ไฟล์เสียงที่ยี่สิบสาม พรหมวิหาร4-จับภาพพระ-แผ่เมตตา (01 - กพ - 47)

ในห้อง 'กรรมฐาน ๔๐' ตั้งกระทู้โดย paang, 26 ตุลาคม 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [MUSIC]http://www.palungjit.org/buddhism/audio/attachment.php?attachmentid=2122[/MUSIC]
     
  2. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    ไฟล์นี้ยังไม่มีใครพิมพ์ใช่ไหมครับ ผมขออาสาพิมพ์เองน่ะครับ อาจใช้เวลาหลายวันหน่อย แต่หากท่านใดที่ต้องการพิมพ์ก็พิมพ์ได้เลยครับ ผมจะพิมพ์ใส่ Word หากมีท่านอื่นพิมพ์เสร็จก่อนก็ไม่เป็นไรครับ นำมา Post ได้เลยน่ะครับ สวัสดีครับ
     
  3. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    พวกเราทั้งหมดต้องไม่ลืมว่าการปฏิบัติ เราจะทิ้งของเก่าไม่ได้อันไหนเคยทำได้แล้วต้องทบทวนเอาไว้เสมอๆ เพื่อความคล่องตัว นั้นเพราะว่ากรรมฐานที่สอนนี้ตั้งใจอยู่ว่ามันมีเวลาก็จะสอนให้ครบทั้งสี่สิบกองไปเลย คราวนี้ถ้าข้อไหนข้อหนึ่งหรือว่ากองใดกองหนึ่งที่เราทำแล้วมันได้ผล ถึงวาระ ถึงเวลา ก่อนจะขยับต่อไปกองอื่นก็ต้องทบทวนกำลังใจของเราในกองกรรมฐานนั้นๆ ให้ทรงตัวให้เต็มที่เสียก่อนแล้วค่อยขยับไปกองอื่นถ้าเราไม่ทบทวนเอาไว้ไม่ซักซ้อมเอาไว้ถึงวาระ ถึงเวลาถ้าฉุกเฉินขึ้นมากิเลสข้อใดข้อหนึ่งมันเข้ามาตีเรา เราอาจจะรับมือไม่ทันเพราะขาดความคล่องตัวก็ได้ สำหรับตอนนี้ก็ให้ทุกคนนึกถึงลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาให้เป็นปกติ หายใจเข้านึกว่าพุทธ หายใจออกนึกว่าโธ พุทธเข้า โธออก หายใจเข้าผ่านจมูกผ่านกึ่งกลางอกลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้องผ่านกึ่งกลางอกมาสุดที่ปลายจมูก พุทธเข้าจมูกอกท้อง โธออกท้องอกจมูกกำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเราให้อยู่กับลมหายใจเข้า ให้อยู่กับลมหายใจออกการหายใจเข้า หายใจออกให้ปล่อยไปตามปกติตามธรรมชาติของมัน อย่าไปบังคับมัน แค่ตามรู้ไปเฉยๆ ว่าตอนนี้มันหายใจเข้า ตอนนี้มันหายใจออกมันจะแรง จะเบา จะยาว จะสั้น ภาวนาอย่างไรกำหนดใจรู้ตามไปเท่านั้นหายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ หรือเราถนัดคำภาวนาอื่นก็ใช้คำภาวนาอื่นไป กำหนดใจไหลตามลมหายใจเข้า ไหลตามลมหายใจออกแรกๆ ใหม่ๆ จิตมันหยาบอยู่มันอาจจะจับไม่ได้ครบทั้งสามฐานอันนั้นไม่เป็นไร ขอให้พยายามกำหนดรู้ พออารมณ์ใจแว็บไปสู่อารมณ์อื่น ก็ให้ดึงมาอยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออกของเราใหม่ มันแว็บไปเมื่อไหร่ก็ดึงมันกลับมา แว็บมันออกไปเมื่อไหร่ก็ดึงมันกลับมาให้อยู่เฉพาะหน้าของเรา หายใจเข้าพุทธหายใจออกโธทำตัวสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียดกับมันตามดูตามรู้ลมหายใจอย่างเดียวพอดูว่าตอนนี้หายใจเข้า ดูว่าตอนนี้หายใจออกพร้อมกับคำภาวนา จากนั้นให้กำหนดจิตเบาๆ สบายๆ นึกว่าตรงหน้าของเรามีพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด จะเป็นพุทธรูปยืน นั่ง นอนแล้วแต่เราชอบ ให้อยู่ห่างจากเราไปในระดับที่กำหนดใจได้สบายๆ ว่าท่านอยู่ตรงนั้นอย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ตาเห็นเพราะฉะนั้นอย่าใช้สายตาเพ่ง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ภาพพระพุทธรูป ง่ายๆ สบายๆ จะชัดหรือไม่ชัดจะเห็นหรือไม่เห็นช่างมัน ขอให้เรามั่นใจว่าตรงหน้าเรามีภาพพระอยู่ก็ใช้ได้ หายใจเข้าเราดึงลมหายใจจับภาพพระมาผ่านจมูก ผ่านอก ไปสุดที่ท้อง หายใจออก ลมหายใจออกจากท้อง ผ่านอก ไปสุดที่พระ หายใจเข้าจับพระผ่านจมูกไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้อง อก จมูกไปสุดที่พระ หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ ยิ่งภาวนามากก็ยิ่งหายใจเข้าออกมาก ภาพพระก็ยิ่งสว่างขึ้น ชัดเจนขึ้น แจ่มใสขึ้น พุทธหายใจเข้า โธหายใจออก พุทธหายใจเข้าภาพพระสว่างขึ้น