เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ตามอ่านทุกวันเลยครับ

 

รออ่านของทุกท่านอยู่ครับ
ทั้งพี่ชยา พี่จันทรุปราคา อาจารย์อาชวิน น้องบาส
และทุกๆท่านเลยครับ ช่วยกันเขียนหน่อยนะครับ หุหุ
อ่านทุกวันจะได้มีแรงบันดาลใจในการปฏิบัติ
(แต่พยายามจะไม่ให้เป็นกิเลสครับ หุหุ)

สำหรับเรื่องของผม เดี๋ยวเอาอันนี้ไปอ่านรอกันก่อนนะครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=87943

แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเหตุผลของการไม่อัพเดทกระทู้นี้ต่อครับ

 

ยกมือจนเมื่อย เข้ามาเล่าต่อนะครับ ยังไม่หายมันส์...

ขออนุโมทนาครับ (ไม่รู้ว่าปุ่มอยู่ไหน)

 

มันเป็นอย่างนี้เองหรือ 555555555 ตอนเห็นเขาดันกัน ผมก็ลองยกไม้ยกมือ

ตามคนที่อยู่ข้างหน้า ดันผ่านไปหลายคู่จนจำไม่ได้ จู่ ๆ รู้สึกเสียดท้องแถว

ชายโครงด้านซ้าย ตอนนั้นผมคิดอยู่ว่า เอ! มาได้งัยหว่า! ต้องสูดลมหาย

ใจซัก 2 - 3 รอบถึงหาย จับตัวคนทำร้ายร่างกายได้แล้วล่ะคร๊าบ....

 

ลิงค์ที่คุณ raquaz โพสต์ขึ้นมา เคยไปแอบอ่านนานแล้วครับ เป็นการเล่า

ที่มีประโยชน์มาก ยังอดอิจฉาไม่ได้จริง ๆ อนุโมทนาด้วยครับ

 

เรื่องราวของ สามพี่น้อง ผู้ที่ ปฏิบัติธรรม อย่างเคร่งครัดสำรวม
ตามแนวคำสอนของหลวงปู่-ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น หลวงปู่ดู่ หลวงปู่สด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

แต่ความที่มาเกิดในพื้นที่ เป็นแหล่งกำเนิดของมนตราไสยศาสตร์จึงหลีกเลี่ยงเรื่องราวหลายๆอย่างไม่พ้น

เรื่องเกิดขึ้นประมาณกลางปี 2550 ที่ชั้น16 ห้องสูท อาคาร ยศวดี ซอยอารีย์ ถนนพหลโยธินกรุงเทพ
และ กระท่อมน้อม ชายแดนไทย-เขมร ออกทางเขต อำเภอ สีขรภูมิ

มารดาของ พี่น้องทั้งสามได้เจ็บป่วยอย่างหนักและต่อเนื่อง ด้วยโรคภัยหลายประการรุมเร้า หมดค่ารักษา ไปหลายแสนบาท อาการยังไม่ดีขึ้น

พี่คนกลางจึงเสาะหา หมอที่ว่าเก่งๆ ในการรักษาโรคกรรม มาช่วยดู แต่ก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งทราบไปถึงพี่คนโต
ผู้พี่จึงโทรจิตหา น้องคนสุดท้อง พร้อมทั้งดุว่า เอ็งบวชเรียนมาตั้งมากมาย ทำไมไม่ไปช่วยแม่
ตอนนั้นผู้เป็นน้องชายอยู่ประมาณชายแดนลาวฝั่งโขงเพื่อปลีกวิเวก เจริญกรรมฐาน ก็ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพ
มาแก้ต่างว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยใด ๆ อีกทั้งคุณไสย์
พี่น้อมพิจารณาดูเอาเถิด เห็นไหมว่าแม่ทำอะไรไว้บ้าง
แก้ได้ช่วยได้ก็แค่ระดับหนึ่งและผู้ที่ทำอาคมเขาก็ชนชั้นปรมาจารย์

