ล่องโขงเยือนเชียงของ เมืองสงบงามสองฝั่งไทย-ลาว

เณรช่วยกันขนอิฐที่วัดพระแก้ว

เชียงของ เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวประเภทแบกเป้รู้จัก และหมายปองอยากจะไปเยือน

นอกจากความเงียบสงบของเมืองเล็กๆ แห่งนี้แล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ที่พลาดไม่ได้คือวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างไทย-ลาว

เชียงของ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 141 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอำเภอเชียงแสน-เชียงของ ทางหลวงหมายเลข 1129 เป็นทางเลียบฝั่งโขง ห่างจากเชียงแสนประมาณ 55 กิโลเมตร


มุมมองจากเกสต์เฮ้าส์เห็นเมืองห้วยทราย


การเดินทางไม่ว่าจะใช้บริการรถโดยสารหรือทางเรือจะเต็มอิ่มไปกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางไม่แพ้กัน แต่การล่องเรือมาจากอ.เชียงแสน แม้จะต้องใช้เวลายาวนานสักหน่อย ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ทัศนียภาพสองฝั่งลำน้ำโขงที่โอบล้อมในมุมมอง 360 องศาพาให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติยิ่งนัก โดยอาจจะยอมจ่ายเป็นค่าเช่าเหมาลำในราคาค่อนข้างสูงเล็กน้อยแต่ถือว่าคุ้มจริงๆ

ช่วงหน้าหนาว บรรยากาศยิ่งงดงามเป็นพิเศษ สามารถมองเห็นหมอกบางๆ โรยตัวไปตามความคดเคี้ยวของลำน้ำโขงที่ทอดยาว ผ่านหลืบเขาที่เป็นแนวสลับซับซ้อน แล้วคลี่ตัวออกให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเมื่อเรือวิ่งผ่าน พร้อมไปกับภาพวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำโดยเฉพาะทางฝั่งลาวทั้งปลูกผัก หาปลาอยู่ริมตลิ่ง

ยิ่งหากเรือวิ่งเข้าใกล้เมืองเชียงของ ทัศนียภาพของเกาะแก่งที่เรียงรายในแม่น้ำโขงที่ตระหง่านต้านสายน้ำเชี่ยวซึ่งหมุนเป็นเกลียวเมื่อถูกคลื่นจากเรือกระทบเป็นเสน่ห์ที่หลายคนประทับใจมาแล้ว


มุมมองจากเกสต์เฮ้าส์เห็นเมืองห้วยทราย

ขึ้นฝั่งที่อ.เชียงของเรียบร้อยแล้ว มองหาที่พักได้ไม่ยากนัก เพราะแถบนี้มีที่พักประเภทเกสต์เฮ้าส์ให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่จะอยู่ติดริมฝั่ง มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ชัดเจน

หลากหลายระดับ สนนราคาไม่แพง มีให้เลือกตั้งแต่ระดับราคา 300 บาทขึ้นไป แล้วแต่ความสะดวกสบายของห้องพัก ผนวกรวมกับทำเล บรรยากาศ และทัศนียภาพที่มองเห็นได้


ทิวทัศน์งดงามสองฝั่งลำน้ำโขง


อากาศเริ่มเย็น เหมาะมากกับการนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือริมฝั่งโขง ผักผ่อนได้อย่างสบายตัว สบายใจ เพราะปราศจากเสียงอึกทึกครึกโครมเช่นเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ

ออกตระเวนเดินเท้าไปตามถนน ก็จะเห็นวิถีชาวบ้าน ในบรรยากาศเรียบง่ายของชาวเชียงของ หรือจะแวะไปเยือนพี่น้องลาวอีกฝั่งหนึ่ง ก็เพียงแค่ใช้บริการเรือข้ามฟากที่ "ท่าเรือบั๊ก" จุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทย-ลาว สามารถข้ามโขงไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวได้ไม่ยาก ติดต่อ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงของเตรียมรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ชุด พร้อมเงินค่าธรรมเนียม 30 บาท ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว

ด่านบริเวณท่าเรือเปิดทุกวัน เวลา 06.30-18.30 น. จากจุดนี้สามารถเดินทางท่องเที่ยวทางเรือต่อไปถึงหลวงพระบาง-เวียงจันทน์ สปป.ลาวได้ แต่ถ้าจะไปไกลขนาดนั้นอย่าลืมพกพาสปอร์ตติดกระเป๋าไปด้วย

บรรยากาศเรียบง่ายในที่พัก

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือ บ้านหาดบ้าย ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ เป็นถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ที่ตั้งหมู่บ้านของชาวไทยลื้อ มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันงดงามน่าสนใจ และฝีมือการทอผ้าพื้นเมืองที่เลื่องชื่อ

จากอำเภอเชียงของ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหางยาวไปยังบ้านหาดบ้าย โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือบั๊ก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

อากาศหนาวปีนี้ ขึ้นเหนืออย่าลืมแวะเที่ยวอ.เชียงของ เมืองสงบเล็กๆ แต่คงความงดงาม และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวแบกเป้ไม่รู้ลืม

สนใจรายละเอียดติดต่อชมรมท่องเที่ยวเชียงของ 0-53655-391, 0-53791-993

ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/​