กรุพระพุทธรูปทองคำ บ้านชุ่มเมืองเย็น..แม่เจดีย์

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 8 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    [8 ก.พ. 52 - 14:53]<TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    ช่วง พุทธกาล...แห่งองค์พระโคตมะ (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันอันเป็นองค์ที่ 28 ตามพระไตรปิฎก) และก็ทำนายไว้ว่า.....จะมีอายุเพียง 5,000 ปี

    <O:p</O:p2552 ปีที่ผ่าน ...เกินกึ่งมีปรากฏการณ์ทั้งรูปธรรมและนามธรรม มีการสืบสานปฏิบัติ ในวิถีที่ดีงามอย่างต่อเนื่อง...จนนามธรรมนี้กลายเป็นวัฒนธรรม

    สำหรับ รูปธรรม...พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนาได้สร้าง ถาวรวัตถุอันเป็นเครื่องหมายหรือเครื่องยึดเหนี่ยวของศาสนา ไว้มากมายหลายหลาก เมื่อประสบกับภัยต่างๆก็จะซุกซ่อนเพื่อมิให้สูญสลาย ...เมื่อมีผู้มีบุญบารมีปรากฏ ก็จะให้เห็นและสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาให้ชนรุ่นหลังได้สัมผัส

    <O:pพระครูไพบูลย์พัฒนาภิรักษ์ (หลวงพ่อถวัลย์ ปรักกโม) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแม่เจดีย์ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นสงฆ์รูปหนึ่งที่ถือปฏิบัติ เพื่อสาธารณประโยชน์ในการ สะสมบารมี จนกระทั่ง สามารถทะลวงลงไปสู่ มรดกแห่งรูปธรรมของพระพุทธศาสนา ได้<O:p></O:p>
    <O:p

    โดยได้นำความรู้ ต่างๆจากที่ได้ผ่านการ อบรม โครงการสวนป่าสมุนไพรในโครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับพระธรรมทายาทวัดชลประทานรังสฤษฎ์ ของ พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) มาเป็นฐานในการปฏิบัติ <O:pโดย....ร่วมมือกับชาวบ้านดูแลพัฒนาป่าเสื่อมโทรม 7,200 ไร่ จนกลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ จนกระทั่งเป็น ศูนย์สาธิตพุทธศาสนากับป่าไม้ และสร้าง วังมัจฉา อ่างบรรจุน้ำ 190,000 ลูกบาศก์เมตรบนดอย ให้เป็น แหล่งปลาน้ำจืดนับแสนๆตัว...กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตอภัยทาน<O:p></O:p>
    <O:p


    <O:p</O:p[​IMG]

    วัดและ พระธาตุแม่เจดีย์ แห่งนี้ สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ เจ้าแผ่นดินพม่า ตามความเดิมว่า ปี 1583 พระองค์ได้แต่งทูตไปขอ พระไตรปิฎกกับ พระพุทธรูปแก้วมรกต จาก ศรีลังกา<O:p</O:p
    <O:p
    ขากลับพลัดหลงเข้าปากแม่น้ำโขง กษัตริย์กัมพูชาจึงยึดเรือ และ สิ่งของ ไว้หมด พระเจ้าอโนรธามังช่อ ขอคืน ได้เพียงพระไตรปิฎก จึงโกรธ และ ยกทัพเพื่อไปชิงคืน ได้ผ่านมาทาง เชียงลาว (เชียงราย) พอถึงตำบลแม่เจดีย์ (เมื่อปี พ.ศ.1585) จึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา... อันเป็นที่มาของวัดพระธาตุแม่เจดีย์ ในปัจจุบัน<O:pพระเจดีย์องค์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ 2 ครั้ง ครั้งแรกโดย ชาวเงี้ยว (ไทยใหญ่) ไม่ทราบปีแน่ชัด ครั้งที่ 2 โดย พระครูไพบูลย์พัฒนาภิรักษ์ เมื่อปี 2532 ตาม รูปลักษณ์ศิลปเดิม
    <O:pนอกจาก พระธาตุเจดีย์ ซึ่งชาวบ้านศรัทธาว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ในปริมณฑลของเทือกเขาแห่งนี้ ตั้งแต่ บนดอยลงมาจนถึงแม่น้ำมีวัดร้างติด ต่อกันและเจดีย์เก่าถึง 3 แห่ง อีกทั้งยังมีบ่อน้ำส้ม (เปรี้ยว) ชาวบ้านเรียกว่า บ่อน้ำต้นโชค <O:pชาวบ้านได้ เล่าขานกันมาว่ามี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง-สิงห์สาม สายสังวาล และอื่นๆอันเป็นวัตถุโบราณล้ำค่า <O:pซึ่ง....บางครั้ง เทพยดาก็บันดาลให้คนเห็น ล่าสุด นายสมพร กับ นางบาน มะลาไล เป็นเกษตรกรได้ พบพระพุทธรูป จึงมาบอกชาวบ้าน พอ กลับไปที่เดิมก็ ไม่พบพระพุทธรูปนั้นแล้ว ไม่นาน นายสมพรก็ล้มป่วย และพูดไม่ได้จนกระทั่งทุกวันนี้
    <O:pซึ่งย้อนหลังไปเมื่อปี 2500 นายคำ สามอินต๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน (ในช่วงนั้น) ได้ พาลูกบ้านขุดหาพระพุทธรูป ก็พบในปางต่างๆนับเป็นร้อยองค์ แต่ก็ ต้องยุติเพราะมีชาวบ้านล้มตายกันหลายราย....ด้วยโจษขานกันว่า การขุดค้นวัดร้างทำให้เจ้าที่เทวดาอารักษ์ไม่พอใจ<O:p
    <O:p> </O:p>
    [​IMG]

