พระโสดาบัน ,พระสกิทาคามี,พระอนาคามี ทำไมถึงได้เกิดเทวดา ไม่เกิดเป็นพรหมล่ะคับ

เคยอ่านหนังสือครับว่า คนที่ บรรลุเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามี เกิด เป็นเทวดาในสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น แต่ทำไมไม่เกิดเป็นพรหมล่ะคับ ช่วยตอบให้หายสงสัยด้วยน่ะครับ

 

คราวๆดังนี้ ถ้าอยากรู้ละเอียด ต้องลงจิตปฏิบัติ

โสดาบันโลกุตรภูมิ (ภูมิพ้นโลกชั้นที่ ๑)
ผู้ถึงภูมินี้ได้ชื่อว่าพระอริยะบุคคลโสดาบัน แบ่งเป็น
(๑). เอกพิซีโสดาบัน จะเกิดอีกชาติเดียว แล้วก็บรรลุพระอรหันตผล ปรินิพพาน
(๒).โกลังโกลโสดาบัน จะเกิดอีก ๒-๖ ชาติ เป็นอย่างมากแล้วก็บรรลุพระอรหันตผล ปรินิพพาน
(๓). สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน จะเกิดอีกอย่างมากไม่เกิน ๗ ชาติ แล้วก็จะบรรลุพระอรหันตผล ปรินิพพาน


สกทาคามีโลกุตรภูมิ (ภูมิพ้นโลก ชั้นที่ ๒)
ผู้ถึงภูมินี้ได้ชื่อว่าถึงพระอริยบุคคลสกทาคามี ซึ่งจะเกิดอีกเพียงชาติเดียวแบ่งเป็น ๕ ประเภท คือ
(๑). ผู้ถึงภูมินี้ในมนุษยโลก และบรรลุพระอรหันตผลในมนุษย์โลก
(๒). ผู้ถึงภูมินี้ในมนุษย์โลกแล้วไปบรรลุพระอรหันต์ผลในเทวโลก
(๓). ผู้ถึงภูมินี้ในเทวโลกและบรรลุอรหันต์ผลในเทวโลก
(๔). ผู้ถึงภูมินี้ในเทวโลกแล้วมาบรรลุพระอรหันต์ผลในมนุษย์โลก
(๕). ผู้ถึงภูมินี้ในมนุษยโลกแล้วจุติไปเกิดในเทวโลกแล้วกลับมาบรรลุพระอรหันตผลในมนุษยโลก


อนาคามีโลกุตรภูมิ (ภูมิพ้นโลก ชั้นที่ ๓)
ผู้ถึงภูมินี้ได้ชื่อว่าพระอนาคามี จะไม่กลับมาเกิดในกามภูมิอีกแบ่งเป็น ๕ ประเภท คือ
(๑). อันตราปรินิพพายี สำหรับเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานภายในอายุครึ่งแรกของสุทธาวาสภูมิพรหมโลกที่สถิตอยู่<o></o>
(๒). อุปหัจจปรินิพพายี สำหรับเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานภายในอายุครึ่งหลังของสุทธาวาสภูมิพรหมโลกที่สถิตอยู่
(๓). อสังขารปรินิพพายี สำหรับเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานภายในพรหมโลกที่สถิตอยู่โดยสะดวกสบายไม่ต้องใช้ความเพียรมาก
(๔). สสังขารปรินิพพายี สำหรับเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานภายในพรหมโลกที่สถิตอยู่โดยต้องพยายามอย่างแรงกล้า
(๕). อุทธังโสตอกนิฎฐคามี ไปเกิดในสุทธาวาสพรหมโลก ชั้นต่ำที่สุด (อวิหาสุทธาวาสพรหมโลก) แล้วจึงจุติไปเกิด ชั้นสูงขึ้นไปตามลำดับ คือ อวิหา อัตัปปา สุทัสสา สุทัสสี แล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ปรินิพพานในอกนิฎฐพรหมโลก<o></o>

 

บางองค์ก็ไปเป็นพรหม บางองค์ท่านก็ไปเป็นเทพเทวดา ขึ้นอยู่ที่กําลังของฌานในขณะที่ท่านดับขันธ์ แต่ผมว่าพระอนาคามีตัดสังโยชได้ห้าข้อ ส่วนมากท่านจะไปเป็นพรหมชั้นสุทธาวาส และเข้านิพพานไปเลยเพราะชั้นอนาคามี ไม่ต้องกลับมาเป็นมนุษย์หรือเป็นเทวดาอีก ตัดเรื่องกามฉันทะได้แล้ว

ส่วนเทวดาทั้ง6ชั้นยังเป็นกามาพจรสวรรค์ ยังติดอยู่ในกามฉันทะ พระโสดาบันและพระสกิทาคามีตัดสังโยชได้สามประการ 1สักกายทิฏฐิ 2วิจิกิจฉา 3สีลัพพตปรามาส
จะเห็นได้ว่า พระโสดาบันและพระสกิทาคามี ยังตัดเรื่องกามไม่ได้ท่านจึงยังเกิดอยู่กามาพจรสวรรค์ แต่บางองค์ท่านก็ไปเป็นพรหม เพราะท่านมีกําลังของฌาน

ไม่ได้อ้างอิงที่มา เป็นเพียงการสนทนาธรรมที่ได้จากการอ่านการฟังนะครับ

 

