงขั้นนั้น ต้องค่อยๆไปทีละปะเลาะๆ ถึงจะเข้าใจได้ทั้งหมด

 

ไฟ จัดอยู่ในสถานนะของ ก๊าซ ไม่ใช่อยู่ในสถานนะของพลังงาน
ไฟสามารถให้พลังงานความร้อนและแสงสว่าง
ในจุดนี้ ความร้อนและแสงสว่างคือพลังงาน และไฟคือก๊าซ

-----------------------------------------------------------
มหาภูต ธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม คือ องค์ประกอบของสสาร
-----------------------------------------------------------
ธาตุ ๖ (the six elements) ได้แก่ธาตุ

1 ดิน
2 น้ำ
3 ลม
4 ไฟ
5 อากาศ
6 วิญญาณ

ในอนันตจักรวาล ในสามโลกธาตุ ประกอบไปด้วย ธาตุ ๖

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?postid=13057#post13057

 

ไม่มีอภิญญาเลยค่ะ ขอตอบเล่นๆบันเทิงธรรมแบบหนังฮอลลีวู้ดผสมกำลังภายในได้มั้ยคะ
หลักของธาตุ5เป็นเคล็ดวิชาในการฝึกปราณวิทยายุทธแบบตะวันออกน่ะค่ะ


The fifth element= love

ธาตุดิน-ยามสงบนิ่งมั่นคง เปรียบดั่ง "ขุนเขา"
ธาตุน้ำ-ยามเคลื่อนไหวต่อเนื่องดั่ง "สายน้ำ"
ธาตุลม-ว่องไว แผ่วพริ้วจับต้องไม่ได้ดั่ง "สายลม"
ธาตุไฟ-ทรงพลัง ทะลุทะลวงรุนแรงปาน "ภูเขาไฟ"
ธาตุความรัก-หลอมรวมทุกธาตุเข้าด้วยกัน สอดประสานธาตุทั้งหมดเคลื่อนไหวไปบน "มรรคา"

เป็นความรักที่แท้จริงปราศจากตัณหา ไม่เอาอัตตาของตนเองเป็นทีตั้ง
สามารถแปรเปลี่ยนพลังด้านมืดให้กลับสว่าง กลายเป็นผีเสื้อที่สลัดทิ้งคราบดักแด้ได้
และผู้ที่จะรักผู้อื่นได้อย่างแท้จริงก็คือผู้ที่ละทิ้งอัตตาของตนได้แล้วเท่านั้น
ความรักที่ปราศจากอัตตา เป็นการพัฒนาด้านจิตวิญญาณอย่างแท้จริง และย่อมมีชัยเหนืออวิชชาทั้งปวง

รอผู้รู้และคุณNine มาเฉลยธาตุที่ห้าในแบบอภิญญาดีกว่าค่ะ
(bb-flower

 

ขอโทษนะคุณ NiNe กระทู้นี้เป็นของคุณแต่ขอถามคุณดวงดาวหน่อยเถอะ
แต่ถ้าใครมีคำตอบ ก็อยากฟังนะครับ
คุณดวงดาวครับ
มีความเห็น เกี่ยวกับ มิติ ของเวลา บ้างหรือเปล่าครับ
ทั้งในแง่ วิทยาศาสตร์ และ ในที่กล่าวในทางศาสนา
ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านที่ถูกกล่าวไว้ในทาง ศาสนา ก่อน พอจะหาได้ไหมครับ
ผมเองหาไม่เจอเลย และ ไม่ค่อยมีแหล่งข้อมูลที่ดีเท่าไรครับ
การดูอนาคต พุ่ง เวลาไปข้างหน้าด้วย ณาน
การย้อนกลับไปอดีต ด้วยณาน (ถ้าผมทำได้จะไปฟังพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ครับ)
สามารถแค่เข้าไปดูไปฟังเท่านั้นหรือ?
ไปทั้งตัวได้หรือไม่?
มีคำถามต่ออีกมากมาย คุณดวงดาว หรือ ใครที่มีความรู้ทางนี้ ช่วยตอบได้ไหมครับ ถ้าได้แหล่งที่มาของข้อมูลด้วยจะขอบคุณมากครับ

 

ดิน น้ำ ลม ไฟ

ความรู้เก่า เรียก ดิน น้ำ ลม ไฟ ว่า ธาตุ ปัจจุบัน เป็น สถานะของสสารที่ เปลี่ยนสถานะได้ตามพลังงานที่ได้รับเช่น น้ำแข็ง น้ำ ไอน้ำ
ดิน น่าจะเทียบกับ ของแข็ง ในปัจจุบัน
น้ำ น่าจะเทียบกับ ของเหลว
ลม น่าจะเทียบกับ ก๊าซ
ไฟ น่าจะเทียบกับ พลังงานความร้อน พลาสม่า