พี่คนโตจึงเข้ากรรมฐานพร้อมกำหนดดูสาเหตุทั้งหลายและอธิฐานแก้ไข ในสิทธิ์ของความเป็นลูก ด้วยว่า เราเกิดมามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

เมื่อนั้นจึงได้เห็นนิมิต เป็นมดปลวก
พญาปลวกชอนไชกัดกินร่างกายผู้เป็นแม่ไปทั้งภายใน
จึงได้ถอนจากกรรมฐาน กล่าวกับแม่ว่า
แม่สมัยแม่สาวๆและคุณตายังไม่ตาย แม่กับคุณตา พากันเลาะไม้ที่ถูกปลวกกินไปลอยที่สระหลังบ้าน
ปลวกแต่ละตัวล้วนแต่เป็นพญา แม่จึงมีอาการเหมือนคนจมนําหายใจไม่ออก หลุดลอยจมดิ่งไปทุกคืน เป็นอาการของคนที่จะจมนำตาย
หนาวสั่นสะท้านแบบไม่มีไข้

แม่เถียงว่า อาการแม่เป็นเช่นนั้นจริง แต่ไม่ไม่เคยฆ่าปลวกนะ
ลูกคนโต ตอบว่า แม่คิดดูดีๆ ตอนนั้นลูกยังไม่เกิดเลย
ในที่สุดแม่ก็คิดออกและจำได้ จึงยอมรับ ว่าได้ทำจริงกับคุณตาสองคน

00พี่สาวคนโต ก็ได้พาคุณแม่ไปกราบ หลวงปู่เจือ สุภโร ครั้นไปถึงกุฏิท่าน ก็นั่งรอสักพักใหญ่ๆ เพราะหลวงปู่เข้ากรรมฐานอยู่ เมื่อหลวงปู่ออกจากการเจริญกรรมฐานจึงได้ออกมารับไหว้ พี่สาวคนโตไปกราบหลวงปู่ส่วนใหญ่ไปรับแต่ธรรมคำสอนไม่เคยไปถามปัญหาโลก
แต่ครั้งนี้พามารดาไปด้วย หลวงปู่เห็นดังนั้นจึงทักด้วยความเมตตา
โดยที่ ไม่ได้รับทราบสาเหตุที่พามารดามา จากการบอกกล่าวแต่อย่างไร

หลวงปู่ทักว่า ที่โยมเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เร่งทำบุญเสีย วิญญาณ มดปลวกเขาสิงสู่จองเวรกรรมอยู่ อีกทั้งกรรมที่ได้กระทำมา ศีล 5 ควรถือให้ครบจึงจะพอแคล้วคลาดไปได้ หลวงปู่กล่าวแต่เพียงเท่านั้น.

ผู้เป็นมารดาก็ตกใจมากเพราะ เรื่องนี้ ก็เห็นแต่จะมีแค่คนในครอบครัวที่รู้
จึงสำนึกได้ถึงบาปกรรมที่ทำมาทั้งหลาย และปรวณาตัว ว่าจะถือศีลให้ครบหมดจดให้จงได้

00ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
ผู้เป็นน้องชาย เร่งรีบมาตามพี่สาวคนโตไปช่วยดู บอกว่าคุณแม่แย่แล้ว
อาการทรุดหนักลงทุกที น้องชายจึงนุ่งขาวห่มขาวเข้ากรรมฐาน พี่สาวก็เข้ากรรมฐานเช่นกัน คนละมุม ห้องสูท ที่ อาคารยศวดี ไม่มีลม
เพราะ เป็นห้องชั้นใน เปิดแอร์ไว้ตลอดเวลา
ตกดึกประตูห้องกรรมฐานซึ่งเป็นบานเลื่อนก็ ถูกลมพัดฟาด อย่างรุนแรง
โครมครามๆเลื่อนเข้าเลื่อนออก พระพุทธรูปที่บูชาตั้งไว้เป็นประธานก็พลัดตกจากหิ้งพระ ลมพัดกระหนาในห้อง ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดหน้าต่างบานไหนๆทั้งสิ้น