    ด้วยศรัทธา....หลวงพ่อถวัลย์กับชาวบ้าน จึงได้ซื้อที่ดินครอบลำน้ำแม่เจดีย์ เพื่อสร้างสวนสาธารณะบ้านชุ่มเมืองเย็น อันเป็นที่ ประดิษฐานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไว้ราวๆ เดือนมิถุนายน 2550 <O:p...พอวันที่ 27 ธันวาคม ก็ลงมือปฏิบัติการ โดยใช้แบ็กโฮขุดเจอพระธาตุ และ สิ่งของโบราณ ต่างๆมากมาย...จึงสั่งให้ยุติ ในช่วงเย็นวันนั้นหลังสวดมนต์ หลวงพ่อถวัลย์จึงได้พาญาติโยมทำวัตรเจริญภาวนาแผ่กุศลแก่เจ้าที่และเทพยดาทั้งหลายแล้ว....จึง เข้ากรรมรุกขมูล ในกระโจม<O:p
    <O:p> </O:p>
    ตกถึงตอนกลางคืนได้เกิดนิมิต มีพระแก่อายุราวๆ 80 ปีบอกว่าชื่อ ครูบาแสงมา พาไปดูที่ฝังสมบัติ และแนะ หลังขุดไปแล้วให้สร้างเจดีย์ เหมือนทรงพระเจดีย์บนดอยตุงองค์เดิม พร้อมพระอุโบสถไว้ ประดิษฐาน <O:pพอ สะดุ้งตื่นราวตีหนึ่ง จึงเอาจอบพร้อมไฟฉายและถุงย่ามตรงไปบริเวณตามที่ฝัน พอฉายไปก็พบแสงที่วาววับ และขุดพบดั่งที่ฝันทั้งหมด มี พระพุทธรูปสิงห์หนึ่งทองคำ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูปสิงห์สามทองคำ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว 1 องค์<O:p></O:p>
    <O:p

    .....สายสังวาล สร้องทองคำหนัก 60 บาท ตลับสำริดบรรจุพระธาตุ สิ่งของต่างๆ อย่างเช่น ตุ้มหู กำไลเลยเอาทรายกลบไว้อย่างเดิม กระทั่ง ออกกรรมรุกขมูล ในวันที่ 31 ธันวาคม ก็ ทำพิธีสวดส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ จึงนำมาเก็บไว้ในวัดอย่างเงียบๆ
    <O:p

    O O O



    [​IMG]

    <O:pหลังจากที่ หลวงพ่อถวัลย์ และทาง วัดพระธาตุ แม่เจดีย์ ปิดเงียบเป็นเวลาถึง 9 เดือนเศษ จึงตัดสินใจเปิดเผยถึงสมบัติทางศาสนาชุดนี้ ซึ่ง ทุกชิ้นกรมศิลปากร ได้ทำการพิสูจน์ และ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน สมบัติของแผ่นดินแล้ว <O:pแต่....ก็ มอบให้ทางวัดพระธาตุแม่เจดีย์ เป็นผู้เก็บรักษา และให้พุทธศาสนิกชน พุทธบริษัทได้เข้าชม กราบไหว้บูชาตามสมควร...เพื่อเป็นสิริมงคลตามศรัทธา...!!!<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>

