ความเข้าใจของผมในการปราถนาพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ปันปัน, 16 พฤศจิกายน 2005.

  1. ปันปัน

    ปันปัน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ข้อคิดเห็นของข้าพเจ้าเกี่ยวกับการปรารถนาพุทธภูมิ

    ตามความเข้าใจของคนส่วนใหญ่หรือแม้แต่คนที่ปราถนาพุทธภูมิส่วนใหญ่จะเชื่อการว่า การปรารถนาพุทธภูมิจะมีระยะเวลาในปรารถนาไว้ในใจ เปล่งจาวา หรือ ตั้งแต่พยากรณ์ จนสำเร็จพระพุทธเจ้าต่างกันกันไปเช่นในแต่ละประเภท และประเภทเดียวกันใช้เวลาปรารถนาไว้ในใจ เปล่งจาวาจาและตั้งแต่พยากรณ์เท่ากัน

    แต่สำหรับผมเชื่อตามพระไตรปิฏกในหมวดของพระวินัยและพระสูตรกล่าวไว้ การเป็นพุทธภูมิอันอุดม ( สมบูรณ์ ) ก็ต่อเมื่อได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าเป็นต้นไป เมื่อนั่นการเริ่มเป็นพุทธภูมิอันอุดมจึงเริ่มขึ้น การทำบารมีก่อนหน้านั้นเป็นเพียงการทำบารมีเพื่อให้เป็นพุทธภูมิอันอุดม อันจะได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าเท่านั้น พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเริ่มเป็นพุทธภูมิอันอุดมตั้งแต่ สมัยเป็นสุเมธดาบส ที่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าทีปังกร

    ระยะเวลาการที่จะได้รับการพยากรณ์จึงแตกต่างกันตามปัญญา และกำลังใจ คนทำมากและทำตรงโอกาสจะได้รับพยากรณ์เร็วย่อมมีมากขึ้น คนทำ ๆ หยุด ลุ่มลงในกิเลสมากกว่าการทำบารมี โอกาสจะได้รับพยากรณ์ย่อมเนิ่นนาน ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้เวลาตรงนี้เท่ากันแม้ แต่จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าประเภทเดียวกันก็ตาม บางคนปรารถนามาตั้งนาน ยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์เลยก็มี

    แต่เมื่อเริ่มได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว การเริ่มทำบารมีแต่ตรงนี้จะใช้เวลาเท่ากัน คือ พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ใช้เวลา ๔ อสงไขยแสนมหากัป ศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยแสนมหากัป และวิระยาธิกะ ๑๖ อะสงไขยแสน
    มหากัป

    สิ่งใดเป็นตัวกำหนดว่าใครจะปรารถนาเป็นพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ หรือ วิระยาธิกะ ในขณะที่ปรารถนาถ้าตอนนั้นจิตวิวัฒนาการมาถึงขั้นปัญญา จะเป็นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ วิวัฒนาการมาถึงขั้นสมาธิจะเป็นพระพุทธเจ้าศรัทธาธิกะ วิวัฒนาการมาถึงขั้นศีลจะเป็นพระพุทธเจ้าวิระยาธิกะ อย่างไรก็ตามขณะปราถนาพุทธภูมิแม้วิวัฒนาการมาถึงขั้นศีล หรือสมาธิก็สามารถปราถนาพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะโดยการตั้งใจหรืออธิษฐานได้ แต่ต้องทำบารมีเพื่อให้จิตวิวัฒนาการจนถึงขั้นปัญญา จนได้รับพยากรณ์ขณะเมื่อจิตวิวัฒนาการมาถึงขั้นปัญญา ก็จะกลายเป็นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะได้ แต่การวิวัฒนาการมาถึงขั้นปัญญาจนจะได้รับพุทธยากรณ์ก็ต้องใช้เวลานาน กล่าว

    โดยสรุปพระพุทธเจ้าทุกประเภทตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์แต่ละประเภทใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีต่างกัน ในประเภทเดียวกันตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์ใช้เวลาเท่ากัน
    หากจิตวิวัฒนาการมาถึงขั้นปัญญาสามารถปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าแบบศรัทธาธิกะได้หรือไม่ หรือในกรณีวิวัฒนาการมาถึงขั้นสมาธิ สามารถปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าแบบศรัทธาธิกะได้หรือไม่ ในความเห็นผมสามารถเป็นได้ เนื่องจากสามารถทำบารมีเร็วได้แต่ไม่ทำ ย่อมสามารถทำได้ก็แต่การตั้งใจหรืออธิษฐานจิตอยากเป็นได้