ผู้เป็นน้องชาย ท่านจึงนำบาตรพระใหม่ ใช้ทำนำพุทธมนต์
(เอ ท่านทำไงเราก็จำไม่ได้นะ) แต่พอไปรดที่แม่ของท่านแม่ก็ดิ้นร้องจ๊ากเลย ครั้นพอเสร็จก็ดับธูปไม่รู้กี่ดอกเหมือนกันเพราะมันเป็นกำๆ จุ่มปลายธูปลงไป นําพุทธมนต์ก็กลายเป็นสีเลือด เลือดนะ ไม่ใช่สีแดงก้านธูป เป็นสีแดงขุ่นเหมือนนำเลือดสกปรก

เมื่อนั้น ผู้เป็นพี่สาวก็ อราธนาพุทธคุณ และอัญเชิญ ท้าวมหาราชทั้งสี่เมตตาช่วย ล้อมเกราะเพชรให้รอบบริเวณเพื่อปกป้องคุ้มกัน ท่านบอกว่าที่ไม่ล้อมเองเพราะกำลังไม่พอ เราบุญบารมีแค่ไหนกันเชียว อย่าเดาะไปล้อมเองเดี๋ยวเดี๊ยงไม่ทันพริบตา ท่านฝากบอกว่าอย่างนั้น
ท่านอธิฐานต่อครู-บาอาจารย์สายพระและสายเทวดาว่า หากผู้ที่มา ประสงค์ร้ายก็ขออย่าให้เข้าได้ ขอมอดไหม้ไปตามกัน หากพอคุยกันรู้เรื่องจึงอนุญาติให้เข้า

ก็ปรากฏเป็นร่าง สัมภเวสี หรือผี ประมาณ ไม่น้อยกว่า 30 ตน มีพวกที่หากเคยเป็นมนุษย์ก็คงเป็นชายร่างใหญ่ ผิวคลำดำมืด รายรอบอยู่นอกอณาบริเวณเกราะเพชร มีหลายตนที่พยายามฝ่าเข้ามา ก็ถูกไหม้กันเป็นระนาว
เมื่อนั้น นายใหญ่แห่งผีจึง สะดุดชงัก มองมาที่สองพี่น้อง
พี่สาวได้ทีจึงกล่าวว่า เรามีคำจะสนทนา หากท่านไม่คิดร้ายก็จะเข้ามาได้
ผีนายใหญ่จึงได้เข้าให้ได้สอบถาม


พี่สาว-ท่านเป็นผู้ใด รับใช้ใครมา รู้ไหมว่ามันเป็นบาปกรรม ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
ไปเจอผู้มีวิชาอาคม ก็เจ็บเนื้อเจ็บตัว ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายมั่งรึ

ผี-ข้าทำอย่างนี้มานานแล้ว เขาสะกดไว้ ทำพิธีหลายอย่าง อยู่ก็อดมั่งอยากมั่งไม่สนุกเลย
เมื่อโดนสะกดก็ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เมื่อเคยเป็นมนุษย์ ก็เกเร
เรียนไสย์ศาสตร์ ทำของใส่เขา ลูกเมียใคร ข้าก็จะเอาไม่รู้บาบบุญคุณโทษ
พอตายก็ตายไม่ดี อย่างที่เขาเรียกว่าตายโหง
ก็ไปเจอคนมีวิชาแข็งกว่าสะกดไว้ใช้ มันก็เลยกลายเป็นคนใช้เขา

พี่สาว-อ้าวเหรอ แล้วไม่อยากไปผุดไปเกิดมั่งเร้อ ดูเราสิ อยู่สุขสบายเสื้อผ้าก็มีใส่ ข้าวปลาก็มีกิน ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณ

ผี-ก็อยากอยู่แต่ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร ไปก็ไปไม่พ้น