โธหายใจออกภาพพระสว่างขึ้น เมื่อกำลังใจของเรานิ่งดีแล้วสนิทแนบแน่นอยู่กับภาพพระนั้นแล้ว คราวนี้กำหนดใจพร้อมกับคำภาวนาว่าขอให้ภาพพระนี้ใหญ่ขึ้น หายใจเข้าภาพพระก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกภาพพระก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้นเอาทีละน้อยอย่ากำหนดพรวดพราดที่เดียว เราต้องการผลคือต้องการคุณภาพไม่ได้ต้องการความคล่องตัวมาก ปริมาณมาก หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ หายใจเข้าภาพพระใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้นสว่างขึ้น กำหนดใจจดจ่อแน่วแน่อยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเบื้องหน้าของเรา หายใจเข้าท่านก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกท่านก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งภาพพระโตขึ้นเรื่อยๆ โตเต็มไปทั้งแผ่นดินแผ่นฟ้า โตเต็มไปทั้งจักรวาล ส่วางไสวอย่างหาประมาณไม่ได้อยู่ข้างหน้าของเรา จากนั้นกำหนดกำลังใจขอให้ภาพพระเล็กลง เล็กลงแบบช้าๆ หายใจเข้าภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่เหมือนเดิม หายใจออกภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่เหมือนเดิม หายใจเข้าภาพพระเล็กลง หายใจออกภาพพระเล็กลง จนกระทั่งภาพพระลงมาเหลือเท่าเดิมแค่ที่เราเห็นได้สบายๆ ภาพพระตรงหน้าของเราเล็กลงพอที่เราจะกำหนดได้สบายๆ สว่างไสวอยู่ตรงหน้า จากนั้นกำหนดต่อว่าหายใจเข้าภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่อย่างนั้น หายใจออกให้ภาพพระใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจเข้าให้ภาพพระเล็กลงสว่างอยู่อย่างนั้น หายใจออกให้ภาพพระใหญ่ขึ้นสว่างไสวขึ้น เข้าเล็กลง ออกใหญ่ขึ้น ลมหายใจเข้าภาพพระเล็กลง ลมหายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้น จากนั้นกำหนดใจให้นิ่งเบาๆ สบายๆ อยู่ที่ภาพพระนั้น ให้ภาพพระเป็นภาพพระที่เราชอบใจ อยู่ในขณะที่เรากำหนดได้สบายๆ จะใหญ่จะเล็กอยู่ที่เราชอบแล้วกำหนดจิตดึงเอาภาพพระนั้นเข้ามาไว้เหนือศรีษะของเราตอนนี้ภาพพระมาสว่างไสวอยู่เหนือศรีษะของเราหันหน้าไปด้านเดียวกับเรา จากนั้นเราหายใจเข้าให้ภาพพระไหลจากศรีษะ ผ่านอกลงไปที่ท้องเป็นองค์เล็ก หายใจออกให้ภาพพระไหลจากท้องผ่านอกขึ้นไปบนศรีษะเป็นองค์ใหญ่ หายใจเข้าภาพพระเป็นองค์เล็กสว่างไสวอยู่ที่ท้อง หายใจออกภาพพระกลายเป็นองค์ใหญ่ไปสว่างไสวอยู่เหนือศรีษะ หายใจเข้าภาพพระเล็กลงไปสุดอยู่ที่ท้อง สว่างใสสะอาดอยู่ที่นั่น หายใจออกภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศรีษะเป็นองค์ใหญ่สว่างไสวอยู่ที่นั่น คราวนี้กำหนดภาพพระให้อยู่บนศรีษะนิ่งๆ สว่างไสวอยู่อย่างนั้น ขอให้ความสว่างจากภาพพระแผ่คลุมตัวของเราลงมา คลุมศรีษะลงมาถึงหน้าผาก ถึงดวงตา ถึงจมูก ถึงปาก ถึงคาง ถึงไหล ถึงต้นแขน ถึงปลายแขน สะโพก ส้นเท้า ปลายเท้า ภาพพระที่แผ่รัศมีสีขาวใสสะอาดคลุมลงมา จนกระทั่งตัวเราก็ใสก็สว่างเหมือนกับภาพพระไปด้วย จากนั้นดึงเอาภาพพระเข้ามาในอกของเรา ให้สว่างไสวไปทั้งกายของเรา กำหนดใจให้ความสว่างจากองค์พระแผ่กว้างจากตัวของเราออกไปรอบข้าง ลักษณะโยนดินหรือหินลงในน้ำ แล้วน้ำกระเพื่อมเป็นวงแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป ให้กำหนดใจว่าถ้ารัศมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือรัศมีสีขาวใสสว่างที่แผ่กว้างออกไปทุกทีๆ ตั้งใจว่าเราไม่เป็นศัตรูกับใครเราเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วทั้งโลก ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นจงอย่าได้มีเวรมีกรรมและเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้พากันล่วงพ้นจากความทุกข์ มีแต่ความสุขโดยเสมอหน้ากันเถิด กำหนดภาพพระให้สว่างไสวแผ่กว้างออกไปทุกทีๆ กว้างเต็มไปทั้งสถานที่นี้ เต็มไปทั้งวัดนี้ กว้างเต็มไปทั้งตลาด ทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด กว้างออกไป กว้างออกไป ให้ตั้งใจด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจว่าขอให้มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ไปเสวยสุขในสุขติภพโดยทั่วหน้ากันเถิด กำหนดให้ภาพพระสว่างไสวแผ่รัศมีกว้างไปเรื่อย ครอบคลุมทั้งจังหวัด ทั้งประเทศ ทั้งทวีป ทั้งโลก จนกระทั่งโลกทั้งโลกก็เหมือนยังกับเป็นอะไรเล็กๆ อยู่ใต้ร่างกายของเรา รัศมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แผ่กว้างไกลออกไป เหมือนกับพาให้ร่างกายของเราใหญ่โตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า โลกทั้งโลกเหลือเพียงเล็กนิดเดียวอยู่ใต้กายของเรานี่เอง ไม่มีจุดไหนที่กำลังความสะอาดจากเมตตาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีจุดไหนที่ความใสสว่าง เยือกเย็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะแผ่ไปไม่ถึง ให้ตั้งใจว่ามนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยาก เศร้าหมอง เดือนร้อน ลำเค็ญ ทุกข์กาย ทุกใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใดๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด กำหนดใจให้ภาพรัศมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่กว้างออกไป กว้างออกไปทั่วทั้งโลกนี้ ทั่วทั้งจักรวาลนี้ ทั่วทั้งจักรวาลอื่น สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในดวงดาวไหน จักรวาลไหนก็มีส่วนรับในพระเมตตาบารมีที่ใส สะอาด สว่างเยือกเย็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วถึงกันให้ตั้งใจว่ามนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถิด กำหนดให้ภาพพระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่กว้างไกลออกไปจากอนันตจักรวาลทั้งหลายไปสู่ภพภูมิของเหล่าสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรฉาน มนุษย์ทั้งหมด เทวดาทั้งหมด มารทั้งหมด พรมทั้งหมด ตลอดจนพระทุกองค์ในพระนิพพานให้กำลังใจนี้แผ่ไปจนถึงทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ตั้งความปรารถนาไว้ว่าขอให้เขาพ้นทุกข์ มีแต่ความสุขโดยท่วนหน้ากันกำหนดใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน เสียสละให้กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์เพื่อยังโลกนี้ไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด กำหนดให้ภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลื่อนสูงขึ้น ลอยสูงขึ้นสูงขึ้นไป สูงขึ้นไปสู่เขตของอากาศเทวดา สู่เขตของพรหมทั้งหลายจนกระทั่งไปปรากฏอยู่ในพระนิพพานเป็นปกติ ตอนนี้ให้กำหนดว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ในพระวิมารบนพระนิพพาน สว่างไสวอยู่ตรงหน้าของเราน้อมจิต น้อมใจกราบลงตรงนั้น ตั้งใจว่าภายใต้เมตตาพระบารมีขององค์สมเด็จพระชินสีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ถ้าหากว่ามีกิจใดที่ลูกทั้งหลายจะกระทำแล้วเพื่อเกื้อพระศาสนา เพื่อแบ่งเบาภาระของหลวงปู่ หลวงพ่อและเพื่อมรรคผลนิพพานของลูกเองขอให้ลูกทั้งหลายสามารถทำกิจนั้นได้สำเร็จลุล่วงโดยพลัน ธรรมใดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤษีลิงดำได้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วขอให้ลูกทั้งหลายได้รู้เห็นธรรมนั้นในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด ให้กำหนดใจแน่วนิ่งอยู่กับภาพพระที่สว่างไสวอยู่ตรงหน้า สำหรับวันนี้จริงๆ แล้วจะสอนในเรื่องของพรหมวิหาร ๔ คราวนี้พรหมวิหาร ๔ ในขณะที่เราวางกำลังใจนั้นมันทรงตัวยาก จึงได้แนะนำให้ใช้ประกอบกับภาพพระประกอบกับลมหายใจเข้าออก กำหนดให้ทรงเป็นฌาณเต็มที่ไปเลย พรมวิหาร๔ เป็นกำลังใจที่ทรงได้ยากเพราะว่าต้องออกมาจากน้ำใสใจจริงของเราเองดังนั้นถ้าไม่อาศัยเกาะกับภาพพระไม่อาศัยเกาะกับลมหายใจเข้าออก เราจะทำให้ทรงตัวลำบาก พรมวิหาร๔ ประกอบไปด้วย