 

เรากะลังทำวิจัยเรื่องนี้อยู่พอดีเลย เราพอมีข้อมูลคร่าวๆดังนี้ตามทฤษฏีของเรา(เหอๆๆ...ไม่ต้องเชื่อก้ได้นะ) คุณเคยคิดกันบ้างไหมว่าขณะนี้เวลานี้เรากะลังอยู่ปลายสุดของเวลา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ล่วงหน้าเรานี้ไม่มีอีกและไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เราจะเป็นคนกำนหดสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เท่านั้น จะมีก็แต่เพียง อดีต และปัจจุบันสำหรับชีวิตคนเราเท่านั้น .....แต่คุณอย่าเพิ่งแน่ใจเลยครับว่าเหตุการณ์ล่วงหน้าเรานี้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน เพราะว่าได้เกิดสิ่งที่พอจะนำมาเป็นหลัดฐานได้แล้วว่าอนาคตมีจริง ก้อย่างเช่นคนที่ฝันเห็นอีกคนหนึ่งว่าจะถูกรถชนตายตรงสถานที่และเวลา ตามที่เค้าได้ฝันเห็นและเค้าก็ไปบอกคนนั้นว่าคนนั้นจะถูกรถชนตายแต่เจ้าตัวกลับไม่เชื่อ และพอเหตุการณ์ผ่านไปจนถึงเวลาที่ระบุในความฝัน คนนั้นก็ถูกรถชนตายจริงๆ และยังมีเรื่องรางสังหรณ์อะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่พอจะเอามาเป็นหลักฐานประกอบการค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับเวลาได้อีกมากมาย (ถ้าเกิดว่าไม่มองเป็นเรื่องไร้สาระนะ) แต่หลักฐานที่จะยืนยันบอกว่าไม่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีแต่อดีตกับปัจจุบันเท่านั้น มันก็ไม่เคยมีเสียด้วยสิ! เพราะงั้นแล้ว เราทุกคนขณะนี้กำลังเดินทางตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนแล้วก้ได้ ....และนอกจากเรื่องเวลาแล้ว บางทีโลกเราก็มีอีกหลายๆโลกหลายๆมิติซ้อนทับกันอยู่ก็ได้ (Life of the line) แต่ที่ไม่เคยพบเห็นโลกและมิติอื่นๆบ่อยนัก ก็เป็นเพราะว่ามันได้ถูกจำกัดให้แตกต่างกันอยู่คนละความถี่ ก็เหมือนอย่าง คลื่นวิทยุ กับคลื่นโทรทรรศน์ ซึ่งมีความถี่แตกต่างกัน ไม่มีทางที่จะจูลมาตรงกันได้ แต่ถ้าเพื่อใดที่มมีพลังงานบางอย่างสามารถทำความถี่เหล่านี้ให้เป็นความถี่เดียวกันได้ เมื่อนั้นแหละมนุษย์เราก็คงจะ จ๊ะเอ๋!กะสิ่งแปลกๆมากมายเหมือนอย่างที่เคยปรากฎกันมาแล้ว

 

โอ้ จอร์ซซซซซ มันเยี่ยมมากเลยจอร์ซซซซ ตอบน่าร๊ากกกเจงๆเลย ( แต่มีแฟนแล้ว ) นี่ถ้าแฟนเรามาตอบกระทู้นี้อย่างนี้ คืนนี้เราคงจับมันเยสสสสไปแล้วนะเนี่ย อิ อิ อิ น่ารักเกินทนไหว

 

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างนั้นกะศดานันหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด -"- ( รึว่าเข้าใจผิดไปแล้ว )

 

ก่อนอื่นผมต้องขอกล่าวแสดงความชื่นชมคุณดวงดาวเป็นอย่างมากครับ ที่มีความรู้ครบรอบด้านจนน่าปลาบปลื้มใจมากจริงๆครับ...