พี่สาว-ก็อนุโมทนาบุญก่อนสิ บุญที่เราทำมาหลายอย่าง จารไนบุญให้ฟัง
ผี-อนุโมทนา แปลว่าอะไร แล้วทำอย่างไร
พี่สาว-??? อ๋อ ท่านไม่รู้จัก อนุโมทนาบุญหรอกหรือ เกิดสมัยไหนเนี่ย
ผี-ไม่รู้จัก ท่านบอกหน่อยข้าด้วย
พี่สาว-การอนุโมทนาบุญคือ ยินดีในบุญกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำ มีความยินดีเสมอเหมือนได้ทำด้วยตนเอง ได้บุญดีนักแล ไม่ต้องลงทุนทำเอง (คนกำลังหลอกผีให้ทำดีนะ)
ผี-ได้จริงแน่เหรอ ข้าโมทนาบุญแล้วตกนรกไหม
พี่สาวนึกในใจ เอ่อ....ไม่แน่ใจ โมทนาบุญไม่รู้จัก แต่รู้จักนรก โอเค้ถือว่าคุยกันรู้เรื่อง

พี่สาวจึงบอกว่า ท่านต้องหาผู้ที่จะถอนอาคมให้ท่านหลุดพ้นจากสภาพนี้ก่อน
เมื่อนั้นท่านจะไปตามกำลังบุญกรรมของท่าน ซึ่งเราคิดว่า อย่างไรก็ยังดีกว่าที่จะตกอยู่ในสภาพนี้ละน่า

ผี-เห็นด้วย แต่ท่านถอนอาคมให้ข้าไม่ได้รึ

พี่สาว-ไม่ได้ เราไม่ได้เรียนมา เราเรียนแต่วิชาของพระพุทธเจ้า
ผี-วิชาของพระพุทธเจ้า ดีกว่า เก่งกว่าวิชาที่ข้าเคยเรียนและผู้สะกดข้าไหม
พี่สาว-ดีกว่าเยอะเลย ทำให้ท่านไม่ตกนรกด้วย เกราะเพชรที่ไหม้พวกพ้องท่านก็วิชาพระนะ วิชาที่ผู้สะกดท่านเสื่อมได้ท่านเองก็เคยเสื่อมมาไม่ใช่รึ
แต่วิชาพระพุทธเจ้า ไม่เสื่อมนะ ไม่เสื่อมเลย

ผี-งั้นท่านต้องช่วยข้านะ ข้าไม่อยากตกนรก เมื้อข้าพ้นสภาพนี้แล้ว ข้าจะหาเรียนวิชาพระพุทธเจ้า

พี่สาว-เราช่วยท่านให้พ้นนรกไม่ได้หรอก ถ้าท่านจะตกนรกก็รีบๆตก จะได้ออกจากนรกไวๆไง เพราะหากท่านอยู่อย่างนี้ ท่านก็อยู่อย่างนี้ไม่มีที่สุดนั่นแหล่ะ
เมื่อนายท่านตายไป มนต์สะกดท่านต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเสื่อม แต่ท่านก็อาจตกนรกอยู่ดี จริงไหม ช้าเร็ว ท่านหนีไม่พ้นหรอก กรรมท่านทำไว้ท่านต้องใช้ พระพุทธเจ้าท่านก็สอนเหมือนกัน คือการทำสิ่งดี สร้างกรรมดี ก็พอจะช่วยท่านพ้นนรกได้เหมือนกัน แต่ท่านอยู่ตรงนี้ไม่ได้ทำดีเลยมีแต่ทำชั่ว ร้ายไปๆ ทุกวัน จริงไหม

ผี- .......เงียบไปสักพัก .....
ถ้าอย่างนั้นท่านหาคน ช่วยถอนมนต์สะกดได้ไหม

พี่สาว- บุ๊ยไปที่น้องชาย ก็คนหัวโล้นนั่นไง เขาช่วยได้
เดี๋ยวเราจะไปบ้านนายของท่าน ....
ท่านก็ตามมาดูด้วยซิ แล้วจะเห็นว่า วิชาพระดีจริงๆไหม

สองพี่น้อง แว๊บไปโผล่ที่กระท่อมมุงสังกะสี เป็นไม้ ตามฝาบ้านถูกลนไปด้วยไฟไหม้แผดเผาไปทั้งหลัง (ไฟกสิณ)