    ความเมตตา คือรักเขาเสมอด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นหญิงหรือชาย ยากจน ร่ำรวยสวยงามหรืออัปลักษณ์ เราก็มีความรักความปรารถนาดีต่อเขาโดยเสมอหน้ากัน
    กรุณา มีความสงสารปรารถนาจะช่วยเหลือเขาทั้งหลายให้พ้นทุกข์ เต็มสติกำลังที่เราทำได้
    มุทิตา เมื่อเห็นเขาอยู่ดีมีสุขก็พลอยยินดี ไม่มีความอิจฉาริษยาใดๆ
    อุเบกขา เมื่อขวยขวายสงเคราะห์เต็มที่แล้วไม่สามารถช่วยให้เขาดีกว่าเดิมได้ ก็ปล่อยวางยอมรับว่าเป็นกฏของกรรม เมตตาบารมีนี้มีอานิสงค์มากท่านกล่าวไว้ว่าหลับอยู่ก็เป็นสุข ตื่นอยู่ก็เป็นสุขจะไม่ฝันเห็นสิ่งร้ายๆ หรือสิ่งที่ไม่ดีทั้งปวง เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายก็จะรักษาเรา จะไม่เป็นอันตรายด้วยอำนาจของอาวุธ ของไฟ ของยาพิษ จะช่วยให้สมาธิทั้งหลายทรงตัวได้ง่าย ช่วยให้ศีลทั้งหลายมีความทรงตัวได้ง่าย จะเป็นผู้ที่มีหน้าตาผิวพรรณแจ่มใสอยู่เสมอ เพราะว่าจิตประกอบไปด้วยความเมตตาเป็นปกติ ถ้าหากว่าตายก็จะเป็นผู้ที่ไม่หลงตายเพราะว่าจิตใจสงบเยือกเย็น เกาะความดีเป็นปกติถ้าหากว่าเข้าไม่ถึงพระนิพพานก็จะมีพรหมเป็นที่ไปเป็นปกติอานิสงค์ทั้งหลายของเมตตาพรหมวิหารทั้งหลายเหล่านี้ถ้าใครปฏิบัติได้ก็จะทรงอยู่กับตนตลอดเวลาเป็นที่รักของคนทั่วไป เป็นที่รักของสัตว์ทั่วไป เป็นที่รักของเทวดาร มาร พรหม ตลอดจนเข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย เมตตาพรหมวิหารนี้ถ้าทรงตัวได้จริงๆ อานิสงค์ต่ำสุดจะเกิดเป็นพรหมเป็นปกติ คราวนี้กำลังในการปฏิบัติของเรา เมื่อเราตั้งใจหวังสงเคราะห์ผู้อื่น มีความรักความสงสารอยากช่วยเหลือให้เขาพ้นทุกข์เป็นผู้ไม่นิ่งดูดายในความลำบากของคนอื่น ไม่มีความอิจฉาริษยาใคร พลอยยินดีเมื่อเห็นเขาอยู่ดีมีสุขและสำคัญที่สุดตัวอุเบกขา ถ้าหากว่าไม่สามารถจะสงเคราะห์ได้โดยการพยายามทุกอย่างเต็มที่แล้ว ก็จักปล่อยวางเพื่อจิตใจของเราจะได้ไม่เศร้าหมอง อารมณ์ของเราจะได้ทรงตัวผ่องใสเป็นปกติ ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันจะเป็นสังครูเปกขาฌาน ถูกปล่อยวางในสังขารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสังขารณ์ที่เป็นขันร์ 5 มันจะอยู่หรือมันจะตายก็เรื่องของมัน มันอยู่เราดูแลรักษามันด้วยความรักความเมตตาอย่างเต็มที่ ถ้ารักษาแล้วมันไม่ดีขึ้นมันจะตายก็เป็นเรื่องของมัน เราสงเคราะห์ช่วยเหลือคนอื่น สัตว์อื่นอย่างเต็มที่ ถ้าสงเคราะห์ช่วยเหลือเต็มที่แล้วไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ได้เราก็ปล่อยวาง เป็นเรื่องของกฏของกรรม ถ้าหากว่าจิตใจทรงสังขรูเปกขาญานอย่างนี้เป็นปกติไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ไม่ยึดมั่นถือมั่นในโลกนี้ ไม่มีความปรารถนาจะเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม ขึ้นชื่อว่าการเกิดที่เป็นทุกข์เราไม่ต้องการเราต้องการพระนิพพานแห่งเดียวก็เอาจิตจดจ่อให้มั่นคงอยู่เบื้องหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในนิพพานอย่างที่สอนมาแต่แรก กำหนดใจให้ภาพพระสว่างไสวอยู่เฉพาะหน้าของเรา ตั้งใจว่านี่คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านประทับอยู่ในพระนิพพานถ้ามันหมดอายุขัยย์ตายลงก็ดี หรือว่ามันตายด้วยอุบัติเหตุ อันตรายใดๆ ก็ดี เราขอมาอยู่ที่นี่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือขอมาอยู่พระนิพพานแห่งเดียว สำหรับตอนนี้เวลาที่จะทำต่อก็ไม่เพียงพอให้ทุกคนคลายกำลังใจออกมาช้าๆ เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งจับภาพพระให้เป็นปกติให้เห็นภาพพระชัดเจนสว่างไสว สะอาดเยือกเย็นนั้นเป็นปกติ ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งเราจะได้ควบคุมร่างกายเพื่อทำหน้าที่ของเราต่อไป