ประการต่อมาต้องเรียนคุณ NiNe ด้วยครับว่า... เหตุที่ผมไม่ตอบคุณในหัวข้อกระทู้ของคุณณฐมณฑ์ เรื่องวิธีฝึกกสินฯนั้น ก็เพราะว่า
๑. คำถามที่คุณตั้งนั้น เจือไปด้วยมานะทิฎฐิล้วนๆ
๒. คำถามที่คุณตั้งนั้น ไม่ได้หมายว่าอยากจะได้คำตอบอย่างแท้จริง
๓. คำถามที่คุณตั้งขึ้นนั้นผิดจุดประสงค์ในหัวข้อกระทู้
และประการสุดท้ายแม้จะตอบคุณว่าอย่างไรก็ผิดเพราะ "ไม่ตรงใจคุณ" อยู่ดี

ดังนั้นในกระทู้นี้ของคุณ ผมก็ยังคงไม่ตอบอยู่เช่นเดิม แต่อยากขอฝากพระพุทธพจน์ไว้ให้คุณดังนี้ครับ

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ปัญหาที่เผชิญอยู่เบื้องหน้าของทุกๆคน คือปัญหาเรื่องทุกข์และความดับทุกข์ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายถูกความทุกข์เสียบทั้งทางกายและทางใจ อุปมาเหมือนผู้ถูกยิงด้วยลูกศรซึ่งกำซาบด้วยยาพิษ แล้วญาติมิตรเห็นเข้าเกิดความกรุณาจึงพยายามช่วยถอนลูกศรนั้น แต่บุรุษผู้โง่เขลาบอกว่า ต้องไปสืบให้ได้ก่อนว่าใครเป็นคนยิง และยิงมาจากทิศใด ลูกศรทำด้วยไม้อะไร แล้วจึงจะค่อยมาถอนลูกศรออก
ภิกษุทั้งหลาย! บุรุษผู้นั้นจะต้องตายเสียก่อนเป็นแน่แท้ ความจริงเมื่อถูกยิงแล้ว หน้าที่ของเราก็คือ ควรพยายามถอนลูกศรออกเสียทันที ชำระบาดแผลให้สะอาดแล้วใส่ยา รักษาแผลให้หายสนิท หรืออีกอุปมาหนึ่งเหมือนบุคคลที่ไฟไหม้อยู่บนศรีษะ ควรรีบดับเสียโดยพลัน ไม่ควรวิ่งหาคนผู้เอาไฟมาเผาศรีษะตน ทั้งๆที่ไฟยังลุกไหม้อยู่ "

ปล. ผมยังชื่นชมความรู้ความสามารถของคุณดวงดาวผู้ที่ตอบกระทู้นี้ แต่ผมไม่ขอเห็นชอบด้วยกับ คุณNiNe ผู้ที่ตั้งคำถาม โดยอ้างอิงถึงชื่อของผมและคุณณฐมณฑ์ อย่างสิ้นมารยาทอันควรครับ .... โปรดใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูนะครับ

 

ปาริสัชชา
(||)

 

แล้วอนุภาคนเตรคิออน กับนิวตริโนนี้จัดว่าเป็นอะไรอาครับคุณดวงดาว

 

นิวตริโนเป็นอนุภาคที่ ไม่มีมวลและ ประจุไฟฟ้า มีอยู่ด้วยกัน สามชนิดคือ
อิเลคตรอน นิวตริโน ( electron neutrino ) มิวออน นิวตริโน ( meuon neutrino ) และ เทาว์ นิวตริโน ( Tau neutrino ) การตรวจวัดนิวตริโน
นั้นทำได้ยากลำบากเนื่องจากมันไม่มีประจุ และไม่ค่อยจะทำปฏิกริยากับอนุภาค
ชนิดอื่นๆ
ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ Fermi National Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองที่ชื่อว่า Direct Observation of the Nu Tau (DONUT)
โดยการยิงลำของอนุภาคที่เกิดจากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ผ่านแผ่นเหล็กซึ่งมีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ สองแผ่นประกบกัน เมื่ออนุภาค
Tau Neutrino ที่อยู่ในลำอนุภาคกระทบเข้ากับอะตอมเหล็กจะสลายตัวให้
อนุภาค Tau ( เทาว์ ) ปฏิกริยาดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถ ตรวจวัดนิวตริโนได้โดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้สังเกตุโดยปฎิกริยาที่สับซ้อนกว่านี้ มาก ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สังเกตุพบอนุภาคชนิดนี้ได้โดยตรง

อนุภาคนิวตริโนนั้นมีความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับความเข้าใจจักรวาลของเรา ในปัจจุบันเชื่อว่าเป็นไปได้ที่อนุภาคชนิดนี้จะมีมวล ซึ่งถ้าเป็นจริงก็อาจจะ
แก้ปัญหาการที่มวลของจักรวาลมีค่าน้อยเกินไป ซึ่งปัญหานี้รู้จักกันในนาม
Dark matter problem