พี่สาว-เอ็งใช่ไฟกสิณเผาเรอะ ทำไมโหลยโท่ย งี้ละ ไหม้แต่ฝาบ้าน
น้องชาย-เออ..เอ็งทำได้ไหมละ ใช้ไฟโลกันต์มันแรงไป เดี๋ยวไหม้หมด บ้านก็ไหม้ เดี๋ยวเอ็งไม่มีอะไรดู เห็นแต่ขี้เถ้า
พี่สาว-เออ...ขี้โม้จริง ไหนละ จอมขมังเวทย์ตัวแสบ หายไปไหนแล้ว
น้องชาย-ไปแล้ว ตอนที่เอ็งมัวแต่นั่งคุยกะผีนั่นแหล่ะ เราเลยเผาบ้านขู่เล่นๆ เผ่นเลย
พี่สาว-ประกาศ ผีเลี้ยงๆที่แอบๆอยู่โผล่มาให้หมด ไม่งั้นแม่จะเผานะ พี่สาวทำเป็นขู่
ผีเด็ก-พี่ๆ นายลุงเขาไปแล้ว ทิ้งพวกหนูไว้

พี่สาว-ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยว่า ทำไม นายหนูถึงทำไสย์ลงแม่ของพี่กะเอากันให้ตายเลยนะ

ผีเด็ก-อ๋อ มีคนเขามาจ้างหลายเงินอยู่นะ เขาเป็นญาติเมียเก่าของ
สามีใหม่แม่พี่ไง ชื่อนี้ๆๆ เขาจะเอามรดกที่ดินแล้วบ้านที่พี่ๆเพิ่งสร้างให้แม่นั่นล่ะ

พี่สาว- อ๋อ...

ผีเด็ก-เขาทำมาตั้งหลายทีแล้วพี่ แม่พี่โชคดีนะที่ไม่ตาย
พี่สาว-โอเค แล้วหนูจะไปไหนต่อ พี่จะเผาที่นี้ละ เก็บไว้มีแต่เสนียด เดี๋ยวแกย่องมาเก็บข้าวของไปอีก
ผีเด็ก-ไปอยู่กับพี่ได้ไหม
พี่สาว-ไม่ไหวจ้ะ พวกหนูเยอะเหลือเกิน อีกอย่างบ้านพี่มีเยอะแล้ว
ไปวัดนะ ไปขอหลวงปู่อยู่ ท่านไม่ว่าหรอก

ผีเด็ก-ก็คงต้องเป็นไปอย่างนั้นล่ะ (พูดอย่างน้อยใจ งอนๆ)
น้องชาย-เอ็งจะเผาไหม หรือจะให้เราเผา
พี่สาว-ชะชะ ขอลองอาวุธหน่อยไม่เคยได้ใช้เลย
อัญเชิญพระจักรไฟ อธิฐานขอเผาทำลายเสนียดจัญไรสิ่งตกค้าง ที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

แล้วกระท่อมก็กลายเป็นซากไหม้....

น้องชาย-โถ่เอ๊ย นึกว่าเก่ง ที่แท้ใช้ของครูท่าน
พี่สาว-เอ๊า ไม่เก่งแล้วท่านจะให้ใช้เร้อ พอๆเลิกชวนทะเลาะ ได้แล้ว
เอ็งอย่าลืมไปถอนอาคมให้พวกผีที่โดนสะกดละ พี่ไปละ

อาทิตย์ถัดมา แม่หายป่วย หลังจากอาเจียนเป็นเลือดติดกันครั้งใหญ่
ราศรี สดใส ไม่หม่นหมองดำทะเมื่อมเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมา

ผู้เป็นน้องชาย ก็ลงไปต่างจังหวัดตามพื้นที่ ที่ต้องไปแก้อาคมสะกด
ทราบว่า มีทั้งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อถอนอาคมออกไปแล้ว ก็ตายทันที
และร่างกายเน่าเปื่อยอย่างฉับพลัน คือไม่ต้องรอหลายวัน ถอดอาคมปึ๊บ ตายเลยเน่าเลย