     
  4. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    ขอขอบคุณ คุณแป้งและอาสาสมัครทุกท่านที่จะเข้ามาตรวจสอบแก้ไข ให้ด้วยนะครับ เพราะว่าตอนที่ 20 นั้นผมยังไม่ได้ค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขเลย ยังไงก็ขอฝากคุณแป้งและอาสาสมัครทุกท่านช่วยตรวจทานแก้ไขให้ด้วยน่ะครับ ขออนุโมทนา สาธุ ในเมตตาของทุกท่านด้วยน่ะครับ สาธุ
     
  5. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    แห่ะๆ..อนุโมทนาสาธุ...ด้วยจ้า
     
  6. felies

    felies เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,370
    ไฟล์เสียงที่ยี่สิบสาม พรหมวิหาร4-จับภาพพระ-แผ่เมตตา (01 - กพ - 47) [​IMG]

         พวกเราทั้งหมดต้องไม่ลืมว่า การปฏิบัติเราจะทิ้งของเก่าไม่ได้อันไหนเคยทำได้แล้วต้องทบทวนเอาไว้เสมอๆ เพื่อความคล่องตัว นั้นเพราะว่ากรรมฐานที่สอนนี้ตั้งใจอยู่ว่ามันมีเวลาก็จะสอนให้ครบทั้งสี่สิบกองไปเลย คราวนี้ถ้าข้อไหนข้อหนึ่งหรือว่ากองใดกองหนึ่งที่เราทำแล้วมันได้ผล ถึงวาระ ถึงเวลา ก่อนจะขยับต่อไปกองอื่นก็ต้องทบทวนกำลังใจของเราในกองกรรมฐานนั้นๆ ให้ทรงตัวให้เต็มที่เสียก่อนแล้วค่อยขยับไปกองอื่น ถ้าเราไม่ทบทวนเอาไว้ไม่ซักซ้อมเอาไว้ ถึงวาระ ถึงเวลาถ้าฉุกเฉินขึ้นมากิเลสข้อใดข้อหนึ่งมันเข้ามาตีเรา เราอาจจะรับมือไม่ทันเพราะขาดความคล่องตัวก็ได้

         สำหรับตอนนี้ก็ให้ทุกคนนึกถึงลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาให้เป็นปกติ หายใจเข้านึกว่า "พุทธ" หายใจออกนึกว่า "โธ" พุทธเข้า โธออก หายใจเข้าผ่านจมูกผ่านกึ่งกลางอกลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้องผ่านกึ่งกลางอกมาสุดที่ปลายจมูก "พุทธเข้า" จมูก อก ท้อง "โธออก" ท้อง อก จมูก กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเราให้อยู่กับลมหายใจเข้า ออก การหายใจเข้า หายใจออก ให้ปล่อยไปตามปกติตามธรรมชาติของมัน อย่าไปบังคับมัน แค่ตามรู้ไปเฉยๆ ว่าตอนนี้มันหายใจเข้า ตอนนี้มันหายใจออกมันจะแรง จะเบา จะยาว จะสั้น ภาวนาอย่างไรกำหนดใจรู้ตามไปเท่านั้น หายใจ "เข้าพุทธ" หายใจ "ออกโธ" หรือ เราถนัดคำภาวนาอื่นก็ใช้คำภาวนาอื่นไป กำหนดใจไหลตามลมหายใจเข้า ไหลตามลมหายใจออก แรกๆ ใหม่ๆ จิตมันหยาบอยู่มันอาจจะจับไม่ได้ครบทั้งสามฐานอันนั้นไม่เป็นไร ขอให้พยายามกำหนดรู้ พออารมณ์ใจแว็บไปสู่อารมณ์อื่น ก็ให้ดึงมาอยู่กับลมหายใจ เข้า-ออก ของเราใหม่ มันแว็บไปเมื่อไหร่ก็ดึงมันกลับมา แว็บมันออกไปเมื่อไหร่ก็ดึงมันกลับมาให้อยู่เฉพาะหน้าของเรา หายใจเข้าพุทธหายใจออกโธทำตัวสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียดกับมัน ตามดูตามรู้ลมหายใจอย่างเดียวพอดูว่าตอนนี้หายใจเข้า ดูว่าตอนนี้หายใจออกพร้อมกับคำภาวนา

    [​IMG]     จากนั้น ให้กำหนดจิตเบาๆ สบายๆ นึกว่าตรงหน้าของเรามีพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด จะเป็นพุทธรูปยืน นั่ง นอนแล้วแต่เราชอบ ให้อยู่ห่างจากเราไปในระดับที่กำหนดใจได้สบายๆ ว่าท่านอยู่ตรงนั้น อย่าลืม~ ว่านี่ "ไม่ใช่ตาเห็น" เพราะฉะนั้นอย่าใช้สายตาเพ่ง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ภาพพระพุทธรูป ง่ายๆ สบายๆ จะชัดหรือไม่ชัดจะเห็นหรือไม่เห็นช่างมัน ขอให้เรามั่นใจว่าตรงหน้าเรามีภาพพระอยู่ก็ใช้ได้ " หายใจเข้า ดึงลมหายใจจับภาพพระ ผ่านจมูก~ผ่านอก~ไปสุดที่ท้อง >> หายใจออก ลมหายใจออกจากท้อง~ผ่านอก~ไปสุดที่พระ " หายใจเข้าจับพระผ่าน จมูก อก ท้อง หายใจออกจาก ท้อง อก จมูก ไปสุดที่พระ หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ ยิ่งภาวนามากก็ยิ่งหายใจเข้าออกมาก ภาพพระก็ยิ่งสว่างขึ้น ชัดเจนขึ้น แจ่มใสขึ้น พุทธหายใจเข้า โธหายใจออก พุทธหายใจเข้าภาพพระสว่างขึ้น โธหายใจออกภาพพระสว่างขึ้น เมื่อกำลังใจของเรานิ่งดีแล้วสนิทแนบแน่นอยู่กับภาพพระนั้นแล้ว คราวนี้กำหนดใจพร้อมกับคำภาวนาว่าขอให้ภาพพระนี้ใหญ่ขึ้น หายใจเข้าภาพพระก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกภาพพระก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้นเอาทีละน้อยอย่ากำหนดพรวดพราดที่เดียว เราต้องการผลคือต้องการคุณภาพไม่ได้ต้องการความคล่องตัวมาก ปริมาณมาก หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ หายใจเข้าภาพพระใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้นสว่างขึ้น กำหนดใจจดจ่อแน่วแน่อยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเบื้องหน้าของเรา หายใจเข้าท่านก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจออกท่านก็ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งภาพพระโตขึ้นเรื่อยๆ โตเต็มไปทั้งแผ่นดินแผ่นฟ้า โตเต็มไปทั้งจักรวาลส่วางไสวอย่างหาประมาณไม่ได้อยู่ข้างหน้าของเรา