นิวตริโน เป็นอนุภาคชนิดหนึ่งที่ไม่มีประจุไฟฟ้ามีอยู่สามชนิดคือ
อิเลกตรอนนิวตริโน มิวออนนิวตริโน และ เทาว์นิวตริโน
มีประวัติที่น่าสนใจน่าสนใจมากค่ะ คือถูกทำนายโดยนักฟิสิกส์ชื่อ วูฟฟ์กัง เพาว์ลี
( Pauli ) ในปี ค.ศ. 1930 จากการสังเกตการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี
ที่ให้รังสีเบต้า (Beta decay Process) ในสมัยนั้นนักวิทยาศาสตร์พบว่า
ปฏิกริยาดังกล่าวมีพลังงานบางส่วนหายไป เพาว์ลีจึงทำนายโดยใช้หลักการ
คงที่ของพลังงานและโมเมนตัมว่าควรจะมีอนุภาคชนิดใหม่ที่ไม่มีมวล
ไม่มีประจุเกิดขึน เขาตั้งชื่อว่า "นิวตริโน" ซึ่งก็แปลว่า "เจ้าตัวเล็กที่เป็นกลาง" ค่ะ
ในปัจจุบัน นักฟิสิกส์เชื่อว่านิวตริโนนั้นมีมวล และพยายามที่จะทำการทดลอง
เพื่อพิสูจน์กันอยู่ค่ะ แต่ในขณะนี้ผลการทดลองยังไม่เป็นที่ยืนยัน 100 เปอร์เซนต์
แต่คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานค่ะ


http://PhysicsWeb.org/article/news/04/7/9
http://www.particleadventure.org/

 

ทางจีนแล้วถือว่ามี 5 ธาตุคือ ดิน น้ำ ไม้ โลหะ ไฟ

วัฏจักรทำลาย
โลหะข่มไม้
ไม้ข่มดิน
ดินข่มน้ำ
น้ำข่มไฟ
ไฟข่มโลหะ

วัฏจักรเสริมสร้าง
โลหะเสริมสร้างน้ำ
น้ำเสริมสร้างไม้
ไม้เสริมสร้างไฟ
ไฟเสริมสร้างดิน
ดินเสริมสร้างโลหะ

 

คุ้นหน้าคุณดวงดาวจังเลยค่ะ

ภาพนี้เป็นภาพจริง ๆ ของคุณดวงดาวเลยหรือเปล่าคะ เหมือนว่าเคยเห็นหน้าคุณดวงดาวที่ไหนมาก่อน คุ้นมาก ๆ ค่ะ

 

สำหรับเรื่องควาร์กที่พูดไป ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดไปอ่านได้ที่นี่ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?s=&threadid=502 ที่คุณคาเมนเคยโพสไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

 

เพิ่มเติม

นิวตริโน(Neutrino)
นิวตริโน เป็นอนุภาคมูลฐานชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างลึกลับ มีคุณสมบัติแปลกๆ เช่น ไม่มีประจุไฟฟ้า ไม่มีมวล แต่มีพลังงาน มีโมเมนตัม คล้ายกับอนุภาคของ
แสงคือโฟตอนแต่ไม่ใช่อนุภาคของแสง
คุณสมบัติของนิวตริโนที่แปลกอีกอย่างก็คือ สามารถเดินทางทะลุผ่านสสารได้อย่างอิสระ ดังเช่น โลกทั้งโลก หรือเหล็ก นิวตริโนก็สามารถทะลุผ่านได้
อย่างสบายไม่มีสะดุดเนื่องจากไม่มีมวลนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์มองว่าถ้าหากใช้นิวตริโนในการสื่อสารได้จะดีเยี่ยมรวดเร็วกว่าปัจจุบันได้หลายเท่าเพราะไม่ต้องคอย
กังวลเรื่องสั__าณหาย เพราะนิวตริโนทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้
นิวตริโนถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2499 ความเร็วของนิวตริโนมีความเร็วเท่ากับแสง

 

แล้วอีกอย่างการสื่อสารก็จะเร็วขึ้นด้วยจากแต่ก่อนที่ส่งสั__าณกันอ้อมโลก ก็จะส่งทะลุโลกกันเลย

 

ได้ความรู้จิงๆคับ

นับถือคุณดวงดาวจิงๆคับ ว่างๆ มาติวให้ผมด้วยละกันคับ