เรื่องนี้เราเอามาเขียนให้อ่าน แต่มีผู้รู้และอยู่ในเหตุการณ์หลายท่าน
อ่านอาจไม่สนุกเท่าได้รู้เห็นด้วยตนเอง
เชิญพิจารณากันตามอัธยาศัย แต่อย่าอคติ เพราะ วิชาเหล่านี้มีผู้สำเร็จจริง
เพียงแต่อาจไม่ใช่คนรอบตัวท่าน

หมายเหตุ
เรื่องนี้ มารดาของสองพี่น้องเป็นผู้ชอบทำไสย์ศาสตร์กับผู้อื่นเช่นกัน
แต่ส่วนใหญ่จะเป็น เสน่ห์ ให้คนหลงรัก
ถึงปั้นปลายชีวิต จึงได้รับผลกรรมหลายอย่างมารุมเร้าในคราวเดียว

 

สาธุครับคุณ จันทรุปราคา ขอบคุณหลาย ๆ

 

น่ากลัวจิงๆ นะครับ กับเรื่องไสยศาสตร์อวิชชาต่างๆ
และน่าอัศจรรย์กับพุทธานุภาพจริงๆ ครับ
กราบ กราบ กราบ
องค์พระศาสดา และครูบาอาจารย์ที่เมตตาสืบทอดคำสอนสืบมา
สาธุๆๆๆๆ

 

สุดยอดครับ
ขอบคุณมากครับ
ไปฝึกเพ่งกสิณไฟกันดีกว่า
เอาไปเผาๆๆๆๆๆ น่าหนุกๆๆๆ

 

หวัดดีจุ๊ย อิอิ วัดยานาวา ทุกวันอาทิตย์ มีฝึก นะครับ

สนใจก็ ลองไปดูได้ครับ

 

<TABLE borderColor=#0000ff cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=99>

13.00-14.00

​

</TD><TD width=374>สมาธิตาที่ 3

</TD><TD>ศรีภานุปุตร ปรมฮัมสะ</TD></TR></TBODY></TABLE>

คนนี้ ใช่ คุรุ ที่ชื่อ หนึ่ง หรือ ปล่าว หนอ ??? ที่อยู่ที่ น่าน ง่ะ

 

..........................โห ดุกว่าที่ผมเจอมาอีกน่ะครับนี่....;aa36

 

เก๊าะสองท่านนั้นเขารุ่นเดอะ แล้วนิ เขาฝึก เขามั่นเพียรกันมานาน
ทำกันจริงจังเชื่อฟังครูอาจารย์ ออกสนามจริงแล้ว
ท่านว่า อภิญญา ไม่ต้องฝึกก็ได้ แต่หากเรียนกันจริงๆก็วิชา พุทธนี่แหล่ะ
อภิญญา นี่ผลพลอยได้ตามบุญบารมีของแต่ละบุคคล อยู่แล้ว
ท่านผู้น้องยังเล่าให้ฟัง เรื่องเกจิครูอาจารย์แต่ละท่าน ที่แก้ไสย์เก่งๆด้วยละ


ขอบคุณทุกท่านมากที่อุตส่าห์อ่าน

 

WOW... WOW........WOW
All these marvelous, extraordinary great stories.
Better yet, they are all real events.
Many, many thanks for those who shares their experiences.