    [​IMG]     จากนั้นกำหนดกำลังใจขอให้ภาพพระเล็กลง เล็กลงแบบช้าๆ หายใจเข้าภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่เหมือนเดิม หายใจออกภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่เหมือนเดิม หายใจเข้าภาพพระเล็กลง หายใจออกภาพพระเล็กลง จนกระทั่งภาพพระลงมาเหลือเท่าเดิมแค่ที่เราเห็นได้สบายๆ ภาพพระตรงหน้าของเราเล็กลงพอที่เราจะกำหนดได้สบายๆ สว่างไสวอยู่ตรงหน้า

    [​IMG]       จากนั้นกำหนดต่อว่า หายใจเข้าภาพพระเล็กลงแต่ยังคงสว่างไสวอยู่อย่างนั้น หายใจออกให้ภาพพระใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น หายใจเข้าให้ภาพพระเล็กลงสว่างอยู่อย่างนั้น หายใจออกให้ภาพพระใหญ่ขึ้นสว่างไสวขึ้น เข้าเล็กลง ออกใหญ่ขึ้น ลมหายใจเข้าภาพพระเล็กลง ลมหายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้น จากนั้นกำหนดใจให้นิ่งเบาๆ สบายๆ อยู่ที่ภาพพระนั้น ให้ภาพพระเป็นภาพพระที่เราชอบใจ อยู่ในขณะที่เรากำหนดได้สบายๆ จะใหญ่จะเล็กอยู่ที่เราชอบ แล้วกำหนดจิตดึงเอาภาพพระนั้นเข้ามาไว้เหนือศรีษะของเรา ตอนนี้ภาพพระมาสว่างไสวอยู่เหนือศรีษะของเราหันหน้าไปด้านเดียวกับเรา

    [​IMG]      จากนั้นเรา หายใจเข้าให้ภาพพระไหลจากศรีษะ ผ่านอกลงไปที่ท้องเป็นองค์เล็ก หายใจออกให้ภาพพระไหลจากท้องผ่านอกขึ้นไปบนศรีษะเป็นองค์ใหญ่ หายใจเข้าภาพพระเป็นองค์เล็กสว่างไสวอยู่ที่ท้อง หายใจออกภาพพระกลายเป็นองค์ใหญ่ไปสว่างไสวอยู่เหนือศรีษะ หายใจเข้าภาพพระเล็กลงไปสุดอยู่ที่ท้อง สว่างใสสะอาดอยู่ที่นั่น หายใจออกภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศรีษะเป็นองค์ใหญ่สว่างไสวอยู่ที่นั่น คราวนี้กำหนดภาพพระให้อยู่บนศรีษะนิ่งๆ สว่างไสวอยู่อย่างนั้น ขอให้ความสว่างจากภาพพระแผ่คลุมตัวของเราลงมา คลุมศรีษะลงมาถึงหน้าผาก ถึงดวงตา ถึงจมูก ถึงปาก ถึงคาง ถึงไหล ถึงต้นแขน ถึงปลายแขน สะโพก ส้นเท้า ปลายเท้า ภาพพระที่แผ่รัศมีสีขาวใสสะอาดคลุมลงมา จนกระทั่งตัวเราก็ใสก็สว่างเหมือนกับภาพพระไปด้วย