ตอบได้ดีครับเห็นด้วย

พระอนาคามีท่านละกามฉันทะได้เด็ดขาดเมื่อเป็นเช่นนั้นท่านไม่มาเกิดในกามภพคือภูมิมนุษย์และเทวดาทั้ง6ชั้น อาหารใจของพระอนาคามีคือฌานซึ่งมีความสุขที่ละเอียดกว่าการสัมผัสทางกาย พวกพรหมท่านไม่ได้มีกความพอใจจากการรับผัสสะจากอายตนะของท่าน แต่ท่านอยู่ด้วยฌาน ดังนั้นขณะเป็นคนพอใจในฌานพอตายไปก็ไปยังสภาพนั้น ๆ คนที่ยังพอใจในกาม(ความพึงพอใจในรูปรสกลิ่นเสียวสัมผัส)ตายไปก็ไปยังสภาพแบบนั้น ๆ เช่นกัน

 

อนุโมทนาสาธุบุญ


ละความชั่วด้วยศีล ทำความดีด้วยทาน จิตเบิกบานด้วยภาวนา

 

พรหมชั้นสุทธาวาสเป็นภพสำหรับพระอนาคามีที่มีอินทรีย์อย่างใดอย่างหนึ่งแก่กล้า สัตว์ในวัฏฏสงสารจะเวียนเกิดเวียนตายมาแล้วทุกภพภูมิ ยกเว้นสุทธาวาสภูมิเท่านั้นที่เรายังไม่เคยไปเกิดและพระอนาคามีจะบรรลุอรหัตตผลและปรินิพพานในชั้นสุทธาวาสนั้นด้วย

 

โสดาบัน กับ สกิทาคามี เป็น บุคคลที่ยังต้องต่อสู้กิเลสจำนวนมาก จิต จึงมีแต่สติตาม
ดูตามรู้เท่าทันกิเลส จิตยังไม่ถือว่ามีองค์ประกอบของสมาธิ เพราะ ยังมี กิเลส นิวรณ์
จำนวนมาก แต่ก็ไม่กำเริบ

อนาคามี สามารถละกิเลส นิวรณ์ได้จำนวนมาก สภาวะจิตจึงยืนพื้นด้วยการเป็นสมาธิ
อัตโนมัติโดยดูจากองค์ประกอบของจิต ที่กิเลส นิวรณ์ แทรกไม่ได้ ทำให้จิตไปตรงกับ
ภาวะขององค์ฌาณอัตโนมัติ แต่ก็ยังไม่บริสุทธิตลอด อีกทั้ง องค์ของสติ ที่เคยใช้ก็เริ่ม
ถอดถอนออกเองแล้ว(กิเลสไม่มีแล้ว สติก็ต้องหมดหน้าที่ลง) จึงทำให้มีโอกาสไปเป็น
พรหมสูง

ตัวที่ขับเคลื่อนจึงเป็น สัมมาสติ ที่ทำให้เกิด สัมมาสมาธิ

อรหันต์ ไม่ต้องใช้ตัว สติ อีกต่อไป เพราะ กิเลสไม่มีแล้ว ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วย สัมมาปัญญา
จึงไม่ต้องไปเป็น เทวดา หรือ พรหม

 

พระโสดาบัน และพระสกิทาคามี มี อธิศีล อาจจะนิพพานได้ ช่วงสิ้นชีวิต หรือ ถ้ายัง

ก็ขึ้นกับบุญ หรือ อารมณ์ฌาน

ส่วนพระอนาคามี มี อธิจิต มีกำลังของจิต คือ ฌาน เป็นสำคัญ เป็นพรหม

แน่นอนครับ เป็นที่เฉพาะ คือ สุธาวาส

ส่วนพระอรหัตน์ มี อธิปัญญา จึงไม่ต้องกลับไปเกิดอีก ครับ

 

ศีล, สมาธิ (สติ), ปัญญา ในที่นี้หมายถึงวิปัสนาปัญญา คือปัญญาที่เห็นแจ้งต่อความเป็นจริงของสภาวะธรรม
โสดาบัน กับ สกิทาคามี จิตมี ศีล, สมาธิ (สติ), ทำหน้าที่หลักเพื่อให้จิตรู้เท่าทันกิเลสที่เกิดขึ้น ส่วนปัญญาทำหน้าที่รองแต่ยังไม่เก่งกล้า จึงสามารถละกิเลสอย่างหยาบได้ แต่ไม่สามารถละกิเลสในส่วนละเอียดได้
อนาคามี ส่วนของศีล และสมาธิ (สติ) จะทำหน้าที่รอง ส่วนปัญญาจะทำหน้าที่หลัก สามารถละกิเลสในส่วนละเอียดได้ รู้แจ้งต่อความเป็นจริงของสภาวะธรรมแต่ก็ยังไม่บริสุทธิ แล้วบำเพ็ญต่อในชั้นพรหม จนเข้าอรหันต์
อรหันต์ มีปัญญารู้แจ้งต่อความเป็นจริงของสภาวะธรรม สามารถละกิเลสได้ทั้งหมด ไม่มีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดได้อีก หรือธรรมที่ไม่มีการเกิดนั้นเอง
ศีล สมาธิ (สติ) ปัญญา จึงเป็นจุดกำเนิดของ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคา และอรหันต์ นั้นเอง

 

ตอบได้ดีจริงๆค่ะ..สาธุๆ อนุโมทนาด้วย