(This make Harry Potter simply a tame, bedtime story for kids)
;aa12

 

ขอบคุณ คุณจันทรุปราคา คิดถึงอยู่เหมือนกันครับ
นานแล้วที่ไม่ได้อ่านข้อความของคุณจันทรฯ
อ่านไปๆ ก็หวนคิดถึงคุณปานโสม เนาะ

ขอโมทนากับเรื่องดีๆมีประโยชน์ ที่นำมาให้ได้อ่านครับ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1690589", true); </SCRIPT>

 

พี่ภูขาววววววววววววววว

อ๊ากกกกกกกก คิดฮอดท่านหลายๆเด้อ

ทำไมมีแต่คนคิดถึง ปานโสมเนาะ
ไม่ยักกะมีคนคิดถึงเรามั่ง สงสัยพฤติกรรมเราไม่ดี โฮะๆ

พี่ภูเขาสบายดีนี่นา สุขสดชื่น ไม่เจอกันนานโพด
ทำไมพี่ยังหล่อเหมือนเก่าละ
ควรจะแก่ขึ้น แก่ขึ้น ไม่ใช่เหรอ

เอิ๊ก

เห็นเว๊บมันเงียบๆ เรียบร้อย ก็เลยมาช่วยทำให้สดชื่นขึ้นมั่งน่ะพี่

 

หากบอกว่าไม่มีใครคิดถึงจันทรุปราคา ไม่เชื่อแบบหัวเด็ดเป็ดห่าน เด็ดขาด
เคยแอบชื่นชมอยู่หลังฉากมาตลอด ว่าเป็นยอดอัจฉริยในการจำนรรจา

ปานโสม + จันทรุปราคา เหมือนหยินหยาง สมดุลธาตุ

อยู่ที่ไหน ที่นั่น ย่อมก่อเกิด ระเบิดปัญญา ชีวิตมีแต่ความสุข

ไม่ได้เข้ามาขาย ห่อหมก ใบยอ นะครับ เรื่องจริง ขอบอก

 

เอาอีกเรื่องดีกว่า ชื่อเรื่องว่าคนที่มีบุญผูกผันกันหรือเคยผูกผันกันในอดีตชาติ

ท่านที่ตาเปิดแล้วสามารถทำได้คือรวมจิตเอาตัวเราเป็นศูนย์กลางแล้วนึกชื่อผู้ที่เราจะดู

เราจะเห็นคนนั้นขึ้นมาเลยความใกล้ชิดตามระยะความห่าง ถ้าใกล้ชิดมากก็จะอยู่ติดตัวเรา

ยกตัวอย่างถ้าผมนึกถึงพี่ชยาก็จะมีระยะห่างประมาณ 5เมตรถึอว่ามับุญเก่ากันอยู่ ส่วนถ้า

เป็นอาจารย์อาชวิน ก็จะอยู่ในระยะหนึ่งเมตร ถ้าเป็นอามังกรก็จะอยู่ในระยะ 2เมตรกว่า

แต่ถ้าเกิน15เมตรขึ้นไปแสดงว่าไม่เคยทำบุญร้วมกันมา ผมเคยเจอผู้หญิงคนหนึ่งไม่เคย

รู้จักกันมาเลยแต่วันนั้นเพื่อนผมเข้าไปจีบผมก็เลยดูเล่นๆปรากฏว่าตัวติดกับผมเลย ดังนั้น

เลยดูละเอียดเลยก็ทราบว่าเค้าเคยเป็นภรรยาผมในชาติที่แล้วแต่ชาตินี้ไม่รู้จักกัน แต่ผมเชื่อ

ว่ายังไงสักวันหนึ่งต้องรู้จักกันแน่นอนครับ ยังไปพี่ๆอาๆก็ลองเอาไปใช้ดูก็ได้ครับ

 

พระโมคคัลลานะผู้ทรงฤทธิ์แม้เป็นอรหันต์แล้วก็ตาม ยังยอมรับวิบากกรรม

ถ้าลองดวงตก เจ้ากรรมนายเวรตามประชิดขนาดนี้ คงต้องยอมรับแล้วล่ะครับ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

เดี๋ยวกระทู้คนตาทิพย์กลายเป็นกระทู้พญานาค 5555

ไม่ได้พี่ แฟนผมดีขนาดนี้ ทำร้ายเค้าได้ไง ถ้าไม่มีเค้าเข้ามาทันเวลานะ
ป่านนี้ ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า เห็นมาตามนิมิตรเลย แล้วก็จริงด้วย
โชคดีที่สวรรค์ส่งเค้ามาสกัดได้ทัน 55555555555555555