    [​IMG]      จากนั้นดึงเอาภาพพระเข้ามาในอกของเรา ให้สว่างไสวไปทั้งกายของเรา กำหนดใจให้ความสว่างจากองค์พระแผ่กว้างจากตัวของเราออกไปรอบข้าง
    ลักษณะโยนดินหรือหินลงในน้ำ แล้วน้ำกระเพื่อมเป็นวงแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป ให้ กำหนดใจว่าถ้ารัศมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือรัศมีสีขาวใสสว่างที่แผ่กว้างออกไปทุกทีๆ ตั้งใจว่าเราไม่เป็นศัตรูกับใครเราเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วทั้งโลก ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นจงอย่าได้มีเวรมีกรรมและเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้พากันล่วงพ้นจากความทุกข์ มีแต่ความสุขโดยเสมอหน้ากันเถิด กำหนดภาพพระให้สว่างไสวแผ่กว้างออกไปทุกทีๆ กว้างเต็มไปทั้งสถานที่นี้ เต็มไปทั้งวัดนี้ กว้างเต็มไปทั้งตลาด ทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด กว้างออกไป กว้างออกไป ให้ตั้งใจด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ว่าขอให้มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ไปเสวยสุขในสุขติภพโดยทั่วหน้ากันเถิด กำหนดให้ภาพพระสว่างไสวแผ่รัศมีกว้างไปเรื่อย ครอบคลุมทั้งจังหวัด ทั้งประเทศ ทั้งทวีป ทั้งโลก จนกระทั่งโลกทั้งโลกก็เหมือนยังกับเป็นอะไรเล็กๆ อยู่ใต้ร่างกายของเรา รัศมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แผ่กว้างไกลออกไป เหมือนกับพาให้ร่างกายของเราใหญ่โตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า โลกทั้งโลกเหลือเพียงเล็กนิดเดียวอยู่ใต้กายของเรานี่เอง ไม่มีจุดไหนที่กำลังความสะอาดจากเมตตาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีจุดไหนที่ความใสสว่าง เยือกเย็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะแผ่ไปไม่ถึง ให้ตั้งใจว่ามนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยาก เศร้าหมอง เดือนร้อน ลำเค็ญ ทุกข์กาย ทุกใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใดๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
         กำหนดใจให้ภาพรัศมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่กว้างออกไป กว้างออกไปทั่วทั้งโลกนี้ ทั่วทั้งจักรวาลนี้ ทั่วทั้งจักรวาลอื่น สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในดวงดาวไหน จักรวาลไหนก็มีส่วนรับในพระเมตตาบารมีที่ใส สะอาด สว่างเยือกเย็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วถึงกันให้ตั้งใจว่ามนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถิด กำหนดให้ภาพพระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่กว้างไกลออกไปจากอนันตจักรวาลทั้งหลายไปสู่ภพภูมิของเหล่าสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรฉาน มนุษย์ทั้งหมด เทวดาทั้งหมด มารทั้งหมด พรมทั้งหมด ตลอดจนพระทุกองค์ในพระนิพพานให้กำลังใจนี้แผ่ไปจนถึงทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ตั้งความปรารถนาไว้ว่าขอให้เขาพ้นทุกข์ มีแต่ความสุขโดยท่วนหน้ากันกำหนดใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน เสียสละให้กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์เพื่อยังโลกนี้ไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด

          กำหนดให้ภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลื่อนสูงขึ้น ลอยสูงขึ้นสูงขึ้นไป สูงขึ้นไปสู่เขตของอากาศเทวดา สู่เขตของพรหมทั้งหลายจนกระทั่งไปปรากฏอยู่ในพระนิพพานเป็นปกติ ตอนนี้ให้ กำหนดว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ในพระวิมารบนพระนิพพาน สว่างไสวอยู่ตรงหน้าของเราน้อมจิต น้อมใจกราบลงตรงนั้น ตั้งใจว่าภายใต้เมตตาพระบารมีขององค์สมเด็จพระชินสีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ถ้าหากว่ามีกิจใดที่ลูกทั้งหลายจะกระทำแล้วเพื่อเกื้อพระศาสนา เพื่อแบ่งเบาภาระของหลวงปู่ หลวงพ่อและเพื่อมรรคผลนิพพานของลูกเองขอให้ลูกทั้งหลายสามารถทำกิจนั้นได้สำเร็จลุล่วงโดยพลัน ธรรมใดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤษีลิงดำได้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วขอให้ลูกทั้งหลายได้รู้เห็นธรรมนั้นในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด ให้กำหนดใจแน่วนิ่งอยู่กับภาพพระที่สว่างไสวอยู่ตรงหน้า

         สำหรับวันนี้จริงๆ แล้วจะสอนในเรื่องของพรหมวิหาร ๔ คราวนี้พรหมวิหาร ๔ ในขณะที่เราวางกำลังใจนั้นมันทรงตัวยาก จึงได้แนะนำให้ใช้ประกอบกับภาพพระประกอบกับลมหายใจเข้าออก กำหนดให้ทรงเป็นฌาณเต็มที่ไปเลย พรมวิหาร๔ เป็นกำลังใจที่ทรงได้ยากเพราะว่าต้องออกมาจากน้ำใสใจจริง ของเราเองดังนั้นถ้าไม่อาศัยเกาะกับภาพพระไม่อาศัยเกาะกับลมหายใจเข้าออก เราจะทำให้ทรงตัวลำบาก

    พรมวิหาร๔ ประกอบไปด้วย
    ความเมตตา คือรักเขาเสมอด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นหญิงหรือชาย ยากจน ร่ำรวยสวยงามหรืออัปลักษณ์ เราก็มีความรักความปรารถนาดีต่อเขาโดยเสมอหน้ากัน
    กรุณา มีความสงสารปรารถนาจะช่วยเหลือเขาทั้งหลายให้พ้นทุกข์ เต็มสติกำลังที่เราทำได้
    มุทิตา เมื่อเห็นเขาอยู่ดีมีสุขก็พลอยยินดี ไม่มีความอิจฉาริษยาใดๆ
    อุเบกขา เมื่อขวยขวายสงเคราะห์เต็มที่แล้วไม่สามารถช่วยให้เขาดีกว่าเดิมได้ ก็ปล่อยวางยอมรับว่าเป็นกฏของกรรม