    ก้อง กังฟู







    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN5474.jpg
      DSCN5474.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.9 KB
      เปิดดู:
      124
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอบคุณครับกับเรื่องราวที่นำมาให้อ่าน
    ขอถามความรู้ด้วยครับ ที่เขาเรียกพระพุทธรูป พระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง พระพุทธรูปสิงห์สาม
    เขาเรียกตามอะไร หรือ เอาอะไรมาเรียก คงมีที่มาที่ไปแน่ ขอท่านผู้รู้ช่วยบอกเป็นวิทยาทาน ขอบพระคุณยิ่งครับ
     
  3. Francis_NY

    Francis_NY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอบคุณครับ
     
  4. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    อาถรรพ์เมืองศรีเทพ

    [​IMG]

    มีตาเจ๊กอ้วน กับเพื่อนไปหาสมบัติที่ เมืองเก่า
    เมืองศรีเทพ ในระหว่างที่พากัน ค้นหาทรัพย์ไต้ดิน
    เพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันไม่มีใครได้พบอะไร ในทันใดนั้นเอง
    เจ๊กอ้วนก้ร้องเสียงดัง เพื่อนที่มาด้วยกันถามแก
    ว่าเจอไร แกบอกเปล่า แต่ความจริงตาเจ๊กอ้วนพบพระพุทธรูปทองคำ แกระแวงว่าเพื่อน ๆ ที่มากับแกถ้ารู้ว่าแกพบพระพุทธรูปทองคำจะรวมหัวกันฆ่าแกหมกป่า จึงตัดสินโกหกออกไปว่า
    กูเจอแต่หัวกระโหลกผี พอหันกลับมาจะเอาพระพุทธรูปทองคำ
    ไปซ่อน ปรากฏว่าพระพุทธรูปทองคำกลับกลายเป็นหัวกระโหลกผีอย่างแกว่า แก่รีบโยนทิ้งแทบจะไม่ทัน
     
  5. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ถ้าจำไม่ผิดเรียกกันตาม อายุการสร้าง ครับ เช่นสิงห์ 1 ก็เก่าแก่กว่าว่างั้น

    ถูกผิดอย่างไรขอผู้รู้ช่วยเสริมด้วยครับ
     
  6. ธนภัทร99

    ธนภัทร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +788
    ถูกต้องครับ...“พระสิงห์” หรือ “พระพุทธสิหิงค์” เป็นชื่อของพระพุทธรูปของชาวลานนา ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งพระบูชาในกลุ่มที่เรียกว่าตระกูลเชียงแสน โดยแบ่งถึงสามยุค ตามสัญลักษณ์ความยาวที่ปรากฏตรงสังฆาฏิ เรียกว่า สิงห์หนึ่ง(สังฆาฏิสั้น) สิงห์สอง(สังฆาฏิกลาง) สิงห์สาม(สังฆาฏิยาวจรดท้อง)) ที่เหล่านักนิยมพระบูชารู้จักกันดีและสามารถพบได้ในวัดที่สำคัญต่างๆ ว่ามีพระพุทธรูปประจำวัดอีกหลายองค์ ที่ได้รับการเรียกขานด้วยชื่อ “พระสิงห์”หรือ “พระสิหิงค์”;aa13
     
  7. ธนภัทร99

    ธนภัทร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +788
    พระพุทธรูปเชียงแสน แบ่งออกเป็นหลายยุค อาทิ สิงห์หนึ่ง สิงห์สอง และสิงห์สาม ในส่วนของพระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ซึ่งนับเป็นพระพุทธรูปเชียงแสนยุคแรก จึงได้รับความนิยมสูงสุด พุทธศิลป์ที่สังเกตได้ง่าย คือ ชายสังฆาฏิสั้น อยู่เหนือราวนม การซ้อนของพระเพลาเป็นแบบขัดเพชร พระบาทหงายขึ้นทั้งสองข้าง และมีการเล่นนิ้วพระหัตถ์ขึ้นลงอย่างเป็นธรรมชาติ อันถือว่า เป็นศิลปะสุดยอดในสกุลช่างเชียงแสนทั้งหมด
     
  8. maneeda_ya

    maneeda_ya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +5
    ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปทองคำ วันปีใหม่เมือง

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...