หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

​

หลวงปู่ทิม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2422 โยมบิดาชื่อแจ้ โยมมารดาชื่ออินทร์ เมื่อเยาว์วัยบิดาได้พาหลวงปู่ทิมไปฝากเรียนกับ พระอาจารย์สิงห์ จนอ่านออกเขียนได้ และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2499 จึงได้อุปสมบท ณ วัดละหารไร่ โดยมีพระครูขาว วัดทิมมาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สิงห์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เกตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้นามฉายาว่า "อิสริโก" เมื่อบวชแล้วท่านก็อยู่จำพรรษาอยู่กับพระอาจารย์ 1 พรรษา จากนั้นจึงลาอาจารย์ออกธุดงค์ไปหลายจังหวัด เป็นเวลา 3 ปี พอใกล้เข้าพรรษาท่านก็กลับมาที่วัด ตลอดเวลาที่ออกธุดงค์ ท่านได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ ทั้งกับพระภิกษุและฆราวาส ได้แก่ โยมเริ่ม โยมรอดและโยมสาย ซึ่งทั้งสามท่านนับว่าเป็นฆราวาสที่มีวิชาอาคมสูงมากจนเป็นที่นับถือของชาวบ้านแถบนั้น
นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชากับพระอาจารย์อีกหลายรูป และได้รับตำราตกทอดมาจากหลวงปู่สังข์เฒ่า เจ้าอาวาสวัดเก๋งจีน หลวงปู่สังข์องค์นี้เป็นปู่แท้ๆ ของหลวงปู่ทิมและเป็นปรมาจารย์ ผู้เรืองเวทย์ในสมัยนั้น มีผู้เล่าว่าท่านมีวิชาแก่กล้าขนาดน้ำลายที่ท่านถ่มลงพื้น พื้นจะแตกทันที และหลวงปู่ทิมยังได้ศึกษาทางวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์อีกหลายรูป
ต่อมาเมื่อท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดละหารไร่ ท่านก็ได้ก่อสร้างเสนาสนะ และบูรณปฏิสังขรณ์วัดละหารไร่หลายอย่าง เช่นเมื่อท่านดำริจะก่อสร้างพระอุโบสถ ก็สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปีเศษๆ เท่านั้น ต่อมาเมื่อท่านก่อสร้างโรงเรียนประชาบาล โดยมีทางอำเภอและจังหวัดเข้าร่วม ก็ใช้เวลาเพียง 8 เดือนก็สามารถเปิดให้นักเรียนได้เข้าเรียนเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาท่านชักชวนบ้านให้ช่วยกันสร้างสะพานข้ามคลองอีกหลายแห่ง ก็บรรลุความสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ เนื่องจากชาวบ้านให้ความเคารพนับถือในตัวหลวงปู่ทิมเป็นอย่างมากนั่นเอง
หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระสมถะไม่ยินดียินร้ายกับลาภยศสรรเสริญใดๆ แม้เมื่อปี พ.ศ. 2478 ท่านได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ ให้เป็นพระครูชั้นประทวน โดยส่งหมายตราตั้งมาที่ทางคณะจังหวัด ท่านก็ไม่ยอมไปรับและไม่บอกใคร จนทางจังหวัดได้มอบให้ทางคณะอำเภอนำมามอบให้ท่านที่จังหวัด อยู่มาจน พ.ศ. 2497 ทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูสัญญาบัตร ท่านก็ไม่ยอมบอกใคร อยู่เป็นเวลานาน จนทางเจ้าคณะอำเภอได้มีหนังสือส่งไปที่วัด ไวยาวัจกรวัดจึงนำข่าวไปบอกชาวบ้าน จึงจัดขบวนแห่มารับกันที่วัด โดยเจ้าคณะอำเภอนิมนต์หลวงปู่ทิมมารับสัญญาบัตรพัดยศเป็น พระครูภาวนาภิรัต เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2507 หลังจากนั้นบรรดาศิษย์และชาวบ้านจึงขออนุญาตต่อหลวงปู่ จัดงานฉลองสมณศักดิ์ เพื่อให้ญาติโยมได้มีโอกาสแสดงความยินดีและแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อหลวงปู่ และขออนุญาตจัดทำเหรียญรูปเหมือนเอาไว้แจกให้กับญาติโยมที่มาทำบุญได้เก็บไว้บูชาเป็นที่ระลึก
หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระมักน้อยสันโดษ และท่านฉันอาหารมื้อเดียวมาตลอด 50 ปี และไม่ฉันอาหารเนื้อสัตว์เลย ท่านฉันแต่ผัก ถั่ว ต้มจืดวุ้นเส้น หรือพริกกับเกลือเท่านั้นตลอดเวลา 50 ปี แต่ท่านก็มีสุขภาพดีสายตาดีมาก แม้อายุจะถึง 96 ปีก็ตาม หลวงปู่ทิมท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2518 สิริอายุได้ 96 ปี พรรษาที่ 69
http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=25

 

อนุโมธนาครับ ผมก็ศรัทธาในหลวงปู่ทิมครับ

 

...ผมเองก็เป็นศิษย์ท่านเหมือนกัน

 

อนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ
ผมก็ศรัทธาหลวงปู่ทิม
เหมือนกันครับ

 

ขอบารมีหลวงปู่ช่วยคุ้มครองประเทศชาติด้วยเทอญ

 

อนุโมทนา ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองดูแล ลูกศิษย์ท่านทุกๆคนด้วยเถิด สาธุ

 

ผมแขวนพระสามองค์หนึ่งในนั้นคือพระของหลวงปู่ทิม ครับ

 

อยู่ระยอง นับถือหลวงปู่เหมือนกัน.

 

ตอนนี้พระของเครื่องของหลวงปู่มีการปลอมเหมือนมาก ประมาณ90% ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆทุกท่านระวังกันให้ดี

 

สุดยอดมากๆครับ 1 ในพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาลที่ผมศรัทธามากๆอีกรูปครับ;ปรบมือ

 

รูปที่ลง หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก นี่ครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ ผมเคารพรักศรัทธาท่าน ครับ

 

กราบหลวงปู่ทิมครับ

ปล.รูปที่เอามาลง เป็นรูปหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก พนัสนิคม ชลบุรี ครับ

 

ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมท่าน สุดยอดของสุดยอดจริงๆครับ ยอมรับเลยครับในยุคนี้

 

หลวงปู่ทิม อีกหนึ่งในดวงใจครับ มีเหรียญท่านบูชา แต่ไม่ค่อยสวยครับ

 

พระไม่สวยก็ไม่เป็นไรครับขอให้แท้อย่างเดียวพุทธคุณไม่ต่างกับของที่สวยหรอกครับครัทธาหลวงปู่ทิมๆท่านช่วยหมดทุกคนครับ

 

ไร่วารี ไม่ค่อยสวยอีกครับ แต่ชอบมาก

 

ผมว่าสวยในสายตาผมนะครับ อิอิ (^_^)

 

ถึงไม่สวยแต่พุทธคุณเกินร้อยครับ

 

ขอบูชาพระเดชพระคุณท่านด้วยเคารพอย่างสูงครับ

ตอนนี้มีแค่พระผงรูปท่านที่พระเย็นสร้างนะครับ
เช่ามา 100 เดียวเองครับ