         เมตตาบารมีนี้มีอานิสงค์มาก ท่านกล่าวไว้ว่า " หลับอยู่ก็เป็นสุข ตื่นอยู่ก็เป็นสุขจะไม่ฝันเห็นสิ่งร้ายๆ หรือสิ่งที่ไม่ดีทั้งปวง เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายก็จะรักษาเรา จะไม่เป็นอันตรายด้วยอำนาจของอาวุธ ของไฟ ของยาพิษ จะช่วยให้สมาธิทั้งหลายทรงตัวได้ง่าย ช่วยให้ศีลทั้งหลายมีความทรงตัวได้ง่าย จะเป็นผู้ที่มีหน้าตาผิวพรรณแจ่มใสอยู่เสมอ เพราะว่าจิตประกอบไปด้วยความเมตตาเป็นปกติ ถ้าหากว่าตายก็จะเป็นผู้ที่ไม่หลงตายเพราะว่าจิตใจสงบเยือกเย็น เกาะความดีเป็นปกติถ้าหากว่าเข้าไม่ถึงพระนิพพานก็จะมีพรหมเป็นที่ไปเป็นปกติอานิสงค์ทั้งหลายของเมตตาพรหมวิหารทั้งหลายเหล่านี้ถ้าใครปฏิบัติได้ก็จะทรงอยู่กับตนตลอดเวลาเป็นที่รักของคนทั่วไป เป็นที่รักของสัตว์ทั่วไป เป็นที่รักของเทวดาร มาร พรหม ตลอดจนเข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย เมตตาพรหมวิหารนี้ถ้าทรงตัวได้จริงๆ อานิสงค์ต่ำสุดจะเกิดเป็นพรหมเป็นปกติ "

         คราวนี้กำลังในการปฏิบัติของเรา เมื่อเราตั้งใจหวังสงเคราะห์ผู้อื่น มีความรักความสงสารอยากช่วยเหลือให้เขาพ้นทุกข์ เป็นผู้ไม่นิ่งดูดายในความลำบากของคนอื่น ไม่มีความอิจฉาริษยาใคร พลอยยินดีเมื่อเห็นเขาอยู่ดีมีสุขและสำคัญที่สุดตัวอุเบกขา ถ้าหากว่าไม่สามารถจะสงเคราะห์ได้โดยการพยายามทุกอย่างเต็มที่แล้ว ก็จักปล่อยวางเพื่อจิตใจของเราจะได้ไม่เศร้าหมอง อารมณ์ของเราจะได้ทรงตัวผ่องใสเป็นปกติ ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันจะเป็น สังครูเปกขาฌาน ถูกปล่อยวางในสังขารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสังขาร ที่เป็นขันธ์ 5 มันจะอยู่หรือมันจะตายก็เรื่องของมัน มันอยู่เราดูแลรักษามันด้วยความรักความเมตตาอย่างเต็มที่ ถ้ารักษาแล้วมันไม่ดีขึ้นมันจะตายก็เป็นเรื่องของมัน เราสงเคราะห์ช่วยเหลือคนอื่น สัตว์อื่นอย่างเต็มที่ ถ้าสงเคราะห์ช่วยเหลือเต็มที่แล้วไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ได้เราก็ปล่อยวาง เป็นเรื่องของกฏของกรรม
    ถ้าหากว่าจิตใจทรง สังขรูเปกขาญาน อย่างนี้เป็นปกติไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ไม่ยึดมั่นถือมั่นในโลกนี้ ไม่มีความปรารถนาจะเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม ขึ้นชื่อว่าการเกิดที่เป็นทุกข์เราไม่ต้องการ เราต้องการ พระนิพพานแห่งเดียวก็เอาจิตจดจ่อให้มั่นคงอยู่เบื้องหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในนิพพานอย่างที่สอนมาแต่แรก กำหนดใจให้ภาพพระสว่างไสวอยู่เฉพาะหน้าของเรา ตั้งใจว่านี่คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านประทับอยู่ใน พระนิพพาน ถ้ามันหมดอายุขัย ตายลงก็ดี หรือว่ามันตายด้วยอุบัติเหตุ อันตรายใดๆ ก็ดี เราขอมาอยู่ที่นี่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ขอมาอยู่พระนิพพาน แห่งเดียว
    สำหรับตอนนี้เวลาที่จะทำต่อก็ไม่เพียงพอให้ทุกคนคลายกำลังใจออกมาช้าๆ เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งจับภาพพระให้เป็นปกติให้เห็นภาพพระชัดเจนสว่างไสว สะอาดเยือกเย็นนั้นเป็นปกติ ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งเราจะได้ควบคุมร่างกายเพื่อทำหน้าที่ของเราต่อไป


    ------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2005
  7. ใจ

    ใจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +45
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ ฟังแล้วง่ายมาก หลังจากงมมานาน จะนำมาเป็นสิ่งชี้นำการปฎิบัติค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...