    ในกรณีหากจิตวิวัฒนาการมาถึงขั้นศีลหากอยากเป็นพระพุทธเจ้าแบบศรัทธาหรือปัญญาธิกะก็ต้องอธิษฐานจิตแล้วทำบารมีเพื่อให้จิตวิวัฒนการไปสู่ขั้นศรัทธาหรือปัญญาจนได้รับพยากรณ์ในช่วงวิวัฒนาการถึงขั้นดังกล่าว ซึ่งแน่นอนใช้เวลานานกว่าพวกที่เขาวิวัฒนการถึงขั้นศรัทธาหรือปัญญาแล้ว

    เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว จะเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนหรือไม่ เป็นแน่นอน เพราะหากไม่เป็นแน่นอนจะไม่ทรงพยากรณ์ หากได้รับพยากรณ์แล้วไม่สามารถลาพุทธภูมิได้ขาด ( การลาบางรายมีเพียงแต่ให้ฝึกจิตได้อารมณ์เทียงเคียงพระอรหันต์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ) จิตจะขึ้นถึงสูงสุดเท่าอารมณ์เทียบเคียงพระอรหันต์ บางคนเข้าใจว่าตัวเองเป็นพระอริยะเจ้าและไม่ได้ปราถนาพุทธภูมิ ( แต่ก็ทำหน้าที่พุทธภูมิโดยสังขารละเอียดพาทำ ) จนก่อนตายไม่กี่ปีถึงรู้ตัวเองว่าปรารถนาพุทธภูมิก็มี เนื่องจากอารมณ์จิตที่ปราถนาพุทธภูมิฉายออกมาให้ทราบ


    กองหนุนในการปรารถนาพุทธภูมิ ( ไว้ต่อวันหลังครับ )
     
  2. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ที่พ่อเล่าให้ฟังนะครับ ....
    เมื่อพระพุทธองค์ทรงโปรดทั้งสามโลก พวกสัตว์นรกที่ถูกไฟเผาผลาญอยู่ ที่แสนเจ็บปวดทรมาน ก็พลันหายจากความเจ็บปวดทั้งปวง ไฟนรกดับ เมื่อได้เห็นพระบารมีของพระพุทธองค์ ต่างจึงเปล่งวาจาขอปรารถนาพุทธภูมิ แสดงให้เห็นว่าใครๆก็เคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน การสร้างบารมีนี่ใช้ความอดทนสูง มากๆๆๆ กว่าจะสมใจปรารถนา ใครไม่ลา ก็เหนื่อยดีนะครับ อิอิ
     
  3. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ตั้งความปรารถนาตามรอยพระองค์ไว้ จิตจะได้ไม่หลงทาง
     
  4. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    อืม...ครับ
     
  5. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    การแสดงยมกปาฏิหาริย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ทรงปรารถนาที่จะหว่านหน่อเนื้อแห่งพุทธางกูร เมื่อเวนัยสัตว์ทั้งหลายมีความยินดีในพระพุทธเจ้าแล้วย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดโพธิญาณต่อๆ ไปในภพเบื้องหน้าอันจักยังประโยชน์ต่อให้กับสัตวโลกที่ยังอาภัพพลาดโอกาสแห่งการบรรลุธรรมได้มีโอกาสบรรลุธรรมต่อไป
    สำหรับเหตุผลที่ว่าลาพุทธภูมิได้ไหมเมื่อได้รับคำพยากรณ์ที่เที่ยงตรงแล้วตามความเห็นผมก็เช่นเดียวกับคุณ ปันปัน ครับ เพราะญาณทัศนะของพระพุทธองค์ย่อมไม่คลาดเคลื่อนทรงเป็นสัพพัญญูรู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง และยิ่งผู้ได้รับคำพยากรณ์เหลืออีกเพียง 6 ชาติจะสำเร็จสมปรารถนาก็ยิ่งไม่ควรลาพุทธภูมิเพราะอานิสงค์ที่จะเกิดตามมาจากการบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณย่อมยิ่งใหญ่กว่าพระอรหัตขีณาสพแน่นอนครับ ในที่นี้ขอให้ใช้จิตเป็นกลางนะครับผมไม่มีเจตนาเปรียบเทียบกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำนะครับ เจตนารมณ์ของท่านที่สละในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านน่าจะสัมผัสอารมณ์ของอรหัตมรรคเข้าทำให้ท่านทำใจที่จะเวียนเกิดเวียนตายต่อไม่ได้ เพราะตามธรรมเนียมโพธิสัตว์ที่ยังบำเพ็ญบารมีจะต้องไม่เข้าสู่อารมณ์อรหันตมรรค จนกว่าจะถึงกำหนดโพธิญาณครับ หากผิดธรรมเนียมโพธิสัตว์แล้วบารมีจิตที่เกาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ซึ่งเป็นทุนเดิมมาทุกชาติมันมากพอที่จะทำให้ตัดภพชาติในชาตินี้ได้เอาดื้อ ๆเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...